*** ยุคศิวิไลซ์ ****

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย หนุมาน ผู้นำสาร, 7 มกราคม 2020.

  1. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    2564-2570 เป็นเวลาที่ตั้งไว้..

    หวังว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามครรลอง..

    ด้วย ความเพียร และ ปณิธาน..

    ทุกอย่างจะสำเร็จดังปรารถนา..
     
  2. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    เมื่อมองลงมาเห็นทันที "ความรู้ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่เรา"

    การติดข้องของสัตว์ทั้งหลาย มันยากที่จะช่วยได้หมด..

    หากอินทรีย์ยังไม่ถึงพร้อม ก็ยากที่จะเห็นแจ้ง..

    หากยังขาดความเพียร ก็ยากที่จะพ้นไปได้..

    อาการและสภาวะที่หวั่นไหวทุกชนิด เป็น เพียง สังขาร..

    หาก "หยุด" ได้อย่างสมบูรณ์ สังขารทั้งหลายก็ไม่สามารถปิดบัง พระนิพพาน..
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** ธรรมะสากลโลก ****

    คือ.... สัจจะ
    คือ การตัดลดกิเลสนิสัยตนเอง
    ด้วย...สัจจะปฏิบัติ
    คือ.... สิ่งที่ทุกคน
    ทุกดวงจิตวิญญาณ
    ต้องกลับมาทำให้สำเร็จ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ขอบใจเช่นกันเพื่อน Imgoog69 หากไม่เกินกฏของกรรมแล้ว เราเต็มใจช่วยเหลือเพื่อนเสมอ ขอเพียงแต่เพื่อนอย่าปลอมตัว เป็นคนนั้นคนนี้ให้มันมากนัก เราเวียนหัวไปหมดแล้ว....อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2021
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    หลวงตาม้าเล่าเรื่อง พระแก้วแดง และเกร็ดธรรม


    23 ม.ค. 2016
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สัจจะราชาแห่งธรรม (ตรัสแล้วไม่คืนคำ)
    "ฉันจะอยู่ถึง 120 ปี"

    c-files_-bbci_-co_-uk_103846740_gettyimages-11-87f8e84f66aa6dd7c3b7407bcf30a92ed06cf075-jpg.jpg

    ในหลวง ร.9 ทรงรับสั่ง "ฉันจะอยู่ถึง 120 ปี"

    “ฉันจะอยู่ถึง 120 ปี จะอยู่จนฉลองพระราชพิธีครองสิริราชสมบัติครบ 100 ปี” นั่นคือพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ระหว่างจัดถวายพระพร และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ที่จะถวายพระพรว่า ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมพรรษาเกินกว่า 100 พรรษา

    Aunyasit สมาชิก

    หลวงปู่เทพโลกอุดร (หลวงปู่ใหญ่) ท่านบอกว่าบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะอยู่ถึง 120 ปี หลวงปู่ใหญ่ท่านรู้เกี่ยวกับรหัสนัยของการมีอายุยืน เพราะท่านอยู่มา 2,500 กว่าปีแล้ว หลวงปู่ใหญ่ท่านจึงลงมานำพาในการสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 80 พรรษา เมื่อหล่อพระเสร็จฯ ก่อนหลวงปู่ใหญ่กลับท่านก็บอกอีกว่า พระเจ้าอยู่หัว ร.9 จะอยู่ถึง 120 ปี แน่นอน

    ก่อนหล่อพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ หลวงปู่ใหญ่ท่านให้ผม เขียนพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่า รวมทั้งวันพระราชสมภพ ลงในแผ่นทองคำแท้ ขนาด 9 X 9 เซ็นติเมตร จำนวน 5 แผ่น แล้วนำไปให้หลวงปู่ใหญ่ ที่ จ.หนองคาย จากนั้นเมื่อหลวงปู่ใหญ่ท่านลงมาในวันพระ ตอนขากลับขึ้นข้างบน หลวงปู่ท่านก็นำแผ่นทองคำหายไปกับท่านในนภากาศ จนกระทั่งถึงวันหล่อผมก็ถามหลวงปู่ถึงแผ่นทองคำที่มีพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่า หลวงปู่ใหญ่ท่านบอกว่า หลวงปู่ได้นำไปหล่อในองค์พระทั้งห้าพระองค์เรียบร้อยแล้ว

    หล่อพระฯเสร็จจึงถึงบางอ้อ ในความหมายที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านกล่าวไว้ว่า "การสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ในครั้งนี้สำคัญต่อพระเจ้าอยู่หัวและสำคัญต่อประเทศชาติ" ตอนนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่าพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ สำคัญต่อพระองค์ท่านและประเทศชาติอย่างไร

    ผมก็เคยคุยกับหลวงปู่ใหญ่หลายเรื่องเกี่ยวกับประเทศไทย หลวงปู่ท่านบอกว่าพวกเทพเทวดา จะช่วยกันประคับประคองพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัวให้ท่านอยู่นานที่สุด ซึ่งจะเป็นการยืดเวลาของความหายนะที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยด้วย เพราะประเทศไทยในเวลานี้ต้องพึงบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากไม่มีพระเจ้าอยู่หัว ร.9 คนไทยเราจะไม่สามารถอยู่กันอย่างเป็นสุขได้ แผ่นดินสยามจะร้อนเป็นไฟ และจะแยกออกเป็นสามส่วน

    ขอพระบารมีแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ จงโปรดดลบันดาลให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สถิตย์เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

    เคยถามหลวงปู่ใหญ่ท่านว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือใคร หลวงปู่ท่านตอบว่า ไปศึกษาดูนะว่าเทพองค์ไหนที่มีพญาครุฑเป็นพาหนะ ผมก็เลยสรุปเอาเองว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คงจะเป็นพระมหาโพธิสัตว์ องค์หนึ่ง

    หลวงปู่ท่านก็ให้ผมมาทำการบ้าน โดยให้หาว่า 1 ใน 80 ของพระอสีติมหาสาวก มีอยู่หนึ่งองค์ที่มีฝ่าเท้าเป็นกงจักร ท่านบอกว่าให้ศึกษาดูว่าพระอรหันต์องค์นั้นชื่ออะไร เพราะพระองค์นี้ก็จะมีบทบาทสำคัญในพระพุทธศาสนาในระยะเวลาอันใกล้นี้ ตอนนี้ผมก็ยังหาชื่อท่านไม่ได้ ใครทราบก็ช่วยบอกด้วยนะครับ ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนที่หลวงปู่ใหญ่ท่านเคยบอกว่า เป็นมือขวาของหลวงปู่ซึ่งเป็นคน(ในยุคปัจจุบัน)ที่เกิดมาแล้วเดินอยู่เหนือพื้น 1 ศอก เท้าไม่เคยแตะพื้น ซึ่งปัจจุบันกำลังทำบารมีอยู่หรือเปล่า

