จะทราบอย่างไรว่าครูสอนกรรมฐานได้รับการรับรองจากวัดท่าซุง?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Sagen1994, 23 เมษายน 2022.

  1. Sagen1994

    Sagen1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +202
    สวัสดีครับ

    วันนี้มีข้อสงสัยจะสอบถามเรื่องเกี่ยวกับผู้สอนพระกรรมฐานครับ ปัจจุบันพบเห็นกันหลายช่องทางมากมายที่กช่าวว่า เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ หรือสอนพระกรรมฐานสายหลวงพ่อ ไม่ว่าจะเป็นมโนมยิทธิหรือกรรมฐานแบบสุกขวิปัสสิโกก็ตาม ซึ่งครูของสายหลวงพ่อก็มีทั้งครูที่เป็นพระภิกษุและฆราวาส

    จึงอยากสอบถามในที่นี้ว่า กรณีที่เป็นครูที่เป็นฆราวาส จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นครูที่ได้รับการรับรองจากทางวัด (หรือจากท่านบนพระนิพพาน) หรือว่าต้องมาจากกลุ่มหรือสถานปฏิบัติที่เป็นสาขาของวัดท่าซุงเท่านั้นครับ

    ล่าสุด ผมเห็นกลุ่มสอนกรรมฐานยกระดับจิตเป็นพระอริยบุคคล ซึ่งบอกว่าตามแนวทางหลวงพ่อฯ เป็นการสอนผ่านไลน์กลุ่ม (ไม่ได้มีการเรี่ยไรหาประโยชน์ใด ๆ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะเป็นอุปาทานกันหรือไม่) ส่วนตัวได้ลองเข้าไปดู ก็รู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ยังไม่อยากปรามาส (เก็บความสงสัยไว้)

    ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่ออะไรง่าย ๆ จึงมาสอบถามกัลยาณมิตรดูครับ
     
  2. Sagen1994

    Sagen1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +202
    อัปเดตครับ :

    เมื่อเข้าไป พบว่า มีครูผู้ฝึกสอนหลายคน แต่มีการประกาศระเบียยแนวทางทำนองว่า ครูทั้งหมดที่ฝึกสอนให้ เป็นอริยบุคคลขั้นโสดาปัตติผลขึ้นไปทั้งนั้น โดยมีอาจารย์ ดร. ท่านหนึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ประจำกลุ่ม มีการฝึกบุคคลให้จนถึงขั้นพระอนาคามี บางครั้งกล่าวอ้างการสอนมโนมยิทธิขณะไลฟ์สดประจำวันเสาร์ทำนองว่า ฝึกกับวัดท่าซุง หลายครั้ง บางคนได้ บางคนไม่ได้ แต่ผมพาทุกท่านไปได้ แค่แป๊บเดียว ไม่กี่นาที

    กระผมเห็นการอ้างตนเป็นพระอริยบุคคล จึงได้กดออกจากกลุ่มไป เพราะจากที่ศึกษาแนวทางหลวงพ่อฯ มารัดับหนึ่ง ก็เห็นจะผิดเพี้ยนไปมาก แอดมินกลุ่มจึงมาบอกว่า แบบผม ยึดติด ก็ไม่เจอหลวงพ่อ ซึ่งอาจารย์ท่านนั้นก็บอกว่า หลวงพ่อสั่งให้อาจารย์ท่านนั้นมาฝึกให้แต่เพียงผู้เดียว

    ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ไม่ใช่แนวทางเลย สมาชิกคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง
     
  3. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,215
    กระทู้เรื่องเด่น:
    252
    ค่าพลัง:
    +23,818
    ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่ ผู้รู้ นะครับ _/\_ ผมเป็นเพียงแค่ กัลยาณมิตรธรรมดา คนหนึ่งที่พอจะมีความรู้อยู่บ้างในทางธรรมะ และ ปฏิบัติธรรมอยู่บ้างตามสมควรอยู่ในขณะนี้ครับ (^ ^) ทั้งหมดนี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ.. ขอให้คุณ @Sagen1994 ลองพิจารณาอ่านอย่างช้าๆอย่างพินิจพิเคราะห์นะครับ _/\_ ผมขออนุญาตตอบประเด็นข้อสงสัยที่คุณ @Sagen1994 โพสต์ตั้งประเด็นข้อสงสัยเอาไว้นะครับ

