ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จร่างพระธรรมพระเจ้าซ้อนเงา(ภาคหล่อเลี้ยงพ่อจักรพรรดิเงา) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ชุดนี้พิมพ์สวยคมจริงๆ โดยเฉพาะของฝังหลังที่เป็นพระแม่ทั้งสามแต่ละอย่างก็มีประสบการณ์สูงๆทั้งนั้น อาราธนาห้อยเดี่ยวๆได้เลยครับองค์นี้ ไม่มีด้านไหนที่ไม่มี เพราะสมบูรณ์และดีครบจริงๆ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    "จิตสงบ" กับ "จิตว่าง" แตกต่างกันอย่างไร

    ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจ ให้ถูกต้องเสียก่อนว่า จิต คืออะไร

    จิต คือนามธรรมอย่างหนึ่ง ที่มีอยู่ในตัวเรา มีหน้าที่คิดตามสิ่งที่มากระทบ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเมื่อมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบ วิญญาณจะรับรู้ จิตก็จะทำหน้าที่คิดตามสิ่งนั้น ๆ จิตจะคิดผิดหรือคิดถูก ขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้น จิตถูกปัญญา หรือกิเลสครอบงำ จิตก็จะคิดตามอำนาจของกิเลส หรือปัญญา

    ด้วยเหตุนี้จิตจึงไม่มีความสงบ และไม่ว่างเลย ดังนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสสอนให้เราทำจิตให้สงบ และทำจิตใจให้ว่าง โดยมีอุบายหลายอย่างให้เลือกปฏิบัติ เพื่อให้ถูกกับจริตของแต่ละบุคคล ที่เรียกว่า การฝึกสมาธิ คือการใช้สติควบคุมจิตให้อยู่ที่เดียว กับบทภาวนาบทใด บทหนึ่ง ที่ถูกกับจริตของแต่ละบุคคล เมื่อฝึกภาวนาบ่อย ๆ จะเห็นว่า จิตจะอยู่กับบทภาวนานั้น ๆ ได้นาน ๆ จิตจะไม่ฟุ้งซ่าน ที่เรียกว่า จิตสงบเพราะเวลานั้น จิตจะถูกสติควบคุมให้อยู่ที่เดียว กิเลสไม่สามารถปรุงแต่งจิตได้

    แต่เมื่อออกจากสมาธิแล้ว กิเลสที่มีอยู่ในจิตก็จะออกมาปรุงแต่งสิ่งที่มา กระทบ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้มีอารมณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นได้อีกเหมือนเดิม เพราะว่าการฝึกสมาธิ เป็นการฝึกสติให้ควบคุมจิต ให้อยู่กับบทภาวนาที่เดียวเท่านั้น ไม่มีการคิดชำระกิเลสจึงไม่เกิดปัญญา ฉะนั้นการทำสมาธิเพียงอย่างเดียว ทำให้จิตสงบเท่านั้น นี้คือ การฝึกจิตให้สงบ

    จิตว่าง หมายถึง จิตที่ถูกฝึกดีแล้ว เพราะมีสติ ปัญญาควบคุม เมื่อจิตสงบแล้ว ปัญญาจะใช้ให้จิตคิด พิจารณาสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา และสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ให้รู้แจ้ง เห็นจริง ตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสสอนไว้ ที่เรียกว่า "พระธรรม"

    ตัวอย่างเช่น ท่านสอนให้เรารู้ว่า เรามีกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำจิตเราอยู่ ผู้ใดที่มีกิเลสทั้งสามอย่างนี้ ครอบงำอยู่มากก็จะเป็นทุกข์มาก ผู้ใดมีกิเลสครอบงำจิตอยู่น้อย ก็จะมีความทุกข์น้อย พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงสอนวิธีการชำระกิเลสให้หมดจากจิต ไว้มากมายหลายวิธีด้วยกัน แล้วแต่ผู้ใดจะนำบทใดบทหนึ่ง ที่สมควรกับตนมาพิจารณา และปฏิบัติตาม เมื่อชำระกิเลสให้หมดจากจิตแล้ว จิตก็ไม่เป็นทุกข์ จิตจึงว่าง จากความร้อนรนกระวนกระวาย กระสับกระส่าย ฟุ้งซ่าน จิตจะมีอารมณ์ที่เป็นอุเบกขา คือ เป็นกลางไม่ทุกข์ไม่สุข เพราะจิตไม่มีกิเลสครอบงำ นี่คือ ความหมายของคำว่า จิตว่าง (ว่างจากกิเลส)

    ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ จะเห็นได้ว่า จิตสงบ กับจิตว่างแตกต่างกันจริง ยังมีผู้ที่เข้าใจผิดอยู่มาก ว่าจิตสงบกับจิตว่างนั้นเหมือนกัน

    ขอให้ท่านลองพิจารณาดูว่า จิตของท่านเคยสงบ หรือว่างบ้างหรือยัง ถ้ายังขอให้ท่านฝึกสมาธิเพื่อให้จิตสงบ และเจริญวิปัสสนา คือการนำพระธรรมคำสอนของพระผู้มี พระภาคเจ้า มาพิจารณาไตร่ตรอง ให้เกิดปัญญา ที่รู้แจ้งเห็นจริง เพื่อนำมาชำระกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้หมดจากจิตของท่าน และท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเองว่า จิตของท่านว่างจากกิเลส คือความโลภ ความโกรธ ความหลง ในที่สุดท่านก็จะเห็นจิตสงบและจิตว่าง พ้นจากความทุกข์ มีแต่ความสบายตลอดไป

    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่อัครพงศ์ ED 8363 8621 7 TH

    พี่ณธพรหม ED 8363 8622 5 TH

    พี่กีรติศักดิ์ ED 8363 8623 4 TH

    พี่สุรวุฒิ ED 8363 8624 8 TH
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ที่ผ่านมาเรื่องเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งต่างๆจะมีคนขอคำปรึกษากันเข้ามาถี่มาก เรียกว่าเป็นหนึ่งในคำถามยอดนิยมพอๆกับเรื่องผัวๆเมียๆที่ขอคำปรึกษากันมาเลยทีเดียว ตั้งแต่ตำรวจทหารอยากทำตะกรุดหนุนดวงเพื่อใช้เลื่อนขั้นบ้าง,อยากติดอัยการบ้าง,ผู้พิพากษาบ้าง,อยากขยับตำแหน่งในองค์กรบ้าง...สารพัดจะมีทุกสายอาชีพ อันนี้เราเข้าใจอยู่ว่าคนเราปกตินั้นทำงานก็หวังความเจริญเติบโต งานที่ทำมันต้องก้าวหน้าได้ ก็นับเป็นเรื่องที่ดีเพราะคนจะได้มีกำลังใจมีจุดหมายที่อยากทะยานไปให้ถึง

    ทีนี้ที่ผ่านๆมาสำหรับเรื่องเลื่อนยศเท่าที่เห็นและพ่ออาจารย์ท่านแนะนำให้บูชามหาเทพ..องค์หนึ่งไปก็เห็นว่าสำเร็จทุกราย แต่จะเป็นเทพองค์ไหนอันนี้เอาไว้ติดตามกันอีกที พูดให้ถูกคือท่านมีดีกว่าเรื่องพวกนี้ ยิ่งถ้าใครใช้เป็นขอเป็นนี่ชีวิตยิ่งสมบูรณ์พร้อมเลยทีเดียว เพราะยังไม่เคยนำออกมาให้บูชากันเป็นเรื่องเป็นราว แต่สำหรับคนที่ใช้ก็ต้องยอมรับกับเขาว่าเป็นของมากประสบการณ์ชิ้นนึง ใครที่เล็งๆอยู่เรื่องขยับฐานะเลื่อนขั้นเหล่านี้ก็มองๆเอาไว้อย่าพลาดรายการนี้ก็แล้วกันนะครับ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ชัยวัฒน์ ED 8363 8769 9 TH

    พี่ศิระ ED 8363 8770 8 TH
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเปิดรายการหนึ่งเพราะกระแสอยากได้ของดีราคาเบาเรียกร้องกันมามาก ชุดนี้ต้องบอกเลยว่าในอดีตถ้าเป็นชุดไม้แกะสลักก็ถือว่าเป็นยุคแรกๆของท่านซ้ำยังทำไว้ไม่ถึงสิบชิ้นเพราะทำต่อไม่ได้ด้วยมวลสารไม่พร้อม เรียกว่ารายการนี้คนผิดหวังกันเป็นร้อยเลยในหลายปีที่ผ่านมาดั่งคำว่ามีเงินก็ซื้อไม่ได้ในเมื่อท่านไม่ทำ ซ้ำถ้าย้อนไปดูชุดนั้นก็ถือว่าราคาสูงจริงๆ แต่รายการวันพรุ่งนี้ท่านว่าใช้แทนกันได้ ซ้ำยังเป้นของที่มีประสบการณ์สูงซึ่งท่านเคยออกให้คนที่ขอบูชารายการไม้แกะสลักเอาไปใช้แทนกันก็นับว่าได้ผลดีเกินคาด ใครชอบของแรงๆที่มีความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองพรุ่งนี้ห้ามพลาดนะครับเพราะชุดนี้ท่านทำเก็บเอาไว้ตั้งใจจะให้ใช้แทนรายการที่ราคาแพงจริงๆ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ร่วมทำบุญบูชา พระภควันกฤษณะยกชีวิต(ขยับฐานะมหาสารถี)

