ชนบท168 ศูนย์รวมวัตถุมงคล พระป่ากรรมฐานและพระบ้านเกจิขลัง

สมเด็จหลวงปู่บุญ วัดวิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง แพ็คคู่2องค์ ให้บูชา200บ.

หลวงปู่บุญ ขันติโก วัดวิเศษไชยชาญ ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ. อ่างทอง ท่านเป็นลูกศิษย์เรียนวิชามาจากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อแช่ม วัดนวลนรดิตถ์ หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์ และหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ

พระเนื้อผงของท่าน มีส่วนผสมของเกศา ชานหมาก ผงปัถมัง เกสรดอกไม้ ว่านยา และพระผงปากน้ำรุ่นแรก

 

พระสมเด็จอรหังกลีบบัวพิมพ์เล็ก สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชฯ วัดบวรนิเวศฯ จ.กรุงเทพฯ ปี 2531 ปิดรายการครับ

พระสมเด็จอรหังกลีบบัวพิมพ์เล็ก สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศฯ จ.กรุงเทพฯ ปี 2531 พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ มวลสารผสมจิตลดาในรัชกาลที่๙ แบบเข้มข้นมาก ผงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และผงจากครูบาอาจารย์สายกรรมฐาน จัดเป็นหนึ่งพระเครื่องในสมเด็จพระญาณสังวรฯที่ได้รับความนิยม

 

พระสมเด็จสิริโลกนาถ พิมพ์ทรงเจดีย์ ลป.หมุน ร่วมเสก ผสมผงสมเด็จเก่าวัดระฆัง ฝังพระธาตุ ปี2536 ปิดรายการครับ

พระสมเด็จสิริโลกนาถ สมเด็จพุฒาจารย์เกี่ยว วัดสะเกศฯ ท่านทรงดำริสร้าง โดยผสมผงพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักเป็นมวลสารหลัก และยังมีส่วนผสมนอกเหนือจากที่กล่าวไป คือ ผงหลวงพ่อเกษม เขมโก จ.ลำปาง , ผงหลวงพ่อดาบส สุมะโน จ.เชียงราย , ผงหลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง จ.เชียงใหม่ , ผงหลวงปู่สิม พุทธาจาโร จ.เชียงใหม่ , ผงหลวงปู่ดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ , ผงครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง จ.เชียงใหม่ , ผงหลวงปู่หล้าตาทิพย์ จ.เชียงใหม่ , ผงหลวงปู่แก้ว จ.เชียงใหม่ , ผงว่าน 108 ครูบาศรีวิชัย รุ่นสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ฯลฯ

พระรุ่นนี้ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก ถึงสองวัดใหญ่ เมื่อปี2536
พุทธาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2536 ณ พระวิหารสมเด็จพุฒาจารย์(โต) วัดระฆังโฆสิตาราม กทม.โดยพระราชาคณะได้สวดพระธรรมจักกัปวัตนสูตรแล้วสวดพระคาถาชินบัญชร 9 จบ

พุทธาภิเษกครั้งที่สองเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2536 ณ พระอุโบสถวัดสระเกศ กทม.มีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณได้เมตตามาร่วมพิธีรวม 208 รูป สมเด็จพุฒาจารย์(เกี่ยว) วัดสระเกศ กทม.องค์ประธานจุดเทียนชัยและนั่งปรก มีรายนามพระเกจิอาจารย์บางรูป ดังนี้ :
- หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ
- หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม
- หลวงพ่อเพชร วัดสิงห์ทอง จ.อุบลราชธานี
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
- หลวงพ่อดี วัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี
- หลวงพ่อทองหยด วัดชีสุขเกษม จ.สุพรรณบุรี
- หลวงพ่อทองเหมาะ วัดปราสาททอง จ.สุพรรณบุรี
- หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย จ.สุพรรณบุรี
- หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
- หลวงพ่อนะ วัดหนองบัว จ.ชัยนาท
- หลวงพ่อผล วัดดักคะนน จ.ชัยนาท
- หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม
- หลวงพ่อแนม วัดเขาหน่อ จ.นครสวรรค์
- หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู จ.นครสวรรค์
- หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ จ.นครสวรรค์
- หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
- หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
- หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.พระนครศรีอยุธยา
- หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา จ.พระนครศรีอยุธยา
- ครูบาแก้ว วัดปงสนุกใต้ จ.ลำปาง
- ครูบาสิงห์ วัดฟ้าฮ่าม จ.เชียงใหม่
- หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย
- ครูบาแสงหล้า วัดพระธาตุสายเมือง ประเทศพม่า
- พ่อท่านแก้ว วัดเขาปูน จ.นครศรีธรรมราช
- หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จ.ประจวบคีรีขันธ์...ฯลฯ
นอกจากนี้หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา,หลวงพ่อดาบสสุมโน อาศรมไผ่มรกต เชียงราย,หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน จ.พิจิตร....ได้เมตตาเสกเดี่ยว

 

พระเบญจภาคีเนื้อผง"รุ่นหยก"ครบชุด ๕ พิมพ์ วัดระฆังโฆสิตาราม ปี พ.ศ.๒๕๓๖ ปิดรายการครับ

สมเด็จฯพระญาณสังวรฯ(เจริญ) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหารฯ
เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย ในวันจันทร์ที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๖ พระคณาจารย์ดังจากทั่วทุกภูมิภาคได้พร้อมใจกันเดินทางมาประกอบพิธีอธิษฐานจิตแผ่พลังสมาธิบรรจุลงในพระสมเด็จฯ ชุดนี้
ซึ่งได้ตั้งชื่อรุ่นนี้ว่า " รุ่นหยก "

