เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,784
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1441-0ba1.jpg

    30 ตุลาคม วันมรณภาพ วันนี้ ลูกทำบุญใส่บาตร ทำบุญตักบาตรเทโว ถวายหลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ ขอปราถนาพระนิพพานเป็นที่พึ่ง และที่ไป สุดท้าย ในชีวิต
     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    145135074_1827266300783234_149950801856489237_n.jpg
    พระโสดาบันมีกำลัง 7 ช้างสาร


    ท่านเจ้าคุณฯ : ด็อกเตอร์ สมัยนี้พระอริยเจ้าที่เป็นพระโสดาบันนี่จะมีแรงอย่างสมัยพุทธกาลหรือเปล่าก็ไม่รู้ จะให้ไปเขาใหญ่ดูสักหน่อย เพราะไอ้งาเกมันเก่งเหลือเกิน (หัวเราะ)

    ดร.ปริญญา : เขาว่าหายไปแล้วนี่ครับตัวนั้น หายไป 2-3 ปีแล้ว หายสาบสูญไปไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร

    ท่านเจ้าคุณฯ : เขาเอางาออกไปแล้วมั้ง

    ดร.ปริญญา : เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อนะครับเรื่องนี้ว่าองค์อื่นๆนี่ก็มีแรงเยอะกันทั้งนั้นนี่ พระเจ้าปเสนทิโกศลมีแรงเยอะกับเขาด้วยหรือเปล่า

    ท่านเจ้าคุณฯ : ตอนนั้นยังไม่เป็นพระโสดาบันนี่

    ดร. ปริญญา : ไม่จำเป็นต้องเป็นครับหลวงพี่

    ท่านเจ้าคุณฯ : อ้อ เหรอ

    ดร.ปริญญา : ครับ เป็นบุคคลพิเศษที่เกิดมาก็มีกำลัง 7 ช้างสาร

    ท่านเจ้าคุณฯ : คือสมัยที่พระอานนท์ใช่ไหมที่ว่ายืนขวางช้างอะไรน่ะ

    ดร. ปริญญา : ช้างนาฬาคีรี ยกมือทิ่มช้างตูดกระแทกเลย

    ท่านเจ้าคุณฯ : อยากจะทดลอง ใครเป็นพระโสดาบันหรือไม่ จะให้ลองไปเขาใหญ่ดู (หัวเราะ)

    ดร.ปริญญา : มีพระอานนท์ มีท่านวิสาขาและก็มีนายบุญทาสีที่เป็นคนใช้ของท่านวิสาขา
    ได้กราบเรียนถามหลวงพ่อท่าน ท่านบอกว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลก็แรงเยอะ (กำลัง) 7 ช้างสารเหมือนกัน ท่านพันธุลเสนาบดีก็แรงเยอะ ที่ฟันไผ่ 500 ลำไม่ให้ได้ยินเสียง
    อย่างเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ที่ท่านวิสาขาไปลืมทิ้งไว้ที่พระเชตวันนั่น พระองค์อื่นยกไม่ขึ้นต้องให้ท่านพระอานนท์ยกไปเก็บ

    ท่านเจ้าคุณฯ : อ๋อ มีแรงช้างสารนี่

    ดร.ปริญญา : ใช่ครับ

    ท่านเจ้าคุณฯ : นางวิสาขาก็มีด้วยสิ อย่างนี้

    ดร.ปริญญา : ใช่ครับ เสร็จแล้ว พอ(ท่านวิสาขา)ลืม อ้าวนึกขึ้นมาได้ก็ให้นายบุญทาสีไปเอากลับ เพราะว่าคนอื่นไปเอากลับก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน

    ท่านเจ้าคุณฯ : แรงไม่พอ

    ดร.ปริญญา : แรงไม่พอ แต่บอกว่าถ้าพระจับแล้วก็ถวายพระเลยนะ

    ท่านเจ้าคุณฯ : (ขอแถมหน่อยนะ) สมัยก่อนนั่นเคยมีเล่าในหนังสืออะไรไม่รู้ พระเจ้าปเสนทิโกศลไปฟังเทศน์พระพุทธเจ้า พวกบริวารไปฟังก็สำเร็จพระโสดาบัน พระสกิทาคาฯ อนาคาฯ อรหันต์กันหมด แต่พระเจ้าปเสนทิโกศลไปฟังเหมือนกัน ครอก หลับ ฟังไม่รู้เรื่อง หลับ แต่ไปทุกวันนะ เพราะเชื้อปรารถนาพุทธภูมินี่แหละ


    (จากคอลัมภ์ "ท่านเจ้าคุณฯสนทนา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 481 เดือนเมษายน 2564 หน้า 20-21)

    167678190_1874546932721837_4699738019245131192_n.jpg

    ล้างห้องน้ำที่วัดมีลาภ

    ท่านเจ้าคุณฯ ทักคนที่มาล้างห้องน้ำที่วัดเป็นประจำ ไปขัดห้องน้ำเมื่อไหร่เจ้านี้ ไปไหม เห็นว่าจะไปขัดห้องน้ำให้ ต้องไปก่อนงานนะไปธุดงค์เลย คนนี้เขาศรัทธาไปล้างส้วมให้ ขึ้นรถเมล์แล้วก็กลับ

    ยกทรง : คณะอะไรหรือครับ แหม น่าสนับสนุน

    ท่านเจ้าคุณฯ : อยู่ดอนเมืองนี่

    ยกทรง : ไอ้ที่ว่าล้างส้วมถูกหวยรึเปล่า คณะนี้หรือเปล่า

    ท่านเจ้าคุณฯ : คนนี้ถูกหวยหรือเปล่าไม่เห็นบอก แต่มีคณะหนึ่งล้างส้วม 3 ห้องถูกหวย

    โยม : วันก่อนหลวงพี่บอกว่า ล้างส้วม 3 ห้องยังถูกเลย ล้างส้วม 48 ห้อง แฟนไปเมืองจีนโทรศัพท์จากเมืองจีนกลับมาถามว่า ถูกหวยหรือเปล่า บอกไม่ได้ซื้อ ล้าง48 ห้องออก 48 จริงๆ ไม่ได้เล่นหวย เพราะไม่ชอบค่ะ

    ยกทรง : ทีหลังถ้าล้างเท่าไหร่กรุณาไปหายกทรงด้วยนะ ขอยอดๆ (หัวเราะ) มหัศจรรย์ไหมนี่

    ท่านเจ้าคุณฯ : มหัศจรรย์

    ยกทรง : ขนาดส้วมยังให้ลาภได้นะ

    ท่านเจ้าคุณฯ : ทำงานให้ความสุขกับคนอื่นนะ ขอให้มีความสุขนะ


    (จากคอลัมภ์ "ท่านเจ้าคุณฯสนทนา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 479 เดือนกุมภาพันธ์ 2564 หน้า 26)
     
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    135866135_1809143759262155_8585919525629766585_n.jpg

    ยำท่านย่า


    "ตอนที่หลวงพี่มาอยู่กับหลวงพ่อใหม่ๆ หลวงพ่อผอมหรืออ้วนครับ"

    ยังผอม หลวงพ่อเพิ่งอ้วนเมื่อไม่กี่ปีนี้ ที่อ้วนนี้เพราะว่าท่านแม่ศรีหรือใครให้กินมันหมูต้ม มัน 3 ชั้นจิ้มน้ำปลา สั่งให้กินยังไงก็ต้องกินยังงั้น

