หลวงปู่อินตอง สุภวโร วัดวีระธรรม อ.พังโคน จ.สกลนคร

(องค์ที่ 102)
.
หลวงพ่อทองสุข วัดพิกุลทอง จ.นนทบุรี
.
วันเสาร์ ที่ 27 สิงหาคม 2565
.
เลิกงานมาก็เดินทางมากราบทำบุญกับหลวงพ่อทองสุข
ครั้งนี้พิเศษหน่อยนำมวลสารบางส่วนมาขอเมตตาอธิษฐานจิต
พอท่านอธิษฐานจิตโดยการสวดมนต์สืบชาตาใหัและประพรมน้ำมนต์เสร็จ

หลวงพ่อทองสุข : ดีๆ มีพลัง ตอนสวดแล้วรับรู้เลยมีพลัง ดีๆของดี มีไปเสกมาแล้วหลายที่เลยนิ

หลังจากนั้นท่านก็มอบกล้วยและน้ำมนต์77จังหวัดให้ และบอกของเหล่านี้เสกจากวัดพระแก้วและในวัง ผมก็เลยแจ้งท่านว่าเดี๋ยวจะนำมาเป็นมวลสารนะครับ ท่านก็ยิ้มบอกดีๆ ของเสกจากวัดพระแก้วและจากในวังมาแลัว

 

หลวงพ่อทองสุขกำลังประพรมน้ำมนต์ใส่กองมวลสาร

 

หลวงพ่อทองสุข ได้มอบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ 77 จังหวัด และกล้วยน้ำว้า ที่ปลุกเสกเรียบร้อยแล้วที่วัดพระแก้ว และเสกจากในวังแล้วเช่นกัน

 

พุทธังฦๅสาระพัดฦๅ ฦฦๅ ฤฤๅ ฦๅไปทั่วทั้งเมือง
นะฦๅกระเดื่องดังกะดอนสะท้อนทั่วทั้งพระธรณิน ฯลฯ..
.
.
.
อ.หมานส่งภาพแผ่นจารยันต์เนื้อเงินในชุดพิเศษให้ชม ตะกรุดเนื้อเงินจะจารยันต์ นะฤาชา
แผ่นจารยันต์เหล่านี้จะตีเป็นช่องๆ แล้วเดี๋ยวไปตัดเพื่อม้วนเป็นตะกรุด จารมือทุกดอกครับผม

แค่ตะกรุดก็ขลังแล้ว

 

ตะกรุดแม่ทัพ วัดซับลำใย ที่พระอาจารย์ตั้วสร้าง หลวงปู่หมุนเสก ตะกรุดดอกยาวพระอาจารย์ตั้วให้อ.หมานจารให้

 

ที่ผมพยายามเชื่อมข้อมูลให้ทุกท่านได้เห็นว่า อ.หมานที่ผมขอเมตตาให้มาช่วยงานบุญถวายหลวงปู่บุญส่งและหลวงปู่อินตองจารแผ่นยันต์เพื่อม้วนเป็นตะกรุดฝังในองค์พระนั้น ผมไม่ได้หาใครก็ได้มาจารสั่วๆไปแบบนั้น แต่ผมคัดกรองและมั่นใจแล้วว่าท่านเก่งจริง และมีดีจริง
.
หลายคนอาจทราบว่า อ.หมานท่านศึกษาวิชากับพระอาจารย์ตั้ว วัดซับลำใยอยู่ 5 ปี จนพระอาจารย์ตั้วมรณภาพ และได้มีช่วยจารตะกรุดให้พระอาจารย์ตั้วบ้าง ถ้าพระอาจารย์ตั้วไม่มั่นใจก็คงไม่ให้อ.หมานจารตะกรุดช่วย
.
ส่วนวิชาสายในดง ทำไมอ.หมานถึงได้เรียนวิชาสายในดงได้ อันนี้คือข้อมูลครับผม อ.หมานได้สมัครเรียนคอร์สกับศิษย์วิชาสายในดง

 

อ.หมาน แจ้งมาล่าสุด อ.คาดการณ์ว่า

ทองแดง 147แผ่น ตี13ช่อง น่าจะได้ 24,843 ดอก
ทองเหลือง 148แผ่น ตี13ช่อง น่าจะได้ 25,012 ดอก
เงิน 49แผ่น ตี10ช่อง น่าจะได้ 4,900 ดอก
.
.
ส่วนแบบจารพิเศษ ได้ แบบละ 507 ดอก

 

