เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑ ปีชวด
ใส่บาตร ๔ รูปในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ครบเครื่อง ครบครัน ทันใจ ขอบคุณการแจ้งข่าวคราว การเดินทางสู่ที่หมายปราศจากอุปสรรคของวัตถุมงคลที่ไม่มีวันกลายเป็นอัปมงคล

บารมีอริยสงฆ์ สื่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวาทั้งปวงที่ได้รับการอัญเชิญปกปักรักษาวัตถุมงคล ย่อมดูแลผู้ครอบครองอย่างดีดุจกัน

 

ยังไม่เลยเพล รีบอนุโมทนาบุญใส่บาตรกับหลวงพ่อ ทั้งขอให้พ่อค้า-แม่ขายผู้ทำบุญ ขายคล่อง เงินทองลื่นไหลเข้าเก๊ะทั้งวัน สาธุ

 

ดีครับ ได้พุทธบุตรที่ผ่านการฝึกฝนก่อนครองจีวรบ้าง ก็จะได้ผู้ดำเนินตามรอยบาทพระพุทธองค์ที่ดี

ยุคเก่าก่อนการจะบวชพระ ต้องผ่านการเคี่ยวกรำสารพัด...

ทางใต้ ก็มีตาผ้าขาว ฝึกตัวอย่างน้อย 2-3 เดือนถึงบวชได้ บางคนฝึกไปฝึกมา ไม่ยอมบวชกลายเป็น "ตาผ้าขาว" ตลอดชีวิตแต่เรืองฤทธิ์ไม่แพ้พระเกจิดังๆ บางคนก็หนีหายเข้าป่าเป็นฤาษีชีไพรไปเลยก็มี ที่เป็นดังนี้เพราะ "จริต" บางท่านเห็นว่า บวชเป็นพระมี"ข้อห้าม"มาก เป็นตาผ้าขาว เก่งไม่แพ้พระสามารถช่วยชาวบ้านได้มากกว่าไม่ผิดศีลมาก เอาฤทธิ์ไว้ก่อน นิพพานไว้ทีหลัง

ทางอีสานยิ่งเคร่งหนัก โดยเฉพาะสายพระป่า ปรมาจารย์หลวงปู่มั่น ต้องฝึกรับใช้ครูบาอาจารย์ก่อนบวชนานพอดู พระสมัยก่อนที่ผ่านกรรมวิธีเคร่งศีล รู้ธรรมเหล่านั้น จึงเป็น ผ้าเหลืองแห่งศรัทธา สามารถกราบได้ตั้งแต่หัวจรดตีน กราบตรงไหนก็เป็นบุญ

ส่วนสมัยนี้ พระดีก็ยังมีสืบสานพระศาสนาอีกมาก แต่อลัชชีผีผ้าเหลืองก็มาก เลือกกราบให้ดี อย่าเผลอไปกราบผีเปรตเป็นเสนียดจัญไรมือและชีวิต โดยเฉพาะพระที่ลูกศิษย์จอมปลอม นักพุทธพาณิชย์เอามาแต่งนิยายขายพระทั้งเก๊ ทั้งจริง...พระเหล่านั้น กราบได้แต่ไม่ได้เก่งฉกาจเลอเลิศอย่างที่นิยายมันเสกสรรปั้นแต่ง เป็นแค่พระสงฆ์ที่ดีรูปหนึ่งที่มีทั่วๆไป ก็แค่นั้น!!!

 

วันหยุดของทางการ แต่สนง.ยังไม่หยุด แสดงว่างานน้องโต้ดต้องข้องเกี่ยวกับต่างประเทศมากพอดู ก็ทำงานให้สนุกสนานเบิกบานใจ ถนนโล่งเหมือนวันเทศกาลใหญ่

ขอบคุณ การทักทาย ส่วนการร่วมบุญ ก็ว่ากันตามอัตภาพ ไม่ต้องรีบร้อน ตอนนี้เข้าหนาวก็จริง แต่ไหง"คลื่นความร้อน" ยังแผ่ยามกลางวันเยอะเอาเรื่อง

ผมกำลังรวบรวม วัตถุมงคล อริยสงฆ์ที่ร่วมพิธี 25 พุทธศตวรรษ ให้บูชาเป็นลำดับต่อไป ตั้งชื่อรายการเก๋ เท่ ไว้แล้วว่า...