เนื้อหามวลสาร ได้แก่
๑.ได้รวบรวมเอาผงพระสมเด็จเก่าที่แตกหักของแต่ละวัด มาบดผสมรวมกัน
รวมทั้งสมเด็จวัดระฆัง และ สมเด็จบางขุนพรหม
๒.ดอกมะลิที่บูชาพระ ๑๐๘ รูปจากทั่วประเทศ
๓.ข้าวก้นบาตรที่พระคณาจารย์ดังปลุกเสกตลอดไตรมาส
๔.แผ่นทองคำเปลวปิดองค์พระประธานจากวัดดังทั้งสี่ภาค
๕.น้ำพุทธมนต์จาก วัดโสธร ฉะเชิงเทรา ..วัดไร่ขิง นครปฐม ..วัดเขาตะเครา เพชรบุรี ..วัดอินทรวิหาร กทม.
๖.ดินใจกลางพระอุโบสถของวัดโสธรวราราม ฉะเชิงเทรา
๗.หยกแท้จากประเทศจีนนำมาบดละเอียดผสมกับมวลสารทั้ง ๖ อย่าง แล้วนำมากดพิมพ์พระสมเด็จฯ

..พระคุณเจ้าเจริญพระพุทธมนต์ อาทิ..
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดเบจมบพิตร
สมเด็จพระพุทธาจารย์ฯ (เกี่ยว) วัดสระเกศ
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดสุวรรณาราม
พระพรหมมุนี วัดบวรนิเวศฯ
พระธรรมวโรดม วัดเบญจมบพิตร
พระเทพศิลวิสุทธิ์ วัดอรุณราชวราราม
พระราชสุวัฒนาภรณ์ วัดระฆังโฆษิตารามวรมหาวิหาร
พระมงคลภาณกาจารย์ วัดราชประดิษฐ์ ..รวมทั้งพระสงฆ์สวดพุทธาภิเษก วัดสุทัศน์ , วัดราชสิทธาราม
วัดละ ๔ รูป
รายนามพระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก อาทิ
- สมเด็จพระญาณสังวรฯ(เจริญ) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
- หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์
- พระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศน์
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
- หลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังก์วิเวการาม
- หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
- หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
- หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ
- หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ
- หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
- หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
- หลวงพ่อดี วัดพระรูป
- หลวงพ่อพิมพา วัดหนองตางู
- หลวงพ่อเล็ก วัดเขาดิน
- หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
- หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า
- หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
- หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม
- หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ
- หลวงพ่อเจ็ก วัดระนาม
- หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
- หลวงพ่อทิม วัดพระขาว
- หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
- ครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขต
- หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม
- หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร
- หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า
- หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
- พระครูโฆษิตปริยัติคุณ วัดระฆัง
- สมเด็จพระพุทธาจารย์ ( เกี่ยว ) วัดสระเกศ เป็นต้น







พิมพ์พระผงสุพรรณมีกระเทาะด้านหลังนิดนึงนะครับ

 

ขอจองครับ

 

พระสมเด็จเจริญลาภ พิมพ์เล็ก หลวงปู่บุญหนา วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร ปี๔๗ ปิดรายการครับ

ประสบการณ์บางส่วนจากเวปพลังจิต
ครับผมจะเล่าให้นะครับ และขออนุญาตพี่อาร์ท สกลนคร เจ้าของประสปการณ์ในนำข้อความส่วนตัวที่พี่อาร์ท สกลนคร เคยเล่าให้ผมฟังนำมาเผยแพร่ เพื่อให้คนที่นับถือและมีพระของหลวงปู่บุญหนา ภูมิใจครับ
เล่าละกันนะครับ ข้อความข้างล่างนี้เป็นข้อความที่พี่อาร์ท สกลนคร แกพูดคุยกับผมผ่านข้อความส่วนตัว ในเวปไซท์แห่งหนึ่งนะครับ

ถ้าประสบการณืที่ได้พบหรือได้ฟังมาก็มีเยอะครับแต่ส่วนตัวกับคนใกล้ชิดก็คือผมกับน้องสาวของผมเองประมาณปี 43 คือน้องสาวได้ขับรถจะกลับบ้านประมาณสี่ทุ่มแล้วเกิดอุบัติเหตุโดยที่รถนั้นกระโดดข้ามเลนมาอีกฝั่งนึงโดยใช้หลังคาวิ่งแทนล้อแล้วก็ไปฟาดกับเสาไฟฟ้าจนทำให้รถเกิดเป็นรูปตัว v สรุปคือเละครับแต่น้องสาวของผมไม่เป็นอะไรเลย แม้แต่รอยช้ำ มีเรื่องตลกก็คือหลังจากที่ออกจากรถแล้ว น้องสาวของผมได้โทรไปบอกคุณพ่อว่ารถลงข้างทาง พ่อก็เลยโทรไปบอกลูกน้องที่กรมทางหลวงให้เอารถลากของกรมไปลาก แต่พอซักพักลูกน้องก็โทรมาบอกว่า เจ้านายครับนี่รถไม่ได้ลงข้างทางนะครับ อันนี้รถคว่ำเลยครับ คุณพ่อก็เลยออกมาดู ก็ยังงงว่าน้องสาวของผมรอดมาได้ยังไง คนแถวนั้นก็เลยมาถามว่าห้อยพระอะไร คุณพ่อก็เลยบอกหลวงปู่บุญหนารุ่นแรก ซึ่งตอนนั้นเชื่อมั้ยว่า ผมเอาเหรียญรุ่นแรกเนื้อทองแดงไปแจกตามบ้านเพื่อนๆที่สนิทกัน เค๊ายังถามเลยว่าหลวงปู่ไหน วัดไหน อยู่ที่ไหนอยู่เลยครับ ไม่มีคนรู้จักครับ