    Aunyasit, 11 มิถุนายน 2008

    ที่มา https://palungjit.org/threads/ในหลวงตรัส-ฉันจะอยู่ถึง-120-ปี.133121/
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194

    พูดตามจริงจากใจเลยนะ เราอยากเห็นท่าน Imgoog69 ทำหน้าที่ของผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ออกช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยใจเมตตา กรุณา เลิกคิดแต่จะเอาชนะ จ้องจับผิดคนนั้นคนนี้เสียที วางดาบฆ่าคน ย่อมบรรลุอรหันต์ได้ทันทีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2021
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** สมัยพุทธกาล ****

    ผู้ที่เคยเป็นสาวกพระพุทธเจ้า
    ล้วนรับสัจจะ ไปปฏิบัติทุกคน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "พุทธวิสัย" เป็นเรื่องอจินไตย

    25 ก.พ. 2015
    เรื่องของพุทธวิสัยเป็นเรื่องอจินไตย แม้ร่างกายจะถูกเผามอดไหม้ไปแล้ว แต่ก็สามารถอธิษฐานจิต ให้ร่างกายฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ได้ เพราะยังต้องรักษาสัจจะวาจา และต้องทำหน้าที่ของตนเองให้เสร็จสมบูรณ์เสียก่อน

    พระโพธิธรรม หรือ ตั๊กม้อ ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นโอรสองค์ที่ 3 ของกษัตริย์พราหมณ์ในอินเดีย พ.ศ.500, 600 สังฆปรินายกองค์ที่ 28 แห่งชมพูทวีป ได้นำหลักธรรมพุทธศาสานามหายานนิกานเซน เผยแผ่สู่แผ่นดินจีน สมัยราชวงศ์ซ่ง เป็นองค์ที่ 1 สถาปนาวัดเส้าหลินและเจ้าอาวาสองค์แรก จากนั้น ZEN สืบทอดกันรุ่นสู่รุ่นต่อมา
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ปัญหาที่เหล่าบรรดาพุทธภูมิทั้งหลาย ต่างประสบกันอยู่ในเวลานี้ !!!

    dFQROr7oWzulq5FZUEKmajdOYiMMPZzSltIzRYjjTv0e4twIy1PwCQf0vJe7g82p71n.jpg

    ทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ทางตัน ทุกวิธีที่มีอยู่ได้ถูกนำเอาใช้และไม่ได้ผล ดวงจิตที่อาสาลงมาเกิด ทั้งแบ่งภาคมา ทั้งเอาหลายส่วนของหลายภาค มาปนเปกัน เกิดเป็นดวงจิตใหม่บ้างก็มี ทุกดวงจิตก็ไปติดอยู่กับกฏแห่งกรรม อันเป็นกฏสูงสุด ของการปกครองในระบอบโลก

    พอลงมาเกิดปั๊ป ก็จะมีเจ้ากรรมนายเวรรออยู่กันสลอน ก็จะต้องประสบปัญหาและอุปสรรคนานาประการ ยิ่งเป็นดวงจิตของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายก็ยิ่งต้องมาพบกันสารพัดเรื่องราว และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย เพราะข้อมูลของกรรม หรือการกระทำที่ผ่านมา ได้ถูกบันทึกไว้ในดีเอ็นเอที่อยู่ในยีนของแต่ละคน

    พูดง่ายๆตามภาษาชาวบ้านก็คือ เหมือนนักมวยลงเวที ร้องอุแว้ๆ ปั๊ป ก็เหมือนมีเสียงกรรมการบอกว่า ชก ถ้าเจอคู่ชกรุ่นใหญ่กว่า ก็ตุปัดตุเป๋เมาหมัดอยู่บนเวที ทีนี้ เวลาชีวิตนี้นะมันไม่มีหมดยก และไม่มีสิทธิ์เลือกคู่ชก แถมคู่ชกอาจมาทีเป็นฝูง ส่วนกรรมการสั่งชกแล้ว ก็เดินหนีทิ้งเราอยู่บนเวทีแต่ผู้เดียว

    พี่เลี้ยงของเรา ก็คือเหล่าดวงจิตเดิมที่แบ่งมานะแหละ รอลุ้นกันอยู่ข้างเวที บางทีก็ทะเลาะกันเอง ถึงวิธีแก้ปัญหาให้เรา ทีนี้มาติดปัญหาอีกอันหนึ่งคือ เราผู้อยู่บนเวที จะได้ยินเสียงตะโกนบอก ของท่านพี่เลี้ยงหรือเปล่า? เช่นท่านบอกว่าซ้ายๆ ให้เราหลบกำปั้น เราได้ยินก็หลบทัน ไม่ได้ยินก็อ่วม นี่คือเวทีชีวิตจริงๆ

    แต่เบื้องบนก็มิได้ทอดทิ้งเรา ให้ผจญภัยแบบไม่มีพักยกหรอก วิธีเดียวที่จะได้พัก และหยุดจากเหล่าเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย คือการให้เราบวชจิต เช่นไปเข้าวิปัสสนากรรมฐาน นั่นคือช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ที่จะได้พักยก เมื่อจิตวิญญาณทั้งหลาย ตกอยู่ในเงื่อนไขของกฏแห่งกรรม ที่บันทึกอยู่ในดีเอ็นเอ บวกกับมารที่สยายปีกใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มาชักจูงให้มนุษย์เลิกล้มความตั้งใจเดิม ที่จะมาเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม

    ทุกหนทุกแห่งจึงเต็มไปด้วยปัญหา แม้กระทั่งจิตวิญญาณของผู้ปฏิบัติในระดับอนาคามี อีกก้าวเดียวก็จะถึงซึ่งความหลุดพ้น ก็ยังถูกมารลากเอาไปกินตลอด ดังที่เห็นเป็นข่าวมากมาย และที่ยังไม่เป็นข่าวอีกเท่าไหร่ละ นับไม่ถ้วนทีเดียว บางท่านได้เลื่อนระดับไปถึงขั้นที่สามารถเชื่อมจิตวิญญาณกับพี่เลี้ยงระดับสูงสุดแล้ว ก็ยังไม่วายถูกมารมาหลอกอีกจนได้