รวมพล-ยอดคน ปี 2500
ในพิธี"25พุทธศตวรรษ"!
--------------------------

โปรดรอร่วมบุญ มีทั้งที่เคยร่วมไปแล้วมากมาย กับหลายอริยสงฆ์สุดยอดที่สร้างวัตถุมงคลไว้น้อย แต่พุทธคุณอร่อยเหาะ ไม่ต้องเหยาะน้ำลายขายนิทาน!

 

วันหยุดยาว เขียนสั้น
เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน...

ทิวลิปเหลือง...เรืองรองเรื่อ
ส้มส่องเชื้อ.....เผื่อแผ่ผอง
สวยสองสี.......สุขีมอง
ห่อนคับข้อง....แยกสองสี!

ธรรมชาติ ไม่มีอัปรีย์แยกสีแดง-เหลือง แตงโม ส้ม สลิ่ม เอามาทิ่มตำกันเหมือนคนจัญไรในประเทศไหนก็ไม่รู้ แยกสีกันมากๆไม่ช้าก็จะ "แยกชาติ แยกแผ่นดิน" หากไม่ระวังไปเต้นตามเพลงนรกของพวกขายชาติ ชังชาติ!

 

@@@ กวี-ไม่มีชื่อ @@@
@@ตั้งได้ตามใจชอบ@@
================

ไพร่แบ่งสี.....คนดีแหยง
ทุยทิ่มแทง....แรงเดรัจฉาน
มารหัวขน.....ปนจัณฑาล
เกิดก่อการ....ผลาญทำลาย
...เมืองแสนสุข......ยุค"โควิด"
...ตายน้อยนิด.......ผิดคาดหมาย
...กลายกลับเถื่อน...เกลื่อน(ค)วายร้าย
...ฤากฏหมาย.........พ่ายกฏกู
ปล่อยอัปรีย์...ย่ำยีชน
สัตว์หน้าขน...ล้นกฏหมู่
สู้อดทน.........หม่นอดสู
เร่งกอบกู้......ชูสถาบัน!

 

พิพิธภัณฑ์พระเก๊ (ตอนไม่จบ)
=================

เรื่องนี้ไม่มี "ตอนจบ" ตราบตลาดพุทธพาณิชย์ใหญ่โต เงินทองท่วมท้นล้นกิเลสมนุษย์ พิพิธภัณฑ์พระเก๊ ย่อมกลายเป็น "เครื่องมือ" ประกอบการขายที่ได้ผลของนักพุทธพานิชย์ ที่ไม่สนใจบาปเคราะห์เวรกรรม ความถูก-ผิดหรือศีลธรรม ขอเพียงขายของได้เงินก็พอ!

พิพิธภัณฑ์อันควรเป็นแหล่งเรียนรู้ วัตรปฏิบัติ ปฏิปทา คุณงามความดีครูอาจารย์ เพื่อเสริมศรัทธาพุทธศาสนิกนำสู่เส้นทางธรรม จึงกลายเป็นแหล่ง "เลียนแบบ-แอบยัดพระมือผี" เข้าไปโชว์ เข้าไปแอบแฝง เป็นใบเบิกทางนำไปสู่การขายพระเก๊มือผี ที่แยบยลและแนบเนียน ยิ่งในยุคโซเชี่ยล การหลอกลวงเหล่านี้ ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก

ในพิพิธภัณฑ์วัดหลายแห่ง นอกจากอุปกรณ์ที่เคยเล่ามาแล้ว อีกส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ...

"หนังสือรวมพระเครื่อง-วัตถุมงคล"!