ละก็อีกเรื่องนึงที่ อ.พรรณานิคม มีเด็กนักเรียนบ้านอยู่แถววัดนั่นหละ ก็นั่งรถสองแถวกลับบ้านแต่พอลงรถก็ข้ามถนนตรงข้างหน้ารถ ซึ่งตอนนั้นถนนแถวพรรณานิคมยังเป็นสองเลน พอดีมีรถหกล้อมาพอดีก็เลยถูกรถหกล้อทับ ไม่เป็นอะไรเลยแต่คนทั้งรถเห็นว่าเป็นหลวงปู่บุญหนาคร่อมตัวเจ้าเด็กคนนี้อยู่ครับ เค๊าก็กรูกันมาดูพระที่ห้อยคอ สรุปคือเป็นเหรียญรุ่นแรก

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับตัวผมก็คือตอนที่ทำงานอยู่สะพานไทย-ลาว จ.มุกดาหาร ตอนที่เครนถล่ม วันที่ 22 ก.ค.48 วันนั้นเป็นวันเข้าพรรษาพอดี ฝั่งลาวไม่ทำงานเพราะเค๊าถือก็มีแต่ฝั่งไทยทำงานเพราะพวกญี่ปุ่นไม่เชื่อ ต้องการจะเร่งงาน ผมก็ติดโผวิศวกรที่จะขึ้นไปบนเครนพอดี วันนั้นฝนตกทั้งวัน มาหยุดเอาตอน 4 โมงเย็น พวกผมก็ขึ้นไปเช็คอุปกรณ์เตรียมตัวจะลองเดินเครน ตอนนั้นรู้สึกว่าลืมตลับเมตรกับเครื่องคิดเลขก็เลยชวนน้องรุ่นน้องอีกคนนึงลงมาด้วยกัน พอลงมาได้ซักประมาณ 10 นาที ได้ยินเสียงดังบึ้ม ซึ่งดังมากๆ ก็เลยพากันออกไป สรุปเครนถล่มครับ พังยับ วิศวกรตาย 11 คน เจ็บอีก 20 กว่าๆ ส่วนผม 2 คนรอด ตอนนั้นคุณพ่อ(นายช่างสาธร)เป็น ผอ.แขวงการทางมุกดาหารพอดี แกรีบขับรถจากสกลนครมาที่เกิดเหตุหลังจากที่ได้รับแจ้งจากลูกน้องเลยเพราะโทรหาผมไม่ติด ซึ่งตอนนั้นน่าจะเป็นตอนที่ผมไปช่วยกันพาคนงานที่ติดบนเครนลงมา พอคุณพ่อเจอผมท่านบอกอย่าลืมกลับบ้านไปกราบหลวงปู่ด้วยล่ะเพราะซึ่งพระที่ผมห้อยคอตลอดก็คือหลวงปู่บุญหนานี่หละครับ

ส่วนด้านเมตตา โชคลาภก็มีเยอะครับ คือตอนที่ผมไปบวชเรียนอยู่กับท่านที่วัดนั้นจะมีญาติโยมมากราบท่านกันทุกวัน โดยเฉพาะวันที่ 1 กับวันที่ 16 (วันหวยออก) จะเยอะมากเป็นพิเศษ ท่านพูดอะไรไป ชาวบ้านก็จะเอาไปตีเป็นเลข ถูกกันถ้วนหน้า อย่างโรงแรมของผมที่สกลนครนี่ก็ตั้งรูปท่านไว้ก็มีแขกมาพักทุกวันไม่เคยขาดเลยครับ มีอีกทีนึงตอนนั้นท่านรับกิจนิมนต์ไป กทม. ตอนบ่ายมีลูกศิษย์ที่เป็นทหารประมาณ 10 กว่าคนจะมากราบท่านที่กุฏิ คือทุกวันท่านจะลงมาตอนบ่ายสอง เค๊าก็มานั่งรอกัน กุฏิที่ผมอยู่จะอยู่ตรงข้ามกับกุฏิของหลวงปู่ ผมก็เดินไปบอกว่าหลวงปู่ไม่อยู่ เค๊ามาเถียงผมว่าไม่อยู่ได้ยังไงก็ได้ยินเสียงท่านเดินอยู่ข้างบนอยู่ เค๊าบอก ผมก็เลยบอกว่า ก็ดูที่กุญแจสิเพราะกุญแจล็อคอยู่ข้างนอก ถ้าหลวงปู่อยู่ ท่านจะไม่เคยล็อคกุญแจ พวกเค๊าพากัน งงใหญ่เลยครับ มีเยอะครับประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่บุญหนา เท่าที่ผมเล่าให้ฟังนี่คือที่ประสบมากับตัวเองและครอบครัวครับ

 

ขอจองครับ

 

พระสมเด็จแพ ๘๗ พิมพ์คะแนน ฝังตะกรุดทองคำ ปี2534 วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ปิดรายการครับ

“หลวงพ่อแพ” เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในวงการคณะสงฆ์ ที่มหาชนเลื่อมใสศรัทธาเคารพนับถือทั่วประเทศ นอกจากเป็นผู้มีอุตสาหะวิริยะในการศึกษา หลวงพ่อได้สนับสนุนให้มีการศึกษาธรรมอย่างจริงจัง ได้ตั้งโรงเรียนสอนนักธรรมและธรรมศึกษาขึ้นใน วัดพิกุลทอง