    แม้กระทั่งมนุษย์บางคน ที่ผ่านการกลั่นกรองคัดเลือก ให้เตรียมรับพระญาณบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ ที่จะมาปรากฏกับมนุษย์สามคน ก็ยังมีอันผิดเพี้ยน พระองค์ท่านได้เสด็จมาโปรดและก็ต้องล่าถอยไป และมีการเปลี่ยนตัวบุคคลไปเรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้ก็พอจะเข้าใจอยู่ว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ยิ่งญาณบารมีสูงเท่าไหร่ กองทัพมารระดับอภิมหาพญามารก็จะเข้ามา ระดมห่ากระสุนอาวุธทุกชนิด นางพญามารก็จะเข้าปฏิบัติการด้านมารยาสาไถยตอแหล เอาอ่วมไปตามๆกัน

    ดังนั้นจะหวังพึ่งมนุษย์ ที่มีพี่เลี้ยงองค์ใหญ่องค์โต มาช่วยเหลือมนุษยชาติก็ยิ่งมีอุปสรรค ที่สำคัญคือผู้ที่มีศักยภาพมากมายเหล่านี้ มีจุดอ่อนชนิดเดียวกันหมด นั่นก็คืออัตตาตัวตน และอัตตาที่สำคัญตนว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นคนเก่ง ก็จะเริ่มหยิ่งยะโส ลำพองไปกับสิ่งลวงตาทั้งหลาย เกิดการแข่งขันกันและกันแทน ก็เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนมารไปอีก นี่แหละคือปัญหาที่เราทั้งหลาย ต่างประสบกันอยู่ในเวลานี้

    จะไปหาครูบาอาจารย์ดีๆ ก็ยิ่งเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ดีได้แต่เด่นไม่ได้ แล้วถ้าไม่เด่นก็ไม่รู้สิว่ามีดีและอยู่ที่ไหน? เดอะวันนั่งกุมขมับอยู่จนกระทั่งใกล้เวลาที่ดาวบิรูนิ จะมาถึงวงโคจรชั้นในของระบบสุริยะ ท่านได้คำนวณดูแล้วว่า เที่ยวนี้คงจะเหลือแค่โนอาห์กระมัง ท่านจึงเตรียมการคัดเลือกโนอาร์ไว้ สำหรับสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์

    ในประเทศไทยนี้ ก็ได้คัดเลือกสถานที่ และคณะบุคคล ไว้รองรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนในต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน ได้มีการจัดเตรียมโนอาร์ไว้รองรับในแต่เขตแต่ละโซนไป

    Nopp Rattachat


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/nithan-ni-buru-khun-nopp/bi-ru-ni-txn-thi-5
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "ดาวเคราะห์โลก" เป็นโรงเรียนที่โหดที่สุดในจักรวาล!!!


    1 ม.ค. 2021
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "การครอบงำของจิตมาร"

    18biography-of-lord-buddha-5b1-5d-jpg-jpg.jpg

    ••— ภัยพิบัติหรือหายนะทางอารยธรรมของมนุษย์ ตั้งแต่กึ่งพุทธกาลเป็นต้นไป จะค่อยๆเสื่อมลงมากขึ้น! —••
    (.. เขียน 19 ตุลาคม 2563 ..)
    ในเช้าวันนี้ดวงจิตผม รับรู้ถึงกระแสความเป็นไปอีกอย่างหนึ่งในด้านมืดของฝ่ายมาร ที่กำลังดำเนินอยู่และจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆในอนาคตจนกว่าจะสิ้นศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้าของโลกธาตุใบนี้ ซึ่งในทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า “มารทำวิชชา”

    เหตุการณ์ภัยพิบัติที่บังเกิดกับโลกธาตุใบนี้ มิใช่มีเพียงภัยพิบัติในด้านโรคระบาดหรือภัยทางธรรมชาติดินน้ำลมไฟเพียงเท่านั้น! แต่เช้าวันนี้ดวงจิตผมยังรับรู้ถึงภัยพิบัติหรือหายนะทางอารยธรรมของมนุษย์อีกด้วย! ภัยพิบัติหรือหายนะทางอารยธรรมของมนุษย์เป็นเช่นไร อธิบายได้ว่า เป็นการทำงานของฝ่ายมาร ที่พวกเขารับคำสั่งมาทำตามหน้าที่ตามกฎเกณฑ์ของจักรวาลที่ต้องเป็นไป ในช่วงตั้งแต่หลังกึ่งพุทธกาลฝ่ายมารก็จะมีอำนาจมากขึ้นตามหน้าที่ของฝ่ายมารหรือฝ่ายมืด ส่วนฝ่ายพระหรือฝ่ายสว่าง ที่มีสวรรค์เป็นตัวแทนก็จะมีอำนาจลดลงตามหน้าที่ แต่ฝ่ายพระก็จะพยายามดูแลรักษากลุ่มคนที่มีดวงจิตใฝ่ดีใฝ่ธรรม ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงปกป้องให้พ้นจากการครอบงำของจิตมาร!

    การครอบงำของจิตมารทำให้เหล่ามนุษย์ทุกชาติพันธ์ุ เกิดกิเลสต่างๆขึ้นอย่างรุนแรงจนขาดสติโดยไร้สาเหตุและเหตุผล กิเลสต่างๆ อาทิเช่น รัก,โลภ,โกรธ,หลง และอวิชชาคือความไม่รู้! รวมถึงอุปทานความปรุงแต่งทั้งหลายที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด! กิเลสทั้งหลายจะนำพามาซึ่งความขัดแย้งกันระหว่างมนุษย์ทั้งในระดับประเทศและภายในประเทศ ซึ่งมารก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งในทุกภูมิภาคทั่วโลก! จากที่ผ่านมา ก็คือ ความขัดแย้งในฮ่องกง,อเมริกากับจีน,สงครามระหว่างเชื้อชาติในประเทศแถบตะวันออกกลาง ที่องค์ครูโลกทิพย์ท่านเคยบอกล่วงหน้าไว้!,และความขัดแย้งในประเทศต่างๆจะตามมาอีก! ความขัดแย้งจะมีระดับรุนแรงแค่ไหน! ถึงขนาดเข่นฆ่ากันในกลุ่มคนหมู่มากที่ก่อเกิดเป็นสงครามหรือจนถึงระดับรากหญ้าเป็นปัญหาอาชญากรรมในท้องถิ่นต่างๆในแต่ละประเทศ ก็จะมีแนวโน้มเกิดมากขึ้นอย่างรวดเร็วผิดปกติ!

