ประวัติย่อของยูริ เกลเลอร์

งอช้อน ทำให้วัตถุหายวับไป อ่านจิตใจมนุษย์ ความสามารถของเขากฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ไม่สามารถอธิบายได้​

ผมเริ่มต้นด้วยอาชีพแสดงโชว์ในอิสราเอล โดยผมอยู่บนเวทีและอ่านใจผู้ที่เข้ามาชมงาน งอช้อน แหวน กำไล และบังคับให้นาฬิกาที่เสียแล้วกลับมาเดินได้ใหม่ ผมพอใจกับการแสดงนั่นในระดับหนึ่ง ถึงแม้ผู้คนที่นั่นจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่เทคนิคมายากลก็ตาม


การแสดงบนเวทีพวกนั้นจริงๆไม่มีอะไรต่างจากสิ่งที่ผมทำในชีวิตจริงเลย ผมโตมากับพลังจิตและผมก็อยู่กับมัน ถึงแม้ว่าตอนนั้นผมจะทึ่งกับมัน ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังทึ่งอยู่ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมสร้างขึ้นเพื่อให้ตนเองโด่งดังเลย เท่าที่ผมจำได้ พลังอันน่าพิศวงของผมตื่นขึ้นมาโดยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประหลาดสองครั้งเมื่อตอนที่ผมยังเด็ก ครั้งแรกสมัยที่ผมอายุ 4 ขวบ ผมชอบไปเล่นในสวนร้างใกล้ๆบ้านในเมืองเทล-อะวี

​

ยูริในวัยเพียงสี่ขวบกับแม่​

ผมชอบสวนนั่นมาก มันคืออาณาจักรส่วนตัวของผม และบ่ายแก่ๆวันหนึ่งขณะที่ผมเล่นอะไรไปตามปกติเหมือนเด็กทั่วไป ผมได้ยินเสียงแหลมสูงประหลาดเสียงหนึ่งดังก้องในหู เสียงแบบนี้ผมไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ผมรู้สึกราวกับว่าเวลาหยุดนิ่งลง และเมื่อผมมองไปรอบๆ ผมพบว่าท้องฟ้าและดวงอาทิตย์หายไป แต่กลับกลายเป็นแสงสีเงินจ้าเคลื่อนลงมาหาผมจากด้านบน มันเคลื่อนลงมาเรื่อยๆจนในที่สุด ผมก็หมดสติไป นั่นคือจุดเริ่มต้นของพลังพิศวงที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกยังกุมขมับ เมื่อรู้สึกตัวผมพบตัวเองนอนอยู่บนสนามหญ้าโดยไม่ได้รับอันตราย ผมรีบวิ่งกลับบ้านไปบอกแม่ และท่านก็ทำอย่างที่พ่อแม่ทั่วไปทำเวลาที่พวกท่านกังวล

 

อ่อๆ

เคย ดู สารคดี อยู่

ได้ฟังประวัติแล้ว

นิสัย ความคิด

คล้าย กะ ผม มากเลย

ได้ฟังเขาเล่าเรื่องความคิดของเขา แล้วตลก ดี

น่าแปลกมาก

 

อือ

 

น่าสนใจนะครับ

 

มิน่า สำนวนกับการสะกดคำมันคุ้นๆ 5555

ทุกวันนี้ยูริเกลเลอร์อำลาวงการ อยู่กับบ้าน ใช้ชีวิตบั้นปลายทานมังสวิรัติ แล้วก็ออกกำลังกาย
โดยไม่สนใจพวก skeptic ที่โจมตีเขา

ผม(ส่งเมล)คุยกับเขาถามเรื่องแสงสีเงินจากฟ้าตอนที่เขายังเด็กๆนั่น เขาตอบว่า เขาก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ ว่ามันคืออะไร
แล้วก็คุยเรื่องพวกskeptics เขาบอกกับผมว่า"ยังมีิอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าเยอะ"

เขายังบอกว่า เขา"รู้สึก"ว่า วันหนึ่ง ผมกับเขาจะได้พบกัน ไม่รู้จะจริงมั๊ย...แล้วเขาจะมาแถวไทยเหรอ?

..คงต้องพกช้อนไว้หน่อยแล้ว เหอๆ

 

ผมก็ทำได้ ไม่อยากโชว์ 555

 

โชว์หน่อยเหอะนะเป็นบุญตา

 

ขอบคุณครับที่นำบทความมาลงให้อ่านและพิจารณาตามไป

 

น่าสนใจมากครับ

 

บทความน่าสนใจมากค่ะ ขอบพระคุณเจ้าของกระทู้และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านนะคะ

 

เนี๋ยถ้ายูริ เกลเลอร์มาอยู่เมืองไทย คงได้รู้จักวิธีการควบคุมพลังไม่ให้ก่ออันตรายต่อผู้อื่นและตนเอง และสามารถทำประโยชน์เพื่อคนอื่นได้มากมาย โดยที่ไม่ต้องเสียความรู้สึกกับการปฏิบัติตัวต่อผู้คนและสังคม โดยอย่างยิ่งกับนักวิทยาศาสตร์ที่มองแต่ด้านวัตถุหรือรูปธรรมเท่านั้น

 

ดีดี

 

อ่านไปแล้วก็ตื่นเต้นไปกับการ ค้นพบพลังจิตของเขาเลย ยิ่งตอนที่ไปซื้อของขวัญอะ เหมือนในหนังเรื่อง
จัมเปอร์ เลย ใครได้ดูแล้วบ้าง

 

คุณเป็นแมวหรือครับ ทำไมมาร้อง แงวๆ

ไร้สาระครับ

 

แล้วมันเหมือน นักมายาจิต ในไทยอะเปร่านิ

 

น่าจะมีคนลักษณะพิเศษแบบนี่ในโลกอีกนะคะ ..เพียงแต่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเอง
ในทางจิตวิทยา น่าจะเป็นเรื่องของพลังจิตใต้สำนึก ..ซึ่งมีพลังมหาศาลมากจริงๆ
อยู่ที่เราจะเลือกใช้ในทางที่ถูกที่ควรหรือเปล่า..
ถ้าในทางสายพุทธะ คงเสมือนผู้มีอภิญญาขั้นสูงนะคะ..
จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม..ขอเพียงให้เราเรียนรู้การใช้ชีวิตให้ทุกข์น้อย สุขมาก
ไปเบียดเบียนผู้อื่นเป็นพอคะ..ตอนนี้บ้านเมืองต้องการความสันติสุขมากๆ เลยค่ะ

 

ถ้า มี จริง ทำ ได้ จริงๆ อ่ะนะ

เป็น ผม ผมจะ มาหลอก ว่า ผมเป็นนักมายากล ไม่ได้ทำจริงๆ หรอก

แต่ จริงๆ แล้ว ผม ทำ ได้ จริง

 

อยากทำได้....มั้ง

 

คนนี้ของจริง

 

เขาเคยเป็นฤาษี เลยมีฤทธิ์มากค่ะ

ทุกคนเกิดมาหลายภพน่ะ กิดเป็นพราหมณ์ก็เป็นได้นะ
หรือจะฤาษี ก็ได้ ไม่ได้ขัดอะไรนะ