พระปิดตายุคต้นหลวงพ่อบุญชูวัดหัวว่าว จังหวัดสิงห์บุรี

พระปิดตายุคต้น ปั้นมือสร้างก่อนรุ่นละความโลภ เนื้อหาจัดจ้านมวลสารเพียบอายุไม่ต่ำกว่า 50ปี สุดยอดพระผงประทับจิตที่สำเร็จขึ้นด้วยวิชาทางไสยศาสตร์ว่าด้วยการทำผงตามคำภีร์อิฐิเจแลกรรมฐานนิพพานสูตร ร้องเรียกภูตพรายปราบกำราบผี. มวลสารรุ่นนี้จะเยอะกว่ารุ่นแรกมากส่องจะเห็นมวลสารชัดเจนมาก ซึ่งจัดเป็นพระผงมหาเสน่ห์และบันดาลโชคลาภอีกหนึ่งสำนักที่น่าจับตามองมากครัผงอิทธิเจ(พิศดาร)ตำรับหลวงพ่อฉายวัดหัวว่าวที่สืบทอดมาถึงหลวงพ่อบุญชูนี้สร้างยากมาก มวลสารที่จะนำมาสร้างก็หายาก เช่นกระดูกผีคนตายวันเสาร์เผาวันอังคาร 7 แห่ง จึงเรียกกระดูกผีเจ็ดป่าช้า ซึ่งเป็นของอาถรรพ์ที่จัดว่าหายากมากๆ ด้วยเหตุที่คนไทยเราถือกันมาแต่โบราณ ถ้าตายวันเสาร์จะไม่เผาวันอังคารเพราะเป็นวันแข็งทั้งคู่ เขาว่าผีจะเฮี้ยนและดุ นอกจากผงกระดูกผีแล้วยังมีวัสดุอาถรรพ์อีกมากมายหลายชนิด อาทิเช่น...ไคลเสาตะลุงช้างบก (ตะลุงคือเสาที่ผูกช้างแล้วช้างเอาตัวมาถู คราบน้ำมันจากตัวช้างจะมาติดที่เสา) เสาตะลุงช้างน้ำ (สมัยก่อนมีล่องซุงเขาจะเอาช้างมาผูกใกล้ๆท่าน้ำ เวลาน้ำขึ้นเสาที่ผูกช้างจะลอยตามน้ำมา ซึ่งสมัยนี้คงหายาก) ลิ้นกา ตากา ไคลโบสถ์ ไคลเสมาว่านดอกทอง ดอกรัก ว่านสาวหลง เสน่ห์จันทร์ต่างๆ ดินใต้ท้องเรือจ้างท่าน้ำฯลฯ กว่าจะหาของมาครบท่านใช้เวลาในการสะสมนานมาก พอได้ของครบตามตำราจึงเอามาตำป่นผสมกับแป้งดินสอพองแล้วเอามาปั้นเป็นแท่ง แล้วจึงทำการเขียนสูตรอักขระ ชักยันต์แล้วลบ ลบแล้วมาปั้นเป็นแท่งใหม่ เวลาทำก็ต้องมีพระสวดมนต์ไปด้วย พรรษาหนึ่งทำได้ไม่มาก พระผงของท่านจึงมีคุณค่า น่าเก็บสะสมไว้ ในยุคปัจจุบันคงจะหาใครที่ทำแบบท่านได้ยากและจิตท่านมีธรรมจริงๆโดยเฉพาะเรื่องเมตตา เวลาท่านเดินไปทางไหนพวกหมาและแมวจะเดินตามเป็นขบวน โดยปกติหมากับแมวจะเป็นอริกัน แต่ของท่านกลับเล่นเป็นเพื่อนกันได้ ซึ่งมันมาจากจิตที่เมตตาของท่าน. ผงอิทธิเจของหลวงพ่อบุญชูเริ่มมีชื่อเสียงจากการที่มีคนมาบวชพระ โดยสมัยก่อนพออายุครบ 20 ปี ก็จะมาบวชกัน ซึ่งส่วนมากจะบวชกัน1พรรษา ไม่เหมือนกับสมัยนี้ที่บวชกันไม่กี่วัน พอครบพรรษาคนไหนสึกก็จะไปกราบขอของดีจากท่าน และหากคนไหนตอนบวชปฏิบัติตัวดีอยู่ในศีลในธรรม ท่านก็จะให้ผงอิทธิเจและกำชับไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม ซึ่งส่วนมากพอได้ผงไปไม่นานก็ได้เมียกัน เลยพูดกันปากต่อปาก จึงทำให้เป็นที่ปรารถนาของพวกหนุ่มๆ ชื่อเสียงของท่านจึงขยายออกไปในวงกว้าง แม้กระทั่งพระเกจิชื่อดังยังมาขอผงอิทธิเจจากท่านไปผสมเป็นมวลสารในการสร้างพระเครื่องอีกด้วย.
