หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...ชีวิต ละคร ต้องคืนธรรมชาติ
.
เคยสงสัยว่า จานบินมนุษย์ต่างดาวมีจริงไหม ได้กราบเรียนถามหลวงปู่ หลวงปู่ท่านตอบว่า ไม่มีหรอก อเมริกามันโกหก มันสร้างนิวเคลียร์ไว้ข่มประเทศอื่น แต่เรื่องเกิดสงครามนิวเคลียร์นี้ เกิดแน่ในอนาคตข้างหน้านี้ แต่จะไม่ล้างโลก โลกตั้งอยู่ตามปกติ เพียงแต่ผู้คนจะล้มตายไป คนที่รอดคือผู้ที่อยู่ดินแดนที่ห่างไกลจากรังสีนิวเคลียร์ ลืมถามว่าประเทศไทยรอดไหม

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...ติ๊ก พรหมโชติ
.
พระอาจารย์สุชิน วัดธรรมสถิต ท่านมาแสดงธรรมที่วัดเขาน้ำตกพอแสดงธรรมเสร็จท่านจึงจะมากราบหลวงปู่บุญส่งแต่องค์ท่านเข้าพักแล้ว..พระอาจารย์สุชินจึงกราบรูปภาพที่อยู่หน้าห้องรับแขกแทน..... ผมเห็นภาพนี้แล้วมานึกถึงคำพูดหลวงปู่บุญส่งท่านเคยพูดว่า...
""ใครมาวัดไม่เจอเรา แต่ที่จริงเราอยู่ จะกราบเรากราบตรงไหนที่ไหนก็ได้ หน้าห้องก็ได้ เรารับรู้ได้"""
หมายถึงเวลาท่านไม่อยู่วัดแต่ญาติโยมมาไม่พบท่าน แม้จะกราบหน้าห้องท่านๆก็ทราบเหมือนท่านอยู่ที่วัดเป็นปรกติ....
คิดดูนะขนาดพระอาจารย์สุชินท่านเป็นพระระดับครูบาอาจารย์ท่านยังไม่คิดรบกวนธาตุขันต์พ่อแม่ครูอาจารย์ในขณะที่องค์ท่านพักอยู่ ทั้งที่จะไปพบก็ย่อมได้แต่ไม่ใช่วิสัยท่าน พวกสาธุชนควรจำการปฏิบัติท่านไว้เป็นแบบสำคัญ

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...NooFirst LoveLove
.
4/6/59 พระคุณเจ้าองค์หลวงปู่ขีด ครุธัมโม วัดบัวโรย เมตตาโปรดวัดสันติวนาราม ซึ่งผมได้มีหน้าที่คอยอุปัฏฐากองค์หลวงปู่ขีด ปีติสุดๆ

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Tacha Pol
.
#กฎแห่งกรรมและความเมตตาของหลวงปู่ เมื่อหลายปีก่อน เคยมีวิบากเกี่ยวกับบุคคล พัวพันกันหลายปี จิตเศร้าหมองมาก
#เมื่อพ้นแล้วได้ไปทำบุญกับหลวงปู่บุญส่ง ก็รายงานท่าน หลวงปู่มองมาด้วยความเมตตา แล้วบอกว่า
“ #เราเห็นมานานแล้ว #ดูอยู่ตลอดแต่พูดไม่ได้ #พูดให้รู้ก่อนแล้วจะไม่พ้นวิบากนี้ ต้องรับกรรม ใช้ไปให้หมด … ตอนนี้พ้นแล้ว หมดแล้ว ตั้งใจปฏิบัติ ทำดีต่อไปนะ “
กราบทำบุญเสร็จ หลวงปู่ให้พร ลากลับ มานั่งนึก กรรมบางอย่างยังไงก็ต้องรับผล #แต่ก็อยู่ในสายตาของครูบาอาจารย์ตลอด

 

งานพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต ฉลองสมโภชอุโบสถ ณ วัดป่านาบุญ บ้านตีนธาตุ ต.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ #พระราชวชิรโกศล #หลวงปู่กวง โกสโล
.
.
..วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2565....
โดยมีพระเถรานุเถระมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
.
.
#สาธุอนุโมทนาบุญ

 