(องค์ที่ 103)
.
หลวงปู่นิ่ม โชติธัมโม วัดพุทธมงคล (หนองปรือ) จ.สุพรรณบุรี
.
วันอาทิตย์ ที่ 4 กันยายน 2565

ออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่ตี 5 เดินทางไปตระเวนทำบุญ ไปถึงวัดแรกก็เข้ากราบหลวงปู่นิ่ม นำชุดสังฆทาน น้ำดื่ม ผ้าขาวงานกฐินพร้อมปัจจัย และอาหารถวายแด่หลวงปู่นิ่ม และผมได้นำมวลสารติดไปบางส่วนด้วย จึงขอเมตตท่านอธิษฐานจิตมวลสาร

หลังจากท่านอธิษฐานจิตเสร็จก็ปะพรมน้ำมนต์ใส่มวลสาร แล้วก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ดี ดี ดี"

 

(องค์ที่ 104)
.
หลวงพ่อบุญค้ำ วัดชัยเภรีย์ จ.สุพรรณบุรี
.
เดินทางมาวัดชัยเภรีย์ นำชุดสังฆทาน ผ้าขาวงานกฐินพร้อมทั้งปัจจัย พระบูชาตั้งหน้ารถหลวงปู่บุญส่งและอาหารมาถวายแด่หลวงพ่อบุญค้ำ ท่านมีเมตตามากมาย นั่งสนทนากับท่านเป็นชั่วโมง ก่อนจะขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตมวลสาร ท่านถามข้างในเป็นอะไร บอกว่าส่วนใหญ่เป็นผงต่างๆที่พ่อแม่ครูอาจารย์มอบให้มาร่วมบุญ กับบางทีก็มีคนนำมาร่วมบุญด้วย น้ำมัน
.
แล้วท่านก็เอ่ยว่าพวกเซียนมาขอท่านสร้างบ่อย แต่ท่านปฏิเสธไปหมด แล้วท่านก็มาคุยเรื่องนกสาริกาให้ฟัง ท่านบอกว่าท่านเรียนวิชานกสาริกามาจากหลวงปู่เคน วัดเขาอีโต้ แต่ยังไม่เคยนำมาสร้างเลย ว่าจะสร้างไว้งานกฐินเดือนหน้านี่แหละ เธอมาสร้างนกสาริกาให้เราหน่อยสิ ขอเป็นเนื้อผงน้ำมันนะ ถ้าเป็นเนื้อผงมันจะร่อยง่ายมาก โดยเฉพาะตรงปากจงอยของนกสาริกา ต้องเป็นผงน้ำมันจะแข็งแกร่งกว่า
.
ตอนท่านเอ่ย ก็นึกในใจว่า ทำไมหลวงพ่อมาคุยเรื่องนกสาริกาหว่า หรือจะให้เราสร้างวะ แต่คงไม่หรอก ผมเพิ่งเคยมาวัดท่านครั้งแรก และก็เคยเจอท่านครั้งนี้เป็นครั้งแรกด้วย แต่พอท่านเอ่ยมา ผมก็ตกใจระคนแปลกใจ ในใจลึกๆก็ดีใจ แต่ในใจอีกส่วนนึงก็เกิดความกังวลใจเพราะจริงๆผมเคยสร้างพระมาแค่ 2 ครั้ง ถวายหลวงปู่หงวย กับหลวงปู่บุญส่ง ผมไม่ได้มีความเข้าใจหรือเชี่ยวชาญในการสร้างพระ ที่มาสร้างพระเพราะแค่อยากหาปัจจัยมาช่วยงานหลวงปู่...ก็แค่นั้น
.
แต่พอท่านเอ่ยมา ผมก็รับปาก ก็ดีใจแต่ก็มีเครียดพอสมควร หลังจากนั้นตลอดเวลาที่นั่งคุยกัน แต่ในสมองผมคิดถึงแต่ว่าต้องทำอะไรยังไงบ้างหว่า การสร้างนกสาริกาเนี่ย
.
หลวงพ่อก็เอ่ยว่าขอขนาดเล็กลงจากนกสาริกาตัวอย่างนะ
และท่านก็กำหนดขนาดมาให้ สูง 2 ซม. ฐานยาว 1 ซม. ฐานกว้าง 0.5 ซม. ขอเป็นเนื้อผงน้ำมัน
ที่ฐานมีตัวหนังสือเป็นภาษาขอม ฝั่งนึงเขียน กาสาวะสา อีกฝั่งเขียน นะมะพะทะ ด้านหน้าเขียนภาษาไทย คำว่า "ค้ำ"

