โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

#วิญญาณคนผูกคอตายบนเขา..
ในงานบุญของทางวัดที่ผ่านมา มีลูกศิษย์หลวงปู่มาร่วมงานกันหลายคน แน่นอน..ลูกศิษย์หลวงปู่เมื่อพบกันก็ต้องแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่พบเจอเกี่ยวกับหลวงปู่
มีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่ถ่ายทอดโดยลูกศิษย์หลวงปู่ บ้านอยู่ จ.ระยอง ลูกศิษย์ท่านนี้ได้เล่าว่า..
ตนได้เคยมาขออนุญาตหลวงปู่พักค้างคืนที่วัดหลายครั้ง ได้เจอประสบการณ์มหัศจรรย์หลายอย่าง วันนี้ขอหยิบยกมาเล่าลู่กันฟังสักเรื่อง..
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตนได้มานอนค้างวัด เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ขณะที่นั่งเล่นอยู่ในบริเวณวัด ก็ได้เห็นผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ใส่ชุดขาว ปรากฏตัวอยู่หน้าบันไดทางขึ้นกุฏิเก่าหลวงปู่ ตอนที่เขาเข้ามาก็ไม่รู้ว่ามาจากทางไหน เห็นอีกทีก็ปรากฏตัวอยู่ที่นี้แล้ว แต่ว่าไม่ได้ขึ้นไปบนกุฏิหลวงปู่
แล้วหลวงปู่ก็เปิดกุฏิ แล้วเดินลงมาสนทนากับหญิงคนนั้น ประมาณสัก 5 นาทีเห็นจะได้ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็คุกเข่ากราบหลวงปู่ด้วยความนอบน้อม พอเธอลุกขึ้นยืนเท่านั้น แล้วภาพของหญิงที่ยืนอยู่ต่อหน้าหลวงปู่ก็ค่อยๆจางลงๆ จนหายวับไป แล้วหลวงปู่ก็เดินขึ้นกุฏิไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
ลูกศิษย์ท่านนี้ตกใจต่อภาพที่เห็นอย่างมาก..!!! เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่คนแน่นอน พอเริ่มหายตกใจสักพัก จึงวิ่งขึ้นไปบนกุฏิหลวงปู่ แล้วสอบถามหลวงปู่ว่าสิ่งที่เห็นนั้นคืออะไร หลวงปู่ตอบว่า..
" เห็นด้วยเหรอ.. โฮ่ะๆ เป็นวิญญาณคนผูกคอตายบนเขา.. เขาจะไปเกิดแล้ว ก็เลยมากราบลา.."
ทำให้ลูกศิษย์ท่านนี้นึกถึงเรื่องที่มีชาวบ้านเคยเล่าให้ฟังเมื่อปีก่อนว่า บนเขาเลยวัดหลวงปู่ขึ้นไป มีผู้หญิงเคยมาผูกคอตายอยู่ วิญญาณที่ตนเห็นนี้ ก็คงจะเป็นคนเดียวกันตามที่มีคนเคยเล่าให้ฟัง และตามปกติวิญญาณที่ตายก่อนอายุไขผิดธรรมชาติแบบนี้ จะต้องได้รับกรรมที่ทุกข์ทรมาน นานแสนนานกว่าจะพ้นกรรมที่ทำไว้ แต่คงด้วยอาศัยบารมีของหลวงปู่พิศดูช่วยเหลือไว้ เขาจึงเปลี่ยนภพภูมิได้สูงขึ้นไปรวดเร็วเช่นนี้..
ข้อมูลคุณสิรภพ

 

จะมีพระกี่รูปกันที่เวลาลูกศิษย์พูด หรือนึกถึง ก็จะสามารถรู้ได้ทุกครั้ง
ผู้เขียนกราบพระดีมาเยอะนับเป็นร้อยๆองค์ แต่มาหมดสงสัยในเรื่องญาณทัศนะ(ความรู้แจ้ง)่เรื่องนี้ ก็เพราะได้มาพบหลวงปู่พิศดู จึงได้ยอม และรับใช้ท่านตลอดเวลาในบั้นปลายของสังขารธรรมท่าน อย่าว่าแต่ตัวผู้เขียนเองเลย แม้แต่ลูกศิษย์คนอื่นๆก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ท่านมักพูดเสมอว่า..
" ลูกศิษย์เรา เรามั่นใจว่าเราคุ้มได้หมดทุกคน.. ผ่านมาแล้วมักจะไม่พลาด.."
" จะกราบเรา กราบที่ไหนก็ได้.. แค่คิดถึงก็พอเรารู้.."
คำกล่าวเหล่านี้ก็ไม่ได้เกินจากความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย..
ข้อมูลคุณสิรภพ

 