หนังสือเหล่านั้น เขียนและจัดทำโดยลูกศิษย์ลูกหาตั้งแต่ยุคเก่าก่อน จนมาถึงยุคใหม่ ๆ ซึ่งแน่นอนย่อมมี "ข้อมูลใหม่" พิสดารงอกเงยขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามแต่นักพุทธพาณิชย์จะสรรเขียน สรรหาเพิ่มเติม ก็เชื่อขนมกินได้อีกแหละว่า ข้อมูลใหม่ปั้นแต่งแปลงโฉม ล้วนเป็นไปเพื่อการส่งเสริมขายพระที่พวกมือผีทำรอไว้แล้วทั้งสิ้น

หนังสือพระเครื่องยุคใหม่ในพิพิธภัณฑ์ เหนือกว่าตำรา "วัดครึ่ง-กรรมการครึ่ง" มันเป็นหนังสือเพื่อ "พระเก๊" ล้วน ๆ โดยวัดไม่มีโอกาสรับส่วนแบ่งหรือเฉลียวใจว่าเป็นเครื่องมือไอ้พวกเสือหิว เสือโหยเสียแล้ว เพราะส่วนหนึ่งในเนื้อหาเป็นพระแท้จริง แต่อีก 20-30% มันสอดไส้ พระเก๊ เหรียญเก๊ พระมือผี ผียัดกรุ ยุคที่คนรุ่นเก่าเขาเบือนหน้าหนี แจกฟรียังมีเคือง...ไว้เป็นกระบุง!

หนังสือสอดไส้พระเก๊ ตำราห่วย ๆ ยุคใหม่ไร้จรรยาบรรณ ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นตำราใด ๆ นอกจากเครื่องมือพระมือผี มีค่าเหมือนใบปลิวเปื้อนหมึก...พบเจอได้แถว ระยอง,ชัยนาท,นครปฐม ฯลฯ

บางวัด กรรมการรุ่นใหม่เข้มแข็ง มีความรู้พระเครื่องวัตถุมงคลมาก ก็จับโยนออก บางวัดที่สมีผีข้างรั้ววัดยังเป็นกรรมเกิน กรรมกินร่วมกับไอ้ผีกระสือ ก็ปล่อยให้การหลอกลวงด้วยข้อมูลเท็จดำเนินไปไร้ที่สิ้นสุด และจบด้วย พระเก๊บางรุ่นบางพิมพ์ในหนังสือ กลายเป็นพระแท้อย่างน่าเวทนานักเล่นนักสะสม!!!

ตอนต่อไป...เหรียญเก๊ จากแม่พิมพ์แท้ โชว์ได้ ขายดี ผีในพิพิธภัณฑ์!

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

สวัสดีครับพี่วัน ท่านบก.และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
ช่วงนี้เห็นพี่วันแจกพระของครูบากฤษดาผมก็มีเรื่องราวครูบากฤดามาเล่าสู่กันฟัง
ทุกสิ้นปีที่ทำงานจะรวมตัวไปทำบุญ ปีนี้ก็ได้ตั้งผ้าป่าไปทอดที่วัดสันพระเจ้าแดงหรือวัดป่ายาง ไปเจอคุณป้าท่านหนึ่งอายุน่าจะ 70 กว่าแล้วท่านบอกเกษียณมา 10 กว่าปีเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์อยู่ที่จังหวัดเชียงรายผมก็ถามคุณป้าว่าทำไมถึงมาทำบุญไกลจัง คำตอบคือก็ป้าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ผมก็สนใจหูผึ่งด้วยความอยากรู้สิครับแต่ถามไปถามมาป้าก็บอกว่าถูกเมื่อนานเป็นสิบปีมาแล้วเล่าย้อนไปว่าตอนนั้นคุณป้าก็ฝันเห็นครูบา เอาไม้เท้าไปเคาะที่ท้ายรถยนต์ที่บ้านจึงเอาเลขรถไปซื้อส่วนลูกสาวป้าทำงานเป็นพยาบาลอยู่ที่กรุงเทพฯ วันแรกที่มาวัดเพราะลูกสาวกับลูกเขยแกก็ชวนมาทำบุญพอลงจากรถลูกสาวแกก็บอกว่าเดี๋ยวหนูจะพาไปกราบท่าน แต่ป้าแกบอกกับลูกสาวว่ารู้จักท่านแล้ว ลูกสาวก็งงถามว่ารู้จักได้ยังไงเคยมาแล้วเหรอป้าแกก็ตอบว่ารู้จักในฝัน ลูกเขยแกหัวเราะชอบใจใหญ่คงคิดว่าป้าแกแก่แล้วพูดอะไรเรื่อยเปี่อยแต่แล้วป้าก็เดินเข้าไปไหว้ครูบากฤษดาโดยไม่มีใครบอกจนลูกสาวกับลูกเขยแกงงไปชั่วขณะป้าแกเล่าให้ฟังอย่างนี้ จากนั้นป้าก็หาโอกาสมาวัดบ่อยๆครับ.