และที่สำคัญหลวงพ่อได้อุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้แก่ประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก และผู้เดือดร้อนตลอดมา แม้กระทั่งประโยชน์ที่จะให้แก่สังคม ซึ่งเป็นรูปธรรมและที่หลวงพ่อพอใจและสุขใจมาก คือ “การก่อสร้างโรงพยาบาลและอาคารแก่ผู้เจ็บป่วยยากไร้” ซึ่งหลวงพ่อตระหนักดีว่าเป็นสิ่งที่ทำตรงกับความต้องการของสาธารณชน เพราะคนเราต้อง “เกิด แก่ เจ็บ ตาย” อยู่บริเวณในโรงพยาบาลทั้งสิ้น ปี 2508

อายุครบ 60 ปี ก่อสร้างโรงพยาบาลท่าช้าง พร้อมก่อตั้งมูลนิธิไว้ในโรงพยาบาล 1 กองทุน ปี 2517 อายุครบ 72 ปี ก่อสร้างพระพุทธรูปปางประทานพร หน้าตัก 13 วา 2 ศอก 7 นิ้ว พร้อมทั้งวิหารคด บรรจงสร้างด้วยศิลป์สวยงามโดดเด่นสะดุดตา ผู้มากราบไหว้นมัสการจะต้องเอ่ยปากชมและกราบไหว้ และรู้สึกว่าใจสงบ เยือกเย็นขึ้น ปี 2528 อายุครบ 80 ปี สร้างอาคาร 4 ชั้น “หลวงพ่อแพ 80” ในบริเวณโรงพยาบาลสิงห์บุรี ด้วยเงิน 12 ล้าน และตั้งมูลนิธิให้โรงพยาบาลอีก 1 กองทุน พร้อมสร้างสาลาพักร้อนไว้ในโรงพยาบาล 3 หลัง ปี 2537 อายุได้ 84 ปี สร้างอาคาร “หลวงพ่อแพ 84” เป็นตึกเอกซเรย์ ราคา 6 ล้านบาท

ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี หลวงพ่อได้ควบคุมส่งเสริมการศึกษาทั้งในทางโลกทางธรรม ตลอดจนด้านการสาธารณสุข ดูแลการรักษาความเรียบร้อยดีงามในวงการคณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนฝ่ายคฤหัสถ์ หลวงพ่อดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเป็นตัวอย่างอันดีของตำแหน่งเจ้าคณะสังฆาธิการทุกระดับ วงการคณะสงฆ์

พระเนื้อเกสรฝังตะกรุดทองคำด้านบนครับ

 

เหรียญพระเศรษฐีนวโกฏิ หลวงพ่อเรืองยศ เหรียญกฐิน ปี๕๓ วัดโพธิธรรมศิลา จ.ชัยภูมิ ปิดรายการครับ

พระเศรษฐีนวโกฏิ เป็นที่สุดแห่งพุทธคุณด้านมหาเศรษฐี ร่ำรวยมั่งมีทรัพย์ ถ้าผู้ใดได้กราบบูชาพระเศรษฐีนวโกฏิแล้ว จักเป็นผู้มีอำนาจบารมี ยังผลให้เป็นผู้ที่เจริญในโภคทรัพย์ เงินทอง การงานต่างๆ สิ่งที่พึงปรารถนาพึงสำเร็จก้าวหน้ามั่นคงมั่งมีตลอดกาล

พระเศรษฐีนวโกฎิ เป็นรูปเคารพแทนมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านในสมัยพุทธกาล พระเศรษฐีนวโกฎิ ท่านเหล่านี้เป็นผู้สร้างคุณประโยชน์อเนกอนันต์ให้แก่พระพุทธศาสนา มีความมั่งคั่งในโภคทรัพย์อยู่ในระดับเดียวกับกษัตริย์ ทั้งยังเป็นสัมมาทิฏฐิ และยังเป็นพุทธอุปฐากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงยกย่องว่า ท่านเหล่านี้เป็นผู้เลิศในการทำทาน และเป็นยอดของมหาเศรษฐีทั้งปวง

ตามตำนานของชาวล้านนา สมัยหนึ่งเกิดทุกข์เข็ญ ทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือดร้อน บังเกิดความอดอยากขึ้น จึงมีพระภิกษุผู้เป็นอริยะรูปหนึ่ง ได้แนะนำให้สร้าง พระมหาเศรษฐีนวโกฏิขึ้น เพื่อสักการบูชาแก้เคล็ดในความทุกข์ยากทั้งหลาย เมื่อสร้างและฉลองสำเร็จ ก็ปรากฏมีเหตุการณ์ปรากฏขึ้นเป็นอัศจรรย์ คือ ความทุกข์ยาก อดอยากทั้งหลายได้บรรเทาลง จึงเป็นคติที่เชื่อถือว่า ถ้าผู้ใดได้บูชา พระเศรษฐีนวโกฏิ แล้ว จะเป็นสิริมงคล ทำมาค้าขึ้น ประสบแต่โชคลาภ อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยอานิสงส์แห่งบารมีธรรมของ พระเศรษฐีนวโกฏิ