    เย็นๆท่านจะคุยเรื่องอาหารเหมือนกัน วันนี้จะกินอะไร ท่านย่าก็ดี แม่ศรีก็ดี จะสั่งอาหารตอนจะฉันยา พรุ่งนี้ต้มหัวปลีนะ ทำนั่นทำนี่

    มีอยู่วันหนึ่ง สั่งอาหารชื่อ "ยำท่านย่า"

    ท่านย่าสั่งบอกว่า เอาเห็ดฟางมาต้มนึ่งให้สุก แล้วก็เอาเนื้อมาย่าง ตำโขลกพริกใส่มะนาว น้ำปลา น้ำตาลหน่อย พอโขลกพริกแล้วเอามะนาวบีบ ให้รสจัด เอาเห็ดฟางเนื้อย่างหั่นเป็นชิ้นๆใหญ่ๆ เอาแตงกวาลูกขาวๆหั่นซอยเคล้ากันให้ดีรสจะแซบ เราได้ยินแล้วกลืนน้ำลายเอื้อก

    หลวงพ่อหันมาเห็น ไอ้นี่มันน้ำลายไหลแล้วนี่

    "ที่ทำนี่ทำถวายหลวงพ่อใช่ไหมครับ"

    ถวายหลวงพ่อ ตอนหลังเขาก็ทำถวายเรา

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 158 เมษายน 2537 หน้า 96)


    135792105_1803755389800992_3220020631090392453_n.jpg ยำท่านย่า.....jpg
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    1399003_708475955829770_1868151230_o.jpg



    1399003_708475955829770.jpg
     
  5. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,130
    สวัสดีครับพี่วรรณ
    ผมขอรบกวนสอบถามพระสมเด็จองค์ปฐมรุ่น 5.2 ที่มีจารหมึกสีแดง ผมเห็นบางองค์มีเส้นเกศา ด้วยครับ เลยอยากสอบถามพี่วรรณว่า เส้นเกศาที่บรรจุอยู่ใต้องค์นี้ เป็นเส้นเกศาของใครน่ะครับ
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    IMG_20200412_142301.jpg
    กรอบ 3 in 1



    ของหลวงพ่อพระราชพรหมยานครับ บรรจุ 1 องค์ 1 เส้น ครับ
     
  7. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,130
    อ้อเป็นมีที่มาแบบนี้เอง มิน่าผมถึงเห็นเส้นเกศาอยู่ 1 เส้นใต้ฐานสมเด็จองค์กปฐมรุ่น 5.2 ที่จารหมึกสีแดงน่ะครับ สาธุ สาธุ

    upload_2023-12-26_16-17-30-png.png

    ผมอ่านหนังสือสมบัติพ่อให้ ของวัดท่าซุง เลยเพิ่งทราบว่า ผ้ายันต์เกราะเพชรหลวงปู่ปาน รุ่น 2 หมึกสีแดง นั้นจะมี 2 พิมพ์ คือพิมพ์ยันใหญ่กับยันต์เล็ก แต่ในหนังสือเห็นลงไว้แค่ผื่นเดียวน่ะครับ เลยไม่ทราบว่าทั้งสองพิมพ์นั้น จะมีขนาดผ้าเท่ากันเลยหรือไม่น่ะครั ผมขอรบกวนสอบถามพี่วรรณอีกครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741

    messageImage_1703635078965.jpg


    ขอตอบเป็นภาพด้านบนนี้นะครับ
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    messageImage_1703634306445.jpg


    ไปวัดท่าซุงแล้วก็อย่าพลาดไปหมุนระฆังหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์สะเดาะเคราะห์กันนะครับ

    messageImage_1703634320109.jpg messageImage_1703634337566.jpg

    messageImage_1703636188958.jpg messageImage_1703636205707.jpg messageImage_1703636218736.jpg messageImage_1703636232931.jpg messageImage_1703636250946.jpg messageImage_1703636262951.jpg messageImage_1703636274721.jpg messageImage_1703636288857.jpg messageImage_1703636465509.jpg
     
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    IMG_20180211_07.jpg
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    E1.jpg
    หลวงพ่อบอกว่า ปีใหม่นี้ขอให้อธิษฐานไว้เสมอๆว่า "ขอคำว่าไม่มี จงอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า" แล้วจะมีผลจริงๆ


    ก่อนวันขึ้นปีใหม่ หลวงพ่อยังแนะนำให้อธิษฐานอย่างนี้เลยว่า "ขอความซวยจงหายไปกับปีเก่า และความรวย ความโชคดี จงมากับปีใหม่"

    ที่มาของคำอธิษฐานเป็นอย่างนี้.....


    คำอธิษฐานปีใหม่


    ผู้ถาม : ที่หลวงพ่อบอกว่า ให้นั่งหน้าพระพุทธรูปแล้วอธิษฐานว่า ความรวยจงปรากฏ มันเป็นอย่างไรครับ ?


    หลวงพ่อ : ล้อ "เจ้าขวัญ" มันว่า ถ้าอยากรวยก็เอาแบบนี้ซิ 5 ทุ่ม 45 นาทีใกล้ๆจะ 6 ทุ่มใช่ไหมเล่า ก็ไปนั่งหน้าพระพุทธรูป บูชาพระ นึกถึงพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ เทวดา และพรหมทั้งหมด ครูบาอาจารย์ ผู้มีคุณทั้งหมด บูชาท่านขอลาภ

    ''ขอให้ความซวยทั้งหมด ความยากจน จงไปกับปีเก่า แล้วความรวย ความดี ความโชคดี จงมากับปีใหม่''

    หลังจากนั้นก็ภาวนา "คาถาเงินล้าน" เรื่อยๆไป พอนาฬิกาตีเป๊งขึ้นปีใหม่

    "ขอให้ความซวย จงหายไปพร้อมกับปีเก่า ฉันต้องการความรวย จากปีใหม่"

    ผู้ถาม : อ๋อ....หลวงพ่อพูดกับ "ขวัญ" เหรอ ?

    หลวงพ่อ : ใช่

    ผู้ถาม : แล้ว ลูกๆหลานๆที่ไม่ใช่ขวัญ จะได้ไหมครับ ?

