ติดตามสถานะการณ์

UPDATE: กรุงโซลยกระดับมาตรการรับมือโควิด หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มสูง คาดเดลตาจะกลายเป็นสายพันธ์ุหลักในเดือนสิงหาคมนี้
.
วานนี้ (9 กรกฎาคม) ทางการกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ ประกาศยกระดับมาตรการรับมือโควิด มีคำสั่งให้ดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับที่ 4 ถึงเป็นระดับสูงสุด โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ (12 กรกฎาคม) เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มสูงขึ้น ทางการคาดว่าเชื้อสายพันธ์ุเดลตาจะกลายมาเป็นเชื้อสายพันธ์ุหลักที่แพร่ระบาดในเกาหลีใต้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
.
จากเดิมที่กรุงโซลประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับที่ 2 ที่ไม่อนุญาตให้มีการรวมกลุ่มกันเกิน 4 ราย หรือนั่งรับประทานอาหารภายในร้านอาหารหลัง 22.00 น. โดยมาตรการใหม่ที่เพิ่งประกาศนี้จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นคือไม่อนุญาตให้มีการรวมกลุ่มกันเกิน 2 ราย หรือนั่งรับประทานอาหารภายในร้านอาหารหลัง 18.00 น. อีกทั้งงานนิทรรศการ การแข่งขันจะต้องถูกเลื่อนออกไป ส่วนงานแต่งงานหรืองานศพอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมงานต้องเป็นสมาชิกภายในครอบครัวเท่านั้น
.
เกาหลีใต้กำลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 166,722 ราย เกือบ 1 ใน 3 อยู่ในกรุงโซล เกาหลีใต้ยังมีผู้ที่พักรักษาตัวอยู่ 11,531 ราย เสียชีวิตแล้ว 2,038 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,378 ราย ทางการเดินหน้าฉีดวัคซีนแล้ว 20 ล้านโดส พลเมือง 5.6 ล้านราย หรือคิดเป็น 10.9% ของพลเมืองชาวเกาหลีใต้ทั้งหมด เข้ารับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
.
บทความที่เกี่ยวข้อง:
สำรวจ ‘วัคซีนเข็มกระตุ้น’ หรือ ‘วัคซีนเข็มที่ 3’ ที่น่าสนใจในประชาคมโลก อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/third-dose-vaccine-in-world-community/
ไทยติดท็อปประเทศที่มีผู้ป่วยโควิดอาการหนักมากสุด อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/thailand-rank-on-the-most-severe-cases-of-covid-19/
เปรียบเทียบประสิทธิภาพล่าสุด วัคซีน Sinovac vs. Pfizer-BioNTech ในชิลี อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/efficacy-comparison-of-sinovac-vs-pfizer-biontech-vaccine-in-chile/
โควิด-19 กลายพันธ์ุสายพันธ์ุต่างๆ มีชื่อเรียกใหม่ว่าอย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/new-name-covid-19-in-diferrent-species/
สำรวจราคาวัคซีนต้านโควิด-19 ในประชาคมโลก โดสละเท่าไร เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/price-survey-of-covid-19-vaccine/
ผลข้างเคียงวัคซีนต้านโควิด-19 ในประชาคมโลก อาการเป็นอย่างไรบ้าง อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/side-effects-of-the-covid-19-vaccine-2/
เช็กประสิทธิภาพวัคซีนต้านโควิด-19 ล่าสุด อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/coronavirus-vaccine-potential-update/
ภาพ: Chris Jung / NurPhoto via Getty Images
.
อ้างอิง:
https://edition.cnn.com/2021/07/09/...australia-sydney-covid-19-intl-hnk/index.html
http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20210709000466
https://www.worldometers.info/coronavirus/
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#COVID19NOW #ฝ่าวิกฤตโควิด19 #โควิด19 #COVID19 #โควิดวันนี้ #วัคซีนโควิด19 #TheStandardNews

 

วันนี้ โฆษกรัฐบาล อนุชา บูรพชัยศรี ออกมาชี้แจง ประเด็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้รับเงินเดือนประจำ จากการนั่งประธานคณะกรรมการชุดต่างๆ ตามที่สื่อโซเชียลฯ ระบุ และไม่ได้ร่วมประชุมทั้งหมดทุกคณะ
.
โดย นายอนุชา กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเผยในสื่อโซเชียลมีเดียว่า นอกจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้สละเงินเดือนในตำแหน่งนายกฯ เพื่อมอบให้ช่วยเหลือสถานการณ์โควิด-19 แล้วนั้น
.
นายกรัฐมนตรียังมีตำแหน่งต่างๆ อีก 56 ตำแหน่งว่าในตำแหน่งต่างๆ ที่มีการกล่าวถึงอีกกว่า 50 ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีไม่ได้รับเงินเดือนประจำจากตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งการเป็นประธานคณะกรรมการชุดต่างๆ หากมีการเข้าร่วมประชุมก็จะได้รับเป็นเบี้ยประชุม
.
โดยนายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชุดต่างๆในทุกเดือนและไม่ได้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดทุกคณะ โดยบางคณะได้มอบหมายให้คนอื่นเข้าร่วมประชุมแทน
.
เมื่อสำนักข่าวไทย ตรวจสอบข้อมูลพบว่า นอกจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่านยังดำรงตำแหน่งสำคัญอีกอย่างน้อย 56 ตำแหน่ง เช่น
…

-ประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

-ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

-ประธานคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ

-ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

-ประธานคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

-ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
…

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกด้วยว่าตามระเบียบและข้อกำหนดของกระทรวงการคลัง ข้าราชการการเมืองที่ดำรงตำแหน่งมากกว่าหนึ่งตำแหน่งให้ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งที่สูงกว่าเพียงตำแหน่งเดียว
.
ดังนั้น นายกรัฐมนตรีไม่เคยได้รับเงินเดือนในตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่อย่างใด
.
ล่าสุดวันนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีหลายคนประกาศไม่รับเงินเดือนเป็นเวลา 3 เดือน ว่า
.
ตนยินดีดำเนินการในลักษณะเดียวกันด้วย โดยนายกรัฐมนตรีพูดเรื่องดังกล่าวในที่ประชุม ศบค. ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายคนไม่ได้ร่วมประชุมด้วย เชื่อว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ คงมีการพูดคุยกันอีกครั้ง
.
เบื้องต้นตนได้คุยกับรองนายกฯ ที่อยู่ในที่ประชุมศบค.ด้วยกัน ทุกคนเห็นด้วย ขณะนี้กำลังคุยกันว่าจะใช้วิธีบริจาคอย่างอย่างไร จะให้หักเงินเดือนหรือให้นำเงินมาคืนให้ เพราะถ้าหักเงินเดือนก็ต้องรอถึงสิ้นเดือนดังนั้นการนำเงินมาคืนจะสะดวกที่สุด
.
อย่างไรก็ตามมาตรการเช่นนี้ เมื่อปีที่ผ่านมาก็เคยดำเนินการมาแล้ว บางคนนำเงินไปบริจาคซึ่งมากกว่าเงินเดือนแล้วนำมาแสดงต่อสำนักเลขาธิการนายกฯ
.
โดยเงินที่จะบริจาคทั้งหมดปลัดสำนักนายกฯจะเป็นผู้รวบรวมเพื่อนำไปดำเนินการต่อไป โดยจนถึงขณะนี้มีคณะรัฐมนตรีที่ประกาศไม่รับเงินเดือนตามนายกรัฐมนตรีรวมทั้งสิ้น 29 คน

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://tna.mcot.net/politics-736306

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

วันนี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ (PHE) เปิดเผยในวันศุกร์ที่ผ่านมาระบุว่า
…

จากการศึกษาประชาชนกลุ่มเสี่ยงจำนวน 1 ล้านรายพบว่า วัคซีนของไฟเซอร์ และแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 แบบมีอาการในกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยงสูง
.
PHE ระบุว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนโดยรวมทั้งของไฟเซอร์ และแอสตร้าฯในการป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุแตกต่างกันเล็กน้อยนั้น อยู่ที่ราว 60% หลังฉีดโดสแรก
.
ทั้งนี้ ประสิทธิภาพของวัคซีนแอสตร้าฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 81% หลังฉีดโดสที่สองในประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุ 16-64 ปี แต่พีเอชอี ไม่มีข้อมูลของผู้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในช่วงอายุดังกล่าว
.
ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุมากกว่า 64 ปีขึ้นไปนั้นพบว่า หลังการฉีดโดสที่สอง วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพ 89% และวัคซีนแอสตร้าฯมีประสิทธิภาพ 80%
.
โดย แมรี่ แรมเซย์ หัวหน้าฝ่ายการสร้างภูมิคุ้มกันของพีเอชอี กล่าวว่า "ข้อมูลในโลกที่เป็นจริงนี้แสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 นั้น จะยังคงได้รับการป้องกันในระดับสูงหลังจากการฉีดวัคซีนสองโดส"

