กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

น่าไปจริงๆท่าน 9

 

ท่าน9 ถ้าฝันว่าตะขาบกับงูเข้าบ้าน ดีไหมครับ

 

เธอมาแบบ full ver ล่ะ ถูกล่ามโซ่ไว้บนเรือนไทย เนื้อตัวเต็มไปด้วรอยแผล เธอคลานร้องไห้เอามือมากุมมือผม ครับ ตื่นขึ้นมาเศร้าน้ำตาผมพรากโดยไร้สาเหตุเลยครับ ประหลาดดีแท้

 

พรุ่งนี้หวยออกอะไร

 

หากเชื่ิอเรื่องบุญ ก็ทำบุญไปให้เขาหน่อยก็ดีครับ

 

Tips&Tricks
หน้า 266 ลำดับที่ #5311

 

Tips & Tricks
หน้า 266 ลำดับที่ 5312

nopphakan said:
เวลาสวดมนต์ อย่าพึ่งไปสนใจหรือเน้นวรรคตอน
สำคัญคือ ระบบการหายใจของเรา ว่าเรารุลึกรู้ลมเข้าและออกหยุดที่ปลายจมูกไหมพอ

พูดง่ายๆสวดไปเรื่อยๆ แต่ให้ลมหายใจเป็นอย่างที่บอก
ถ้าไปสวดแบบเดิม เราจะเผลอกลั้นหายใจ
และลมหายใจเข้าจะหยุดที่หน้าอก มันจะเป็น
อาการแบบที่เราเป็นนั้นหละ พอเข้าใจเนาะ

 

"ดีครับ"
แต่จะวุ่นๆหน่อย

ตามที่ได้ยินมา...
เค้าว่ากันว่า...
ตะขาบกับงูเป็นตระกูลคล้ายคลึงพญานาค
ถ้าพญานาคเข้ามาบ้านจะเป็นสิริมงคล

"ฟังมาเล่าต่อ"

 

ถูกดูดเพราะสมาธิสะสมไม่พอ และเข้าใกล้ภาพเกินไป เรื่องปกติ

ย้อนอ่านดูนะ ไม่เคยสอนให้พยายามรักษาภาพ
ให้นานเลยนะ
มีแต่บอกให้เข้าๆออกๆ มันถึงจะได้สมาธิสะสม

การพยายามรักษาภาพ จิตจะไปจมแช่ในสมาธิระดับนั้น เป็นเหตุให้จิตพิการ ไม่มีใครเข้าทำกันหรอกทางปฎิบัติ

ยกเว้นเพื่อเป็นพุทธานุสติ ที่ต้องระลึกภาพเพื่อให้ใจ
อยู่ในกะแสพระระหว่างวัน ทำได้อยู่ แต่จิตจะส่งออกไปอยู่กับภาพอย่างเดียว จะได้แต่สมาธิสะสมภายนอก พอใช้ชีวิตประจำวันก็หมดแล้ว การปฎิบัติจะไปได้เร็วมันต้อง อาศัยทั้งภายใน แบะภายนอก (เจริญสติระหว่างวันให้ต่อเนื่อง) กับสมาธิแบบทางการ
ที่ไม่ไปจมแช่ในระดับใดๆ

ภาพนะ แค่กลับมาระลึกลมหายใจเข้าออกที่ปลายจมูกสามสี่ครั้งภาพก็ปรากฏต่ำแหน่งเดิมแล้ว ไม่ใช่ไปพยายามสร้างภาพขึ้นมา จะเผลอใช้ตาปกติไปมองทันที
มันจะกลายเป็นใช้ความคิดไปสร้างภาพ
พอพยายามมากจะเป็นพยายามซ้อนพยายามผลสุดท้ายคือหวุดหงิด เครเนาะ

 

(วันนี้วันเสาร์)

"พบส่วนอื่นอีกแล้ว"

***************************************


ฮือฮาอีก พบส่วนหัวของหินพญานาคไม่ไกลจากถ้ำนาคา เหมือนป่าบดบัง
16 ก.ค. 63 (14:00 น.)ความคิดเห็น 1

Add @Sanook.com


สนับสนุนเนื้อหา

จากกรณีการพบถ้ำนาคา ที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ ภายในถ้ำพบหินที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับลำตัวของพญานาคอย่างมาก โดยมีการนำไปเปรียบเทียบกับหินที่มีลักษณะเหมือนหัวพญานาคที่ สปป.ลาว นั้น

ล่าสุด (16 ก.ค.) โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพว่าพบส่วนหัวของพญานาคแล้ว โดยอยู่ไม่ไกลจากถ้ำนาคามากนัก ซึ่งสาเหตุที่เพิ่งค้นพบเนื่องจากมีป่าบดบัง

