โล๊ะ!!!!! ทุกรายการ 100 บาท...เริ่มหน้า 676 เป็นต้นไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 4 มกราคม 2017.

  1. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11278.พระคงครูบาทา (ตุ๊ลุงทา) วัดพระคงฤาษี ปี2518 สร้างจากพระคงที่ชำรุดแตกหัก ท่านได้รวบรวม พระรอดหักชำรุด พระคง พระสกุลลำพูนต่างๆที่หักชำรุด มาตำผสมกันกับดินที่ท่านเตรียมไว้ แล้วกดพิมพ์เป็น สภาพเดิมผิวหิ้งๆ น่าใช้น่าสะสม ***แบ่งให้บูชา 500 บาท****ลดเหลือ100บาท ปิดครับ
    DSC_0573.JPG DSC_0574.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2023
  2. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11279.พระยอดธง วัดกำแพง บางจาก ภาษีเจริญ กทม. สภาพสวยสวย พร้อมกล่อง เดิมๆๆครับ หลวงปู๋โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ร่วมปลุกเสกและเกจิ หลายท่านครับ ***แบ่งให้บูชา 350 บาท***ลดเหลือ100บาท ปิดครับ
    DSC_0098.JPG DSC_0100.JPG DSC_0102.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2023
  3. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11280.เหรียญพระครูพรหมวิหารคุณ หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด จ.อยุธยา หลังยันต์ ปี 2516 เนื้อทองแดงรมดำ สภาพสวยแชมป์ กล่องเดิม *****แบ่งให้บูชา450 บาท****ลดเหลือ100บาท
    หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน จ. พระนครศรีอยุธยา เป็นอาจารย์ร่วมสมัยเดียวกับ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านจึงเป็นพระอาจารย์อาวุโส มรณภาพเมื่อปี ๒๔๙๙ (อายุ ๘๑ ปี) หลังหลวงพ่อปาน ๑๘ ปี ( ๒๔๙๙ - ๒๔๘๑ ) แต่ก่อนหลวงพ่อจงราว ๘ ปี ( ๒๔๙๙ ? ๒๕๐๗ ) วัดของท่านเหล่านี้อยู่ไม่ไกลกันนัก ท่านเป็นสหธรรมมิก และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จนชาวอยุธยาเรียกกันติดปากว่า

    พระหมอหลวงพ่อปาน เกจิอาจารย์หลวงพ่อจง เมตตาไหลหลง หลวงพ่อยิ้ม
    หลวงพ่อทั้ง ๓ มีความสนิทสนมกลมเกลียวกันยิ่งนัก ต่างคนต่างผลัดไปมาหาสู่ต่อวิชา ซึ่งกันและกันที่วัดของแต่ละองค์ ครั้งละหลายๆ วันชาวกรุงเก่าที่รู้ซึ้ง จึงกระซิบต่อๆ กันว่า พระเครื่องของทั้ง ๓ องค์นี้พุทธคุณขลังเหมือนกัน ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี เมื่อต่างองค์ต่างสร้างพระเครื่องฯ เพื่อสืบทอดพระศาสนาต่างก็มานั่งปรกพุทธาภิเษก แทบทุกๆครั้งไป?.. เหตุการณ์สำคัญ อธิเช่นการปลุกเสกทราย และขึ้นเครื่องบินโปรยลงสถานที่สำคัญๆ ในประเทศไทย เมื่อครั้งสมัยสงครามอินโดจีนฯ ช่วง พ.ศ. ๒๔๘๕ ฝรั่งเศสที่ต้องการจะยึดดินแดนของไทยเป็นประเทศใน อานานิคม มีผลร้ายแรง พอๆ กับ สงครามโลกครั้งที่สองเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ ซึ่งเป็นเรื่องของความสามัคคี เพื่อให้สถาบันชาติอยู่ได้ สถาบันศาสนาอยู่ได้ และสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ได้ และสืบต่อพระศาสนา ให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบไป.

    หลวงปู่ยิ้มวาจาสิทธิ์
    จากการที่หมั่นสวดมนต์ภาวนา ให้ทาน รักษาศีล และเจริญพระกรรมฐานภาวนา ตลอดจนสั่งสอนให้คนทำความดีเป็นนิตย์ หล่อหลอมให้ภิกษุชราพุทธบุตรรูปหนึ่ง มีวาจาสิทธิ์ดุจเทพเจ้าฯ ทั้งให้พร? เสกน้ำพระพุทธมนต์ รักษาโรค เป็นที่ประจักษ์ตาแก่ชาวบ้านใกล้ และไกล หลวงปู่ไม่ชอบคนมุสา... คนดื่มน้ำเมา... คนกาเม? คนฆ่าสัตว์ตัดชีวิต? คนลักขโมย? (คนที่ชอบละเมิดศีลห้า) และคนที่ งอมืองอเท้า ขี้เกียจทำกิน? หลวงปู่ยิ้มท่านมีวาจาสิทธิ์ พูดคำไหนเป็นคำนั้นไม่พูดมาก พูดแต่สิ่งที่ดี ๆ เมื่อสั่งสอนครั้ง สองครั้งยังไม่เลิกละ หลวงปู่ก็จะเปรยๆ พอให้ศิษย์ใกล้ชิดได้ยินว่า

    ? พวกนี้มันบัวใต้น้ำ? ชี้ทางสวรรค์ให้เดินไม่ยอมเดิน ?
    ( เป็นการชี้ให้เห็นว่าประตูสู่สวรรค์ก็คือศีลห้านั่นเอง ) และในไม่ช้าบุคคลดังกล่าวข้างต้นนี้ก็มีอันเป็นไปในที่สุด ?? ย่างเข้าสู่วัยชรา ทุกสรรพสิ่งที่เกิดมานานแล้วก็ร่วงโรยไปในที่สุด หลวงปู่ยิ้มละสังขารไปด้วยอาการอันงบ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๙ (วันจันทร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีวอก จ.ศ. ๑๓๑๘ ) รวมสิริอายุได้ ๘๑ ปี ๖๑ พรรษา
    DSC_0122 (2).JPG DSC_0124 (2).JPG DSC_0126.JPG
     