ครั้งใดที่เจริญพระพุทธมนต์ กราบไหว้บูชาพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ก็ขอให้นึกถึงอัครมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านนี้ด้วย เพื่อที่จะมิให้หลงลืม จึงพิจารณาสร้างพระพุทธรูปให้มี 9 พระพักตรอยู่ในองค์เดียวกัน แต่ละพระพักตร ก็คือพระพักตรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่เพื่อให้รำลึกถึง มหาอุบาสก, อุบาสิกา ทั้ง 9 ท่าน จึงสร้างพระพักตรให้มี 9 หน้าเรียก พระพุทธรูปองค์นี้ว่า “พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ”

พระเศรษฐีนวโกฏิ พระพักตร์ทั้ง 9 แทนเศรษฐีต่างๆ ดังนี้ 1. ท่านธนันชัยเศรษฐี 2. ท่านยัสสะเศรษฐี 3. ท่านสุมานะเศรษฐี 4. ท่านชะฏิกัสสะเศรษฐี 5. ท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี 6. ท่านเมนฑะกัสสะเศรษฐี 7. ท่านโชติกะเศรษฐี 8. ท่านสุมังคะกัสสะเศรษฐี และ 9. ท่านวิสาขามหาอุบาสิกา

 

รูปหล่อเนื้อทองผสม หลวงพ่อเร่ง วัดดงแขวน จ.อุทัยธานี พ.ศ.2552 รุ่น อายุ 81 ปี ปิดรายการครับ

เคยได้ยินมั๊ย เค้าบอกต่อกันว่า ....ลองยิงพระแล้วปืนแตก !!! ปืนแตกเป็นอย่างไง ได้ยินมาเยอะ แต่ไม่เคยเห็นของจริง .....ก็มาดูซิ.. ที่หลวงตาเร่ง มีหลักฐานชัดเจน ปืนทำจากเหล็กกล้าทั้งดุ้น แตกเป็นเศษเหล็ก หลังจากลองยิงพระของหลวงตา

หลวงตาเร่ง ฐานธํมโม วัดดงแขวน อ.สว่างอารมณ์ อุทัยธานี เจ้าของตำรา ตะกรุดหม้อผี องค์นี้ ขลังตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม ๆลูกชาวนา แม้บวชเมื่อแก่ แต่ก็เก่งไม่เบา เรื่องปืนแตก ปืนเสีย ยิงไม่ออก ยิงออกไม่เข้า ขอให้บอก ของถนัดท่าน ปาริหาริย์ ไม่เบา เล่าแบบย่อๆ ให้คนกรุงเทพ พอรู้จัก หลวงตาแก่ ๆ แห่งเมืองพระชนกสักหน่อย อ่านให้รู้ ว่า พระดียังมีอยู่ รู้แล้วให้รีบไปกราบ ไปเช่า ของดีจากท่าน พระดี 100 ปี เจอสักองค์

หลวงตาเร่ง เสกพระแป๊บเดียว...ขลัง ก็เสกพระ เป่าสัก 3 อึดใจ บอกว่าใช้ได้แล้ว ใครจะเชื่อ เกิดมีคนหัวรั้น ไม่ยอมลงให้ใครง่าย ๆ ลองยิงพระของท่าน ปรากฏว่า ปืนแตก ต้องมาขอขมาท่าน แล้วเอากระบอกปืนที่แตก ถวายให้หลวงปู่ไว้ดูต่างหน้า

ก่อนบวช เคยโดนรถบรรทุกชนอย่างจัง กระเด็นไปไกล หน้ารถพังหม้อน้ำแตก คนขับรถทำท่าจะหนี หลวงปู่ ที่ถูกชน กลับไม่เป็นไรเลย ลุกขึ้นปัดแขน ปัดขา แล้วตะโกนบอกคนขับรถที่จะหนีว่า “ไม่ต้องหนีหรอก ข้ายังไม่ตาย ข้าไม่เอาเรื่องเองหรอก ส่วนรถเอ็งที่เสีย เอ็งก็อย่าเอาเรื่องข้านะ หายกันนะ” ท่านว่าอย่างนี้

หลวงตาเร่ง เก่งตั้งแต่เป็นฆราวาส ก็อาจารย์ท่าน คือ หลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ เจ้าของวิชาอาพัดเหล้า เสกเหล้าเป็นน้ำ เสกน้ำเป็นเหล้า เจ้าแห่งอภิญญา มาลงให้ที่หลวงปู่เร่ง องค์เดียว แม้หลวงพ่อเคลือบ จะมรณภาพ ก็มาทิ้งร่างไว้ที่นี่ และอัฐิธาตุกลายเป็นพระธาตุเม็ดใหญ่ ..ปัจจุบัน สถานที่ทิ้งสรีระท่าน มีต้นโพธิ์คู่ขึ้น มีต่อมาทำรังใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ไว้

 

จองครับ

 

พระกริ่งพันล้าน วัดสามง่าม จ.นนทบุรี (หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อธิฐานจิต) ปิดรายการครับ

พระกริ่งพันล้านล้าน รุ่น1 เนื้อผง ผสมธนบัตรชนิดราคา1,000 บาท วัดสามง่าม จ.นนทบุรี จัดสร้างในปีมหามงคล ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี พ.ศ.2539 หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อธิฐานจิต เงินทองไหลมาเทมาครับ

 