    ไม่ว่าจะอาศัยเหตุผลใดในการเข่นฆ่าก็ตาม เป้าหมายของจิตมาร สุดท้ายคือ การคร่าชีวิตมนุษย์บนโลกธาตุใบนี้ให้มีจำนวนที่ลดน้อยลง ความวุ่นวายและความขัดแย้งเป็นเพียงสภาวะที่นำพามาซึ่งการทำลายล้างชีวิตของกันและกัน! โลกใบนี้ต่อไปจะอยู่ยากขึ้น! ยิ่งในประเทศที่ไม่มีศีลไม่มีธรรม! มีความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมาก! จิตมารก็ยิ่งดึงกิเลสของมนุษย์เหล่านั้นออกมาได้มากและรวดเร็ว! เพราะไม่มีจิตภาคสว่างมากพอที่จะต่อต้านจิตมาร! และยิ่งหลังกึ่งพุทธกาล มารมีอำนาจมากขึ้นตามวาระหน้าที่ หลายคนที่ไม่มีความตั้งมั่นในทาน ศีล ภาวนาหรือสติทางธรรมมากพอ! ก็จะถูกดึงกิเลสต่างๆออกมาได้โดยง่าย! ฉะนั้น นอกจากมีกำลังของทาน ศีล และภาวนาของตนที่ทำอยู่เป็นประจำแล้วบุคคลเหล่านั้นย่อมจำเป็นต้องมีองค์ครูบาอาจารย์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดีมาคอยคุ้มครอง ให้สติยามที่จิตตนกำลังจะถูกจิตมารครอบงำ! ดังนั้น บุพกรรมเก่าในอดีตที่เราเคยสร้างไว้ร่วมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสายเทพเทวาพรหม,สายพระโพธิสัตว์,สายพระและอื่นใดทั้งหลาย ย่อมจะกลับมามีประโยชน์คุ้มครองปกป้องและสนองคุณแก่เราได้ในยามวิกฤติของโลกธาตุในช่วงเวลานี้!

    และในวันนี้ผมจึงเข้าใจว่า ทำไมสวรรค์เบื้องบนจึงให้ภารกิจปลุกเสกบารมีทิพย์ปรับธาตุและเจาะจงเลือกเป็นเหรียญหลวงปู่ทวดในการปลุกเสก! เพราะคุณประโยชน์ในบารมีทิพย์นี้นอกจากจะสร้างเกราะแก้วปกป้องและบรรเทาโรคระบาดใดๆแล้ว(ปรับสมดุลทางกายภาพดินน้ำลมไฟในร่างกาย) และยังช่วยปรับสภาวะดวงจิตให้นิ่งสงบมีสติทางธรรมเพิ่มมากขึ้น! ก็เพราะมารไม่ได้ทำเพียงวิชชาให้เกิดหายนะทางโรคระบาด,ทางภัยพิบัติดินน้ำลมไฟเพียงเท่านั้น แต่ยังทำวิชชาไปที่จิตใจดึงอาสวะกิเลสต่างๆของมนุษย์ให้กระเพื่อมรุนแรงขึ้นมา! เพื่อให้เกิดหายนะความวุ่นวาย กลายเป็นความขัดแย้งจนถึงขั้นเข่นฆ่าเอาชีวิตกัน! ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งการทำลายล้างอารยธรรมต่างๆ ของมนุษย์ในทุกภาคส่วนทั่วโลกให้เสื่อมถอยลงไป! เพราะการทำลายล้างที่ดีและไวจะต้องทำจากภายในจิตใจของมนุษย์เสียก่อน! โดยการดึงอาสวะกิเลสของเหล่ามนุษย์ออกมาทำลายล้างกันเอง! เพราะนี่คือ “ภารกิจหน้าที่ของฝ่ายมาร” ส่วนฝ่ายพระฝ่ายสว่างก็ทำหน้าที่ดูแลคุ้มครองให้กลุ่มคนของตน อยู่รอดปลอดภัยเท่าที่จะทำได้เพียงเท่านั้น!


    -ข้อมูล : “อารยธรรม”
    https://th.m.wikipedia.org/wiki/อารยธรรม
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** สัจจะ กับความมั่นคง ****

    559000010863501.jpeg.jpg
    images.jpeg-108.jpg
    images.jpeg-106.jpg
    images.jpeg-107.jpg images.jpeg-109.jpg

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** สัจจะนำพาให้หลุดพ้นทุกข์ ***-

    ขอให้คนไทยทุกคน
    ตั้งใจจริงทำความดีด้วยสัจจะ
    วันละข้อ ทุกวัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    ๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๔
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** ค้นหาแก่นสาร ****

    "สัจจะ" คือ แก่นสาร
    นอกนั้นไม่ใช่แก่นสาร

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    ไทยสยามได้แกงเคยแล้ว ขอบใจเพื่อนแท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2021
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ชีวิตที่เหลือของคุณ


    คนขี้เหงา - นีโน่ เมทนี บุรณศิริ

    ถ้าสมมติว่า...คุณเหลือเวลาอีก 1 ปี หรือ 18 เดือน หรืออีกไม่กี่วันไม่กี่เดือน คุณอยากจะทำอะไร ก่อนเวลาสุดท้ายของคุณจะมาถึง?

    อะไรคือสิ่งที่คุณยังติดค้างอยู่บนโลกนี้ ?
    อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกค้างคาใจและไม่สบายใจ หรือรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำก่อนหมดเวลาสุดท้ายของคุณ?

    โปรดอย่าประมาท...

    "ชีวิตและเวลา" คือสิ่งที่ไม่แน่นอนและไม่มีวันย้อนกลับ มันเหมือนกับสายน้ำ ที่ยังไหลต่อไปแม้ว่าเราจะหยุดนิ่ง หรือหายไปทิ้งไปวันๆ หรือดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    แต่มันยังคงไหลต่อไป ไหลไปยังจุดจบสุดท้ายของคุณ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่มีมนุษย์คนใด สามารถแก้ไขหรือหยุดยั้งกาลเวลา และไม่มีมนุษย์คนใดมีชีวิตนิรันดร สุดท้าย...

    (คุณทุกคนก็ต้องตาย!!)...

    ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง และดำเนินต่อไป ตามแบบแผนและผลกรรมของแต่ละคนอย่างไม่สิ้นสุด

    การที่คุณพูดว่า "รู้แล้ว,เข้าใจ,ไม่ต้องมาสอน,ไม่ต้องมาเตือน"

    คุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณเข้าใจมันจริงๆ?
    บทเรียนต่างๆที่คุณรู้ และคำศัพท์ยากๆ ที่นำมาโอ้อวดกัน...

    คุณแน่ใจจริงๆหรือว่ามันจะทำให้คุณไปสุดฝั่ง
    คุณแน่ใจจริงๆหรือว่ามันจะนำคุณไปยังยุคใหม่
    คุณแน่ใจจริงๆหรือว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้องทั้งหมด
    และคุณแน่ใจจริงๆหรือว่ามันคือทั้งหมดของข้อมูลที่คุณได้รับมา คุณทบทวนจนแน่ใจแล้วหรือไม่ ก่อนจะนำมาเผยแผ่ เพราะความตื่นเต้นของคุณจากข้อมูลที่ได้รับมาแค่บางส่วน จนทำให้เกิดความผิดพลาด และยึดติดจนหลงทาง

    ไม่ได้อยากจะมาแจ้งข่าวร้าย และไม่อยากจะวุ่นวาย หากสบประมาทใคร ขออภัย...
    แต่แผนการสุดท้ายได้ออกมาและได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

    ครั้งนี้อาจไม่.....เหลือใครให้ไปต่อ
    มีเพียงเด็กทารกและเมล็ดพันธ์ที่ดีจริงๆเท่านั้นที่ได้ไปต่อ เพื่อสร้างบ้านใหม่เเละเป็นแนวทางให้คนรุ่นหลังต่อไป.

    โดยจะได้รับการช่วยเหลือ,อบรมและดูแลจากพี่น้องของเราในกาแลกซี่

    ซึ่งพวกเราเห็นแล้วและพิสุจน์แล้วว่า...
    มนุษย์มีบาปและความหลงผิด ที่ยากต่อการแก้ไขอย่างไร จากบทเรียนต่างๆ ทุกคนสอบตก...

    แม้บางคนอาจดูดีและเก่งเพียงใด
    แต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับอำนาจและความหลงตน คนเหล่านี้ไม่สามารถเป็นแบบอย่างของคนรุ่นใหม่ได้ เพราะพวกเขา จะทำให้ทุกคนหลงผิด และทำให้เกิดกลียุคอีกครั้ง และพวกเขาจะยึดติดกับความคิด และความเชื่อของตน ทำให้เกิดข้อผิดพลาด...

    ดังนั้นแผนการนี้ จึงไม่ต้องการความผิดพลาด เราจึงได้วางแผนและคัดเลือกอย่างดี ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่แทบมองไม่เห็นใครที่ดีพอสำหรับโลกใหม่

    (โลกใหม่) คือโลกที่เป็นที่อยู่ของผู้ที่มีจิตใจสูง ไม่มีกิเลสหรือความหลงผิด ผู้ที่เปิดใจรับฟังและไม่มีอคติ ผู้มีความรักและเมตตาช่วยเหลือกัน และเรียนรู้เพื่อเข้าสู่นิพพาน มันคือสวรรค์บนดินอย่างแท้จริง

    มันไม่ใช่โลกที่เจ็บปวดและหลงผิดแบบนี้ ไม่ใช่โลกที่จะก่อกรรมหรือทำร้ายกัน ไม่ใช่โลกที่ต้องศึกษาเรียนรู้ จากความเจ็บปวดแบบเดิม

    มันคือสิ่งใหม่ อนาคตใหม่ เทคโนโลยีใหม่ ผู้คนใหม่ ความรู้ใหม่ สังคมใหม่ ที่เปิดกว้างและก้าวต่อไป อย่างบริสุทธิ์และปลอดภัย เพื่อให้ทุกคนในจักรวาล อยู่ร่วมกันอย่างสันติและช่วยเหลือกัน เพื่อกลับสู่บ้านหรือนิพพาน...

    ดังนั้นมันจึงเป็นงานที่ระเอียดอ่อนและต้องใช้เวลา

    เราจึงไม่อยากให้ความหวังหรือทำลายความหวังใคร

    มีแค่คุณที่รู้จักตัวเองดี และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้

    "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"

    หากคิดว่าเราโกหก โปรดถามใจตัวเองว่า คุณดีพอและคู่ควรกับโลกใหม่ไหม แน่ใจว่าจะไม่ก่อความวุ่นวาย หรือความหลงผิดในอนาคต

    และโปรดถามตัวเองว่า อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ

    อะไรคือสิ่งที่คุณอยากทำ ก่อนหมดเวลา

    เราแค่อยากให้คุณใช้เวลาสุดท้ายอย่างคุ้มค่า จะได้ไม่เสียใจ ไม่มีห่วง และไม่หลงผิดอยู่กับเรื่องที่ไร้ประโยชน์

    เราจึงมาเตือเป็นครั้งสุดท้าย หวังว่าจะเป็นประโยชน์...

    หากคุณไม่ปรารถนาไปโลกใหม่ เราก็ขอให้คุณโชคดีบนทางเดินของคุณ และหาทางกลับบ้านได้อย่างสวัสดิภาพ

    ลาก่อน & สวัสดี...


    ที่มา กระทู้ชีวิตที่เหลือของคุณ
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    วัดธรรมกาย คือ..ศูนย์รวมใจ ใจบุญ ใจกุศล

    viewimg-php-jpg-jpg.jpg

    "พลังของวันพรุ่งนี้"(วัดธรรมกาย)
    **************************************
    ...เช้านี้มีพลังงานที่ถูกส่งมาจาก..จักรวาลเบื้องบน เพื่อให้ บัวสวรรค์ ไปรับ คือ...พลังเต็มเปี่ยม ของ...พลังแสงสีทองสองรุ้ง หมายถึง..แสงสีทองรุ่งอรุณสู่วันใหม่ สองรุ้ง รุ่งเรือง โชติช่วง
    .
    ...เรียกสั้นๆว่า.."พลังของวันพรุ่งนี้" หมายถึง..การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคไฉไล ศิวิไลย์รุ่งเรือง ค้าขาย ลงทุน อุดมสมหวัง เหลือกิน เหลือเกิน แบ่งปัน อุ้มชู บ้านเมือง เรืองรอง...
    .
    ...จักรวาลเบื้องบน มอบ...พลังของวันพรุ่งนี้ ให้กับ บัวสวรรค์ เพื่อนำไปเชื่อมกับ..ธุรกิจธรรม ภาครูปธรรม ที่ บัวสวรรค์ กำลังทำอยู่ณ.ตอนนี้...เพื่อให้ ..เปิดสุข เปิดความสำเร็จ ในทุกด้าน เกี่ยวกับ..ธุรกิจธรรม ภาครูปธรรม ทั้งหมด
    .
    ...สิ่งที่จะนำไปเชื่อมกับ พลังของวันพรุ่งนี้ คือ..รหัส เมตตาธรรมค้ำจุนโลกและจักรวาล เชื่อมแล้วได้? ตอบ..ความสุขของมนุษย์โลก ผู้นำโลก นรก สวรรค์ สมดุล พลูสุข
    .
    รวมแล้วคือ.."เมตตาสมดุล"
    ........