    1.jpg

    ทีละประเด็นนะครับ: เราจะทราบได้อย่างไรว่า ใครเป็น "พระอริยบุคคล"? การจะรู้ว่าใครเป็น "พระอริยบุคคล" นั้น ปุถุชนย่อมไม่สามารถรู้ได้ มีเพียงผู้ที่มีสภาวธรรมในจิตเป็น "พระอริยบุคคล" ในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าเท่านั้นที่จะรู้ได้ อย่างไรก็ดี บุคคลสามารถสังเกตลักษณะของความเป็น "พระอริยบุคคล" นั้นได้ครับ ตัวอย่างเช่นพระโสดาบันนั้นพฤติกรรมของท่านนั้นจะต้องเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย คุมใจอยู่ทุกขณะตื่น เป็นผู้ที่ไม่มีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย ผิดศีล หรือผิดธรรมอีกต่อไป และมีจิตเลื่อมใส ไม่หวั่นไหวในพระรัตนตรัย มีสติคุมอิริยาบถ มีจิตเป็นอิสระต่อกาย เป็นอิสระต่อเวทนา เป็นอิสระต่อโลกธรรมและวัตถุ ฯลฯ ลักษณะเหล่านี้จะแสดงออกให้เห็นทางพฤติกรรมภายนอกให้สามารถชี้วัดได้ครับ

    2.jpg

    ข้อสังเกตสำคัญที่ควรพิจารณาคือ "พระอริยบุคคล" ทุกระดับนั้น ท่านได้ละสักกายทิฏฐิได้โดยเด็ดขาดแล้วครับ… สักกายทิฏฐิ เป็นความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรม คือ ขันธ์ 5 ว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นเรา เป็นของเรา ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงของสภาพธรรม… "พระอริยบุคคล" ทุกระดับนั้นท่านจึงละอัตตาได้หมดสิ้นไปหมดแล้ว… เพราะฉะนั้นเราจะไม่เคยเห็น "พระอริยบุคคล" ที่ท่านเป็น “ของจริง” ท่านใดป่าวประกาศตนว่าท่านเป็นพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ เป็นต้นครับ… บุคคลที่มาป่าวประกาศว่าบรรลุธรรมเป็นโน่นนี่นั่นส่วนมากนั้นหลงไปกับวิปัสสนูปกิเลสครับ ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ตลอดสายของการปฏิบัติครับ วิปัสสนูปกิเลสนี่ทำให้นักปฏิบัติหลายๆท่านวิปลาสมาเยอะแล้วครับ (หมายเหตุ: วิปลาสแปลว่าคลาดเคลื่อนไปจากธรรมดาสามัญ, ผิดปกติไปในทางเสื่อม ไม่ได้หมายถึง บ้า หรือ เสียสติ นะครับ)


    ประเด็นที่ 2 นะครับ: ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผมเดาๆมั่วๆจาก Sense ของผมเองนะครับ… และโปรดอย่าถามหาเหตุผลว่าผมทราบได้อย่างไรนะครับ... ผมว่าการที่คุณ @Sagen1994 และคุณแม่ของคุณ @Sagen1994 นั้นมีความศรัทธาและถูกจริตกับแนวทางการปฏิบัติตามแนวทางของพระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ นั้น… ผมขอยกตัวอย่างกรณีเหตุการณ์ในตอนที่คุณแม่ของคุณ @Sagen1994 นั้น ท่านกำลังทุกข์หนักๆแล้วประสบกับเหตุการณ์ที่ฝันเห็นหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านยืนอยู่หน้าเตียง จากนั้นท่านก็กล่าวให้กำลังใจคุณแม่ของคุณ @Sagen1994 ว่า "ผ่อนหนักให้เป็นเบานะ" แล้วคุณแม่ของคุณ @Sagen1994 ก็ตกใจตื่นขึ้น… ผมว่าคุณ @Sagen1994 และคุณแม่ของคุณ @Sagen1994 น่าจะเคยเป็นศิษย์ที่มีต้นทุนคือของเก่าในการปฏิบัติที่ทำมาไว้ดีแล้วของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯท่านนะครับ


    ผมอยากให้คุณ @Sagen1994 ลองอ่านทำความเข้าใจในแนวทางคำสอนและการปฏิบัติตามแนวทางในการฝึกมโนมยิทธิจากใน หนังสือ มโนมยิทธิ เล่ม ๑ และ เล่ม ๒ ของพระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ที่มีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งได้เมตตาโพสต์แปะ file ของหนังสือทั้งสองเล่มดังกล่าวไว้ให้แล้วครับ… เป็นหนังสือที่ดีมากๆครับ ... บางทีอาจจะเป็นประโยชน์กับคุณ @Sagen1994 บ้างพอสมควรไม่มากก็น้อยครับ _/\_


    หากคุณ @Sagen1994 สะดวกและมีเวลาว่าง… ผมแนะนำให้คุณ @Sagen1994 ลอง คลิ๊ก เข้าไปอ่านพิจารณาทำความเข้าใจเพิ่มเติมในหนังสือ วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากภัยพิบัติ นี้ดูนะครับ (^ ^) เป็นหนังสือที่แนะนำเพิ่มเติมในเรื่องของแนวทางในการปฏิบัติธรรมเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจที่จะรับมือกับปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นครับ (^_^) เป็นหนังสือที่ดีมากๆเช่นกันครับมีแค่ 34 หน้าเองครับ… อยากให้คุณ @Sagen1994 ลองอ่านศึกษาดูเพิ่มเติมนะครับ (^_^)