    หลวงพ่อ : ก็มีขวัญนี่ ลองก้มหัวดู คนไหนไม่มีขวัญทำไม่ได้ ความจริงไม่ต้องรอดึกก็ได้ ถึงวัด ถึงบ้าน อาบน้ำ สวดมนต์ไหว้พระ ก็อธิษฐานก่อนนอนเลยก็ได้ ไม่ต้องรอถึงเวลานั้น



    **********************************************************************************************************************



    คำอธิษฐานได้ผล


    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2531 นี้ ลูกได้ทำตามคำแนะนำของหลวงพ่อที่อธิษฐานว่า

    "ความซวยจงหมดไป พร้อมกับปีเก่า และขอความร่ำรวย จงมาพร้อมกับปีใหม่ 2532 นี้"


    ปรากฏว่าวันนี้การค้าของลูกคล่องตัว ลูกอยู่ในโอวาท

    (แหม..นี่แกคงจะดีใจว่า ลูกอยู่ในโอวาทนะ)

    หากลูกจะอธิษฐานอย่างนี้ทุกคืนๆไป จะผิดกฏที่เทวดาเขาสงเคราะห์อยู่ในเวลานี้หรือเปล่าเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : ดีมาก ถ้าทำตามนั้นนะ จะดีมากเลย จะมีการทรงตัว เงินจะเหลือใช้ เอาทุกวันดีกว่า ไม่ใช่ทำวันเดียว

    ผู้ถาม : อ๋อ..ยิ่งว่าบ่อยๆ ยิ่งดีหรือครับ

    หลวงพ่อ : ใช่ ทำเป็นสมาธิแบบนั้น ก็ไม่ต้องใช้เวลาใกล้ 2 ยาม เวลาไหนก็ได้ที่เราเห็นสมควร

    ที่ว่าใกล้ 2 ยาม เพราะปีเก่าจะไป ปีใหม่จะมา เวลานี้เป็นเวลาของปีใหม่ ก็ใช้ได้ทุกเวลาตามที่ชอบใจ นั่นดีมากนะ ต่อไปจะรวยใหญ่ เมื่อทุกคนรวยใหญ่ ฉันก็สบายใจ สร้างวัดอีก 10 วัด (หัวเราะ)

    ผู้ถาม : นี่ก็เป็นผลดีแก่แม่บ้านนะ มีผัวอยู่ในโอวาท เอ..ถ้าผู้ชายว่าบ้าง ลูกเมียจะอยู่ในโอวาท หรือเปล่าครับ ?

    หลวงพ่อ : เราอยู่ในโอวาทเขา เขาก็อยู่ในโอวาทเรา

    "วันทโก ปฏิวันทนัง" ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ

    "ปูชา ลภเตปูชัง" ผู้บูชาย่อมได้รับการบูชาตอบ ในเมื่อเราอยู่ในโอวาทเขา เขาก็อยู่ในโอวาทเรา


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 96 เดือนกุมภาพันธ์ 2532 หน้า 6-7)
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    125762256.jpg

    พระสำคัญในวัดท่าซุง


    ก่อนจะมาก็ไปฟังเทปเก่าๆ ท่านบอกว่าคนรู้จักไหว้เป็นละก็ ไหว้เป็นเราก็ไม่รู้ไหว้ยังไงเหมือนกัน ก็ไหว้ธรรมดาพระที่มีลาภมากพระที่มีความสำคัญนี่

    ท่านเจ้าคุณฯถามว่า ใครอยากมีลาภมากไหม อยากใช่ไหม ก่อนมาได้ฟังเทปของหลวงพ่อ

    ท่านบอกให้ไปไหว้

    "พระหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา" จุดหนึ่งนะ แล้ว
    "พระประธานที่วิหาร 100 เมตร" จุดหนึ่ง
    "พระปัจเจกฯ" จุดหนึ่ง แล้ว
    "พระประธาน 12 ไร่" อีกจุดหนึ่ง

    เป็นพระที่มีความสำคัญและมีลาภมาก ถ้าใครไปไหว้ดีๆแล้วจะมีลาภมาก (ที่วัดท่าซุง) ถึงปีเวลาเข้าพรรษาทีจะทำกันที ทำใหญ่

    หลวงพ่อเคยบอกไว้ บอกว่า "นันต์ แกไปไหว้พระผู้ใหญ่หรือยัง"

    บอก ไปแล้วครับ จัดพระวิรัชไป

    "ไปที่ไหนล่ะ"

    ไปในจังหวัดครับ

    (หลวงพ่อ) บอก ระยำ พระ(ผู้ใหญ่)ในวัด แกไม่ได้ไปไหว้เลยหรือ เดินผ่านไปผ่านมา

    ท่านก็บอกว่า ที่แกมีกินอยู่เพราะพระที่มีความสำคัญในวัดมีอยู่ อย่าง
    "หลวงพ่อขนมจีน" ก็ดี "หลวงปู่ใหญ่" ก็ดี "หลวงพ่อศุข" ก็ดี "หลวงพ่อปาน" ก็ดี

    และ "พระที่ 12 ไร่" ก็ดี "พระหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา"ก็ดี "พระ(ประธาน) ที่วิหาร 100 เมตร"ก็ดี

    พระพวกนี้เลี้ยงแกอยู่ทั้งนั้นนี่ แกเดินไปเดินมาแกไม่รู้จักพระผู้ใหญ่อีกหรือ

    ไอ้เรานึกว่า ถึงปีต้องไปไหว้เจ้าคณะจังหวัด ใช่ไหม เพราะว่าเป็นพระผู้ใหญ่ของเรา ใหญ่ไม่จริงอันนั้น ที่วัดเราใหญ่จริง ความหยาบมันผิดกัน เรามันหยาบขี้ช้าง ของท่านลึกซึ้งนี่

    เพราะฉะนั้นเวลาเข้าพรรษาทีหนึ่ง รุ่งขึ้นจะเอาธูปแพเทียนแพไปไหว้ 15 แห่งในวัด ที่ท่านเลี้ยงดูมา

    (สมัยนั้น 15 แห่ง แต่ปัจจุบันนี้ 19 แห่งแล้ว ปีนี้มีหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์เพิ่มอีก 1 แห่ง)

    มันก็ตรงกับที่ท่านว่า ที่ท่านบอกกับฉันว่า ลูกแก้วนี่เวลาข้าตายจะให้ใครหว่า ตอนหลังที่เล่าให้ฟังว่าพระอินทร์จะเอากลับไป จะกลับไปเก็บไว้ที่ดาวดึงส์

    แล้วท่านก็บอกว่าวัดของเราพระท่านทำเรียบร้อยหมดแล้วนี่ ดูแลหมดแล้วนี่ เทวดาก็เป็นพันองค์ ที่ดูแลอยู่ช่วยเหลือวัดอยู่ คือศาลพระภูมิวัดเราใหญ่ที่สุดในโลก



    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 471 เดือนมิถุนายน 2563 หน้า 13-14)
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,784
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1704061873007.jpg 1704044033138.jpg
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    ทดแทนพระคุณหลวงพ่อ


    คุณโยมเหลี่ยม (หรือ สาวน้อยเมืองนนท์) มีปัญหาถามว่า "การจะทดแทนพระคุณหลวงพ่อ ควรจะทำอย่างไร จะทำแบบไหน จึงจะทำให้ท่านชื่นใจเจ้าคะ ?"