  4. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11281.เหรียญพระเจ้าตาเขียว รุ่นแรก วัดบ้านเหล่า ต.บ้านเรือน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน รุ่นนี้เป็นรุ่นศิษย์สร้างถวาย สมทบทุนสร้างพระอุโบสถ ปี 2530 ครับ สภาพสวยครับ ***แบ่งให้บูชา 650 บาท***ลดเหลือ100บาท ิปิดครับ
    DSC_0561.JPG DSC_0563.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2023
  5. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11282.รูปหล่อ หลวงพ่อนิล วัดหน้าต่างใน จ.อยุธยาเนื้อทองผสมสภาพสวยมากเก่าคร่ำพอมีอายุหลวงพ่อนิลท่านเป็น**พระน้องชายแท้ ๆ ร่วมสายโลหิต คู่บารมีขององค์ท่านหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ***แบ่งให้บูชา 450 บาท****ลดเหลือ 100 บาท
    DSC_0497.JPG DSC_0499.JPG
     
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11283. เหรียญพระพุทธรูปแม่เจ้าอยู่หัว วัดท่าคุระ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ปี 2528 ชุบนิเกิ้ล สภาพสวย ***แบ่งให้บูชา 300 บาท****ลดเหลือ 100 บาท ปิดครับ
    เจ้าแม่อยู่หัว หมายถึง พระพุทธรูปทองคำที่สร้างแทนตัวบุคคล ที่ชาวบ้านท่าคุระ บุคคลทั่วไปให้ความเคารพนับถือและเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธ์ซึ่งบรรพบุรุษได้สร้างไว้เมื่อหลายร้อยปีมาแล้วจึงเป็นมรดกตกทอดมาให้คนรุ่นหลังได้เคารพสักการบูชาสืบต่อกันมา รวมทั้งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่รวมใจเป็นหนึ่งทำให้ลูกหลานเกิดความรัก ความสามัคคีสืบมา
    เจ้าแม่อยู่หัว ประดิษฐานอยู่ที่วัดทุ่งคุระ หมู่ที่ 9 ตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ขนาดหน้าตักกว้าง 2 นิ้ว สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยสุโขทัยตอนปลายหรืออยุธยาตอนต้น ประมาณ พ.ศ. 1900 ด้วยความเชื่อถือและศรัทธาว่าเจ้าแม่อยู่หัวมีความศักดิ์สิทธ์ ประชาชนทั่วไปจึงแสดงความจงรักภักดีความกตัญญูกตเวที ความศรัทธาโดยการสมโภชและสรงน้ำเจ้าแม่อยู่หัวทุกปี ด้วยความสามัคคีที่มีเป้าหมายตรงกัน โดยยึดเอาเจ้าแม่อยู่หัวเป็นศูนย์รวมจิตใจ แม้ว่าลูกหลานได้อพยพกระจัดกระจายย้ายถิ่นไปทำมาหากินทั่วประเทศ บ้างก็ไปรับราชการ บ้างก็ไปทำมาค้าขาย แต่ใน 1 ปี เมื่อถึงวันพุธแรกข้างแรมเดือน 6 ก็จะกลับมาเพื่อร่วม “สมโภชสรงน้ำเจ้าแม่อยู่หัว”เป็นพันธะสัญญาของลูกหลานในท้องถิ่น ชาติกำเนิด เจ้าแม่อยู่หัว หรือพระหน่อเชื่อกันว่าเป็นโอรสเจ้าเมืองใดไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด แต่ท่านผู้เฒ่าเล่าต่อกันมาว่า เมื่อหลายร้อยปีมาแล้วมีเมือง ๆ หนึ่ง สมัยสุโขทัยตอนปลายอยุธยาตอนต้นเจริญด้วยศิลปวัฒนธรรมอย่างยิ่งน่าจะเป็นเมืองนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน เจ้าเมืองมีโอรสหนึ่งพระองค์ มีพระนามเรียกขานทั่วไปว่าพระหน่อ พระชนมายุประมาณ 9-10 พรรษา ซึ่งเป็นที่รักใคร่ของพระบิดามารดาและเหล่าอาณาราษฏร เพราะนอกจากพระหน่อเป็นคนฉลาดเฉลียว ยังพูดจาไพเราะอ่อนหวาน ส่วนพระนามที่แท้จริงนั้นไม่สามารถจำได้ เพราะกษัตริย์เป็นสมมุติเทพมีพระนามยาว ๆ หลายพยางค์ พระหน่อสาบสูญ ตามธรรมดาพระหน่อมักจะลงเล่นน้ำสรงน้ำที่ท่าน้ำเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งแม้ว่าพี่เลี้ยงนางสนมต่างดูแล และระมัดระวังเป็นอย่างดี แต่พระหน่อก็หายไปราวกับเกิดปาฏิหาริย์ ถึงจะค้นหาอย่างไรก็ไม่พบร่องรอย บ้างก็ดำน้ำลงค้นหา บ้างก็วิ่งไปหาบนตลิ่งต่างร้องไห้คร่ำครวญเพราะเสียใจที่เจ้าฟ้าอันเป็นที่รักยิ่งหายไป และเกรงกลังพระอาญา ในที่สุดเมื่อหมดปัญญาจึงได้พากันมากราบทูลให้พระเจ้าอยู่หัว และพระราชินีทรงทราบ พระเจ้าอยู่หัวทรงกริ้วเป็นที่สุดและพระราชินีถึงกับเป็นลมหมดสติไป พอตั้งสติได้ พระเจ้าอยู่หัวจึงทรงรับสั่งให้ทหารมหาดเล็ก