    ทำไมพ่ออาจารย์ถึงอยากให้คนบูชาพระกฤษณะ,และจำเป็นต้องใช้พระกฤษณะ
    เราจะรู้จักพระกฤษณะกันดีในฐานะเทพเจ้าแห่งความสุข ความรื่นเริงในชีวิต รวมไปถึงวิถีแห่งความหลุดพ้น ความบันเทิง เสน่หาเเละความรัก พ่ออาจารย์ท่านว่าพระกฤษณะที่ท่านเชิญองค์อวตารให้มาอยู่ใกล้ชิดพวกเรานั้นก็เพื่อประโยชน์ในพลังแห่งการสร้างสรรค์ชีวิตจริง ใครบ้างที่ต้องใช้ภควันกฤษณะเยียวยาชีวิตเขา
    - คนที่ขาดความสุข..ต้องมีภควันกฤษณะ
    - คนที่ชีวิตมีความทุกข์..คนที่คิดมาก,ไม่มีอิสระในชีวิต ขาดความสะดวกสบายสนุกสนาน ...ต้องมีภควันกฤษณะ
    - คนที่ต้องการความบันเทิงแห่งกามคุณทั้งรูป,เสียง,กลิ่น,รส ถ้าปรารถนาจะเอาดีทางโลกไซร้...ต้องมีภควันกฤษณะ
    - คนที่ขาดความรัก ขาดคู่ครอง...ต้องมีภควันกฤษณะ
    - คนที่แสวงหาวิถีแห่งความหลุดพ้น ต้องการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า..ต้องมีภควันกฤษณะ
    เพียงเราเลือกใช้ ให้พระองค์เป็นสารถีขับทะยานนำพาชีวิตเราออกจากวิกฤติ,จากความมืดที่มองไม่เห็นทางออก,ไม่เห็นแสงสว่างใดๆ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นย้ำว่าไม่ใช่แค่จำเป็นแต่มันต้องใช้และควรจะใช้ ควรที่จะเลือกพระกฤษณะให้เป็นสารถีที่จะนำเราไปหาชัยชนะแลเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่ปรึกษาช่วยให้เราเอาชนะใจตัวเอง เอาชนะข้าศึกศัตรู เอาชนะพันธนาการชีวิตของเรา ให้พระองค์ปลดปล่อยเราเช่นนี้ ### ท่านว่าในหมู่มหาเทพแล้ว มองไปทางใดย่อมไม่เห็นและไม่มีใครยอมเสียสละตนเองมาเป็นสารถีนำชีวิตอยู่กับมนุษย์เช่นพระกฤษณะเลย


    หนึ่งในอวตารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศรีหริวิษณุนารายณ์เป็นเจ้า ปางอวตารที่ปรากฏชื่อเสียงและเกียรติคุณกึกก้องทั่วทั้งโลก เป็นที่ศรัทธาอย่างยิ่งในกลุ่มยุโรปรวมไปถึงอเมริกาพ่ออาจารย์พลได้เมตตาสร้างพระกฤษณะขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของท่านเเละของมนุษย์ทั่วไป ที่ท่านตั้งใจไว้ว่าอยากจะเห็นคนในชาติรักกันดั่งพี่น้องไม่ทะเลาะเบาะเเว้งกัน(ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐาน) เเต่ยังมีสิ่งที่เหนือไปกว่านั้น มาฟังทัศนคติของพ่ออาจารย์พลกัน เคยพิมพ์บอกไปแล้วว่าอารยธรรมที่เเท้นั้นการเคารพพระรูปอวตาร ไม่ได้กระทำการบูชารวมกับเทวะองค์ต้นในที่นี้คือพระนารายณ์ เเต่เป็นการบูชาเเละเคารพในฐานะเทวะองค์หนึ่งซึ่งจะมองผิวเผินว่าแยกกันไปก็ได้ พระภควันกฤษณะนั้น เป็นมหาอวตารที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งถือคติว่าเป็นการลงมาปรากฏรูปของพระผู้เป็นเจ้าสูงสุด เพื่อกระทำเเละสำเร็จภารกิจต่างๆ ดังนั้นในการอวตารเเต่ละครั้ง จึงลงมาชนิดที่เรียกได้ว่าอาจจะมีความเก่งกล้าสามารถเฉพาะด้านที่เน้นกันซึ่งเป็นที่นิยมว่ามีมากกว่าองค์ต้นกำเนิดก็ได้ตามชะตาความสูงส่งและวาสนาการอุบัติแต่ละครั้ง เรียกง่ายๆว่า หากคิดบูชาเทวะเช่นพระนารายณ์เพราะคิดว่าครอบคลุมไปทุกอย่างทุกภาคอวตารของพระองค์มีคุณทุกด้านเสมอกันเเล้วนั่นย่อมถือได้ว่าคิดผิดไป พระภควันกฤษณะนั้น ได้รับการบูชาเป็นเอกเทศน์ ที่เเม้เเต่อื่นใดพระองค์ยังมีสิทธิเหนือสิทธิอัครบูชาของพระพิฆเณศด้วยซ้ำ กล่าวได้ว่าเเม้เเต่การบูชาพระวิษณุนารายณ์เป็นเจ้ายังต้องออกนามพระพิฆเณศวรก่อน แต่กับภควันกฤษณะนั้นสามารถออกนามบูชาได้เลยเเละสำเร็จประโยชน์เสมอกันโดยไม่ต้องออกนามพระพิฆเณศ เพราะพระองค์นั้นอยู่นอกเหนือเหตุผลเเละหลักการทั้งมวลนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านได้สังเกตุเห็นสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างมาก นั่นคือการพัฒนาสภาวะทางจิตใจควบคู่ไปกับความเชื่อจนลืมรากเหง้าที่เเท้จริง ท่านไม่อยากเห็นความเชื่อผิดๆหลงเหลืออยู่ในสังคมไทยอีก เช่นการบูชางั่ง ต้องเอาไปซุกไว้ในกางเกงในเชื่อว่าบูชาเเล้วทำเช่นนี้เสน่ห์จะดีมากๆซึ่งตัวพระเกจิผู้เสกก็ได้ผูกเรื่องเชื่อมโยงไปเช่นนี้เป็นต้น และความเชื่อนี้ก็เเพร่ไปไวซะด้วย เป็นการสนใจทางการตลาดจนดึงฟ้าลงมาต่ำอย่างไม่รู้ตัว เทวะที่สูงส่ง ถ้าผู้เคารพที่เเท้จริงต้องเอารูปเปรียบอวตารของพระองค์มาบูชาในกางเกงในมีการนำไปจิ้มอวัยวะเพศสตรีเช่นนี้เป็นต้น ไม่ทราบว่าคิดได้อย่างไรว่านี่คือการบูชาพระศิวะเจ้า นำไปผูกเรื่องเชื่อมโยงได้อย่างไรเเค่เราเห็นก็นึกขำเเล้ว ประกอบกับเมื่อท่านได้นำงั่งที่พระเกจิบอกว่าเป็นมหาอวตารเเห่งพระศิวะนั้นมาตรวจสอบจิตวิญญาณเจตสิกต่างๆมันก็คือภูติพรายนั่นเอง สังคมไทยเป็นสังคมที่ละเอียดอ่อน มักจะตื่นข่าวเเละเชื่อกันไปโดยง่ายทั้งที่เนื้อหามันก็เเย้งอยู่ในตัวเอง เชื่อโดยปราศจากความคิดการพิจารณาข้อเท็จจริงให้ถ่องเเท้ เชื่อเพียงเพราะเห็นว่าผู้กล่าวเป็นพระคงไม่พูดโกหกเช่นนี้ก็มี ขอให้เป็นความเชื่อที่ตอบสนองความต้องการของตนเองได้เท่านั้นพอ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านไม่อยากเห็นความเชื่อผิดๆทำนองนี้ โดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เรากลัวการปรามาสพระรัตนไตรอย่างไร ไอ้ที่เราทำนี่ยิ่งกว่าปรามาสเเละดูถูกพระเจ้าสูงสุดของศาสนาเขาเสียอีกนะตั้งแต่พกในที่ต่ำนำไปทำในจุดอุบาทว์..ซึ่งนี่คือสิ่งที่ท่านไม่อยากเห็นเเละไม่อยากให้เกิด เมื่อคนแสวงหาสุดยอดวัตถุที่มีรูปลักษณ์ เพื่อจะนำมาใช้ให้เกิดมรรคเกิดผล ทางเรื่องของโลกด้านความสุข,เสน่หา,ความรักให้เป็นมงคลเเล้ว ท่านว่าเราก็จะขอทำวัตถุมงคลที่มีอำนาจในการสะกดอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งในอดีตจะไม่มีเเละอนาคตก็จะไม่ปรากฏอีกด้วยในรูปลักษณ์ของวัตถุมงคลเเบบนี้

