ประสบการณ์ไสยเวทย์เมตตาเปิดโลก

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย เมตตาเปิดโลก, 13 พฤษภาคม 2019.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    เรื่องเล่าเล่นๆๆตอนที่47
    ในสมัยก่อนหรือแม้กระทั่งสมัยนี้ ไม่มีใครในวงการ
    เครื่องรางสายเสน่ห์ที่จะไม่รู้จัก อ.รัญ ลพบุรี ซึ่ง
    เป็นฆราวาสเปิดสำนักสักยันต์และทำเครื่องราง
    ให้บูชาและที่เด่นมากคือการทำสายพราย เครื่อง
    รางของ อ.รัญ ลพบุรี จะมีมูลค่าสูงเพราะมวลสาร
    ความนิยม และประสบการณ์ ซึ่งในยุคก่อนคน
    จะเรียกได้ว่า ใครมีของ อ.รัญ ไว้บูชา โชว์ได้
    ไม่อายใคร แม้กระทั่งสมัยนี้ อ.รัญก็ยังเปิดสำนัก
    อยู่แต่ส่วนมากจะติดต่อกับศิษย์ต่างประเทศซะ
    เป็นส่วนใหญ่
    เมื่อวาระมาถึงก็ต้องทำ น้ำมันของ อ.รัญรุ่นเก่า
    ได้มาไม่ทันข้ามคืน ก็โดนลองซะแล้ว ในคืนนั้น
    เองเข้านอนอยางมีสติ เพราะรู้เลยมันต้องมาแน่
    5555 เพราะเธอส่งทั้งกลิ่น ทั้งกระแสจิตมาปั่นป่วน
    ตลอด มีอาการมึนหัวเป็นระยะ อาการนี้ผมเคยเจอ
    แล้ว ที่เคยลงเรื่องเล่าเรื่องนางตานี ที่จะสื่อกับเรา
    แต่จำไม่ได้ว่าตอนที่เท่าไหร่ ลองไปเปิดอ่านเอง
    เมื่อเข้านอนต้องนอนตะแคง เพื่อสามารถป้องกัน
    ตัวได้จากการกดทับ หรือเรียกว่าผีอำนั่นเอง แต่
    ในทางวิทยาศาสตร์ก็บอกว่าการนอนหงายทำให้
    เกิดการนอนทับเส้นหรือหายใจไม่สะดวก หรือ
    ที่มาของผีอำ แต่จริงๆๆนอนตะแคงมันก็ทำได้นะ
    ในตอนนั้นประมาณตีสามกว่าๆๆ รู้สึกตัวแต่ไม่ตื่น
    เหมือนมีมือคนมาจับมือไว้ นอนข้างๆๆ ผมนอน
    คนเดียวไม่มีใคร เพราะแฟนนอนที่พื้นห้อง เธอ
    บอกนอนบนเตียงแล้วปวดหลัง ลองขยับมือ
    ขยับไม่ได้เหมือนโดนกดทับไว้ เลยตั้งจิตคิดถึง
    ครูอาจารย์ให้มาช่วย มีเสียงดิ้นเอาเท้าฟาดที่นอน
    ผลั๊กๆๆ เหมือนคนเจ็บปวด ดิ้นขาตีที่นอนพักนึง
    ก็เงียบไป มือเราก็กลับมาขยับได้อีกครั้ง และ
    ลองไปดูที่แฟนก็เห็นนอนปกติที่พื้นข้างล่าง
    ถ้าเสียงดังเมื่อกี้น่าจะตื่นแล้ว แต่เสียงที่ผมได้ยิน
    ก็เหมือนมันไม่ได้ได้ยินมาจากหู แต่มาจากจิต
    ข้างใน นี่แหละครับนอนตะแคงมันก็เอาเราได้
    โอกาสหน้าจะมาบอกกล่าว จะนำน้ำมันตัวนี้มา
    พลีทำเครื่องรางเนื่องจากเห็นว่าเฮี้ยนดี
    ให้ทุกคนได้ลองใช้ดู ติดตามกันครับ
     
  2. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    นางพรายเสน่ห์จันทร์บรรจุน้ำมันหัวเชื้อ ประสบการณ์เฮี้ยน พรายเสน่ห์จันทร์1.jpg
     
  3. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ประสบการณ์เสน่ห์ที่จุดเริ่มต้นคนมอง และดึงดูดสายตา

    นี่เป็นความแรงของสายเสน่ห์ ไม่ต้องลุยต้องบุกเข้าหา

    จึงเรียกว่าเสน่ห์อย่างแท้จริง ส่วนการพูดคุยคงเป็น

    เรื่องเล็กน้อยในการสานสัมพันธ์กัน เพราะมีใจต้อง

    กันแล้ว คงไม่ต้องพูดเยอะ ให้เจ็บคอ
    ปสกลูกอม.jpg
     
  4. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ตะกรุดพลังจักรวาล อุปกรณ์ในการฝึกวิชาพลังจักรวาล ซึ่งการฝึก

