กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

วันฉลองเทศกาลปีใหม่ 1 มกราคม2563 ผ่านไปแล้ว
ว่าแต่น้องmaxmi ไปเที่ยวไหนมาครับ

 

555....น้องเอก
รถเด็กเล่น 2 ตัว....ถูกป่าว
ส่วนมอไซด์เลขมาเฉี่ยวๆ
ความจริงใกล้เข้ามาแล้ว

ดูข่าวข้างล่างดีกว่า
บทดวงจะเฮงๆ อย่างไงก็ถูก
ซื้อล๊อตมา 5 ใบ แจกญาติๆ ไป4 ใบ
เหลือเก็บไว้ 1 ใบ...ถูกรางวัลที่ 1


**************************************

หลวงปู่สรวงให้โชคปีใหม่ รางวัลที่1รับรางวัล 6ล้าน
วันอังคาร ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 18.06 น.



ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่


ศรีสะเกษ หลวงปู่สรวงให้โชคปีใหม่รางวัลที่ 1 สาวกันทรารมย์รับรางวัล 6 ล้านบาท เผยไปกราบหลวงปู่สรวง แล้วซื้อล๊อตเตอรี่ตามเลขท้ายรถยนต์เหลือเพียง 1 ใบ ทำให้ได้รับโชค จะนำเงินไปใช้หนี้และทำทุน

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 31 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 2 บ้านเหม้า ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากทราบข่าวว่ามีหญิงสาวโชคดีถูกรางวัลที่ 1 เมื่อไปถึงพบ นายใหม่ วัฒนก้านตรง อายุ 36 ปี และ น.ส.กิตติยาณี บุญปัญญา อายุ 33 ปี สามีภรรยา ซึ่งเป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ของ น.ส.สุนิสา วัฒนก้านตรง อายุ 29 ปี สาวผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 30 ธ.ค.62 โดย น.ส.กิตติยาณีได้นำเอาสำเนาถ่ายเอกสารสีของสลากกินแบ่งรัฐบาล
ที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ งวดที่ 2 ชุดที่ 35 หมายเลข 510541 มาให้ผู้สื่อข่าวได้ชมและตรวจสอบ ซึ่งพบว่าเป็นเลขที่ถูกรางวัลที่ 1 จริง โดยมีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ น.ส.สุนิสากับญาติพี่น้องได้เดินทางไปหาซื้อสิ่งของที่ตัวเมือง จ.อุบลราชธานี

น.ส.สุนิสา วัฒนก้านตรง อายุ 29 ปี สาวผู้โชคดีรับปีใหม่ 2563 เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.62 ตนพร้อมด้วยญาติพี่น้อง จำนวน 5 คน ได้พากันเดินทางไปที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อไปกราบไหว้สักการะลอดใต้โลงศพของหลวงปู่สรวง เพื่อขอพรในวันส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ 2563 แต่เนื่องจากที่บริเวณมณฑป ซึ่งเป็นที่ตั้งสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สรวง ปรากฏว่าคนแน่นมากแบบมืดฟ้ามัวดิน ตนไม่สามารถที่จะขึ้นไปกราบหลวงปู่สรวงได้บนมณฑป ดังนั้นจึงได้กราบหลวงปู่ที่บริเวณเชิงบันไดมณฑป และอธิษฐานขอพรจากหลวงปู่สรวง เพื่อให้มีโชคในวันขึ้นปีใหม่ 2563 จากนั้น ตนและญาติพี่น้องได้พากันนั่งรถไปเที่ยวที่ตลาดต้องชมบายจึ๊กเตีย เพื่อหาเลือกซื้อสินค้าโอท็อป นำไปฝากญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมมงานที่ตนไปทำงานอยู่ที่ จ.ชลบุรี

