ปิดรับบริจาค ขอเชิญร่วมสร้างพระอุโบสถ ณ วัดห้วยน้ำทรัพย์ (พระธาตุวาโย)

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 4 กันยายน 2007.

  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171


    พี่ยังหาแม่ของลูกไม่ได้เลยอ่ะ... ขืนให้น้องเขามาเล่นบทเป็นลูกซะก่อนอย่างนี้

    เดี๋ยวก็หาแม่ของลูกไม่ได้น่ะสิ.... (one-eye)


    .
     
  2. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    ตำนานวิหารทานกถา ๒

    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif]อนุโมทนาวิหารทานกถา ความจริง บาลีวิหารทานกถานั้น เป็นบทเดียวกันกับที่ได้บรรยายมาแล้ว แต่ที่ต้องยกขึ้นบรรยายอีกครั้งหนึ่ง ก็เพราะว่า วิหารทานกถาพระบรมศาสดาทรงแสดงไว้ในที่ต่างกัน คราวก่อน พระผู้มีพระภาคแสดงอนุโมทนาแก่ท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี ซึ่งสร้างวัดพระเชตวันวิหารถวาย ณ พระนครสาวัตถี คราวนั้นเป็นการถวายวัดทั้งวัด พระพุทธเจ้าก็ทรงอนุโมทนา ด้วยวิหารทานกถา นั้น[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ส่วน วิหารทานกถา ที่จะบรรยายในบทนี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงอนุโมทนาแก่ท่านราชคหกเศรษฐี ในเมืองราชคฤห์ ซึ่งสร้างกุฎี ๖๐ หลัง ความจริง กุฎี นั้น ในบาลีภาษาเรียกว่า กุฏิ[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif], [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]คนไทยนิยมใช้เรียกทั้ง ๒ อย่างว่า กุฏิ บ้าง กุฎี บ้าง สุดแต่จะเห็นควรหรือสุดแต่จะพอใจ หากแต่ความหมายของคำว่า กุฏิ หรือ กุฎี ที่เราเอามาใช้เรียกนั้น ไม่ตรงกับความหมายเดิม ซึ่งความหมายเดิม ของ กุฎิ หรือ กุฏี มุ่งเอากระท่อมน้อยๆ ใช้ใบไม้ใบหญ้า ทั้งมุง ทั้งบัง แบบโรงนาชั่วคราว ไม่ยกพื้น แม้บางแห่งจะยกพื้นก็ยกพอกันน้ำ กันชื้นแฉะ หรืออันตรายอื่นเล็กน้อย เท่านั้น แต่กุฎิ หรือ กุฏี ในบัดนี้ สร้างกันล้วนเป็นลักษณะของวิหารทั้งหมด กุฏิ หรือกุฎี แบบเดิมเห็นจะหาได้ยาก จะมีบ้างก็เสนาสนะป่า หรือสำนักสงฆ์ซึ่งปลูกสร้างใหม่ เพื่อพักอาศัยชั่วคราว ดังนั้นในบาลีเสนาสนะขันธ์ที่ทรงอนุญาตเสนาสนะสำหรับภิกษุเพิ่มขึ้น จึงไม่ปรากฏว่ามีกุฏิรวมอยู่ด้วย ในคราวสร้างวัดพระเชตวันวิหาร ก็สร้างวิหารเป็นที่อยู่สำหรับพระไว้มาก แต่ก็ไม่มีกุฎิที่พระอยู่ มีแต่กัปปิยะกุฎี ซึ่งแปลว่า โรงครัว [/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ในภิกขุปาฏิโมกข์ มีกุฎิเป็นเสนาสนะที่อยู่ของพระหลายแห่งล้วนแต่ขนาดเล็กซึ่งส่วนมากเป็นของพระทำกันเอง หลังหนึ่งๆยาว ๖ ศอก กว้าง ๔ ศอก มุง บัง อย่างง่ายๆเป็นที่อยู่ชั่วคราว เหมือนรังนกรังกา ไม่เป็นหลักฐาน ให้ห่วงใย จากไปก็ไม่อาลัยถึง ด้วยไม่ถาวรหรืองดงาม แต่อย่างใด สังเกตดูในบาลี อนุโมทนากถา จะเห็นชัดว่า เป็นวิหารแท้ๆ หากแต่คำว่า วิหาร ของเราที่นิยมเรียกกัน เราก็สร้างเสียใหญ่โตจนพระสงฆ์องค์เจ้าไม่กล้าอยู่ ถ้าจะอยู่ก็อยู่กันเป็นหมู่ เป็นคณะ มากรูปทีเดียว เมื่อไม่มีพระสงฆ์อยู้ ตกลงก็เลยสร้างพระพุทธรูปองค์ขนาดใหญ่ๆ ประดิษฐานไว้ ดูวิหารพระนอนในวัดพระเชตุพน เป็นตัวอย่าง เลยเป็นสถาบันว่า วิหารนั้น เป็นที่ของพระพุทธเจ้าประทับ เช่น พระเชตวันวิหาร กุฎี นั้น เป็นของพระสงฆ์อยู่ ความจริง ก็ไม่แน่เสมอไป เราคงเคยได้ยินได้ฟังกันว่า พระพุทธเจ้าทรงประทับที่พระคันธกุฎีบ่อยๆเหมือนกัน ถ้าจะแก้ว่า นั่นเป็นกุฎีพิเศษ ดูก็พอไปได้ กุฎีพระในยุคปัจจุบันนี้ ลักษณะเป็นวิหารหมด เพราะใหญ่โต ดูตัวอย่างกุฎีเจ้าอาวาสในวัดทั้งหลายเป็นตัวอย่าง [/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]แม้กุฎีในลัทธิศาสนาอื่น เช่น กุฎีเจ้าเซ็น กุฎีจีน ฝั่งธนบุรี ก็ไม่ใช่รูปกระท่อม ผิดจากลักษณะกระท่อมมาก เหมือนฟ้ากับดินทุกแห่ง ด้วยเหตุนี้จึงจำต้องยอมรับโดยสนิทใจว่ากุฎีในบัดนี้ ก็คือวิหารในบัดโน้น นั่นแล[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]อย่างไรก็ตาม ในบาลีไม่เคยมีพระพุทธเจ้าทรงอนุโมทนาแก่คนถวายกุฏิ ซึ่งได้แก่กระท่อมน้อยๆดังกล่าวแล้ว ซึ่งส่วนมากพระทำกันอยู่เอง เพราะเป็นเสนาสนะชั่วคราว ที่พอจัดพอทำกันได้ จึงมิได้ปรากฏว่ามีคนสร้างถวาย ถึงแก่มีพระบาลีอนุโมทนา มีแต่อนุโมทนาเฉพาะแก่คนถวายวิหาร แต่เมื่อเข้าใจว่า กุฎีส่วนมากในบัดนี้ แท้ก็คือวิหาร แล้วเรื่อง อนุโมทนาทาน ก็ชอบที่จะใช้ วิหารทานอนุโมทนา และความจริงก็นิยมใช้ในสังฆมณฑลแล้ว ฉะนั้น ไม่ว่าจะมีงานฉลองกุฏิในวัดใดๆ เมื่อพระสงฆ์ในที่นั้นอนุโมทนา ก็ต้องอนุโมทนาด้วย วิหารทานกถา ต่อท้ายสัพพีทุกแห่งไป โดยอนุโลมตามพระพุทธจริยา ที่พระบรมศาสดาตรัสอนุโมทนาแก่ท่านราชคหกเศรษฐี สร้างกุฎีถวาย[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เพราะฉะนั้น จะได้นำเรื่องอันเป็นต้นเหตุให้พระบรมศาสดาตรัสอนุโมทนาบทนี้เป็นเยี่ยงอย่างมาบรรยาย เพื่อเพิ่มศรัทธาปสาทะของพุทธมามกะสืบไป เรื่องมีว่า[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับ ณ พระเวฬุวันวิหาร ใกล้สถานที่พระราชทานเหยื่อเลี้ยงกระแตของพระเจ้าพิมพิสารมหาราช พระนครราชคฤห์ ในเวลานั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ยังมิได้บัญญัติอนุญาตเสนาสนะให้ภิกษุอยู่อาศัย ภิกษุทั้งหลายพากันอาศัยอยู่ตามป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำ ป่าช้า ชายป่า กลางแจ้ง และลอมฟางบ้าง ตามอัธยาศัย[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ถึงเวลาภิกษาจาร หรือประชุมฟังพระโอวาท ก็พากันออกจากที่อยู่อาศัยนั้นๆ ด้วยอาการสงบ สำรวจอิริยาบถเป็นอันดี คือจะก้าวไปข้างหน้าหรือจะถอยหลัง จะเหลียวซ้ายแลขวา จะคู้เข้าหรือเหยียดออก ก็อยู่ในอาการสังวรทุกระยะ งามด้วยกิริยาอาการ เป็นที่น่าเลื่อมใสยิ่งนัก[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]วันหนึ่ง ท่านราชคหกเศรษฐี ออกจากพระนครไปสวน ได้เห็นพระภิกษุสงฆ์มีอาการสังวรสงบ อยู่ในภาวะของสมณะดังกล่าวแล้ว ก็เลื่อมใสในสุปฏิบัติของภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น เมื่อเลื่อมใสแล้วก็เกิดศรัทธา