เสนาบดีน้อยใหญ่ค้นหาอีกครั้งอย่างละเอียด แม้ได้แต่ร่างไร้วิญญาณก็ทรงพอพระทัยแล้ว ถึงค้นหาอย่างไร ก็ไม่พบอีกนั่นแหละ ถึงพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีจะทรงเสียพระทัยจนสุดที่จะพรรณนา แต่เชื่อในกฎแห่งกรรมและด้วยทศพิธราชธรรม พระองค์ก็มิได้ลงอาญาแก่ผู้ใด คำทำนายโหร เมื่อกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ได้พยายามถึงที่สุดแล้ว ก็ไม่เป็นผลเลยรับสั่งให้โหราธิบดีทำนายตรวจดูดวงชะตาราศีของพระราชโอรส หลังจากโหราธิบดีได้ตรวจดูวัน เดือน ปี ลงเลขบวกลบคูณหารตามราศีอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว จึงกราบทูลว่า ดวงชะตาของพระหน่อยังไม่ถึงชีวิต เพียงแต่ตกอยู่ในพระเคราะห์เล็กน้อยด้วยผลบุญกรรมที่เคยทำไว้แต่ปางก่อนที่เสวยอายุ จึงทำให้ต้องพลัดพรากจากเมืองหลวงไป แต่ก็ไปในทางที่ดีจะพบผู้อุปการะอย่างดีและด้วยบุญญาบารมีต่อไปข้างหน้า จะมีเกียรติคุณ เกียรติศัพท์ เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป แล้วจะกลับสู่พระราชฐานในไม่ช้า ขอให้ติดตามไปทางทิศใต้ ซึ่งเป็นที่ทุรกันดารเมื่อพระเจ้าอยู่หัวได้พรับฟังคำทำนายของโหรแล้ว ก็ตรัสให้เหล่าทหารมหาดเล็กจัดกำลังพลแยกย้ายกันออกเดินทางไปติดตามหาพระหน่อทางทิศใต้ โดยกำชับว่าหากไม่พบพระหน่อก็ไม่ต้องกลับเมืองหลวงแม้จะใช้เวลาสักเพียงใดก็ตาม ชีวิตใหม่ของพระหน่อ แต่เดิมนั้นเมืองพัทลุงตั้งอยู่ที่อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ปัจจุบัน โดยมีกษัตริย์ปกครองติดต่อกันหลายพระองค์ เช่น พระเจ้ากรุงทอง ปกครองตรงกับสมัยสุโขทัยตอนปลายพระเจ้าธรรมรังศัล ตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยา เมืองพัทลุงจึงมีประวัติสัมพันธ์กับกรุงศรีอยุธยาหลักฐานที่สำคัญปรากฏในการก่อสร้างวัดพะโคะ เมื่อ พ.ศ. 2057 ณ หมู่บ้านหนึ่งอยู่ทางทิศใต้ เมืองศิริธรรมนคร หรือ นครศรีธรรมราชในปัจจุบัน และทิศเหนือเมืองพัทลุงเรียกว่า บ้านพราหมณ์จัน ห่างจากวัดพะโคะ ประมาณ 2 กิโลเมตร มาทางทิศใต้และทิศเหนือของวัดท่าทอง หรือปัจจุบันเรียกว่าวัดท่าคุระประมาณ 1 กิโลเมตร บ้านพราหมณ์จัน ปัจจุบันเพี้ยนมาเป็นบ้านแพรจัน อยู่ในเขตปกครองหมู่ที่ 9 ตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลาเป็นส่วนหนึ่งของแหลมที่ยื่นลงมา ทิศตะวันออกจรดอ่าวไทย ทิศตะวันตกจรดทะเลสาบสงขลาพื้นที่เป็นที่ราบดินเหนียว ปัจจุบันเป็นที่นาของนางไสว ยิ้มละมัย (กลิ่นสุวรรณ) ซึ่งเคยขุดพบถ้วยชาม เครื่องใช้โบราณมาแล้ว มีครอบครัวหนึ่งอยู่ช้านานแล้ว แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ชื่อตาพรหม กับยายจัน ทั้งสองสู่วัยชราอาชีพทำนา เก็บผัก หาฟืน หากุ้ง หาปลา เอาแต่พอกินพอใช้ไม่เดือดร้อนอะไรเพราะเมื่อก่อนมีความอุดมสมบูรณ์ อยากจะกินปลาน้ำจืดก็ไปหาปลาตามลำห้วยหนองคลองบึงหรือในทะเลสาบ อยากจะกินปลาน้ำเค็มก็ไปหาปลาทะเลอ่าวไทย อยู่มาคืนหนึ่ง ตาพรหมฝันว่า เห็นช้างเผือกเชือกหนึ่งกำลังเล่นน้ำอยู่ แกได้จับมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน แต่อยู่ได้ไม่นานช้างเผือกนั้นก็สูญหายไป ตา ยาย ก็แก้ความฝันไปต่าง ๆ นานา พอรุ่งเช้าตาพรหมก็ออกจากบ้านเพื่อไปหาปลาน้ำเค็มกิน ยายก็ช่วยจัดข้าวห่อ หมากพลู ใบจาก ยาเส้น เตรียมให้ตา ตาออกจากบ้านมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกคือบ้านแล ปัจจุบันอยู่ใกล้วัดชะแม ตำบลดีหลวง ตาพรหมหากุ้งปลาได้พอสมควรแล้วหยุดพักกินข้าวห่อแล้วเหลือบไปเห็นสิ่งหนึ่งลอยติดตลิ่ง แกก็ไปดูใกล้ ๆ เลยพบว่า เป็นเด็กผู้ชายเนื้อตัวของเด็กเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำเต็มไปหมด แต่เป็นสิ่งที่น่าแปลกใจว่า ชีพจรยังทำงานปกติจับดุหน้าอกหัวใจก็เต้น เนื้อตัวก็ยังอุ่น ตารีบทำความสะอาดเด็กแล้วเอาน้ำจืดในกระบอกที่เตรียมไว้ดื่มเทบนร่างของเด็ก