น.ส.สุนิสา เล่าต่อไปว่า ตนได้เลือกซื้อล็อตเตอรี่ จำนวน 5 ใบ จากพ่อค้าแม่ค้าล็อตเตอรี่รายละ 1 ใบ โดยตนจะซื้อตามเลขท้ายรถของตนคือเลข 2841 จะซื้อเลขท้าย 41 และปรากฎว่า มีล็อตเตอรี่ใบหนึ่ง เหลือเพียงใบเดียว มีเลขท้าย 41 ตนจึงได้ซื้อเอาไว้ จากนั้นนำเอาล็อตเตอรี่ 5 ใบ แจกจ่ายให้กับญาติพี่น้องที่ไปด้วยกันคนละ 1 ใบ เหลือใบสุดท้ายที่ลงท้ายด้วย 41 อยู่กับตน พอถึงช่วงบ่ายของวันที่ 30 ธ.ค.62 ผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ปรากฏว่าตนถูกรางวัลที่ 1 จะได้รับเงินรางวัล 6 ล้านบาท ทำให้ตนดีใจมาก ตนจึงได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเงินรางวัลที่จะได้รับมานี้ ตนจะนำเอาไปใช้หนี้สินที่มีอยู่ให้หมด จากนั้นจะแบ่งเงินให้กับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และทำบุญ ส่วนที่เหลือจะเก็บเอาไว้ทำทุนค้าขายต่อไป



(แหล่งที่มา...นสพ.บ้านเมือง)

 

สงสัยกำลังบุญไม่พอครับท่าน9
ซื้อ 549 491 แต่ไม่ได้ซื้อ 541 591
ส่วน 18 81 ตั้งใจจะซ์้อ เพราะฝันเห็นรถคันเก่าทะเบียน 187
เอาเข้าจริงลืมหมด 555+

 

เมื่อวานได้ไปทำบุญปีใหม่ที่วัดสหธรรมาราม
(แถวชายทะเลบางขุนเทียน กทม.)
วัดอยู่ริมถนนบางขุนเทียน-สมุทรสาคร
ใกล้ๆท่าเรือที่นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือชมอ่าวไทย



เป็นอีกครั้งที่ได้ไปกราบนมัสการ
หลวงตาจ้อย(พระครูสังฆรักษ์บุญส่ง)
พระภิกษุที่มีหน้าตาบางส่วนละม้ายคล้าย...
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

ฉับพลันที่พบเห็นลต.จ้อย จะรำลึกถึงลป.ดู่ในทันที



ปีใหม่ 2563 จึงขอนำ"คติธรรมของลป.ดู่ พรหมปัญโญ"
มานำเสนอเพื่อเตือนใจให้เกิดความสุขตลอดปี2563

๑. ครูอาจารย์ดีๆ มีอยู่มากก็จริง แต่สำคัญที่เราต้องปฏิบัติให้จริง สอนตัวเองให้มาก นั่นแหละจึงจะดี

๒. การปฏิบัติ ถ้าหยิบตำราโน้นนี้มาสงสัยถาม มักจะโต้เถียงกันเปล่า โดยมากชอบเอาจากอาจารย์โน่นนี่ว่าอย่างนั้นอย่างนี้มา …การจะปฏิบัติให้รู้ธรรมเห็นธรรม ต้องทำจริง จะได้อยู่ที่ทำจริง เอาให้จริงให้รู้ ถ้าไปเรียนกับครูอาจารย์อื่นโดยยังไม่ทำให้จริงให้รู้ ก็เหมือนดูถูกดูหมิ่นครูบาอาจารย์

๓. การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ศีลคือ ดิน สมาธิ คือ ลำต้น ปัญญาคือ ดอกผล เราต้องการให้ต้นไม้เจริญงอกงาม ก็ต้องหมั่นรดน้ำพรวนดิน และต้องคอยระมัดระวังมิให้ตัวหนอนคือ โลภ โกรธ หลง มากัดกิน

๔. ถ้าเป็นโลกแล้ว จะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา แต่ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้ว ต้องวกกลับเข้ามาหาตัวเอง เพราะธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดในตัวของเรานี้ทั้งนั้น

๕. “โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม”
เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้นไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ ไขเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง... ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง

๖. ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำ ดีกว่านั่งร้องเพลง จะซักผ้า หุงข้าว ต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่า พยายามเกลี่ยจิตใจให้เข้าที่ ถ้าจะรอเวลาปฏิบัติ (นั่งสมาธิภาวนา) ทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอดวัน

๗. ของดีอยู่ที่ตัวเรา ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต

๘. คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร

๙. ศีล สมาธิ ปัญญา ก็เหมือนรสแกงส้ม
ศีล เปรียบได้กับรสเปรี้ยว ความเปรี้ยวทำหน้าที่กัดกร่อนความสกปรกออก ทำนองเดียวกัน ศีลจะช่วยขัดเกลาความหยาบออกจากทางกาย วาจา ใจ
สมาธิ เปรียบได้กับรสเค็ม เพราะความเค็มช่วยรักษาอาหารต่างๆ ไม่ให้เน่าเสีย สมาธิก็เหมือนกัน สามารถรักษาจิตของเราให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดีได้
ปัญญา เปรียบได้กับรสเผ็ด เพราะปัญญามีลักษณะคิด อ่าน ตริตรอง โลดแล่นไป เพื่อขจัดอวิชชาความหลง

๑๐. การปฏิบัติ ถ้าอยากเป็นเร็วๆ มันก็ไม่เป็น หรือไม่อยากให้เป็น มันก็ประมาทเสีย เลยไม่เป็นอีกเหมือนกัน อยากเป็นก็ไม่ว่า ไม่อยากเป็นก็ไม่ว่า ทำใจให้เป็นกลางๆ ตั้งใจให้แน่วแน่ในกรรมฐานที่ตั้งไว้ ภาวนาเรื่อยไป เหมือนกับเรากินข้าว ไม่ต้องอยากให้มันอิ่ม ค่อยๆ กินไป มันก็อิ่มเอง ภาวนาก็เช่นกัน ไม่ต้องไปคาดหวังให้มันสงบ หน้าที่ของเราคือภาวนาไป ก็จะถึงของดีของวิเศษในตัว แล้วเราจะรู้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร ให้หมั่นทำเรื่อยไป

๑๑. รวยกับซวยมันใกล้กันนะ จะเอารวยน่ะ จะหามายังไงก็ทุกข์ กลัวคนจะมาจี้มาปล้น หมดไปก็เป็นทุกข์อีก ไปคิดดูเถอะ มันไม่จบหรอก มีแต่เรื่องยุ่ง เอา “ดี” ดีกว่า

๑๒. ความสำเร็จนั้น มิใช่อยู่ที่การสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มา
ประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้วทุกอย่าง
รับรองว่าต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ พระพุทธเจ้าท่านวางแบบเอาไว้แล้ว ครูบาอาจารย์ทุกองค์มีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด ก็ได้ทำตามแบบ เป็นตัวอย่างให้เราดูอัฐิของท่านก็เลยกลายเป็นพระธาตุกันหมด

๑๓. รอให้แก่เฒ่าหรือจวนตัวแล้วจึงสนใจภาวนา ก็เหมือนคนหัดว่ายน้ำตอนเรือหรือ
แพใกล้แตก มันจะไม่ทันการณ์

๑๔. ที่ว่านิมิต แสงสว่างเป็นกิเลสก็ถูก แต่เบื้องแรกต้องอาศัยกิเลสไปละกิเลส
(อาศัยกิเลสละเอียดไปละกิเลสอย่างหยาบ) แต่ไม่ได้ให้ติดแสงสว่างหรือหลง
แสงสว่าง ท่านให้ใช้แสงสว่างให้ถูก ให้เกิดประโยชน์เหมือนอย่างกับเราเดินทางผ่านไปในที่มืด ก็ต้องอาศัยแสงไฟช่วยนำทาง หรืออย่างว่าเราจะข้ามแม่น้ำ ก็ต้องอาศัยเรือ อาศัยแพ เมื่อถึงฝั่งแล้ว เราจะแบกเรือแบกแพขึ้นฝั่งไปด้วยทำไม

๑๕. อย่าต้มน้ำทิ้งเปล่า ๆ โดยไม่ได้เอาน้ำร้อนไปใช้ประโยชน์ (หมายถึงอย่าเอาแต่ทำสมาธิโดยไม่พิจารณาธรรม)