คิดจะถวายอุปถัมภ์บำรุงในเรื่องที่อยู่อาศัยให้ภิกษุทั้งหลายได้ความสุข ตามสมควรแก่สมณวิสัย ดังนั้น เมื่อได้โอกาส ท่านราชคหกเศรษฐีจึงเข้าไปหาภิกษุเหล่านั้น ครั้นผ่านการสนทนาปราศรัยพอเป็นที่เจริญใจ ตามวิสัยของสัตตบุรุษผู้แสวงบุญแล้ว ท่านราชคหกเศรษฐีจึงกล่าวกะภิกษุทั้งหลายว่า หากกระผมจะสร้างกุฎีวิหารให้พำนักอาศัย พระคุณเจ้าทั้งหลายจะพอใจอยู่ในวิหารที่กระผมสร้างถวายหรือไม่เล่า[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ภิกษุเหล่านั้น ตอบว่า ท่านคฤหบดี “ อาตมาเสียใจที่ยังไม่สามารถจะรับปากท่านคฤหบดีได้ ด้วยพระผู้มีพระภาคเจ้ายังมิได้ทรงอนุญาตเรื่องการเข้าพำนักอยู่ในกุฎีหรือวิหารแต่อย่างใดเลย”[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]จะเป็นพระคุณมากทีเดียว” ท่านราชคหกเศรษฐี ร้องขอ “ หากพระคุณเจ้าจะได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า ให้ได้ความชัดในเรื่องนี้ แล้วกรุณาบอกให้กระผมทราบในภายหลัง”[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]อาตมาจะพยายาม ท่านคฤหบดี คิดว่าอย่างไรเสีย ความปรารถนาด้วยกุศลจิตของท่านคฤหบดีจะไม่ไร้ผลเสียทีเดียว” ครั้นภิกษุเหล่านั้นรับปากท่านราชคหกเศรษฐีแล้ว ได้หาโอกาสเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมแล้วทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านราชคหกเศรษฐีมีศรัทธา ประสงค์จะสร้างกุฎีถวาย เพื่อพำนักอาศัย ข้าพระองค์จะพึงปฏิบัติอย่างไร ตามที่ชอบที่ควรในกรณียะข้อนี้”[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดให้ประชุมพระภิกษุทั้งหลาย ในเพราะเรื่องนี้โดยเฉพาะ แล้วรับสั่งว่า ภิกษุทั้งหลาย ฉันอนุญาตเสนาสนะ ๕ อย่าง คือ ๑[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]. [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]กุฎี ๒[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]. [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เพิง ๓[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif].[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ปราสาท ๔[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif].[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ทิมแถว ๕[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]. [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ถ้ำ เพื่อเป็นที่พำนักอาศัยอยู่ของภิกษุทั้งหลายจำเดิมแต่นี้ต่อไป ทั้งนี้ เป็นการเพิ่มที่อยู่อาศัยสำหรับภิกษุทั้งหลายให้มากอย่างขึ้นกว่าเดิม และประณีตกว่าเดิม มิใช่ยกเลิกที่อาศัยอยู่เดิม มีป่า และโคนไม้ เป็นต้นนั้น คงให้อยู่อาศัยตามใจสมัคร[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ภิกษุทั้งหลาย รับพระโอวาทแล้ว รีบไปพบ ท่านราชคหกเศรษฐีกล่าวว่า ท่านคฤหบดี กุฎีนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตให้อยู่ได้แล้วส่วนเวลาใดจะเป็นกาลสมควร