ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    อเมริกา-จีน "ตกลงที่จะตกลง" --- สรุปอะไรกันแน่ (อย่างกับชื่อเพลง) ด่วนหรือไม่ด่วน หรือว่าเดิมๆ ไม่คืบ ...
    สรุป "ผลลัพธ์" สั้นๆ : อเมริกา-จีน เจรจา 9-10 มิ.ย. ณ ลอนดอน ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม --- ไม่ทะเลาะ แต่ไม่คืนดี
    "เราตกลงกันได้ในกรอบแนวทาง (framework) เพื่อเดินหน้าตามที่ตกลงกันได้ (ในหลักการ) ที่เจนีวา (เมื่อ 10-11 พ.ค.) และที่ประธานาธิบดีของเราเพิ่งคุยโทรศัพท์กัน" ฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีคลังสหรัฐอเมริกากล่าว
    งงๆ นะ แปลว่าได้เรื่องได้ราวไหม?
    สรุป ที่ตกลงกันที่เจนีวา คืออะไร แล้วได้ทำอะไรไปยัง (; ที่ทำแล้วแน่ๆ คือ ลดกำแพงภาษีออกชั่วคราว แต่อย่างอื่นไม่รู้)
    ล่าสุด คือตกลงกันว่าจะทำตามที่ตกลงกันที่เจนีวา อืมม์ ไม่งงเลยนะ --- เท่ากับว่าที่ผ่านมา เจนีวาคือลอยๆ อยู่ในอากาศใช่ไหม
    แล้วคำว่า "กรอบแนวทาง" อะไรพวกนี้ มันจับต้องได้แค่ไหน
    ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ทั้งนั้น
    เหมือนคุยไปเรื่อยในลักษณะ "ดีแต่ป้อ แต่ล่อไม่เป็น" --- ยังไม่สามารถส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้
    ถามพ่อ-ึงสิ?
    ขุนคลังอเมริการะบุว่าต้องมุ่งหน้ากลับวอชิงตันเพื่อถามป๋าทรัมป์ก่อนว่า "โอเค" กับกรอบแนวทางนี้หรือไม่ และก็ต้องดูด้วยว่าสีจิ้นผิง "โอเค" เช่นกันหรือไม่ ถึงจะเดินหน้าต่อได้
    อย่าลืม พอเป็นเรื่อง "แรร์เอิร์ธ" แล้ว จีนยังมี "แต้มต่อ" มากกว่า จะเล่นแง่ จะอะไรยังไงก็ได้
    ต่อให้จีนโดนภาษี 3000% ก็ยังไม่ถึงกับดับแดดิ้น
    หรือถึงไม่ได้ชิป AI จากอเมริกา อย่างแย่สุด ให้เวลาสัก 30 ปี จีนก็พัฒนาทำเองได้ (มั้ง) หรือไม่ได้ก็ยังพอถูไถ
    แต่กลับกัน ถ้า "แรร์เอิร์ธ" นี่จีนไม่ส่งออกนอกประเทศไปตลอดกาล ทีนี้อุตสาหกรรมสะดุดหยุดกึก ไปต่อไม่ได้หมด ทั้งอเมริกาและทั่วทุกหัวระแหงในโลก
    จีนไม่รีบ
    สรุป ตกลงกันได้นี่ข่าวด่วนไม่ด่วน
    ไม่น่าจะด่วนแล้วมั้ง มัน "ตกลงที่จะตกลง" โดยไม่มีอะไรใหม่ และของเก่าก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นอัน ไม่ได้ก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
    https://www.bloomberg.com/news/arti...eached-on-geneva-framework?srnd=homepage-asia
    https://www.cnbc.com/2025/06/11/us-...ork-to-implement-geneva-trade-consensus-.html
    https://www.facebook.com/share/p/1ArGyKoPha/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    รายได้ท่องเที่ยวไทยติดลบ 2.87% สัญญาณวิกฤติที่ต้อง ‘พลิกเกม’ | #บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
    .
    การท่องเที่ยวถือเป็น “เครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” มาอย่างยาวนาน สร้างทั้งงาน สร้างรายได้ และกระจายความเจริญไปยังภูมิภาคต่างๆ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาช่วงวันที่ 1 ม.ค.-8 มิ.ย. 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 15,016,878 คน และสร้างรายได้จากการใช้จ่ายได้ราว 699,295 ล้านบาท
    .
    แต่ตัวเลขรายได้นี้กลับ “ติดลบ 2.87%” เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นี่คือ “สัญญาณเตือนที่ชัดเจน” ว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการ “ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่” เพื่อฟื้นฟูให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็น “เครื่องยนต์หลักที่แข็งแกร่ง” และเพิ่มขีดความสามารถในการ “แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน” ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทยให้ได้มากขึ้นอย่างเร่งด่วน
    .
    สถานการณ์ที่น่าจับตาอีกประการคือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาดนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกในช่วงเวลาเดียวกัน โดยพบว่า “มาเลเซียได้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1” ด้วยจำนวนกว่า 2.04 ล้านคน “แซงหน้าจีน” ที่อยู่ในอันดับ 2 ซึ่งมีจำนวนใกล้เคียงกันแต่มี “แนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง” ขณะที่ “อินเดียมีการเติบโตอย่างโดดเด่นจนทะลุ 1 ล้านคน” ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ตามมาด้วยรัสเซียและเกาหลีใต้ในอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ
    .
    ตลาดจีนซึ่งเคยเป็น “หัวใจสำคัญ” ของการท่องเที่ยวไทยชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง เป็นปัญหาหลักที่ต้องได้รับการแก้ไข การ “ทำความเข้าใจสาเหตุ” ของความชะลอตัวนี้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากปัจจัยภายในของจีนเอง สภาพเศรษฐกิจ ปัญหานโยบายการเดินทาง หรือแม้แต่ปัญหาด้านความปลอดภัยและภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยที่อาจเปลี่ยนแปลงไป การวิเคราะห์นี้จะนำไปสู่การ “หากลยุทธ์ที่ตรงจุด” หากยังไม่สามารถฟื้นฟูตลาดนี้ได้อย่างรวดเร็ว ก็จำเป็นต้อง “พิจารณาหาตลาดทดแทนที่มีศักยภาพ” ควบคู่ไปด้วย
    .
    ขณะเดียวกัน “การที่มาเลเซียก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 และอินเดียเติบโตอย่างก้าวกระโดด” ถือเป็น “โอกาสทองที่ต้องคว้าไว้” ควรใช้โมเมนตัมนี้ “ทำการตลาดเชิงรุกและต่อเนื่อง”ที่ “สอดคล้องกับพฤติกรรมและความสนใจ” ของนักท่องเที่ยวจากสองประเทศนี้
    .
    รวมถึงการไม่พึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไปเป็นสิ่งสำคัญต่อความยั่งยืน จึงต้อง “กระจายความเสี่ยงและรักษาตลาดเดิมอย่างแข็งขัน” ทั้งรัสเซีย เกาหลีใต้ และตลาดดั้งเดิมอื่นๆ ผ่านการสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและคุณภาพ การรักษาความสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมต่างๆ และการนำเสนอสินค้าบริการที่หลากหลาย
    .
    เพื่อให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นเครื่องยนต์กระตุ้นเศรษฐกิจที่ทรงพลังอย่างแท้จริง และแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ จำเป็นต้อง “พัฒนาคุณภาพและสินค้าทางการท่องเที่ยวยกระดับคุณภาพบริการ”ให้มีมาตรฐานทุกพื้นที่ เน้นบริการที่มีเอกลักษณ์และคุณค่าสูง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเชิงลึก การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่มีความรับผิดชอบ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือเชิงกีฬา ควบคู่ไปกับการ “ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองที่มีศักยภาพ” เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น การดำเนินการอย่างเป็นระบบและบูรณาการ คือ “หัวใจสำคัญ” ที่จะทำให้การท่องเที่ยวไทยสามารถปรับตัว แข่งขัน และกลับมาเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #InsightForOpportunities #กรุงเทพธุรกิจEconomic
    https://www.facebook.com/share/p/1997onvaiy/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    ‘ดอลลาร์’ ถูกทิ้ง? ‘เอเชีย’ ถอยห่างเงินสหรัฐ หลังถูกมองเป็นอาวุธกดดันคู่ค้า
    .
    ‘เอเชีย’ กำลังลดการพึ่งพา ‘ดอลลาร์’ ลงเรื่อย ๆ หลังถูกมองเป็นอาวุธทางการค้า โดยอาเซียนเร่งส่งเสริมการใช้ ‘สกุลเงินท้องถิ่น’ ลดความเสี่ยง ด้านกลุ่ม BRICS ซึ่งรวมถึงอินเดียและจีน ก็ได้มีการพัฒนาและผลักดันระบบการชำระเงินของตนเองอย่างแข็งขัน
    .
    สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า “ภูมิภาคเอเชีย” กำลังค่อย ๆ ลดการพึ่งพา “เงินดอลลาร์” เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางการเงิน และการป้องกันความเสี่ยงด้านสกุลเงิน
    .
    เมื่อเร็ว ๆ นี้ ภูมิภาคอาเซียนได้ให้คำมั่นที่จะส่งเสริมการใช้ “สกุลเงินท้องถิ่น” ในการค้าและการลงทุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ประชาคมเศรษฐกิจฉบับใหม่ปี 2026-2030 แผนดังกล่าวได้ระบุถึงความพยายามในการลดผลกระทบด้านความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ด้วยการส่งเสริมการชำระเงินด้วยสกุลเงินท้องถิ่น และเสริมสร้างความเชื่อมโยงการชำระเงินระดับภูมิภาคให้แข็งแกร่งขึ้น
    .
    “การตัดสินใจด้านนโยบายการค้าที่คาดเดาไม่ได้ของทรัมป์ และการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของเงินดอลลาร์ อาจกำลังกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินอื่น ๆ เร็วขึ้น” ฟรานเชสโก เพโซล นักยุทธศาสตร์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนจาก ING กล่าว
    .
    ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเห็นได้ชัดเจนขึ้นในเอเชีย แต่ทั่วโลกก็กำลังลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์เช่นกัน โดยส่วนแบ่งของเงินดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลกลดลงจากกว่า 70% ในปี 2000 เหลือเพียง 57.8% ในปี 2024
    .
    เมื่อไม่นานมานี้ เงินดอลลาร์ก็เผชิญกับการเทขายอย่างรุนแรงในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนเมษายน หลังจากความไม่แน่นอนของการกำหนดนโยบายของสหรัฐตั้งแต่ต้นปี ดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปแล้วกว่า 8%
    .
    ถึงแม้ว่าการลดพึ่งพาเงินดอลลาร์ จะไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่เสียทีเดียว แต่แนวคิดได้เปลี่ยนไปแล้ว นักลงทุนและเจ้าหน้าที่ต่างเริ่มตระหนักว่า เงินดอลลาร์สามารถถูกใช้เป็น “อาวุธต่อรอง” ได้ในการเจรจาการค้า
    .
    “ประเทศต่าง ๆ กำลังมองว่า เงินดอลลาร์สามารถถูกใช้เป็นอาวุธชนิดหนึ่งในการค้า การคว่ำบาตรโดยตรง นั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ผมคิดว่าในหลายเดือนที่ผ่านมา” มิทูล โกเตชา หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ FX และ EM Macro ประจำภูมิภาคเอเชียของ Barclays กล่าว
    .
    “การลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในอาเซียน น่าจะเร่งตัวขึ้น โดยหลักแล้วผ่านการแปลงเงินฝากในรูปเงินตราต่างประเทศที่สะสมมาตั้งแต่ปี 2022” แอพเฮ กุปตา นักยุทธศาสตร์ตราสารหนี้และอัตราแลกเปลี่ยนประจำภูมิภาคเอเชียกล่าว
    .
    นอกเหนือจากอาเซียน ประเทศกลุ่ม BRICS ซึ่งรวมถึงอินเดียและจีน ก็ได้มีการพัฒนาและผลักดันระบบการชำระเงินของตนเองอย่างแข็งขัน เพื่อหลีกเลี่ยงระบบดั้งเดิมอย่าง SWIFT และลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ จีนยังได้ส่งเสริมการชำระเงินการค้าทวิภาคีด้วยสกุลเงินหยวนอีกด้วย
    .
    “การลดพึ่งพาเงินดอลลาร์เป็น 'กระบวนการที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและช้า' “ บาร์เคลย์ โคเทชากล่าว “คุณสามารถเห็นได้จากทุนสำรองของธนาคารกลาง ซึ่งค่อย ๆ ลดสัดส่วนของเงินดอลลาร์ลง คุณสามารถเห็นได้จากสัดส่วนของเงินดอลลาร์ในการทำธุรกรรมการค้า” เขาเสริมอีกว่า ประเทศเศรษฐกิจในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และจีน ถือครองสินทรัพย์ต่างประเทศจำนวนมาก ทำให้พวกเขามีศักยภาพสูงสุดในการนำรายได้หรือสินทรัพย์ต่างประเทศกลับคืนสู่สกุลเงินของตนเอง
    .
    นอกจากนี้ การลดพึ่งพาเงินดอลลาร์ ยังเกิดขึ้นเนื่องจากนักลงทุนชาวเอเชียเพิ่มการป้องกันความเสี่ยงจากเงินดอลลาร์ ตามรายงานของโนมูระ
    .
    เมื่อนักลงทุนป้องกันความเสี่ยงจากเงินดอลลาร์ พวกเขาจะขายเงินดอลลาร์และซื้อสกุลเงินท้องถิ่นหรือสกุลเงินทางเลือก ซึ่งจะเพิ่มความต้องการและทำให้สกุลเงินเหล่านั้นมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/world/1184410?anm=
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #InsightForOpportunities #กรุงเทพธุรกิจInvestment

