ประวัติ ที่มา วันเข้าพรรษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 21 กรกฎาคม 2021.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    b8b4-e0b897e0b8b5e0b988e0b8a1e0b8b2-e0b8a7e0b8b1e0b899e0b980e0b882e0b989e0b8b2e0b89ee0b8a3e0b8a3.jpg

    วันเข้าพรรษา 2564 นี้ ตรงกับวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเป็น วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อีกวันหนึ่ง โดยในประเทศไทยเราจะมีการจัดกิจกรรม ถวายเทียนพรรษา และ งานแห่เทียนพรรษา เป็นประจำทุกปีค่ะ ตามเรามารู้ ที่มา ประวัติของวันเข้าพรรษา ในสมัยพุทธกาล กันได้เลย



    ประวัติวันเข้าพรรษา
    ทำไมพระสงฆ์ต้องอยู่จำพรรษา



    วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนา ที่ต่อเนื่องมากจาก วันอาสาฬหบูชา โดยเป็นช่วงเวลา ที่พระสงฆ์จะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝน ที่มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกว่า จำพรรษา นั่นเองค่ะ โดยการเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง เริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ค่ะ

    เข้าพรรษา เรื่องเล่า สมัยพุทธกาล


    ความเป็นมาของการเข้าพรรษานั้น มีเรื่องเล่าว่า ประเทศอินเดียในสมัยโบราณ เมื่อถึงฤดูฝน มักจะเกิดน้ำท่วม และเมื่อเกิดพระพุทธศาสนาแล้ว พระพุทธเจ้าเสด็จจาริกเผยแพร่พระศาสนา นับเป็นพุทธจริยาวัตร ซึ่งในตอนแรกที่ยังมีพระภิกขุสงฆ์ไม่มาก พระภิกขุสงฆ์ปฏิบัติประพฤติตามพระพุทธเจ้า จึงไม่มีความครหานินทาใดๆ ทำให้ไม่ต้องทรงตั้งบัญญัติพิธีอยู่จำพรรษา

    แต่ต่อมาเมื่อมีพระสงฆ์มากขึ้น และในช่วงหน้าฝน มีพระภิกขุ 6 รูป ฉัพพัคคีย์ แม้เมื่อถึงฤดูฝน ก็ยังพากันจาริกไปมา เที่ยวเหยียบย่ำต้นกล้า ต้นข้าวต่างๆ และสัตว์เล็กสัตว์น้อยให้เกิดความเสียหายและตายไป ประชาชนจึงพากันติเตียน

    เมื่อความเรื่องนี้ทราบถึงพระพุทธเจ้า จึงทรงบัญญัติเป็นธรรมเนียมให้พระภิกษุสงฆ์อยู่จำพรรษาในที่แห่งเดียวตลอด 3 เดือนในช่วงฤดูฝน และห้ามมิให้พระภิกษุเที่ยวไปค้างคืนที่อื่น หากมีธุระกิจเป็นอันชอบด้วยพระวินัย จึงไปได้ด้วยการทำสัตตาหกรณียะ คือต้องกลับมาที่พักเดิมภายใน 7 วัน นอกจากนั้นห้ามเด็ดขาด

    แต่หากมีกรณีจำเป็นบางอย่าง พระภิกษุผู้จำพรรษาสามารถไปค้างที่อื่นได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษา แต่ก็จะต้องกลับมาภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน ก็คือ

    1. การไปรักษาพยาบาลภิกษุ หรือบิดามารดาที่เจ็บป่วย
    2. การไประงับภิกษุสามเณรที่อยากจะสึกมิให้สึกได้
    3. การไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น การไปหาอุปกรณ์มาซ่อมกุฏิที่ชำรุด
    4. หากมีนิมนต์ไปทำบุญ ก็ไปฉลองศรัทธาในการบำเพ็ญกุศลของเขาได้
    กิจกรรมในวันเข้าพรรษาของชาวพุทธ


    moment_tum / Shutterstock.com

    พุทธศาสนิกชน จะมีการทำบุญตักบาตรกัน 3 วัน คือวันขึ้น 14-15 ค่ำ และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 นอกจากนี้ยังมี การนำ เทียนพรรษา ไปถวายวัด โดยบางแห่งจะมีการบอกบุญเพื่อร่วมหล่อเทียน แล้วแห่ไปตั้งในวัดอุโบสถ เพื่อจุดบูชาพระรัตนตรัยตลอด 3 เดือน

    ประเพณีแห่เทียนพรรษา เป็นงานประเพณียิ่งใหญ่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน มีฆ้องกลองประโคมอย่างสนุกสนาน และเทียนพรรษานั้นมีจะการหล่อ หรือแกะเป็นลวดลายและประดับตกแต่งกันอย่างงดงาม เช่น การประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ประจำจังหวัดที่จัดขึ้นทุกปีมายาวนานกว่าร้อยปีแล้วนั่นเอง

    อีกทั้งในอดีต ชายไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชน เมื่ออายุ 20 ปี เป็นช่วงอายุครบบวช จะนิยมบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์ เพื่ออยู่จำพรรษาตลอดฤดูพรรษากาลทั้ง 3 เดือน โดยพุทธศาสนิกชนไทยจะเรียกการบรรพชาอุปสมบทเพื่อจำพรรษาตลอดพรรษากาลว่า บวชเอาพรรษา

    นอกจากนี้ จะมีกิจกรรมต่างๆ ทั้งการถวายผ้าอาบน้ำฝน และจตุปัจจัย แก่ภิกษุสามเณร ร่วมฟังพระธรรมเทศนา รักษาอุโบสถศีล รวมไปถึงการอธิษฐาน งดเว้นอบายมุขต่างๆ ในตลอดการเข้าพรรษา 3 เดือน นั่นเอง

    อ้างอิง

    ขอขอบคุณที่มา

    https://travel.trueid.net/detail/dKJBW0VNXa1K
     

แชร์หน้านี้

Loading...