หลวงปู่บุญส่งเดินทางไปร่วมงานพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต ฉลองสมโภชอุโบสถ ณ วัดป่านาบุญ บ้านตีนธาตุ ต.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ #พระราชวชิรโกศล #หลวงปู่กวง โกสโล
.
.
..วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2565....
โดยมีพระเถรานุเถระมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
.
.
#สาธุอนุโมทนาบุญ

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
.
#อานิสงส์แห่งบุญ
.
"...เกิดมาแล้วไม่พิจารณาตัวเอง ไม่ฟังเทศน์ฟังธรรม ไม่ฟังคำสั่งสอน ไม่รู้จักเสริมเพิ่มเติมบารมีจะมีได้อย่างไร คนจนแล้วไม่ทำบุญเลยยิ่งจนใหญ่มีข้าว 3 คำทำบุญซักคำก็ยังดี เราศรัทธาจริงๆ แต่มีแค่นี้แบ่งได้แค่นี้ทำน้อยก็ได้มากขอให้เรามีศรัทธาจริงๆ
.
อย่างเช่นทุคคตะ 2 คนผัวเมียอยู่ด้วยกันจนกระทั่งว่าออกจากบ้านไปไหนสามีไปเมียก็ต้องนุ่งห้องไว้เนื่องจากมีผ้าผืนเดียวกัน ภรรยาออกจากบ้านไปสามีต้องเข้าไปนุ่งห้อง จนกระทั่งพระพุทธเจ้ารู้อัธยาศัยของ 2 สามีภรรยานี้พระองค์ทรงมาแสดงธรรม
.
เมื่อพระราชามาฟังธรรมตั้งแต่หัวค่ำท่านก็ทรงแสดงธรรมไปเรื่อย เพิ่มศรัทธาให้แก่ทุคคตะ ทุคคตะได้มาฟังธรรมก็ดีใจแต่จะไปฟังธรรมทั้ง 2 คนก็ไม่ได้ มีผ้าผืนเดียวนุ่งไปฟังธรรมขณะนั่งฟังธรรมไปใจก็อยากถวายเสียเหลือเกินผ้าที่นุ่งอยู่นี่ก็นั่งคิดไปคิดมาตั้งแต่ปฐมยามก็ยังคิดไม่ตก ปัจฉิมยามพระพุทธเจ้าแสดงธรรมให้ทุคคตะเลื่อมใส่แก่กล้าขึ้นเรื่อย ๆ
.
จนกระทั่งสามารถสละได้ในปัจฉิมยามพอคิดได้ว่า จะทำอย่างไรถวายไปแล้วจะเอาอะไรนุ่งก็คิดว่าเมื่อเราสละไปแล้วเราก็เอาใบไม้มาปกปิดอวัยวะพอกลับบ้านได้ก็พอแล้ว เพราะศรัทธาล้นท่วมท้นก็ร้องขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัด "เราชนะแล้ว เราชนะแล้ว"
.
พระราชานั่งฟังอยู่นานได้ยินเข้าพอดีฟังว่ามีใครชนะถึงกาลที่จะเสียสละปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ แต่ทุคคตะมีผ้าผืนเดียวอุตสาห์ตัดใจเสียสละ พระราชาที่ทรงธรรมนั่งฟังธรรมอยู่ด้วยกันก็ถามว่าชนะอะไรที่ว่าชนะ ชนะความตระหนี่ข้าพุทธเจ้ามีผ้าอยู่ผืนเดียวได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ตั้งแต่ปฐมยาม ปัจฉิมยามอยากจะถวายเหลือเกินแต่ก็ตัดใจไม่ลง มาบัดนี้ตัดใจได้แล้ว
.
ถึงแม้ว่าถวายแล้วจะไม่มีผ้านุ่งก็จะหาใบไม้นุ่งกลับบ้าน พระราชา คหบดีเกิดความสลดหดหู่ใจ เรามีขนาดนี้เรายังไม่เคยคิดตัดใจเลยที่จะเสียสละ ทุคคตะมีแค่นี้ พระราชาเลยหาผ้ามาให้ เพิ่มให้ทุคคตะเท่าไรทุคคตะก็ถวายให้พระพุทธเจ้าเหลือแต่จำเพาะที่จะเอาไปใช้เล็กน้อยเท่านั้นกลับบ้าน
.
ชั่วพริบตาเดียวทุคคตะกลายเป็นเศรษฐีไปเพราะความเสียสละสิ่งที่เสียได้ยาก คหบดีนั่งฟังเฉย ๆ เพราะไม่ได้รู้สึกว่าจะเกิดศรัทธาในการเสียสละแต่ทุคคตะเพราะความยากจนบีบคั้นให้เห็นความทุกข์ยากลำบากของตนมาในวัฏฏะตลอดระยะเวลายาวนานก็ตัดใจเสียสละได้เลย พระราชาจึงนำปัจจัยเครื่องใช้ทรัพย์สินมากมายมอบให้
.
...เพราะฉะนั้นคนเราทำบุญไม่สูญเปล่า นี่คืออานิสงส์ของการทำบุญ ที่เคยเกิดขึ้นมาจริงแล้วในสมัยพุทธกาล..."
.
.
#หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
.
"...ธรรมเป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องไขว่คว้าเอามาเป็นสมบัติในจิตใจของเรานั่นคือ ธรรมสมบัติ แต่ก่อนอื่นต้องรู้ความเป็นมาของพระศาสนาพอสมควร จึงรู้ความหมายของคำว่า ธรรม-ศีลและธรรม
.
ศีลนั้นเป็นข้อห้าม ธรรมเป็นข้อปฏิบัติ ศีลเป็นข้อห้ามเป็นระเบียบวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วนำเอามาเผยแพร่แก่มนุษยชาติ ..."
.
.
#หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร”
วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
.
"...เมื่อได้เชื่อพระพุทธเจ้าแล้วแสดงตัวเป็นพุทธมามกะแล้ว ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ พระธรรมเป็นสรณะ พระสงฆ์เป็นสรณะแล้ว เราก็ต้องเอาโอวาทมาปฏิบัติเท่ากับเราเชื่อพ่อแม่เรา เราต้องปฏิบัติตามโอวาทพ่อแม่เรา เมื่อเราปฏิบัติตามพ่อแม่ที่สอนสั่งไว้อย่างดีแล้วไม่พากันหลงลืม ปฏิบัติด้วยความเคารพ
.
ใช้ธรรมห้าอย่างด้วยความเคารพ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ใช้ตลอดเวลาที่เรามีลมหายใจอยู่นี้ ไม่ว่าจะทางวาจาก็ตาม ทางกายก็ตาม
.
ถ้าเรามีข้อห้ามห้าอย่างในใจเรานั้นวาจาของเราก็จะไม่ทุจริต กายของเราก็จะไม่ทุจริต ทำอะไรก็จะมีระเบียบ เป็นระเบียบเรียบร้อย ทางที่พระองค์มุ่งหมายนั้นก็เพื่อให้เราอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ..."
.
.
#หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
.
"...ฐานะเราเป็นพุทธศาสนิกชนเราควรจะเอาอะไรมาฝึกหัดปฏิบัติให้มันมีขึ้นในดวงจิตดวงใจของเรา เรียกว่า 'ธรรมสมบัติ' สองพันกว่าปีแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นำเอาสิ่งเอา 'ระเบียบห้าอย่าง' มาไว้ให้มนุษยชาติ
.
ท่านไม่ได้กล่าวว่ามนุษย์พุทธ มนุษย์คริสต์ มนุษย์อิสลาม กล่าวว่าเป็น 'ธรรมของมนุษยชาติ' จำเป็นต้องมี เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ถ้าไม่มีระเบียบวินัยเป็นเครื่องอยู่ ต่างก็จะทะเลาะเบาะแว้งกัน ชิงกันเป็นดีเป็นใหญ่ แล้วในที่สุดก็จะต้องพบกับความล่มสลายนั้น
.
พระองค์ทรงเล็งเห็นแล้วว่ามนุษย์เรานี้จะมีสิ่งห้าอย่างที่พระองค์ทรงตรัสเอาไว้คือ #ศีลห้า นั่นเอง
.
'ปาณาติบาต' 'อทินนาทาน' 'กาเมสุมิจฉาจาร' 'มุสา' 'สุรา' ห้าอย่างนี้ พระองค์ได้ทรงกลั่นกรองไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จึงได้นำเอามาให้มนุษย์ผู้ประเสริฐ คือเราประเสริฐกว่าสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายจึงจำเป็นต้องปฏิบัติ..."
.
.
" #หลวงบุญส่ง ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
.
"...ศีลนั้นเป็นข้อห้าม ธรรมเป็นข้อปฏิบัติ ศีลเป็นข้อห้ามเป็นระเบียบวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วนำเอามาเผยแพร่แก่มนุษยชาติ คำว่ามนุษยชาตินั้นหมายถึง มนุษย์ที่มีบุญวาสนาเกิดมาได้เป็นมนุษย์เพราะได้บุญกุศลแต่หนหลังส่งผลมาเป็นมนุษย์ แต่อย่าลืมว่าถึงเป็นมนุษย์แล้วบาปก็ยังมีอยู่ ตราบใดที่ยังเกิด ตราบใดที่ยังเกิดอยู่นี่บาปก็ยังตามเรามา ติดเรามาตลอดแต่บาปมีกำลังอ่อน ไม่สามารถให้ผลได้
.
กำลังบุญทำให้เราได้เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสไว้ว่า อย่าไปต่อยอดบาป เพราะเรามีสองยอด ยอดบุญต่อยอดบุญไป จะต่อยอดบาปเอายอดบุญไปใช้ต่อยอดบาปก็เท่ากับต่อยอดบาป แม้จะได้สิ่งที่เรามุ่งมาดปรารถนาสมใจนึกแต่ว่ามาด้วยความทุจริตทางกายวาจาใจ สิ่งเหล่านั้นก็ไม่น่าจะปลื้มใจเพราะมันปนเปื้อนมาด้วยบาปอธรรม ถ้าเรารู้จักวิธีการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง..."
.
.
“#หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร”
วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
.
".. ทำกรรมชั่วมากเมื่อถึงเวลาต้องเสวยกรรมอยู่ในอบายภูมิมีแต่ทุกข์ร้อนทรมาน น้ำร้อนโดนแขนเรายังพองไปเสียหลายวัน คิดกันดูว่าน้ำในกระทะทองแดงมันจะร้อนแรงขนาดไหน ร้อนจนตาย ตายแล้วเกิดๆอยู่ในนรกเค้าก็จับโยนลงไปแบบนั้น ซ้ำๆซากๆ กว่าจะพ้นกรรมน่าเวทนามากสัตว์นรกนี่นะ ไม่อยากไปนรกให้เลิกทำกรรมชั่ว เกรงกลัวต่อบาป เลิกเดี๋ยวนี้เลย ... "
.
.
หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
วัดสันติวานาราม จ.จันทบุรี