พระผง พระวิสุทธิเทพ ลื้อตงปิน วิหารเซียน จ.ชลบุรีพิมพ์เล็ก ปิดรายการครับ

มีคนถามหา เยอะครับ องค์นี้พิมพ์เล็ก สภาพพอสวยครับ

พระผง พระวิสุทธิเทพ องค์ ลื้อตงปิน 1 ใน 8 เซียน

ท่าน อาจารย์ เซียน สง่า กุลกอบเกียรติ สร้างพลัง พุทธคุณ เทียบเท่า พระสมเด็จวัดระฆัง ในสายจีน ซูฮกยก เป็นเบอร์หนึ่ง ความเก่ง ไม่แพ้ แป๊ะโรงสี โง้วกิมโค้ย อ.เจ้าสัว ซีพี เพราะ ท่าน อ.สง่า ก็ เป็นหนึ่งใน อาจารย์ของ เจ้าสัวซีพี อีกท่าน หนึ่ง เช่นกันไม่แน่จริง ทางรัฐบาลจีน มอบรางวัล บุคคลทรงคุณค่า ให้การยอมรับ ท่าน อ. เซียน สง่า

พระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร บอก อ.เซียน สง่า เป็น คนที่ไม่ธรรมดา

ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ยังยอมรับว่าสายเทพเจ้าจีนนั้นมีอยู่ ญาณแรงจริงโดยเฉพาะแปดเซียน เมื่อครั้ง รับนิมนต์ไปนั่งปรกอธิษฐานจิตที่วัดมังกร เยาวราช ได้เจิมเป่านะปัดตลอดติดที่ป้ายวัดด้วย

สมัยที่สร้างวัดญาณสังวรวราราม ชลบุรีใหม่ๆนั้น ได้ประสบปัญหาและอุปสรรคนานาชนิด ทั้งที่เกิดจากคนงานก่อสร้าง และจากสภาพภูมิ อากาศที่แปรปรวน จึงได้เชิญ ผู้ที่มีสมาธิจิตดี มาตรวจดูว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็พบว่าบริเวณที่สร้างวัด นั้นมีความสัมพันธ์กับพระนเรศวรมากและมีดวงวิญญาณ ของผู้ที่ตายจาก สงครามอยู่มากเป็นเหตุให้การทำงานมีอุปสรรค ความทราบถึงองค์สมเด็จ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชท่านก็เลย ได้เดินทางมาทำ พิธีแผ่เมตตา ให้แก่ดวงวิญญาณ เหล่านั้นด้วยพระองค์ เองแต่ปรากฏว่า ยิ่งแผ่เมตตาก็ยิ่งมีดวงวิญญาณ พากันมามาก ขึ้นจนท่าน ต้องมีบัญชาให้ไป ตามตัว ซินแส อ.เซียน สง่า กุลกอบเกียรติ(ผู้ก่อตั้งวิหารเซียน) มาช่วยตรวจดู ให้ ซึ่งเมื่อท่านมาตรวจดูแล้วก็รู้ว่าจุดที่ สร้างวัด เคยเป็นที่ เดินทัพและเกิด สงครามมาก่อน ท่านจึงได้เผาฮู้ ตรงใจกลาง ของที่นั้นซึ่งก็ได้มีคนที่ ตาดีได้ เห็นองค์ท่าน"ลื่อตงปิน"เสด็จมา บน หลังมังกร ซึ่งเมื่อท่านมาถึงพวกวิญญาณทั้งหลายก็กระเจิงหมด ซึ่งสถานที่ท่านได้เผาฮู้นั้นได้กลายเป็นใจกลาง พระอุโบสถในปัจจุบันนี้"

ประวัติ เซียน ลื้อท่งปิน วิหารเซียน จ.ชลบุรี

ท่านอ.สง่า กุลกอบเกียรติผู้ก่อตั้งวิหารเซียนที่ชลบุรี ท่านบอกว่าองค์ลื่อตงปินสามารถสื่อกับท่านได้โดยทางจิต แต่ท่านไม่เคยเห็นตัวองค์ท่านทางนิมิต เลยท่านบอกว่า ตำแหน่งของท่านลื่อตงปิน มีหน้าที่เหมือนรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่คอยดูแล ความสงบเรียบร้อย และปรามปรามผู้ร้าย

มูลเหตุที่ท่านได้รู้จัก กับองค์ท่าน ลื้อตงปิน นั้นเนื่องมาจากคุณแม่ของ อ.เซียน สง่า ท่านป่วยเป็นโรคทานอะไรไม่ได้ ทำให้ไม่มีกำลังแม้แต่จะ ลุกยืน ตอนนั้นพวกญาติท่านก็พาไปหาซินแส หรือ หมอแผน ปัจจุบันมาหลายท่านก็ไม่ดีขึ้น ประจวบกับ ท่านอ.เซียน สง่าในสมัยนั้นไม่ค่อยเชื่อในเรื่องการเผาฮู้ ต้มกินแล้วจะหายยิ่งพวกเข้าทรงเจ้าต่างๆท่านไม่เชื่อเลย แต่เมื่อเป็นความต้องการของญาติๆก็เลยได้แต่ลองทำดูเพราะ ม่มีวิธีอื่นแล้ว