โดยเพจ Buengkan day ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า "ความลึกลับถ้ำนาคา ส่วนหัว ส่วนท้อง และป่าบดบัง วันนี้มีโอกาสได้ไปถ้ำนาคาอีกครั้ง กับทีม ททท.สำนักงานอุดร มีความสุขมากๆครับที่ทางอุทยานฯ ภูลังกา เลือกภาพของผมใช้ประกอบภาพหัวข้อเกล็ดนาคา ขยายและเขียนเรื่องราวตรงบันไดทางขึ้น

ส่วนภาพชุดนี้ ชุดที่เพิ่งอัพนี้ เป็นชุดที่ถ่ายใหม่ 3 ภาพ และภาพเก่า 1 ภาพ คือภาพที่ทางอุทยานฯ เลือกใช้ประกอบหัวข้อเกล็ดนาคา ภาพชุดใหม่มีความลึกลับ ในส่วนหัว และส่วนท้อง เป็นเกล็ดชิ้นใหญ่กว่าในจุดอื่นๆ รวมทั้งรูปทรงของต้นไม้และบรรยากาศ ที่ทำให้เราคิดว่าอยู่เมืองบังบด หรือเมืองลับแล สักแห่งบนโลกคู่ขนาน"



อัลบั้มภาพ 7 ภาพ
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ ฮือฮาอีก พบส่วนหัวของหินพญานาคไม่ไกลจากถ้ำนาคา เหมือนป่าบดบัง







ขอขอบคุณ

ข้อมูล :เฟซบุ๊ก Buengkan day

ขอขอบคุณ
https://www.sanook.com/news

 

"ไม่ใช่ไปพยายามสร้างภาพขึ้นมา
จะเผลอใช้ตาปกติไปมองทันที
มันจะกลายเป็นใช้ความคิดไปสร้างภาพ
พอพยายามมากจะเป็นพยายามซ้อนพยายาม
ผลสุดท้ายคือหงุดหงิด"
(อาจารย์นพ)



เคยได้ยินบ่อยๆว่าบางคนชอบคิดมาก
คิดเรื่องไร้สาระ
คิดโน่นคิดนี่เรื่อยเปื่อยไปวันๆ
บั่นทอนสุขภาพกายและใจ
ผมคิดว่าประโยคที่อาจารย์นพกล่าวข้างบน
"พอจะช่วยบรรเทาคนช่างคิด...ลดน้อยลงได้"

 

55555 อาจารย์เก้า เก่งมากๆเลยครับ จำแม่นมากๆ เพราะผมไม่ได้เข้ากระทู้นี้ จะเป็นชาติแล้วมั๊งครับ ใช่แล้วครับ ผมถ่ายเองและเอารูปหลวงปู่ทวดมาลงเองครับ แต่วันนี้ ไม่รู้นึกยังไง นึกอยากแวะเข้ามาดู และยังล็อคอินอีกด้วยครับ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกเน๊าะครับ 55555

แม้ไม่ได้เข้ามานาน แต่ก็ยังระลึกนึกถึงอาจารย์นพ อาจารย์เก้า และน้องๆสองสาว ที่เคยสนทนากันอยู่นะครับ

 

(วันนี้วันเสาร์)

"จำแม่นมากๆ เพราะผมไม่ได้เข้ากระทู้นี้ จะเป็นชาติแล้วมั๊งครับ ใช่แล้วครับ ผมถ่ายเองและเอารูปหลวงปู่ทวดมาลงเองครับ แต่วันนี้ ไม่รู้นึกยังไง นึกอยากแวะเข้ามาดู และยังล็อคอินอีกด้วยครับ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกเน๊าะครับ 55555
(คุณหนุ่ม)

555...ความบังเอิญไม่มีในโลก
"จริงแท้"ตามแนวพุทธที่กล่าวขานสืบทอดมานานนับพันๆปี

*หนุ่ม*เข้ามาครั้งนี้ด้วยมีเหตุดลจิตให้ต้องเข้ามา
นี่คือความศักดิ์สิทธิ์และความมหัศจรรย์ในสิ่งที่เรามองไม่เห็น
...แต่สัมผัสและรับรู้ได้ในหลายๆคน

 

"ความบังเอิญไม่มีในโลก"

เช้านี้ผมก็มีเรื่องบังเอิญมาเล่าขานให้ฟัง
เป็นความบังเอิญที่"สดๆร้อนๆ"
เมื่อกี้นี่เองช่วงคลิ๊กกระทู้เปิดหน้าวิทย์-จิตเข้ามา
บังเอิญเห็นกระทู้แรก(จ่อตา)
พูดถึงพระโพธิสัตว์กวนอิมในเช้าวันนี้
(ผมเลยแวะเข้าไปอ่านก่อน)
กระทู้"พระโพธิสัตว์กวนอิมและลป.หงษ์"