 

"คนจะดี ใช่ดี ที่มีพระ
อย่าเลยละ ข้อธรรม คำสั่งสอน
พระจะช่วย อวยชัย และให้พร
แด่นิกร ผู้มีธรรม ประจำใจ
.
พระข้างนอก ข้างใน มีให้ครบ
แล้วจะพบ คุณค่า มหาศาล
พระนอกดี แต่ข้างใน ใจดั่งมาร
พระไม่หาญ คุ้มครอง ปกป้องภัย
.
แขวนของขลัง ไว้ที่คอ พอคุ้มได้
แขวนของขลัง ไว้ที่ใจ ยิ่งได้ผล
มุ่งอบรม บ่มธรรม ประจำตน
เป็นมงคล วิเศษ พ้นเภทภัย"
.
.
#หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
.
.
เคยกล่าวสอนเตือนสติไว้
อาจเป็นบทความของผู้แต่งท่านอื่น
แต่ท่านเห็นว่าเป็นประโยชน์
จึงนำมาสอนศิษย์...

 

เมื่อวันพฤหัส ที่ 12 พฤษภาคม 2565
ถือว่าเป็นวันครู เลิกงานมาก็เดินทางไปซื้อของมาจัดพานขอขมาและพานขันธ์5 เพื่อนำมาให้เหล่าลูกศิษย์อาราธนาให้หลวงปู่บุญส่งมีธาตุขันธ์แข็งแรง อยู่รับใช้อุปัฏฐากจนหลวงปู่หลับก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
.
พานขันธ์5 ประกอบด้วย
ธูป 5 ดอก
เทียนขาว 5 เล่ม
แผ่นทองคำเปลว 5 แผ่น
ดอกไม้ 5 ชนิด (วันนี้ผมจัดเป็นดอกบัว มะลิ กล้วยไม้ ดาวเรือง เบญจมาศ)
หมากพลู
.
#น้อมกราบอาราธนาให้พ่อแม่ครูอาจารย์มีธาตุขันธ์แข็งแรงอยู่โปรดลูกศิษย์ไปจนกว่าอุโบสถจะสร้างแล้วเสร็จเป็นอย่างน้อย