    https://www.facebook.com/share/p/1CfpmFxy8q/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    ‘อาเซียน’ งัดไพ่กระตุ้นศก. รับมือภัยคุกคามภาษี แม้แลกหนี้พุ่ง-รายได้รัฐลดก็ตาม
    .
    แรงบีบจากภาษีทรัมป์ ทำให้หลายประเทศในอาเซียน ทั้งอินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม เดินหน้า ‘กระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่’ เพื่อประคับประคองกำลังซื้อและหนุนการเติบโต แม้ต้องแลกกับความเสี่ยงหนี้สิน และรายได้ของรัฐที่อาจลดลงก็ตาม
    .
    เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า อินโดนีเซีย ไทย และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเร่งออก “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่” เพื่อรับมือผลกระทบต่อเศรษฐกิจของตนจากมาตรการขึ้นภาษีของทรัมป์ที่มีผลในวงกว้าง
    .
    หนึ่งในนั้น คือ รัฐบาลของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต แห่ง “อินโดนีเซีย” ได้จัดทำแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 24.44 ล้านล้านรูเปียห์ หรือราว 49,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงจากแผนเดิมที่เคยประกาศเมื่อต้นปีว่า จะตัดงบประมาณ 306 ล้านล้านรูเปียห์ เพื่อจัดสรรเงินไปใช้ในโครงการอาหารกลางวันฟรีสำหรับนักเรียน
    .
    ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม จะมีประชาชนราว 18 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย ได้รับเงินสดช่วยเหลือคนละ 300,000 รูเปียห์ พร้อมกับข้าวสาร 10 กิโลกรัมต่อเดือน รัฐบาลยังเตรียมลดค่าโดยสารขนส่งสาธารณะลงอย่างมาก รวมถึงการลดค่าโดยสารรถไฟลง 30%
    .
    เป้าหมายของมาตรการเหล่านี้คือ เพื่อรักษากำลังซื้อของประชาชน และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามที่ศรี มุลยานี อินดราวาตี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินโดนีเซียกล่าว
    .
    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา อินโดนีเซียเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัดทางการคลังในช่วงที่ผ่านมา โดยจีดีพีเติบโตเพียง 4.87% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกในปีก่อนหน้า ซึ่งมาจากกำลังซื้อของชนชั้นกลางที่ลดลง โดยอัตราการเติบโตของ GDP ครั้งนี้นับว่าอ่อนแอที่สุด นับตั้งแต่ไตรมาสกรกฎาคม-กันยายน ปี 2021
    .
    ขณะเดียวกัน อัตราการเข้าพักของ “โรงแรมในกรุงจาการ์ตา” ก็ลดลงจากระดับในช่วงก่อนหน้ากว่า 90% อีกทั้งงบประมาณสำหรับโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคก็ถูกตัดลงอย่างมาก และแผนการก่อสร้างทางด่วนก็ถูกเลื่อนออกไป
    .
    ใน “สิงคโปร์” รัฐบาลได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ปีนี้ลง เหลือระหว่าง 0% ถึง 2% จากเดิมที่คาดไว้ระหว่าง 1% ถึง 3%
    .
    ขณะที่ “ไทย” ก็ปรับลดประมาณการจีดีพีลงเช่นกัน เหลือระหว่าง 1.3% ถึง 2.3% จากเดิมที่คาดไว้ระหว่าง 2.3% ถึง 3.3%
    .
    ในเดือนเดียวกัน คณะรัฐมนตรีไทยได้อนุมัติงบประมาณ 157,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ทางรถไฟและถนน โดยในการจัดหาเงินทุนสำหรับแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว รัฐบาลได้ตัดสินใจ “เลื่อนบางส่วน” ของโครงการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาทให้กับประชาชนออกไปก่อน
    .
    สำหรับไทย หนี้ครัวเรือนกำลังเข้าใกล้ระดับ 90% ของจีดีพี ซึ่งเหล่านักเศรษฐศาสตร์มีมุมมองว่า หากดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาจทำให้ระดับหนี้เพิ่มสูงขึ้นอีก และจำกัดความยืดหยุ่นของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายต่าง ๆ
    .
    ด้าน “มาเลเซีย” นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ได้ประกาศแพ็กเกจสนับสนุนมูลค่า 1,500 ล้านริงกิต เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งรวมถึงการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และการค้ำประกันสินเชื่อโดยรัฐบาล
    .
    ส่วน “เวียดนาม” กำลังพิจารณาขยายระยะเวลาการลดภาษีมูลค่าเพิ่มออกไปอีก 1 ปีครึ่ง จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า การขยายเวลาดังกล่าวอาจกระทบต่อรายได้จากภาษีของรัฐ
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/world/1184329?anm=
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #InsightforOpportunities #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    https://www.facebook.com/share/p/16iHXhyLW5/
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    ด่วน!!!!! มีสัญญาณ??!??
    ทรัมป์ยืนยืนเอง เริ่มอพยพเจ้าหน้าที่อเมริกาออกจากตะวันออกกลาง ⚠️⚠️⚠️เฮ้ย นี่คือกำลังจะทำอะไร? อะไรไม่รู้ล่ะ ราคาน้ำมันตลาดโลก ดีด 4-5%พุ่งแรงอย่างน่าสะพรึงกลัว (ส่วนทองยังนิ่งๆ ... รอดูท่าทีอีกนิด)
    ไม่ปกตินะครับท่าน จู่ๆ มาทำอะไรยังงี้ --- ทรัมป์ชี้ ตะวันออกกลางอาจ(กำลัง)เป็น "แดนอันตราย"
    ซึ่งก็ไม่มีเรื่องอื่นใดนอกจาก "อิหร่าน"
    ก่อนนี้ รอยเตอร์ก็เพิ่งรายงานข่าวว่ารัฐบาลอเมริกาเตรียมสั่งให้เจ้าหน้าที่(บางส่วน)ในสถานทูตอเมริกาที่กรุงแบกแดด ประเทศอิรัก "อพยพ" รวมถึงให้สมาชิกครอบครัวของทหารที่ประจำการในตะวันออกกลาง "อพยพ" เช่นกัน
    (*อเมริกามีฐานทัพที่อิรัก คูเวต กาตาร์ บาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
    เอ๊ะ ยังไง
    หมายความว่าอเมริกากับอิสราเอลกำลังเตรียมการอันใด?????