    พ่ออาจารย์พลได้กล่าวว่า สำหรับผู้ที่เเสวงหาความรัก เเละต้องการเจอรักแท้และความรักอันบริสุทธิ์ที่ฝ่ายตรงข้ามจะมีให้เรานั้น นี่คือคำตอบทั้งหมด เเม้เเต่ปรารถนาอยากมีความรักมากหน้าหลายตาชนิดที่จัดระเบียบได้อยู่ในโอวาทของตน สิ่งนี้ก็คือคำตอบอีกอยู่ดี คุณวิเศษของภควันกฤษณะนั้น ผู้ทำจะต้องรู้เเละเข้าถึงเข้าใจเองเสียก่อน ต้องมีการปฏิบัติบูชาเองเสียก่อน ไม่ใช่นึกอยากทำก็ทำอยากจะลงก็ลง จะไปเอาอะไรมาลงรูปของท่านได้หากขาดศรัทธาเเละการปฏิบัติที่เเท้จริง ซึ่งพ่ออาจารย์พลท่านก็ได้ปฏิบัติมานานเเล้วทำให้ท่านประสบความสำเร็จเรื่องความรักมากมายในอดีต ท่านยอมเปิดเผยเรื่องเหล่านี้เเละยอมสร้างยอดวัตถุมงคลเพื่อให้เป็นตำนานอย่างเเท้จริง เเม้เเต่ตอนคิดจะสร้าง ท่านยังปรารภว่าจะสร้างเสด็จพี่เราก็ต้องขออนุญาติท่านเสียก่อนซึ่งบอกเลยว่าท่านใช้สื่อขออนุญาติกับสิ่งที่ท่านเรียกว่าเสด็จพี่นี้เป็นอาทิตย์เพื่อให้ท่านยอมลงมาโปรดคน พระภควันกฤษณะนั้น ท่านตั้งใจจะทำให้ดีสุดๆยิ่งกว่าของที่เขาเอาไปใช้ในทางเสื่อมกันเสียอีก ท่านบอกว่าทำครั้งนี้มีอาถรรพ์สูงสำหรับผู้สร้างซึ่งส่งผลต่อสุขภาพท่านเองโดยตรงทำให้ไม่มามารถสร้างเยอะๆได้ ภควันกฤษณะนั้นนอกจากจะเก่งเรื่องการรบ ชนิดที่ว่าสามารถสยบอริราชศัตรูได้ทั่วทุกสารทิศเเล้ว เเม้เเต่เรื่องมหาอำนาจก็ใช่ย่อยเพราะกษัตริย์ทุกเเว่นเเคว้นทั้งชมพูทวีปก็เคารพเกรงใจท่านเสมอพระเจ้าที่มีชีวิต...เป็นดั่งพระเจ้าในหมู่กษัตริย์นั่นเอง ส่วนเรื่องความรักนั้นท่านยิ่งกว่าขุนแผนเสียอีกเพราะวีรกรรมความรักของท่าน ท่านมีพระชายาเป็นหมื่นเป็นเเสนนางเเละด้วยสภาวะที่เป็นมหาอวตารเเห่งพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ก็นิรมาณกายอยู่กับพระชายานับหมื่นนับแสนได้ในเวลาพร้อมกันอีกด้วย(เห็นมั๊ยว่าความรักของพระองค์จัดระเบียบได้) จะเรียกว่าท่านเป็นพระมหาจักรพรรดิ์ที่ลงมาผ่านโลกเพื่อเเก้ไขวิกฤติการณ์ทำลายล้างคนพาลทุจริตในยุคนั้นก็ได้ เเต่ตำนานความรักของพระองค์ก็ปรากฏเกียรติคุณโด่งดังไม่เเพ้วีรกรรมศักดิ์สิทธิ์ที่พระองค์ลงมากระทำในฐานะพระผู้เป็นเจ้าเลย

    พ่ออาจารย์ท่านประสงค์จะนำภควันกฤษณะมาสร้างเพื่อช่วยเหลือทุกคนอย่างเเท้จริง ท่านบอกว่าเชื้อสายของคนไทยทุกยุคทุกสมัย ก็ล้วนอ้างสิทธิ์สืบเชื้อความเป็นกษัตริย์โดยชอบธรรมจากพระองค์ทั้งสิ้น บรรพบุรุษของเราเเต่โบราณสร้างบ้านเเปลงเมืองอย่างทวาราวดี ชื่อทวาราวดีก็นำมาจากเมืองทวารกาเมืองหลวงของพระกฤษณะนั่นเอง ไม่ต้องมองไปไกลถึงยุคทวาราวดีหากจะเอาเพียงเเค่อยุธยา พระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนาชื่อก็มีสร้อยนามทวาราวดีติดมาด้วยทรงไม่ลืมรากเหง้าของบรรพบุรุษตนเองนั่นเอง เเละอีกย่างท่านก็หมายให้มหานครอยุธยามีความรุ่งเรืองมั่งคั่งเช่นทวารกาในสมัยของพระกฤษณะด้วย จะเรียกได้ว่าพวกเราทุกคนนั้นสืบเชื้อเป็นลูกหลานของพระองค์มานานนักหนาเเล้วก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ขึ้นอยู่ที่คนนะ ถ้าเขานึกถึงพ่อของเขาเมื่อไหร่ พ่อที่นึกถึงลูกเสมอก็ย่อมตามหาเเละช่วยเหลือเขา ทำไมพ่ออาจารย์ถึงสร้างพระภควันกฤษณะในยุคนี้ นั่นก็เพื่อให้เหล่าศิษย์ประสบความสำเร็จในความปรารถนาทุกเรื่อง ท่านอธิบายว่าเพราะภควันกฤษณะนั้นต่างจากมวลเทวะองค์อื่น พระองค์ย่อมระลึกถึงเราเป็นอันดับแรกอยู่เสมอหากเราระลึกถึงพระองค์ หากเราคิดถึงท่านท่านก็คิดถึงเรา หากเรากล่าวนามท่านท่านก็กล่าวนามเรา หากเราปฏิบัติบูชาท่านท่านก็จะสนองสิ่งที่เสมอกันนั่นคือความสุขทางโลกที่ดีที่สุดทุกทางถึงขั้นบรมสุขให้กับเรา ทีนี้เข้าใจกันรึยังว่าทำไมเราถึงสร้างเเละอยากให้มีติดตัวกันไว้ทุกคน

    การบูชาพระภควันกฤษณะนั้นไม่สามารถทำได้เลยเเค่การท่องคาถาปากเปล่า..ไม่ได้เรื่องเเละไม่ได้ผล เพราะสิ่งที่พระองค์จะตอบสนองให้เป็นสิ่งที่เรียกว่าเกินการคาดเดาของมนุษย์เสมอๆ การเข้าถึงต้องใช้ศรัทธาโดยปราศจากความกังขาล้วนๆ ต้องใช้การปฏิบัติบูชา สิ่งนี้คือตัวเเปรสำคัญทีเดียวที่จะวัดกำลังใจคนใช้ เรากล่าวได้เลยว่าทุกเรื่องอย่าว่าเเต่ความรักเชิงชู้สาวเลยปรารถนาจะหาคู่ชีวิตนั้นเลย สิ่งต่างๆล้วนเกิดขึ้นได้ชนิดที่เกินความคาดหมายหากระลึกถึงพระองค์เเละบูชาอย่างถูกต้อง หากจะมองว่ายากก็ยากนัก หากมีปัญญาจะมองว่าง่ายก็ง่ายนิดเดียว การปฏิบัติบูชาที่เราบอกนี้ให้ใช้ใจล้วนๆ ใช้ความรักมอบให้กับพระองค์ ความรักที่เรามอบให้ยิ่งบริสุทธิ์ใจรักและเทิดทูนโดยปราศจากข้อกังขาเท่าไหร่ ท่านก็จะรักเเละเทิดทูนสนองเรากลับมาเท่านั้น ฟังไม่ผิดเลย ถ้าจะหาจอมเทพที่เป็นกันเองเเละให้เกียรติผู้ที่เคารพตนเองเสมอด้วยตนเองเเล้ว ก็นี่เเหละคือคำตอบทำให้เราเรียกท่านว่าเสด็จพี่ เพราะท่านยึดถือความเสมอภาคเเละสนองตอบทุกอย่างเท่ากับน้ำใจของเรานั่นเอง พ่ออาจารย์ได้สร้างพระภควันกฤษณะขึ้น ท่านบอกว่าเราตั้งใจที่จะทำให้เหมือนกันทุกองค์(ท่านตั้งใจทำมาก)หล่อออกมาถือว่าสวยทีเดียว โดยใช้ธาตุกายสิทธิ์มาผสมกับแผ่นจารคุณวิชาหลอมหล่อขึ้นมา