งานกฐินวัดจัดวันอาทิตย์ 30 ตุลาคม ยังไงก็ควรมาก่อนงานกฐินนะ ผมก็รับฟังและบอก ครับๆ
ก็นำ นกสาริกาออกไปถ่ายรูปเพราะหลวงพ่อบอกว่า นกสาริกาองค์นี้มีเจ้าของเอากลับไปเป็นตัวอย่างไม่ได้ เลยต้องนำไปถ่ายรูป แล้วเดี๋ยวท่านจะให้ผงสาริกาไปเป็นมวลสารใส่ในนกสาริกา

หลวงพ่อบุญค้ำบอกว่าการสร้างนกสาริกานั้น คนบูชาไปแล้วดี คนสร้างก็ได้บุญด้วย อย่างเช่น ถ้าคนบูชานกสาริกาเกิดถึงคราววันนี้ แต่นกสาริกาช่วยคุ้มครองทำให้เค้าอยู่รอด แม้จะต้องตายในวันพรุ่งนี้ แต่ส่วนนี้คนสร้างก็ได้บุญ ที่ช่วยเหลือให้คนบูชารอดแล้ว

หลังจากนั้นหลวงพ่อบุญค้ำก็เมตตาแปะแผ่นทองให้ แผ่นทองของท่านไม่ได้แปะที่หน้าผากเรา แต่ก็คืออยู่ในแผ่นกระดาษตามปกติ ท่านให้เราเอามือจับแผ่นทองไว้ ตอนที่จับให้อธิษฐาน 1 เรื่อง และท่านก็เป่าพรวดเดียว ....ทองหายเลยครับ.... ใช่ครับ แผ่นทองคำเปลวที่อยู่ในกระดาษทองคำเปลว...หาย สุดยอดจริงๆ แล้วก็จึงลาท่านกลับเพื่อไปทำบุญที่วัดอื่นต่อ และจะได้กลับมาเตรียมงานบุญที่ท่านเมตตามอบงานมาให้ทำ

 

เรื่องราวคร่าวๆของหลวงปู่นิ่ม
.
หลวงปู่นิ่ม เป็นเจ้าตำรับปูเรียกทรัพย์ ใครได้ใช้ปูของท่านรับรอง “รวย” ใครได้พกติดตัว เงินทองไม่รู้มาจากไหน โชคลาภมีไม่ขาด ย้ำด้วยประสบการณ์ชาวเขมร มาบูชาปูของท่านไปเข้าบ่อนชายแดนเล่นการพนัน “ได้”ทุกที จึงมี คนจีน มาเล สิงคโปร์ มาบูชาปูหนีบทรัพย์กันมาก ถึงมากที่สุด ย้ำอีกทีว่า “ปูหนีทรัพย์” ของหลวงปู่ ไม่เคยค้างที่ตู้วัตถุมงคลของวัดพุทธมงคลนานๆเลย สร้างไว้กี่รุ่นเดี๋ยวเดียวหมด ทุกวันนี้ที่วัดพุทธมงคลก็ไม่มีปูเรียกทรัพย์ให้บูชาซักตัว

เศรษฐีใหญ่ ๒ ท่าน เป็นชาวสุพรรณ ๑ ท่านและ คน “ก.ท.ม. ” อีกท่านรวยเป็นสิบๆล้านย้ำว่า “รวยเป็น ๑๐ ๆ ล้าน ”เพราะปูหนีบทรัพย์ ของหลวงปู่นิ่ม ได้ขออนุญาตหลวงปู่สร้างปูหนีบทรัพย์ใหญ่ถวายไว้หน้าวัดให้เป็นที่ระลึกชั่ว ลูกชั่วหลานว่าวิชาปูหนีบทรัพย์ที่ว่า “ยอดเยี่ยมที่สุด”อยู่ ที่นี่ และ เป็นการสร้างปูหนีบทรัพย์ใหญ่คู่วัดช่วยทุกคนที่มากราบไหว้ได้ขอโชคขอลาภ ขอให้พญาปูช่วยให้ร่ำรวย เป็นเศรษฐีเหมือนคนทั้งหลายที่ใช้ปูหนีบทรัพย์ของหลวงปู่ทุกคน ต่อไปเบื้องหน้าหลวงปู่ไม่อยู่แล้ว ใครอยากให้ปูหนีบทรัพย์ช่วยจะได้มาบูชาปูหนีบทรัพย์ “ยักษ์” องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่อยู่หน้าวัดพุทธมงคลแห่งนี้

 