    ทั้งนี้ ตอนนี้อเมริกากับอิหร่านเจรจาประเด็นนิวเคลียร์อยู่นะครับท่าน
    อิหร่านจะหยุดไม่หยุดเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมความเข้มข้นสูง หรือจะมีเกณฑ์มีขีดจำกัดว่าสูงได้เท่าไหร่ อิหร่านจะรับไม่รับ
    อเมริกาจะเลิกไม่เลิกคว่ำบาตร
    ฯลฯ
    เจรจามา 5 ครั้งแล้ว ยัง "เหลว" (และครั้งที่ 6 ก็กำลังจะมีในสัปดาห์นี้)
    บนโต๊ะเจรจาก็เดินหน้าไป ขณะเดียวกัน บนเวทีโลก ต่างฝ่ายต่างก็สาดวาจาใส่กัน

    เป็นทรัมป์ที่ลำพองผยองเดช วันๆ แผดเสียงลั่น ขู่ฟอดๆ ให้อิหร่านรีบๆ รับดีล และกร้าวว่าถ้าอิหร่านไม่รับสักที เดี๋ยวได้โดนถล่มแน่!
    อิหร่านก็เสียงแข็ง กลัวที่ไหนล่ะ!
    แต่ล่าสุด อิหร่านเผ็ดร้อนกว่าเคย รัฐมนตรีกลาโหม อาซิซ นาซีร์ซาเดห์ ตะคอก "ถึงฝ่ายตรงข้ามที่ขู่ประเคน 'ความขัดแย้ง' หากการเจรจาไม่คืบหน้า หาก 'ความขัดแย้ง' นั้นโถมทุ่มมาสู่เราจริง โปรดจงรู้ไว้ฐานทัพอเมริกา(ในตะวันออกกลาง)อยู่ในรัศมีการโจมตีของเรา และเราจัก 'จัดหนัก' ยังมิครั่นคร้ามมิว่าอยู่แห่งหนตำบลใด"
    (*ความขัดแย้งนั้น บางทีทรัมป์ก็ขู่บึ้ม บ้างก็ขู่จะคว่ำบาตรหนักข้อขึ้น มีหลายดอก)

    ก็ขู่ดีนัก ต้องเจอขู่กลับ
    (ที่ผ่านมาอิหร่านแค่โต้อย่างไม่ยี่หระ แต่ไม่ได้ระบุชัดขนาดนี้ว่าจะทำอะไร)

    ภูมิภาคไหนผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก คงมิต้องบอกกล่าวแล้วกระมัง
    ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ICE Brent เด้ง 4.3% และ WTI NYMEX โดด 4.9%
    ทั้งคู่ เฉียดๆ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล (ชาวโลกไม่เห็นเลขนี้มาตั้งแต่ต้นๆ เม.ย. แล้วนะครับท่าน --- พอทรัมป์ระเบิดศึกสงครามการค้าเต็มตัว ราคาน้ำมันดิบก็ไม่เคยโงหัวมาเจอ 70 อีกเลย ... ตอนนี้มันถึงละจ้ะ)

    อ้อ หมายเหตุ
    สำหรับบางประเทศตะวันออกกลางที่อเมริกาตั้งฐานทัพไว้นั้น
    อิรักผลิตน้ำมันดิบ 3.9 ล้านบาร์เรล/วัน สูงสุดอันดับ 2 ของ "โอเปก"
    ยูเออี ผลิต 2.9 ล้านบาร์เรล/วัน อันดับ 4 ของ "โอเปก"
    คูเวต ผลิต 2.4 ล้านบาร์เรล/วัน อันดับ 5 ของ "โอเปก"
    (กาตาร์ลาออกจาก "โอเปก" ไปหลายปีแล้ว ส่วนบาห์เรนผลิตได้ไม่มาก)

    แล้วเราชาวโลกต้องกลัวรึเปล่า???