ในส่วนประสบการณ์ ของผมเนื่องจากว่าวันที่ถวายผ้าป่านั้นต้องใช้เวลานาน ในการ เตรียมการ ไม้ปักต้นผ้าป่าผมอยู่ว่างๆผมมองไปเห็นรูปปั้นของแม่ชีบุญเรือนคงมีคนมาถวายที่วัดท่านผมก็ดีใจเพราะไม่เคยไปกราบรูปท่านที่กรุงเทพฯเลย (จำได้ว่าสมัยพี่วันให้ เสี่ยงทายบูชาพระ มีสมาชิกท่านหนึ่งบอกว่าให้คาถาสีวลีของ คุณแม่บุญเรือนแบ้สตัยสลากได้บ่อยมาก ) พอเห็นผมก็เข้าไปกราบและอธิษฐานไป 2-3 ข้อ แล้วก็ถ่ายรูปปรากฏว่ารูปออกมาเหมือนแม่ชีท่านชำเลีองมามองเหมือนมีชีวิต ไม่รู้ท่านจะว่ายังไงอาจจะบอกว่า ไอ้หมอนี่มันขอเยอะมากไปไหมฮ่าๆ ผมดูรูปในมือถือ ก็เลยไปถ่ายภาพตรงหน้าก็เห็นว่ารูปท่านวางเฉียงนิดๆ แต่ใบหน้าไม่ได้ชำเลืองมองมากมาย เหมือนกับตอนถ่ายครั้งแรกก็นั่นแหละเป็นไปได้ว่ากล้องมือถืออาจจะหน่วงภาพเลยออกมาเป็นแบบนี้

มีเรื่องเล่า เกี่ยวกับการทำบุญ อีกเรื่องหนึ่งผมรู้จักพี่ที่รู้จักท่านหนึ่งมาร่วมทำบุญกฐิน ที่วัดแถวอำเภอดอกยสะเก็ด พี่คนนี้แกก็นั่งสมาธิมาหลายสิบปี และมีความรู้ด้านทำนายทายทักพอตัว สิ่งพิเศษที่พี่เขาได้คือมีซิกเซนต์สัมผัสผีและจิตวิญญาณต่างๆได้ วัดที่ผมเข้าไปนี้ มี ท่อนไม้ตะเคียนใหญ่อยู่ 3 ท่อน ตรงท้ายต้นตะเคียนก็จะมีเต็นท์เก่าๆอยู่หลังหนึ่งซึ่งขาดไปตามกาลเวลาพร้อมดอกไม้ธูปเทียน พอไหว้สักพัก พี่เขาก็พูดถึงน้องที่ชวนไปงานกฐินว่าถ้าสร้างเป็นศาลาเล็กๆ ครอบท่อนไม้ตะเคียนตรงท้ายนี้จะเสียเงินสักเท่าไหร่ 30,000 ได้ไหมพี่เขาก็ บอกว่า แม่ตะเคียน เขาขอเขารอมานานแล้วเขาบอกว่า ของเก่าผุพัง พี่เขาเลยฝากเงินไว้ 10,000 บาท พอออกจากวัดเท่านั้น ก็มีนกตัวเล็กๆ บินมาเกาะที่กระจกรถอยู่ร่วม 5 นาทีผมเปิดกระจกก็ไม่กลัวผิดธรรมชาตินกจนพี่เขาบอกว่ารู้แล้วเดี๋ยวจะทำให้ไปเถอะผมตัดคลิปสั้นๆมาด้วย และเป็นเรื่องแปลกอย่างนึง คืองวด 1พ.ย.63 พี่เขาก็ถูกหวย 50, 000 คนละครึ่งกับเพื่อนคือแกก็ฝากผมซื้อนั่นแหละแต่ผมก็ไม่ได้ซื้อตามแกนะเพราะ เวลาคิดเรามักจะมั่นใจตัวเองพี่เขาก็ถามผมๆว่ามีเลขอะไรคิดครั้งแรกผมบอกว่าน่าจะมี 4 หรือ 6 และอาจมีเลขเบิ้ล(ผมซื้อล็อตเตอรี่เลขเบิ้ล 4ไว้ 2 ใบหวยออกมา506404 จึงขยำทิ้งไป) ต่อมาอีกหลายวันผมคิดใหม่ได้เป็น 6 - 7 มานั่งวิเคราะห์ดูสาเหตุจากอะไรก็อาจจะแบบที่พี่วันว่าไว้ว่านอกจากครูบาอาจารย์ที่ท่านไม่มีความโลภแล้ว จึงจะสามารถเห็น รู้ความรู้พิเศษตรงนี้ได้ส่วนตัวผมสังเกตุหลายทีแล้วครับถ้ามีความวุ่นวายใจก็มักจะคิดเลขผิดช่วงหลังๆ ขาดการนั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฟุ้งซ่านมากไป