หลังจากนั้นก็ขับรถจะไปกราบพระอาจารย์อดิเรก (สืบตำราวิชาจากหลวงปู่ศุข,หลวงปู่อิ่ม,หลวงพ่อมุ่ย) วัดหนองทราย อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณ แต่พอดีระหว่างทางเห็นป้ายวัดตรีวิสุทธิธรร ซึ่งเพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่า อยากมากราบองค์นี้นานแล้วแต่ไม่เคยได้มากราบ ก็เลยหักรถเข้าไปในวัด

ไปถึงก็สอบถามแม่ชี แม่ชีบอกว่านี่กำลังจะมีรอบขึ้นไปกราบ รีบๆเลย ก็เลยจัดการขั้นตอนต่างๆตามกฏของวัด และก็นำอาหารขึ้นไปถวายหลวงพ่อไก่ เป็นบุญแบบงงๆ โดยไม่ได้อยู่ในแผน เจ๊อะแบบฟลุ๊คๆ แต่ก็รีบคว้าบุญไว้ทันที

บุญจัดสรรโดยแท้

 

ขับรถมาถึงวัดหนองทราย เห็นทางวัดกำลังจะมีการจัดพิธีพุทธาภิเศกรอบบ่าย พระอาจารย์ดิเรกกำลังขึ้นฉันอาหารเพล ก็เลยตัดสินใจไม่เข้าไปกราบเพราะวันนี้ท่าทางที่วัดจะงานยุ่ง

พระอาจารย์อดิเรก (สืบตำราวิชาจากหลวงปู่ศุข,หลวงปู่อิ่ม,หลวงพ่อมุ่ย)

 

ต่อมาก็ขับรถมาวัดหนองผักหนากเพื่อจะเข้ากราบทำบุญกับหลวงพ่อดุ๋ย แต่พระในวัดแจ้งว่าหลวงพ่อดุ๋ยอาพาธ พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสามชุก จึงได้ขับรถมาวัดทุ่งสามัคคีธรรม เพื่อจะเข้ากราบสรีระสีทองสองครูบาอาจารย์สายวัดสังฆทาน

พอเข้าไปในวัดจึงนำมวลสารตั้งไว้หน้าสรีระสังขารของหลวงปู่มหาทอง และ หลวงพ่อสังวาลย์ เพื่อขอเมตตาอธิษฐานจิตมวลสาร ทั้งบอกกล่าวว่าจะนำมวลสารไปทำอะไร แล้วก็ไปทำบุญกับทางวัดนำชุดสังฆทานมาตั้งหน้าสรีระหลวงพ่อสังวาลย์เพื่อทำบุญ

 

วัดทุ่งสามัคคีธรรม

 

(องค์ที่ 105)
.
หลวงปู่ปั่น วัดเนินมหาเชษฐ์ จ.สุพรรณบุรี (ศิษย์หลวงพ่อมุ่ย ดอนไร่) (ตำราลพ.มุ่ยอยู่ที่นี่)
.
ออกจากวัดทุ่งสามัคคีธรรมก็เดินทางมาวัดเนินมหาเชษฐ์เพื่อจะเข้ากราบหลวงปู่ปั่น

พอเจอท่านก็กราบขอเมตตานำน้ำดื่ม ชุดสังฆทาน ปัจจัยถวายแด่ท่าน และขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตมวลสาร
เมื่อท่านทราบท่านก็ลุกขึ้นไปแต่งตัวและเดินหาของอยู่นานสองนาน พอทำบุญกับท่านเสร็จ ก็รอท่านเมตตาอธิษฐานจิตมวลสาร แต่ท่านมอบถุงให้และบอกว่าในนี้เป็นมวลสารที่เราเอามาจากถ้ำ

หลังจากนั้นท่านก็สอบถามว่าในนี้มีมวลสารอะไรบ้าง ผมก็บอกกล่าวท่านว่ามีผงต่างๆที่พ่อแม่ครูอาจารย์มอบร่วมมาทำบุญ และก็หยิบแต่ละอย่างให้ท่านชม ท่านก็เพ่งพินิจอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า มวลสารที่อยู่ในนี้แต่ละอย่างก็มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวแล้ว ของทนสิทธิ์บางอย่างก็เข้มขลังในตัวของเค้าเองแล้ว และท่านก็ยิ้มๆ

จากได้พูดคุยกับท่านอยู่สักพัก ภายนอกท่านเหมือนดุ นิ่ง แต่ความจริงท่านมีเมตตาที่แอบซ่อนอยู่ ขอกราบขอบคุณในความเมตตาของท่านที่เมตตามอบมวลสารมาร่วมบุญครับผม