    … ที่ผมโพสต์ตอบคุณ @Sagen1994 มาทั้งหมดนี้ ผมขออนุญาตเรียนซ้ำย้ำอีกครั้งหนึ่งนะครับว่าผมนั้นไม่ใช่ ผู้รู้ ผมเป็นแค่ กัลยาณมิตรธรรมดา คนหนึ่งที่พอจะมีความรู้อยู่บ้างในทางธรรมะ และ ปฏิบัติธรรมอยู่บ้างตามสมควรอยู่ในขณะนี้ครับ (^ ^) ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ (^^)


    … สุดท้ายนี้ผมขอให้คุณ @Sagen1994 และ กัลยาณมิตรทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้จงมีความเจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งในทางโลก และ ทางธรรมครับ... บุญรักษาครับ _/\_
     
  4. Sagen1994

    Sagen1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +202
    สาธุครับ
    กราบขอบพระคุณสำหรับแง่มุมดี ๆ ในฐานะกับยาณมิตรนะครับ

    สำหรับผมและแม่ก็ได้ศึกษาธรรมะสายหลวงพ่อฯ มาตลอด บางครั้งก็ได้ไปทำบุญที่บ้านสายลม ฝึกกรรมฐาน (แต่ก็ฝึกที่นั่นเพียงประมาณ 4-5 ครั้ง ก็จดจำอารมณ์มาฝึกเองที่บ้าน ประกอบกับช่วงนั้นไม่ค่อยมีเวลาที่ตรงกับกำหนดการ) รวมถึงหนังสือมโนมยิทธิที่เป็น pdf นั้น ก็ได้ดาวน์โหลดติดไว้ใน iPad ตลอดครับ เป็นหนังสือที่ดีและเป็นประโยชน์มาก (ต้องกราบขอบพระคุณเจ้าของนามปากกาสุนิสา วงษ์ราม) แต่ว่าจริตของผมและแม่คือ ไม่ชอบไปในที่คนมาก ๆ ส่วนมากก็จะศึกษา ฟังธรรม อยู่ที่บ้าน ปฏิบัติที่บ้านเป็นหลัก

    แม่ผมก็มั่นคงศึกษาในสายของหลวงพ่อฯ

    ส่วนผมเองนั้น ในฐานะที่ร่ำเรียนในมหาวิทยาลัย ทำให้ผมค่อนข้างจะเป็นคนหัวแข็งในช่วงหนึ่ง ปฏิเสธศาสนาก็เคย อ่านพระไตรปิฎกจนรู้สึกว่า “ฉันไม่ต้องการให้ใครมาสอน” ก็เคย ศึกษาเถรวาท มหายาน วัชรยาน เซน ก็เคย แต่ก็ได้ศึกษาแนวทาง (ที่ดี) หลายสายหลายแนวทาง จนกระทั่งสุดท้ายก็กลับมาจบที่หลวงพ่ออยู่ดีครับ

    สำหรับกระทู้นี้ ผมเพียงได้พบเห็นการเชิญชวน พอเข้าไปแล้ว ในฐานะคนที่ศึกษามาระดับหนึ่ง ทั้งในพระพุทธศาสนาโดยภาพรวมและในสายของหลวงพ่อฯ และอย่างที่ท่านพูดถึง วิปสฺสนูปกิเลส ก็รู้สึกเช่นกันว่า มีโอกาสเป็นอย่างนั้น การกระทำแบบนี้ อ้างตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อ บอกว่าหลวงพ่อสั่งให้เขาเป็นผู้สอนแต่เพียงผู้เดียว ซ้ำยังมีการอวดอุตริมนุสสธรรมมากมาย ทับถมครูและวัดท่าซุงเองเสียด้วยซ้ำ ทำให้ผมคิดว่า คงเป็น “ลิงคนละฝูง” กันกระมัง

    ที่หนักคือ ลูกศิษย์เขาในกลุ่ม (ที่เขาได้ “อุปโลกน์” ให้เป็นครู) ต่างบอกว่า เขาได้รับการรับรองจากสมเด็จ หลวงพ่อฯ และกรมหลวงชุมพรฯ ว่า ตัวเขาสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล เขาไม่ได้บอกว่าขั้นไหน แต่เขาอ้างว่า เขาฝึกให้คนอื่นได้ถึงอนาคามี ผมก็สงสารคนที่หลงเชื่อไปเสียจริง ๆ ผมเอง บอกเอง แถมอ้างว่าหลวงพ่อรับรองอีก

    ผมทนอยู่ได้ไม่นาน จึงได้ออกมา แล้วมาแลกเปลี่ยนกับท่านทั้งหลาน ณ ที่นี้ เชื่อว่า คนกลุ่มนี้ คงไม่ได้มีที่เดียวและยังมีอีกมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2022

แชร์หน้านี้

Loading...