๑๖. อย่าปฏิบัติแบบไฟไหม้ฟาง (หมายถึงไหม้วูบเดียวแล้วก็ดับ กล่าวคือ ขยันก็ทำ ขี้เกียจก็หยุด อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ต้องทำ (ปฏิบัติธรรม) ให้สม่ำเสมอให้ได้ทั้งในยามขยันและขี้เกียจ)




ขอขอบคุณแหล่งที่มา
http://www.luangpordu.com/

 

**ลองอ่านดู**

เรื่อง คำขอโทษก่อนจาก
ต้นเรื่อง นนทิยา เทพพิทักษ์ ตึกพิเศษ ศูนย์มะเร็งสุราษฏร์ธานี

ในห้อง VIP ได้มีผู้ป่วยชายวัยสูงอายุ รูปร่างผอมนอนบนเตียงตลอดเวลา เข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งปอดกระจายไปกระดูก แพทย์ทำการรักษาด้วยการฉายรังสี จนครบ แต่อาการของโรคก็ไม่สงบ ผู้ป่วยมีอาการปวด หายใจเหนื่อยหอบและมีไข้ร่วมด้วย ในบางครั้งแพทย์ได้ให้ยาตามอาการตลอด แต่อาการของโรคก็ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น

ในห้องมีเพียงหญิงวัยสูงอายุเฝ้าผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด สอบถามทราบว่าเป็นน้องสาวผู้ป่วย ทุกครั้งที่พยาบาลเข้าไปเยี่ยมไข้ และให้การพยาบาลสังเกตเห็นสีหน้าผู้ป่วยเศร้า พยาบาลจึงเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด พูดคุยสร้างสัมพันธ์ภาพเพื่อเกิดความไว้วางใจ พูดคุยให้กำลังใจจนผู้ป่วยไว้วางใจ จึงทำให้ผู้ป่วยยอมพูดความในใจที่ค้างมาแสนนานว่า ผู้ป่วยได้แต่งงานมีบุตร 2 คน ชาย หญิง ครอบครัวอยู่กันอย่างอบอุ่น ภรรยาทำร้านเสริมสวย ผู้ป่วยทำสวนทุเรียน ที่ชุมพร ต่อมาผู้ป่วยได้ไปทำงานขับรถขนส่งแร่ทำให้ต้องออกนอกบ้าน บางทีไม่ได้กลับบ้านและติดเพื่อนกินเหล้า เริ่มไม้สนใจครอบครัว จนภรรยาทนไม่ไหวจึงแยกกันอยู่ เป็นเวลา ๒๐ ปีแต่ไม่ได้หย่าจนกระทั้งผู้ป่วยเริ่มป่วยเป็นโรคมะเร็ง มีเพียงน้องสาวผู้ป่วยที่คอยดูแล แต่ภรรยาก็ยังเป็นห่วงโทรถามอาการผู้ป่วยจากน้องสาวผู้ป่วยเป็นระยะๆ และช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแต่ไม่ให้ผู้ป่วยทราบ

ผู้ป่วยได้พูดกับพยาบาลว่า “ผมต้องการพบภรรยาและลูกทั้ง 2 คนผมรู้ว่าเวลาผมเหลือไม่มาก ผมรู้ว่าผมจะอยู่ได้อีกไม่นาน”

พยาบาลได้ทำตามคำขอของผู้ป่วย เพราะมันเป็นคำขอครั้งสุดท้ายของผู้ป่วยพยาบาลได้โทรตามภรรยาและลูกทั้ง 2 ได้เดินทางจาก จ.ชุมพร ถึงศูนย์มะเร็ง ซึ่งอาการผู้ป่วยเริ่มหนัก และทันทีที่ภรรยาและลูกทั้ง 2 เข้าไปในห้อง ผู้ป่วยน้ำตาเริ่มซึม ผู้ป่วยขออยู่กับครอบครัวพยาบาลได้เชิญญาติออกไปรอนอกห้อง

ภายในห้องมีผู้ป่วยภรรยาลูกทั้ง ๒ และพยาบาล ลูกๆก้มกราบเท้าพ่อ ส่วนภรรยากราบอกแล้วทั้ง ๔ ก็กอดกัน ผู้ป่วยได้กล่าวกับภรรยาและลูกว่า “พี่ขอโทษในเรื่องที่ผ่านมาพี่รักเธอและลูกมาโดยตลอด” ผู้ป่วยพูดขณะที่หายใจเหนื่อยหอบแต่ยังยืนยันไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ

ส่วนภรรยาได้ฟังผู้ป่วยพูดและพูดตอบกลับผู้ป่วยว่า “พี่ไม่ต้องเป็นห่วงน้องและลูกไม่เคยโกรธพี่เลย เราทุกคนยังรักพี่ และพี่ไม่ต้องเป็นห่วงลูกน้องจะดูแลลูกของเราเอง”

สิ้นคำพูดภรรยา ทั้งสี่ได้กอดกัน ในเวลาต่อมาผู้ป่วยได้สิ้นใจภายในอ้อมกอดของภรรยาและลูกๆ อย่างที่ผู้ป่วยต้องการและขอทำครั้งสุดท้ายของชีวิต



ขอขอบคุณแหล่งที่มา...
เรื่องเล่าเร้าพลัง: การดูแลด้านจิตวิญญาณในคนไข้ระยะสุดท้าย
อาจารย์หมอเต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี

https://www.gotoknow.org/

 

เรื่องเล่าข้างล่างนี้
เกิดขึ้นเมื่อวานสดๆร้อนๆ

เวลาประมาณ 09.00
ได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวแจ้งว่า...
"พี่ชายเสียชีวิตแล้ว"

ช่วงเย็นแวะไปบ้านพี่สาวซึ่งบ้านอยู่ไม่ห่างกันนัก
เพื่อจัดเตรียมวันเวลาเดินทางไปงานศพที่ตจว.

ช่วงหนึ่งพี่เขยได้พูดขึ้นมาว่า...
"แปลกนะ...เมื่อคืนเวลาประมาณตี3 ตี4พี่ชายได้มาเข้าฝัน
ในฝันเห็นพี่ชายนอนแน่นิ่งอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง
...แต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ใด
...ที่ผ่านมาไม่เคยฝันถึงพี่ชายเลย"

ที่แปลกใจคือช่วงเวลาที่พี่ชายเสีย
ใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่พี่เขยฝัน

ระยะทางระหว่างคนสิ้นใจหรือใกล้สิ้นใจ
กับคนที่ฝัน...ห่างกันกว่า1,000กม.

คิดว่าไม่ใช่เป็นเรื่อง"บังเอิญแน่"
แต่น่าจะเป็นความอัศจรรย์ของดวงจิตวิญญาณ

ถ้ามาเข้าฝันก่อนสิ้นใจ...อาจแปลกนิดๆ
แต่ถ้าสิ้นใจแล้วจึงมาเข้าฝัน...ควรจะแปลก
...อาจเป็นหนึ่งข้อพิสูจน์ว่า...
"คนเราตายไปแล้ว แค่ทิ้งร่างไว้...แล้วสาบสูญไป
แต่ดวงวิญญาณยังอยู่ ยังคงร่องลอยไปไหนมาไหนได้"

เพื่อเตรียมไปสู่เส้นทางตามกรรมที่ตนได้กระทำไว้

สำหรับพี่ชายคนนี้
จากการใช้ชีวิตที่ผ่านมาจนวาระสุดท้าย
ส่วนตัวมั่นใจว่า...
เส้นทางที่ไปคือเดินไปสู่สุคติภพ

 