เพื่อชำระคราบน้ำเค็มและตะไคร่น้ำ ตาพรหมปฐมพยาบาลจนเด็กรู้สึกตัวได้สติ แกดีใจและแปลกใจระคนกันไปหมด เลยลืมสัมภาระและกุ้งปลาที่หามาได้จนหมดสิ้น แล้วรีบยกร่างเด็กขึ้นบ่าเพื่อพากลับบ้าน ระหว่างเดินทางก่อนถึงบ้าน ตาก็ได้หยุดที่บ่อน้ำตักน้ำมาลูบตามเนื้อตัวเด็กอีกครั้งหนึ่ง และหยดน้ำให้ดื่มจนเด็กกระปรี้กระเปร่าขึ้น แกก็อุ้มต่อไปจนถึงบ้าน ด้วยความดีใจตาตะโกนเรียกยายจันให้ลงมาดู โดยที่ตนเองยังไม่ได้ขึ้นบันได ตาขึ้นบนบ้านวางเด็กให้นอนดื่มน้ำ ดื่มท่า แล้วยายต้มน้ำอุ่นอาบให้เด็ก พร้อมกับประแป้งแต่งกายให้เรียบร้อย ตาตั้งสติได้เลยเล่าถึงความเป็นมาเป็นไปที่ได้นำเด็กมาจนยายเข้าใจ เวลาล่วงเลยไปหลายวัน ตา ยาย เลี้ยงดูเด็กเป็นอย่างดี จนปลอดภัยแข็งแรงขึ้น มีอาการปกติทุกประการ ตา ยาย สังเกตดูบุคลิก ลักษณะ ผิวพรรณ รูปร่าง หน้าตาและคำพูดจาของเด็กแล้วทั้งสองรู้สึกแปลกใจยิ่งนัก โดยเฉพาะคำพูดสำเนียงอ่อนหวาน ตาและยายไม่เคยได้ยินมาก่อน เพียงแต่รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ตาและยายสอบถามความเป็นมาของเด็กว่าเป็นมาอย่างไร เป็นบุตรของใคร เด็กเล่าให้ตากับยายฟังพอจับใจความได้ว่าเขาคือพระหน่อราชโอรสกษัตริย์เมืองเหนือ เมื่อตากับยายได้รับทราบดังนั้นก็รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสได้เลี้ยงดูราชโอรส คิดว่าเป็นบุญวาสนาของตน ทั้งสองตา ยาย ได้ปรึกษาและลงความเห็นว่า หากเปิดเผยความจริงให้ใครรู้ว่าเด็กที่ตา และยายเลี้ยงคือพระหน่อ เป็นโอรสของกษัตริย์ อาจเป็นอันตรายของพระหน่อและตายายได้ จึงอธิบายให้พระหน่อเข้าใจและพร้อมใจกันปกปิดความจริงเอาไว้ ข่าวของตาพรหม ยายจัน พบเด็กแล้วนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเผยแพร่ไปจนเพื่อนบ้านใกล้ไกลในระแวกนั้นมาเยี่ยมเยือนมากมาย ยิ่งเห็นบุคลิกลักษณะพูดจาไพเราะ อ่อนหวาน จึงทำให้เกิดความเคารพนับถือ ยำเกรง ต่างก็เจ้าใจว่าเด็กคนนี้มีบุญญาบารมี บางคนเจ็บไข้ได้ป่วย มีความทุกข์เดือดเนื้อร้อนใจ ได้มีโอกาสพูดคุยกับพระหน่อตามอัธยาศัยก็สามารถหายไข้ คลายทุกข์ได้ บางคนปรารถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใด ได้อธิษฐานบนบานก็ได้รับผลสำเร็จ เมื่อเกิดเหตุอัศจรรย์และมีปาฏิหาริย์เช่นนี้ประชาชนทั่วไปต่างให้ความเคารพนับถือพระหน่อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างก็มากราบไหว้และนำสิ่งของฝาก ทำให้ตายายเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปเช่นกัน และฐานะตา ยาย ก็ดีขึ้นตามลำดับ ทหารและมหาดเล็กพบพระหน่อ อยู่มาวันหนึ่ง ตาและยายออกไปธุระนอกบ้านปล่อยให้พระหน่อเฝ้าบ้านคนเดียว พวกมหาดเล็กที่พระเจ้าอยู่หัวให้มาติดตามพระหน่อเดินทางมาถึงบ้านตายาย และช่วยกันไล่จับไก่ พระหน่อได้ยินจึงพูดทักทายห้ามปรามว่า “ไล่จับไก่ทำไม” พวกทหารได้ยินเสียงนั้นถึงกับชะงัก เพราะเป็นสำเนียงที่คุ้นหู และไม่ใช่เป็นเสียงคนในละแวกนี้แน่ จึงพากันขึ้นไปบนเรือนและขอน้ำดื่มพวกทหารต่างสังเกตพฤติกรรมของพระหน่อแล้วต่างก็มั่นใจว่าเด็กคนนี้คือพระหน่ออย่างแน่นอน เพียงแต่ผิวพรรณหมองคล้ำ แต่งกายแบบชาวบ้านทั่วไปเพราะอยู่บ้านไร่ปลายนาเสียนาน เมื่อมั่นใจแน่นอนแล้ว พวกทหารมหาดเล็กต่างก็หมอบลงกราบบังคลทูลให้พระหน่อทราบว่า พวกตนได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีให้ออกติดตามพระหน่อเพื่อกลับพระราชวังพระหน่อสังเกตเหล่าทหารและมหาดเล็กที่กราบทูล ทรงมั่นพระทัยว่าเป็นข้าราชการสำนักของราชบิดา และไม่เป็นอันตรายกับพระองค์แน่ จึงยอมรับและเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้มาอยู่ตา ยาย ให้พวกทหารมหาดเล็กฟัง และก่อนจะตัดสินใจอย่างไรให้รอจนกว่าตา ยาย กลับมาบ้านก่อน แล้วจึงปรึกษา หารือกัน ตกเย็น ตา ยาย กลับมาถึงบ้าน เห็นผู้คนแปลกหน้าอยู่บนบ้านหลายคน เป็นชายหนุ่มและแต่งกายไม่เหมือนกับชาวบ้านธรรมดา