    พ่ออาจารย์ให้เหตุผลว่า การปรากฏรูปของพระองค์จะปรากฏพร้อมขลุ่ยเสมอ ดังนั้นที่เราขอความเห็นจากท่าน เราจึงทำในลักษณาการที่พระองค์ท่านทรงขลุ่ยอยู่ มนต์ขลุ่ยของพระองค์นี้สะกดได้อย่าว่าเเต่อิสสตรีก็เรียกมาหาได้เลย ท่านสะกดได้เเม้เเต่เทพเทวดา,สะกดได้แม้แต่กองทัพที่กำลังทำสงครามพร้อมจะฆ่ากันให้ตาย คนที่มีอารมณ์โกรธเกรี้ยวโมโหร้ายต่างๆ สัตว์เดรัจฉานต่างๆ เสียงขลุ่ยของพระองค์ท่านสะกดเรียกได้ทั้งหมดยิ่งกว่ามนต์จินดามณีเสียอีก พ่ออาจารย์พลท่านคิดจะทำก็ต้องทำให้ดีที่สุด ท่านบอกว่านี่จะเป็นเครื่องรางที่ใช้ในการสะกดได้สมบูรณ์แบบทีเดียวเเละอิทธิคุณจะออกทุกด้านตามที่ผู้ต้องการจะอธิษฐาน จะสำเร็จมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกำลังใจเเต่ละคนที่สนองตอบกันกับท่าน ที่เราทำปางทรงขลุ่ยก็หมายให้สะกดทางด้านเสน่หาเชิงชู้สาวนั่นเเหละเพราะเราถือว่าทำให้ดีให้เเรงเสียยิ่งกว่าตอนทำงั่งเสียอีก นอกจากนี้ผู้ศรัทธาก็สบายใจได้เลยนอกจากมนต์สะกดเเล้วอาวุธเอกของพระภควันกฤษณะที่พระองค์ทรงใช้ประหารเหล่าพาลทุจริตรวมไปถึงยักษ์มารต่างๆก็คือสุทัศนจักรเช่นเดียวกันกับองค์พระนารายณ์ เมื่อพระองค์ปรารถนาจะใช้ สุทัสศนจักรก็จะปรากฏรูปออกมา จึงบอกได้เเต่เพียงว่ารูปของพระองค์นี่ดีทุกด้าน มีความหมายเเละพลังในทางมายาที่สูงมาก ไม่ใช่ดีทางเสน่ห์เเละความบันเทิงเท่านั้น ทางด้านมหาอำนาจเช่นกษัตริย์ก็สุดๆ ทางด้านมหาปราบก็ใช่ย่อยเก่งไม่เก่งในตำนานก็รบกับพระศิวะเจ้ามาเเล้วจะเรียกได้ว่าพระกฤษณะนี้เป็นมหาอวตารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ได้ หากเคยเห็นเทวรูปปางนารายณ์เปิดโลกก็เพราะพระองค์นี่เเหละที่กลับคืนสู่พระรูปที่เเท้จริงในสภาวะพระผู้เป็นเจ้ากลางวันเเสกๆให้กับพระอรชุนได้รู้เห็น ด้วยท่านสามารถเปิดโลกเปิดภพภูมิ เปิดชีวิตและเปลี่ยนชะตาคนได้เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำ

    พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจสร้างให้ออกมาสวยงามอย่างมาก ท่านฝังองค์พระกฤษณะกดลงในผงขมิ้นกับปูนผสมกับผงทางเสน่ห์,โชคลาภ,โภคทรัพย์ที่ท่านลบสะสมไว้มากมาย ที่สำคัญท่านได้ลงผงวิชาสาริกาป้อนเหยื่อชนิดที่เรียกได้ว่าผูกรูปผูกนามขึ้นมาด้วย ท่านว่าพระผงรุ่นนี้คือเครื่องหมายของอิสรภาพ ผู้เอาไปใช้จะได้มีอิสรภาพในเรื่องความรักผู้ที่ไม่มีคู่จะได้เจอคู่,ผู้ที่ไม่มีบ้านก็จะได้มีบ้าน...ผู้ที่ขาดฐานะก็จะได้ขยับฐานะกันเสียที ด้วยเป็นของที่ท่านเลือกผู้ครอบครอง ถ้านำไปบูชาเพื่อเเสวงหาสรรพทงคลในชีวิตเเล้วท่านว่าเธอจะเจอเสียยิ่งกว่านั้น จะได้มากกว่าที่เธอคิด ..จะสำเร็จมากกว่าที่เธอปรารถนาเป็นขั้นกว่าในทุกๆอย่าง ไม่ต้องไปหวังหรืออย่าไปฝืนนะ สิ่งใดจะเกิดก็ให้มันเกิดถ้าคิดจะบูชาก็จงสนุกไปกับมันก็พอ สนุกไปกับความสุข ความอุดมสมบูรณ์ที่ชีวิตมนุษย์ควรจะมี ท่านว่าไม่กลัวปวดหัวก็ลองพกดู อาจจะมีการปรับธาตุเล็กน้อยในกรณีของผู้ที่ธาตุขันธ์ไม่ค่อยดีเมื่อบูชาท่านแต่หลังจากนั้นท่านจะเริ่มยกชีวิตขยับฐานะให้เราทั้งหมด

    ด้านหลัง ท่านฝังพ.พานวิเศษที่เป็นดั่งแก้วสารพัดนึกหากบูชาและปรารถนาสิ่งใดขึ้นชื่อว่าการนึกอยากได้หรือต้องการอยากได้อะไรก็จะได้ดังใจปรารถนา ผู้ใดได้ไว้ครอบครองตั้งมั่นในศีลธรรม,ในความดี สิ่งต่างๆก็จะได้สมใจนึก ด้วยตัวพอพานนี้เป็นของวิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าทางพุทธก็ใช้แทนพระรัตนตรัย แต่ถ้าทำตามคติเราก็ใช้แทนตรีเทพสูงสุดเป็นตัวแทนของคำว่าพ่อได้เช่นกันเป็นของดีที่วิเศษยิ่งกว่าสิ่งใดๆในโลกนี้ เพราะคำว่าพ่อนั้นย่อมผูกสายสัมพันธ์ลึกซึ้งเข้าไปถึงใจถึงแก่นชีวิตของลูกๆ จะมีใครคิดถึงเราหรือเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเรามากกว่าพ่อของเราเอง เช่นนั้นองค์พระกฤษณะที่ท่านทำพยนต์ตัวพอนี้ฝังไว้จึงเปรียบดั่งพ่อที่เปิดใจพร้อมจะฟังและเชื่อสายสัมพันธ์กับลูกที่มีวาสนาร่วมกัน พยนต์ตัวพอพานของท่านเป็นของมีชีวิต ยามจะเกิดภัยจะสามารถส่งเสียงร้องเตือนได้และยังใช้ได้ทั้งทางแคล้วคลาด,เมตตามหานิยมเป็นดั่งแก้วสารพัดนึก

    คาถาบูชา
    โอม ฮเรกฤษณะ นะโม ภควเต ศรีกฤษณะ วาสุเทวาไยนะมะฮา ขอองค์พ่อพระกฤษณะจงมาโปรดลูกคนนี้ให้เรากินอิ่มนอนหลับทรัพย์ไม่ขาดมือ ขอองค์พ่อจงมาโปรดลูกคนนี้หากเราปรารถนาสิ่งใดแล้วไซร้ก็ขอให้เป็นไปได้ดั่งปรารถนา ภควันกฤษณะจงมาโปรดลูกคนนี้ความใดอย่าให้ถูก โรคภัยอย่าได้มี ขยับฐานะยกชีวิตลูกทุกๆด้านนับจากบัดนี้เถิด

    *** ภควันกฤษณะนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของมีเจ้าของถือครองครบทุกองค์ คนที่ไม่มีวาสนาทางโลก หรือไม่มีชะตาเชื่อมต่อพอที่จะได้เป็นพ่อเป็นลูกกับพระองค์ท่านก็จะมองข้ามและมองไม่เห็นค่าของสิ่้งนี้เลย..เป็นของเฉพาะคนที่เลือกท่านและท่านก็เลือกเราเท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลและความสำเร็จ(บางประการที่ต้องการมากที่สุดในชีวิตอยากจะขออยากจะบอกองค์พระกฤษณะไว้) พ่ออาจารย์ท่านจะเจิมเบิกเนตรและบอกกล่าวให้ตามสมควรอีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมบริจาคทุนการศึกษษเด็กชาวเขาที่ขาดโอกาสและด้อยพัฒนาสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระภควันกฤษณะยกชีวิต(ขยับฐานะมหาสารถี) บูชา 2,500 บาท

    67850243-753516595063739-6961406361997410304-n.jpg 69092819-497101867785336-3131247423272255488-n.jpg
    68448066-355269705362230-7782003990392209408-n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    รายการพระกฤษณะนี่มีคนจองเล่าว่าแค่เห็นก็รู้สึกปิติขนลุกน้ำตาไหลกันแล้ว ก็เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลนะครับ ดั่งที่กล่าวว่าเราเลือกท่านท่านเลือกเรามันขึ้นอยู่กับใจเราเพียงเท่านั้นจริงๆ เพราะท่านก็แรงได้เท่าใจ(ศรัทธา)ของเรา
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    พรุ่งนี้ส่งของให้นะครับ