ธรรมะระงับความโกรธ
โดยหลวงพ่อพุธ ฐานิโย

การปฏิบัติเพื่อระงับความโกรธ
1. ให้ระลึกถึงโทษของความโกรธ ว่าความโกรธนั้นให้โทษประการต่าง ๆ หาคุณมิได้เลย ผู้ไม่โกรธตอบผู้โกรธตนก่อน ผู้นั้นได้ชื่อว่า ชนะสงครามที่ชนะได้ยาก
2. ให้ระลึกถึงความดีของเขา เพราะแต่ละคนย่อมมีทั้งความดีและความไม่ดีอยู่ในตัว ถ้าหาความดีไม่ได้จริง ๆ ก็ให้นึกสงสารเขาว่าต่อไปจะต้องประสบผลร้าย จากการประพฤติไม่ดีอย่างนี้
3. ให้คิดถึงความจริงที่ว่า การโกรธคือการทำให้ตัวเองทุกข์ คนที่โกรธแล้วเป็นสุขไม่มีในโลก
4. ให้พิจารณาว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน กรรมที่เกิดจากความโกรธ จะทำให้ตัวเองตกต่ำลงไปอีก
5. ให้พิจารณาพระจริยาวัตรในปางก่อนของพระศาสดาว่า พระพุทธเจ้าของเรานั้น กว่าจะตรัสรู้ ก็ได้ทรงบำเพ็ญบารมีทั้งหลายตลอดเวลายาวนาน ได้ทรงบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่น โดยยอมเสียสละแม้แต่พระชนม์ชีพของพระองค์เอง เมื่อทรงถูกข่มเหงกลั่นแกล้ง เบียดเบียนด้วยวิธีการต่าง ๆ ก็ไม่ทรงแค้นเคือง ทรงเอาดีเข้าตอบ ถึงแม้เขาจะตั้งตัวเป็นศัตรู
6. พิจารณาอานิสงส์ของเมตตา ความโกรธมีโทษก่อผลร้ายมากมายฉันใด เมตตาก็มีคุณก่อให้เกิดผลดีมากฉันนั้น ผู้มีเมตตาย่อมสามารถเอาชนะใจคนอื่น ซึ่งเป็นชัยชนะที่เด็ดขาด ไม่กลับแพ้ ผู้ตั้งอยู่ในเมตตาชื่อว่าทำประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น

 

กลับจากงานศพพี่ชาย
...มีเรื่องเล่าจากหลานชายให้ฟัง
เป็นเรื่องความลี้ลับของจิตวิญญาณ

...ก่อนหน้าที่พี่ชายจะเสียชีวิต 1 อาทิตย์
หลานชายฝันว่า...
คุณย่าที่เสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีก่อนได้มาหาคุณปู่
แล้วบอกว่า "จะพาคุณปู่ไปอยู่ด้วยกัน"
...ตื่นขึ้นมานึกว่าแค่เป็นความฝันทั่วไป
เลยไม่นึกว่าความฝันกลับกลายเป็นความจริง


เรื่องต่อมา...เป็นความฝันที่เกิดขึ้นเช้ามืดตี3-4เมื่อคืน
กลับถึงกรุงเทพประมาณตี 1
อาบน้ำอาบท่าเสร็จ...นอนหลับสนิทด้วยความเพลีย

...ฝันเห็นพี่ชายยืนอยู่เกาะกลาง3หรือ4แยกแห่งหนึ่ง
ใกล้สัญญาณไฟจราจร(แต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน)
ใบหน้าผ่องมีรอยยิ้ม ใส่เสื้อผ้าใหม่เอี่ยมเงางาม
ลักษณะท่าทางมีความสุข
หวีผมเรียบเนียบเหมือนช่วงที่มีชีวิตในวัยหนุ่ม
ในฝันบ่งบอกได้ว่าพี่ชายมีความสุข

หลังจากตื่นขึ้นมาทบทวนความฝัน
(เป็นครั้งแรกที่ฝันถึงพี่ชาย)
จึงมั่นใจว่าพี่ชายต้องการมาสื่อว่า...
กำลังเดินทางไปสู่สุคติภพ
"ไม่ต้องเป็นห่วง"

อีกเหตุการณ์ที่สร้างความมั่นใจคือ...
แม้พี่ชายจะเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ
ไม่ค่อยสนใจในการเข้าวัดเข้าวามากมาย
แต่จิตเดิมเป็นคนมีความเมตตาโอบอ้อมอารีย์สูงมาก
จากผู้คนที่สัมผัสได้แล้วพูดต่อๆกันมา

บ่ายๆ...วันฌาปนกิจศพ
ลูกหลานคาดไม่ถึงว่าจะมีทั้งรองเจ้าอาวาส
และท่านเจ้าอาวาสมาร่วมในงานพิธีพร้อมกัน
...มาร่วมกันส่งดวงจิตวิญญาณไปสู่สรวงสวรรค์