ในบรรดาเรื่องของหมอดูมีเรื่องที่นาสนใจเกี่ยวกับลายมือหรือหัตถ์ศาสตร์ ซึ่งครั้งหนึ่งท่านเจ้าคุณนรฯ เคยใช้วิชานี้ดูลายมือของพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าคุณ 2ท่าน เพื่อเลือกพระอุปัชฌาย์ก่อนบวชถวายร.6แล้วไม่สึกเลยตลอดชีวิตจนคนเรียกขานนามท่านว่า"พระอรหันต์กลางกรุง" ด้วยเหตุที่ท่านอยู่แต่ในวัด ไม่ยอมออกไปไหน ท่านบอกว่าลายมือพระอุปัชฌาย์เป็นผู้มีกิเลสน้อย ส่วนผมดูลายมือเอง จากของตำราของไคโรชาวฝรั่งเศส และตำราอื่นๆ อย่างการดูโชคใหญ่ดูที่เนินอาทิตย์หรือหากดูลาภลอยดูที่เส้นข้อมือเส้นนี้ขึ้นมา2-3วันก็จะหายไป ตามตำราจีนผมได้จากรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งคุณพ่อเขาเรียนจากคุณปู่อีกทีหนึ่ง พี่เขาเล่าว่าพ่อเขาดูลายมือไปเจอคนดวงถึงฆาตแล้วช่วยไม่ได้ญาติพี่น้องเขาพากันมาด่าจึงเลิกดูไป ส่วนผมก็เลิกดูไปแล้วเพราะไม่เก็บเงินใครสักทีสังเกตดูแล้วชีวิตติดขัดอยู่ช่วงหนึ่ง ช่วงร้อนวิชาเจอใครจับมือดูหมดจนพี่คนหนึ่งเขาขอให้ไปตั้งโต๊ะดูในวัด แต่การดูดวงแบบไหนล้วนเกี่ยวข้องกับเจ้ากรรมนายเวรทั้งสิ้นไม่ว่าจะ ฮวงจุ้ย ดูดวง ดูลายมือ ดูตัวเลข เบอร์มือถือ ยิ่งถ้าเราไปบอกวิธีแก้ไขและป้องกันให้เขาแล้วเขาทวงหนี้ไม่ได้ เขาก็จะมาทวงกับผู้บอก ผมเคยเจอคนหนึ่ง คนนี้ไม่น่ามีครูบาอาจารย์ ทำแบบนี้อยู่ 2ปีต่อมากลายเป็นคนไม่มีเรี่ยวแรงป่วยต้องนั่งรถเข็นเหมือนโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงพวกนี้ อีกรายแก้ฮวงจุ้ย 2รอบเกิดอุบัติเหตุรถยนต์และล้มในห้องน้ำขยับไม่ได้ไปสิบนาทีเข็ดหลาบของพวกนี้จึงต้องมีครูบาอาจารย์ป้องกันเจ้ากรรมนายเวรของชาวบ้านและต้องบูชาครูไหว้ครู แต่ก็มีเหมือนกันนะครับ ที่ศึกษาเอง แล้วไม่เป็นไรคือต้องเป็นคนมีบุญมากๆหรือทำบุญมากๆ สังเกตดูหมอดูแม่นๆทุกคนจะทำบุญมาก ซึ่งที่เล่ามานี้เป็นความเชื่อก็จะต้อง ใช้วิจารณญาณ ในการอ่านเพราะว่าประสบการณ์ แต่ละคนไม่เหมือนกัน วันนี้ลากยาวคราวหน้าว่าจะเล่าเรื่องพระแท้ต่างวัดพุทธคุณเป็นอย่างไรอันนี้ก็ประสบการณ์ส่วนตัวเช่นกันครับ