การสร้างพระของหลวงพ่อบุญชูนั้น ท่านจะให้พระที่มาบวชจำพรรษาอยู่ที่วัดช่วยกันกดพิมพ์พระ ซึ่งจะช่วยกันทำช่วยกันกดหลายคน โดยจะมีทั้งการกดด้วยแท่นปั๊มพระแบบมือโยกและแบบการกดด้วยมือ พอทำเสร็จแล้วท่านจะนำไปปลุกเสกในพระอุโบสถตลอดพรรษา พอมีงานทอดกฐินท่านก็จะนำมาแจกให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งพระของท่านส่วนใหญ่ทำแจก และท่านจะเขียนไว้ที่ข้างกุฏิท่านว่า..."ที่นี่มีของดีแจก แต่ต้องแลกด้วยศรัทธา" ศรัทธาในที่นี้คือศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์และศรัทธาเชื่อมั่นในตัวท่าน ของๆท่านจึงจะขลัง สมัยก่อนพระที่มาบวชล้วนแต่เชื่อมั่นและศรัทธา พอสึกออกไปต่างก็ได้ของๆท่านไปจึงใช้ได้ผลเพราะเขามีศรัทธาที่เต็มเปี่ยม แต่คนสมัยนี้มีแต่อยากลองของ ไม่มีความเชื่อมั่นศรัทธา จึงมักไม่ค่อยเห็นผล เพราะจิตลบหลู่ครูบาอาจารย์ตั้งแต่ต้นเสียแล้ว.
ข้อมูลที่ท่านจะได้อ่านนี้ คือเรื่องจริง ที่หลวงพ่อท่านท่านอยากให้ได้รับรู้ ว่าพระนี้ดีเช่นไร มีผีหรือไม่ ผมเป็นเพียงผู้ส่งสาน เเละบอกให้ได้รับรู้ไว้ เพื่อเผยเเผ่นบารมีครูบาอาจารย์
ผงอิทธิเจของหลวงพ่อต้องเข้าผงมหาภูติโดย ตั้งดินน้ำลมไฟ ก่อเป็นรูป ด้วยวิชาหัวใจนิพพานสูตร
ภูติคือความรู้สึกของผู้ที่ตายไปเเล้วที่ไม่สมหวังมาบังเกิดให้สมหวังเช่นก่อนตายอาภัพอกหัก ยากจนให้ผู้ใช้วัตถุมงคลผงมหาภูติ ให้สมหวังดั่งใจนึกผงมหาภูตินี้ต่างจากจากผงพรายคือผงพรายต้องใช้คาถากำกับส่วนผงนี้ไม่ต้องใช้คาถากำกับ

ส่วนผสมที่เข้าเป็นองค์พระของหลวงพ่อ
1.สีผึ้ง หุงจนควันขึ้นเปนรูปหญิงชายกอดกัน
2.ผงอิธิเจที่ลบด้วยภาษา18 ภาษาในโลก.(ภาษาทุกภาษาที่มีการเล่นของหลวงพ่อท่านกันไว้ให้หมด)
3.ดินร้อยท่า
4.ดินร้อยเมือง
5.ดินเจ็ดป่าช้า (เอาเฉพาะดินที่ขึ้นเป็นจอมปลวกเท่านั้น)
6.ตระกูลเเร่
-เเร่เขาเขียวในจังหวัดสุพรรณ
-เเร่เเก้วโขนเหล็ก กันคนหักหลังบริวาณไม่เป็นพิษ
-เสกด้วยพระคาถาปริตมนต์ เจ็ดตำนานสิบสิบสองตำนาน เสกด้วยสัมพุทเธหงสาวดี เสกทั้งหมดหนึ่งพันจบเสกกันของไม่ดีที่จะเข้ามาหาผู้ใช้ เสกด้วยธรรมจักรหนทางสู่ความเจริญ เสกด้วยคาถาวิชาเฉพาะของหลวงพ่อเองมนต์ปู่เจ้าเขาเขียว สุดท้าย อัญเชิญเทวดามาสถิตในองค์พระ
ประสบการณ์ไม่อยากเล่าไปลองใช้เองดีกว่าจะรู้ว่าเฮี้ยนจริง