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บุญส่ง
.
"... ดีเกินดี จนขาดดี ไม่ดีแน่
ดีที่แท้ แค่พอดี จึงมีผล
ชั่วให้ชั่ว ดีให้ดี ที่กมล
ชั่วไม่พ้น ดีไม่พราก จากคนทำ... "

 

เล็กๆน้อยๆแต่สำคัญ
.
เวลาก็ผ่านไปไวแท้ เผลอแผล็บเดียวก็จะ6ปีแล้วที่ผมได้รู้จักหลวงปู่บุญส่ง อุโบสถวัดสันติวนารามก็ยังเดินหน้าสร้างมาตลอด ไม่มีหยุด ซึ่งอีกไม่กี่ปีก็น่าจะแล้วเสร็จ ขณะที่หลวงปู่บุญส่งธาตุขันธ์ของท่านก็โรยราลงไปตามวัยที่มากขึ้น พูดแล้วก็อดคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาตลอด 6 ปี ไม่ได้....
.
ผมเป็นศิษย์รุ่นหลังๆที่ได้รับเมตตาจากศิษย์อุปัฏฐากของหลวงปู่ ได้เข้ามาช่วยงานหลวงปู่บ้างเล็กๆน้อยๆ ได้ช่วยหยิบๆจับๆขนของนิดหน่อย ได้มีโอกาสขับรถตู้พาหลวงปู่ไปงานกิจนิมนต์บ้างในบางครั้ง แหม้!...ปลื้มใจจริงๆ ......
.
ผมเคยฝันถึงพระเกจิอาจารย์บ้าง แต่ก็นานๆที แต่กับหลวงปู่บุญส่ง ผมมีโอกาสฝันถึงท่าน 10 กว่าครั้ง สำหรับผม...ถือว่าเยอะมาก
.
สำหรับไฮไลท์เรื่องความฝันของผมกับหลวงปู่บุญส่ง คงจะเป็นวันที่เอาพระตัวอย่างที่ช่างเพิ่งแก้บล๊อคเสร็จไปให้หลวงปู่ตรวจดูที่เวลทรอน หลังจากนั้นท่านก็พิจารณาพระตัวอย่างก่อนเอ่ยว่า "อาตมามองไม่ค่อยเห็น งั้นเดี๋ยวเราใช้ฌาณดูแล้วกัน" แล้วท่านก็หัวเราะ ศิษย์อุปัฏฐากหลวงปู่เลยสัพยอกว่า เดี๋ยวหลวงปู่ตามไปดูที่บ้าน
.
สรุปคืนนั้นฝันถึงหลวงปู่บุญส่ง ฝันว่าเจอท่านในสถานที่ที่นึง จำได้ว่าท่านมาลูบหัวจับไหล่และบริกรรมคาถาเป่าหัวให้เป็นเวลานานมาก พอตื่นมายกมือท่วมหัวเลย ท่านมาจริงๆ....
.
พ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างๆ หลวงพ่อหลวงปู่ต่างๆล้วนดีทั้งนั้น ครูบาอาจารย์ของใคร ใครก็นับถือ ท่านล้วนดีทั้งนั้น หากเพียงแต่ว่าเราจะมีบุญสัมพันธ์กับองค์ไหน จะถูกจริตกับองค์ไหน...ก็แค่นั้นเอง สำหรับผมแล้วพระเถราจารย์ที่ยังทรงสังขารและผมนับถือท่านมากๆก็คือ #พระเดชพระคุณองค์หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร แห่งวัดสันติวนาราม
.
ชาตินี้สำหรับผมก็ถือว่าคุ้มแล้วที่ได้มารู้จักหลวงปู่บุญส่ง ได้คอยรับใช้ ได้มีโอกาสได้ช่วยงานท่านบ้าง เป็นฟันเฟืองเล็กๆตัวนึงที่ช่วยขับเคลื่อนให้งานก้าวเดินต่อไป #ขอให้ทุกคนจงภูมิใจในตัวเองกับสิ่งที่ทุกๆท่านได้ทำ ได้ช่วยงาน ได้ร่วมบุญกับองค์หลวงปู่บุญส่ง ทุกคนคือฟันเฟืองเล็กๆที่ผลักดันให้การสร้างอุโบสถปลดหนี้หลังนี้ให้ก้าวหน้าจนถึงทุกวันนี้
.
... เราอาจจะไมไ่ด้อยู่หน้าฉาก ....
... เราอาจจะไมไ่ด้อยู่ในเฟรม ....
.... เราอาจจะไมไ่ด้เป็นที่กล่าวถึง ....
.... แต่ทุกท่านคือฟันเฟืองเล็กๆที่ผลักดันให้การสร้างอุโบสถยังเดินหน้าอยู่จนถึงทุกวันนี้.....
........................ #เล็กๆน้อยๆแต่สำคัญ ......................