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.reuters.com/business/he...neca-vaccines-effective-high-risk-2021-07-09/

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/948208

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

วันนี้ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม (กห.) เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห.และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปล.กห.ได้ประชุม หน่วยงาน กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม
.
เพื่อเร่งเตรียมความพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติตามมาตรการ ศบค.ที่กำหนด โดย ศปม.ได้เร่งปรับแผนและสนธิกำลัง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง โดยใช้กำลัง ตร.เป็นหลัก กระจายลงพื้นที่จัดตั้ง จุดตรวจ จุดสกัดร่วม
.
รวมทั้งจัดตั้งสายตรวจเคลื่อนที่เร็ว ลงปฏิบัติการในพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดทั้ง 10 จว.แล้ว ตั้งแต่ 06.00 น.ของวันที่10 ก.ค.64 ที่ผ่านมา
.
โดยได้ร่วมจัดตั้งจุดตรวจในพื้นที่ กทม.รวม 88 จุด พื้นที่ 5 จว.ปริมณฑล จำนวน 22 จุด และใน 4 จชต.รวม 35 จุด ร่วมกันทำหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจและให้คำแนะนำการปฏิบัติกับประชาชนถึงมาตรการต่างๆ ที่ศบค.กำหนด โดยเฉพาะการจำกัดการปฏิบัติในการเคลื่อนย้าย
.
รวมทั้งข้อกำหนด และข้อจำกัดในกิจกรรมและเวลาที่กำหนด ทั้งนี้จะเริ่มเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายต่อเนื่องตั้งแต่ 12 ก.ค.64 เป็นต้นไป เพื่อคัดกรองการเดินทางข้าม จว.ในพื้นที่สีแดงเข้ม
.
รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการหยุดแพร่กระจายของโรคและการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนจากปัญหาอาชญากรรมในคราวเดียวกัน
.
ขณะเดียวกัน ทุกเหล่าทัพอยู่ระหว่างเร่งขยายขีดความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์แถวสอง และยกระดับขีดความสามารถ รพ.สนามให้สามารถรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและแดงที่เพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอ
.
รวมทั้งได้จัดรถพยาบาลสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยตามบ้าน เข้าสู่ระบบการรักษาแล้ว 9,296 รายโดยทำงานร่วมกับ สธ.อย่างใกล้ชิด
.
ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญ ได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพและตร.สนับสนุน ศปม.ในการเตรียมกำลังเสริมและปรับแผนให้สอดรับครอบคลุมงานความมั่นคงตามข้อกำหนดของ ศบค.ที่จะประกาศ โดยให้ประสานทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองของจว.และ กทม.
.
โดยเฉพาะคณะกรรมการควบคุมโรค จว.อย่างใกล้ชิด และขอให้ทุกเหล่าทัพให้ความสำคัญ คงความเข้มข้นเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องกันไป หลังจาก 5 วันที่ผ่านมา สามารถจับผู้ลักลอบเข้าเมืองได้เกือบ 300 คน
.
นอกจากนั้น พล.อ.ชัยชาญ ยังได้ย้ำให้ทุกเหล่าทัพ วางแผนกระจายกำลังเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคของรัฐที่กำหนด
.
โดยขอให้จัดรถครัวสนามและสิ่งของจำเป็นเข้าไปช่วยเหลือชุมชนต่างๆ รวมทั้งเตรียมพร้อมจัดรถพยาบาลเข้าไปช่วยเหลือนำพาผู้ป่วยตามบ้าน เข้ารับการรักษาใน รพ.สนามที่จัดตั้งขึ้นโดยเร็ว
.
พร้อมย้ำในตอนท้ายว่า พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯและรมว.กห.ได้ย้ำ ขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนไปพร้อมๆกัน
.
เพื่อให้เกิดการสนับสนุนและความร่วมมือกันหยุดเชื้อควบคุมโรคในสถาการณ์วิกฤตที่ต้องการความร่วมมือกันทุกฝ่ายสูงสุด พร้อมทั้งได้แสดงความห่วงใยในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในระดับพื้นที่ทุกนาย
.
โดยขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังไม่ประมาทและขอให้ทุกเหล่าทัพ เร่งฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกนายเป็นการเร่งด่วน

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.naewna.com/politic/586604

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

เมื่อวันที่ 10 ก.ค.64 สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์ จากกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ได้ยื่นหนังสือทวงถามถึงการจัดซื้อวัคซีน โดยระบุ ตามที่นายวิโรจน์ ได้ส่งหนังสือขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการเกี่ยวกับสัญญาข้อตกลง และเงื่อนไขผูกพันระหว่างรัฐบาลกับ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด และ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เกี่ยวกับการจัดหาจัดซื้อและดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ถึงสถาบันวัคซีนแห่งชาติหนังสือลงวันที่ 16 มีนาคม 2564 มานั้น
.
สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ดำเนินการและจัดส่งเอกสารที่มี ตามที่ได้ดำเนินการจริง ซึ่งรวมถึงเอกสารสัญญาที่ได้รับอนุญาตจากคู่สัญญาในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแล้วตามร้องขอ และได้ชี้แจงประเด็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดำเนินการที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติมีส่วนเกี่ยวข้อง ให้กับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร แล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
.
ทั้งนี้ สำหรับสัญญาข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนจาก บริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ขอเรียนให้ทราบว่า สถาบันวัคซีนแห่งชาติไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการและไม่ใช่คู่สัญญา จึงไม่มีสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติไม่ได้เป็นคู่สัญญาในการจัดทำข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนจาก บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงไม่มีสัญญาตามอ้างถึงดังกล่าวด้วยเช่นกัน
-------------------------------
แหล่งข่าว
https://siamrath.co.th/n/260572

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

อินโดนีเซีย : พิธีฝังศพหมู่ในกรุงจาการ์ตาอินโดนีเซียถูกจัดขึ้น ประเทศที่บันทึกผู้ป่วยโควิดรายใหม่วันล่าสุดกว่า 38,000 ราย เสียชีวิต 871 รายซึ่งสูงที่สุดที่เกิดจากไวรัสสายพันธุ์ Delta อินเดีย

ทุกท่านโปรดดูแลตัวเอง

ติดเชื้อสะสม 2.46 ล้านคน เสียชีวิต 64,631 คน
สถานะวัคซีนฉีดแล้ว 44ล้านคนจากประชากร 271 ล้าน เข็มที่ 1 34ล้านคน เข็มที่2 ประมาณ 10 ล้านคน
: Sharmsoul

 

ผู้ติดเชื้อ โควิด 19

จีน +26 ราย
เวียดนาม +1,798 ราย
กัมพูชา +933 ราย
ลาว +93 ราย
พม่า +4,320 ราย

 

ผมไม่เชื่อหรอกที่จีนติดเเค่ 26 คน ลาว พม่า เขมร ด้วย

 

วัคซีนชิโนแว็ค หลังจากฉีดสองเข็มจะเห็นภูมิคุ้มกันที่ยับยั้งไวรัสได้ที่ 30 วัน หลังจากฉีดเข็มที่สอง
ในระยะแรก ที่พวกเราทำงานจะไม่ค่อยเห็นบุคลากรทางสาธารณสุขติดเชื้อเท่าไหร่และที่ติดอาการไม่ค่อยมากแต่แน่นอนแพร่เชื้อไปให้คนอื่นได้โดยมีปริมาณไวรัสในจำนวนสูง

ในระยะต่อมา พวกเราเริ่มติดเชื้อกันมากขึ้นเรื่อยๆ น้องพยาบาลหมอและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ เด็กๆ ที่เพิ่งจบการอบรม กำลังจะไปทำงานที่ต้นสังกัดที่ต่างจังหวัดพบการติดเชื้อเช่นกันและอาการเริ่มดูเหมือนเห็นชัดเจนขึ้น เริ่มมีปอดอักเสบขึ้น แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิตและเราก็เชื่อมั่นว่าอย่างน้อยอาการก็ไม่หนัก และจนกระทั่งที่เห็นในรายนี้