หลังงานศพและก่อนหน้านั่น
ส่วนตัวผมทำได้แค่ตามที่เคยทำเป็นกิจวัตร
คือสวดมนต์ส่งบุญ สัพเพให้ทุกเช้า
และมั่นใจว่า...แม้พี่ชายไม่ได้เข้าวัดบ่อยๆ
แต่จิตเดิมที่มีคุณธรรมและความเมตตาสูง
ย่อมมีโอกาสเดินไปสู่ภพภูมิที่ดีและสูงยิ่งๆขึ้นไป

...เรื่องที่พี่ชายเข้าฝันเมื่อวานเช้าตรู่
จะบังเอิญฝันถึง(ทั้งๆที่ไม่เคยฝันถึงพี่ชายเลย)
หรือพี่ชายต้องการมาสื่อว่า...
"กำลังเดินทางไปสู่สุคติภพ"

 

ลองดูรายการช่องส่องผีคับ

 

..
..
เจอนักปฏิบัติเป็นแบบนี้เยอะเบย
ซื้อเองไม่ถูก ถูกแดรก แต่ถ้าให้เลขคนอื่นแม่น
สงสัยเทวดาประจำตัวท่านไม่ชอบทางนี้นะสิ อิอิ

 

..
เฮียอยู่วัด 555

 

ช่วงนี้ชีวิตสับสน งานใหม่พึ่งไปสัมภาษณ์ บริษัทนัดให้มาสัมภาษณ์อีกทีรอบสอง ตอนนี้ได้แต่รอ
โทก็อยากเรียน หลายสิ่ง 555
..
เวลาสับสนวุ่นวายทางโลกหนักๆ ก็กลับมาภาวนาช่วยได้เยอะ เมื่อวานนั่งนิ่งๆ พยายามสงบจิตใจเพราะฟุ้งซ่าน แล้วก็ได้ยินเสียงเหมือนกลอง หูขวาข้างเดียว ไม่เเน่ใจว่าเสียงหัวใจหรือเสียงอะไร มันเป็นจังหวะ ทุ้มๆ ดังเป็นสิบครั้งได้ เกิดมาไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้ เเล้วเสียงก็หายไป
..
มานอนเปิดยูทูปฟังหลวงปู่ฤาษีลิงดำท่านเทศน์ ตั้งจิต เสียงเหมือนกลองดังกังวาลแบบนั้นมาอีกแล้ว หูขวา แล้วก็หายไป
..
หลับไป รู้ตัวว่าหลับ เลยตั้งจิต เห็นเส้นสีแดงหมุนเป็นเกลียว ทอนาโด เหมือนเส้นไหม คล้ายๆขดลวด หมุนเป็นเกลียวสวยงาม ต่อมาเกลียวเส้นสีน้ำเงินหมุนเป็นเกลียวทอนาโด ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นิมิตสมาธิลักษณะนี้เกิดเป็นครั้งแรก แต่ก่อนเป็นแค่ควันสีต่างๆหมุนเข้าหาจุดศูนย์กลาง เหมือนหลุมดำ
..
กำลังหาตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรม ตอนนี้รู้สึก ''เบื่อ" ไม่ได้อยากรู้สึกแบบนี้ มันไม่ได้ทุกข์ แต่ก็ไม่สุข ชีวิตก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมายมันแค่เบื่อ 5555 สาธุ

 

อยู่ช่องไหนคับ
ช่องที่มีริวจิตสัมผัสหรือป่าว?

รายการผีๆประเภทจิตวิญญาณมักออกอากาศดึกๆ
ประมาณ 3 ทุ่ม-4 ทุ่ม 5ทุ่ม
เท่าที่สำรวจมาคนที่อยากดู...
...แต่ไม่กล้าดู...มีมาก
เพราะใกล้เวลานอน

ถ้ามีสักช่องลองเปลี่ยนเวลาออกอากาศ6โมงเย็น
คงจะมีผู้ชมเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ลองกล้าๆฉีกเวลาให้ต่างจากช่องอื่นๆ
อาจได้โฆษณาเข้ามาเยอะ