    - คนที่ถามว่าช่วงนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่มีตะกรุดสังวาลย์ชุดใหม่ๆออกบ้างมั๊ย อันนี้ก็มีนะครับแต่เป็นสังวาลย์ชุดเล็ก
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ช่วงนี้มีแต่คนสอบถามหาตะกรุดรายการรุ่นเก่าๆมาเยอะมาก ผมก็ปฏิเสธไปว่าของไม่มี หลายๆท่านจึงถามว่าอยากได้จริงๆมีอะไรบ้างมีอะไรเหลือบ้าง อันนี้ผมแนะนำนะไม่ต้องไปเปิดดูเลยหน้าแรกๆ ให้ดูที่ผมโพสต์รายการล่าสุดไว้เป็นหลักหรือไม่ก็เลื่อนขึ้นไปได้อีกรายการสองรายการถามแบบนี้ยังอาจจะมีของเหลือบ้าง แต่ถ้าย้อนไปเกินเดือน ส่วนมากจะไม่มีแล้วนะครับ ยิ่งของหลายๆปีถ้าไม่ใช่แบบที่ท่านตั้งใจเก็บไว้จริงๆนี่ยิ่งยาก ไม่มีของเลย อันนี้ก็เอามาแนะนำกันสำหรับคนที่ส่งคำถามสอบถามกันเข้ามานะ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ฐิตกาญจน์ ED 8363 8976 5 TH

    พี่ศิระ ED 8363 8977 4 TH
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    พรุ่งนี้จะลงรายการเฉพาะทางที่ได้ชื่อว่าเป็นตะกรุดที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนที่สุดแต่ขลังนักของพ่ออาจารย์ท่าน รายการนี้ที่จริงจะเรียกว่าลงให้จองกันก็พูดได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่เพราะของมีน้อยมากสามารถนับได้ด้วยนิ้วมือข้างเดียว ท่านว่าทำได้แค่ปีละดอกนี่ก็ทำเก็บมาก็มีไม่เกินห้าดอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ติดตามกันแต่ใครอยากได้ก็ย้ำไว้แต่ตอนนี้ว่ารีบหน่อย
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดชำระวิบากดำ,ตัดแรงและบรรเทา(บรมพรหมสำเร็จวิชา)
    "ก็เหตุเกิดแห่งกรรมเป็นไฉน คือ ผัสสะเป็นเหตุเกิดแห่งกรรม..ก็ความต่างแห่งกรรมเป็นไฉน คือ กรรมที่ให้วิบากในนรกก็มี,ที่ให้วิบากในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานก็มี,ที่ให้วิบากในเปรตวิสัยก็มี,ที่ให้วิบากในมนุษย์โลกก็มี,ที่ให้วิบากในเทวโลกก็มี นี้เรียกว่าความต่างแห่งกรรม..ก็วิบากแห่งกรรมเป็นไฉน คือ เราย่อมกล่าววิบากแห่งกรรมว่ามีสามประการ คือ กรรมที่ให้ผลในปัจจุบันหนึ่ง,กรรมที่ให้ผลในภพที่เกิดหนึ่ง, กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไปหนึ่ง,นี้เรียกว่าวิบากแห่งกรรม" พ่ออาจารย์ท่านเข้าใจสภาพชีวิตของคนที่ต้องจมอยู่ในวิบากกรรมชัดเจนดั่งที่องค์พระศาสดาตรัสไว้ว่า"โลกย่อมเป็นไปเพราะกรรม หมู่สัตว์ย่อมเป็นไปเพราะกรรม สัตว์ทั้งหลายถูกผูกไว้ในกรรมเหมือนลิ่มสลักของรถที่กำลังแล่นไปฉะนั้น”

    เพราะวิบากเป็นผลที่เกิดขึ้นจากเหตุแห่งการกระทำกรรมนั้น ตามกฏสังสารวัฏชัดเจนว่าเมื่อมีเหตุก็ต้องมีผลตามมาเช่นกันเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมจะดีหรือชั่วก็มีผลอยู่ในตัวเองทั้งสิ้นทั้งยังจะอยู่ติดตัวเราตลอดไป เพราะทั้งกรรมดีและกรรมชั่วจะคอยอยู่เคียงข้างเราไปตลอดโดยไม่แยกไปไหน ทดแทนกันไม่ได้ไม่ใช่ว่าฉันมีกุศลมากกว่าฉันจะล้างบาปได้เช่นนี้ดั่งที่พระตถาคตเจ้าท่านสอนไว้ว่า “ดูก่อนปุณณะ กรรมสี่ประการนี้..กรรมดำ มีวิบากดำมีอยู่,กรรมขาว มีวิบากขาว มีอยู่, กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาวมีอยู่,กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาวเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมมีอยู่” นั่นหมายถึงทั้งกรรมดำ,กรรมขาวก็มีวิบากกรรมของตนเอง เป็นคนละเหตุ คนละปัจจัยและส่งผลคนละอย่างกัน ดังนี้
    - แนวทาง,ผลและการกระทำที่แสดงออกมาออกมาในด้านลบ คืออกุศล หรือบาป
    - บุญกุศลที่ส่งผลกระทำให้ชีวิตมีความสุขและสังคมก็มีความสงบ หลุดพ้นจากทุกข์ได้
    - เป็นผลแห่งการกระทำที่มีทั้งบวกและลบปนกันทำให้ผลกรรมออกผลมาเกิดทั้งสุขและทุกข์ปนกันไป
    - ส่วนกรรมอันแสดงอยู่เป็นกลางๆนั้นคืออพยากตากรรม เช่นการทำกิจวัตรประจำวันปกติ

    วิบากกรรมนั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว,ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล ล้วนแต่ส่งผลของตนเองทั้งสิ้นโดยมีองค์ประกอบมาจากการกระทำเกิดจากตัวเราเองเป็นเหตุและผลของมัน,เป็นสิ่งที่เราสร้าง,เป็นสิ่งที่เราสะสมมา เมื่อมีปัจจัยย่อมเกิดผลลัพธ์ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ในส่วนที่ดีนั้นก็แล้วกันไปแต่ในส่วนที่ร้ายอันหลายๆคนได้ประสบพบเจอก็จะเป็นเหตุทำให้ชีวิตจ่อมจมและร่วงหล่น เจอแต่สิ่งแย่ๆอุบัติขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนทั้งสิ้น


    พ่ออาจารย์ท่านให้พิจารณากันเองว่าชีวิตของเรานั้นมีเรื่องเหล่านี้หรือไม่
    - เป็นคนทำบุญคนไม่ค่อยขึ้น ลำบากมาตั้งแต่เด็กพอมีเพื่อนเข้าสังคมก็มีแต่ปัญหา เป็นชนวนให้เราเข้าไปพัวพันเรื่องผลประโยชน์ได้เสีย,เรื่องเงินทองทรัพย์สิน ไม่ว่าจะช่วยเหลือใครไปก็ตามคนเหล่านั้นจะหาเรื่องปวดหัวตามมาให้ไม่เว้น ในส่วนคุณงามความดีนั้นแม้เราสงเคราะห์เพียงใดก็ไม่มีใครมองเห็น ทำดีกับใครก็ไม่เกิดผลใดๆ
    - เป็นคนชอบเชื่อคนง่ายและไว้ใจคน ทั้งยังเป็นคนกตัญญูกับผู้ที่ให้การช่วยเหลือแต่มักจะต้องเจอปัญหากับเรื่องของคนอื่นดึงเราไปเกี่ยวข้องอยู่เสมอ
    - มีกรรมจากความรัก มากรักแต่งงานบ่อย ได้คู่ยาก ได้คู่ต้องหลบซ่อน ได้คู่ที่ต่างวัยกัน ยิ่งรักยิ่งเจ็บยิ่งแค้น บางคนก็เกิดมาไร้คู่ ในส่วนคนที่มีคู่ก็กลายเป็นคู่ครองนำมาซึ่งปัญหา มีคู่ที่วาสนาบารมีไม่เสมอกัน เหล่านี้ล้วนเป็นวิบากทั้งสิ้น
    - ชอบโดนกลั่นแกล้ง,โดนรังแก,โดนเอาเปรียบ ยิ่งเราดูสบายๆง่ายๆก็ยิ่งมีปัญหาแบบนั่งอยู่ดีๆก็มีคนใส่ร้ายไม่รอให้เราแก้ไขหรือแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ยิ่งหากตนมีอารมณ์ร้อนเป็นคนตรงก็จะยิ่งโดนรังแกมากขึ้นไปอีก ทั้งโดนเพ่งเล็ง โดนเอาเปรียบสารพัด
    - คนรอบตัวไม่ให้ความสำคัญมักจะนึกถึงเราในอันดับท้ายๆ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากใครเท่าที่ควร
    - งานที่ทำไม่สำเร็จ ไปได้ครึ่งๆกลางๆต้องออกกระทันหัน ต้องเลิกแบบไม่เต็มใจ เป็นคนท้อแท้เบื่อง่าย ชีวิตต้องเหนื่อย ต้องดิ้นรน แบกรับภาระที่เหนื่อยเกินตัวจะรับไหว
    - ปากพาจน มีคนเชื่อถือแต่ก็เอาทุกข์มาให้โดยไม่รู้ตัว มีบุคลิกเจ้าชู้ทั้งๆที่ไม่ใช่คนแบบนั้น นับว่ามีเสน่ห์อยู่ในตัวเองแต่ก็ต้องเหนื่อยเพราะปัญหาที่ไม่ได้ก่อตลอดเวลา
    - เป็นคนไม่รอบคอบ สติหลุดลอยจิตไม่นิ่ง แม้มีปัญญาสูงไหวพริบดีก็จะมีบุคลิกที่ดูไม่จริงใจไม่น่าคบหาเชื่อถือ
    - มักจะปวดหัวอยู่ข้างเดียวเป็นๆหายๆหรืออวัยวะร่างกายมีปัญหา ให้ความจริงใจกับใครก็กลายเป็นว่าอยู่ต่อหน้าเค้าทำกับเราอย่างนึง ลับหลังเค้าทำกับเราอย่างนึง
    - ชีวิตยังไร้จุดหมาย,ยังไม่รู้จักตัวตนของตัวเอง,ยังหาความสุขแท้จริงของชีวิตตัวเองไม่เจอ มีแต่ปั้นหน้ายิ้มแต่ภายในไม่มีความสุข ชอบสงสารชอบเห็นใจคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองใช่ว่าจะดี มีปัญหาทั้งความคิดและอารมณ์ยึดติด อาภัพคนอุปถัมภ์ คิดมากเรื่องเล็กๆน้อยๆ..เรื่องเก่าๆ..หาเงินเก่งแต่ก็ใช้เงินหมด
    - มีชีวิตที่สูญเสีย จ่อมจมอยู่กับเรื่องวิตกกังวล โดนคนเอาเปรียบต้องทุกข์ใจเสมอ พลัดพรากจากคนรักจากของรัก โดนทำร้ายจิตใจ
    ...ท่านว่า
    สิ่งต่างๆเหล่านี้มีมากมายจนยากจะกำหนดเป็นคำพูดหรือตรรกะใดๆได้ ให้พิจารณาดูว่าตัวเองเป็นคนที่เจอกับเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ถ้าใช่นั่นก็แปลว่าชีวิตเรานั้นวนเวียนอยู่ในวิบากกรรมที่กำลังส่งผลร้ายมากกว่าดี