 

ออกจากวัดเนินมหาเชษฐ์ ก็มุ่งหน้าขับรถมาวัดดอนไร่ ระหว่างทางที่กำลังขับรถอยู่ อยู่ดีๆเจองูเลื้อยตัดหน้ารถ เป็นงูสีเขียวตัวยาวๆ ผมไม่สามารถเบรครถทัน เลยมองไปที่กระจกหลัง เห็นงูนอนดิ้น ซึ่งก็แปลว่าผมขับรถทับเค้า ทำให้รู้สึกว่าจิตตกมากมาย กำลังจะเป็นทริปที่ดีอยู่แล้วเชียว ก็ได้แต่ขอขมาและสวดแผ่เมตตาให้เค้า เพราะไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร เรียกว่าผมแทบไม่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมานานแล้ว ครั้งนี้ไม่ทันจริงๆ

ก็ขับรถมาถึงวัดดอนไร่ ก็เข้ากราบและหยอดเงินทำบุญ รวมทั้งนำมวลสารไปวางไว้ที่หน้าสรีระหลวงพ่อมุ่ย และบอกกล่าวถึงเหตุที่มาและจะนำมวลสารไปทำอะไร แล้วก็กล่าวขอเมตตาหลวงพ่อมุ่ยเสกมวลสารให้มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์

พอกราบเสร็จก็เที่ยงกว่า พอดีมีร้านอาหารตามสั่งหน้าวัด เลยได้พักกินข้าวมื้อแรกของวัน

 

ทานข้าวเสร็จก็ปฏิบัติภารกิจต่อ ขับรถเดินทางมา สักการะหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา อาจารย์ลพ.มุ่ย (1ใน3อาจารย์ใหญ่สุพรรณ) (มีแม่นางกวักศักดิ์สิทธิ์มาก) วัดหัวเขา อ.สามชุก จ.สุพรรณ

ก็เลยเดินไปที่ศาลาที่ประดิษฐานแม่นางกวัก และจุดธูปบอกกล่าวหลวงพ่ออิ่ม และแม่นางกวัก บอกกล่าวถึงเหตุที่มาและขอเมตตาเสกมวลสารให้มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจะนำไปสร้างประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนา แล้วก็หยอดเงินทำบุญ

จุดธูปบอกกล่าวเสร็จ ก็สวดคาถามตามแผ่นป้าย หลังจากนั้นก็นำมวลสารขึ้นรถ อยู่ดีๆฝนก็เริ่มลง ดีที่ขึ้นรถทัน ฝนก็ตกมาตู้มอย่างหนัก เลยขับรถออกจากวัด พอขับออกมานอกบริเวณวัด ไม่มีฝนสักเม็ด เลยหันไปมองในวัด ฝนตกแค่ในบริเวณวัด ก็เลยไม่ทราบว่า หรือหลวงพ่ออิ่ม และแม่นางกวัก รับทราบถึงสิ่งที่ผมบอกกล่าว เลยประพรมน้ำมนต์ให้เป็นสิริมงคล และแสดงให้รู้ว่าพวกท่านรับทราบ

น้อมกราบแม่นางกวักและหลวงพ่ออิ่มครับผม

 

เดินทางมาวัดกลางชูศรีเจริญสุขเพื่อเข้ากราบสรีระหลวงปู่บุดดาและทำบุญ

นำมวลสารวางไว้หน้าสรีระหลวงปู่บุดดาและขอเมตตาท่านเสกมวลสารให้มีความเข้มขลัง

 

ขับรถมาวัดสระเปรียญ เพื่อนำมวลสารมาวางไว้หน้าสรีระหลวงปู่เย็น และขอเมตตาท่านเสกมวลสาร

 

ขับรถมาถึงวัดโฆสิตารามก็บ่าย3กว่าๆแล้ว ท้องฟ้ามืดครึ้ม ขึ้นไปบนศาลาก็ยังมีคนเยอะ ผมก็ไม่กล้านำมวลสารไปวางไว้หน้ารูปเหมือนหลวงพ่อกวย กลัวคนเดินข้ามมาข้ามไป จะไม่สมควรเอา เลยยืนถือถุงและเป้ใส่มวลสารและสวดคาถาตามป้ายและนึกในใจบอกกล่าวหลวงปู่กวย ขอเมตตาท่านมาเสกมวลสารให้ที

พอเดินลงมาฝนก็ลงหนักเลยรีบวิ่งขึ้นรถไปก่อน