    คุณวิเศษ พลังของวันพรุ่งนี้ มี ๔ อย่างคือ..
    ๑. ทำแล้วมีสุข
    ๒. ยิ่งทำ ยิ่งสุข ยิ่งสุข ยิ่งทำ
    ๓. ทำแล้วเห็นผล
    ๔. ช่วยเหลือแบ่งปันน้ำใจ แบ่งปันสุข แบ่งปันประสบการณ์
    .
    รวมแล้วคือ.."ประตูสุข ประตูธรรม ประตูใจ " หมายถึง..ดีต่อใจ

    ....ตามสาสน์บอกว่า ต้องนำ..พลังของวันพรุ่งนี้ ไปเชื่อมระบบ ธุรกิจธรรม ภาครูปธรรม เพื่อการก่อเกิดภาครูปธรรม ให้จบสมบูรณ์ได้จริงแค่เพียงใจคิด ที่ วัดธรรมกาย
    .
    เพราะ วัดธรรมกาย คือ..ศูนย์รวมใจ ใจบุญ ใจกุศล ที่จักรวาลเบื้องบน ได้ทำการส่งพลังสีทองสองรุ้ง ไปเก็บซ่อนไว้...เพื่อให้ บัวสวรรค์ ได้ทำการไปหยิบยืมนำ...พลังสีทองสองรุ้ง ออกมาทำ..ธุรกิจธรรม ภาครูปธรรม ให้ก่อเกิดเป็นรูปธรรมสำเร็จได้ดั่งใจคิด...
    .
    ...เพราะ พลังสีทองสองรุ้ง แท้จริงแล้วก็คือ.."น้ำใจ น้ำพักน้ำแรง น้ำปรุง น้ำปรับ" รวมแล้วคือ.."น้ำทิพย์ น้ำธรรม" หมายถึง น้ำแห่งความสุขใจ ที่จะนำไปสู่คำว่า "จบสุข" ได้อย่างแท้จริงนั้นเอง
    .
    ...คำตอบความจริง..น้ำทิพย์ น้ำธรรม นี่แท้จริงแล้วก็คือ...น้ำแห่งความเสียสละที่ทุกคนต้องมี...แต่ น้ำทิพย์ น้ำธรรม นี่ถูกปิดซ่อนไว้อยู่ที่ วัดธรรมกาย ที่ บัวสวรรค์ ต้องไปทำการหยิบยื่น ออกมาใช้ในการทำธุรกิจธรรมภาครูปธรรม
    .
    ...เพื่อให้ ธุรกิจธรรม ได้เกิดขึ้นจริงในภาครูปธรรมเสียทีดั่งใจคิด ที่มนุษย์ไม่คาดคิดกันมาก่อน....เพราะ ธุรกิจธรรม จะเกิดขึ้นพร้อมกับ การพิพากษาทวงคืนผืนธรรม ภาครูปธรรม บนโลกได้นั้น
    .
    ...บัวสวรรค์ ต้องไปทำการ หยิบยืม...น้ำทิพย์ น้ำธรรม จาก จักรวาลเบื้องบนเพื่อนำมาใช้ก่อน ที่ปิดซ่อนไว้อยู่ที่ วัดธรรมกาย..เพราะ น้ำทิพย์ น้ำธรรม นี้ก็คือ..พลังแห่งการตื่นรู้ ตื่นเห็น ของ จักรวาลเบื้องบน
    .
    ที่มีพลังแห่งการทำลายล้าง ให้ทั้งหมดทั้งมวลสูญสิ้นได้อย่างแท้จริง หรือเรียกอีกอย่างว่า.."พลังแห่งปัญญาสุข เกิดสุข " หมายถึง..สุขจริง สุขยั่งยืน
    .
    ...ใช้รหัส ใจเป็นธรรม เชื่อมรับ พลังแห่งปัญญาสุข เกิดสุข เชื่อมรับแล้วได้? ตอบ..สุขใจ สบายใจ หมายถึง..สุขทั้งกาย สุขทั้งใจ สุขทั้งจิต

    ...ตามสาสน์บอกว่า เมื่อ บัวสวรรค์ ไปเชื่อมเปิดรับ พลังแห่งปัญญาสุข เกิดสุขจาก จักรวาลเบื้องบนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้กับ โลกมนุษย์ และ จักรวาลทั้งหมดในภาครูปธรรมก็คือ...การเกิดสีทองสองรุ้ง ที่เรียกว่า.."รุ่งอรุณแห่งวันพรุ่งนี้ ดินแดนศิวิไลย์ ที่เปี่ยมสุข ที่ทั้งหมดทั้งมวลรอคอย"
    .
    นั้นก็คือ...การล่มสลายของ กิเลสบนโลกทั้งหมด...ซึ่ง กิเลสบนโลกทั้งหมด จะถูกทำลายด้วย...ความดี การเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ของมนุษย์ ที่ผ่านบททดสอบ ชีวิตที่เปี่ยมสุข ผ่านทุกข์ หรือเรียกว่า..."สูงสุด ต่ำสุด ต่ำสุด พอเพียง พอดี" หมายถึง..การเรียนรู้ธรรมชาติ ความจริง
    ........
    ..สรุปสิ่งเหล่านี้คือ.."ความสมดุล" หมายถึง..ไม่มาก ไม่น้อย ไม่เกิน ไม่ขาด

    ๑๖.๘.๖๓ เวลา ๑๒.๓๐ น.