 

#หลวงปู่บุญส่ง ท่านถือกำเนิดเกิดมาจากบ้านที่มีลูกมากและยากจน ผ่านการต่อสู้ชีวิตที่มีทั้งทางผิดและถูกก่อนการบวช
ท่านอุปสมบท ในวันเสาร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๐ หรือ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะแม เวลา ๐๙.๓๘ น. (ตามปฏิทินไทย-ข้อมูลตามใบสุทธิ) ขณะมีอายุ ๓๐ ปี ณ พัทธสีมา วัดตรีรัตนาราม (ธ) ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง
โดยมี พระวรพรตปัญญาจารย์ หรือ หลวงปู่แฟ้ม อภิรโต วัดป่าอรัญญิกาวาส (วัดป่า) ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสรพาจน์พิไล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดเฉี่ยง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “ฐิตสาโร” แปลได้ความว่า “ผู้มีความเห็นตรงตามธรรมวินัย“
หลวงปู่ฯ ท่านเคยไปอยู่ศึกษากับ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่ดอยแม่ปั๋ง และครูบาอาจารย์อีกหลายต่อหลายรูป หลวงปู่แหวน เป็นครูบาอาจารย์ที่ท่านประทับใจมากที่สุด
หลวงปู่ฯท่านมักกล่าวอยู่เสมอว่า
“สมัยอยู่กับหลวงปู่แหวน เป็นช่วงที่อบอุ่นที่สุด พระทุกรูปที่อยู่จะต้องแย่งกันรับใช้หลวงปู่แหวน เช่น ต้มน้ำร้อน ซักผ้าสบงจีวร และอื่นๆ โดยไม่เกี่ยงว่าอันนี้หน้าที่ใคร เพราะมีแต่แย่งกันทำ เอาบุญ”
หลังจากออกจาริกธุดงค์ ไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อฝึกตนและเพื่อกราบครูบาอาจารย์แล้ว ท่านก็ได้เดินทางมาจำพรรษา ที่วัดสันติวนาราม (เขาน้ำตก) อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ซึ่งแต่เดิมเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ
เป็นสถานที่ที่ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ,หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ,หลวงปู่จันทา ถาวโร ,หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ,หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร รวมถึงพ่อแม่ครูอาจารย์อีกหลายรูป แห่งวงศ์พระกรรมฐานเมื่อครั้งอดีต ได้เคยเดินทางมาโปรด
องค์ท่านได้ปรารภให้ฟังว่า การที่มาสร้างวัดเขาน้ำตก(วัดสันติวนาราม)นี้ ท่านต้องเผชิญกับความอดอยาก ฉันข้าวเปล่าเป็นปี ๆ
แต่ต้องทนเพราะพระธรรมผุดขึ้นมาว่า..
“เส้นทางสู่มรรคผลนิพพานไม่ได้สบาย” “ไม่ได้โรบด้วยกลีบกุหลาบ”
และที่สำคัญที่สุดคือ ท่านผ่านพ้นหัตถ์แห่งมัจจุราช มาแบบหวุดหวิด...
“เราเองได้ผ่านพ้นความตายมาได้ วันนั้นคนร้ายได้ยืนอยู่ห่างเราเมตรเศษ แล้วกระหน่ำยิงด้วยปืนอาร์ก้าชุดใหญ่”
องค์ท่านเองได้ยกมือห้ามไว้ แต่อนิจจาไม่ทันเสียแล้ว ท่านได้ดำรงสติตั้งมั่นในช่วงเวลานั้น โดยปรากฎว่ากระสุนปืนได้วิ่งผ่านนิ้วท่าน และหน้าของท่านไป
ท่านปรารภว่า... “รู้สึกได้ว่ากระสุนผ่านหน้า และผ่าร่องนิ้วของเราไป เพราะลมที่ปะทะกับเสียงดังฟ้าว”
หลวงปู่บุญส่งเองท่านไม่ได้ต้องการ เป็นข่าวอะไรใหญ่โตในสมัยนั้น เพราะท่านกลัวญาติโยม จะแห่มากวนท่าน ให้เป็นเกจิอาจารย์ เป่าน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก ขากเสลด จนไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม
หลวงปู่บุญส่ง ได้อบรมพระเณร ให้อยู่ในพระธรรมวินัยมาโดยตลอด โดยมักให้ข้อคิดเตือนสติ พระ เณรเสมอ ๆ ว่า..
“เราบวชมา เราต้องปฏิบัติภาวนา ไม่เอาเปรียบญาติโยม ผู้ให้ข้าวให้น้ำ ไม่ได้บวชมานั่งมานอน บวชเล่นบวชเรียน บวชต้องปฏิบัติ คนมาทำบุญที่นี่ต้องได้ผลบุญเต็ม เราต้องภาวนาแผ่เมตตา ปฏิบัติให้เค้าอย่างเต็มที่”
ปัจจุบัน หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร ท่านพำนักอยู่วัดสันติวนาราม (เขาน้ำตก) อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เจริญอายุวัฒนมงคลครบ ๘๕ ปี พรรษา ๕๕ (พ.ศ.๒๕๖๕)