เลยคิดไปว่าคงเกิดเหตุร้ายกับพระหน่อแน่ แต่ก็โล่งอกเมื่อเห็นพระหน่อออกมาต้อนรับด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส และรับสัมภาระจากตา ยาย เก็บเข้าที่ เอาน้ำมาให้ตา ยาย ดื่ม ถึงอย่างไรก็ตาม ตา ยาย ยังไม่หายกังวลอยู่ดี ตา ยาย ดื่มน้ำเสร็จนั่งพักพอหายเหนื่อยพระหน่อก็แนะนำให้เหล่าทหารรู้จักทำความเคารพ ตา ยาย แล้วเล่าเหตุการณ์พร้อมกับบอกจุดประสงค์ของพวกทหารมหาดเล็กที่มาที่นี่ ตา ยาย เมื่อทราบว่าพวกทหารติดตามมาเพื่อจะนำกลับเมืองหลวงต่างก็เสียงใจอย่างยิ่ง มีความตื้นตันใจ สับสนไปหมด เพราะต่างรักพระหน่อเหมือนลูกในอุทร พระหน่อเป็นแก้วตา ดวงใจ ของตา ยาย และคนในท้องถิ่นนี้ ที่สุดตา ยาย ก็ทำใจได้และร่วมปรึกษากับทหารมหาดเล็กว่า หากจะพาพระหน่อไปเมืองหลวงเลย เกรงว่าจะเป็นอันตราย และเพื่อความปลอดภัยให้แบ่งทหารออกเป็นสองพวก คือ พวกหนึ่งให้อยู่ ที่บ้านตา ยาย เพื่อดูแลอารักขาพระหน่ออยู่ก่อน อีกพวกหนึ่งให้เดินทางไปกราบทูลให้พระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีทรงทราบ ข่าวพวกทหารมหาดเล็กเดินทางมาบ้านตาพรหม ยายจัน เพื่อนำพระหน่อกลับเมืองหลวงทราบถึงชาวบ้านทั่วไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความศรัทธาต่อพระหน่อที่มีอยู่เดิมแล้วยิ่งทวีคูณขึ้นเป็นลำดับ ในวันหนึ่ง ๆ ประชาชนมาเยี่ยมชมบารมีไม่ขาดระยะบ้างมาเพื่อเยี่ยมชนบารมี แสดงความจงรักภักดีบ้างขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล จนทำให้บ้านของตายาย คับแคบไปถนัด พวกทหารมหาดเล็กที่คอยรับใช้พระหน่อ ได้ร่วมมือกับชาวบ้านหมู่บ้านพราหมณ์จัน ช่วยตัดได้สร้างบ้านตายายให้กว้างกว่าเดิม แล้วขุดคูรอบบ้าน ขุดสระสองลูกคือสระสังข์แก กับสระแพรจัน สร้างทางจากหมู่บ้านไปทางทิศใต้จรดทะเลสาบเขตหมู่บ้านท่าทอง (ท่าทอง หมายถึง ท่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ที่มีพืชพันธุ์ธัญญาหารสัตว์น้ำนานาชนิด ปัจจุบันเรียกว่า บ้านท่าคุระ หมายถึง ท่าที่มีต้นคุระ) ทางสายดังกล่าวต่อมาใช้เป็นเส้นทางนำซากศพไปเผาหรือฝังในป่าช้า ชาวบ้านเลยเรียกว่าทางผี ติดปากจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปรากฏหลักฐานให้คนรุ่นหลังเห็นตราบทุกวันนี้ พระราชบิดา – มารดา เสด็จมารับพระหน่อ ฝ่ายทหารมหาดเล็กที่เดินทางกลับเมืองหลวง เมื่อเดินทางเข้าถึงได้เข้าเฝ้ากราบบังคมทูลให้พระเจ้าอยู่หัวทรงทราบ ซึ่งเป็นที่ปลาบปลื้มปิติยินดีทั้งสองพระองค์ และข้าราชบริภารทั้งหลายพระเจ้าอยู่หัวได้รับสั่งให้โหราธิบดีตรวจดูฤกษ์ยามตามประเพณีนิยม และขบวนทหารเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนโขนหนังการละเล่นต่าง ๆ อย่างครบครัน ออกเดินทางสู่ทิศใต้ จุดมุ่งหมายคือหมู่บ้านพราหมณ์จันบ้านของตาพรหมยายจัน ขบวนเดินทางมาถึงบ้านแล้วมุ่งตรงไปทางทิศตะวันตก ถึงบ้านโหมโรง หรือสำโรง หรือวัดเก่า ปัจจุบันเรียกว่าบ้านบ่อใหม่ มีพื้นที่กว้างขวาง ดินทรายขาวสะอาด ต้นไม้เป็นทิวแถวร่มรื่นและอยู่ไม่ไกลจากบ้านพราหมณ์จันมากนัก พระเจ้าอยู่หัวจึงตรัสให้พวกทหารปลูกสร้างพลับพลาประทับ กษัตริย์ทั้งสองประทับที่พลับพลา หนึ่งคืนแล้วนำเหล่าทหารจำนวนหนึ่งเสด็จไปบ้านตา ยาย เมื่อพระราชบิดา มารดาได้พบพระราชโดรสต่างก็ปิติยินดีเป็นล้นพ้น จนน้ำพระเนตรไหล กษัตริย์ทั้งสองขอพระหน่อจากตายาย เสด็จไปที่พลับพลา พระหน่อขออนุญาตให้ตา ยาย ติดตามไปกับขบวนด้วย พิธีสมโภชรับขวัญพระหน่อ เมื่อถึงพลับพลาพระเจ้าอยู่หัวได้รับสั่งให้โหราธิบดีดูฤกษ์ยาม เพื่อจัดพิธีสมโภชรับขวัญพระหน่อ โหราธิบดีตรวจดูแล้ววันที่เป็นมงคลที่สุดคือวันพุธ แรมหนึ่งค่ำเดือนหก ประชาชนทั่วไปเมื่อทราบว่ากษัตริย์เมืองเหนือได้ติดตามพระโอรสมา และจัดทำพิธีสมโภชรับขวัญ ต่างก็จัดทำอาหารคาว หวาน มาร่วมพิธีกันคับคั่ง พิธีเริ่มวันพุธ แรมหนึ่งค่ำ พระสงฆ์ทำพิธีอันเสร็จพิธีรับขวัญพระหน่อ เมื่อทำพิธีรับขวัญพระหน่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระมหากษัตริย์ทั้งสองจำเป็นที่จะนำพระหน่อกลับเมืองหลวง ซึ่งนำความโศกเศร้าเสียใจแก่ ตา ยาย เป็นอย่างมาก พระราชินีนึกตระหนักถึงความรักที่ ตา ยาย มีต่อพระหน่อ และความจงรักภักดีที่ชาวบ้านมีต่อพระหน่อ พระองค์ท่านซาบซึ้งเป็นที่สุด ก่อนจากไปพระองค์ได้รับสั่งให้นายช่างทำทองตีทองให้แผ่กว้าง แล้วสลักรูปพระหน่อลงในแผ่นทองนั้น มอบให้ตาพรหม และยายจันด้วยความซาบซึ้งน้ำพระทัย พระราชินี ตา ยาย และเรียกแผ่นทองคำสลักพระหน่อว่าเจ้าแม่อยู่หัว เหตุผลเพราะพระราชินีหรือเจ้าแม่อยู่หัวเป็นผู้มอบให้ ส่วนสถานที่สร้างพลับพลาพระราชินีก็ได้ทรงขออนุญาตต่อพระเจ้าอยู่หัวสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นบุญกุศลและมอบให้ชาวบ้านละแวกนั้นที่จงรักภักดีต่อพระหน่อ ชื่อว่าวัดเจ้าแม่ ต่อมาเพื้ยนเป็นวัดชะแม ตำบลดีหลวง มีต้นโพธ์เป็นหลักฐาน บางคนมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ได้ไปบนบานศาลกล่าวที่ต้นโพธ์ดังกล่าวตามหลักฐานในพงศวดารเมืองพัทลุงว่า ในสมัยออกขุนเทพตำรวจเป็นเจ้าเมืองพัทลุง (อำเภอสทิงพระ) มีผู้ศรัทธาสร้างเจดีย์วิหารหลายวัด เช่น พระมหาเทพ สร้างพระวิหารและเจดีย์วัดแจระ(หัวแจระ) พระครูธรรมรังสี ลำราม สร้างพระวิหารวัดเบิก พระครูพิชัย สร้างพระวิหารวัดชะแม พระมหาเถรพรหม สร้างพระวิหารวัดมีไชย (สนามไชย) สร้างวัดท่าทอง หรือวัดทุ่งคุระ เมื่อพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีได้จัดการภารกิจต่าง ๆ ตามประสงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเสด็จกลับพระราชวังพร้อมด้วยพระหน่อ ตาพรหมกับยายจันยังอยู่ที่หมู่บ้านพราหมณ์จันเหมือนเดิม เก็บรักษารูปสลักของพระหน่อในแผ่นทองคำไว้อย่างดีแม้ไม่มีพระหน่อตัวจริงแล้ว ก็ตามแต่ ประชาชนทั่วไปยังให้ความเคารพนับถือบนบานตามที่เคยกระทำมาเหมือนตอนที่พระหน่อยังอยู่และได้รับผลสำเร็จทุกประการ ตา ยาย และชาวบ้านจึงพร้อมใจกันยึดเอาวันพุธแรกข้างแรมเดือนหก ตามที่พระพุทธเจ้าอยู่หัวจัดพิธีสมโภชรับขวัญพระหน่อ กลางคืนมีมโนราห์แสดงให้ชมรุ่งเช้าวันพฤหัสบดี ใครบนบานศาลกล่าวไว้ว่าอย่างไรก็แก้บนเสีย เช่นบางคนบนไว้ รำมโนราห์ บนบวชชีก็แล้วแต่ พระหน่อเจริญวัยคิดถึงตา ยาย ด้วยความกตัญญูกตเวทีและมีพระเมตตาจึงกราบบังคมทูลบิดามารดา เสด็จมาเยี่ยมตา ยาย และจะรับไปอยู่ด้วยในฐานะพระประยูรญาติผู้ใหญ่ในพระบรมราชวังด้วยกษัตริย์ทั้งสองเห็นด้วยกับพระราชโอรสและได้ร่วมเสด็จเยี่ยมตา ยาย ด้วย ตากับยายเมื่อกษัตริย์มาเยี่ยมถึงบ้านรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก ราษฏรทั่วไปก็เผ้ารับเสด็จอย่างพร้อมเพรียง ด้วยความจงรักภักดี พระหน่อได้แจ้งถึงจุดประสงค์ที่มาเยี่ยมครั้งนี้เพราะเห็นว่า ตายายชราภาพมากแล้ว สมควรไปอยู่ที่สบาย ๆ มีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หากปล่อยให้ตา ยาย ยังคงอยู่ในหมู่บ้านพราหมณ์จัน พระองค์จะมาเยี่ยมบ่อย ๆ ก็ไม่สะดวก ตา ยาย รักและหวงแหนแผ่นดินเกิด และญาติพี่น้องสักปานใดก็ตาม แต่เข้าใจในความปรารถนาดีและซึ่งในน้ำใจของพระหน่อที่กตัญญู เลยจำใจต้องรับคำ และก่อนไปตา ยาย จึงทูลขอให้พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีและพระหน่อได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นวัดหนี่งซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านพราหมณ์จัน สลักรูปพระหน่อมาไว้ในวัดโดยให้เจ้าอาวาสและประชาชนในหมู่บ้านช่วยกันรักษา เหตุผลที่ตา ยาย เลือกเอาท่าคุระตั้งวัดเพราะวัดท่าคุระสมัยนั้นสะดวกในการเดินทางลูกหลานฝั่งตะวันตกและตะวันออก ทางใต้ที่รู้กิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่อยู่หัวได้มาร่วมพิธีได้สะดวก เมื่อสร้างวัดและทำพิธีฉลองเสด็จ ตา