    เย็นวันที่ 16.8.63 เราเดินทางไปที่..วัดธรรมกาย..ตามระบบกิจหน้าที่ เพื่อไปเชื่อมรับ...พลังของวันพรุ่งนี้
    .
    ตอนที่เราไปเดินเวียนเทียนรอบพระมหาเจดีย์สีทอง..ได้ครึ่งรอบ
    .
    สิ่งที่เราเห็นคือ..สวัสดิกะ..ดำขาว..ถูกปิดซ่อนไว้อยู่ที่..เจดีย์สีทอง

    ตามสาสน์บอกว่า..สวัสดิกะ
    นี่แท้จริงคือ..ตัวธรรม..ที่แท้จริงของจักรวาลเบื้องบน
    .
    เราเดินต่อก็เห็นนิมิตภาพ..ทุกลัทธิ นิกาย ทุกศาสนาถูกปิดซ่อนไว้อยู่ที่..พระเจดีย์สีทอง..วัดธรรมกาย ทั้งหมด

    และมาสรุปตัวสุดท้ายเป็นการเชื่อมทั้งหมด ที่ปิดซ่อนไว้อยู่ที่..พระมหาเจดีย์สีทอง..กับ..นครเมกกะ..เป็นหนึ่งเดียวกัน

    นั้นหมายถึง..การรวมศาสนาและนิกายฯทั้งหมด เป็นหนึ่งเดียวกันค่ะ

    ที่มา สมาธิขั้นสูง (แนวทาง)..จบสุข
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "ธรรมจักร"(ยุคสมัย พระศรีฯ)

    96_n-jpg-_nc_cat-111-_nc_sid-110474-_nc_ohc-h-up4khhy1oax_6xrjk-_nc_ht-scontent-fbkk25-1-jpg-jpg.jpg

    "ธรรมจักร"(ยุคสมัย พระศรีฯ)
    *********************************
    ถาม ตามสาสน์ที่เห็น พระมหาเจดีย์ธรรมกาย บอกว่า ตัวธรรมของจักรวาลเบื้องบน คือ..สวัสดิกะ (ตามภาพ) หมายถึง?
    .
    ตอบ..."ธรรมจักร" มี แปดฝัก(ฉีก)...แฉก..
    แต่ที่เห็น 4 เพราะเป็นการหมุนของวงล้อธรรม
    ..........
    ถาม...ธรรมจักร ของ พระพุทธเจ้า กับ ตัวธรรม(สวัสดิกะ) ของ จักรวาลเบื้องบน เหมือนกันไหม?
    .
    ตอบ..อันเดียวกัน
    แต่ จักรเป็นสัญญลักษณ์ของการขับเคลื่อน
    .
    หมุนไปทางขวา คือเดินหน้า ไปทางซ้าย คือทำลายล้าง
    .........
    .
    ...สรุป...ตัวธรรม (ของจักรวาล) สวัสดิกะ
    หากจะให้สมบูรณ์ ต้องมี ..จักร ด้วยใช่ไหม?
    ตอบ...ใช่
    .
    และต้องใช้ จักร ?
    ตอบ..."จักรวาล"
    .
    จักร ของ จักรวาล คือ?
    ตอบ...การหมุนรอบไม่หยุดนิ่ง หมายถึง...ดวงดาวที่เคลื่อนไหว
    .
    หมายถึง..ทุกดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิต มีวงรอบ
    มีแสงสว่าง มีธรรมชาติ
    ............
    .
    ถาม...ธรรมจักร พระศรีฯ หรือ พระพุทธเจ้า กับ ธรรมจักร..จักรวาล เหมือนกันไหม? อันเดียวกันไหม..
    ตอบ...เหมือนกัน..
    .
    แต่ทำไม ถึงยังไม่สมบูรณ์ละ..?
    .
    ตอบ...ต่างกันที่ยุคสมัย แค่นั้น
    ยุคสมัยนี้เรียกว่า.."สมัยนิยม" หมายถึง..การนิยมชมชอบ หลงไหล ยึดติด ไม่หลุดพ้น
    ..........

    นำ ตัวธรรม(สวัสดิกะ) จักรวาล เชื่อมรวมเป็นหนึ่งกับ จักร (ดวงดาวที่เคลื่อนไหว) แล้วได้?
    .
    ตอบ...ความสุข หมายถึง...สุขคือไม่ทุกข์ ไม่ทุกข์คือตัดทุกข์ รู้จักทุกข์ เห็นต้นเหตุ การกำเนิด การหมดทุกข์
    .........
    .
    หมุนไปทางขวา คือเดินหน้า ไปทางซ้ายคือทำลายล้าง
    ควรหมุนไปข้างซ้ายก่อน แล้วต้องใช้อะไรเป็นตัวขับเคลื่อน
    หมุนไปข้างซ้ายก่อน.. ทำลายล้าง ใช้รหัสอะไรสั่งการณ์..??
    .
    ตอบ...รหัส เดินไปข้างหน้า (เดินไปข้างหน้าก้าวต่อๆไป)
    ............
    .
    นำรหัส เดินไปข้างหน้า เพื่อเชื่อม ธรรมจักร เพื่อการเดินไปข้างซ้าย เพื่อการทำลายล้าง แล้วได้?

    ตอบ..."จบสุข"
    ............
    .
    "ธรรมจักร" ยุคนี้เรียกว่า สมัยนิยม คือ การนิยมชมชอบ หลงไหล ยึดติด ไม่หลุดพ้น คือ ธรรมจักร ยุคพระพุทธเจ้า องค์ที่ ๔
    .
    หมายถึง...อริยสัจสี่ (ธรรมของพระพุทธเจ้า)
    "ทุกข์ สมุหทัย นิโรธ มรรค"
    .
    "ยุคสมัยนิยม" คือ..ธรรมจักร ยุค พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔.
    .
    ...ปล. ธรรมจักร ของ ยุค พระพุทธเจ้าที่ ๕. ก็เหมือนกัน (ธรรมของพระพุทธเจ้า)
    .
    ที่ต่างกันแค่ ยุคสมัย เพียงเท่านั้น...
    .......
    .
    คำตอบความจริง...ยุคสมัยของ พระพุทธเจ้าที่ ๕. พระศรีฯ
    คือ..ยุคพระศรีฯ หมายถึง...ธรรมชาติความจริงหนีไม่พ้น
    .........
    .
    ถาม การเข้าสู่ ยุคสมัย..พระศรีฯ ในภาครูปธรรม ต้องใช้รหัสอะไรเชื่อม?