ทั้งนี้เมื่อเราตรวจสอบภูมิคุ้มกันในเลือดของ พวกเรากันเองรวมทั้งคนที่ปฏิบัติงานในห้อง lab ที่ต้องเจอเชื่ออยู่ตลอดทุกวัน พบว่าระดับภูมิคุ้มกันลดลงอย่างรวดเร็วแม้ว่าในระยะแรกจะสูงถึง 90% ก็ตกลงมาเหลือ 30 ถึง 40%
และเมื่อทำการวิเคราะห์รายที่ภูมิคุ้มกันยังอยู่ในระดับพอใช้ได้คือ 70% ปรากฏว่าสู้กับไวรัสแอลฟ่า และเดลต้าแทบไม่ได้เลย ซึ่งเป็นงานของอาจารย์ดร อนันต์ ที่ไบโอเทคร่วมกันกับอาจารย์หมอเขตต์ สถาบันโรคทรวงอกและกับพวกเรา ที่วิเคราะห์ระดับภูมิคุ้มกันในเลือด

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า มีโอกาสจะเจอผู้ติดเชื้อทั้งที่มีและไม่มีอาการอยู่ตลอดเวลาเมื่อติดมีโอกาสแพร่เชื้อให้ผู้อื่นทั้งผู้ป่วยและเพื่อนร่วมงานเกิดปัญหาในผู้ป่วยและเกิดปัญหาที่บุคลากรต้องหยุดงานพักตัว กักตัว และกับโรคของตนเอง

ที่พวกเราร้องขอวัคซีนบูสเตอร์ เข็มที่สามและให้ข้อมูลว่าเมื่อฉีดเข็มที่สามด้วยวัคซีนที่ต่างจากชิโนแว็ค ไปแล้วจะทำให้ภูมิสูงขึ้นมากและทนทานต่ออัลฟ่าและเดลต้าได้ เรียนย้ำพวกเราไม่ใช่วีไอพีไม่ใช่คนที่มีอภิสิทธิ์กว่าประชาชนคนไทยทั้งประเทศแต่เพื่อให้ทำงานต่อไปได้เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อไปหาคนอื่นได้มากหลาย 

 

โควิด-19 : ธรรมชาติรังสรรค์ หรือมหันตภัยหลุดจากแล็บ?

โดย นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ, Certifi cate of cellular and molecular Immunology มีประเด็นฮอตเมื่อเร็วๆนี้ จากการที่ Anthony Fauci แพทย์ใหญ่ผู้มีอิทธิพลสูงของอเมริกา ซึ่งเคยยืนยันว่า โควิดเกิดจากพัฒนาการของไวรัสในค้างคาวตามธรรมชาติและกระโดดข้ามสายพันธุ์มาติดมนุษย์ได้ ไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลออกมาจากห้องแล็บ (lab leak theory) แต่ตอนนี้เปลี่ยนความคิดแบบ 180 องศา ออกมาพูดว่าเราควรจะตรวจสอบเรื่องนี้จากจีนอย่างจริงจังจนได้คำตอบที่ชัดเจนมหากาพย์เรื่องนี้เป็นมายังไง?

หลังจากเริ่มมีการระบาดของโควิดเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2019 ทางการจีนได้ออกมารายงานว่า เป็นการติดจากตลาดขายสัตว์ป่าในอู่ฮั่น มีการสืบค้นทางพันธุกรรมของไวรัสต่อไปว่ามันเป็นไวรัสจากค้างคาวไปสู่คนโดยผ่านทางตัวลิ่นและคนไปกินสัตว์ป่าพวกนี้ โดยอาจจะติดจากขั้นตอนการปรุงอาหารหรือจากการกินแต่มันบังเอิญไปไหมที่อู่ฮั่นเป็นที่ตั้งของ Wuhan institute of virology ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยทางไวรัสที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลกโดยเฉพาะเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในด้านนี้ก็คือ


Dr.Shi Zheng–li ในวงการตั้งฉายาว่า Bat lady มีตัวอย่างโคโรนาไวรัสจากค้างคาวมากมายที่เธอเดินทางไปเก็บตามถ้ำแถวตอนใต้ของจีน และทำวิจัยด้านโคโรนาไวรัสมาแทบตลอดชีวิต

Dr.Shi มีผลงานร่วมกับ Dr.Ralph S. Baric ผู้เชี่ยวชาญด้านโคโรนาไวรัสแห่งมหาวิทยาลัย North Carolina โดยค้นคว้าวิจัยความสามารถของไวรัสจากค้างคาวที่จะนำโรคมาสู่คน Dr.Baric ได้ถ่ายทอดความรู้ในการตัดต่อพันธุกรรมของโคโรนาไวรัส ทำให้สามารถไปติดเชื้อในสัตว์สปีชีส์อื่นๆ ให้แก่ Dr.Shi โดยทำการทดลองในหนูตัดต่อพันธุกรรมให้มีการแสดงออกของตัวรับ ACE2 receptor ของมนุษย์

เมื่อ Dr.Shi กลับมายังอู่ฮั่นก็ได้พัฒนางานวิจัยนี้ต่อโดยใช้เซลล์จากมนุษย์แทนหนู (มีหลักฐานของงานวิจัยนี้ที่ NIH เพราะได้ทุนจาก NIAID ผู้ลงนามรับรองคือ Dr.Daszak แห่ง EcoHealth Alliance)

เมื่อ พ.ย.2015 ทีมวิจัยนี้สามารถสร้างไวรัสชนิดใหม่โดยนำโครงสร้างหลักจากไวรัสซาร์ส SARS1 virus แล้วเสียบด้วย spike protein จากไวรัสค้างคาวชนิด SHC014–CoV พบว่าไวรัสตัดต่อพันธุกรรมนี้สามารถที่จะติดเชื้อได้ในเซลล์จากทางเดินหายใจของมนุษย์ สายพันธุ์ไวรัสตัดต่อพันธุกรรมใหม่นี้ชื่อว่า SHC014–CoV/SARS1 เป็นลูกผสม (chimera) ที่เกิดจากพันธุกรรมของไวรัส 2 สายพันธุ์

9 ธ.ค.2019 ก่อนการระบาดของโควิดไวรัส Dr.Daszak ได้ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้นักวิจัยของสถาบันไวรัสวิทยาในอู่ฮั่นสามารถตัดต่อโปรตีนส่วน spike (S) protein และสร้างไวรัสโคโรนาลูกผสมที่สามารถติดเชื้อในหนูที่ตัดต่อพันธุกรรมของมนุษย์ และกล่าวในบทสัมภาษณ์ว่าใน หนูทดลองเหล่านี้จะป่วยเป็นโรค SARS ที่ไม่สามารถรักษาด้วย monoclonal antibody และไม่สามารถป้องกันด้วยวัคซีน


ผู้สัมภาษณ์ถามไปว่า “อ้าวในเมื่อรักษาไม่ได้ ฉีดวัคซีนป้องกันก็ไม่ได้ แล้วจะทำไงต่อ” (คงชักกลัว) Dr.Daszak ตอบ “ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ไม่ยากในห้องแล็บ และงานวิจัยแบบนี้มีคุณค่ามากกว่าเยอะเพื่อจะลงลึกถึง spike protein ที่นำมาใช้สร้างวัคซีนในอนาคต”

ประเด็นหนึ่งที่อาจเป็นตัวต่อที่สำคัญของจิ๊กซอว์ปริศนาที่มาของโควิดไวรัส ก็คือ spike protein ที่มันใช้ในการจับและเข้าเซลล์มนุษย์ spike protein ของไวรัสจะมีอยู่ 2 หน่วยย่อยที่มีหน้าที่ต่างกัน คือ S1 ทำหน้าที่จับกับเป้าหมายของไวรัส คือ ACE2 บนผิวเซลล์ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ และ S2 ทำหน้าที่เชื่อมกับผนังเซลล์และช่วยให้ไวรัสสามารถเข้าเซลล์ได้

ไวรัสจะสามารถเข้าเซลล์ได้ก็ต้องตัดส่วน S1 และ S2 ออกจากกันก่อน ตำแหน่งที่ตัดนี้เรียกว่า furin cleavage site อยู่ตรง S1/S2 junction โดย furin ที่ใช้ตัดนี้เป็น protease enzyme อยู่ที่ผิวเซลล์ของคนเรา มันจะตัด amino acid sequence ที่เป็น proline-arginine-arginine-alanine-arginine (PRRAR) ซึ่ง sequence นี้อยู่บน furin cleavage site ของโควิดไวรัส ซึ่งเป็นตำแหน่งเล็กๆของไวรัสแต่มีบทบาทสูงต่อความสามารถในการติดเชื้อ

ปริศนาคือ มีแค่เจ้าโควิด SARS2 หรือ SARS-CoV-2 นี้เท่านั้นที่มี furin cleavage site (FCS) อยู่ตรง S1/S2 junction แถมยังเป็น loop ที่ยาวทำให้ furin protease มาตัดได้ง่าย ในขณะที่ SARS-related beta-coronavirus ส่วนใหญ่จะตัด S2 subunit ที่ตำแหน่งต่างออกไป

ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่า FCS ตรงตำแหน่งนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (ซึ่งก็เป็นไปได้) หรือว่าจงใจทำให้เกิดขึ้นเพื่อการทดลองที่เรียกว่า gain–of–function experiment ที่ทำให้ไวรัสเก่งขึ้น ขอสรุปคร่าวๆเลยนะครับว่าเมื่อพิจารณาถึงประเด็นจากธรรมชาติแล้วพบว่ามีโอกาสเป็นไปได้น้อยมากทั้งจาก mutation และ recombination (ก็สมาชิกใกล้เคียงของตระกูลนี้ไม่มีใครเป็นแบบนี้เลย) ดังนั้น ก็มาถึงประเด็นที่สองคือผลิตขึ้นในห้องทดลอง (gain-of-function experiment)

gain-of-function experiment คือการทดลองเกี่ยวกับเชื้อโรคที่มีจุดมุ่งหมายในการชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์เพื่อเพิ่มความสามารถในการติดเชื้อและการทำให้เกิดโรค รวมถึงการขยายศักยภาพของเชื้อให้สามารถติดเชื้อได้ในสปีชีส์อื่น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อใหม่ๆ เพื่อพัฒนาวัคซีนและการรักษาโรคติดเชื้อ


Dr.Steven Quay ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชำนาญสาขานี้ให้สัมภาษณ์ว่า การเพิ่มหรือ insert furincleavage site ให้กับไวรัสทำได้ไม่ยากในห้อง lab โดยมีอย่างน้อย 11 วิธีที่ทำได้และตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ ซึ่งงานวิจัยของ Dr.Shi Zheng–li (bat lady) ก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ก็เป็นข้อมูลนึงที่มาสนับสนุนแนวคิด man–made นะครับ เพราะคนค้านแย้งว่าก็ยังเป็นไปได้ที่จะมีโอกาสเกิด FCS แบบนี้โดยธรรมชาติ

หลังโควิดระบาด Dr.Daszak ออกแถลงการณ์เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2020 โดยปฏิเสธว่าไม่ใช่ไวรัสที่หลุดออกมาจากห้อง lab แน่นอน แต่เป็นไวรัสที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและพัฒนาเป็นโควิด โดยอ้างประสบการณ์และความช่ำชองร่วม 20 ปีในวงการนี้ รวมถึงตัว bat lady เองเมื่อสื่อจีน South China Morning Post ไปสัมภาษณ์ว่ามีคนอ้างว่าสถาบันไวรัสอู่ฮั่นเป็นสาเหตุของการระบาด

เธอกล่าวว่า “I swear with my life, the virus has nothing to do with my lab.” และเมื่อนักข่าวขอความเห็นเกี่ยวกับการระบาด ก็ได้รับคำตอบว่า “My time must be spent on more important matters.”


คำถามที่โลกต้องการคำตอบ คือ Covid-19 มีต้นกำเนิดมาจาก SHC014-CoV/SARS1 ไวรัสลูกผสมที่ผลิตขึ้นในห้องทดลองหรือไม่? และการทดลองเกือบทั้งหมดของ Dr.Shi เกี่ยวกับโคโรนาไวรัสทำในห้อง biosafety level 2 (BSL-2) ซึ่งเสี่ยงเกินไปในการทดลองไวรัสร้ายแรงประเภทนี้และอาจมีเชื้อหลุดออกมาจากแล็บ (ไม่ว่าจะจากอุบัติเหตุ หรือจงใจ)

เรายังต้องติดตามกันต่อไปว่าจะไขปริศนาของเรื่องนี้ได้ไหม จริงอยู่เราอาจจะเลยจุดนั้นมาแล้วเพราะตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น...เหมือนไฟกำลังไหม้บ้านต้องรีบดับไฟก่อนแล้วค่อยไปหาว่าต้นเพลิงมาจากไหน แต่ยังไงก็ตามถ้าเราสามารถรู้ถึงต้นตอของมันได้ก็อาจจะช่วยในการป้องกันหายนะแบบนี้ในอนาคต.

หมอดื้อ

 

จำนวนผู้ป่วยทั้งสีเขียว สีเหลือง สีแดง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากจนเกินกำลังของการให้บริการทางการแพทย์ไปมากแล้ว ซึ่งสวนทางกับการที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพต่ำจึงติดเชื้อโควิดจากการทำงานทำให้ต้องรับการรักษาตัว ถูกกักตัว ทำให้เหลือกำลังคนที่ดูแลผู้ป่วยได้ลดลง

ตอนนี้ทุกๆภาคส่วนต้องสามัคคีกันเพื่อช่วยควบคุมการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในทุกๆสีให้ลดลงนะครับ

สำหรับประชาชนทุกๆคน

1. ลดจำนวนผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง ด้วยการรีบเข้ารับวัคซีนที่มีให้ฉีดได้ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดอะไรก็ตามให้เร็วที่สุด

2. ลดจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ด้วยการยกการ์ดขั้นสูงสุดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ งดการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ต้องถอดหน้ากากโดยมีผู้อื่นอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่นกินอาหารใกล้กับผู้อื่น ใส่หน้ากากให้ได้มากที่สุด ล้างมือให้บ่อย และหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูก ปากของตนเองก่อนที่จะล้างมือ งดการไปมาหาสู่กับเพื่อนฝูงและญาติมิตร รวมไปถึงการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองไปชั่วคราวก่อนนะครับ

สำหรับภาครัฐที่กำหนดนโยบายวัคซีน

1. รีบฉีดวัคซีน mRNA ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยรักษาจำนวนของบุคลากรทางการแพทย์ไว้ในระบบไม่ให้ลดจำนวนลงมากไปกว่านี้ โดยควรที่จะฉีดให้ทุกๆคนทั้งด่านหน้าและด่านหลัง เนื่องจากในด่านหลังก็ต้องตรวจรักษาผู้ป่วยที่อาจจะเป็นโควิดโดยที่ยังไม่ทราบได้เช่นกัน และถ้าสถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก เราก็ต้องอาศัยกำลังของบุคลากรทางการแพทย์ในด่านหลังเข้ามาเสริมทัพในด่านหน้าอยู่ดี

2. รีบเปลี่ยนนโยบายวัคซีนหลักมาเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดอย่าง mRNA vaccine โดยเร็วที่สุด และต้องรีบสั่งไปในจำนวนที่สามารถทำให้เกิดภูมิต้านทานหมู่ได้เช่น 100-150 ล้านโดส ไม่ใช่แค่ 20 ล้านโดสแบบในปัจจุบัน และเร่งรัดการทำงานของ อย.ในการขึ้นทะเบียนวัคซีนทางเลือก เช่น Sputnik ให้เร็วที่สุด และการทำงานขององค์การเภสัชกรรมให้ดำเนินการเซ็นสัญญาสั่งซื้อวัคซีน Moderna ให้ได้ในจำนวนที่มากที่สุด(ควรจะมากเท่าที่ประชาชนต้องการเป็นอย่างน้อย ไม่ใช่แค่ 5 ล้านโดสเท่านั้น) และเร่งรัดให้ดำเนินการสั่งซื้อให้เร็วที่สุด

3. ถ้าเป็นไปได้ทางภาครัฐควรต้องมีการทบทวนว่าการบริหารจัดการวัคซีนที่ผ่านมาที่ข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงมากมายแบบนี้ได้อย่างไร เช่น การไม่เข้าร่วมโครงการวัคซีน Covax การที่ไม่ยอมกระจายความเสี่ยงด้วยการสั่งซื้อและจัดหาวัคซีนที่มีความหลากหลาย การที่ไม่รีบดำเนินการจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอย่าง mRNA ตั้งแต่เดือน ธค.ปีที่แล้วตั้งแต่มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาออกมา และควรที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของตัวบุคคลที่เป็นคณะกรรมการที่ให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการให้กับภาครัฐโดยด่วนที่สุด ซึ่งเห็นว่าอาจารย์มานพ จากรพ.ศิริราช อาจารย์ศุภโชค จากรพ.รามา เป็นอาจารย์แพทย์ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความกล้าหาญทางจริยธรรม เหมาะสมเป็นอย่างมากในสถานการณ์ในปัจจุบันนะครับ

 

#ตาลีบันเตรียมยึดอาฟกานิสถาน
#สหรัฐทิ้งรัฐบาลอาฟกัน_เดินหน้าถอนทหารตามกำหนดเดิม

กลุ่มนักรบตาลีบัน ได้ประกาศว่าตอนนี้พวกเขาได้ยึดพื้นที่ในดินแดนอาฟกานิสถานถึง 85% เมินสัญญาหยุด เตรียมพร้อมยึดประเทศแล้วในเร็วๆนี้ ด้านสหรัฐย้ำจุดยืนเดิม ถอนทหารทั้งหมดออกจากอาฟกานิสถานภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยไม่สนใจการบุกของตาลีบัน