    พลังจักวาลนั้น ต้องได้รับการเปิดพลังในร่างกายก่อน จึงสามารถ

    เดินพลังได้ แต่ด้วยที่ผู้ฝึกต้องฝึกด้วยตัวเอง จึงทำการทำตะกรุด

    พลังจักรวาลนี้ขึ้นมา เป็นตะกรุดเงินขนาด 2 นิ้วครึ่ง ด้านในลง

    อักขระธาตุ และสัญญลักษณ์จักรวาล บรรจุลูกแก้ว 5 ลูก เพื่อ

    เป็นแหล่งสะสมพลังงานจากตะกรุดที่ทำการเชื่อมพลังลงมา

    ตลอดเวลา ผู้เรียนสามารถดึงพลังจากตะกรุดนี้ออกมาใช้งาน

    ได้ หรือแขวนติดตัวไว้เพื่อปรับสมดุลของพลังงานในตัว

    เมื่อพลังงานในตัวสมดุลก็จะไม่เกิดการเจ็บป่วยหรือที่มีโรค

    ก็จะทุเลาลง ส่วนทางด้านอื่นจะเป็นเรื่องสมดุลของธาตุต่างๆๆ

    รวมไปถึงเรื่องเงินทอง โภคทรัพย์ ดวงดี สิ่งที่ขาดก็จะเติมเต็ม

    สมดุลย์และสมบูรณ์ ใช้เป็นการฝึกเดินพลัง เดินธาตุต่างๆๆ

    สนใจเรียนลองติดต่อทางเฟซบุ๊คเอานะครับ ทางนี้เป็นส่วน

    ของการให้ความรู้และการแลกเปลื่ยนข้อมูลกัน
    ตะกรุดจักรวาล.jpg ตะกรุดจักรวาล1.jpg
     
  5. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ท่านที่จะเรียนพลังจักรวาล

    ได้รับ 1 ดอก ตะกรุดพลังจักรวาล

    เนื้อหาที่เรียนจะเป็นวิชาเดินพลัง เดินธาตุ ย้ายพลัง

    ดูดพลังสามารถรักษาอาการเจ็บป่วย อ่อนเพลีย

    ทำให้ธาตุสมดุล เสกวัตถุเครื่องราง รวมไปถึงการ

    จับพลัง ทั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับความพยายาม

    ของผู้เรียนและความสามารถ เริ่มเรียนต้นเดือน

    สิงหาคมเป็นต้นไปครับ สนใจดูที่เฟซบุ๊คนะครับ

    ส่วนนี้จะเป็นแนวความรู้และประสบการณ์ต่างๆๆ
     
  6. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    สีผึ้งเสน่ห์จันทร์ หุงขึ้นมาด้านเสน่ห์ ผสมสีผึ้งนะหลงไหล รวมมวลสารอาจารย์ดังเกจิสายอีสานและเขมร น้ำมันที่เหลือของหลวงปู่ประยูร ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ละมัยอายุ 126 ปี ตอนนี้อยู่ในช่วงทำการเสกประจุพลังและวิชา สีผึ้งไม่ผสมหัวน้ำหอม ธรรมชาติล้วน กลิ่นว่านกับน้ำมัน ไม่แต่งสี แต่รับรองประสบการณ์เด็ดดวงจริงๆ 61986620_786249621769394_1474970921398697984_o.jpg
     
  7. ยิ้มรับสิ่งใหม่

    ยิ้มรับสิ่งใหม่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +129
    ขอบมากครับ สมัยก่อนผม ติดตามหนังสือแม่นาค ตั้งแต่ฉบับแรก สายพรายกำลังดัง ขอบอกเลยของเค้าดีจริง 55 แต่พอแล้ว ผีสายพราย ยิ่งเมื่อก่อน สมัยเว็บ พรปู่เจ้า นี้ หาแต่ของดีตลอด นั้งรถจากอีสานลงมาเพื่อไปวัดหัวลำโพง วัดน้อยหิรัญรูจี แล้วก็ร้านพรปู่เจ้า ตั้งแต่สมัยตั้งอยู่ด้านล่างมั้ง โห้ นานปี 10 ปีกว่าได้ ชอบนะครับสมัยที่ติดหนังสือ อ่านแล้วเก็บเงินหาเช่า ช่วงที่รู้จักแรกๆก็อายุ 17-18 เองครับ เริ่มเข้าเมืองกรุงทีนี้ละ เพื่อไรไม่รู้ ต่อนี้ หลวงปู่หมุน พอแล้วละครับ อิอิ
     