    ดร.ปริญญา ตอบให้อย่างรวดเร็วว่า "ไปนิพพานให้ได้ชาตินี้ อย่างอื่นใช้ไม่ได้ ใช้ไม่หมด

    มีทางเดียวที่ใช้ให้ได้หมด คือ ตามท่านไปนิพพานให้ได้ชาตินี้ ละชั่วเสียให้หมด"

    แต่ท่านเจ้าคุณฯ ตอบว่า "ทำได้ ถ้าเป็นความกตัญญู เหมือนปฏิบัติบูชานี่ เหมือนเราเป็นพ่อเป็นแม่คนนี่ ถ้าลูกเราปฏิบัติตามคำสั่งสอนของเรา เราก็สบายใจนี่ ท่านถือว่าเป็นพ่อเป็นแม่เรานี่

    เราปฏิบัติตามท่าน ตามที่ท่านสอนมาแล้วบอกให้เราเป็นคนดีนี่ ท่านก็มีความสบายใจว่า ท่านไม่เหนื่อยเปล่าที่ทรมานร่างกาย ป่วยก็ดี เจ็บไข้กินข้าวไม่ได้ กินอะไรไม่ได้ ทรมานร่างกายอยู่ เพราะใครล่ะ

    ถ้าไม่ทนอยู่เพราะเรา ท่านไปตั้งนานแล้ว ไปตั้งแต่ 13 นั่นแล้ว นี่อยู่เพราะพวกเรา ใช่ไหม เราอยู่เรานึกถึงคุณท่านอย่างนี้แหละถึงทำ

    ที่ ดร.ปริญญา ตอบเมื่อกี้นี้ถือว่าถูกต้องมากที่สุด จะให้อะไร ให้เงินให้ทองทุกอย่างก็ยังไม่คุ้มเท่า

    แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังบอกว่า "อัญญาสิ วะตะ โภ โกณฑัญโญ" พอท่านโกณฑัญญะเห็นธรรมเท่านั้นเอง (พระพุทธเจ้า) ดีใจ ท่านโกณฑัญญะเห็นธรรมแล้วหนอ ท่านเปล่งออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจเลย เพราะว่าท่านดีใจ นี่การแสวงหาธรรมหาคนพ้นทุกข์นี่มีผลแล้ว คำพูดของท่านมีผลแล้ว

    หลวงพ่อท่านอยู่มาตั้งนานนี่ จะมรณภาพตั้งแต่ ปี 13-14 แล้วนี่ แต่ต้องกลับมา กลับมาก็เพราะพวกเรา มารอพวกเราอยู่ตรงนี้(วัดท่าซุง) ที่ว่าทรมานร่างกายทุกอย่างอยู่

    ฉะนั้น ที่จะตอบแทนท่านได้ดีที่สุดก็คือ ปฏิบัติธรรมให้เป็นพระอริยะเบื้องต้น เบื้องกลาง เบื้องปลาย เบื้องสูงสุด แล้วแต่เราจะทำได้

    อย่างน้อยก็ต้องลดความชั่วทุกอย่างถึงจะชื่อว่าเป็นลูกศิษย์ที่ท่านชื่นใจหน่อย"


    ท่านเจ้าคุณฯ สรุปว่า "อันนี้แหละที่ทดแทนได้ ที่ท่านพอใจ"


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 461 เดือนสิงหาคม 2562 หน้า 18)

    0.00.jpg
     
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    page0001 (5).jpeg
    ใช้สมาธิเล็กน้อยก็ขอหวยได้ (เรื่องจากสมาชิกฯ)


    ในภาวะเศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้หลายคนคงทราบดีว่าค่อนข้างเงียบเหงา การค้าตกต่ำ โดยเฉพาะการค้าของข้าพเจ้าต้องอาศัยนักท่องเที่ยวเป็นหลัก จึงตัดสินใจว่าไหนๆทางโลก เราจะเอาเป็นที่พึ่งแน่นอนอะไรไม่ได้ เราจะขอพึ่งพระดังคำสวดที่

    "พุทธัง สรณัง คัจฉามิ"
    "ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ"
    "สังฆัง สรณัง คัจฉามิ"

    จึงตั้งใจเจริญภาวนา โดยจดจำภาพพระพุทธรูปแก้ว จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็พยายามทำ ทั้งไม่เป็นเวลาคือนึกขึ้นมาได้ก็สำรวมจิต นึกถึงภาพพระ แต่ถ้าลืมก็ปล่อยไปตามเรื่องตามราว และก็มีเวลาปฏิบัติที่แน่นอน พอสวดมนต์เสร็จก็ภาวนาต่อ โดยจำภาพพระพุทธรูปแก้ว ตั้งไว้ตรงไหนก็ได้ แล้วแต่กำลังใจจะเห็นได้ชัด บางครั้งข้าพเจ้าก็เทินไว้บนศีรษะ บางทีก็บนไหล่ บางทีก็กลางอก ฯลฯ


    คำภาวนาก็มีหลายบท แล้วแต่วันไหนจิตพอใจบทไหนทำตามกำลัง ภาวนาไปพอเริ่มหายใจเบาขึ้นสม่ำเสมอขึ้น ใจเริ่มเบา สมองเริ่มโปร่ง ก็ถวายกุศลต่อองค์หลวงพ่อ และถ้ายังไม่ง่วงก็จะภาวนาต่อ แต่ส่วนมากแล้วจะง่วง และเริ่มขี้เกียจ ภาวนาตั้งนานไม่เคยได้ฌานอะไรเลย


    แต่อาศัยว่าเคยได้ฟังหลวงพ่อท่านสอนให้ได้ยินอยู่เสมอว่า การภาวนา ถ้าภาวนาแล้ว
    หลับไปตอนหลับนี้ต้องถึงฌานจึงจะตัดหลับได้ ข้าพเจ้าก็เลยเข้าฌานแบบครอกฟื้ๆๆทุกวัน และจำได้ว่า


    "หลวงพ่อสอนถึงวิธีใช้อภิญญาโดยการอธิษฐานจิต เมื่อเข้าถึงฌาน แล้วถอยมาอุปจารสมาธิ เริ่มอธิษฐานจิต แล้วเข้าฌาน 4 ใหม่ แล้วถอยออกมาจะสำเร็จผลตามต้องการ"


    ข้าพเจ้าก็เลยใช้วิธีภาวนาจนใจสบาย แล้วเริ่มอธิษฐานจิต ขอหวย เสียเลย แต่ขอหนึ่งตัวต่อเทวาหนึ่งองค์ อาจเป็นคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายที่ล่วงลับไปแล้ว


    หลวงพ่อเคยพูดว่า การให้หวยถ้าให้ตัวเดียวไม่ปรับโทษ


    เมื่ออธิษฐานเสร็จก็ภาวนาจนหลับไป พอประมาณตี 3 ตี 4 ท่านก็จะมาบอกเลขให้และยังคอยเตือนให้ด้วยว่ามีโชคมากหรือน้อยและก็จะเป็นจริงตามนั้นทุกอย่าง ทำให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจที่จะปฏิบัติเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะพ่วงกิเลสทางโลกไว้บ้าง ก็พอกล้อมแกล้มทำไป และมีกำลังใจปฏิบัติมากขึ้น


    จะเห็นว่าหลวงพ่อท่านสอน ท่านเล่าอะไร ล้วนแล้วแต่มีคุณประโยชน์ ทั้งทางโลกและทางธรรม สามารถทำได้ทุกคน แม้คนที่แสนจะขี้เกียจอย่างข้าพเจ้าก็ยังมีผลถึงเพียงนี้ และไม่เฉพาะรู้หวยเท่านั้น อยากรู้อะไรไม่ต้องไปหาหมอดู สามารถรู้ได้เช่นกัน


    การใช้มโนมยิทธิของข้าพเจ้าก็ปฏิบัติแบบขี้เกียจ อ่อนหัด แต่ก็พอได้ผล ไม่ถึงกับควบคุมกำลังใจได้อย่างท่านที่ฝึกชำนาญแล้วที่สามารถถามปั๊บตอบปุ๊บ ของข้าพเจ้าต้องอาศัยการอธิษฐานสิ่งที่อยากรู้ก่อนหลับ และพอตื่นนอนใหม่ๆก็จะเริ่มภาวนา นะมะพะธะ จะสามารถเห็น และทราบตามต้องการ เป็นการเห็นเหมือนฝัน ทั้งที่รู้ตัวว่าตื่นอยู่ แต่จะทรงอยู่ไม่นานก็จะหลับไปจริงๆอีก เพราะกำลังใจยังอ่อนอยู่มาก