แทบจะทันทีที่โจ ไบเดน ยืนยันให้ทางกลาโหมสหรัฐทยอยถอนทหาร ฝ่ายตาลีบันก็ส่งกองกำลังยึดพื้นที่เมือง Islam Qala บริเวณพรมแดนที่ติดกับอิหร่าน รวมถึงเมือง Torghundi ที่ติดกับเติร์กเมนิสถานเรียบร้อยแล้ว

ด้านผู้แทนกองทัพตาลีบันในมอสโควให้ข้อมูลว่า ในตอนนี้พื้นที่กว่า 250 เขตจากทั้งหมดเกือบ 400 เขตของอาฟกานิสถานถูกยึดครองโดยกลุ่มตาลีบัน หากเคลื่อนกองกำลังบุกยึดกรุงคาบูลได้เมื่อไหร่ ประเทศอาฟกานิสถานก็จะตกเป็นของกลุ่มตาลีบันโดยสมบูรณ์

ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายรัฐบาลตาลีบัน ที่สหรัฐเคยให้การสนับสนุนก็ออกมาโต้แย้งว่าไม่เป็นความจริง และยังยืนยันว่ากองทัพรัฐบาลยังสามารถควบคุมพื้นที่ได้

แต่สหรัฐก็ไม่ยินดียินร้ายกับสถานการณ์ในอาฟกานิสถานเสียแล้ว และยังเดินหน้าถอนทหารตามแผน และโจ ไบเดน ยังได้เจรจากับ เรเซป ไทยิป แอโดแกน ประธานาธิบดีตุรกี ขอให้ตุรกีส่งกองทัพมาช่วยคุ้มกันสนามบินนานาชาติ Kabul Hamid Karzai หลังจากกองทัพ และพลเรือนจาก NATO ถอนกำลังไปหมดแล้ว โดยสหรัฐจะช่วยจ่ายค่าโสหุ้ยให้

จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตาอย่างมาก เพราะระยะหลังๆ ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกี กับสมาชิกบางประเทศใน NATO ก็ไม่ค่อยดีนัก เช่นกรณีข้อพิพาทกับกรีซ และฝรั่งเศสในการอ้างสิทธิ์ขุดเจาะน้ำมันในทะลเมดิเตอเรเนี่ยน หรือการคว่ำบาตร กดดันตุรกีที่บังอาจไปซื้อขีปนาวุธรุ่นใหม่ของรัสเซียดังนั้นตุรกีอาจส่งกองทัพมาในนามตุรกีเท่านั้น ไม่ใช่ NATO หรืออาจมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนบางอย่างที่กองกำลังตุรกีจะเสี่ยงส่งทหารมาอยู่แทนที่สหรัฐ

และถ้าถึงขนาดโจ ไบเดน ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากตุรกี เพื่อคุ้มครองสนามบิน ที่เป็นประตูแห่งเดียวที่ชาวอาฟกัน และพลเรือนต่างชาติสามารถเดินทางเข้า-ออกจากอาฟกานิสถานได้ ก็แสดงว่ากองทัพของรัฐบาลอาฟกานิสถานไม่น่าจะเอาอยู่กับการรุกคืบยึดประเทศของฝ่ายตาลีบันได้เลย

นอกจากนี้ สำนักข่าวในอิหร่านยังรายงานว่ามีกองทหาร และเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอาฟกานิสถานหลบหนีข้ามชายแดนมาอิหร่าน และเติร์กเมนิสถานนับพันคน เมื่อกลุ่มตาลีบันบุกยึดเมืองตามเขตชายแดนได้สำเร็จ และยังรายงานว่าพื้นที่ที่อยู่บริเวณตะเข็บชายแดน จีน หรือปากีสถานก็ถูกกลุ่มตาลีบันยึดไว้ได้แล้วเช่นกัน

ภาพรวมของการรุกคืบของกองกำลังตาลีบันไม่ต่างจากยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมืองที่กระชับพื้นที่สู่กรุงคาบูล เมืองหลวงเข้ามาเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ที่ทำให้หลายฝ่ายมองด้วยความห่วงถึงสถานภาพของรัฐบาลอาฟกานิสถาน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้

เพราะขนาดสหรัฐ กับกองทัพ NATO ที่เป็นกลุ่มประเทศที่มั่งคั่งที่สุดในโลก ปักหลักสู้รบกับกลุ่มตาลีบันอย่างหนักมานานเกือบ 20 ปี กลุ่มตาลีบันยังแข็งแกร่งขนาดนี้ ทำให้สหรัฐต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากเซ็นสัญญาขอจบศึกเสียเอง ดังนั้น ลำพังแค่กองทัพของรัฐบาลอาฟกานิสถานเองคงไม่อาจต้านทานได้ และอาจทำให้อาฟกานิสถานต้องถอยหลังกลับสู่ยุคการปกครองของตาลีบันในไม่ช้า

แหล่งข้อมูล

https://www.france24.com/en/asia-pa...han-territory-made-no-ceasefire-promise-to-us

https://www.aljazeera.com/news/2021/7/9/taliban-afghanistan-border-crossing-iran

https://www.aljazeera.com/news/2021/7/9/taliban-says-it-controls-85-of-afghanistan

https://www.dailysabah.com/politics...n-to-support-turkeys-mission-at-kabul-airport

https://www.aljazeera.com/news/2021/7/9/will-turkey-take-over-security-at-afghanistans-main-airport

 

ในขณะที่มนุษย์เรากำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมองไม่เห็นจุดจบ ดูเหมือนนกหลายสายพันธุ์ในอเมริกาเหนือก็กำลังเผชิญหน้ากับโรคระบาดครั้งใหม่ซึ่งยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้
.
ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคมถึง 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรสัตว์ป่าแห่งเวอร์จิเนียได้รับรายงานเกี่ยวกับนกป่วย 1,400 ตัว โดยประมาณหนึ่งในสามมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาหรืออาการทางระบบประสาทที่ทำให้นกเสียการทรงตัว
.
ไม่เพียงแต่รัฐเวอร์จิเนีย แต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายังมีรายงานนกตายด้วยลักษณะที่คล้ายกันจากทั่วรัฐแมริแลนด์ และเวสต์เวอร์จิเนีย และภายในเดือนมิถุนายนโรคนี้ได้แพร่กระจายไปยังเดลาแวร์ นิวเจอร์ซี โอไฮโอ เทนเนสซี ฟลอริดา อินดีแอนา และเพนซิลเวเนีย
.
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ได้เผยผลการตรวจสอบการเสียชีวิตของนกลึกลับนี้ ซึ่งได้ร่วมกับห้องปฏิบัติ University of Georgia Southeastern Cooperative Wildlife Disease Study, University of Pennsylvania Wildlife Futures Program และ Indiana Animal Disease Diagnostic Laboratory ไม่พบเชื้อหรือไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคกับนกในปัจจุบัน
.
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบนี้ยังคงต้องวินิจฉัยเพิ่มเติมในภาคส่วนของจุลชีววิทยา ไวรัสวิทยา ปรสิตวิทยา และพิษวิทยา เพื่อค้นหาเบาะแสสาเหตุของการเกิดโรคลึกลับในของนกต่อไป และเพื่อช่วยจำกัดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรค USGS ได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบงดให้อาหารนกในที่สาธารณะจนกว่าเหตุการณ์การตายจะสิ้นสุดลง เก็บสัตว์เลี้ยงให้ห่างจากนกที่ป่วยหรือตาย ในกรณีที่เจอนกตายให้ใส่ถุงมือ คว่ำถุงพลาสติกเก็บนกเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สัมผัสกับนกโดยตรงและติดต่อหน่วยงานอนุรักษ์สัตว์ป่าของรัฐหรือเขต

อ้างอิง :
• July 2,2021 “UPDATED Interagency Statement: USGS and Partners Continue Investigating DC Area Bird Mortality Event.” United States Geological Survey
• July 7,2021 “Birds are dying in the United States and no one knows why.” DW
ภาพ : Blue Ridge Wildlife Center

 

ชาวบ้านบังกลาเทศนับหมื่นละเมิดคำสั่งล็อคดาวน์ แห่ดู'วัวจิ๋ว'เชื่อตัวเล็กที่สุดในโลก

ชาวบ้านหลายพันคนในบังกลาเทศ ยอมละเมิดมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แห่แหนกันไปดูวัวตัวจิ๋ว ซึ่งคาดหมายว่าน่าจะเป็นวัวตัวเล็กที่สุดในโลก

