มีผู้กล่าวว่า ถ้าจิต เกิดความคิดอะไรขึ้นมา เกิดความรู้อะไรขึ้นมา ให้พิจารณา สิ่งนั้น

ดูจาเขียดๆกาน ดูน้องเก้าแก้เขียดน๊าาาฮับ

 

ผมอยู่แต่อ่านแค่บางโพสต์คับ
โอมเทพพิคโกโร่ เบจิต้า เป็นพยาน สัจวาจา ให้กระผมด้วยเถอะคับ

 

หลังจาก นางยิง นางก็อุดให้คับ
นางติดมอเตอร์ให้อีก ไม่ต้องพาย พูดแล้วเศร้าคับ

 

คุณโสดาชายเขาได้จริง เห็นไตรลักษณ์จริงๆ จิตอิสระเหนือความว่างด้วย แล้วจิตเขาก็ไม่ฉวยอะไรขึ้นมาเป็นเราอีกต่างหาก เขารับรองตัวเองได้เลย แต่ทีนี้คนไม่ถึงสภาวะแบบเขาก็ว่าเขามโน

เขามาใหม่ ไม่มีเพื่อน พอคุณหมูไหม้ไปไล่เขา เขาก็ไม่กล้ามาเล่นเพราะมีแต่คนรุม

 

ทีแรกจะเข้าข้างฮับ แต่กระแสแรงเกิน น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง ปั่นให้ดีกั่ว ม่ายโดนด่าด้วยฮับ

 

น่าจะมาอีกนะผมเดาคุณแม่สั่งมาเล่น55

 

เสียง ใส ใส ของ ปิคโคโล

 

เดี๊ยวก่อนนน ...ไม่มีใครรับรองแนนเป็นอะไรทั้งนั้น ทั้งคุณปังคุณปราบ ไม่มีใครพูดไรเลย มีแต่แซวไปมาขำๆ .....แนนว่าแล้วเชียวเล่นไปเล่นมา จะมีคนปรุงแต่งคิดจิงจังจนได้

 

ขณะที่จิตไม่เกิดอุปาทานหลงเอากริยาจิตมาเป็นตนเป็นของของตน ทุกการกระทำำ ณ เวลานั้นจะเป็นเพียงแค่กริยา ทำไปตามเหตุตามผลอันควร ไม่มีใครเป็นเจ้าของ การที่เป็นเพียงแค่กริยา ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ก็คือมันเป็นธรรมชาติ เห็นธาตุกระทบธาตุก็อาจจะเป็นไปได้ และการดำริถึงจุดนั้นบ่อยๆเพื่อคลายความหลง ณ ปัจจุบันก็เป็นเรื่องที่ทำได้ เป็นการตั้งอยู่บนความเพียรชอบ

เพียงแต่ถ้าไปกระทำอย่างสุดโต่ง เลือกข้าง ก็จะเป็นการภาวนาแบบติดฝั่ง หลงกระทำ ไม่เห็นทุกข์เห็นโทษจริง จะกลายเป็นเก่งกระเด้ง กรูผู้ชนะ จะออกแนวๆนั้น สักกายทิฏฐิกลับมาเต็มๆเลย

 

ถือว่าผมเข้าใจผิดไปเอง ขอโทษละกันนะครับ

 

ไม่เป็นไรค่ะพี่ทีบูน... เข้าใจว่ามันมีเข้าใจผิดกันได้

 

มานม่ายผิดหรอกฮับที่เค้าเหง เปงสภาพของสูญญตา เจ้าตัวเองเขายังม่ายรู้เลยเรียกว่าอารายย

 

เคสนั้นเท่าที่เข้าใจก็คือกำลังสติยังไม่พอ (ถ้าพอมันจะย้อนรู้ได้เอง เผลอๆจะอ๋อออยาวเป็นวรรคเป็นเวรเลยก็ได้ 55) ก็จะอธิบายอะไรไม่ถูกแบบนั้นแหละ

 

ป๋มถาม พี่ที หน่อย นะว่า

ไอ้ที่ว่าสุดโต่ง มันสุดโต่งยังไงฮับ

หาก คนเพียรแค่ รู้กายรู้ใจ มันสุดโต่งไหมฮับ

 

ธรรมชาติของคนนะมันจะสุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งเสมอ เขาถึงฝึกให้มารู้ทัน แล้วมันจะกลางเข้ามาได้เรื่อยๆเอง เรียกว่าเป็นการ สร้างสัปปายะอย่างหนึ่ง และสุดโต่งนี้ก็คือเรื่องของการหลงยึดนั่นแหละครับ เป็นธรรมคู่ เคยเจ็บแบบบไหนมา เวลามีทางให้เลือกมักจะเลือกฝั่งตรงข้าม ไม่ยักกะเลือกตรงกลาง อันนี้ต้องสังเกตตัวเองดีๆ

 

สุดท้ายมันก็ รู้กายรู้ใจ นั่นแหล่ะ
แล้วมันจะค่อยเข้ามากลางเรื่อยๆ

อยู่ๆก็ไม่มีใผ่ กล๋างแต่ต้น

 

จิตเที่ยง เป็นของ พระอรหันตะผล ครับ
ส่วนชั้น พระอรหันตะมรรค ลงมา จิตยังไม่เที่ยงแท้เต็มที่
การมองทุกอย่าง ก็ยังไม่ค่อยจะชำนาญในการมองโลกเท่าไหร่
มองได้ไม่เต็มที่ จิตก็เลยยังไม่เที่ยงแท้แน่นอน

 

พระอรหันตะผล จะไม่สร้างกรรมอีกเลย
แต่ พระอรหันตะมรรค ยังสร้างกรรมบ้างเล็กน้อย
ต่ำกว่านั้นก็สร้างกรรมมากขึ้นๆ ตามลำดับ

 

เดี๋ยวต่อไปการถกเถียงธรรมของทั้งคู่ จะแม่นขึ้นเรื่่อยๆ
เพราะความคร่องตัวการฝึก เดี๋ยวก็จะเลิกเถียงกันไปเอง