    https://www.reuters.com/world/middl...ion-due-heightened-security-risks-2025-06-11/
    https://www.reuters.com/world/middl...egion-if-military-conflict-arises-2025-06-11/

    https://www.facebook.com/share/p/1V9gbWjwvs/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    UPDATE: คพ. เผยผลตรวจตะกอนดิน ‘แม่น้ำกก’ และลำน้ำสาขา พบสารหนูเกินมาตรฐานต่อเนื่อง
    .
    วานนี้ (11 มิถุนายน) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปผลการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ตะกอนดินในแม่น้ำกก ลำน้ำสาขา และแม่น้ำโขง ครั้งที่ 3 หลังเกิดความขุ่นผิดปกติในแม่น้ำกกอย่างต่อเนื่อง
    .
    โดยผลการตรวจพบว่าสารหนูยังคงเกินมาตรฐานในหลายจุด และบางพื้นที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนหากบริโภคปลาในปริมาณมาก
    .
    สถานการณ์ในแม่น้ำกก
    .
    ผลการตรวจวัดตะกอนดินในแม่น้ำกก พบสารหนูเกินมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำผิวดินทุกจุดตรวจวัด โดย 13 จุดเกินระดับมาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อสัตว์หน้าดิน แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
    .
    อย่างไรก็ตาม พบสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดิน และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์หากบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและสม่ำเสมอใน 2 จุด ได้แก่ บริเวณสะพานสองดินแดนบ้านแม่สลัก (KK03) และสะพานเฉลิมพระเกียรติ 1 อำเภอเมืองเชียงราย (KK09)
    .
    นอกจากนี้ ยังตรวจพบตะกั่วเกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ ในจุดเดียวกับที่พบสารหนูเกินมาตรฐาน เช่น สะพานสองดินแดนแม่สลัก ตำบลท่าตอน (KK03) อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และบ้านจะเด้อ ตำบลดอยฮาง (KK04) รวมถึงสะพานเฉลิมพระเกียรติ 1 อำเภอเมืองเชียงราย (KK09)
    .
    สำหรับโลหะหนักอื่นๆ เช่น นิกเกิล ทองแดง โครเมียม และแคดเมียม ก็พบค่าเกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินในบางจุด แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์
    .
    สถานการณ์ในลำน้ำสาขา
    .
    จากการตรวจวัดทั้ง 3 ครั้ง พบการปนเปื้อนโลหะหนักเกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินในหลายลำน้ำสาขา แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ ดังนี้:
    .
    - แม่น้ำฝาง (FA01): พบนิกเกิล สารหนู และโครเมียมเกินมาตรฐาน
    - แม่น้ำกรณ์ (KO01): พบนิกเกิล ทองแดง สารหนู และโครเมียมเกินมาตรฐาน
    - แม่น้ำลาว (LA01): พบนิกเกิล สารหนู และโครเมียมเกินมาตรฐาน
    - แม่น้ำสรวย (SU01): พบนิกเกิล และโครเมียมเกินมาตรฐาน
    .
    สถานการณ์ในแม่น้ำสาย
    .
    แม่น้ำสาย ซึ่งเริ่มเก็บตัวอย่างในการตรวจวัดครั้งที่ 3 (พฤษภาคม 2568) พบค่าสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดินทั้ง 3 จุดตรวจวัด และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนหากมีการบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ
    .
    สถานการณ์ในแม่น้ำโขง
    .
    ผลการตรวจวัดในแม่น้ำโขงบริเวณบ้านสบกก ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน (94 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ในครั้งที่ 3 (พฤษภาคม 2568) พบสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดินอย่างมีนัยสำคัญ และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนหากบริโภคปลาในปริมาณมากและสม่ำเสมอ ซึ่งผลการตรวจครั้งที่ 2 (เมษายน 2568) พบเพียงเกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินเท่านั้น นอกจากนี้ ยังพบตะกั่ว นิกเกิล ทองแดง และโครเมียม เกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินในจุดเดียวกัน
    .
    ข้อสังเกตและแนวทางแก้ไข
    .
    จากการวิเคราะห์ คพ. พบว่า ในช่วงฤดูน้ำหลาก กระแสน้ำที่ไหลเร็วขึ้นได้ชะล้างตะกอนจากต้นน้ำลงสู่ลำน้ำมากขึ้น ทำให้สารหนูและโลหะหนักสะสมในระดับตื้นกระจายทั่วบริเวณชั้นบนของพื้นท้องน้ำ และถูกพัดพาไปตลอดเส้นลำน้ำ ซึ่งแตกต่างจากผลการตรวจวัดครั้งที่ 2 ที่พบว่าหลังจากน้ำไหลผ่านฝายเชียงราย สารหนูมีค่าลดลงอย่างเห็นได้ชัด
    .
    นอกจากนี้ คพ. อยู่ระหว่างการตรวจสอบผลการตรวจวัดตะกอนดินในแม่น้ำโขงหลังจุดบรรจบกับแม่น้ำกกอีกครั้ง เพื่อยืนยันผลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากการตรวจวัดครั้งก่อนหน้า และยังอยู่ระหว่างทดสอบการตกตะกอนของสารแขวนลอย เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาโลหะหนักในน้ำเกินค่ามาตรฐาน โดยจะรายงานผลการดำเนินงานและติดตามสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นระยะต่อไป
    .
    คพ. ชี้ว่าแนวโน้มของการปนเปื้อนโลหะหนักในแม่น้ำกก ลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง คาดว่าปะปนมากับสารแขวนลอยในน้ำ ดังนั้นการพักน้ำหรือทำให้สารแขวนลอยตกตะกอนอาจเป็นแนวทางหนึ่งในการลดค่าโลหะหนักในน้ำได้
    .
    #TheStandardNews

    https://www.facebook.com/share/p/19E18oJ72x/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    Jun 12, 2025 สะเทือนเฝอ! แอลจีเทเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาทขึ้นโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าในสหรัฐ ลดผลิตในเวียดนามและอินโดนีเซีย ลดเสี่ยงและไม่แน่นอนจากสงครามภาษีสหรัฐ

    แอลจี อิเล็กทรอนิคส์ เปิดเผยว่า เตรียมขยายการลงทุนโรงงานในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยเงินลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,300 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าในรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกัน แอลจี อิเล็กทรอนิคส์ จะลดการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม และอินโดนีเซีย สาเหตุมาจากความเสี่ยง และความไม่แน่นอนสูงจากมาตรการภาษีและการค้าที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ประกาศบังคับใช้กับประเทศในแถบอาเซียน ซึ่งมีอัตราภาษีสูงมาก ที่สำคัญยังมองไม่เห็นความชัดเจนในอนาคตว่าการเจรจาข้อตกลงอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ของทั้งสองประเทศในอาเซียนกับสหรัฐอเมริกาจะลงเอยอย่างไร

    ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นายวิลเลียม โช กล่าวว่า แอลจีเป็นผู้ผลิตที่มีระบบการผลิตแบบครบวงจรในสหรัฐอเมริกา เริ่มตั้งแต่ชิ้นส่วนไปจนถึงสินค้าสําเร็จรูป และคิดว่าสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยกเว้นภาษีได้ เช่น ตู้เย็น และเตาอบ บริษัทยังวางแผนที่จะเพิ่มผลผลิตในประเทศเม็กซิโก ซึ่งได้รับการยกเว้นจากประเภทภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายนผ่านมา

    ปัจจุบันนี้ แอลจีพึ่งพา 3 ส่วนหลักของสินค้าที่จำหน่าย ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โทรทัศน์ และแบตเตอรี่รถยนต์ ตลาดอเมริกาเหนือคิดเป็น 26% ของยอดขายของบริษัทในปี 2024 ซึ่งหลังตลาดเกาหลีใต้ที่ 41%

    แอลจี อิเล็กทรอนิคส์ เปิดเผยว่าจะลดการพึ่งพาการผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม อัตราการใช้ประโยชน์จากการผลิตและการประกอบตู้เย็นจะปรับลดลงที่โรงงานในเมืองไฮฟอง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ บริษัทกําลังพิจารณายกเลิกแผนการขยายการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในเวียดนาม และอินโดนีเซีย

    ในด้านผลการดำเนินงานของแอลจี อิเล็กทรอนิคส์ พบว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกำลังเป็นอุปสรรคกับผลประกอบการ แม้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 7.8% เป็นมูลค่า 22.74 ล้านล้านวอน หรือ 16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 547,800 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2568 แต่ผลกำไรจากการดําเนินงานลดลง 5.7% มาอยู่ที่ 1.26 ล้านล้านวอน หรือกว่า 29,862 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์และวัสดุที่สูงขึ้น

    ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับประเทศเวียดนามที่ระดับ 46% และอินโดนีเซียที่ 32% แต่อยู่ในช่วงผ่อนผันได้ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 นี้

    #แอลจี #เวียดนาม #อินโดนีเซีย #เครื่องซักผ้า #เกาหลีใต้ #สหรัฐ #สงครามภาษี #สงครามการค้า #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/15js5VGTow/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    Jun 12, 2025 ไทยไม่ติด! มาสเตอร์การ์ดเผย 10 เมืองท่องเที่ยวสุดฮิตหน้าร้อนยอดนิยมของโลกปี 2025 โตเกียวควงโอซากาขึ้นที่ 1 และที่ 2 ตะลึงเมืองญาจางของเวียดนามติดการจัดอันดับครั้งแรก แถมติด 10 อันดับเมืองแรกของโลก ไทยไม่ติดสักเมืองใน 10 อันดับแรก

    นายเดวิด แมนน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจให้บริการการชำระเงินชื่อดังของโลก เปิดเผยรายงานแนวโนมการท่องเที่ยว 2025 หรือ Travel Trends 2025 ฉบัจัดทำโดยสถาบันเศรษฐศาสตร์ แมสเตอร์การ์ด หรือ Mastercard Economics Institute (MEI) ปรากฏว่าเมืองจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวช่วงหน้าร้อน 10 อันดับแรกของโลก มีดังนี้ อันดับ 1.กรุงโตเกียว อันดับ 2.โอซาก้า อันดับ 3.กรุงปารีส(ฝรั่งเศส) อันดับ 4.เซี่ยงไฮ้(จีน) อันดับ 5.ปัลมา เดอ มายอร์กา(สเปน) อันดับ 6.กรุงโซล(เกาหลีใต้) อันดับ 7.กรุงปักกิ่ง(จีน) อันดับ 8.มาดริด(สเปน) 9.ริโอเดจาเนโร(บราซิล) และอันดับ 10.ญาจาง(เวียดนาม)

    รายงานเปิดเผยต่อไปว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะกลายเป็นศูนย์กลางของการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก เนื่องจากมีจำนวนเมืองถึง 8 ใน 15 เมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในฤดูร้อนปี 2025 หรือในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายนนี้ ท่ามกลางปัจจัยความผันผวน และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในแถบเอเชียแปซิฟิก แต่แต่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกยังคงเดินทางเข้ามาพักผ่อนต่อเนื่อง

    สำหรับประเทศญี่ปุ่นมี 2 เมืองที่ติดใน 10 อันดับแรก ที่สำคัญ กรุงโตเกียว และเมืองโอซากา ขึ้นอันดับ 1 และ 2 เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมตามลำดับด้วย ขณะที่ในอันดับ 10 ได้แก่ เมืองญาจางของประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศริมฝั่งทะเลสร้างความประหลาดใจกลายเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมพุ่งขึ้นอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะติดการจัดอันดับครั้งแรกใน 10 อันดับแรกเมืองจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวฤดูร้อนปี 2025 เมืองญาจางของประเทศเวียดนาม เป็นเมืองที่ทีหาดทรายขาว ตั้งอยู่ริมทะเล แม้แต่ชีวิตกลางคืนก็มีสีสัน ที่สำคัญ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีค่าครองชีพเหมะสมและเข้าถึงได้

    สำหรับปัจจัยในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนของเมืองหรือประเทศปลายทาง เป็นที่ชัดเจนมากสำหรับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งค่าเงินเยนร่วงอ่อนค่าลงตั้งแต่ 2024 มาถึงปัจจุบันนี้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น จีน สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

    #เวียดนาม #ญี่ปุ่น #โตเกียว #โอซาก้า #ญาจาง #ท่องเที่ยว #ฤดูร้อน #มาสเตอร์การ์ด #อาเซียน #เอเชียแปซิฟิก #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/16Jpthbqhu/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    Jun 12, 2025 ไม่จำเป็น! ปธน.ทรัมป์พูดชัด เต็มใจอยากต่อเวลาเส้นตายเจรจาภาษีแต่ไม่จำเป็น สหรัฐจะส่งจดหมายแจงข้อเจรจาให้ประเทศคู่ค้า “นี่คือข้อตกลง คุณจะตกลง หรือคุณจะปฏิเสธ”

    นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากล่าวให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบขาว ว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังการเจรจาภาษีและการค้า สหรัฐอเมริกากำลังเจรจากับ 15 ประเทศ รวมทั้ง กลุ่มสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งประเทศเหล่านี้มีความต้องการที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าและภาษีกับสหรัฐอเมริกา ที่สำคัญไม่เชื่อว่า การขยายเส้นตายของการเจรจาภาษีและการค้าออกไปจะมีความจำเป็นใดๆ

    ภายในสัปดาห์ที่จะมาถึงนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะส่งจดหมายอย่างเป็นทางการไปให้กับประเทศต่างๆ ซึ่งจะระบุในจดหมายเกี่ยวกับข้อเสนอสำหรับการเจรจาภาษีและการค้า ซึ่งจะเปิดโอกาสให้แต่ละประเทศที่ได้รับจดหมายดังกล่าวจะพิจารณาว่าจะตกลง หรือปฏิเสธได้ทั้งนั้น นี่คือข้อตกลง คุณจะรับก็ได้ หรือคุณจะไม่รับก็ได้

    ก่อนหน้านี้ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะให้สัมภาษณ์ดังกล่าวนั้น นายสก๊อต เบสเซนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูง สำหรับประเทศหรือเขตเศรษฐกิจ อย่างเช่น กลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังเจรจาข้อตกลงภาษีและการค้าด้วยความจริงใจกับสหรัฐอเมริกานั้น รัฐบาลสหรัฐอเมริกาอาจขยายเวลาเส้นตายการเจรจาออกไป เพื่อยังคงให้การเจรจาอย่างจริงใจระหว่างกันมีความต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันหากประเทศใด หรือเขตเศรษฐกิจใดไม่เจรจาอย่างจริงใจกับสหรัฐอเมริกา รัฐบาลอเมริกาก็จะดำเนินการมาตรการภาษีหลังครบกำหนดเส้นตาย

    ในขณะนี้ สหรัฐอเมริกา มีประเทศคู่ค้าที่สำคัญในลำดับต้นๆ 18 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในกระบวนการเจรจากับประเทศเหล่านี้ ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่ากำลังใกล้จะบรรลุข้อตกลงภาษีและการค้ากับ 6 จาก 12 ประเทศ แต่จนถึงปัจจุบันมีเพียงสหราชอาณาจักรเพียงประเทศเดียวที่บรรลุข้อตกลงการค้าและประกาศอย่างเป็นทางการทั้งสองฝ่าย

    ทั้งนี้ วันสุดท้ายของการผ่อนปรนมาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs จะสิ้นสุดในวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา

    #สงครามภาษี #สงครามการค้า #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/164T2gJs6D/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    JBC ประชุมยังไม่จบ ฮุน มาเนต สั่งให้เตรียมรับแรงงานกัมพูชากลับประเทศ พร้อมลดภาระหนี้สินให้