รานิ วัวแคระเพศเมียอายุ 1 ปีกับ 11 เดือน ดึงดูดฝูนชนและผู้สื่อข่าวจำนวนมาก นับตั้งแต่รูปร่างอันเล็กจิ๋วของมันเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์ ตามรายงานของเอเอฟพี

"ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ไม่เคยเลย" คำสัมภาษณ์ของ รินา เบกุม วัย 30 ปี เดินทางมาจากเมืองแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน เพื่อดูวัวจิ๋วตัวดังกล่าว

รายงานข่าวระบุว่าวัวจิ๋วผู้โด่งดังนี้มีความสูงขณะยืนเพียง 20 นิ้วและมีความยาวแค่ 25 นิ้ว ซึ่งพวกเกษตรกรทั้งหลายอ้างว่าทำให้มันกลายเป็นวัวตัวเล็กที่สุดในโลก

เอ็ม เอ ฮาซัน โฮว์ลาเดอร์ ผู้จัดการชิกอร์ อักโร ฟาร์ม ในเมืองชาริกรัม ไม่ไกลจากรุงธากา เผยว่าทางกินเนส เวิลด์ เรคอร์ดส์ ให้สัญญาจะตัดสินสถานะของวัวน้ำหนัก 25.8 กิโลกรมตัวนี้ภายใน 3 เดือน

"แค่ช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีคนเดินทางมาดูรานีแล้วมากกว่า 15,000 คน" เขากล่าวเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ "ผู้คนเดินมาจากที่ไกลๆ แม้มีมาตรการล็อกดาวน์ ส่วนใหญ่ต้องการถ่ายรูปกับรานิ"

การรวมตัวของผู้คนได้ก่อความกังวลแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบังกลาเทศ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก

มาตรการล็อกดาวน์อันเข้มข้นมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม

สาเจดุล อิสลาม หัวหน้าสัตวแพทย์ประจำพื้นที่ของรัฐบาลให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "ผมแจ้งกับพวกเขาแล้วว่าไม่ควรปล่อยให้ผู้คนมากมายขนาดนี้ไปแออัดยัดเยียดกันที่ฟาร์ม พวกเขาอาจเป็นพาหะนำเชื้อโรคไปที่นั่น ซึ่งอาจคุกคามสุขภาพของรานิ"

อิสลามระบุด้วยว่าวัวแคระตัวนี้น่าจะเป็นผลทางพันธุกรรมจากการผสมเลือดชิด และมันไม่น่าจะโตไปกว่านี้อีกแล้ว

(ที่มา:นิวยอร์โพสต์/เอเอฟพี)

 

อินเดียงานเข้า!ส่อเจอไวรัสซิกาแพร่ระบาดซ้ำเติมวิกฤตโควิด-19

เจ้าหน้าที่ในรัฐเกรละ ทางภาคใต้ของอินเดีย ออกประกาศเตือนทั่วรัฐ หลังตรวจพบเคสผู้ติดเชื้อไวรัสซิกา 14 ราย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เมื่อวันศุกร์(9ก.ค.) ก่อความกังวลว่ามันอาจซ้ำเติมวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ในบรรดาผู้ป่วยนั้น มีสตรีตั้งครรภ์วัย 24 ปีรายหนึ่งอยู่รวมด้วย และเวลานี้เธอกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในธิรุวานันทพุราม เมืองเอกของรัฐเกรละ

ผู้หญิงตั้งท้องเป็นกลุ่มคนที่อ่อนแออย่างมากต่อไวรัสซิกา และสามารถแพร่เชื้อไวรัสที่มียุงเป็นพาหะสู่เด็กในครรภ์ ผลก็คืออาจทำให้เด็กเกิดภาวะผิดปกติหลายอย่าง ในนั้นรวมถึงกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร ภาวะภูมิคุ้มกันแปรปรวนที่พบได้ค่อนข้างยาก

สตรีรายนี้มีผลตรวจเชื้อไวรัสซิกาออกมาเป็นบวกในวันพฤหัสบดี(8ก.ค.) และมีอีก 13 เคสได้รับการยืนยันในวันศุกร์(9ก.ค.) จากการเปิดเผยของวีนา จอร์จ รัฐมนตรีสาธารณสุขแห่งรัฐเกรละ "ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเวลานี้ยังคงอยู่ระหว่างการรักษาทางการแพทย์ แต่อาการทรงตัว"

ไวรัสซิกา ส่วนใหญ่แล้วเป็นการแพร่เชื้อผ่านการถูกยุงลายกัด แต่ก็สามารถแพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี)

ไวรัสชนิดนี้พบครั้งแรกในลิงที่ป่าซิกาของยูกันดาเมื่อปี 1947 และก่อให้เกิดการระบาดหลายครั้งทั่วโลกในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนหรือยาต้านไวรัสที่สามารถป้องกันหรือรักษาโรคนี้ อาการของผู้ป่วยมีอาทิ เป็นไข้, มีผื่นที่ผิวหนัง เยื่อตาอักเสบ และปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ แต่ผู้ที่ป่วยถึงขั้นเสียชีวิตมีน้อยมาก

เจ้าหน้าที่อินเดียระบุว่าหญิงตั้งครรภ์รายนี้มีอาการต่างๆ ทั้งเป็นไข้ ปวดศีรษะและเป็นผื่น ก่อนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และที่โรงพยาบาลแห่งนี้เอง เธอได้คลอดลูกอย่างปลอดภัยในวันพุธ(7ก.ค.) และรัฐมนตรีสาธารณสุขแห่งรับเกรละเปิดเผยข่าวดีว่าทารกแรกคลอดมีผลตรวจไวรัสซิกาออกมาเป็นลบ

ทางการอินเดียส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่เพื่อเฝ้าสังเกตว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่หน่วยควบคุมการติดเชื้อออกพ่นสารเคมีกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย

อินเดีย เคยเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสซิกาในปี 22017 และ 2018 มีรายงานพบเคสผู้ติดเชื้อหลายร้อยคนในรัฐคุชราตและรัฐราชสถาน ทางคะวันตก และรัฐรัฐมัธยประเทศ แต่สำหรับรัฐเกรละ หนนี้เป็นครั้งแรกที่พบการแพร่ระบาด

การพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกา เกิดขึ้นในขณะที่รัฐเกรละกำลังเผชิญกับวิกฤตเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น โดยพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 13,000 รายในวันศุกร์(9ก.ค.) สูงกว่าทุกรัฐของอินเดีย

จนถึงวันศุกร์(9ก.ค.) อินเดียมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สะสมมากกว่า 30.75 ล้านคน สูงสุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐฯที่ติดเชื้อแล้วมากกว่า 34.67 ล้านคน ขณะเดียวกันอินเดียมีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตแล้วกว่า 405,000 คน สูงสุดเป็นอันดับ 3 ในโลกรองจากสหรัฐฯที่มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 620,000 คน และบราซิลที่เสียชีวิตกว่า 530,000 คน

(ที่มา:เอเอฟพี)

 

ผงะ!นักวิจัยเบลเยียมพบหญิงชราเสียชีวิตหลังติดเชื้อโควิดตัวกลายพันธุ์พร้อมกัน2สายพันธุ์

ผู้หญิงวัย 90 ปีรายหนึ่งเสียชีวิต หลังล้มป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์ในเวลาเดียวกัน ประกอบด้วยอัลฟาและเบตา จากการเปิดเผยของบรรดานักวิจัยในเบลเยียมในวันอาทิตย์(11ก.ค.) พร้อมระบุอย่าได้ประเมินปรากฏการณ์ที่หาได้ยากมากๆนี้ต่ำเกินไป

สตรีสูงอายุรายนี้ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน พักอาศัยอยู่ตามลำพังและได้รับการดูแลที่บ้าน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลโอแอลวี ในเมืองอาลสท์ ของเบลเยียม หลังจากล้มป่วยในเดือนมีนาคมและมีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวกในวันเดียวกัน

แม้ระดับออกซิเจนของเธอจะอยู่ในระดับที่ดีในเบื้องต้น แต่อาการของเธอทรุดลงอย่างรวดเร็วและเสียชีวิตในอีก 5 วันต่อมา

พอเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ทำการตรวจสอบว่าตัวกลายพันธุ์ใดเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเธอ พวกเขาพบว่าร่างกายของเธอนั้นมีทั้งสายพันธุ์อัลฟา ซึ่งพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรและสายพันธุ์เบตา ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้