ขอให้อยู่ในการพิจารณาของท่านคฤหบดีเถิด[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เมื่อท่านราชคหกเศรษฐีได้รับพระพุทธานุญาตเช่นนั้นก็ดีใจ ได้ดำเนินการสร้างกุฎี ๖๐ หลังทันที ด้วยกำลังทรัพย์และกำลังช่างของท่านมีอยู่พร้อมแล้ว โดยเวลาไม่นานกุฎี ๖๐ หลัง ก็สำเร็จตามความปรารถนาครั้นกุฎีสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านราชคหกเศรษฐีจึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมแล้ว ทูลอาราธนาให้เสด็จรับอาหารบิณฑบาตพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ เพื่อเป็นการฉลองกุฎีใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นทูลถวายเป็นครั้งแรก ตามที่ได้ทรงประทานไว้[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]และเมื่อทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับอาราธนาด้วยการดุษณีภาพแล้ว ท่านเศรษฐีก็มีความยินดีจะลุกจากอาสนะ ทำปทักษิณถวายคารวะ กลับไปสู่นิเวศน์ของท่าน สั่งให้ตระเตรียมจัดอาหารทั้งของเคี้ยวของฉันอันประณีต เพื่อถวาย ตั้งแต่ในเวลาราตรี [/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ครั้นรุ่งเช้าได้เวลาสมควรแล้ว ท่านราชคหกเศรษฐีได้ส่งคนไปกราบทูลเชิญเสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยพระสงฆ์สาวก เสด็จไปยังนิเวศน์ของท่านเศรษฐี ประทับยังพุทธาอาสน์ ซึ่งท่านเศรษฐีได้ปูลาดไว้เรียบร้อยเป็นอันดีแล้ว เสวยขาทนียะโภชนียาหาร โดยท่านเศรษฐีปฏิบัติถวายด้วยมือของตนเอง เมื่อเสด็จอาหารกิจแล้ว ท่านเศรษฐีได้กราบทูลว่า[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ กุฎี ๖๐ หลังนั้น ข้าพระองค์มีความต้องการบุญ ต้องการสวรรค์ ได้จัดการสร้างถวายไว้เรียบร้อยแล้ว ข้าพระองค์จะพึงปฏิบัติอย่างไรในกุฎีเหล่านั้นต่อไปนี้[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]พระผู้มีพระภาคตรัสว่า คฤหบดี ถ้าเช่นนั้น ท่านจงมอบถวายให้เป็นเสนาสนะแก่พระสงฆ์ในจตุรทิศ ทั้งที่มาแล้วยังมิได้มาเถิด จะได้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งกองบุญมนุญญผล อันเป็นสิ่งที่ตนปรารถนาทุกประการ นี้แสดงว่า พระบรมศาสดาจารย์ ทรงแนะนำให้ทายกถวายเป็นของสงฆ์ ไม่โปรดให้ถวายแก่พระองค์โดยเฉพาะหน้า เพราะเป็นบุญญสัมปทาไม่ไพศาล ทั้งไม่ถาวรจีรังกาลดังหนึ่งถวายสงฆ์ ด้วยเป็นรากฐานดำรงคงซึ่งพระศาสนา ตลอดไปในภายหน้าหาที่สุดมิได้ ข้อนั้นเป็นตัวอย่างของชาวพุทธทั้งหลายได้ถือปฏิบัติมาจนในเวลาปัจจุบันนี้[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เมื่อท่านราชคหกเศรษฐี ได้สดับอนุสาสนีพระดำรัส ก็เกิดปิติโสมนัสในดวงจิต ประณมอัญชลีถวายพระธรรมสามิสรและพระภิกษุสงฆ์ซึ่งประชุมอยู่เป็นอันมาก ทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเป็นอันงาม พร้อมทั้งพระสาวกผู้ปฏิบัติตามพระโอวาท ข้าพระองค์ขอโอกาสน้อมถวายเสนาสนะ คือ กุฎี ๖๐ หลัง ซึ่งข้าพระองค์ได้ปลูกสร้างไว้เรียบร้อยเป็นอันดีแด่พระสงฆ์ ซึ่งมีสมเด็จพระชินศรีสัมพุทธเจ้า เป็นประธาน