จนวันหนึ่งได้เชิญคนทรงมา ซึ่งคนทรง นี้ตามปกติจะไม่ใช่ร่างทรงของท่านองค์ เซียนลื่อตงปินแต่เป็นร่างทรงเทพองค์อื่น แต่วันนั้นพอทำพิธีอัญเชิญปั๊บท่านลื่อตงปินก็มาประทับทรงทันที และก็บอกว่าจะ ช่วยให้คุณแม่ ของ อ.เซียน สง่า ลุกเดิน ได้หายภายใน 3 เดือน แต่มีข้อ แม้ว่า อ.เซียน สง่า จะต้องทำงานรับใช้ท่าน ซึ่งท่าน อ.เซียน สง่า ก็ได้ถามว่าจะให้ทำอะไรถ้าให้เป็นร่างทรงแบบนี้ ท่านไม่เอา และท่านก็ไม่เคยศึกษาศาสตร์แนวนี้มาก่อน ท่านลื่อตงปิน ก็บอกว่าไม่เป็นไรท่านจะ คอยช่วยบอกให้เองว่าจะต้องทำอะไรแล้วท่านก็เขียนฮู้ ให้ อ.เซียน สง่า เก็บไว้เผาให้คุณแม่ของท่าน ละลายน้ำดื่ม ซึ่งก็ปรากฏว่าพอครบ3เดือน คุณแม่ท่านก็แข็งแรงเป็นปรกติเดินได้ดังเดิม ท่านลื่อตงปิน ก็มาทวงสัญญา อ.เซียน สง่า จึงต้องยอมทำงานรับใช้ท่านสงเคราะห์มนุษย์ โดยที่ท่านกับ อ.เซียน สง่าจะสื่อสัมผัสทางใจกันเหมือนเป็น อาจารย์กับลูกศิษย์ อภินิหาร ขององค์ เซียนลื่อตงปิน ที่วิหารเซียนมีเยอะ เอาไว้มีเวลาจะมาเล่าเป็นเรื่องๆไป

เช่นเรื่อง ตอน ช่วยสร้างวัดญาณสังวร ชลบุรี ตอนปราบมังกรเขียว ตอนไฟไหม้โรงแรมที่พัทยาตอนที่ช่วยกิจการของเจ้าของผลิตภัณฑ์ไก่รายใหญ่ CP ตอนช่วยเจ้าของตึกใบหยกทาวเวอร์ ตอนช่วย แบงค์กสิกรที่จะล้มช่วง IMF

อีกอย่างหนึ่งคือ มีคนหนึ่งเขาบูชา พระผงท่าน ลื่อตงปิน จากที่ วิหารเซียน เมื่อ ครั้ง อ.สง่า ยังมีชีวิต ไป วันหนึ่งก็ไปเจอ นักจับพลังพระ ขณะที่นักจับ พลังพระกำลังตรวจพระของคนอื่นอยู่ว่าดียังไง จู่ๆเขาก็หันมาที่ชายคนนี้ แล้วถาม ว่าเขาห้อยพระอะไรอยู่(พระอยู่ในเสื้อไม่ได้ห้อยออกมาข้างนอก)
เพราะเขาเห็น แสงรัศมีสีชมพูพุ่งออกมาดีทางเมตตา ร่มเย็น และพลังนี้ หมุนวนกลับไปกลับมา เหมือน หยิน และ หยาง ซึ่งตั้งแต่เขาตรวจพระมาไม่เคยเจอแบบนี้ เขาก็เลยขอดูพระพอเขาเห็นพระแกเลย หายสงสัย ว่าทำไมจึงเกิดมีพลังแบบนี้ได้เจอพลังสายญาณเทพเจ้าจีนครั้งแรก ต้องทึ่งเพราะแรงจริง

และ มีพระเกจิชื่อ ดังทาง ภาคตะวันออกไม่ขอเอ่ยนาม มีโยมไปขอของดี ท่านบอกกลับไปที่ บ้านโยม นะมีของดีอยู่ ไปค้นดูดีดีละ คนจีนมีหนวดยาวถือแส้คุ้มครองบ้านโยม พอกลับบ้านไปค้นดู เจอพระผง ตามรูป ถึงรู้ตรงตามที่พระท่านบอกไว้จริงอัศจรรย์

วันที่ไคกวงพระผงชุดนี้ ท่าน อ.สง่า ได้อัญเชิญญาณท่านองค์ลื่อตงปินมาประทับทรง ปลุกเสก ที่ วิหารเซียน ครั้งนั้นพิธียิ่งใหญ่ที่สุด คนที่ได้รับไปนั้นเกิดประสบการณ์ ปาฏิหาริย์เพียบ โดนผีเข้า เจ้าที่แรง ห้อยพระผงไปร้องหนี บอกว่า กลัวแล้วอย่าเข้ามา ร้อน ร้อน แคล้วคลาด จากเที่ยวบิน มรณะ องค์ลื้อตงปิ่น ดลจิตดลใจ ให้ยกเลิก ในการเดินทาง อธิษฐานขอเงินได้เท่าไร ได้เท่าใด ไม่ขาดไม่เกิน เศษเกินไม่มี เหลือเชื่อ มากมาย เล่าไม่จบ

 

พระซุ้มกอ เศรษฐีธรรม วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ปิดรายการครับ

ไม่ค่อยเจอครับพิมพ์นี้ แจกในงานบุญประทายข้าวเปลือกช่วยชาติ ของหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด ปี๒๕๔๗

 

จองพระวิสุทธิเทพ ลื้อตงปิน ครับ

 

โอน 250.25 บ.ให้แล้ว ที่อยู่แจ้งใน box ครับ

 

พระผงหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร พิมพ์ทรงหนุมาน วัดป่าประชาชุมพล จ.อุดรธานี ปิดรายการครับ

พระผงหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดป่าประชาชุมพล จ.อุดรธานี พิมพ์ทรงหนุมาน หลังเจริญสุข ว.ช.พ. ปี ๒๕๓๙เนื้อผงพุทธคุณ วัตถุมงคลหลวงปู่ท่านพุทธคุณสูงของจริง ปลุกเสกพิธีเดียวกันกับ พระผงจันทร์ลอย พิมพ์ทรงหนุมาน มีพุทธคุณในทางอำนวยความสำเร็จ ในการรับอาสา อันได้แก่ ผู้มีอาชีพในทางรับราชการ ตลอดจนผู้มีอาชีพรับจ้างต่างๆทั่วไป