**บังเอิญอย่างใด**
อย่างไงถึงบอกว่า"บังเอิญ"
เพราะผมตั้งใจไว้ว่า...
"เช้านี้จะคุย+ภาพ"
เรื่องปางหนึ่งของพระโพธิสัตว์กวนอิม"
เพราะเมื่อคืนผมเพิ่งกลับมาจาก...
"หุบเขาโพธิสัตว์"ที่เขื่อนแก่งกระจาน เพชรบุรี

(เด๋วมาต่อ)

 

(ขอแก้ไข 2 เรื่อง)
1.(เด๋วมาต่อ)ควรจะหมายถึงเดียวเดี๋ยว
แต่ขอเปลี่ยนเป็นเย็นนี้ไม่เกิน18.00น.
เพราะต้องเซฟรูปจากมือถือเข้าPCคอม
และย่อรูปให้ขนาดเล็กลง(น่าจะดีกว่า)
และยังมีวัดข่อย เพชรบุรีที่น่าสนใจมาลงต่ออีกวัน
และมีธุระที่ค้างไว้หลายวัน

2.(ตามที่เขียนไว้ข้างบน)
"เมื่อกี้นี่เองช่วงคลิ๊กกระทู้เปิดหน้าวิทย์-จิตเข้ามา
บังเอิญเห็นกระทู้แรก(จ่อตา)
พูดถึงพระโพธิสัตว์กวนอิมในเช้าวันนี้"

ที่ถูกต้องคือ "พอคลิ๊กเวปพลังจิตเข้ามา
เห็นกระทู้แรก(จ่อตา)
พูดถึงพระโพธิสัตว์กวนอิมและลป.หงษ์"
ซึ่งอยู่ในหมวด"พุทธภูมิ-พระโพธิสัตว์"
ไม่ใช่หมวด"วิทย์-ลึกลับ"

(ตามภาพ)







(ไว้เย็นนี้มาคุย"หุบเขาโพธิสัตว์")

 

ก่อนที่จะคุยเรื่อง"หุบเขาโพธิสัตว์"
ที่เขื่อนแก่งกระจาน เพชรบุรี

เมื่อกี้ผมเพิ่งได้รับข้อมูลยืนยันว่า......
"องค์พระที่หุบเขาโพธิสัตว์
มิใช่ปางหนึ่งของพระโพธิสัตว์กวนอิม"
แต่เป็นองค์พระอารยตารามหาโพธิสัตว์
ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของชาวธิเบตและชาวมองโก


ผมจึงขอชี้แจงตามที่ทราบมาเบื้องต้น
ส่วนรายละเอียดอื่นๆอีกมากมาย
คงต้องรอท่านที่รู้ลึกเข้ามาถ่ายทอดให้ฟัง


(โอเค...เข้าเรื่องหุบเขาโพธิสัตว์)
"ขอได้ดั่งใจ หรือเป็นความบังเอิญ"

...เมื่อวานประมาณบ่ายโมง
ผมขับรถจากหัวหินเลี้ยวเข้าตลาดท่ายาง
จุดหมายปลายทางอยู่ที่หุบเขาโพธิสัตว์
ท่ายางห่างจากหุบเขาโพธิสัตว์ประมาณ25กม.
(ขับไปอีก5-6กม.จะถึงเขื่อนแก่งกระจาน)
ตลอดเส้นทางอากาศร้อนจัดแดดเปรี้ยง
พอถึงเขื่อนเพชร(อีก15กม.จะถึงหุบเขา)
ผมจึงตั้งจิตภาวนาขอองค์พระแม่ที่หุบเขาโพธิสัตว์
(ตอนนั่นเข้าใจว่าเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม)
โปรดดลบันดาลให้แดดร่ม ณ บริเวณหุบเขาเถิด
...พอถึงปากทางหุบเขา จึงจอดรถชิดขอบทาง
เพราะไม่อนุญาตให้ขับรถเข้าไป
จะมีแม่ชีทำการตรวจโควิตตามสธ.
และจดบันทึกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรตามระเบียบ
ท่านแม่ชีแจงว่าจะเป็นคนแนะนำทาง
...ไปกราบไหว้พระองค์ดำก่อนและจุดอื่นๆ
ผมจึงขอยืมร่มสักคัน
เพราะก่อนถึงหุบ3-5นาทีแดดยังร้อนเปรี้ยง
จึงไม่ได้สังเกตว่าขณะที่ขับรถเข้ามาแดดร่มลงแล้ว
พอรู้...จึงถามท่านแม่ชีว่า...
"ก่อนหน้านี้5นาทีหรือวันนี้แดดร้อนใช่ไหมครับ"
ท่านแม่ชีตอบว่า "ใช่...แดดร้อนจัด"
ผมเลยเปรยออกมาว่า...
"เออ...ขอแล้ว...ท่านให้จริงๆ"

