หลวงปู่บุญมา (เจ) กตปุญโญ เทวดาตาไฟ ยืนปลุกเสกเพ่งดวงอาทิตย์ สายเหนือโลก แห่งเมืองน้ำดำ

ประวัติหลวงปู่บุญมา(เจ) กตปุญโญ
หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ หรือ (หลวงปู่เจ)
วัดป่าวิเวกธรรม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์

ชาติภูมิ
เดิมชื่อ บุญมา แก้วปัญญา เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พุทธศักราช 2483
บ้านพยอม ตำบลดินดำ อำเภอจังหารจังหวัดร้อยเอ็ด
บิดาชื่อ นายมี แก้วปัญญา มารดาชื่อนางลี แก้วปัญญา
สัณฐาน สันทัด สีเนื้อดำแดง ตำหนิเป็นแผลที่นิ้วก้อยมือซ้าย
อุปนิสัย ฉันอาหารเจ ไม่ชอบการเบียดเบียน มีเมตตาเป็นเลิศ
เอกลักษณ์ ชอบแกะพระไม้ทำสมาธิ ยืนปลุกเสก ชอบเพ่งดวงอาทิตย์ มีความเพียรเป็นเลิศ เป็นหมอยาสมุนไพร
ชีวิตของการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ครั้งที่ 1
ท่านได้บวชตั้งแต่เป็นสามเณร จนได้อุปสมบทเป็นพระ ที่บ้านพยอม ตำบลดินดำ อำเภอจังหาร
จังหวัดร้อยเอ็ด ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนบาลี เรียนหนังสือธรรม จากท่านเจ้าอาวาส จนแตกฉาน ท่านกล่าวว่าท่านเองเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง และเป็นคนว่านอนสอนง่าย ท่านเจ้าอาวาสที่เป็นพระอาจารย์ของท่านยกย่องและชื่นชมอยู่เสมอ แต่ด้วยคนอีสานสมัยก่อน ลำบาก ยากจน บิดา-มารดาของท่าน จึงไปขอร้องท่านให้ออกมาครองเพศเป็นฆารวาส จะได้เป็นกำลังหลักหาเลี้ยงครอบครัว ท่านเองเลยจำใจและตัดสินใจลาสิกขาออกมาครองเพศเป็นฆารวาส เลี้ยงดูพ่อ-แม่ ครอบครัวของท่าน ท่านยังกล่าวว่า ตอนเป็นฆารวาส นั้น ท่านจะชอบนุ่งผ้าขาว ถือศีล กินแต่อาหารเจดั้งเดิม และหาเลี้ยงครอบครัวด้วยซื่อสัตย์สุจริต จนชาวบ้านเรียก
”ญาพ่อธรรมเจ”
ชีวิตของการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ครั้งที่ 2
เมื่อต่อมาท่านเลยตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิตอีกครั้ง สละทุกอย่างทางโลก เข้าอุปสมบท
ณ วัดอรุณรังษี ตำบลบางลูกเสือ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก
วันที่ 1 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2533 เวลา 9.30 น.
โดยมี พระครูอรุณวิริยกิจ(หลวงพ่อสายตาบ) เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอาจารย์เทือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ประสิทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
และได้เรียนกรรมฐานเบื้องต้นกับพระครูอรุณวิริยกิจ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่นานเป็นเวลา 5 ปี แล้วก็ได้กราบลาท่านพระอุปัชฌาย์ไปศึกษาเพิ่มเติมที่”สำนักกรรมฐานเปิดโลก”หลวงพ่อคง จตฺตมโล (พระอรหันต์ร่างทอง) วัดเขาสมโภชน์ จังหวัดลพบุรี หลังจากนั้นท่านก็ได้ปลีกวิเวกไปตามป่าเขาลำเนาไพรจากภาคอีสานโดยทางภาคใต้ลงไปที่ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร แล้วได้ฝึกกรรมฐานและจำพรรษาภายในถ้ำที่นั่นเป็นระยะเวลาหลายพรรษา ก่อนเดินทางลงมาทางภาคอีสาน แถวจังหวัดอุดร-หนองคาย ลงไปถึงอำเภอน้ำโสมก็ได้ไปอยู่ร่วมกับ “พระอาจารย์สำราญ. ซึ่งเป็นกัลยาณมิตรในทางธรรมเพื่อที่จะสอดส่องดูแลกันและกันในการปฏิบัติบางช่วงก็ได้แวะลงไปถึงจังหวัดโคราชไปสนทนาธรรมแก้กรรมฐานกับหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อยู่เสมอๆ หลวงพ่อคูณท่านได้กล่าวกับหลวงปู่เจ ว่า”อย่าไปไหนเลยอยู่ด้วยกันที่บ้านไร่นี่ละ”และหลวงปู่เจท่านก็ตอบกลับหลวงพ่อคูณว่า “กระผมชอบเที่ยววิเวก ขอไปเที่ยววิเวกก่อน หากมีอะไรติดขัดในกรรมฐานหรือวิชาต่างๆจะแวะเวียนมาขอคำปรึกษาเรื่อยๆ”และได้แวะไปหา”ท่านพระอาจารย์ทอง”อาจารย์ทอง ชินวํโส วัดป่าหิมพาน มีวันหนึ่งหลวงปู่เจท่านได้นั้งกรรมฐานอยู่ท่านได้นิมิตเห็นถ้ำพญานาค ท่านจึงออกดินทางฝึกกรรมฐานไปเรื่อยๆเพื่อที่จะค้นหาถ้ำที่เกิดในนิมิต ในที่สุดก็ไปเจออยู่ที่ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด จำพรรษาอยู่นั่นถึง 2-3 พรรษา ที่ถ้ำพญานาคนี้เป็นที่ ที่หลวงปู่จะสร้างบารมีเพื่อที่จะทำให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนา และอีก 1 วัดคือหลวงปู่ได้ไปสร้างสำนักสงฆ์ป่า 19 บ้านบึงโดน ตำบลแสนชาติ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด และปัจจุปันหลวงปู่เจ ท่านได้รับนิมนต์จาก”ท่านเจ้าอธิการยุทธ จันทสาโร”เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกธรรม ให้มาเป็นประธานสงฆ์วัดป่าวิเวกธรรม ด้วยเหตุที่ว่าองค์หลวงปู่เจท่านเป็นหนึ่งในผู้มาบุกเบิกล้างป่าช้าและสร้างวัดป่าวิเวกธรรมแห่งนี้ขึ้น ร่วมไปถึงหลวงปู่ก็ชราภาพตามอายุสังขาร จึงให้หลวงปู่มาจำพรรษาที่นี่เพราะวัดป่าวิเวกธรรมเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมมีลูกพระ ลูกเณร นับ 20 รูปที่ค่อยดูแลหลวงปู่ และหลวงปู่จะได้ไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายขึ้น แต่องค์หลวงปู่เองท่านก็แวะเวียนไปเยี่ยมวัดต่างๆที่ท่านได้สร้างมาอยู่บ่อยครั้ง หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ หรือ (หลวงปู่เจ) ท่านเป็นพระกรรมฐาน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มักน้อย พูดน้อย ชอบความวิเวก สันโดษ มีเมตตาเป็นเลิศ
ไม่ชอบการเบียดเบียน ปฏิบัติตามรอยแห่งองค์พระศาสดา เป็นที่พึ่งของพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง

คณะศิษย์ หลวงปู่บุญมา(เจ) กตปุญโญ
ผู้เรียบเรียง/เผยแผ่

 

การยืนเสกเพ่งกสินของหลวงปู่มีมานานเเล้วนะครับ
ไม่ใช่พึ่งมีมา เสกเเต่ละครั้งจะใช้กสินมองดวงอาทิตย์ เเละการยืนเสกไม่ใช่เวลาเเค่10-20นาที
เเต่เป็นชั่วโมง ยืนตากเเดดร้อนๆ30กว่าองศา
ทุกคนเห็นเป็นประจัก ไม่ได้ปรุงเเต่งอย่างเเน่นอน
#บารมีกตปุญฺโญ

 

ภาพนี้ ผมถ่าย ตอนไกล้เสร็จพิธี
เวลาเกือบจะครบ 3 ชั่วโมง
หลวงปู่ยังคงยืนนิ่ง ดังรูปปั้น
ไร้ซึ่งความรู้สึกร้อน และที่สำคัญ ผมสังเกตุโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มพิธี เวลา 9:39 นาที - เที่ยงกว่าๆ
หลวงปู่ไม่มี เหงื่อไหล ที่ผิวหนัง หรือมีรอยเหงื่อเปียกที่จีวรเลย แม้แต่น้อย นับตั้งแต่ที่ท่านเข้าสมาธิ

เป็นคำถามที่ ผมคาใจตนเอง และอยากทราบจากปากของท่านโดยตลอด วันนี้ จึงกระจ่าง ว่าทั้งหมดนั้นเป็นพลังของกสินลม และกสินไฟ

โดยเราเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาแล้วมากมาย ยกตัวอย่าง เช่น หลวงพ่อโก๊ะ วัดเก้าห้อง
ที่ซ้อนมอเตอร์ไชค์ ตากฝน แต่ท่านกลับไม่เปียกฝนเลย แม้แต่เม็ดเดียว

วันนี้ ผมได้เจอแล้วกับตนเอง ท่านแสดงให้รู้ โดยที่เราไม่รู้ ผ่านการเสกที่แตกต่าง

บันทึกไว้เมื่อ 12 เมษายน 62
พิธี เปิดโลก

 

หลวงพ่อคง พระอรหันต์ร่างทอง
แห่งสำนักวัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรี
ผู้สอนกรรมฐานเปิดโลก สู่หลวงปู่เจ
... สอนกลางแดด กลางฝน....
ไม่แปลกใจที่หลวงปู่เจ ยืนกลางแดดได้นานเป็นชั่วโมงๆๆคับ

 

สาธุ

 

สาธุๆๆ ติดตามครับ