    เช่นนั้นท่านจึงได้ทำตะกรุดตามที่ครูพรหมแนะนำและนับเป็นตะกรุดครูไว้ชุดหนึ่ง ซึ่งจะทำได้ปีละดอกเท่านั้น เพื่อหวังผลเจริญศรัทธาให้ผู้บูชานำไปใช้ปรับพลังเหนี่ยวนำคำอธิษฐานป้องกันกระแสกรรมดำหรือไปยุ่ง,ขัดขืน,ต่อต้านกับชะตาฟ้าและอำนาจที่มองไม่เห็น เป็นดั่งกุศลจิตที่ต้องใช้ความตั้งมั่นอย่างสูงด้วยวิชาเหล่านี้พบเห็นได้น้อยมากทั้งยังไม่แพร่หลาย ไม่ใช่ของตลาด กล่าวได้ว่าไม่ใช่นึกอยากจะทำจะเขียนก็ทำได้ ต้องทำตามฤกษ์ ตามปัจจัยมงคลด้วยใจบริสุทธิ์ดั่งเจตนาครูพรหมท่านที่ให้ทำวิชาไว้สงเคราะห์ดุจท่านยืมร่างลงมาทำให้ปีละครั้งเท่านั้น ด้วยเป็นวิชาเทพพรหม เป็นวิชาส่วนตัวของเทพแต่ละองค์ในส่วนนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นวิชาส่วนตัวของครูบรมพรหมสฮัมบดี ครูท่านเล็งญาณกำหนดมาแต่เริ่มทำไว้ให้เป็นของส่วนตัว..ของที่มีชะตาต้องกันคู่กับเจ้าของดั่งฟ้ากำหนด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเช่นนี้ถ้าพกไว้ซักระยะนึงจะเห็นผลมากเกินกว่าคุณวิชาเพราะว่าจิตเรานั้นจะซึมซับกระแสบรมครูเข้าร่าง,เข้าใจซึมอยู่กับเราไปทุกภพทุกชาติ นานไปจะรู้เองว่าสามารถสัมผัสองค์ท่านได้ติดต่อองค์ท่านได้ค่อยๆสว่างมากขึ้น และถ้าสัมผัสกันมากขึ้นเรื่อยๆนานกว่านั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะสื่อสารกับเทพทั่วโลกก็ยังทำได้..อันนี้เป็นเรื่องของครูท่านจะเปิดให้เราหรือไม่เมื่อไหร่ วิชาเช่นนี้เมื่อหมื่นปีก่อนก็ยังมีและปัจจุบันนี้ก็มีแต่จะหาที่แท้จริงนั้นคงยาก ด้วยพระยันต์ที่ท่านลงมาทำให้ก็แปลความหมายไม่ได้เพราะเป็นภาษาของท่านที่ท่านใช้เฉพาะองค์ท่านเอง วิชาตะกรุดนี้จึงเรียกว่า"ตะกรุดพรหมสำเร็จวิชา" คือแปลไม่ได้ รู้เฉพาะผู้ที่ลงและยังเป็นเสมือนรหัสลับ รหัสที่มีแต่ผู้ถือเท่านั้นจึงจะเข้าถึงดั่งเอกสิทธิ์ที่พรหมผู้เป็นบรมบิดาให้ไว้แก่บุตรรักของตน รหัสที่จะให้ใครในโลกล่วงรู้ไม่ได้ นำไปถอดก็ไม่ออก จะเข้มขลังยืนยงด้วยจิตแห่งบรมพรหมนั้นเสมอไป เพราะสร้างขึ้นด้วยพลังจิต ร่ายเขียนด้วยมหาจิตแห่งองค์พรหม แม้คนมีวิชาที่ถอนของถอนคาถาได้ก็ไม่สามารถคัดถอนวิชาเทพพรหมเช่นนี้ได้ถึงกล้าที่จะทำก็เท่ากับสัมผัสลบหลู่องค์ท่านโดยตรงเช่นนั้น ด้วยเป็นของเฉพาะกาลพ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละดอกแต่ละปีท่านก็สร้างมาเพื่อเจ้าของแต่ละคน เราก็ไม่ได้ไปรู้อะไรกับท่านเพราะเมื่อจะทำท่านว่าเพียงแต่ขอยืมร่างยืมสังขารเพียงปีละครั้งชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นเวลา,ฤกษ์,ยามทั้งหลายจึงล้วนเป็นท่านกำหนด เราจะไปจับไปต้องไม่ได้เลย เวทย์มนต์กลใดก็ล้างไม่ได้ อ่านก็ไม่ออกมนต์ก็ไม่มีวันเสื่อม สมดั่งชื่อว่าเป็นของครูที่ทำให้สำเร็จแล้วไม่ต้องการสิ่งปรุงแต่งใดๆแล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเช่นนี้อาจจะมีร่างทรงทำกันเยอะแต่ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ลงมาทำด้วย จะได้ผลไม่ได้ผลก็เป็นไปตามบุญ ท่านว่าในส่วนของท่านท่านเองไม่ใช่ร่างทรงแต่ครูแค่ยืมร่างชั่วครู่เท่านั้นเสร็จกิจก็จบกันไปเป็นเรื่องๆ ดังนั้นวิชาเหล่านี้ถ้าไม่ใช่เทพพรหมจริงทำแล้วจะไม่มีผลใดๆเลยเพราะเป็นวิชาที่อยู่เหนือวัฏจักรจึงมีฤทธิ์ แต่ถ้าหากผู้ทำโดนครอบงำจากภูมิต่ำก็จะขาดฤทธิ์ยิ่งถ้าเป็นผีสิงร่างคนทำนี่ยิ่งใช้ไม่ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าจะยกเว้นพวกมหิทธิกาเปรต,วิชชาตะเปรต,กาลัญธิกาเปรตเหล่านี้ที่สมอ้างชื่อเทพมีร่างทรงทำกันเยอะถ้าพวกนี้ทำก็จะมีฤทธิ์มีความขลัง แต่ก็นับเป็นคนละชั้นกับวิชาเทพพรหมที่ถือเป็นจุดสูงสุดและสูงส่งมานับหมื่นพันปี วิชาของดวงจิตภูมิต่ำเหล่านี้แม้มีฤทธิ์แต่ก็เสื่อมถอยมีวันหมดต่างกันอย่างที่สุดกับวิชาเทพพรหมบริสุทธิ์เช่นนั้น