ระหว่างทางที่เดินขึ้นเนินไปกราบไหว้องค์ดำ
ผมก็ยังคงหนีบร่มไว้ใต้แขนเพราะไม่มั่นใจ
พอไหว้และขอพรองค์ดำเสร็จ
ระหว่างทางเดินอ้อมเนินไปอีกฝั่ง
พบเจอแม่ชีกำลังรดน้ำต้นไม้
ผมจึงใช้คำถามเดิมๆที่ถามแม่ชีคนแรก
ท่านตอบเหมือนกันว่า...
"ใช่...ก่อนหน้านั่นแดดร้อนจริงๆ"

สรุปคือผมขอยืมร่มไปเป็นชั่วโมง
...แต่ไม่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์เลย
แล้วจะบอกว่าเป็นความบังเอิญที่แดดร่มพอดีเหรอ??
...ส่วนตัวผมเชื่อว่าเกิดจากพระอารยตาราโพธิสัตว์
...หรือเป็นพระโพธิสัตว์กวมอิมที่ผมเข้าใจในตอนแรก
...หรือเบื้องลึกอาจเป็นพระโพธิสัตว์องค์เดียวกัน??

 

"ธรรมะสวัสดี"...สบายดีวันใหม่
(ขอเล่าเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยต่อจากเมื่อวาน)

พอจอดรถเสร็จเดินย้อนไปที่จุดตรวจ
จะได้ยินเสียงใสๆทักทายจากแม่ชี
"ธรรมะสวัสดี"
(เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหน)

แต่เมื่อวานได้ยินด้วยหูตัวเอง
ฟังแล้ว...ชอบ
ประมาณว่า...*นุ่มลึก...ฝังจิตตรึงใจ*

วันนี้เลยขอนำมาใช้ทักทาย
แต่เพิ่งสร้อยเข้าไปตามสถานะ

--------------------------------------

ผมผ่านเพชรบุรีบ่อยและแวะเที่ยวตามโอกาส
แต่ไม่เคยรู้จัก"วัดข่อย*เลย
ไปแต่ที่ซ้ำๆจำเจ "เขาวัง" ชมวิว-ดูลิง
แม้แต่งานประจำปียังดิ้นรนไปเที่ยวให้ได้
ไปเบียดเสียดผู้คนแน่นเอี๊ยดเหมือนฝูงมดแดง
เออ...แต่กลับไม่รู้จัก"วัดข่อย"





"วัดข่อย"
*พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฎิ*
มีพุทธศิลป์อันงดงาม
เป็นศิลปะชั้นสูงของช่างเมืองเพชร
ภายในจะมีพระประธาน 3 องค์ คือ

พระพุทธมิ่งมงคล ทางด้านซ้าย
พระพุทธเศรษฐีนวโกฏิ ตรงกลาง
พระสิวลีมหาลาภร่มเย็น ทางด้านขวา



..."ต้นไม้ยักษ์"เคียงคู่สูงชะลูดเสียดฟ้า
เหมือนเป็นบันไดทอดยาวสู่สรวงสวรรค์
เตือนจิตเตือนใจให้หมั่นทำความดี
เป็นองค์ประกอบที่น่าทึ่งและงดงาม
(55..ผมคิดเอง..เออเอง..)
ตามฉบับคนมีศิลป์
555...ศิลป์..อ่านและเขียนคล้ายๆศีล



แม้เป็นวัดที่มีพื้นที่ไม่กว้างใหญ่มาก
แต่ตาแรกที่เห็น...
เหมือนต้องมนต์สะกด
ถึงกับรำพึงในใจว่า...
"เป็นบุญที่ได้มาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี้"

...พอย่างก้าวเข้าไปในวิหาร
เกิดความรู้สึก"ว๊าว...แปลกและเข้มขลัง"
เมื่อมองไปรอบๆผนัง...จะเห็นยันต์ติดไว้4ทิศ




เข้มขลังอย่างไง...อธิบายไม่ถูก
...ถ้าอาจารย์นพได้มาปักหมุดที่วัดนี้
...คงมีอะไรสนุกๆมาเล่าสู่กันฟัง

(ดูรูปถ่ายบางรูป...อาจค้นหาคำตอบได้บ้าง)





(หรือนี่อาจเป็นหลุมขาวในระบบจักรวาล)

ปล....อย่าลืมปักหมุดทริปหน้า นะครับ

 

งานศิลป์ แบบถูไถๆ

 

เชียงใหม่ตอนนี้กำลังหนาวเลยจ้า...หนาว Covid