    หลวงพ่อท่านเมตตาต่อลูกหลานจริงๆ ท่านสอนได้ทุกอุปนิสัย แม้คนไม่เอาถ่านอย่างข้าพเจ้าก็ยังได้ผลถึงเพียงนี้ ไม่มีตรงจุดไหนในคำสอนของหลวงพ่อที่เอาไปปฏิบัติแล้วไม่ได้ผล ท่านมีวิธีการสอนที่ชาญฉลาด สั้น ง่าย แต่ได้ผลมหาศาล


    ใครที่คิดว่าเบื่อโลก เบื่อร่างกาย ลองฝึกมโนมยิทธิแล้วออกแบบเต็มกำลังดู ถ้าท่าน
    สามารถทิ้งร่างกายหยาบนี้ได้โดยไม่กลัว ไม่ตื่นเต้น ไม่ห่วง แสดงว่าท่านจะต้องพบ
    ดีแน่ เป็นการพิสูจน์ และฝึกกำลังใจไม่ให้ติดขันธ์ 5 หรือร่างกายได้อย่างชาญฉลาด
    ที่สุด และเป็นทางไปพระนิพพานได้ง่ายที่สุดอีกด้วย


    ส่วนข้าพเจ้าตามปกติก็รู้สึกเบื่อโลกเบื่อตัวเองนี้มาก แต่ถ้าได้หลุดออกไปทีไร ก็ตกใจแทบตายทุกทีสิน่า


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 138 สิงหาคม 2535 หน้า 89-90)

    dFQRO.jpg
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,784
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1704614834881.jpg 1704613957326.jpg 1704614139485.jpg 1704614681425.jpg 1704615000590.jpg

    วันนี้ ได้ไปทำบุญ กราบหลวงพ่อถวายสังฆทาน หล่อพระ และ ทำบุญต่างๆในวัด กราบหลวงพ่อ มีความสุขใจเป็นที่สุด
     
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741

    298386.jpg


    สติกเกอร์.jpg
     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    ถูกต้อง (1).jpg

    บนพระคำข้าว


    ท่านเจ้าคุณฯ : อันที่จริงที่แก้บน เมื่อตะกี้นี้ด็อกเตอร์ถาม หลวงพ่อท่านให้บนพระคำข้าวนี่แหละ

    พระมหาลาภนี่ที่เขาใช้ได้ผลก็มีอยู่ ตามกำลังที่ท่านจะช่วยได้นะ เพราะว่าพระมหาลาภนี่พระที่เกี่ยวกับค้าขายทำมาหากินโดยเฉพาะเลยนี่

    ยกทรง : มหาลาภรุ่นแรกหรือรุ่นปัจจุบันครับ

    ท่านเจ้าคุณฯ : รุ่นแรก รุ่น 1 รุ่น 2 ใช้ได้ทั้งนั้น ที่หลวงพ่อทำน่ะนะ

    ยกทรง : แล้วรุ่นปัจจุบันล่าสุดนี่ก็...

    ท่านเจ้าคุณฯ : ก็มีเชื้อบ้าง มีเชื้อ บางคนก็ถามว่า เอ๊ะ จะต้องสวดบทไหน

    มีคนจีนที่อุทัยฯ แต่เช้ามาก็จับพระคำข้าว หลวงพ่อช่วยขายให้ขายดีๆ เขาก็พูดแค่นั้น เขาก็ขายก๋วยเตี๋ยวโล๊ะไปหมด ไม่เห็นพูดอะไรมาก จับพระมาก็เรียกหลวงพ่อ

    ยกทรง : คำถามที่ว่าขายของไม่ดีบนบานศาลกล่าวไม่ประสบความสำเร็จน่ะนะ พอฟังท่านพระครูฯบอกแล้ว

    คือว่า ให้อธิษฐานพระคำข้าว ตามที่จะมีประโยชน์เหรอครับ



    ท่านเจ้าคุณฯ : ใช่ เพราะว่าก่อนจะทำพระคำข้าวนี่ ไม่ใช่เหมือนเอาผงอื่นๆมาทำธรรมดา ก็ต้องชิมอาหารที่มีรสอร่อย (ถ้าอร่อยเอาแยกออก) แล้วตากเป็นผง อย่างนี้ 3 เดือน พอตากเป็นผงแล้วก็ทำพิธีอีก

    สมัยหลวงปู่ปานยังมีชีวิตอยู่ท่านเคยทำอยู่ หลวงพ่อท่านก็ไม่เชื่อ อยากจะลองว่า เอ๊ะ ท่านบอกถ้ามีความทุกข์ยากอดอยาก ก็ให้ไปจุดธูปบอกพระมหาลาภองค์นี้

    พอจะอดบ้างเล็กน้อยหลวงพ่อก็ไปลองเลย ไปลองขอท่าน ก็มีเจ้าภาพทางบ้านแพนทำอาหารมาให้หม้อใหญ่เลย

    หลวงพ่อก็บอก เออ เป็นของที่จริง หลวงปู่ปานก็มาตำหนิ ท่านบอกว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆอย่าไปทำอย่างนี้ ต้องให้มันอดซะก่อน นี่แกลองนี่ แสดงว่าปรามาสพระรัตนตรัย

    ปกติหลวงพ่อก็ให้ไว้ทุกอย่างแล้ว คาถาก็ให้ไว้แล้ว พระคำข้าวก็ให้ไว้แล้ว บาตรวิระทะโยเป็นทานบารมีก็ให้ไว้แล้ว

    ท่องคาถาที่จะท่องมีผลจริงๆต้องมีฌาน เป็นฌานนี่ ท่องแค่จบ 2 จบแล้วก็หายไป 20-30 วันจะมาท่องอีกสักทีหนึ่ง อย่างนี้จะหวังจะรวยยาก

    ท่องจนจิตมันขึ้นมาเองในจิต นี่สังเกตดูเขาท่องมีผล ลองคุยกับเขาดูสิ มันจะผุดขึ้นมาในใจเลย ไม่ต้องเตือนภาวนา มันจะนึกอยากภาวนาของมันเองตลอด ตรงนี้ผลจะเกิดเลย รับรองได้ด้วย ถามหลายคนแล้วจะเป็นอย่างนี้

    อย่างจ่าปัญญา (เล่าให้ฟัง) ว่า ภาวนาจบมันก็อยากจะรวยเท่านั้น อีก 7 วัน 8 วันเจออีกสักจบ มันก็ โอ้โฮ ไม่เห็นขลังสักที

    มันต้องเป็นฌานถึงจะมีผล ท่องจนขึ้นใจอย่างนี้ ต้องขึ้นใจ สังเกตดูที่เขาทำมีผลลองไปคุยกับเขาดู เขาบอก โอ้โฮ (ภาวนา) มันขึ้นมาเอง ใจมันภาวนาขึ้นมาเองเลย ไม่ต้องเตือน