เพื่อให้เป็นสถานที่พำนักอาศัยแด่มวลสงฆ์ทั้งหลายในจตุรทิศ รูปใดมีจิตจะอยู่อาศัยก็จงอยู่ให้สุขกายสุขใจ ตลอดเมื่อนี้และเมื่อหน้าชั่วนิรันดร เพื่อเป็นบุญอันสุนทรให้เกิดประโยชน์สุขตามควรแก่วิสัย มีสวรรค์เป็นที่ไปในเมื่อหน้าให้สำเร็จดังความปรารถนาแห่งข้าพระองค์นั้นเถิด[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เมื่อสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้สดับคำถวายกุฎี ด้วยดวงใจอันเบิกบานของราชคหกเศรษฐี ซึ่งมอบถวายสงฆ์เป็นอันดีแล้วด้วยศรัทธาเสมือนหนึ่งหว่านข้าวกล้าลงในเนื้อนาอันบริสุทธิ์ ปราศจากต้นหญ้าและตัวสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นอันตรายแก่ธัญญชาติ โดยที่เจ้าของนาได้ไถคราด ให้ควรแก่การหว่านข้าวกล้า แล้วพระบรมศาสดาจึงได้ตรัสอนุโมทนาโดยพระบาลีว่า “สีตํ อุณฺหํ ปฏิหนฺติ” เป็นต้น มีเนื้อความตามพระนิพนธ์พุทธภาษิตว่า[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เสนาสนะ ที่อยู่อาศัย ย่อมบันเทาความหนาว ความร้อน ป้องกันเนื้อร้าย ป้องกันงู และยุงได้ ป้องกันฝนก็ได้ แม้ลมและแดดกล้าที่ตั้งขึ้น ก็ยังบันเทาได้[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]การถวายกุฎีวิหารที่อยู่อาศัยแก่พระสงฆ์ เพื่อเร้นอยู่ ของผู้ต้องการความสงบเพื่อความสุข เพื่อฌาน [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]( [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เพ่งพิจารณา[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]) [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เพื่อวิปัสสนา [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]( [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เห็นแจ้ง[/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]) [/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่า เป็นทานเลิศ[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]เพราะเหตุนั้น ผู้มีปัญญาเมื่อเล็งเห็นประโยชน์ของตน พึงสร้างกุฎี วิหาร ที่อยู่อาศัย อันรื่นรมย์ ให้ภิกษุทั้งหลาย ผู้เป็นพหุสูตรอยู่เถิด[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]อนึ่ง พึงถวายข้าว น้ำ ผ้า และเสนาสนะแก่ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยน้ำใจเลื่อมใสในท่านผู้ปฏิบัติตรงทั้งกายและใจ [/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]ท่านย่อมแสดงธรรม อันเป็นเครื่องบันเทาความทุกข์ทั้งมวล แก่บุคคลผู้เมื่อรู้ธรรมแล้ว จะเป็นผู้ไม่มีอาสวะ ปรินิพพานในโลกนี้ ดังนี้แล[/FONT]
    [FONT=Comic Sans MS, sans-serif][/FONT][FONT=Comic Sans MS, sans-serif]วิหารทานคาถานุโมทนานี้ ได้เพิ่มพูนความปิติยินดีแก่ท่านราชคหกเศรษฐีเป็นอันมาก ในกุศลทานบริจาคที่ได้สร้างกุฎีถวายแด่พระสงฆ์มา เมื่อสมเด็จพระบรมศาสดาตรัสอนุโมทนาแล้ว ก็เสด็จลุกจากอาสน์เสด็จลีลาศคืนหลังยังพระเวฬุวันวิหาร ขอยุติพรรณาในอนุโมทนาวิหารทานแต่เพียงนี้[/FONT]
     