 

ผงรูปเหมือนหยดน้ำ หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม ปี๔๑ ปิดรายการครับ

อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดหนองปลาไหล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2486 โดยมีพระครูสุกิจธรรมสรณ์ (หลวงพ่อหว่าง ธัมมสโร) วัดกำแพงแสน เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อปาน อารักโข วัดหนองปลาไหล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สนั่น วัดหนองปลาไหล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง หมั่นพิจารณาคำสอนของครูบาอาจารย์อย่างถ่องแท้ ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศกายถวายชีวิตอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาตลอดไป ช่วงแรกบวช จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองปลาไหล เป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นจาริกไปจำพรรษาที่วัดหนองม่วง 8 พรรษา รับหน้าที่สอนนักธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์สามเณรภายในวัด

ต่อมาในปี พ.ศ.2494 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม จำพรรษาอยู่ที่วัดปลักลายไม้ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ในปี พ.ศ.2497 ย้ายไปสอนพระปริยัติธรรม และจำพรรษาที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อย่างไรก็ตาม ทั้งสองวัดเมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง พระภิกษุสามเณรและชาวบ้านต่างต้องการให้ดำรงตำแหน่งแทน แต่ไม่ประสงค์ที่จะรับตำแหน่งทางปกครองคณะสงฆ์

พ.ศ.2502 สนใจศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างจริงจัง จึงย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดกำแพงแสน ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ศึกษาปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมกับหลวงพ่อหว่างอย่างมุ่งมั่นจริงจัง จนแตกฉาน

เมื่อปี 2524 หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ พระกัมมัฏฐานสายพระอาจารย์มั่น เดินทางมาพักอยู่จำพรรษา ที่วัดกำแพงแสน ทำให้มีโอกาสสนทนาธรรมด้วย และได้รับถ่ายทอดแนวทางการปฏิบัติกัมมัฏฐานให้

สร้างคุณูปการสืบสานจรรโลงพระพุทธศาสนาอย่างรอบด้าน อาทิ ปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ ทั้งในเขตอำเภอกำแพงแสนและพื้นที่ใกล้เคียง จะอุดหนุนด้วยการสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก เพื่อสมทบทุนปัจจัยนำไปใช้เพื่อการสาธารณประโยชน์ แม้วัยล่วงเลยถึงเกือบร้อยปี แต่ยังคงรับกิจนิมนต์นั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่

ส่วนวิทยาคมอันเข้มขลังใช้นั่งบริกรรมระหว่างนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคล ล้วนแต่เป็นวิทยาคมของหลวงพ่อหว่าง อดีตเจ้าอาวาสวัดกำแพงแสน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อทาวัดพะเนียงแตก อีกทอดหนึ่ง

ในช่วงที่หลวงพ่อหว่างดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพงแสน มีความเชี่ยวชาญเรื่องยาสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณ วัตถุมงคลก็เข้มขลังเป็นที่นิยม ทั้งนี้ หลวงปู่แผ้วได้ศึกษาอยู่กับหลวงพ่อหว่างจนกระทั่งท่านได้มรณภาพ เมื่อได้รับกิจนิมนต์นั่งปรกจึงนำวิชาของหลวงพ่อหว่างใช้ร่วมกับวิชาวิปัสสนากัมมัฏฐานที่ได้เรียนวัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์มาใช้บริกรรม

ย้ายมาจำพรรษาที่วัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม สร้างโบสถ์ วิหาร ถาวรวัตถุ และพัฒนาวัดรางหมัน ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2551 จนถึงปัจจุบัน แต่ยังคงดำเนินชีวิตดุจเดิมด้วยความมักน้อยสันโดษ ไม่ยินดียินร้ายในลาภสักการะ เคร่งครัดในศีลาจารวัตร เป็นที่เคารพนับถือของศิษยานุศิษย์ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วไป

 

จองกริ่งพันล้าน/พระผงลป.อ่อนสา/พระผงลป.บัว เตมิโย/พระผงอรหันต์กลีบบัว

 

พระสีวลี หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ปี๒๕๑๙ ปิดรายการครับ

พระสีวลีแบบนี้ ในยุคนึงเป็นที่นิยมกันอย่างมาก มีหลายวัดได้ทำออกให้ญาติโยมเช่าบูชากันเยอะมาก จึงทำให้ภายหลังเกิดความสับสนว่าเป็นของวัดใหนกันแน่ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ก็ได้ทำพระสีวลีพิมพ์นี้เช่นกัน และพระสีวลีของหลวงพ่อแพก็เป็นที่นิยมของประชาชนทั่วไปพอสมควร โดยเฉพาะคนค้าขาย เพราะมีประสบการณ์เรื่องเมตตาค้าขาย บูชาแล้วขายดิบขายดีจนของไม่พอขาย สุดท้ายพวกคนขายพระ พอเจอพระสีวลีลักษณะนี้ ก็จับยัดเป็นของหลวงพ่อแพกันหมด ดังนั้นควรศึกษาก่อนสะสมกันหน่อยนะครับ
พระสีวลีแบบนี้หลวงพ่อแพสร้างอยู่หลายรุ่นครับ แต่ทุกรุ่นจะมีเอกลักษณ์ของหลวงพ่ออยู่ที่ย่ามครับ นั่นก็คือยันต์พุทธซ้อน ซึ่งเป็นยันต์ประจำตัวของหลวงพ่อ ถ้าไม่มียันต์ที่ย่ามก็ผ่านได้เลยครับ ไม่ใช่ของหลวงพ่อแน่นอน