 

วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑ ปีชวด
ฝากพี่สาวใส่บาตร ๔ รูปในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

น้องปรายฯทักเย็นวันวาน
ตอบให้ใกล้มื้อเที่ยงวันศุกร์

 

ท่านอัครฯห่างทักไปนาน ได้แต่กดไลค์ให้เลิฟ กะจะให้กระทู้นี้ถึงล้านไลค์เป็นประวัติศาสตร์ของเว็ปนี้ ว่า"ล้านแล้วจ้า" ใครนะว่า "พลังจิต" เป็นเว็ปเล็กๆ ที่แท้ เล็กพริกขี้หนู เผ็ดจี้ดจ้าดเหนือกว่าเว็ปอื่นๆอีกเป็นหมื่น-แสนเว็ปในตลาด-ฮ่า

ได้อ่านเรื่องเล่าบารมีโชคลาภ ครูบากฤษดา สมแล้วที่ถนนทุกสายเมืองเหนือมุ่งหน้าเข้าหาวัดพระสันเจ้าแดง มากระดับติดอันดับท็อป ไฟว์ เป็นครูบายุคใหม่ที่มากบารมีท่านหนึ่งทีเดียว ไม่เสียแรงทีผมคัดสรรวัตถุมงคลท่านมาให้เป็นของขวัญ

เรื่องดวงผสมดาว คละเคล้า เลขตามดวง ควงด้วยหวยตามดาวที่เล่ามาก็เพลิดเพลินในการอ่าน เสริมข้อคิดกับเคล็ดไม่ลับสอนใจคนที่อยากเอาดีด้านนี้บ้างไม่มากก็น้อย สิ่งแรกก็คือ...

ต้องมีครู อย่าซี้ซั้ว ของบางอย่างครูแรง ทำไม่ดีของเข้าตัว!!!

ข้อคิดอื่นๆท่านอัครฯก็ว่าไว้แจ่มเแล้ว ก็ไม่เติมอะไร นอกจากอยากบอกว่า เขียนมาบ่อยๆได้เสมอ โดยเฉพาะวันใกล้วาระลุ้นแห่งชาติ ดวงดาวเดินดี เลขดีชัดแจ๋วเจ๋งเป้ง รีบทักมาได้ทันที แฟนานุแฟน รอเอาไปแทง...เอ้ย อ่านกันเพียบ-ฮ่า

 

อยู่ช่วงเพล รีบวันทาอนุโมทนาบุญใส่บาตรวันศุกร์ แสนสุขี สุขแสนดีไม่มีคำว่าทุกข์กล้ำกรายสำหรับแฟนๆทุกท่าน-สาธุ

 

อีกหนึ่งทัก ศุกร์ตรงวัน
หรรษาตรงตัวน้องปรายฯ

 

ภาพงามดังปลายพู่กันจิตรกร
ขึ้นกวีเล่นคำผันอักษรน้องมากิ...

ศุกร์หรรษา.....กัลปพฤกษ์
ประกายพรึก...พฤกษ์พรรณราย
เส้นสายธาร....ผสานร่าย
ธรรพ์หมู่ไม้.....สวยใสสุด!

 

รวมพล-ยอดคน ปี2500
ในพิธี"25พุทธศตวรรษ"
================
"หลวงพ่อทบ วัดชนแดน"
เหรียญวัดเทพสโมสรปี15
----------------------------------

หนึ่งเดียวจากเมืองมะขามหวาน เพชรบูรณ์ ที่เป็นตัวแทนเข้าสู่มหาพิธียิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ 2500

หลวงพ่อทบ วัดชนแดน...นามนี้ไม่ต้องบรรยายบอกเล่าเก้าสิบ หยิบวัตถุมงคลใดที่ผ่านการเสก อธิษฐานจิตจากมือท่าน ถ้าเอา"พุทธคุณ" ก็ล้ำเลิศบรรเจิดสุด!