ปล.อยากดู...แต่ไม่ดู
ไม่ได้กลัว(กลัวนิดๆ...เวลานอนรร.คนเดียว)
เพราะเคยเจออะไรแปลกๆหลายครั้ง

 

"เฮียอยู่วัด"

ประโยคสั้นๆ
แต่ตื่นเต้น

ขอรายละเอียดหน่อย(ถ้าพูดได้)

อยากถามท่านหลายครั้ง
...แต่ไม่อยากรบกวน

 

..
..
เฮียแกก็แว้นเที่ยววัดของแกเป็นปกติค่ะ 555

 

บางช่วงของชีวิตรู้สึกสับสนเช่นกัน
"อย่างเช่นช่วงนี้"
(น่าจะอาการคล้ายๆกัน)
อย่างเช้านี้และหลายเช้าสวดมนต์ใจไม่นิ่ง
ใจไม่ได้อยู่กับบทสวด
สวดไปเรื่อยๆเหมือนนกแก้วท่องจำ

ตรงกับประโยคข้างล่างของน้องแอมเลย
"กำลังหาตรงกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรม ตอนนี้รู้สึก ''เบื่อ" ไม่ได้อยากรู้สึกแบบนี้ มันไม่ได้ทุกข์ แต่ก็ไม่สุข ชีวิตก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมายมันแค่เบื่อ 5555"

หรือเกี่ยวกับการเดินทาง
นอนโรงแรมติดต่อกันเกือบ 10 คืน
กลับถึงบ้านแล้วยังปรับตัวไม่ได้

 

เด๋ววันนี้"มีถาม"

ถามอาจารย์นพ"หลายเรื่อง"

ไว้จะเล่าให้ฟัง

 

ที่เขียนข้างบน...ตรงกับใจเลย
เพราะกำลังจะเล่าเรื่องหวยๆให้ฟัง

งานศพพี่ชายให้โชคลูกสะใภ้
ถูกหวยมาเลย์ได้เงินมา 6 หมื่น

ถามว่าได้เลขเด็ดมาจากไหน
แกแค่ยิ้ม...ตอบสั้นๆว่า"ชอบเลขนี้"

ความจริงเลขนี้มีที่มาที่ไป
คือวันก่อนหวยออก
เจ๊กับผมได้พูดถึงเลขนี้(เลข35/53)ในหวยไทยที่เคยถูก
แกนั่งฟังอยู่ใกล้ๆ(ประมาณเสือซุ้มคอยตะครุบเหยื่อ)
เราก็แค่เล่าไปสนุกๆ...ไม่ได้สนใจจะซื้อ
แต่แกกลับแอบไปซื้อหวยมาเลย์
แค่เหตุผลเพราะชอบเลขนี้
นี่แหละ"ดวง"
บทจะถูก...ถูกง่ายๆ

นี่ก็"ดวง" เหมือนกัน
(หมายถึงเจ๊และผม)
วันเดียวกันนั่งคุยกันเรื่องตั๋วเครื่องบิน
ระหว่างราคาถูก935 กลับดึก 5 ทุ่ม
กับกลางวัน1,800 จะเลือกไฟต์ไหน
คิดอยู่หลายตลบ...แทบโยนหัวก้อยกัน
สุดท้ายตัดสินใจเลือก 935

เลขนี้เลยคับ...ที่หลานสะใภ้ถูกไป6หมื่น
...935 หวยมาเลย์ตรงๆ

"ซื้อเองไม่ถูก ถูกแดรก แต่ถ้าให้เลขคนอื่นแม่น
สงสัยเทวดาประจำตัวท่านไม่ชอบทางนี้นะสิ อิอิ"

น่าจะจริงครับ
......555

 

ดูใน YouTube ครับ ช่องส่องผี ดูแล้วให้แง่คิดหลายๆอย่างคับ

 

ผมดูแล้วเขาไม่ได้ขายความน่ากลัวแต่เป็นเรื่องของกรรมมากกว่าทำให้รู้สึกว่าผีไม่ได้น่ากลัวมากมายอย่างที่คิด โดยเฉพาะเรื่องแม่นาค แล้ว อ.เรนนี่ มองเห็นผีเหมือนตาปกติเลย