  8. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ไม้งิ้วดำตายพราย คือไม้งิ้วดำยืนต้นตาย เป็นไม้ที่ เทพ เทวดา ที่สถิตย์อยู่ในไม้งิ้วดำของแต่ต้นตามที่มีวิชาท่านบอกว่าแต่ละต้นแต่กิ่งจะมีจะมีเทพไม่เหมือนกัน ถ้าต้นใดหมดอายุไขแล้วจะพลีต้นยืนต้นตาย เรียกว่าตายพรายผู้คนต่างหามาไว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลหรือทำยาคือเหมือนกับว่าท่านมอบให้มนุษย์
    เรานำไปไว้บูชาบางคนนำไปทำเป็นลูกประคำ,ทำด้ามมีดฝักมีดฝักดาษ,แกะเป็นพระพุทธรูป,แกะสิ่งต่างๆเพื่อนำมาบูชากันทั้งนั้น หรือสร้างวัตถุมงคลต่างๆในการช่วยเหลือแก่ผู้เดือดร้อน เป็นการสร้างบารมีอีกทางหนึ่งของเทพเทวดาทั้งหลายที่ได้เคยสถิตย์อยู่ต้นไม้งิ้วดำ เมื่อไม้ตายแล้วเทพท่านก็ยังสถิตย์อยู่บางส่วนเพื่อให้เรานำมาบูชา อีกส่วนหนึ่งท่านที่หมดอายุไขก็ไปเกิดอีกภพหนึ่งแล้วท่านไม่สามารถสร้างบุญได้ด้วยตนเอง ท่านจึงมอบไม้งิ้วดำที่พลียืนต้นตายให้แก่คน แก่มนุษย์ที่เข้าไปในป่าพบเจอได้นำไปบูชากราบไหว้ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้เทพที่หมดอายุไขไม้งิ้วดำ ไม้พญางิ้วดำ ไม้ยืนต้นตาย ตายพรายนี้ ฤทธิ์จะแรงกว่าที่ไม่ยืนต้นตาย ไม้งิ้วดำยืนต้นตาย คือไม้ท่านให้ ท่านจะปล่อยฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ของท่านไว้ที่ต้นไม้งิ้วดำของท่านซึ่งคนที่ได้ไม้ไปท่านจะติดตามให้การช่วยเหลือจากอิทธิฤทธิ์ของ
    ประวัติความเป็นมาของไม้งิ้วดำและความเชื่อ
    ไม้งิ้วดำนั้นเป็นที่รู้จักดีในตระกูลของไม้มงคลซึ่งพญาไม้งิ้วดำเป็นพญาแห่งไม้ที่อยู่บนโลกเรานี้เลย ไม้งิ้วดำคือไม้ที่ความศักดิ์สิทธิ์มงคลในตัว เชื่อว่าไม้งิ้วดำนั้นจักนำพาความร่ำรวย โชคลาภ และชัยชนะมาแก่ผู้ที่บูชา ต้นไม้งิ้วดำนั้นเป็นต้นไม้มงคลตัวไม้งิ้วดำจะถูกนำมาเป็นวัตถุมงคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้งิ้วดำแกะสลักเป็นเป็นรูปต่างๆ บางคนอาจจะสงสัยว่าไม้งิ้วดำนั้นดีอย่างไรมีหลายเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติไม้พญางิ้วดำหรือมีหลายเว็บที่ขายไม้งิ้วดำอยู่ บางเว็บจะมีกระดานซื้อขายไม้งิ้วดำให้คนที่สนใจนั้นเข้าไปติดต่อสอบถามกันได้
    ส่วนราคาของไม้พญางิ้วดำนั้นก็มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับว่านำเอาต้นไม้งิ้วดำนั้นไปแปรรูปเป็นวัตถุมงคลชนิดใด หรือว่าขนาดที่ขายไม่พญางิ้วดำนั้นมีขนาดไหนเพราะราคานั้นมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดและรูปลักษณ์ของไม้งิ้วดำ ทั้งนี้ไม้งิ้วดำยังนำมาเป็นแกะเป็นพระสมเด็จนางพญางิ้วดำไว้ให้ผู้ที่ศรัทธานั้นนำไปบูชากราบไหว้เพื่อความเป็นศิริมงคล แต่ราคาขายของพระสมเด็จไม้งิ้วดำนั้นค่อนข้างแพงแต่ไม่แพงมากยังคงเป็นราคาขายแบบกลางๆ
    พุทธคุณของไม้งิ้วดำนั้นเป็นทั้งวัตถุมงคลและสามารถนำไปปรุงเป็นยารักษาบรรเทาโรคได้อีกด้วยเมื่อ นำไม้งิ้วดำนั้นมาต้มเข้ากันกับข้าวสารหรือจะเป็นข้าวสุกก็ได้ เวลาต้มพญาไม้งิ้วดำไปแล้วในหม้อจะเต็มไปด้วยสีดำเมื่อใครที่กินข้าวที่ปรุงกับไม้งิ้วดำนั้นจะทำให้เกิดพลังวังชาเท่ากับพญาช้างสาร โรคภัยไข้เจ็บจักไม่มาเข้าใกล้จะว่าง่ายๆคือมีภูมิคุ้มกันในร่างกายมากขึ้นไม่เจ็บป่วยง่าย นอกจากนั้นพญางิ้วดำนั้นยังสามารถช่วยป้องกันการโดนคุณไสย มนต์ดำต่างๆ และทีเด็ดกว่านั้นถ้าหากกินข้าวที่ปรุงกับไม้งิ้วดำนั้นยาวนานจนครบสามเดือนจะทำให้ผู้นั้นมีความคงกระพันชาตรี พญาไม้งิ้วดำจึงเป็นที่ต้องการของใครหลายๆคน เพราะว่าไม้งิ้วดำนั้นเป็นมหาพญาแห่งไม้มงคลเลยหาไม่ได้ง่ายๆ ไม่ได้พบได้ทั่วไปเพราะว่าไม้งิ้วปกติมิได้เป็นสีดำแต่หากเป็นสีขาว ส่วนไม้พญางิ้วดำนั้นเป็นเหมือนดั่งต้นไม้ที่ท่านเทวดีได้ประทานลงมาให้ ทำให้ต้นงิ้วนั้นมีความผิดปกติกลายเป็นที่ดำทั้งต้น จนถูกเรียกว่าไม้งิ้วดำ มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมากใครที่บูชาอยู่อย่างศรัทธานั้น ไม้งิ้วดำจะทำให้เกิดสำเร็จในทุกความปรารถนาที่เป็นสิ่งดี นำพาแต่ความโชคดีมาให้ 7Z5_ไม้งิ้วดำ_.jpg