    ยกทรง : อย่างนี้ถึงจะมีผล

    ท่านเจ้าคุณฯ : ใช่


    (จากคอลัมภ์ "ท่านเจ้าคุณฯสนทนา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 479 เดือนกุมภาพันธ์ 2564 หน้า 29-30)


    _paragraph__11_220.jpg
    รักหลวงพ่อมากกว่ารักพระพุทธเจ้า


    ท่านเจ้าคุณบอกว่า มีคนเขาบอกว่าเขารักหลวงพ่อมากกว่าพระพุทธเจ้า อย่างนี้จะว่าอย่างไร

    เราก็บอกว่า ที่เป็นอย่างนี้เราไม่ได้เสแสร้งรักนี่ เราพูดด้วยความจริงใจ เพราะว่าเราติดตามหลวงพ่อมามากกว่า ความผูกพันด้านจิตใจมันมาก มันห้ามใจไม่ได้ ติดตามกันมานาน อธิษฐานกันมานาน

    ท่านเจ้าคุณฯบอกว่า ด็อกเตอร์มีอะไรคุยบ้าง

    ดร.ปริญญาบอกว่า มีครั้งหนึ่งหลวงพ่อก็ชวน หลวงพ่อสิม (วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่) ไปเยี่ยมทหารที่เมืองน่าน เมืองเชียงรายโน่น ก็นั่งรถไปด้วยกัน แล้วผมก็นั่งอยู่ฝั่งขวามือ

    หลวงพ่อสิมถามหลวงพ่อก่อน หลวงพ่อสิมถามหลวงพ่อว่า ทำอย่างไรถึงจะให้เห็นชัดๆ ล่ะครับ

    หลวงพ่อบอก ก็ปล่อยวางให้มันหมดสิ หลวงพ่อว่าอย่างนั้น

    ผมก็เลยถามหลวงพ่อว่า หลวงพ่อครับหลวงพ่อสิมน่ะเป็นใคร

    หลวงพ่อบอกว่า ก็ขุนวังพระอินทร์น่ะสิ

    ท่านเจ้าคุณฯถามว่า แล้ววงศ์เดียวกันหรือเปล่า

    ดร.ปริญญาบอกว่า วงศ์เดียวกัน นี่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังนะนี่

    ท่านเจ้าคุณฯบอกว่า หลวงพ่อจะพาไปหาพระที่ไหนก็ตาม ต้องเกี่ยวเนื่องกัน ถึงจะพาไปแล้วคุยกันรู้เรื่อง ท่านจะไม่พาไปที่พูดกันไม่รู้เรื่องจะทำให้เป็นมิจฉาทิฏฐิ

    มีอยู่คราวหนึ่ง ยังอยู่ที่เชียงราย ไม่รู้องค์ไหนนะ ยังหนุ่มอยู่ว่างั้น บอกเมื่อคืนนี้ สมเด็จพระพุทธเจ้ามาบอกว่า ให้ไปให้ไปดูพระองค์นี้อายุ 26, 27 อะไรนี่ ยังหนุ่มอยู่นี่ บอกว่าเป็นพวกเป็นสายเดียวกัน ว่าเป็นพระอรหันต์แล้ว สายเดียวกัน ซึ่งไม่รู้อยู่ตรงไหน

    ดร.ปริญญาบอกว่า หลวงพ่อได้พบแล้วนี่ครับ พบกันข้างใน

    ท่านเจ้าคุณฯบอกว่า สายเดียวกัน หมายความว่าพวกวิชชาสามก็ดี พูดเรื่องมโนมยิทธิ
    ก็จะไปกันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย

    อย่างหลวงพ่อดาบสนี่คุยกันได้ เรื่องมโนมยิทธิหรือเรื่องอะไรต่ออะไรคุยกันได้ทุกอย่าง แต่เขาหาว่าเป็นพระอะไรนี่ จะให้ท่านทำอย่างนั้นอย่างนี้ ท่านเลยแยกออกมา

    แต่ท่านพูดถึงหลวงพ่อ ยกย่องมาก "ไม่มีที่ไหนแล้ว"

    หลวงพ่อก็บอกว่า "จบมาตั้ง 20 ปีแล้ว"

    ไม่เจอตัวกันนะ แต่คุยกันเหมือนกับทางเดียวกันหมด แต่หลวงปู่สิมคุยวิชชาสาม คุยอะไรๆกันได้ทุกอย่าง เทวดายืนยันมีจริง มีอย่างนั้นอย่างนี้ ไปคุยกับพวกประโยค 9 บางทีก็ไม่ได้เหมือนกัน

    ท่านเจ้าคุณฯถามว่า แล้วหลวงพ่อสิมมีอะไรอีกล่ะ

    ดร.ปริญญาบอกว่า หลวงพ่อสิมสนิทกันเป็นการภายใน แต่ว่าพอถึงภายนอกเข้าแล้วนี่ เนื่องจากว่าหลวงพ่อสิมลูกศิษย์ท่านก็มาก แล้วก็เป็นสายธรรมยุติ ซึ่งค่อนข้างว่า จะหาว่าอย่างนู้นอย่างนี้ เรื่องบางเรื่องหลวงพ่อเข้าไปชิดเชื้อมากไม่ได้ แต่ที่จริงแล้วท่านนั่นกันหลายเรื่องเหมือนกัน

    ยกทรงถามว่า แย้มสักเรื่องได้ไหม

    ดร.ปริญญาบอกว่า ผมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสิมมาก่อนตอนแรก ตอนหลวงพ่อไปหาที่เชียงใหม่ ก็กราบเรียนหลวงพ่อบอกว่า อยากเห็นหลวงพ่อคุยกับหลวงพ่อสิม

    คำแรกที่ท่านพูดออกมาบอกว่า ฉันไม่อยากไปแค่นเขา คนอ้วนขาวๆ ใช่ไหม

    ก็บอกท่านว่า ใช่

    ทีนี้ต่อมาเพื่อนของผมคนหนึ่ง ดร.วันชัย โพธิวิจิตร เขาก็มาบวชที่บ้านที่กรุงเทพฯ แถวฝั่งธน ทางปากคลองสาน วัดอย่าบอกชื่อวัดเลย เสร็จแล้วเขาก็อยากไปกราบหลวงพ่อ เขาก็ไปให้ผมพาไป ผมก็พาไป ผมพาไปทิ้งไว้ที่วัดท่าซุงแล้วก็หนีขึ้นเชียงใหม่

    พอไปถึงปั๊บหลวงพ่อบอก "ปริญญาแกเอาพระไปส่งหลวงพ่อสิม" สั่งเลย

    ท่านเจ้าคุณฯบอกว่า พอไปฝากหลวงพ่อสิม ติดเลย

    ดร.ปริญญาบอกว่า จัดงาน พิมพ์หนังสือแจกงานศพหลวงพ่อสิมด้วย

    ท่านเจ้าคุณฯบอกว่า ทำงานอะไรๆก็ไปช่วยหลวงพ่อสิมอยู่แล้ว

    ดร.ปริญญาบอกว่า ดร.วันชัยก็อยากจะมาอยู่กับหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อบอกเลย บอกคุณการบวชเป็นของยาก บวชแล้วก็ควรจะได้กำไร ไปบวชวัดที่เขาคุยกันแต่เรื่องยศเรื่องศักดิ์จะไปได้ประโยชน์อะไร นู่นขึ้นไปอยู่กับพ่อสิม สั่งเลย