"ทั้งสองสายพันธุ์นี้กำลังวนเวียนอยู่ในเบลเยียมในช่วงเวลาดังกล่าว ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าสุภาพสตรีท่านนี้อาจติดเชื้อร่วมไวรัสต่างสายพันธุ์ มาจากบุคคล 2 ราย" คำกล่าวของ แอนน์ แวนเคียร์เบิร์กเฮน นักชีววิทยาระดับโมเลกุล แห่งโรงพยาบาลโอแอลวี ผู้นำการวิจัย "เคราะห์ร้าย เราไม่รู้ว่าเธอติดเชื้อได้อย่างไร"

แวนเคียร์เบิร์กเฮน เน้นว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าการติดเชื้อร่วมตัวกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการที่ทรุดลงอย่างรวดเร็วของคนไข้หรือไม่

งานวิจัยนี้ยังไม่ได้ส่งไปยังวารสารทางการแพทย์หนึ่งๆเพื่อการตีพิมพ์ แต่มันถูกนำเสนอต่อสภาจุลชีววิทยาคลินิกและโรคติดต่อแห่งยุโรปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แม้ แวนเคียร์เบิร์กเฮน ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ว่าเท่าที่ทราบยังไม่พบเคสติดเชื้อร่วมแบบเดียวกันในเคสอื่นๆ แต่เธอบอกว่าบางทีอย่าได้ประเมินปรากฏการณ์นี้ต่ำเกินไป นั่นก็เพราะการตรวจเชื้อตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวลต่างๆเป็นไปอย่างจำกัด และขอเรียกร้องให้ยกระดับใช้การตรวจเชื้อแบบรวดเร็ว PCR ตรวจหาการกลายพันธุ์ของตัวกลายพันธุ์

ในเดือนมกราคม พวกนักวิจัยในบราซิล เคยรายงานพบบุคคล 2 รายติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พร้อมกัน 2 สายพันธุ์ แต่ผลการศึกษาดังกล่าวยังไม่ถูกเผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์

ลอเรนซ์ ยัง นักไวรัสวิทยาและศาสตราจารย์ด้านมะเร็งวิทยาระดับโมเลกุลแห่งมหาวิทยาลัยวอร์วิค สหราชอาณาจักร แสดงความคิดเห็นว่าไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่พบบุคคลรายหนึ่งๆติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 1 สายพันธุ์

"ผลการศึกษานี้เน้นย้ำความจำเป็นว่าต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อสรุปว่าการติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวลหลายตัวกลายพันธุ์ส่งผลกระทบต่อการดำเนินโรคของโควิด-19 อย่างไร และมันส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนหรือไม่" เขากล่าว

(ที่มา:เอเอฟพี)

 

ปล้นสะดม-ปิดถนนประท้วงเดือดในแอฟริกาใต้ คัดค้านอดีตประธานาธิบดีถูกตัดสินจำคุก

ตำรวจแอฟริกาใต้เมื่อวันเสาร์(10ก.ค.) เผยมีผู้ถูกจับกุม 28 รายและถนนหลวงเส้นใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งองประเทศยังคงปิดการสัญจร สืบเนื่อจากการประท้วงรุนแรงต่อต้านการจำคุกอดีตประธานาธิบดีจาค็อบ ซูมา

การประท้วงปะทุขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ ในหลายพื้นที่ของควาซูลู-นาทาล จังหวัดบ้านเกิดของซูมา หลังจากอดีตประธานาธิบดีรายนี้เข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อรับโทษจำคุก 15 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

ในวันศุกร์(9ก.ค.) ศาลสูงปฏิเสธคำอุทธรณ์ของซูมา ที่ขอให้พลิกคำตัดสินจับกุมตัวเขาในคดีหนึ่งซึ่งถูกมองว่าเป็นบททดสอบหลักนิติรัฐของประเทศในยุคหลังการแบ่งแยกทางผิวสี ทั้งนี้ไม่กี่ชั่วโมงก่อนมีคำพิพากษา ช่างภาพของรอยเตอร์สพบเห็นกลุ่มผู้ประท้วงต่างตะโกน "ซูมา ซูมา!" พร้อมเผายางรถยนต์และปิดกั้นถนน

คำตัดสินจำคุกของซูมา เผยให้เห็นถึงความแตกแยกอย่างรุนแรงภายในพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกา ( African National Congress หรือ ANC) ในขณะที่กลุ่มก๊กหนึ่งภายในพรรคยังคงภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีรายนี้ และเป็นต้นกำเนิดของความเคลื่อนไหวต่อต้าน ไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน

โฆษกตำรวจเผยว่ามีผู้ถูกจับกุม 28 รายนับตั้งแต่วันศุกร์(9ก.ค.) และคนเหล่านี้ถูกตั้งข้อหาต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงก่อความรุนแรงกับประชาชน ขโมย มุ่งร้ายก่อความเสียหายแก่ทรัพย์สิน และละเมิดกฎระเบียบต่างๆในมาตรการล็อกดาวน์สกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ทางโฆษกระบุว่าพวกผู้ประท้วงจุดไฟเผารถกระบะจำนวนหนึ่งแถวๆมูอิริเวอร์ เมืองที่อยู่บนถนนหลวงสาย N3 ที่เชื่อมระหว่างเมืองเดอร์บันกับโยฮันเนสเบิร์ก รวมถึงมีเหตุปล้นสะดมร้านค้าต่างๆในเมืองมูอิริเวอร์และอีเทควินิ เขตการปกครองมหานคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเดอร์บัน

เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายถูกส่งเข้าประจำการในทั่วทุกเขตของจังหวัดควาซูลู-นาทาล แต่จนถึงตอนนี้ยังไมมีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ พร้อมระบุว่าจนถึงช่วงเที่ยงวัน ถนนหลวงสาย N3 ในเมืองมูอิริเวอร์ ยังคงปิดการสัญจร

รามาโฟซา ซึ่งพันธมิตรของเขาเป็นคนวางแผนขับไล่ซูมาในปี 2018 ระบุในถ้อยแถลงว่าเครือข่ายอาชญากรรมกลุ่มนี้จำเป็นต้องเจอกับการใช้กฎหมายเต็มขั้น

เมื่อถถูกสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นสอบถามเกี่ยวกับการประท้วง โฆษกมูลนิธิการกุศลของซูมา ระบุว่า "ความโกรธแค้นของประชาชนมีความชอบธรรม เพราะว่าพวกเขาเห็นความอยุติธรรมกำลังเกิดขึ้นประธานาธิบดีซูมา"

ซูมา ถูกตัดสินจำคุกตามความผิดฐานชัดขืนคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้เขามอบหลักฐาน ณ การสืบสวนคดีคอรัปชันระดับสูงคดีหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างช่วง 9 ปีที่เขาอยู่ในอำนาจ

เขาปฏิเสธว่าไม่มีการคอรัปชันอย่างกว้างขวางครั้งที่เขานั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศ แต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับการสืบสวน ซึ่งจัดตั้งขึ้นในช่วงสัปดาห์ท้ายๆในวาระดำรงตำแหน่งของเขา

ซูมา ยื่นคัดค้านคำตัดสินจำคุกต่อศาลรัฐธรรมนูญ บางส่วนในนั้นอ้างว่าเขามีสุขภาพอ่อนแอและเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 และศาลจะเปิดพิจารณาข้อคัดค้านดังกล่าวในวันจันทร์(12ก.ค.)

(ที่มา:รอยเตอร์ส)

 

10 กรกฎาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค มีแผนที่จะขอให้ผู้คุมกฏยุโรปอนุมัติการใช้บูสเตอร์ โดส หลังจากฉีดวัคซีนเบื้องต้นแล้ว 2 เข็ม อ้างอิงจากหลักฐานว่าจะมีความเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น หลังจากฉีดไปแล้ว 6 เดือน

แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆจากนักวิทยาศาสตร์ ว่าเข็มที่สามจำเป็นหรือไม่

เมื่อเดือนที่แล้วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรนใช้ไฟเซอร์เป็นบูสเตอร์ โดส ให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มจากจีน

องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่ายังไม่ชัดเจนว่าบูสเตอร์เหล่านี้จำเป็นหรือไม่ในการป้องกัน จนกว่าจะเก็บข้อมูลได้มากกว่านี้

สำหรับประเทศที่กำลังพิจารณาประเด็นนี้

สหรัฐอเมริกา-องค์การอาหารและยาและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค กล่าวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ว่าชาวอเมริกันที่รับวัคซีนครบแล้วไม่จำเป็นต้องใช้บูสเตอร์ในขณะนี้

สหภาพยุโรป-สำนักยายุโรป กล่าวเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ว่ายังเร็วเกินไปที่จะชี้ว่าวัคซีนมากกว่า 2 เข็มจำเป็นหรือไม่ และว่า ณ ตอนนี้ มั่นใจว่ามาตรการที่มีอยู่เพียงพอแล้ว