    ### ตะกรุดนี้ดีอย่างไรพ่ออาจารย์ท่านว่าห้าดอกนี้ก็เป็นของเราเสียดอกหนึ่งแล้ว เราก็ใช้เองของเราด้วย ถามว่าดีอย่างไรครูพรหมท่านบอกไว้แค่ชำระไอวิบากตัดแรงบรรเทา จากที่ตัวท่านใช้ท่านว่ามันไม่ใช่ชำระปกตินะแต่คนที่มีวิบากกรรมเหมือนครูท่านจะรู้ได้ หากเป็นกรรมดำวิบากที่ก่อทุกข์ยิ่งคนจำพวกนี้ใช้ตะกรุด ตะกรุดจะยิ่งมีฤทธิ์แรงกล้ามากกว่าปกติ เราดูได้จากช่วงไหนๆถ้าดวงเราตกพระเคราะห์เสวยอายุ ตะกรุดครูพรหมนี้จะสว่างวาบขึ้นมาเลย สว่างอยู่อย่างนั้นไม่ดับอย่าเผลอไปมองเชียวต้องหยีตากันไปข้างเขาจะชำระไอวิบากกรรมในตัวเรา ..ชำระอย่างไรก็ชำระเข้าตัวเขา การชำระนี่ก็เหมือนเธอใช้เงินชำระค่าใช้จ่ายนั่นแหละจ่ายไปก็จบหนี้กันสิ่งนั้นช่วงเวลานั้นก็ไม่ใช้ภาระของเราแล้ว หมดภาระกันไป จึงเรียกได้ว่าชำระตัดแรงและบรรเทา พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้วฉันไม่ควรพูดเลยเพราะเป็นวิชาของครูบรมพรหม เป็นกิจของท่านที่ท่านเลือกคนของท่าน จะชำระอย่างไรก็เป็นลีลาของท่านเรียกว่าเป็นรหัสลับที่เปิดเผยไม่ได้พอแต่จะบอกได้ว่าให้เอาติดตัวไว้ตลอดก็พอย่าเอาไปติดบ้าน ถ้าติดกับตัวพอมีวาสนาชะตาร้ายเมื่อไหร่นั่นแหละเขาชำระทิ้งทันที ชำระให้ไม่ได้เกิดขึ้นเลย ชำระ ตัดแรง ..บรรเทาให้ชีวิตเราที่ว่าหนักก็เบา ที่เบาอยู่ก็สบาย ด้วยขึ้นชื่อว่าวิบากนั้นย่อมส่งผลได้สารพัดเรื่องตามเหตุและปัจจัยกรรมที่ทำมาต่างคนก็ต่างเรื่องร้อยสาเหตุหมื่นเหตุผล ขึ้นชื่อว่าวิบากแล้วจึงเกินอำนาจผู้ได้ล่วงเกินได้ ยกไว้แต่บรมพรหมอันมีหน้าที่ตรวจสอบและปัดเป่าเคราะห์กรรมของผู้ภักดีเท่านั้น

    เมื่อจิตถูกรบกวนดวงก็ตก ชีวิตก็เครียดใจก็ฟุ้งซ่านอารมณ์จึงหงุดหงิดง่าย เช่นนี้จะคิดจะไตร่ตรองทำสิ่งใดย่อมไม่ออกมาเป็นผลดีแต่เพียงน้อย ด้วยไม่ได้มีสติ ห่วงหน้าพะวงหลังภาระรัดรึงเต็มไปหมด หนักบ่าหนักชีวิตจะวางลงสักอย่างก็ไม่ได้ ด้วยอำนาจร้ายหรือวิบากดำนั้นกำลังต่อต้านความพยายาม,ความสำเร็จของเราอยู่ ใจของเราที่ขุ่นมัว ชีวิตที่มีปัญหา หนทางที่ไม่ได้แก้ไขทุกสิ่งนั้นย่อมมีสาเหตุ ดั่งควันจะไม่เกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีไฟ เพราะสรรพชีวิตมีวิถีให้ตั้งอยู่และดับไป พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอครูบรมพรหมท่านเอาตะกรุดนี้ออกมาเพื่อจะได้ปลดเปลื้องปัญหาทุกข์ของผู้ที่เป็นเจ้าของและมีวาสนาสัมพันธ์กัน

    คาถาบูชา
    โอม สัก ชิต เอกัม พรหมมา โอมอาฮัม พรหมมา อัสมิ
    วิธีใช้ หลังจากท่องคาถาให้ระลึกถึงองค์บรมพรหมและนำตะกรุดจบหัว พร้อมกับออกปากคำว่า"ชำระ" (ตอนนี้เราจะรู้สึกเหมือนมีกระแสพลังงานไหลผ่านหน้าผากเราลงไปทั้งร่าง,บางคนก็รู้สึกเหมือนไฟช๊อต...หรือจะมีอาการปิติอื่นเกิดขึ้นตามแต่ครูท่านบันดาลให้เป็นไปให้เรารู้สึกได้ เสร็จแล้วก็นำมาอาราธนาห้อยคอไว้ตามเดิม ยิ่งชีวิตใครที่ปัญหาเยอะทุกข์เยอะให้หมั่นทำบ่อยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละของที่เกิดขึ้นเพื่อตัวเราเอง ทำเอง ช่วยตัวเอง รอดเอง พ้นเอง แล้วเราก็จะรู้จะเข้าใจว่าเราทำได้ดังนี้เองไม่ต้องพึ่งใคร)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันบอกอะไรไม่ได้มากหรอกนะ พอจะพูดเหนี่ยวนำให้เธอรู้เรื่องได้จากประสบการณ์ที่ได้ลองใช้เองและครูพรหมท่านบอกมาคร่าวๆ เกินกว่านี้ก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเป็นของที่สร้างขึ้นเฉพาะคน สร้างขึ้นตามวาสนา และรอเวลาให้เจ้าของมารับเท่านั้น เธอคิดดูเถิดของแบบนี้ถ้าไม่ยากจริงๆแล้วท่านคงไม่ลงมาทำให้แค่ปีละหน พ้นจากนี้ก็เรื่องของอนาคตแล้วว่าท่านจะลงมาทำให้อีกมั๊ยหรือจะหยุดไปจะพอเท่านี้ เพราะนี่ครูพรหมท่านก็ให้เอาออกมาแล้ว ต่อไปอะไรก็ไม่แน่ไม่นอนแต่เรารู้สึกสังหรณ์ว่าน่าจะไม่มีอีก

    *** ตะกรุดชำระวิบากดำนี้พ่ออาจารย์ท่านทำรวบรวมไว้ห้าดอก ท่านใช้เองดอกหนึ่งจึงมีให้บูชาสี่ดอกเท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM ท่านว่าครูท่านโองการเอาไว้แล้วว่าจะมีเฉพาะเจ้าของเท่านั้นเขาถึงจะสนใจของอันเป็นคู่บารมีของเขา สำหรับผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเอาไวด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะอธิษฐานจิตบอกกล่าวครูบรมพรหมให้อีกคำรบหนึ่ง

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดชำระวิบากดำ,ตัดแรงและบรรเทา(บรมพรหมสำเร็จวิชา) บูชา 4,000 บาท

    68932381-401468887240815-4680539876100145152-n.jpg
    68907806-468603717055031-6442447890278252544-n.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    วิธีชำระจิต

    พึงตั้งใจให้มั่น คำว่า “ตั้งใจมั่น” กับ “ตั้งจิตมั่น” มันต่างกัน จิตน่ะมันต้องหวั่นไหว เป็นธรรมดา ใจมันต้องมั่นคง จิตมันหวั่นไหวใจไม่หวั่นไหว ครั้นถ้าเข้าถึงใจไม่หวั่นไหว อารมณ์ทั้งปวงหมดมันกระทบเข้ามาทุกสิ่งทุกประการสิ่งแวดล้อมน่ะมันทำให้จิตหวั่นไหวอยู่ ตลอดเวลา มันจึงกระเทือนไม่เห็นตัวใจ

    ให้พยายามรักษาใจให้ได้เสียก่อน ตั้งมั่นอยู่ที่ใจเสียก่อน แล้วค่อยพยายามดูเรื่องของจิต ที่มันออกไปนิดๆ หน่อยๆ ไปสู่อารมณ์ต่างๆ เป็นเรื่องของจิต จิตกับใจเป็นคู่กันอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา เมื่อเราจะระงับอารมณ์อะไรก็ตาม อารมณ์มันเกิดขึ้นนั่น มันมาจากของภายนอก มันเกิดมาจากภายนอกแล้วมากระทบจิต ให้จิตนั้นหวั่นไหว ถ้าหากเรากำหนดถึงใจแล้ว ไม่มีอะไรหรอก รู้เท่า รู้เรื่อง มันก็สงบอยู่ ความสงบนั้นให้รักษาให้มาก เราพยายามที่สุด

    ถ้าคนที่ภาวนาเมื่อตนสงบดีแล้ว บางคนจะอาจหาญกล้าหาญเด็ดเดี่ยวว่าถึงมรรคผล นิพพาน จิตเห็นสิ่งทั้งปวงหมดลงสภาพตามเป็นจริง ไม่หวั่นไหวแล้วเวลานี้ เห็นสิ่งทั้งปวง หมดเป็นสภาพอยู่อย่างนั้น คือใจมันตั้งมั่นอยู่ต่างหาก เลยเข้าใจว่าตนนั้นดีแล้ว พอแล้วไม่มี หวั่นไหวแล้ว ยังอยู่ก่อน ผู้ใดว่าตนไม่หวั่นไหวแล้ว ผู้นั้นละจะต้องหวั่นไหว ผู้ใดว่าใจตนดี แล้วนั้น ผู้นั้นจะต้องไม่ดี มันมีวันหนึ่งข้างหน้า อารมณ์มันไม่ได้บอกใคร มันมากระทบเข้า โดยที่ไม่รู้ตัว มันออกไปเป็นจิตแล้ว จึงค่อยรู้ตัว เมื่อเป็นจิตแล้ว คราวนี้หาที่ยึดไม่ได้ ไปเคว้งคว้างหมด ด้วยใจไม่ตั้งมั่น ใจตั้งมั่นแล้วมันไม่ไป สิ่งที่มันไปนั่นมันเป็นเรื่องของจิต ถ้าใจตั้งมั่นแล้วมันไม่กังวลเกี่ยวข้องทั้งหมด