    แล้วหลวงพ่อก็บอก ปริญญา แกไปบอกหลวงพ่อสิมด้วยว่า ฉันฝาก ไม่ได้รู้จักกันนะสมัยนั้น

    แล้วฝากไปบอกด้วยว่า "ฉันชอบหลวงพ่อสิมอยู่ 2 อย่าง" บอกว่า "หลวงพ่อสิมมีกตัญญูสูง เเละ เคารพพระพุทธเจ้ามาก"

    ขึ้นไปก็ฝากหลวงพ่อสิมก็รีบเล่าให้หลวงพ่อสิมฟัง ท่านปรารภว่าบอกว่า "ท่านไม่ได้รู้จักเรา ท่านยังสามารถรู้เข้าไปในจิตในใจของเราได้" พูดอย่างนี้

    ดร.ปริญญาเล่าต่อว่า มีครั้งหนึ่งผมก็ลงมาหาหลวงพ่อ มานั่งกรรมฐานกับท่าน พอออกจากกรรมฐาน หลวงพ่อบอก คุณปริญญา ท่านเรียก คุณ นะตอนนั้น ฉันเจออาจารย์คุณบนดาวดึงส์ บนจุฬามณี

    พอขึ้นเชียงใหม่ผมก็ไปถามหลวงพ่อสิม หลวงพ่อขึ้นไปดาวดึงส์หรือเปล่า

    หลวงพ่อสิมถามว่า ใครบอก บอกหลวงพ่อมหาวีระบอก

    ตอนนี้ขอดูรูป ผมก็รีบควักรูปถวายให้ท่านเลย ท่านเอาขึ้นที่บูชาเลยนะ

    ดร.ปริญญาบอกว่า ขึ้นไปได้แต่กำลังสู้กันไม่ได้ องค์หนึ่งใครไปใครมาเห็นหมด องค์นี้ขึ้นไปเฝ้าพระพุทธเจ้าอย่างเดียว ขึ้นไปฟังเทศน์อย่างเดียว

    ท่านเจ้าคุณฯบอกว่า ก็เหมือนฝึกมโนมยิทธิแบบครึ่งกำลังนี่แหละ ลุยลูกเดียว หัวใครอยู่ไหนกูไม่สน ฝึกเต็มกำลังเห็นนู่นหลบนู่นหลบนี่ ครึ่งกำลังลุยลูกเดียว ใหญ่หรือเล็กกูไม่สน


    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 457 เดือนเมษายน 2562 หน้า 17-19)


    0.1.jpg
     
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    15895325_10154944667189329_2619281276395395195_n.jpg

    ผู้ที่เคยทำพระคำข้าว



    ความจริง "พระคำข้าว" นี่ ถาม สมเด็จองค์ปฐม ว่าใครเคยทำบ้าง

    ท่านบอกว่า

    "ท่านปานทำเป็นพระพุทธรูปหน้าต้กประมาณ 18 นิ้ว และ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)

    พระหลวงพ่อโตนี่ ถ้าได้ของแท้นะ คือ "พระคำข้าว"

    ท่านบอกว่า แล้วมีแกอีกคนหนึ่ง"


    ฉันต้องไปนั่งเสกอยู่สามเดือน เว้นไม่ได้เลย

    ต้องดูไอ้กับข้าวอันไหนมันอร่อย วันนี้อะไรมันอร่อยต้องเลือกนะ
    วันนี้รู้สึกมันชอบอะไร ต้องกับข้าวอันนั้น


    (จากธัมมวิโมกข์ เดือนกันยายน 2558 หน้า 80)
     
  21. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    0001 (2).jpg

    หลวงพ่อเล่าเรื่อง ยิงกับนักเลง



    ขอเริ่มต้นที่บางพรหม ไม่แน่ปืนมันยังหมดคนละ 1 ตับ คนละ 2 ตับ

    คนในกลุ่มก็ ไอ้เจ้าลิงเล็ก เราไปนี่เราไปงานอายุ 18

    อีตอนนั้นยังไม่จบดีเลย จะเป็นปีสุดท้าย 19 ก็ออกก็จบ 18 ปีกว่าๆเท่านั้น

    เขาไปงานไอ้เราไม่ใช่นักเลงไม่กินเหล้า ที่บางพรหมหลานของยายเขาแต่งงาน ที่บางพรหม ลูกเขาจะบวช พวกผู้ใหญ่เขาก็ไม่ไป ถ้าไปแล้วตีกัน

    นักเลงบางระมาด ตลิ่งชัน บางพรหม

    ตอนนั้น ตลิ่งซัน กับ บางระมาด รวมกันได้ แต่บางพรหมยังรวมกันไม่ได้นะ

    ท่านทำอย่างไร ก็ให้พวกเราไป เขาคิดว่าไม่มีเรื่อง พอเอาสตางค์ไปช่วยเจ้าภาพ

    หัวหน้านักเลงใหญ่เขาเต็มข้างล่าง 30 กว่า ไอ้สามสิบกว่ามันกว่าเท่าไรก็ไม่รู้ บางคนพลอยไปเยอะนะ ไอ้ตัวจริงๆสามสิบเศษ ไปดักเล่นไอ้สองตำบล คนสองตำบลนี่ไปเขาจะฆ่า

    เราเอาสตางค์ไปช่วย เขาถาม "หลานชายๆ เออ..แกเป็น หลานยายเนียม ใช่ไหม"

    เขาบอก "คนบางระมาดหรือ คนตลิ่งชันมาวันนี้ ยังไม่ได้กลับนะ แม้แต่เด็กที่กำลังกินนมอยู่ก็ไม่ให้กลับ"

    เราบอก "เอ..ผมไม่ได้เป็นนักเลงนะครับ"

    เขาบอก "จะนักเลงหรือไม่ก็ตาม น้าตั้งใจแล้ว (แนะ!)

    น้าตัดสินใจแล้วว่าคนบางระมาดกับตลิ่งชัน ถ้ามาแล้วกลับไม่ได้ แม้แต่เด็กที่กำลังกินนมก็จะไม่ยอมให้กลับ"

    เจ้าของบ้านเห็นท่าไม่ดี เขาไปจัดข้าวให้พวกเรากินข้าว มันก็ไปอีกนะ บอก "หลานชายกินให้อิ่มนะ อิ่มนี้อิ่มสุดท้าย"

    พอลงคำ ไอ้เสือเล็ก ล่อฉับเข้าให้ คอขาดเลย เลือดพุ่งชู้ดเชียว มันถึงจะแน่

    ไอ้ลิงนี่ไวจริงๆ ถ้ามันอยู่หน้าเราสองคนอยู่หลัง ตีเรื่องตีมันตีคนเดียวพอ มันเก่งนะมันล่อกับเขา ทำอย่างไรบอกลงข้างล่างลงใต้ถุน หันหลังเข้าหากันถือมีดคนละเล่ม พวกมันก็ล้อมเต็มบ้าน เจ้าของบ้านร้องไห้เลย

    ข้าก็ยืนดูไม่มีใครเข้ามา ถ้าเข้ามาก็ตาย ก็เรานึกว่าเราตายเสียแล้วก็หมดเรื่องใช่ไหม ถ้าเรานึกว่าเราจะตาย เรื่องอะไรจะตายฟรีล่ะ ฉะมันก่อนเลย อย่างน้อยที่สุดไม่ได้ศพก็ได้แผลก็ดี หรือไง นักเลงใช่ไหม เขาต้องตัดสินใจแบบนั้น ใช่ไหม