  3. เจี๊ยบ รักพ่อหลวงภูมิพล

    เจี๊ยบ รักพ่อหลวงภูมิพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,646
    ค่าพลัง:
    +4,272
    โอนไปเมื่อวาน 53 บาท เพราะตัวเองไม่มีรายได้เป็นแม่บ้านดูแลลูก ปัจจัยมีน้อยแต่เปี่ยมด้วยกำลังใจและศรัทธา เพราะต้องโอนทำบุญอีก 6 รายการในเว็ปพลังจิต และข้างนอกอีกทุกเดือน เงินตัวเอง 50 บาท และของคนเก็บของเก่าแถวบ้านขายอีก 3 บาท (เขาตั้งใจช่วย 20 บาท ในรายการเดียว แต่ส่วนตัวเห็นว่าอยากให้เขาได้กุศลเยอะ จึงแบ่งเงินเป็น 7 ส่วน ให้เขาร่วมอนุโมทนาด้วย) เงินมากน้อยไม่สำคัญยิ่งใหญ่ไปกว่าเต็มใจที่จะร่วมบุญอย่างยิ่ง สาธุ
     
  4. patuwan

    patuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +842
    อืมอยู่ตรงใหนนะ

    ใช่เส้น 304 หรือเปล่าครับ คุณ Temsak ผมขับรถ พอดีสายตาเห็น แว็บ ๆ ๆ มองไม่ทันสักเท่าไหร่ แต่สะดุดใจจัง ก็อยากแวะอยู่เหมือนกัน แต่เห็นทางเข้ามันมีแต่ไร่มันสำปะหลัง ผมมาจาก อ.ทับลาน มุ่งหน้า อ. แปลงยาว
    ขอบคุณที่ตอบครับ ( ขอโมทนาครับ )
     
  5. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ไม่แน่ใจครับ เดี๋ยวให้คุณ kermit มาตอบนะครับ

    เพราะคุณ kermit เป็นคนขับรถพาพวกเราไปน่ะครับ


    .
     
  6. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ขณะนี้ทางวัดห้วยน้ำทรัพย์ (พระธาตุวาโย) ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา กำลังดำเนินการสร้างพระอุโบสถขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตศรัทธามาร่วมกันสร้างพระอุโบสถหลังนี้ให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว เพื่อที่พระสงฆ์จะได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจต่างๆ


    ท่านผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญได้โดยการโอนเงินเข้าบัญชี ดังนี้

    ชื่อบัญชี วัดห้วยน้ำทรัพย์ (พระธาตุวาโย)
    เลขที่บัญชี 203 - 1 - 53542 - 0
    ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาพนมสารคาม



    ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พระครูปริยัติธรรมกิจ (เจ้าอาวาส)
    หมายเลขโทรศัพท์ 081 - 577 - 2796
    โทรศัพท์วัด 089 - 749 - 1988





    .
     