    แหล่งที่มาข้อมูล https://xn--72c8awaecla6c3e2b8e.blo...ad-J0QUbOx2V6bvxb2MjIxEULV-OAxsw3ydJUjXVjJJpw
     
  9. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ปิดตำนานสีผึ้งเมตตาเปิดโลก ไม่จัดสร้างอีกแล้วครับ ถามว่าดีไหม ประสบการณ์ดีมากๆๆครับ ใครมีไว้ครอบครองก็ถือว่ามีของในตำนานอีกชิ้นหนึ่ง สีผึ้งเมตตา3.jpg สีผึ้งเมตตา5.jpg สีผึ้งเมตตา6.jpg
     
  10. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ประสบการณ์ท่านหนึ่ง เคยใช้ของที่อื่นพกมาหลายอย่าง จนมาใช้ลูกอมว่านเสียสาวจากที่นี่ครั้งแรก มีประสบการณ์ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยใช้เครื่องรางมาครับ 64975961_2319188518162536_454309086381473792_n.png
     
  11. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    สีผึ้งเสน่ห์จันทร์เน้นด้านเสน่ห์กามโดยเฉพาะ มีเรื่องน่าแปลกช่วงหุงก่อนเสกสีผึ้งจะไม่มีกลิ่นใดๆ มีเพียงใบเตยที่ใส่กลบกลิ่น ให้หอมใบเตยนิดๆๆ หลังจากเสร็จสิ้นการปลุกเสกสีผึ้งครบตามวาระ สีผึ้งจะมีกลิ่นน้ำกาม กลิ่นคาวๆๆนิดๆ ซึ่งมาจากประจุเสกด้านกามลงไปจนสำเร็จ ไม่ได้ใส่น้ำกามหรือวัตถุใดให้เกิดกลิ่นคาว สามารถทาปาก เจิมหน้าและทาอกซ้ายได้หมด 62263670_788288544898835_1656924505064341504_n (1).jpg
     
  12. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ได้มาแค่นี้ครับวันนี้ 2 เหรียญ 65431464_799214740472882_580007166929272832_n.jpg 65373659_799214810472875_3792106391771021312_n.jpg 65266656_799214927139530_300451387764899840_n.jpg 64413386_799214857139537_397006603380850688_n.jpg

    ชี้แจงเรื่องถ่ายรูปที่กองเถ้ากระดูก ผมไม่ได้เบลอภาพแต่อย่างใด ถ่ายออกมาแล้วมันได้อย่างที่เห็นครับ เป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดมากครับ ก่อนมุดเข้าไปถ่ายรูปยังชัดเจน แต่ถ่ายที่กองกระดูกเป็นอย่างที่เห็น น่าจะโดนวิญญาณรบกวน คือมาแสดงตัวให้รู้ครับ
     
  13. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    313591.jpg อีกรูปครับเป็นทุกภาพที่ถ่ายด้านในใต้เมรุ
     
  14. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    เรื่องเล่าด้วยภาพ เจอเยอะเลยวันนี้
    65386462_799779290416427_7218994701997703168_n.jpg 65146461_799779327083090_4855204337623760896_n.jpg 65304613_799779370416419_61999175767687168_n.jpg
     
  15. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ขุนแผนพรายเสน่ห์จันทร์ ขุนแผนที่จัดสร้างขึ้นมาครอบคลุมทุกด้าน 65626416_802356476825375_7273319153459527680_n.jpg 65704362_802356513492038_3723894623119081472_n.jpg 65731868_802356543492035_2263013058467069952_n.jpg
     
  16. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    คาถาพระพิราพหน้าทอง

    ตั้งนะโม 3 จบ

    นะ สุวรรโณ นะมะสิตตะวา โมกาโร มณีโชตะกัง

    พุทธะ กาโร สังขะเมวะจะ ทากาโร สุริยาเอวะ

    ยะกาโร มุกขะกังขะเมวะจะ สุทะมะมัง มะมังทะสะ

    กะระณียะเมตตัง เมตตา กรุณา มุฑุตา อุเบกขา

    จิตตัง จิตตัง ไชยยะนารี จักกะวัติราชา มะโนโจรัง

    ไมตรีจิตตัง เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ

    เอามือขวาหยิบเเป้งมาวางไว้บนฝ่ามือซ้าย ขณะ
    ภาวนาคาถาให้เอาปลายนิ้วมือขวากวนเเป้งในฝ่ามือ
    ซ้าย ให้วนไปทางขวาจนจบพระคาถา จึงใช้มือทั่งสอง
    ขยี้เเป้งเพื่อผัดหน้าขยี้ไปก็ภาวนาไปจนจบ พระคาถาทำการผัดหน้าถือเป็นเสร็จพิธี