    ยืนไปยืนมาชั่วโมงกว่าๆ มันก็ไม่เข้า

    เอ..ก็มองไปบอกไอ้ศพเรา ผีเราน่ากลัวจะดุนะ ไปตายนอกบ้านดีกว่านะ เห็นมันยืนนานๆแสดงว่ามันชักปอดแล้ว มันก็ไม่แน่นัก ถ้าแน่นักต้องเอาแล้ว ใช่ไหม

    ไอ้เจ้าลิงเล็ก ไอ้เจ้านั่นบอก "กูออกหน้า ไอ้ห่า ! กูได้หนึ่งแล้วยังไงๆกูก็ได้ทุน"

    พอมันพูดเราไม่ทันค้าน มันก็โดดไปเลย โดดฟันฉับๆตายไปอีก 2 คน ไอ้บ้าฟันเก่งจริงๆเลย เอาอีก 2 อีกตัวก็วิ่งตามฟันดะ ใครเข้ามาก็หวดดะ เราวิ่งข้างหลังก็สบายมือ (หัวเราะ)

    แหม..ยายแม่ครัวลุกขึ้นคว้าอีโต้มาล่อหลังพั่บเข้าให้ หันไปจะฟันเห็นเป็นผู้หญิง เอามือคลำหลังเลือดไม่มี บอก "ไป อีห่านี่เดี๋ยวคอขาด" แกก็ไป ใจเสียเลยนะ

    เอ..ก็ทางเป็นสวน สวนก็เป็นท้องร่องหมด ใช่ไหม ทางมันก็แคบ ทางมันสักวากว่าๆนะ สองข้างเป็นพู่ระหง เราก็วิ่งมันก็วิ่งตามเป็นทาง พอถึงกลางทาง มันไม่ไปแล้ว หันมานั่งขัดสมาธิ แล้วชักปืนมาคนละ 2 กระบอก

    รู้แล้วท้องร่อง มึงขืนกระโดดก็ตายห่าหมด โดดท้องร่องก็ตายหมดเสร็จ โดดท้องร่องใหม่ๆโดดอย่างไร ก็ตูมๆๆ เสร็จ ระยะแค่นี้ ฝั่งโน้นนะเหรอสบายๆ ฮึ ! (หัวเราะ)

    ยิงมือซ้ายก็ถูก มือขวาก็ถูกนะ รู้สึกมันจะยืนอัดกันเป็นแถวยาวเหยียดเต็มทาง

    พอเราหยุดปั๊บ! บอก "มึงหยุดแค่นั้นนะ ถ้ายกขาก้าวหนึ่งกูจะยิงทันที กูไม่หนีมึงหรอก"

    ยืนอั้นตือ มาไอ้ตัวใหญ่เขาสักเต็มตัว มันถือปืนมือถือตะพดมา ทำไมไม่บุกเข้าไป 3 คนเท่านั้น กระทืบตาย มันบอก "มีปืนไม่สำคัญ"

    "อ้าว ไม่สำคัญมึงหยุดแค่นั้นนะ ถ้ามึงยกขากูยิง"

    มันบอก "โอ้ย ! เรื่องปืนเรื่องเล็ก"

    ก็ตูมแสกหน้าหงายผึง ตึงตังๆๆ คนละสองตับสองมือ นี่ยังแมกกาชีนเต็มเอว ฮึ! (หัวเราะ) แมกกาซีนไม่เอาลูกไว้เฉยๆ แมกกาซีนเต็มเอวนะ

    พอเสร็จแล้วก็ปลดแมกกาซีนใส่ นั่งมอง ไม่มาอีกแฮ่ะ แหม..คนละยี่สิบ เท่าไรล่ะ ฮึ ! (หัวเราะ) เมาเซอร์ๆ เจอลูกพรุนตายโหง

    พอกลับมาถึงบ้านมานึก เอไอ้เรานี่ไม่ได้เป็นนายทหารกับเขานี่ เข้าตารางแน่ เดินผิวปากสบายร้องเพลงมาเรื่อยเฉื่อย อารมณ์ดี

    มาถึงบอก "น้าครับมีเรื่องเสียแล้ว"

    น้าถาม "ทำไม"

    "ผมยิงเขา"

    น้าถามว่า "ทำอย่างไร"

    ก็เล่าให้ฟัง ฮึ! (หัวเราะ) เดี๋ยวไปหาหลวงฤทธิ์เป็นหัวหน้าสถานีตำรวจ

    หลวงฤทธิ์แกก็บอก "เฮ้อ ! อย่างนี้เราเป็นโจทก์ แหม..ตำรวจมาแล้วว่ะ เด็กแค่นี้ 3 คน นี่ พวกนั้นเป็นสิบๆนี่หว่า กลุ่มโน้นกลุ่มนี้รุมทำร้ายกัน ใช่ไหม เราเป็นโจทก์นี่"

    มาแล้วตำรวจยกกันทั้งโรงพักเลย

    น้าโทรศัพท์ไปหากรมพระกำแพงเพชร เอาไอ้เด็กสามคนเข้าวังเดี๋ยวนี้ เข้าไปอยู่ในวังแล้ว ตำรวจจับมาเป็นระนาวเลย

    ชาวบ้านให้การเป็นตับหมดเลย บอกเราถูกกลุ้มรุมทำร้ายจริงๆ เป็นเหตุสุดวิสัย

    ท่านถาม "ไอ้เด็กยิงเขาใช่ไหมล่ะ"

    ชาวบ้านบอก "ไม่ใช่ พวกมันยิงเด็กก่อน กระสุนนี่ปลอกเกลื่อนนี่"

    แน่ะ! ปลอกเรา ชาวบ้านบอกปลอกไอ้พวกนั้น แกเกลียดไอ้พวกนั้นนะ ถูกไหมล่ะ

    ไอ้เราไปไหนชอบยกมือไหว้คนอยู่แล้ว ยกมืออย่างเดียว ก็เกลียด

    ไอ้เด็กดีไม่กินนำสักคำ ยิงกันตายเอง บอกยิงถูกกันเอง เอาแล้ว เสร็จ

    ในที่สุดเราสถานีตำรวจก็ขึ้น แต่ไม่ได้เข้าห้องขัง เป็นโจทก์ซิ เพราะจับระนาว ไอ้ที่เหลืออยู่จับขังกันระนาว

    เป็นไงอีตอนนั้นถาม หลวงฤทธิ์ถาม "เท่าไรกูนับให้ กูนับได้ประมาณ 30 เศษ ไม่รู้เศษเท่าไร กูเลยขี้เกียจนับว่ะ มึงยิงกี่ตับวะ"

    พวกเราบอก "ก็คนละตับเองครับ"

    หลวงฤทธิ์บอก "ไอ้ห่าคนละตับ ไหงตายมากกว่ามือละตับ"

    ฮึ! (หัวเราะ) มันสองมือ

    อีตอนนั้นมือมันยังใช้ได้ทั้งสองมือ

    บอก"มือละตับครับ ตับละสิบนัดให้มา"



    (จากธัมมวิโมกข์ เดือน กันยายน 2558 หน้า 94-96)


     

แชร์หน้านี้

Loading...