ยายต้องเดินทางไปอยู่ในเมืองหลวงกับพระหน่อ วัดท่าคุระบางคนเรียกว่า วัดท่าทองบ้าง วัดตา ยาย บ้าง เหตุผลที่เรียกวัดตายาย คงเป็นเพราะตา ยายเป็นผู้ริเริ่มกระมัง นำแผ่นทองคำหล่อพระพุทธรูป ต่อมาด้วยความโลภเป็นแก่ส่วนตัว ผู้ที่เคารพศรัทธาบางคนที่ใกล้ชิดขอตัดแผ่นทองคำคนละนิดละหน่อย เพื่อนำไปบูชาที่บ้านตนเอง หรือบางคนขโมยไปขาย ทำสร้อยคอ ทำกำไล ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน ทำให้แผ่นทองคำนั้นสึกกร่อนลงไปทุกที คนที่นำไปทำเป็น สร้อย ทำกำไล ทำต่างหู ทำให้เกิดแผลพุพอง เน่าเปื่อยตามคอ หู หรือข้อมือ หรือมีเหตุเป็นไปต่าง ๆ นานา เลยทำให้บุคคลเหล่านั้นเกิดความกลัง เลยนำกลับมาไว้ที่เดิม ความทราบถึงพระเจ้าอยู่หัวพระราชินี และพระหน่อ เลยตรัสให้เอาทองคำที่เหลือเหล่านั้น หล่อเป็นพระพุทธรูปเก็บไว้ในผอบอย่างดี ในปีหนึ่งลูกหลานสามารถเห็นพระพุทธรูปแม่เจ้าอยู่หัวได้ครั้งเดียวตอนสรงน้ำ ในวันพุธแรกข้างแรมเดือนหกเท่านั้น ซึ่งทำติดต่อกันมานับร้อยปีมาแล้ว และลูกหลานเจ้าแม่อยู่หัวเราต้องรักษาประเพณีสืบไป ประเพณีงานตายายย่าน งานตายายย่าน คือ งานแสดงความเคารพนบนอบหรือการแสดงความกตัญญูกตเวที ต่อองค์เจ้าแม่อยู่หัว ของวัดท่าคุระ อำเภอสทิงพระ จังวัดสงขลา เมื่อเอ่ยนาม “เจ้าแม่อยู่หัว” วัดท่าคุระ ก็จะรู้จักกันทั่วไปในหมู่บ้านชาวอำเภอระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ และอำเภออื่น ๆ โดยเฉพาะแถบลุ่มทะเลสาบซึ่งเป็นลูกหลานของชาวบ้านท่าคุระ และได้กระจัดกระจายอยู่กันทั่วไป เจ้าแม่อยู่หัว เป็นพระพุทธรูปทองคำ ปางสมาธิหน้าตักกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ส่วนสูงประมาณ 25 เซนติเมตร เป็นสมบัติล้ำค่า บรรพบุรุษเก็บรักษาไว้ที่วัดท่าคุระ เป็นเวลานานหลายชั่วอายุคน ในรอบปีหนึ่ง ๆ เมื่อเวียนมาถึงเดือน 6 ข้างแรมวันนี้จะมีงานเทศกาลประจำปี ชาวบ้านเรียกกันว่า “งานตายายย่าน” เริ่มงานวันพุธตอนบ่าย ด้วยการนำพระพุทธรูปเจ้าแม่อยู่หัวออกสรงน้ำ จากนั้นก็นิมนต์พระสงฆ์สวดสมโภชและแก้บนด้วยวิธีต่าง ๆ และปัจจัยไทยทานทางอื่น ๆ อีกมาก การแก้บนที่สำคัญยิ่ง ซึ่งเจ้าแม่อยู่หัวโปรดมากที่สุดก็คือการรำมโนราห์ถวาย เรียกกันว่ารำโรงครู การรำโรงครูก็คือการรำมโนราห์ ตามแบบฉบับดั้งเดิม เริ่มต้นด้วย ตั้งเครื่องโหมโรงประกาศราชครูรำเบิกโรง – รำแม่บท ออกพราน รำคล้องหงส์ แทงจระเข้ เฆี่ยนพรายและแสดงเรื่องเหล่านี้ คณะมโนราห์ที่แสดงต้องมีความชัดเจนเป็นพิเศษ ในระหว่างการแสดงนั้น ก็มีชาวบ้านซึ่งนับถือกันว่าเป็นลูกหลานของเจ้าแม่อยู่หัว ต่างก็ผลัดเปลี่ยนกันรำแก้บนในโรงด้วย เหล่านี้เป็นกิจกรรมของงาน “ตายายย่าน” ซึ่งชาวบ้านท่าคุระและชาวบ้านอื่น ๆ ต่างยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาทุก ๆ ปี จนกลายเป็นประเพณีสืบเนื่องกันมาช้านาน งานตายายย่าน หรือนัยหนึ่งพิธีการแสดงความเคารพนบนอบต่อเจ้าแม่อยู่หัว เริ่มงานตอนบ่ายวันพุธแรกของเดือน 6 ข้างแรมจะเสร็จพิธีตอนบ่ายวันรุ่งขึ้น โดยเฉพาะวันพฤหัสนั้น จะมีประชาชนจากต่างอำเภอ ต่างจังหวัด ไปร่วมงานเป็นเรือนหมื่น ทุก ๆ ปี เขาเหล่านั้นต่างมีความสำนึกติดแน่นในสายเลือดว่าเป็นลูกหลานของเจ้าแม่อยู่หัวต้องมากันให้ได้เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที ได้พบปะแสดงความรักสามัคคีระหว่างเครือญาติมิตร และที่สำคัญยิ่งก็คือ การรักษาเทิดทูนศิลปะ นาฏกรรมการรำมโนราห์ มรดกทางวัฒนธรรม อันล้ำค่าของชาติไทยเรา มีธรรมเนียมปฏิบัติว่า ลูกชานคนหัวปีของครอบครัวและมีอายุเกิน 14-15 ปี ต้องทำขนมโคมาถวายวัด และเลี้ยงดูญาติมิตร แต่ถ้าเป็นลูกสาวคนหัวปีต้องทำขนมพอง (หรือขนมลา) หากไม่ปฏิบัติตามเจ้าแม่อยู่หัวจะให้โทษถึงเป็นบ้า ง่อยเปลี้ย พิกลพิการ หรือประสบทุกขเวทนาได้
    DSC_0357.JPG DSC_0359.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2023
  7. pnt014