    "ฮุน มาเนต" นายกฯ กัมพูชา สั่งเตรียมอพยพแรงงานกลับประเทศ ขณะประชุม JBC ยังไม่จบ
    นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตรียมความพร้อมรับมือการกลับประเทศของแรงงานกัมพูชาจำนวนมากจากไทย โดยมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC) ที่กรุงพนมเปญยังไม่เสร็จสิ้น
    มาตรการรองรับและช่วยเหลือ
    รัฐบาลกัมพูชาเตรียมแผนประสานงานครบวงจร โดยมีกระทรวง, หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, กองกำลังติดอาวุธ, และผู้บริหาร 7 จังหวัดชายแดนพร้อมให้ความช่วยเหลือด้าน:
    * การผ่านแดน: ประสานงานข้ามพรมแดน
    * ที่พักชั่วคราว: จัดหาที่พักบริเวณชายแดน
    * อาหารและการรักษาพยาบาล: จัดหาอาหารและบริการทางการแพทย์เบื้องต้น
    กระทรวงกลาโหม กองทัพบก และศาลากรุงพนมเปญ เตรียมยานพาหนะขนส่งแรงงานกลับภูมิลำเนา ส่วน กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพ จะช่วยหางานในประเทศ เนื่องจากกัมพูชายังขาดแคลนแรงงาน
    การช่วยเหลือด้านหนี้สินและเศรษฐกิจ
    กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง เตรียมมาตรการช่วยเหลือแรงงานปรับตัวในชีวิตประจำวันผ่านแพ็กเกจทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ นอกจากนี้ นายฮุน มาเนตยังเรียกร้องให้ สมาคมธนาคารกัมพูชา และ สมาคมไมโครไฟแนนซ์กัมพูชา พิจารณาลดภาระหนี้สินให้แรงงานที่กลับจากไทยด้วย

    https://www.facebook.com/share/p/12MmPrki8eZ/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    วันเริ่มต้นแห่งมหาสงครามในศตวรรษที่ ๒๑
    ( อย่างเป็นทางการทางด้านโหราศาสตร์)
    จุดเริ่มต้นแห่งมหาสงคราม ยุคศตวรรษที่ ๒๑
    น่าจะคือ
    วันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๘ เวลา ๘.๐๔ น. กรุงเทพฯ
    เป็นวันที่ ดาวอังคาร (๓) เทพเจ้าแห่งสงคราม
    ได้ทำมุมเล็งร้าย 180 องศา ( Opposition) เกิดมุมแตกแยก ขัดแย้งอย่างแรงและเต็มที่ กับ
    ดาวพลูโต (P ) มหาเทพแห่งความรุนแรงและการหายนะทั้งหลายทั้งปวง และ
    ทั้งสองดาวนี้ เกิดขึ้น ณ.ราศีที่เป็น " ทวารราศี"
    ( ราศีแกนสำคัญของโลก )
    คือ (๓ นิจน์) อยู่ราศีกรกฎ ( เรือนพันธุโลก)
    และ (P) อยู่ราศี มังกร ( เรือนกัมมะโลก)
    และ ทั้ง ๒ ดาว คือ ดางอังคาร (๓) และ ดาวพลูโต(P)
    ได้ทำมุมร้าย เกิดเป็น สามเหลี่ยมร้าย ( T - Square) ไปยัง
    ดาวอาทิตย์ (๑) ( ดาวประธานของโลกภาคกลางวัน)
    และ ดาวจันทร์ (๒) ( ดาวประธานของโลกภาคกลางคืน )
    ซึ่งทั้ง ดาว อาทิตย์ (๑) + ดาวจันทร์ ( ๒ ) อยู่ณ.
    ราศ๊เมษ ( ราศีแห่งตนุลัตน์ แกนโลก )
    เกิดเป็น สมการคือ
    ๑ เมษ + ๒ เมษ T- Square ๓ กรกฎ + P มังกร
    นั้นหมายความว่า นับจากนี้ไป หากเกิด สงคราม ไม่ว่าภูมิภาคไหน
    จะเป็น " มหาสงคราม " ซึ่งจะเป็น
    มหาสงครามที่ยิ่งใหญ๋ รุนแรง ระดับ ที่จะทำร้ายทำลาย ด้วย
    อาวุธร้ายแรง ( ดาวพลูโต = อาวุธมหาประลัย ขั้นสูง - สูงสุด )
    และ คู่สงคราม ทั้ง ๒ ฝ่าย
    จะเป็นคู่มหาอำนาจต่างขั้ว ( ดาว อาทิตย์ + ดาวจันทร์ - ราศีเมษ )
    และนับจากวันที่ ๒๗/๔/๒๕๖๘ เป็นต้นไป
    การเกิดการรบรากัน ไม่ว่าที่ไหนในโลก
    จะเป็นสงครามที่รุนแรง
    จะทวีความร้ายแรง และ เสียหายอย่างมากมายมหาศาล
    อย่างที่ เราๆท่านๆ ไม่เคยได้พบเห็นมากก่อนเลย
    และ จะกระทบกระเทือน ไปทั่วทั้งโลก อย่างยากที่หลีกเลี่ยงได้
    พูดตามภาษาบ้านๆทั่วไป ก็คือ
    โลกใบนี้ ได้ก้าวเข้าสู่ โมดแห่ง "มหาสงครามโลก" แล้ว
    เวหา ธรรมบารมี
    ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๘

    https://www.facebook.com/share/p/14EG8e5ZvKn/

    PSX_20250614_221605.jpg FB_IMG_1749914098236.jpg FB_IMG_1749914100570.jpg FB_IMG_1749914103315.jpg
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    "อิสราเอลจะโจมตีทุกสถานที่และทุกเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลศาสนาอิหร่าน ความเจ็บปวดที่พวกเขากำลังเผชิญตอนนี้ ยังเทียบไม่ได้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น"
    เนทันยาฮู แถลงอย่างเป็นทางการ

    https://www.facebook.com/share/1CTLr5CDte/

    FB_IMG_1749915045356.jpg
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    อิหร่านกำลังพิจารณาเรื่อง
    ”การปิดช่องแคบฮอร์มุซ“
    อย่างจริงจัง
    (สำนักข่าว IRINN รายงาน)

    “เจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสของอิหร่านระบุว่า การสู้รบในภูมิภาคจะขยายวงไปยังฐานทัพสหรัฐ ภายในไม่กี่วันข้างหน้า”
    (สำนักข่าว Fars News ของอิหร่านรายงาน)

    “การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐ ไม่มีความหมายอีกต่อไป หลังอิสราเอลโจมตีเรา”
    อิหร่าน ประกาศ

    https://www.facebook.com/share/p/18jpP6xgbA/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    อิสราเอลเตือนว่า “เตหะรานจะมอดไหม้” หากอิหร่านยังเดินหน้าถล่มอิสราเอล!
    นายกฯเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลประกาศว่านั่นคือส่วนหนึ่งของปฏิบัติการที่มุ่งโค่นล้มสาธารณรัฐอิสลามในที่สุด
    วันนี้ ผู้นำกองทัพและกองทัพอากาศของอิสราเอลย้ำความพร้อมที่จะโจมตีด้วยระเบิดที่เตหะราน หลังจากเครื่องบินขับไล่ถล่มระบบป้องกันทางอากาศของเมืองหลายระลอกเมื่อคืนนี้
    “เส้นทางสู่อิหร่านได้รับการปูทางแล้ว” เอียล ซามีร์ นายทหารระดับสูงของอิสราเอล และโทเมอร์ บาร์ ผู้นำกองทัพอากาศ กล่าว
    ตามด้วยอิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของประเทศ ที่ประกาศว่าเตหะรานจะ “มอดไหม้” หากอิหร่านยังคงโจมตีพื้นที่ในเมืองด้วยขีปนาวุธต่อไป
    https://www.facebook.com/share/p/1UpcharNDR/

    PSX_20250614_223629.jpg
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    สั่งอพยพออกจากสนามบินเบน กูเรียนของอิสราเอลขณะอิหร่านเดินหน้าถล่มต่อเนื่อง!
    https://www.facebook.com/share/p/1FixerFwia/