    คาถานี้เป็นของหลวงปู่ภูจันทเกสโร วัดอินทรวิหาร ให้ใส่บาตรพระหนึ่งองค์พร้อมดอกไม้ธูปเทียนในวันพฤหัสบดี ทุทิศกุศลให้หลวงปู่ภู จันทเกสโร วัดอินทรวิหาร เเล้วเริ่มเรียน เริ่มท่องจำได้เลย

    อุปเท่ห์บอกว่า หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายทัก โกรธก็หายโกรธ
    ที่พยศก็หมดพยศ เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่เป็นเมตตามหาละลวย

    จากหนังสือประวัตรอาจารย์ไพฑูรย์ พันธ์เชื้องาม

    คาถานี้นำไปใช้ได้ทุกคนครับ เผยแพร่บารมีครูอาจารย์

    ก่อนใช้ให้ระลึกถึงครูอาจารย์เสมอ ครูอาจารย์ท่าน

    ไม่เคยจำกัดหรือปิดกั้นการเข้าถึงคาถา มีแต่ยินดีที่

    ศิษย์จะนำไปใช้

    แล้วแต่วาสนาและบารมีของผู้ใช้ จะสัมฤทธิ์ผลหรือ

    ไม่ จงเป็นผู้ให้เสมอ ก่อนเป็นผู้รับ สิ่งที่มีเมื่อตายไป

    ก็นำติดตัวไปไม่ได้ ครูท่านมีแต่ความเมตตา สละให้

    ศิษย์ได้ดีก็นำพาความยินดีและชื่อเสียงมาให้ครู

    ขอให้ทุกคนจงพบความสำเร็จและสัมฤทธิ์ผลทุกประการ

    c_oc=AQn1pVTbyY2iydiudS8QflDySWHjoMXSTskpSEwcXgbNkuZT5CJv6eZnKjb8nSk1yeM&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  17. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    วันนี้วันพระ รวบรวมสมาชิกผู้ศรัทธาถวายพระรูปหล่อ

    หลวงพ่อทันใจจำนวน 1,000 องค์ให้แก่วัดเกษตรนิคม

    จ.พัทลุง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ญาติโยมที่มาทำบุญทอด

    กฐินในปีนี้ วันที่ 20 ตุลาคม 2562 ขออนุโมทนาบุญทุก

    ท่านที่ทำกุศลในครั้งนี้ด้วยครับ

    c_oc=AQlKXDM2v4mp-FBUvnQO4t3R-zQeNEUQ7X1owFFJhzY6pIuW0VrQUO6X6KkxAbvFmUY&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  18. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    67113873_1143247589196540_5587633567401246720_n.jpg “เสือสมิง” ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าแห่งป่าที่หลายๆ คนคงเคยได้ยินได้ฟังผ่านหูกันบ้าง โดยเชื่อว่า เสือสมิงนั้นเป็นผีไพร หรือผีที่สิงสถิตอยู่ตามป่าเขา นับเป็นตำนานผีไทยพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมา เพียงแต่ว่ามีความแตกต่างที่ปรากฏมาในร่างของสัตว์เจ้าป่า

    พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ให้ความหมายคำว่า “เสือสมิง” ว่า เสือที่เชื่อว่าเดิมเป็นคนที่มีวิชาอาคมแก่กล้าแล้วต่อมาสามารถจำแลงร่างเป็นเสือได้ หรือเสือที่กินคนมากๆ เข้า เชื่อกันว่าวิญญาณคนตายเข้าสิง ต่อมาสามารถจำแลงร่างเป็นคน
    นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งความเชื่อหลักให้ความหมายของเสือสมิงว่า เป็นเสือที่กินคนเข้าไปมากมาย จนมีวิญญาณผีตายโหงสิงสู่อยู่ วันดีคืนดีจะแปลงร่างมาหลอกลวงคนที่เดินทางในป่าเพื่อจับกินเป็นอาหาร โดยมักจะแปลงตัวมาเป็นคนบาดเจ็บ สาวชาวป่า หรือเป็นคนรู้จักมาตามให้กลับบ้านเพื่อหลอกล่อให้เหยื่อหลงกล และอีกนัยหนึ่งคือผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้าแต่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ของเข้าตัว กลายเป็นเสือสมิง เสือสมิงพวกนี้จะเรียกว่า สมิงอาคม

    เรื่องราวของเสือสมิงนั้นมีหลากหลายจากหลายๆ พื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสามารถหาอ่านได้ทางอินเตอร์เน็ตนั้นมีหลากหลาย และนี่ก็คือฯเรื่องราวเด่นๆของเสือสมิง ได้แก่

    เรื่องแรกที่เล่าขานกันว่า ชาวบ้านทางภาคเหนือได้รับความเดือดร้อนเพราะมีเสือเข้ามาทำร้ายคนในหมู่บ้าน เป็นที่หวาดกลัวแก่ชาวบ้าน จึงได้ไปขอความคุ้มครองจากทหารหน่วย ตชด. เพื่อเข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน ทหารจึงส่งกำลังเข้าไปคุ้มครองและได้ล่าเสือตัวนั้น