    pnt014 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +310
    จองครับ
     
  8. pnt014

    pnt014 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +310
    จองครับ
     
  9. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11284.พระรอด เนื้อดิน ไม่ทราบกรุ ทางภาคเหนือ เจ้าของเดิมเลี่ยมทอง ***แบ่งให้บูชา 650 บาท****ลดเหลือ100บาท ปิดครับ
    DSC_0137.JPG DSC_0139.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2023
  11. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,021
    ค่าพลัง:
    +6,561
    ขอจองครับ
     
  12. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,021
    ค่าพลัง:
    +6,561
    ขอจอง 11283 ครับ
     
  13. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  14. pnt014

    pnt014 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +310
    จองครับ
     
  15. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ
     
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11285.พระผงของขวัญรุ่นแรก หลวงปู่ทองพูน เขมเปโม สำนักปฎิบัติธรรม ถ้ำจำปาทอง ราชบุรี บูชาแล้วรวย เมตตามหานิยม เงินทองไหลมาเทมา***แบ่งให้บูชา 200 บาท***ลดเหลือ100บาท




    ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.khaosod.co.th/newspaper/newspaper-inside-pages/news_5712163
    DSC_0027.JPG DSC_0028 (1) (2).JPG DSC_0029 (3).JPG
     
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11286.ลูกอมผงยา หลวงพ่อเปิ่น ปี 2533 เนื้อผงยา วัดบางพระ จ.นครปฐม รุ่นสร้างโรงเรียน หายาก น่าบูชามากครับ***แบ่งให้บูชา 200 บาท***ลดเหลือ100บาท
    DSC_0033 (3).JPG DSC_0032 (1).JPG
     
  18. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11286.พระศิวะเนื้อผง ครูบากฤษณะ วัดเวฬุวัน จ.นครราชสีมา ตอกโค๊ต ฝังพลอย สภาพสวย
    ****แบ่งให้บูชา 200 บาท****ลดเหลือ100บาท

    DSC_0024 (4).JPG DSC_0025 (2).JPG
     
  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11287.เหรียญหลวงพ่อฉ่ำ-หลังหลวงพ่อกฤษ วัดท้องคุ้ง รุ่น 2 ปี 2508 จ.สมุทรปราการ เนื้อทองแดง สภาพสวย***แบ่งให้บูชา 350 บาท****ลดเหลือ100บาท
    ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.pradeetae.com/product/เหรียญหลวงพ่อฉ่ำ-2508

    DSC_0390.JPG DSC_0392.JPG
     
  20. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    11288.เหรียญเม็ดแตงลงยาแดง หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม รุ่น เลื่อนยศ รวยเงิน รวยทอง ไม่ผ่านการใช้ ยังไม่แกะซีล****แบ่งให้บูชา 200 บาท ****ลดเหลือ100บาท ปิดครับ
    DSC_0023 (5).JPG DSC_0024 (5).JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2023

แชร์หน้านี้

Loading...