 

โอวาทธรรม...หลวงปู่บูญส่ง
.
"ลักษณะของจิตรวมเป็นสมาธิ"
.
" ... เมื่อจิตละเอียดเข้าไปเรื่อยจาก
"ขณิกสมาธิ" เป็น "อุปจารสมาธิ"
จะเริ่มปรากฎเข้าสู่มิติใหม่ในนิมิตใหม่
เราจะเห็นสรรพสิ่งทั้งหลาย
นอกเหนือจากตาเนื้อ
.
เป็นเรื่องของจิตใจ "อทิสมานกายต่าง ๆ "
จะปรากฎได้ จึงรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีเฉพาะเรา
ยังมีสิ่งอีกเยอะแยะที่ตามองไม่เห็นหูไม่ได้ยิน
.
เพราะยังจิตมนุษย์(ปุถุชน)สัมผัสหยาบ
ขณะนั้นเราปล่อยกายไปแล้ว รู้แล้ว ก็ต้องดับ
ไม่ใช่รู้แล้วเอามาพรรณา
หวังผลต่อการกอบโกยผลประโยชน์ ... "

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Thammawong Namthong
.
ขณะที่นั่งนวดหลวงปู่อยู่ในห้องท่านก็พูดขึ้นมาว่ากิเลส
ของคนเรานั้นมันไม่ได้อยู่ติดอยู่ในตัวเราตลอดเวลา
พูดง่ายๆคำว่ากิเลส
ก็เปรียบเสมือน อาคันตุกะ ที่มาเยือนเรา
ที่มาเยี่ยมเรา
เหมือนกับญาติโยมมาเยี่ยมมาหาเราที่วัดนี่แหละ
เขาไม่ได้อยู่กับเราตลอดนะ
เขามาแล้วก็ไป
เขาไปแล้วก็มา
มาๆไปๆอยู่อย่างนี้
กิเลสก็เหมือนกัน
ความโลภ
ความโกรธ
ความหลงก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเราตลอดเวลา
เมื่อมันเกิดขึ้น
แล้วเรารู้ทันมัน
มันก็ดับไปเอง
ให้มีสติรู้เท่าทันความโกรธ
ให้มีสติรู้เท่าทันความหลง
ให้มีสติรู้เท่าทันความโกรธ
รู้ทันมันบ่อยๆมันก็จะหายไปเอง
เพราะสติเราจะเข้มแข็งขึ้น
สติเราจะไวขึ้นกลายเป็นมหาสติ
แค่รู้เท่าทันเท่านั้นก็จบ
ธรรมะสั้นๆขณะนวด