    ในคืนวันหนึ่ง ตชด. ได้จัดกำลังออกตรวจส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือนอนพักบนศาลาที่จัดไว้ กลางดึกคืนนั้นศาลาที่หน่วย ตชด. พัก ได้สั่นไหวโยกเอนผิดปกติ เมื่อทหารลุกขึ้นมาดูก็ได้เห็นเสือโคร่งขนาดใหญ่พิงสีตัวอยู่ที่เสาศาลา ทหารจึงยิงปืนใส่เสือโคร่งใหญ่นั้น ทำให้เสือตัวนั้นบาดเจ็บและหนีหายไปในความมืด พอรุ่งเช้าทหารจึงติดตามแกะรอยเลือดเสือตัวนั้นไป ปรากฏว่ารอยเลือดนั้นไปสิ้นสุดที่หลุมเนินดินแห่งหนึ่ง เมื่อทหารขุดหลุมเปิดเนินดินนั้นก็พบศพผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนในหมู่บ้าน แต่แปลกประหลาดที่ร่างกายท่อนล่างของเขาเป็นเสือลายพาดกลอน จากการสอบถามชาวบ้านบอกว่าสาเหตุที่ตายเพราะผิดผี จึงกลายมาเป็นเสือสมิง อีกเรื่องราวของเสือสมิงเล่ากันว่า พรานป่าคนหนึ่งซึ่งอดีตเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าตั้งใจว่าจะไปนั่งห้างส่องสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวร ก่อนจะเข้าป่าได้สั่งเมียไว้ว่าจะเข้าป่า 3 วัน ไม่ต้องเข้าไปตาม จากนั้นก็เก็บสัมภาระที่จำเป็นเข้าไปค้างแรมในป่า ในค่ำคืนแรกผ่านไปด้วยดี ได้เห็นสัตว์มากมายออกมาหากินตามโป่งดิน แต่ในคืนที่สองบรรยากาศแปลกไป ฟ้ามืดสนิทและเงียบผิดปกติ พอตกดึกจึงยินเสียงฝีเท้าคนเดินอยู่ด้านล่าง จากนั้นก็ได้ยินเสียงเมียตัวเองเรียก เมื่อมองลงไปจึงเห็นเมียถือตะเกียงเจ้าพายุมาร้องเรียกบอกว่าลูกไม่สบาย ตัวร้อนจัด จึงเข้ามาตามเขากลับบ้านไปดูลูก

    พรานป่าเมื่อเห็นดังนั้นจึงทำท่าจะลงจากห้างลงไปหา แต่เกิดเอะใจว่าทำไมเมียถึงรู้ว่าเราอยู่ตรงนี้ และทำไมถึงกล้าหาญมาในป่าลึกกลางคืนโดยไม่กลัวสิงสาราสัตว์ นอกจากนั้นเวลาพูดก็จะไม่ยอมสบตาตรงๆ อีกทั้งหากเดินมาจากบ้านน้ำมันตะเกียงน่าจะหมด แต่ทำไมถึงสว่างอยู่ได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจ หันปากกระบอกปืนส่งให้เมีย และพูดว่า “รับปืนที พี่จะลงไปแล้ว” พอเมียยื่นมือจะรับปืนเขาก็ลั่นไกยิงทันที จากนั้นก็ได้ยินเสียงเสือคำรามและวิ่งหายไปในแนวป่าลึก

    รุ่งเช้าพรานป่าจึงตัดสินใจกลับบ้าน และได้เดินเข้าไปสำรวจแนวป่าลึกที่ได้ยินเสียงเสือวิ่งหนีไปเมื่อคืนนี้ จึงได้เห็นเสือลายพาดกลอนขนาดใหญ่นอนตายอยู่ และเมื่อกลับไปถึงบ้านก็เห็นเมียเลี้ยงลูกอยู่อย่างปกติ นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องเหลือเชื่อของเสือสมิงส่วนเรื่องของชาวกะเหรี่ยงเล่ากันว่า เสือสมิงตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่าเป็นเจ้าป่าเจ้าเขาหรือพระภูมิเจ้าที่ที่ดูแลรักษาปกป้องป่า จึงมีความเชื่อและข้อปฏิบัติว่า ห้ามล่าสัตว์หรือตั้งห้างบริเวณที่เป็นโป่ง ซึ่งเป็นแหล่งที่เป็นที่ชุมนุมของสัตว์ป่า และเสือสมิงมักจะแปลงตัวเป็นผู้หญิง โดยเฉพาะเป็นเมียเข้ามาตามถึงในป่าบอกว่าลูกป่วยให้กลับบ้าน เป็นต้น เมื่อคนไม่ยอมหลงกลไม่ลงไปหา ก็จะกลับมาใหม่พร้อมด้วยคนอีกสี่คนหามคานใส่ศพของลูกหรือเมียมาก็มี มีบางคนที่ยิงปืนใส่ เช้ามาเมื่อลงจากห้างพบว่ามีรอยเท้าเสือขนาดใหญ่เพ่นพ่านอยู่บริเวณนั้น และเชื่อว่าคนสี่คนที่เห็นว่าหามคานมานั้นคือขาทั้งสี่ข้างของเสือนั่นเอง