    PSX_20250614_223820.jpg
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    กลั้นมาเป็นสิบๆ ปี ทำไมครานี้ยิวกล้า "รบเต็มตัว" กับอิหร่าน
    นี่เป็นการศึกที่ฮึกหาญอย่างยิ่ง มันไม่ใช่ "แน่ใจก่อนว่าอิหร่านไม่มีอาวุธนิวเคลียร์" --- แต่คือการลงมือเอง "ให้อิหร่านต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์"
    เป็นการโจมตีที่สุ่มเสี่ยงมากที่สุด เพราะดอกแรกๆ "พลาดไม่ได้" --- ต้องเฉียบคม แยบคาย และกำราบ facility ที่เป็น critical ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านให้เด็ดขาด
    ถ้าดอกแรกๆ นี้สำเร็จ ความมั่นใจของยิวจะล้นปรี่
    ซึ่งผลลัพธ์ คล้ายๆ ว่าจะสำเร็จแม่นมั่นด้วย!
    ฐานนิวเคลียร์ "นาทานซ์" ลงท้ายเสียหายแค่ผิวๆ เพราะ infrastructure จริงๆ อยู่ "ใต้ดิน" ซึ่งการโจมตีของยิวทะลวงไปไม่ถึง
    แต่นั่นไม่สำคัญ
    มีจุดหนึ่งของอิหร่านที่เสียหาย คือ ฐาน "อิสฟาฮาน"
    ซึ่งตรงนี้แหละ ที่เหมือนว่ายิวกุม "อยู่หมัด"!!!
    ต้องอธิบายก่อนว่าไฟฟ้านิวเคลียร์และอาวุธนิวเคลียร์ ใช้ (ไอโซโทปของ) "ยูเรเนียม" ผลิต
    เจาะจงลงไปคือ uranium-235
    ทีนี้ ในธรรมชาติ เมื่อขุดยูเรเนียมขึ้นมา มันประกอบด้วยไอโซโทป uranium-238 แทบทั้งก้อน
    มี uranium-235 ที่ต้องการไม่ถึง 1%
    นั่นจึงต้องเข้าสู่กระบวนการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม (enrichment) ให้ได้ความเข้มข้นของ uranium-235 เพิ่มขึ้น ด้วยการเข้าเครื่องหมุนเหวี่ยง (centrifuge)
    ฐานนิวเคลียร์ หลักๆ คือติดตั้งเครื่องหมุนเหวี่ยงนี้เอง
    ยิวจะทำลายเครื่องหมุนเวียนให้หมดสิ้น นี่เป็นไปได้ยากมาก ยากเกินไป
    แต่ย้อนขั้นตอนไปแรกเริ่ม จะเตรียมเอายูเรเนียมเข้าเครื่องหมุนเหวี่ยง ต้องแปลงสถานะมัน จากของแข็งไปเป็นก๊าซก่อน (uranium hexafluoride)
    ตรงนี้นี่แหละ!
    เครื่องหมุนเหวี่ยงมีอยู่หลายจุด แต่ facility สำหรับแปลงเป็นก๊าซ มีอยู่ที่ "อิสฟาฮาน" แห่งเดียว
    ล่าสุด IAEA ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ยืนยันว่า "อิสฟาฮาน" ถูกโจมตีจริง!
    ราบคาบไม่ราบคาบยังไม่รู้ --- นี้เป็นประเด็นสำคัญ เพราะถ้าราบ ถือว่าภารกิจของยิวลุล่วงเหลือล้น เท่ากับตัดต้นทางของนิวเคลียร์อิหร่านได้
    "นาทานซ์" คล้ายเป็นเป้าลวง
    กล่องดวงใจที่แท้ ที่ต้องการเอาให้หมอบ คือ "อิสฟาฮาน" ต่างหาก
    อิสราเอลเดิมพันเสี่ยงมากๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
    เพราะถ้า "อิสฟาฮาน" ไม่เสียหายถึงขั้นใช้การไม่ได้ นี่คือจบเลยนะ --- เท่ากับว่าอิหร่านจะยังผลิตนิวเคลียร์ได้ต่อเนื่อง
    (*ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเสียหายแค่ไหน)
    และความเสี่ยงที่ต้องแบกรับ แบบตระหนักรู้ทั้งรู้ คือ
    1.) อิหร่านเก็บสต็อกยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะไปบ้างแล้ว ไว้เท่าไหร่
    2.) อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์แล้วหรือไม่
    ข้อแรก หมายความว่า ต่อให้ "อิสฟาฮาน" อัมพาตไปแล้ว ของใหม่ไม่มี แต่ของเก่าส่วนหนึ่งยังมี และเป็นยูเรเนียมที่เข้าเครื่องหมุนเหวี่ยงมาหลายเปลาะแล้วด้วย ทีนี้ก็เอาไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ด้วยการเข้าเครื่องหมุนเหวี่ยงไปเสริมสมรรถนะอีก เพิ่มความเข้มข้นของ uranium-235
    เอาไปผลิตไฟฟ้า ไอโซโทป uranium-235 เข้มข้นไม่ถึง 4% ก็พอ
    ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ต้องถึง 90%
    ซึ่ง IAEA รายงานว่าอิหร่านมี 2% อยู่ 2,221 กิโลกรัม , มี 5% อยู่ 5,509 กิโลกรัม , มี 20% อยู่ 275 กิโลกรัม , มี 60% อยู่ 409 กิโลกรัม
    คำนวณแล้ว ถ้าใช้เวลา 2 วันครึ่ง อิหร่านผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ 1 ลูก
    หากให้เวลา 5 เดือน จะได้ 22 ลูก
    แต่มันจะจบแค่นี้ไง ไม่มีเพิ่มได้ไปกว่านี้อีก
    (*ตัวแปรจะอยู่ที่ "อิสฟาฮาน" เสียหายแค่ไหน ซ่อมได้ไม่ได้ ใช้เวลาซ่อมเท่าไหร่)
    (***อีกประเด็น คือ อิหร่านมี 90% หรือไม่ มีเท่าไหร่ ที่ IAEA ไม่อาจรู้ได้)
    ยิวรับความเสี่ยงข้อนี้ และเสี่ยงแต่ยังคงต้องขอลอง
    เพราะย้ำอีกครั้งว่า หยุด "อิสฟาฮาน" ได้ ก็จำกัดจำนวนนิวเคลียร์ที่จะเพิ่มในอนาคตได้
    ข้อสอง อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่
    นี่คือไม่ใช่มียูเรเนียมเข้มข้นกี่ % ปริมาณกี่มากน้อย แต่คือยูเรเนียม 90% ที่ผลิตออกมาเป็นอาวุธไปแล้ว!
    ... ซึ่งอิหร่านปฏิเสธว่า "ไม่มี" มาตลอด
    ถ้าสมมติว่ามีซุกไว้ จะมากแค่ไหน (ขึ้นกับการประเมินของหน่วยข่าวกรองของยิวแล้ว)
    ซึ่งก็ต้องกลับไปย้ำจุดเดิม ว่ามีแค่ไหน มันก็จำกัด และเพิ่มไม่ได้ (ถ้ายิวทำให้ "อิสฟาฮาน" เดินต่อไม่ได้จริง)
    (*****ยังมีความเสี่ยงเหนือกว่านั้นอีก ถ้าอิหร่านไม่มี แต่หยิบยืมมาจากพันธมิตรล่ะ? ซึ่งยิวอาจจะหยั่งแล้วว่าคงไม่ให้กันง่ายๆ กระมัง มิฉะนั้น คือเข้าสู่สงครามโลกได้เลย)
    ปฏิบัติการ "สิงโตผงาด" Rising Lion ของยิวจึงคือ ตัดนิวเคลียร์แต่ต้นน้ำ
    ซึ่งดอกแรกๆ จำเป็นต้องสำเร็จเลย
    ถ้าไม่ ดอกที่ติดตามมาก็ต้องมิให้โงหัว ต้องเก็บงานให้รวบรัดที่สุดโดยฉับพลัน
    เพราะไม่งั้น ตอนนี้อิหร่านก็เปิดปฏิบัติการ "คำมั่นสัญญา ภาค 3" True Promise III แล้ว ตั้งตัวได้แล้ว จะกระทำการใดล้วนยิ่งไม่ง่าย
    คำถามคือสรุป "อิสฟาฮาน" เสียหายแค่ไหน เละไปแล้วหรือยัง
    ตรงนี้ชี้ชะตาศึกหลังจากนี้เลย (รวมถึงกำหนดการเคลื่อนไหวถัดจากนี้ของยิวด้วย เพราะถ้า "อิสฟาฮาน" ยังวิ่งต่อได้ ยิวอาจบุ่มบ่ามอีกไม่ได้)
    https://www.bloomberg.com/news/arti...tanz-shows-no-sign-of-breach-on-israel-strike

    FB_IMG_1749916183961.jpg FB_IMG_1749916191904.jpg FB_IMG_1749916196237.jpg FB_IMG_1749916226843.jpg

    https://www.facebook.com/share/1ETdD3pt4w/
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    อะ อะ อ้าววว!!!
    "อิสฟาฮาน" เสียหายไม่มาก แบบนี้ยิวยุ่งละ แผนแรกไม่เข้าเป้า ต้องรีบเดินแผนสองเพื่อปิดจ๊อบให้เร็วที่สุด ติดตามผลงาน ไปเก็บ "อิสฟาฮาน" ให้จบๆ ไปโดยด่วน ไม่งั้นเท่ากับเกมพลิก ต้องโรมรันต่อไป โดยที่อิหร่านยังผลิตนิวเคลียร์ต่อได้ --- แสนยานุภาพนิวเคลียร์ของอิหร่านยังไม่ถูก "ตัดตอน" ตามแผนที่วางไว้ ยุ่งเลย