  7. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  8. Jdin_buddhism

    Jdin_buddhism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +10,153
    สวัสดีครับพี่ตั้มและทุกท่าน

    วันนี้ 25 มี.ค 51 ช่วงเช้าได้โอนเงินร่วมบุญ สร้างพระอุโบสถวัดห้วยน้ำทรัพย์ ดังนี้ครับ


    1. พี่มัลลิกา ร่วมบุญ 100 บาท
    2. ผม ร่วมบุญ 100 บาท
    3. น้องดา ร่วมบุญ 20 บาท

    รวมเงินทำบุญทั้งสิ้น 220 บาท

    โอนเข้าบัญชี

    ธ.กรุงไทย 203-1-53542-0

    ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ
     
  9. wirote1960

    wirote1960 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +790
    ผมร่วมทำบุญ 100 บาท โอน 7 เมย.51
     
  10. som11

    som11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +784
    เมื่อวานนี้ได้ไปที่วัดมา สงบมากครับ
    การก่อสร้างพระอุโบสถก็ยังไม่แล้วเสร็จนะครับ
    กำแพงแก้วช่องละ 3000 บาทครับ

    เป็นวัดสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา แห่งที่ ๙
    มีที่พักและสถานที่ปฏิบัติธรรมที่น่ามากันครับขอแนะนำ
    3วัน5วันหรือหลายๆวันก็ได้ครับ
     
  11. som11

    som11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +784
    ถ่ายไว้ไม่กี่วันนี้เองครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1431.JPG
      DSCF1431.JPG
      ขนาดไฟล์:
      222.5 KB
      เปิดดู:
      92
  12. som11

    som11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +784
    ครูบาชัยวงค์ แห่งวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ท่านเคยมาอุปการะวัดนี้ด้วยครับ
    ภาพแรกเป็นภาพของครูบาชัยวงศ์ ครับ ก็อปมาจากสมาชิกที่โพสในเว็ปพลังจิตรครับ
    ภาพที่สองเป็นภาพหลวงพ่อใหญ่ที่วัดพระธาตุวาโยครับ ผมถ่ายภาพเองครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1512.jpg
      1512.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.2 KB
      เปิดดู:
      79
    • DSCF0688.JPG
      DSCF0688.JPG
      ขนาดไฟล์:
      175.7 KB
      เปิดดู:
      75
  13. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    คุณ som11 ไปที่วัดบ่อยหรือเปล่าครับ ผมอยู่ กทม. อยากจะขอติดรถไปด้วยครับ
     
  14. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาด้วยครับ อยากทราบว่า ตอนนี้ที่วาโยมีกฐิน หรือ ผ้าป่า หรือเปล่าครับ พอดีกะว่าปีหน้าจะเป็นเจ้าภาพจัดครับ
     
  15. som11

    som11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +784
    เรื่องกฐินหรือผ้าป่า ผมว่าติดต่อกับทางวัดจะสะดวกกว่านะครับ ท่านเป็นรองเจ้าอาวาส จะอยู่ที่วัดประจำครับ

    พระครูใบฎีกาประวีณ ฐานสมปนโน
    เจ้าคณะตำบลลาดกระทิง เขต ๒
    ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดห้วยนำทรัพย์ (พระตุวาโย)

    089-7491988
    089-0036926
    ครับ
     
  16. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ แล้วผมจะหาโอกาสไปเรียนปรึกษาท่านด้วยตนเองครับ
     
  17. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    วันนี้ผมในฐานะตัวแทนโครงการกฐินแสนกอง ได้โอนเงินร่วมบุญกฐินกับวัดพระธาตุวาโย จำนวน 1,200 บาทครับ โดยได้แจ้งพระที่วัดแล้วครับ (เข้าบัญชีสร้างโบสถ์) ที่คุณ tamsak โพสต์ไว้ครับ

    โมทนาครับ
     
  18. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. พระวรากรณ์

    พระวรากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +109

แชร์หน้านี้

Loading...