    ยังมีอีกหลายเรื่องเล่าเกี่ยวกับเสือสมิงที่ฟังได้ไม่รู้เบื่อ แต่ใน พ.ศ. นี้ ที่แม้แต่เสือตัวเป็นๆ ในป่าก็ยังหายากเรื่องราวของเสือสมิงก็ดูจะเลือนหายไป แต่เรื่องที่มักเป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงในหมู่นักอนุรักษ์ก็คือเรื่องสถานการณ์ของเสือในประเทศไทย เพราะเสือโคร่งนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของผืนป่า ดังคำกล่าวที่ว่า “เสือพีเพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง” การมีเสือโคร่งจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงป่าอันอุดมสมบูรณ์ โดยในปี 2555 ทางกรมอุทยานแห่งชาติให้ข้อมูลว่า คาดว่ามีจำนวนเสือโคร่งในธรรมชาติของเมืองไทยประมาณ 200-250 ตัว

    สำหรับผืนป่าที่มีเสือโคร่งอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากนั้นก็คือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและห้วยขาแข้ง ผืนป่ามรดกโลกของไทย ที่ครอบคลุมพื้นที่เขต จ.อุทัยธานี จ.ตาก และ จ.กาญจนบุรี นับเป็นป่าอนุรักษ์ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยจากการสำรวจของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งในช่วงปี 2555 ได้พบเสือโคร่งตัวเต็มวัยกว่า 70 ตัว ในจำนวนนี้เป็นเสือแม่ลูกอ่อนที่มีลูกเล็กๆ 5-6 ตัว และแต่ละตัวจะมีลูก 2-4 ตัว จึงคาดว่าป่าห้วยขาแข้งน่าจะมีเสือโคร่งอยู่ราว 85-90 ตัว เป็นอย่างน้อย

    และนอกจากนั้นยังเป็นที่น่ายินดีว่า การสำรวจพื้นที่ป่าโดยรอบห้วยขาแข้ง คือบริเวณอุทยานแห่งชาติแม่วงก์และอุทยานแห่งชาติคลองลาน ซึ่งไม่มีรายงานการพบเสือโคร่งมานานแล้วนั้น พบว่าในปีที่ผ่านมาที่อุทยานแห่งชาติทั้งสองแห่งสามารถถ่ายรูปเสือโคร่งตัวเต็มวัยได้มากถึง 10 ตัว

    แต่เนื่องจากเสือนั้นเป็นสัตว์ที่มีอาณาเขตในการหากินค่อนข้างกว้าง และจะไม่หากินทับพื้นที่ซึ่งกันและกัน ดังนั้นหากพื้นที่ป่าเหลือน้อยและไม่มีสัตว์ซึ่งเป็นเหยื่อให้หากิน ดังที่เป็นประเด็นถกเถียงกันในเรื่องการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ซึ่งนักอนุรักษ์หลายๆ คนเชื่อว่าจะกระทบต่อระบบนิเวศของผืนป่ามรดกโลกและป่าบริเวณใกล้เคียงกัน ยังไม่พูดถึงเสือที่ถูกมนุษย์ลักลอบล่าตามใบสั่ง สาเหตุเหล่านี้ล้วนทำให้เสือในเมืองไทยลดจำนวนลง กลายเป็นสัตว์หายาก และเสือสมิงก็คงจะหายากยิ่งกว่า อาจพบได้เพียงในละครบางช่องเท่านั้นเอง

    ที่มา สำนักถ้ำเสือ สมิงทอง
     
  19. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ปาฏิหาริย์วิชาเมฆฉาย หลวงปู่ภู วัดอินทร์



    สวัสดีจ้าวันนี้ เรื่องเล่าชาวสยาม จะพาทุกคนมาศึกษาเรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ตำนาน อภินิหารพระเกจิ ความลี้ลับ ไสยศาสตร์ เพราะในประเทศไทยของเรานั้น ต่างก็มีจุดเด่นทางความเชื่อและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาแหล่งรวมประวัติศาสตร์ที่มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมาก วันนี้เราขอมานำเสนอเรื่องเล่าของ หลวงปู่ภู วัดอินทร์ มาให้อ่านเพื่อศึกษากัน ติดตามรับชมกันได้เลย

    หากกล่าวถึง หลวงปู่ภู วัดอินทร์ ท่านเป็นพระเถราจารย์ยุคเก่าผู้มีตบะบารมีอันแก่กล้า ศิษย์ในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ในสมัยที่หลวงปู่ภู ยังแข็งแรงดี ท่านจะถือธุดงค์วัตรมาโดยตลอด พอออกพรรษา ท่านจะออกรุกขมูลมิได้ขาดท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังเสมอว่า ได้ร่วมเดินธุดงค์ไปกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เป็นบางครั้งบางคราวบางทีท่านออกธุดงค์ก็มีพระภิกษุติดตามด้วยท่านได้เล่าให้ฟังว่า ถึงเรื่องแปลกๆที่ได้ออกรุกขมูลไปตามป่าเขามากมายหลายเรื่องซึ่งล้วนแล้วแต่ตื่นเต้นน่าอ่านมาก