#วิชาถอนอาถรรพ์และพลิกฟื้นชะตา
ในอดีตองค์หลวงปู่ท่านมีความสนใจและศึกษาวิชาอาคมต่างๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก จนมีความสามารถอย่างหาผู้เทียบได้ยาก ไม่ว่าวิชาใดๆท่านก็รู้แทบทั้งหมด แม้แต่บวชเป็นพระภิกษุแล้วก็ยังคงศึกษาอยู่บ้าง ภายหลังพอได้ศึกษาธรรมท่านก็ละเลิกในวิชาทั้งหมด หันมาเอาดีฝักใฝ่ในทางปฏิบัติ
องค์หลวงปู่ท่านมีสรรพวิชามากมาย เป็นการยากที่เราจะไปล่วงรู้และทราบได้หมด และท่านไม่ค่อยแสดงให้ใครรู้ ท่านชอบทำตัวธรรมดาๆ ให้คนเห็นว่าท่านเป็นพระไม่มีอะไร และชอบอยู่แบบสมถะวิเวก สมัยก่อนวันๆท่านจะอยู่กับสุนัข แมว ไก่ และจะสวดมนต์ เดินจงกรมทั้งวันไม่ค่อยนอนจำวัด.. แต่ถ้ามีลูกศิษย์คนไหนมีเรื่องเดือดร้อนมาให้ช่วยเหลือท่านจะช่วยเต็มที่
มีอยู่ครั้งนึง มีลูกศิษย์ของหลวงปู่ได้มาหาแล้วบอกท่านว่า ที่บ้านของเพื่อนเขาเป็นอะไรไม่รู้ รอบๆบ้าน ดินบริเวณนั้นจะปริแตก และมีสิ่งแปลกปลอมขึ้นมา คล้ายๆกับเป็นน้ำเลือดน้ำหนองผุดขึ้นมาจากใต้ดินทุกวัน และมีกลิ่นเหม็นเน่า ตั้งแต่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ครอบครัวก็ประสบปัญหาต่างๆนาๆ ธุรกิจการงานก็ไม่ดี คนในบ้านก็เจ็บไข้ตามกัน ทุกคนกลัวมาก ไปหาหมอดู ร่างทรง และที่วัดอื่นๆก็ไม่ได้ผล..ฯลฯ ไม่ทราบว่าเป็นอะไร.. จึงขออาราธนานิมนต์หลวงปู่ไปช่วยเพื่อนด้วยครับ พอองค์หลวงปู่ได้ฟังดังนั้นท่านก็บอกว่า " ให้พาเราไปที่นั้นหน่อย "
พอไปถึง เจ้าของบ้านเห็นพระมาโปรดก็ดีใจเป็นอย่างมาก เข้ามากราบที่เท้า และขอร้องให้องค์หลวงปู่ท่านช่วย พอองค์หลวงปู่มาเห็นสถานที่ ท่านก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แค่สั่งให้เตรียมน้ำใส่ภาชนะมาให้ท่านแล้วตั้งไว้เฉยๆ ส่วนท่านก็ถือไม้เท้า และเดินสวดมนต์ให้รอบๆบริเวณบ้านประมาณ 3 รอบ ปรากฏว่าตรงบริเวณพื้นที่ๆมีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นนั้น ได้มีควันพวยพุ่งขึ้นคล้ายๆควันไฟบางๆ พอท่านเดินสวดมนต์เสร็จ ท่านก็สั่งให้เอาน้ำที่เตรียมไว้ไปรยรอบๆบ้าน เสร็จแล้วท่านก็มอบไม้เท้าที่ท่านถือมาสั่งให้วางบูชาไว้ที่หน้าบ้าน เพียงแค่นี้ (ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับท่านเลย..)
นับตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่ปรากฏมีสิ่งแปลกปลอมใดๆเกิดขึ้นอีกเลย ชีวิตและการงานในครอบครัวทุกอย่างก็คืนสู่ความเป็นปกติ ซึ่งนอกจากหลวงปู่ท่านจะทำพิธีถอนอาถรรพ์ดังกล่าวให้แล้ว ท่านยังทำพิธีป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้กลับมาเกิดขึ้นอีก เรียกได้ว่าหลวงปู่ท่านช่วยทั้งป้อง(กัน)และปราบ และท่านยังสามารถพลิกฟื้นชะตาชีวิตคนทั้งบ้านให้กลับดีขึ้นมาอีกครั้ง
( Cr.sira pop )
และขอบพระคุณลุงนี ผู้ถ่ายทอดประสบการณ์เรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อน

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า

 

ศาลา ๑๐๐ ปี ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง
ทาสีรองพื้นเรียบร้อย และเดินสายไฟเสร็จทั้งหลังแล้ว รอติดตั้งชุดอุปกรณ์ไฟฟ้า ตีฝ้า และปูพื้นต่อไปครับ...
หลังเสร็จงานทอดกฐินวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ทางวัดจะนำเงินไปจ่ายค่าแรงช่าง ขอเชิญทุกท่านร่วมบุญกฐินกันครับ ศาลาหลังนี้สร้างโดยพวกเราคณะศิษย์ผู้ศรัทธาองค์หลวงปู่พิศดูทุกคน เพื่อบูชาคุณองค์หลวงปู่พิศดูครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ..