ถ้าเป็น พุทธพาณิชย์ ก็หาของถูกไม่มีในท้องตลาด จึงสมควรยิ่งที่อัญเชิญ หลวงพ่อ เป็นศิริมงคลรายการเริ่มแรกประเดิมชัยกับเทศกาล ยอดอริย 2500

เชิญพบ เหรียญกลมเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ออกงานกฐิน วัดเทพสโมสร เพชรบูรณ์ ปี 15 เหรียญที่ยังอยู่ในถุงก็อปแก็ปโบราณไม่บานบุรี ไม่เคยแกะออก ส่องผ่านถุงคร่ำคร่า น้ำทองกาไกล่ยุคเก่ายังอาบตามซอกเป็นประกายงามจับตา

พระชุดนี้มีสร้างไว้ 3 พิมพ์คือ...เหรียญไข่ใหญ่หลวงพ่อนั่งเต็มองค์..เหรียญทรงพุ่มเสมาครึ่งองค์...และเหรียญกลมหลวงพ่อครึ่งองค์ ส้นนิษฐานว่าน่าจะแจกผู้หญิง แต่ขนาดก็เหมาะทุกเพศวัย

ปริมาณการสร้าง ไม่ต้องถามในยุคเกือบ 50 ปีที่ผ่าน วัดบ้านนอก ไกลปืนเที่ยง สร้างกันพอแจกและทำบุญตามศรัทธาพุทธศาสนิก ของจริงอยู่ที่ตัว หลวงพ่อทบ ผู้เมตตามานั่งหนักปลุกเสกมอบวัตถุมงคลกับมือให้ชาวบ้าน

ชุดนี้จึงจัดเป็นชุดหายากที่พูดเต็มปากไม่ต้องกระดาก ยิ่งสวยแชมป์ขนาดนี้ อย่าไปหาให้โดนทุบถอง เชิญร่วมบุญราคาบุญจริงๆ...

======== 3,000 =======

ไม่แกะถุงโบราณออก ถ่ายผ่านถุงเก่าก็ยังพอชัดเจน เชิญผู้ครอบครองตามวาระบุญจัดสรรเอาไปแกะเอง

ด้านหลังและเทียบขนาดเหรียญ ราคานี้อย่าไปหาวัตถุมงคลหลวงพ่อที่ทันท่านเสก

 