    ตอบ...สัจจะ
    ..........
    .
    นำ รหัส สัจจะ เชื่อมกับ ยุคสมัยพระศรีฯ เพื่อก่อเกิดในภาครูปธรรม แล้วได้? ตอบ...ความสุข (สุขจริง สุขจัง จบสุข) หมายถึง...จบสุข จบด้วยสุข
    .
    ยุคพระศรีฯ หมายถึง...ธรรมชาติความจริงหนีไม่พ้น

    ปริศนาที่ซ่อนไว้คือ..ความสงบ

    ธรรมชาติ ความจริงหนีไม่พ้น หมายถึง..สงบ

    ความสงบ คือตัวนำพาไปสู่คำว่า..จบสุข
    .
    ๑๘.๘.๖๓

    ที่มา
    สมาธิขั้นสูง (แนวทาง)..จบสุข
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "สัจจะ" คือการเชื่อมเข้าสู่ยุคสมัย..พระศรีฯ ในภาครูปธรรม

    i-24-jpg-part-0-jpg.jpg

    "สัจจะ" แปลว่า ความสัตย์ ความซื่อ ถ้าขยายความตามศัพท์ แยกได้ 3 ลักษณะ คือ มีความจริง ความตรง และความแท้ จริง คือ ไม่เล่น ตรง คือ ความประพฤติ ทางกาย วาจา ตรงไม่บิดพลิ้ว ไม่บ่ายเบี่ยง แท้ คือ ไม่เหลวไหล ตรงข้ามกับคำว่า อสัจ ซึ่งแปลว่า ไม่จริง บิดพลิ้ว

    แต่ถ้าในทางปฏิบัติ สัจจะ คือ ความรับผิดชอบ หมายความว่า ถ้าจะทำอะไรแล้ว ต้องตั้งใจทำจริง ทำอย่างสุดความสามารถ ให้เป็นผลสำเร็จ การที่ใครจะสามารถสร้างตัวขึ้นมาได้นั้น ต้องมีสัจจะเป็นพื้นฐาน เพราะคนที่มีสัจจะ เป็นพื้นฐาน จะมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำทุกอย่าง ไม่ปล่อยผ่านกับสิ่งที่ได้รับมา จะทำทุกสิ่ง ที่มาถึงมืออย่างสุดกำลัง และเต็มความสามารถ

    ลักษณะของสัจจะ มีด้วยกัน 5 ประการ คือ

    ประการที่ 1 สัจจะต่อความดี

    ก็คือ การประพฤติตนเป็นคนที่เที่ยงแท้ มั่นคงต่อความดี ไม่หันเหไปในทางชั่ว ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นไร ในทางปฏิบัติ การจะมีสัจจะต่อความดีได้นั้น ต้องคิดให้เห็นถึงคุณความดีได้อย่างแจ่มแจ้ง และเห็นโทษของความชั่วได้ชัดเจน พยายามรักษาความดีในตนไว้ ถ้าเป็นฆราวาสก็ต้องละ กรรมกิเลส 4, อคติ 4, อบายมุข 6 และต้องปรับความเห็นของตนให้ถูก ให้เป็นสัมมาทิฏฐิให้ได้ หากเป็นพระ ก็ต้องรักษาสิกขาวินัย สืบทอดพระพุทธศาสนา หากเป็นฆราวาส ก็ต้องทำมาหากินตั้งตนให้ได้ สร้างหลักฐานให้กับวงศ์ตระกูล ใครจะอยู่ในหน้าที่อะไร ก็ต้องพยายามหาดีของตนให้ได้ หากหาดีนอกทางเสียแล้ว ก็จะเสียความจริงต่อความดี

    ประการที่ 2 สัจจะต่อหน้าที่

    คือ การที่ใครก็ตามที่เกิดมา ย่อมมีหน้าที่ติดตัวมาด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้น จึงควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน ใครเป็นสามี ก็รับผิดชอบต่อหน้าที่สามี เลี้ยงครอบครัวให้ดี ไม่ปันใจให้หญิงอื่น จริงใจกับภรรยา ใครเป็นภรรยา ก็จริงใจต่อหน้าที่ของภรรยา ดูแลการงานในบ้านให้เรียบร้อย ไม่เที่ยวเตร่ ไม่เล่นการพนัน เผาผลาญทรัพย์ เป็นลูกก็ต้องมีความรับผิดชอบว่า เราเป็นลูกมีหน้าที่รักษาวงศ์ตระกูลให้ดี ถ้าพ่อแม่แก่เฒ่า ก็ต้องเลี้ยงดูท่าน ทหารก็จริงใจลงไปในหน้าที่ทหาร เป็นตำรวจก็รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตำรวจ ไม่ว่าใครจะเป็นอะไร ก็ทุ่มไปกับหน้าที่ของตัวให้เต็มที่ หากทำเช่นนี้ได้จึงเรียกว่า มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่

    ประการที่ 3 สัจจะต่อการงาน

    สัจจะต่อการงาน ก็คือการตั้งสัจจะลงไปในงาน หมายถึงการทำงานนั้นต้องทำจริง เมื่อมีหน้าที่แล้ว ก็ย่อมมีงานตามมา คนที่ไม่จริงต่อการงาน มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน คือ
    1. พวก "ทุจฺจริต" คือ พวกที่ทำงานเสีย
    2. พวก "สิถิล" คือ พวกที่ทำงานเหลาะแหละ
    3. พวก "อากุล" คือ พวกที่ทำงานคั่งค้าง
    ประการที่ 4 สัจจะต่อวาจา

    สัจจะต่อวาจา คือ จริงต่อวาจา นั่นก็คือคำพูดของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการพูดด้วยปาก หรือการเขียน ตลอดจนการแสดงอาการ ที่เป็นการปฏิญาณต่อผู้อื่นก็ตาม สัจจะต่อวาจามีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ
    1. พูดอย่างไรทำอย่างนั้น คือ เมื่อพูดออกไปแล้วก็ต้องพยายามทำให้ได้จริงตามที่พูด
    2. ทำอย่างไรพูดอย่างนั้น คือ การพูดคำจริง เมื่อเราทำอะไรลงไปก็พูดไปตามนั้น การกระทำต้องตรงกับคำพูดของตัวเองเสมอ

    ประการที่ 5 สัจจะต่อบุคคล

    สัจจะต่อบุคคล คือ ต้องจริงต่อบุคคล ในที่นี้คือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา จริงต่อบุคคลนั้น หมายถึง การเป็นผู้ที่ประพฤติต่อคนอื่นอย่างสม่ำเสมอ ไม่กลับกลอก และความจริงต่อบุคคลจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องอาศัยความจริงใจต่อกัน ถ้าเราอยากให้คนอื่นเขาจริงใจต่อเรา เราก็ต้องให้ความจริงกับเขาด้วย

    ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/สัจจะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2021

แชร์หน้านี้

Loading...