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ขนาดพระรูปหล่อที่ระลึก 100 ปีชาตกาล หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี
สูง 2.6 ซม.
กว้าง 1.6 ซม.
หนา 1.2 ซม.
เปิดให้จองร่วมบุญ วันที่ 14 พ.ย. 2566 เวลา 12.30 น. ในกลุ่ม วัดเทพธารทอง หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี

https://www.facebook.com/groups/Luangbhoopitsadoo/posts/2788474371352475

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

พระปัจเจกสีเขียวหลังปั๊มยันต์(มีน้อยครับที่มีปั๊มยันต์)+รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่พิศดู (ตาข้างซ้ายความคมชัดน้อยกว่าด้านขวานะครับ)บูชา x,xxx บาท ปิดแล้วครับ

 

ed737186130th จรเข้บัว

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

#นิมิตเห็นหลวงปู่ทั้งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน..
ผมได้รับฟังประสบการณ์นี้จากปากผู้มีประสบการณ์ตรง ท่านนี้ชื่อ คุณลุงฐา
ลุงฐาท่านนี้เดิมเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกๆ ที่ได้เรียนวิทยาคมจากอาจารย์ชุม ไชยคีรี ฆราวาสจอมอาคมสายเขาอ้อ ต่อมาลุงฐาได้ผันตัวเองเข้ามาสู่การถือศีล ปฏิบัติกัมมัฏฐานอย่างจริงจัง โดยฝากตัวรับใช้ท่านพระอาจารย์น้อง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่พิศดูอีกรูปหนึ่ง
พระอาจารย์น้องเป็นพระผู้เคร่งครัดในการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน มักถือธุดงควัตรตามปฏิปทาขององค์หลวงปู่พิศดู ซึ่งคุณลุงฐาก็ได้เคยติดตามพระอาจารย์น้องเข้าป่าธุดงค์ด้วยหลายครั้ง ได้พบเจอประสบการณ์ดีๆจากพระอาจารย์มากมาย และยังได้เรียนกัมมัฏฐานกับพระอาจารย์น้อง จนจิตมีความเจริญก้าวหน้า เกิดมีญาณความรู้แปลกๆบางอย่างขึ้นมาโดยลำดับ ลุงฐาเคยเล่าว่า.. ได้ฝึกมโนมยิทธิกับพระอาจารย์น้อง จนจิตเคลื่อนออกจากกายเนืัอไปกราบพระบนพระจุฬามณีมาแล้ว
มีอยู่วันหนึ่ง ณ ป่าใหญ่ใน จ.ชัยภูมิ ขณะที่ลุงฐาได้เจริญกัมมัฏฐานจนจิตสงบผ่องใส ก็ปรากฏว่าได้นิมิตเห็นพระชรารูปหนึ่งอยู่กับพระอาจารย์น้องตลอดเวลา คล้ายกับท่านคอยมาคุ้มครองพระอาจารย์อยู่ตลอด บางครั้งหลับตาก็เห็น ลืมตาก็เห็น พอสบโอกาสจึงได้เอ่ยปากถามพระอาจารย์น้องว่า..
พระอาจารย์ครับ ขณะที่ผมภาวนาอยู่ ผมเห็นมีพระชรารูปหนึ่ง อยู่กับพระอาจารย์ตลอดเวลา ไม่ทราบว่านิมิตที่ผมเห็นนั้นจริงหรือไม่ ถ้าจริงท่านคือใครหรือครับ..
พระอาจารย์น้องได้ฟังก็ ยิ้ม.. แล้วตอบว่า
" โยมฐานี่ตาดีเหมือนกันนะ ท่านเป็นอาจารย์ของอาตมาเอง ท่านชื่อหลวงปู่พิศดู อยู่ที่จันทบุรี.. "
แล้วหลวงปู่ท่านยังอยู่ไหมครับ..?
" ท่านยังอยู่นะ (ประมาณปี 2547) อยากจะไปหาท่านไหม เดี๋ยวเราจะธุดงค์ไปกราบท่านที่จันทบุรีกัน.."
ทำให้คุณลุงฐาปีติมาก ที่พระอาจารย์ได้รับรองถึงนิมิตที่แกเห็น และพระอาจารย์ยังจะพาธุดงค์ไปกราบนมัสการหลวงปู่พิศดูอีกด้วย และทำให้คุณลุงฐาอัศจรรย์ใจ ในจิตของพระอริยะเจ้า ที่แม้จิตท่านยังครองสังขารอยู่ แต่ก็ยังสามารถแบ่งจิต เจตสิก มาดูแลลูกศิษย์ได้มากมายและตลอดเวลาเช่นนี้..
( โปรดติดตามต่อตอนที่ 2 )
Sira Pop