รวมพล-ยอดคน ปี2500
ในพิธี "25พุทธศตวรรษ"
=================
"พระวรเวทคุณาจารย์"
ลพ.เมี้ยน-ล็อคเก็ตปี05
~~~~~~~~~~~~~

สมดั่งประโยค..."ขุนเขา เงาคน แมกไม้ ล้วนมีฉายา" สำหรับผู้ยิ่งใหญ่ในคุณแต่ละด้านที่สมควรได้รับการยกย่อง...

หลวงพ่อเมี้ยน ปภัสสโร แห่ง วัดพระเชตุพน หรือ วัดโพธิ์ท่าเตียน ก็ได้รับฉายาว่า..."พระวรเวทคุณาจารย์" แปลง่ายๆตรงตัวกับความเป็นยอดฝีมือเห็นภาพชัดของท่าน คือ ยอดอาจารย์ผู้ทรงคุณเวทย์ ประโยคเดียวก็ไม่ต้องเสียเวลาให้ความหมายอื่น

หลวงพ่อเมี้ยน เคยเข้าถวายการรักษา " สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี "(พระพันปีหลวง) และเคยทำการรักษา มล.บัว กิติยากร การรดน้ำมนต์ของหลวงพ่อเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เช่น สามารถรักษาโรคได้ตามที่ปรากฏจนมีประชาชนมากมายพากันมาให้ หลวงพ่อเมี้ยนรดน้ำมนต์รักษาโรคกระดูกหัก กระดูกแตก เส้นเอ็นเคล็ด วันละประมาณ200-300คนหลายคนกล่าวขานกันว่า มีเรื่องเดือดร้อนอะไร เช่นตกงาน ทำมาหากินไม่พอกับรายได้ให้ไปหาหลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์ฯ จะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคน

หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์ มีกุศโลบายรักษาโรค กล่าวคือขณะที่ทำการรักษาโรค ก็ให้ผู้ป่วยปฏิบัติธรรม คือปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานควบคู่กันไปด้วย สำหรับประชาชนที่พื้นความรู้น้อย ก็แนะนำให้ปฏิบัตตามหลักเบญจศีลหรือที่เรียกกันว่า " กัลยาณธรรม ๕ ประการ" การรักษาของท่านจึงได้ผลสมบูรณ์เต็มที่

ท่านเกิดเมื่อ วันที่ 15 พฤษภาคม 2445 ตรงกับ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล อ.บางบาล อยุธยา บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 13 ในความดูแลของสมเด็จพระพุฒาจารย์(เข้ม ธัมมสโร) วัดพระเชตุพนฯ อุปสมบทก็อยู่ที่วัดโพธิ์ฯ ศึกษาเล่าเรียนทุกด้านจนแตกฉานแบบมีทั้งพรสวรรค์+พรแสวง ได้เรียนวิชาการต่อกระดูกรักษาคนจาก พระอาจารย์ตึ๋ง ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ จึงตัดสินใจเปิดการรักษาเพื่อช่วยเหลือผู้คนสัตว์โลกผู้ทุกข์ยาก

ทั้งยังเป็นอาจารย์ของ หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา อยุธยา เสมือนหนึ่งฟ้าสั่งให้ส่งวิชาจากรุ่นสู่รุ่น สู่ศิษย์นามเดียวกัน พื้นเพบ้านเดียวกันในท่วงทำนองทั้งชื่อทั้งวัดที่เหมือนและคล้ายคลึงอย่างไม่น่าเป็นไปได้!!!

ท่านดำเนินการรักษาโรค ตามหลักพระพุทธศาสนา ตามอรรถกากังขาวิตรณี ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า...

"พระภิกษุรักษาโรค โดยมิได้มุ่งถึงลาภสักการะ มีเจตนาอยู่ว่าเรารักษาโรคให้เขาหายพ้นจากทุกขเวทนาเบียดเบียนตัวพวกเขาเหล่านั้นรู้จักคุณของพระพุทธศาสนา แล้วจักได้ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองถาวรสืบไป ไม่จัดเป็นเวรกรรม (หมอ)ไม่ผิดพระวินัยบัญญัติอาศัย"!

หลวงพ่อเมี้ยน ปภัสสโร มรณภาพ 8 เมษายน 2540 ในสมณศักดิ์ พระมงคลทิพยมุณี เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาคันธุระสิริอายุ 95 พรรษา 75

สำหรับพระครูสัญญาบัตร พระครูวรเวทคุณาจารย์ ท่านได้รับเมื่อ 5 ธันวาคม 2497 ก่อนเข้าร่วมพิธี25 พุทธศตวรรษในปี 2500 ท่านเป็นยอดอาคมขลังที่ร่วมพิธีใหญ่ๆในวงการสงฆ์ทุกพิธีนับไม่ถ้วน

(((ข้อมูลทั้งหมดคัดลอกจาก ทำเนียบพระราชาคณะ พระสังฆาธิการ นำดัดแปลงเพิ่มเติมเนื้อหาตามความเหมาะสมและแท้จริง)))

ขอนำล็อคเก็ตจากญี่ปุ่นที่ลูกศิษย์สั่งทำให้ท่าน ในปี 05 หลังพิธี 25 พุทธศตวรรษเพียง 5 ปี หรือเกือบ60 ปีที่แล้ว ในนามพระวรเวทคุณาจารย์ เป็นการฉลองสมณศักดิ์ รุ่นแรก ล็อคเก็ตกรอบทองที่รักษาเอาไว้ยอดเยี่ยม ไม่มีผิวพรรณหมองศรีิเป็นสุดยอดดีที่สามารถนำอาราธนารักษาโรคภัยและขอบารมีหลวงพ่อเมี้ยนปัดเป่าบรรเทาทุกข์ภัยได้ทุกเมื่อ ทั้งใช้ทำน้ำมนต์ ทำน้ำมันประสานกระดูกแก้เคล็ดขัดยอกเล็กน้อยก็ยังไหว

======= 1,500 =======

(รูปโพสท์ถัดไป-เขียนมากเครื่องเก่าแก่รวน)