    เหตุนั้นจงรักษาใจให้มากๆ จะทำอะไรคิดนึกอะไรต่างๆ ทุกอย่างทุกประการ มันต้องจิต ให้รู้รอบรู้เรื่องของจิต บางทีเรารู้รอบรู้เรื่องแล้ว แต่เวลากระทบเข้ามามันไม่รู้ตัว เพราะไม่รู้มัน ถึงค่อยไปตามวิสัยของจิต ถ้าหากรู้เรื่องรู้รอบหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ใจมันก็ตั้งมั่นอยู่คงที่ มันไม่หวั่นไหวไปตาม ฝึกหัดให้มันชำนิชำนาญ ไม่ต้องพิจารณาอะไรอื่นไกลนอกจากนี้แล้ว พิจารณาเรื่อง “จิต” กับ “ใจ” แล้ว ก็แล้วกัน

    เรื่องต่างๆ ปลีกย่อย เล็กๆ น้อยๆ นั้นมันอีกอย่างหนึ่ง เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก มันเกิดขึ้นมานั้นของเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ก็จะต้องพิจารณาอีก อันที่จะให้รู้เรื่องนั้นมันมีอีกอย่างหนึ่ง เช่น อารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมา มันเกิดจากจิต มันเกิดที่จิต อารมณ์อะไรเกิด ก็เกิดที่จิต อารมณ์นั้นควร หรือไม่ควร ควรที่ชำระหรือควรปล่อยไว้ อันควรที่ชำระนั่นคือ กิเลส อันเป็นเหตุให้วุ่นวายเดือดร้อนมันถึงควรชำระ คือตั้งใจไว้ให้ตรงแล้วมันก็ชำระกิเลส จิตมันก็หายไป

    ครั้นเมื่อชำระคราวนี้หายไปแล้ว อันนั้นยังไม่เพียงพอก่อน มันต้องไปชำระที่จิต เรื่องจิตมันคิดส่งส่ายในอารมณ์ต่างๆ เช่นว่าความโกรธเกิดขึ้น มานะทิฏฐิเกิดขึ้น มันเกิดที่จิตมันไม่ เกิดที่ใจ ใจมันไม่มีอะไรหรอก มันเฉย วางเฉยอยู่ปกติ มันเป็นใจ ทิฏฐินั้นเกิดขึ้นมาจากจิต นั่นมานะก็เกิดมาจากจิตนั่น ความโลภ ความโกรธ ความหลงก็เกิดขึ้นมาจากจิตนั่น ความน้อยอกน้อยใจ ดีอกดีใจก็เกิดขึ้นมาจากจิตนั่น นั่นละอันที่จะต้องรู้เรื่องรู้เท่า มันเกิดจากเหตุใด มันจึงค่อยเกิดความโทสะ ตามรู้เรื่องรู้เท่าของมัน พิจารณาให้มันรู้เท่ารู้เรื่อง จนกระทั่งมันหมดขอบเขตหมดเรื่องราวของมันแล้ว มันจะสงบลงไป แล้วเข้ามาที่ใจ อันนั้นพักหนึ่ง ให้มันอยู่ขั้นหนึ่งเสียก่อน

    มานะ คือความกระด้างถือตัว ทิฏฐิ คือความเห็น มันเกิดขึ้นมานั่น มันมีอะไรอยู่ มานะทิฏฐิเข้าตัวแล้วไม่เห็นทั่วไป ถ้าเห็นเข้าตัวแล้วมันแข็ง ถ้าเห็นทั่วไปแล้วมันไม่แข็ง คือ เห็นสภาพของทุกคนว่า เป็นอยู่อย่างนั้นทั่วไปหมด เราเขาเหมือนกันทั้งนั้น การประพฤติปฏิบัติการเป็นอยู่ มันต้องเป็นไปด้วยกันทั้งหมด ทิฏฐิมานะ อันนั้นมีอยู่ทั่วไปหมด เพราะห้ามปรามไม่ได้ เราจะสงบจิต คือเข้าถึงใจ อันนั้นน่ะรู้เรื่อง รู้เรื่องคราวหนึ่งละ คราวหลังมันเกิดขึ้นมาอีกก็ของเก่านั่นละ มันต้องพิจารณาซ้ำๆ ซากๆ มันไม่รู้แล้วรู้รอดไปสักที ท่านจึงว่า ภาวิโต พหุลีกโต ทำให้มาก เจริญให้ยิ่ง ซ้ำๆ ซากๆ อยู่ไม่แล้วสักที

    ฉะนั้น พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้มรรคผล นิพพาน ถึงสูงสุดแล้วเรียกว่าพิจารณารอบคอบ รอบรู้หมดทุกอย่าง เวลาไปอยู่สงบมีนางราคา นางตัณหา นางอรดี เข้ามายั่วยวน ลองดูกิเลส ท่านทรงรู้แล้วทำไมถึงมายั่วยวนได้อีก ท่านทรงมีพระปัญญาฉลาดเฉียบแหลม ท่านจึงทรงพิจารณาชำระลงไปจน นางราคา นางตัณหา นางอรดี เฒ่าแก่ชราชำรุดทรุดโทรมหายไปเลย พวกเรายังไม่ทันพอ จึงว่าครั้นผู้ใดเข้าใจว่าตนพอแล้ว นั่นยังไม่พอ ผู้ใดเข้าใจว่าตนดีแล้ว นั่น ยังไม่ทันดี ถ้าหากเข้าใจว่าดีแล้ว คนนั้นเรียกว่ามานะเกิดขึ้นแล้ว อย่างพระสารีบุตรเทศน์ให้ พระโมคคัลลานะ ท่านบอกว่า ท่านถือว่าท่านมีฤทธิ์เดชมีปฏิหาริย์ อันนั้นเรียกว่า มานะ คือเกิดบรรลุวิเศษวิโส ครั้นท่านถือว่ารู้รอบหมดทุกสิ่งทุกอย่างอันนั้นคือ ทิฏฐิ ท่านจงละทิฏฐิ มานะนั้นเสีย แล้วจะอยู่เป็นสุข ลองดู

    ท่านวิเศษวิโสถึงขนาดนั้น มีฤทธิ์ปาฏิหาริย์ มีอำนาจปาฏิหาริย์เหาะเหินเดินอากาศได้ ดำดินบินบนได้ ก็เป็นจริงอย่างนั้น ท่านเป็นจริงอย่างนั้นจริงๆ แต่หากว่าถืออันนั้นแล้ว มัน เป็น มานะ เป็น ทิฏฐิ ในตัว ละทิฏฐิมานะนั้นแล้วนั่นละจะอยู่เย็นเป็นสุข

    การที่ละทิฏฐิมานะ ไม่มีอะไรต่างๆ ใจมันเฉยไม่มีอะไรนั่น ให้เข้าถึงสภาพอันเป็นจริง ของเฉย ความเฉยนั้นมันเฉยได้จริงอยู่นานไหม? ใจนั้นแต่มันยังไม่ทันรอบคอบรอบรู้ จึงต้อง พิจารณาชำระที่จิตนี่แหละ ให้มันเข้าถึงใจอยู่เสมอๆ ให้ชำนิชำนาญ มันจึงค่อยคล่องแคล่ว อันนั้นเป็นความสุขของเรา
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    มีพี่ที่จองตะกรุดไว้มาเล่านิมิตให้ฟังเลยก้อปมาลงให้อ่านนะครับ

    ก่อนนอนก็คิดเรื่องตะกรุดนี่แหละแล้วก็คิดถึงท่านท้าวสหัมบดีพรหม แล้วก็ฝันแปลกๆ แต่จะว่าฝันก็เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น คือฝันว่าเห็นแสงสีทองสวยมากๆ แบบไม่เคยเห็นมาก่อน สว่างคล้ายแสงอาทิตย์ แต่รู้สึกอบอุ่นไม่ร้อน สึกพักนึงก็หายไป ไม่รู้จะเกี่ยวอะไรกันไหม เล่าสู่กันฟังครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรเทพ ED 8364 2176 1 TH

    พี่วีรพล ED 8364 2177 5 TH

    พี่ณธพรหม ED 8364 2178 9 TH
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่งems
    พี่ชิตพล ED 8364 1418 7 TH

    พี่พิสุทธิ์ ED 8364 1419 5 TH
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันนะครับ ใครพลาดช่วงนี้รับรองว่ามีเสียใจแน่ๆ
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ฝากคำถาม PM ไว้นะครับ ส่วนคนที่แจ้งโอนมาแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ส่งของให้นะครับ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ในอดีตสมัยพ่ออาจารย์ท่านทำครุฑในตำนานของท่าน คือครุฑไม้ใบระกาโบราณแกะสลักนั้น ท่านทำเป็นองค์ขนาดบูชาค่อนข้างใหญ่ และในขณะเดียวกันท่านก็ใช้ไม้ใบระกาแกะองค์จิ๋วขึ้นไว้พร้อมกันและเสกขึ้นพร้อมกันด้วย ซึ่งครุฑจิ๋วนี้จะมีความสำคัญมากอย่างไร...เป็นพิมพ์พิเศษอะไร และท่านแกะขึ้นเพื่อเก็บไว้ทำอะไร อันนี้เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันอีกทีหนึ่ง วันนี้ก็จะย้อนเอาเรื่ององค์ครุฑซึ่งปลายเป็นของหายากของท่านไปแล้ว.. อ้างอิงเอาไว้ให้อ่านกันอีกที


     

แชร์หน้านี้

Loading...