    FB_IMG_1749916324225.jpg
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    อิหร่านเตรียมตอบโต้อิสราเอลด้วย 5 ยุทธวิธีเด็ดขาด! จากโดรน-ขีปนาวุธ ไปถึงการยกระดับนิวเคลียร์ ท่ามกลางคำเตือนจากอายาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุด "อิสราเอลจะเผชิญการลงโทษอย่างรุนแรง"
    Newsweek รายงานว่า ความเสี่ยงสงครามตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น หลังอิหร่านเริ่มส่งโดรนโจมตีอิสราเอลในการตอบโต้เบื้องต้นต่อการโจมตีหลายระลอกที่มุ่งเป้าไปยังกองกำลังติดอาวุธและโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ด้านผู้นำสูงสุดอิหร่าน อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ประกาศเด็ดขาดว่าอิสราเอลจะต้องเผชิญกับ "การลงโทษอย่างรุนแรง"

    ฝ่ายอิสราเอลได้ยกระดับความพร้อมของกองกำลังและประกาศ "ภาวะฉุกเฉินพิเศษ" พร้อมออกคำเตือนให้พลเรือนเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระบุว่า อิหร่านมีทางเลือกในการตอบโต้ที่ได้เตรียมการไว้แล้ว 5 ประการ ได้แก่

    1. การโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธ ซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้ว อิหร่านครอบครองขีปนาวุธพิสัยไกลหลายพันลูกและกองทัพโดรนที่กำลังขยายกำลังเพิ่มขึ้น แม้อิสราเอลจะพยายามโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านขีปนาวุธ แต่รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่านยืนยันว่าได้ฟื้นฟูและเสริมสร้างระบบป้องกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นแล้ว

    2. การใช้กองกำลังตัวแทน ผ่านเครือข่ายที่ประกอบด้วยกลุ่มฮูตีในเยเมน กองกำลังติดอาวุธในอิรัก กลุ่มปาเลสไตน์ และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการโจมตีด้วยจรวด การก่อวินาศกรรม และปฏิบัติการลับ แม้ขีดความสามารถของฮิซบอลเลาะห์จะลดลงจากปฏิบัติการของอิสราเอลและมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

    3. การปิดกั้นการขนส่งน้ำมันโลก โดยขัดขวางการเดินเรือในช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่มีการขนส่งน้ำมันของโลกเกือบร้อยละ 20 ในแต่ละวัน กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) พร้อมใช้ทุ่นระเบิดทางทะเล ขีปนาวุธ เรือโจมตีความเร็วสูง และเรือดำน้ำในการคุกคามหรือปิดกั้นช่องแคบชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

    4. สงครามไซเบอร์ ผ่านปฏิบัติการโดยสถาบัน Mabna ที่เชื่อมโยงกับ IRGC ซึ่งได้มุ่งเป้าโจมตีสถาบันการเงิน ระบบสาธารณูปโภค และเครือข่ายทางทหารของสหรัฐฯ และอิสราเอล ล่าสุดอิหร่านอ้างว่าได้ครอบครองเอกสารลับของอิสราเอลหลายพันฉบับ ซึ่งมีรายงานว่าบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิสราเอล

    5. การยกระดับด้านนิวเคลียร์ แม้อิหร่านจะยืนยันว่าไม่ได้มุ่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่เจ้าหน้าที่ได้เตือนว่าแรงกดดันหรือภัยคุกคามจากภายนอกอาจกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวไปสู่การใช้ยูเรเนียมเป็นอาวุธ ที่ปรึกษาอาวุโสของผู้นำสูงสุดระบุว่า หากมีการนำมาตรการคว่ำบาตรกลับมาใช้อีกครั้ง อิหร่านอาจยกเลิกข้อจำกัดโดยสมัครใจและเพิ่มการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้ถึงระดับที่สามารถใช้ผลิตอาวุธได้

    นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศประเมินว่า การตอบโต้ของอิหร่านในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะรุนแรงกว่าในอดีต โดยอาจเป็นการผสมผสานยุทธวิธีหลายรูปแบบจากทั้ง 5 ทางเลือก ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางและเศรษฐกิจโลก #imctnews รายงาน
    https://www.facebook.com/share/16QkQUKRXD/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,220
    ค่าพลัง:
    +97,152
    สหรัฐฯ เสริมแนวป้องกันให้อิสราเอล! ส่งเรือพิฆาต 2 ลำเข้าใกล้อิสราเอล เสริมระบบป้องกันขีปนาวุธรับมืออิหร่าน หลังปฏิบัติการทางอากาศเมื่อวันศุกร์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งถอนกำลังกองเรือบรรทุกเครื่องบิน "แฮร์รี ทรูแมน" ออกไป สะท้อนความกังวลภัยคุกคามขีปนาวุธและความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงในภูมิภาค
    POLITICO EU รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กำลังเร่งเคลื่อนย้ายเรือพิฆาต 2 ลำเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เพื่อเสริมกำลังทางทะเลใกล้อิสราเอล ขณะที่ความตึงเครียดในภูมิภาคพุ่งสูงหลังจากอิสราเอลดำเนินปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารของอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าเตหะรานอาจตอบโต้ด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธ

    เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ สองรายซึ่งขอไม่เปิดเผยตัวตน เปิดเผยว่าเรือพิฆาตทั้งสองลำซึ่งติดตั้งระบบป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธร่อนขั้นสูง ได้ประจำการอยู่ในภูมิภาคอยู่แล้วและกำลังได้รับคำสั่งให้ปรับเปลี่ยนเส้นทางใหม่ การเคลื่อนย้ายเรือรบครั้งนี้มีจุดประสงค์ทั้งเพื่อเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง และช่วยเสริมขีดความสามารถของอิสราเอลในการต้านทานการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากอิหร่าน

    ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เรือรบของสหรัฐฯ เคยแสดงบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธร่อนขนาดใหญ่จากอิหร่านที่มุ่งเป้าสู่อิสราเอล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของกำลังทางทะเลในการป้องกันภัยคุกคามจากขีปนาวุธในภูมิภาคนี้

    นอกจากเรือพิฆาตแล้ว กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังได้เคลื่อนย้ายระบบอาวุธป้องกันขีปนาวุธชั้นสูงเข้าสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติการทิ้งระเบิดที่มุ่งเป้าต่อกลุ่มกบฏฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน การเสริมกำลังดังกล่าวประกอบด้วยระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออตอย่างน้อย 2 ชุดที่นำมาจากเอเชีย และระบบป้องกันภัยทางอากาศและขีปนาวุธในระดับความสูงขั้นสุดท้าย (Terminal High Altitude Area Defense: THAAD) 1 ชุด ซึ่งทั้งหมดยังคงประจำการอยู่ในพื้นที่

    ข้อมูลที่น่าสนใจคือ แม้จะมีการเสริมกำลังด้วยเรือพิฆาตและระบบป้องกันขีปนาวุธเพิ่มเติม แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลดกำลังทางเรือบางส่วนลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยกองเรือโจมตีนำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินแฮร์รี เอส. ทรูแมน ได้ถูกสั่งให้เดินทางกลับฐานที่รัฐเวอร์จิเนีย อย่างไรก็ตาม กองเรือโจมตีนำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินคาร์ล วินสัน ยังคงปฏิบัติการอยู่ในทะเลอาหรับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้

    ความเคลื่อนไหวทางทหารครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงกังวลของวอชิงตันต่อสถานการณ์ที่กำลังทวีความรุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง และความมุ่งมั่นในการปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตนเองและพันธมิตรอย่างอิสราเอล ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างเทลอาวีฟและเตหะรานยังคงอยู่ในระดับที่น่ากังวล #imctnews รายงาน

    https://www.facebook.com/share/p/1AycwGgTGr/
     

แชร์หน้านี้

Loading...