ผลเสียของการฝึกสมาธิโดยไม่ทำวิปัสสนา

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย solardust, 24 สิงหาคม 2023.

  1. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า

    คือสมัยหนุ่มๆนะครับ ผมจะมีอาการคล้ายโรคจิตชอบทำลายข้าวของแบบไม่มีสาเหตุ มีอาการเหมือนอยู่ดีๆก็จะต้องเดินไปรอบๆบ้าน ทุ่มโต๊ะ คว่ำเตียง
    ทุบกระจก เอาจานชามมาเขวี้ยงลงพื้นให้แตกกระจายไปทั่ว จนสบายใจแล้วก็เดินออกไปรีแลกส์ข้างนอก ตกเย็นก็มาเก็บมาซ่อมทุกอย่างให้เข้าที่เหมือนเดิม
    ผมอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดนะครับ ไม่มีใครรู้ว่าผมมีอาการแบบนี้

    ตัวเองก็ไม่ได้สังเกตุว่าเป็นเพราะอะไร ตอนนั้นเข้าใจว่าน่าจะเครียดจากอะไรซักอย่างที่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่ามันคือเรื่องอะไร แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะไม่มีใครเดือดร้อน
    จนวันนึง ท่านตามาค้างด้วย พอไม่มีใครอยู่ด้วยอาการก็กำเริบขึ้นมาอีก พังข้าวของทุกอย่างในห้องแล้วก็ออกไปเดินเล่น
    ทีนี้ เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เป็นเรื่องขึ้นมา ปรกติทำลายข้าวของเช้า เย็นกลับมาซ่อม ไม่มีใครรู้เรื่อง แต่คราวนี้ท่านตาเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ที่บ้านฟัง งานนี้รู้กันทั้งบ้าน

    คนที่บ้านก็พยายามถามว่า โกรธอะไร ไม่พอใจอะไร ทำไมถึงต้องทำลายข้าวของขนาดนี้
    ไอ้เราก็พยายามนึก แต่ก็นึกไม่ออก ก็ไม่ได้โกรธอะไร แค่มีความรู้สึกว่าอยากทำลายของรอบๆตัว ก็แค่นั้น สาเหตุก็ไม่มีด้วย
    พอไม่มีคำตอบให้ แถมอยู่คนละจังหวัด คนถามก็ค่อยๆเลิกถามไปเอง แต่ตัวเองยังถามตัวเองอยู่ทุกบ่อยว่า เกิดอะไรขึ้นกับเรา

    จนวันนึง ไปอ่านเจอหนังสือเกี่ยวกับ คนที่นุ่งขาวห่มขาวฝึกสมาธิอยู่ในวัด แล้วมีคนมาบ่นกับพระในวัดว่า ทำไมคนโน้นยิ่งฝึกสมาธิแล้วยิ่งปากจัด ทำไมคนนั้นยิ่งฝึกสมาธิแล้วยิ่งงก
    (ผมจำไม่ได้นะครับว่า เรื่องที่วัดไหน หนังสืออะไร มันนานมากแล้ว แต่พระหลายองค์ที่ท่านสอนสมาธิควบวิปัสสนาด้วย ท่านก็จะสอนแบบเดียวกันนี่แหละ)

    พระท่านก็อธิบายว่า พอจิตเราเป็นสมาธิ จิตเราจะมีกำลัง กิเลสทุกตัวที่เกาะจิตเราอยู่มันก็จะมีกำลังตามไปด้วย นิสัยเสียๆทั้งหลายมันจะมีกำลังเพิ่มพูนขึ้นแล้วก็วิ่งเพ่นพ่านออกมาแบบนี้แหละ
    ให้แก้ด้วยการทำวิปัสสนา โดยหลังจากออกจากสมาธิมาแล้วก่อนจะลุกไปทำอย่างอื่นให้ตบท้ายการฝึกสมาธิด้วยการทำวิปัสสนาทุกครั้ง แล้วค่อยลุกจากบัลลังค์สมาธิ

    ผมในสมัยนั้นฝึกสมาธิตลอด ตอนนอนก็เข้าสมาธินอน ไม่เคยทำวิปัสนา เวลาเข้าสังคมก็แข็งไม่แคร์ใคร เวลาอยู่คนเดียวก็ทำลายข้าวของแบบไม่รู้สาเหตุไปเรื่อย
    เข้าใจว่าปัญหาน่าจะมาจากโทสะเป็นตัวหลัก

    จากนั้นก็ไปหาหนังสือมาอ่านว่าที่ว่าทำวิปัสสนานั้น เค้าทำกันยังไง จนจับใจความได้ว่าถ้าเรารู้ว่าเรายึดติดกับอะไรในโลกนี้ ก็ยกสิ่งนั้นมาเทียบกับหลักไตรลักษณ์จนใจมันคลายความยึดติดลง
    จิตที่มีกำลังเพิ่มจากการฝึกสมาธิ พอเอามาทำวิปัสนา กำลังที่สั่งสมมาก็ถูกใช้ออกไป กิเลสที่เกาะอยู่ในใจก็ไม่มีกำลังออกไปเพ่นพ่านให้รกหูรกตาชาวบ้าน อาการที่เป็นอยู่ก็จะดีขึ้นเอง
    จากนั้นเป็นต้นมาผมก็ทำตามที่ในหนังสือแนะนำมาเรื่อย จนวันนึงมานึกขึ้นได้ว่า เอ๊ะนี่มันหลายปีดีดักแล้วนะเนี่ย ไม่เคยทำลายข้าวของเลย คุยกับใครก็อารมณ์ดีมีเรื่องให้หัวเราะตลอด

    ใครที่ฝึกสมาธิอย่างเดียว ไม่ฝึกวิปัสสนา แล้วมีอาการข้างเคียงแบบที่ผมเคยเป็น ก็ลองแก้ด้วยวิธีนี้ดูนะครับ
     
  2. Jerusale

    Jerusale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +172
    ของผมไม่เป็นครับ ปกติดีมาก ผมนั่งสมาธิมา เกือบ 20 ปีแล้ว ผมฝึกสายหลวงพ่อวิริยังค์ ครับ มีแต่ใจเย็นลง อันไหนตัดได้ก็ตัดไม่ค่อยอะไรเลย ชอบอยู่เงียบๆคนเดียว ขนาดที่ว่าแฟนแอบมีคนใหม่ ผมยังเฉยๆ เลยปล่อยไปเลยตามสบาย เซ็นยกรถให้เป็นคันๆเลยไม่มีความเสียดายเลย ทุกวันนี้อยู่คนเดียว ใช้ชีวิตเรียบๆ อะไรมันก็ไม่ยั่งยืน มีเกิดก็มีดับ มีพบก็มีจาก เป็นของคู่กัน เตรียมตัวพร้อมตายได้ตลอดเวลา ไม่นึกเสียใจอะไรแล้วเฉยๆ มากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...