สหราชอาณาจักร-อังกฤษเริ่มวางแผนสำหรับโครงการบูสเตอร์ โดสในช่วงหลังของปีนี้ หลังจากที่ผู้ให้คำปรึกษาเรื่องวัคซีนระดับท็อปกล่าวว่าอาจจำเป็นต้องให้เข็มที่สามแก่ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง ตั้งแต่เดือนกันยายน
ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย ว่าโครงการบูสเตอร์วัคซีนจำเป็นหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ได้แนะนำว่าการเตรียมพร้อมควรจะเริ่มบนพื้นฐานเป็นการระวังไว้ก่อน
อังกฤษกล่าวว่าจะซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่ม 60 ล้านโดสก่อนโครงการบูสเตอร์ ทำให้มียอดสั่งรวมทั้งหมด 100 ล้านโดส

อินโดนีเซียและประเทศไทย-สองประเทศนี้กำลังพิจารณาเสนอบูสเตอร์ โดสให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ที่ฉีดซิโนแวคแล้ว

อิสราเอล-รมต.สธ.ของอิสราเอลกล่าวเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ว่าในตอนนี้ยังไม่มีการวางแผนสำหรับบูสเตอร์ โดสให้ประชาชนทั่วไป แต่กำลังพิจารณาให้กับประชาชนที่มีสภาพภูมิคุ้มกันถูกกด ที่มีการตอบสนองที่อ่อนต่อการฉีดเข็มปกติ

รัสเซีย-คลินิกสุขภาพในมอสโคว์เริ่มเสนอบูสเตอร์ โดสเมื่อต้นเดือนนี้ให้แก่ประชาชนที่ฉีดวัคซีนไปแล้วเมื่อหกเดือนที่แล้วหรือนานกว่านั้น ทำให้รัสเซียเป็นประเทศแรกที่เริ่มการฉีดวัคซีนรอบใหม่

สิงคโปร์-กล่าวเดือนในพฤษภาคมว่ากำลังวางแผนสำหรับบูสเตอร์ ชอตในช่วงหลังของปีนี้หรือต้นปีหน้า

เกาหลีใต้-กล่าวเมื่อเดือนมิถุนายนว่า มีแผนที่จะสั่งวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอเพิ่มเพื่อใช้เป็นบูสเตอร์ในปีหน้าสำหรับประชาชนทั้งประเทศ 52 ล้านคน

สวิตเซอร์แลนด์-รมต.สธ.กล่าวว่า สวิตเซอร์แลนด์สั่งวัคซีน 43 ล้านโดส รวมทั้งการเตรียมพร้อมสำหรับบูสเตอร์ ชอตในปี 2022 หากมีความจำเป็น
อัตราการติดเชื้อในประเทศไม่ถือว่าต่ำ แต่กำลังเพิ่มจำนวนหลังมีการผ่อนคลายมาตรการ.

#roundtablethailand
Roundtablethailand.com

ที่มา https://www.reuters.com/business/he...weigh-need-booster-covid-19-shots-2021-07-09/

 

Jul 11, 2021 ติดพุ่งกว่า 200! ชาวปัตตานีติดโรคโควิด-19 พุ่ง 215 คน ดันยอดติดทั้งจังหวัดพุ่งใกล้ 4,300 คน

สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดปัตตานี รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 215 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 42 รายจากเมื่อวานนี้ ส่งผลยอดติดเชื้อสะสมเป็น 4,281 ราย พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ราย ส่งผลยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 39 ราย สำหรับพื้นที่ระบาดสะสมมากที่สุด ซึ่งเกินกว่า 100 รายขึ้นไป คือ อ.เมือง 1,380 ราย อ.หนองจิก 576 ราย อ.ยะหริ่ง 535 ราย อ.ยะรัง 314 ราย และ อ.สายบุรี 182 ราย

#ปัตตานี #ภาคใต้ #โควิด19 #โควิดวันนี้ #BTimes

 

Jul 11, 2021 หมอธีระยันกึ่งล็อกดาวน์จันทร์นี้แค่ชะลอติดเชื้อ ต้องเลิกนำต่างชาติเข้าไทย-ล็อกดาวน์ 100% ทั้งประเทศ

วันนี้ 11 กรกฎาคม 2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กเกี่ยวกับ 3 สิ่งที่ต้องทำเพื่อแก้วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ในไทย มีดังนี้

...ไทยเรามีเคสผู้ป่วยที่ต้องรับการดูแลรักษาเกิน 80,000 คนแล้ว หากจำกันได้ เคยบอกไปแล้วว่า หากจำนวนสะสมในระบบเกินหลักหมื่นปลายๆ ถึงแสนคน จะมีแนวโน้มที่จะมีจำนวนคนเสียชีวิตหลักร้อยต่อวัน นี่คือบทเรียนที่เห็นจากต่างประเทศ

ดังนั้นแต่ละวันหากมีจำนวนเข้าสู่ระบบมากขึ้นในระดับหลายพันเช่นที่เป็นมา เราคงมีโอกาสเห็นการเสียชีวิตหลักร้อยในเร็วๆ นี้ครับ

จากที่ประเมินสถานการณ์การระบาดของไทยที่รุนแรงมายาวนานหลายเดือน กระจายไปทั่วประเทศ และคุมไม่อยู่ มาตรการล็อคดาวน์เฉพาะพื้นที่ที่เพิ่งประกาศไปและจะเริ่มวันจันทร์นี้ น่าจะได้ผลในเชิงการชะลอเท่านั้น แต่ไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้ จะมีโอกาสระบาดซ้ำซ้อนไปเรื่อยๆ

มาตรการที่ควรทำคือ การทำ Full national lockdown ซึ่งมักต้องใช้เวลาในการล็อคนานระดับเดือนขึ้นไป

นอกจากนี้ระบบการตรวจคัดกรองโรคนั้นคือหัวใจสำคัญที่สุดในการคุมการระบาดแบบนี้ ไม่สามารถหวังผลเพียงจากการฉีดวัคซีนซึ่งมักต้องรอผลระยะยาว ดังนั้นการขยายระบบบริการตรวจให้ครอบคลุม ทั่วถึงทุกพื้นที่ ไม่ติดเกณฑ์อาการหรือประวัติ ทุกคนควรสามารถรับการตรวจได้โดยง่ายและไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อที่จะทราบสถานะการติดเชื้อของตนเอง และปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

มองสถานการณ์ไปข้างหน้า คงเตือนเพียงว่า

หนึ่ง การระบาดคงมีต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ศึกนี้ยาวมาก และจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ และระบบเศรษฐกิจสังคมมากมายกว่าที่เป็นมา ต้องวางแผนประคับประคองช่วยกันให้ดี

สอง ไทยเรายังเป็นระลอกสามที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่สามารถคุมได้ และมีโอกาสเจอปะทุซ้ำจากปัจจัยเสี่ยงเชิงนโยบายที่มี เช่น เปิดเกาะ เปิดประเทศ ส่วนระลอกสี่จะมาช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้หรือเร็วกว่านั้นได้หากยังไม่ปิดกั้นความเสี่ยงทั้งหมด โดยการหยุดนโยบายนำความเสี่ยงจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ และทำ Full national lockdown

สาม ครึ่งปีที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แนวทางนโยบาย และมาตรการ ที่เกิดจากหน่วยงานนโยบายต่างๆ ทางด้านการสาธารณสุข ควบคุมป้องกันโรค และวัคซีนนั้นไม่สามารถจัดการสถานการณ์โรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เกิดการติดเชื้อจำนวนมากและเสียชีวิตจำนวนมาก รัฐจึงควรพิจารณาปรับครม.เพื่อเปลี่ยนทิศทางนโยบายและมาตรการทั้งหมด รวมถึงการปรับเปลี่ยนวงที่ปรึกษา คณะกรรมการ และทีมงานด้านวิชาการต่างๆ เพื่อให้ประเทศมีโอกาสและช่องทางในการผ่านพ้นวิกฤติระบาดรุนแรงนี้ไปได้และป้องกันไม่ให้เกิดอีกในอนาคต

สำหรับประชาชนอย่างพวกเราทุกคน ขอให้ตระหนักถึงสถานการณ์การระบาดว่ารุนแรง และป้องกันตัวอย่างเต็มที่ มุ่งเป้าให้ตนเองและครอบครัวไม่ติดเชื้อ

ใส่หน้ากากเสมอ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า เรื่องนี้สำคัญมาก

#หมอธีระ #โควิด19 #ล็อกดาวน์ #ไทย #ธีระวรธนารัตน์ #BTimes