    007172.jpg
    หลวงปู่ภู วัดอินทร์


    ผจญจระเข้ ในสมัยที่ท่านเดินธุดงค์ มีอยู่คราวหนึ่ง ท่านได้ปักกลดพักอยู่ใกล้บึงใหญ่แห่งหนึ่ง ใกล้บริเวณนั้นมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชาวบ้านปลูกอาศัยอยู่ ๒-๓ หลัง ขณะนั้นเป็นเวลาใกล้เที่ยงวัน อากาศร้อนอบอ้าว ท่านจึงได้ผลัดผ้า-อาบ และลงสรงน้ำในบึงใหญ่ พอดีชาวบ้านแถบนั้นเห็นเข้า จึงได้ร้องตะโกนบอกท่านว่า “หลวงตาอย่าลงไป มีจระเข้ดุ” แต่ท่านมิได้สนใจ ในคำร้องเตือนของชาวบ้าน ท่านกลับเดินลงสรงน้ำในบึงอย่างสบายใจ ในขณะที่กำลังสรงน้ำอยู่นั้น ท่านได้แลเห็นพรายน้ำเป็นฟองขึ้นเบื้องหน้ามากมายผิดปกติ เมื่อได้เพ็งแลไปจึงได้เห็นหัวจระเข้โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ห่างจากตัวท่านประมาณ ๓ วา พร้อมกันนั้นเจ้าจระเข้ยักษ์ มันหันหัวมุ่งตรงรี่มาหาท่านแต่ท่านก็มิได้แสดงกิริยาหวาดวิตกแต่ประการใดไม่ กลับยืนสงบตั้งจิตอธิษฐานเจริญภาวนาจนจระเข้ว่ายมาถึงตัวท่าน พร้อมกับเอาปากมาดุนที่สีข้างของท่านทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ข้างละ ๓ ครั้ง แล้วก็ว่ายออกไป มิได้ทำร้ายท่าน

    เรื่องนี้เป็นที่น่าอัศจรรย์ต่อชาวบ้านที่ยืนดูอยู่บนฝั่ง เมื่อท่านขึ้นจากน้ำชาวบ้านต่างบอกสมัครพรรคพวก เข้าไปกราบนมัสการด้วยความเลื่อมใสศรัทธายิ่งนักและได้ขอของดีจากท่านคือ ตะกรุด ท่านได้บอกกับลูกศิษย์ว่าในขณะที่เผชิญกับจระเข้ ท่านได้เจริญภาวนา อรหัง เพียงเท่านั้น

    เสือเลียศีรษะ ท่านได้เล่าให้ฟัง คราวที่เดินธุดงค์รอนแรมไปในป่าใหญ่เพียงองค์เดียวในขณะที่เดินอยู่กลางป่า ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายมากแล้ว พร้อมกับร่างกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลียมาก เพราะท่านออกเดินทางตั้งแต่เช้ายังมิได้หยุดพักเลย พอเห็นต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ริมทางเกวียนร่มรื่นดี จึงได้หยุดพักอยู่โคนต้นไม้นั้น บังเอิญเกิดเคลิ้มหลับไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ปักกลดเพราะคิดว่าจะนั่งพักสักครู่พอหายเหนื่อยก็จะเดินทางต่อไปในขณะที่กำลังหลับเพลินอยู่นั้น ก็มาสดุ้งตื่นอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่ามีอะไรมาเลียอยู่บนศีรษะของท่าน ท่านจึงได้ผงกศีรษะขึ้นพร้อมกับหันหลังไปดู ก็เห็นเสือลายพาดกลอนขนาดใหญ่ยาวประมาณ ๘ ศอก ยืนผงาดอยู่แต่มิได้ทำร้ายประการใด พอเจ้าเสือลายพาดกลอน มันรู้ว่าสิ่งที่มันเลียอยู่นั้นรู้สึกตัวตื่นขึ้น มันกลับเดินเลยไปเสียมิได้ทำร้าย ท่านได้เล่าให้ลูกศิษย์ฟังพร้อมกับหัวเราะ หึ หึ ว่า ตอนเสือมันเดินผ่านไป ได้ยินเสียงข้อเท้าของมันดังเผาะๆ ในเวลาเดิน

    ผจญงูยักษ์ เนื่องจากการเดินธุดงค์ของท่าน ออกจะแปลกสักหน่อย ตรงที่ไม่ค่อยเลือกเวลา เพราะว่าส่วนมากพระภิกษุองค์อื่นๆ มักจะเดินกันตอนกลางวัน ก่อนตะวันตกดินถึงจะหาสถานที่ปักกลด ส่วนหลวงปู่ภู ท่านมิได้เดินเฉพาะกลางวันเท่านั้น ตอนกลางคืนท่านก็ออกเดินด้วยเพราะท่านเชื่อมั่นในตัวเอง อีกทั้งวิชาอาคมที่ได้ร่ำเรียนมา ท่านก็ถือว่า สามารถคุ้มกายท่านได้

    มีอยู่คราวหนึ่ง ท่านได้ออกเดินธุดงค์ในเวลากลางคืน โดยอาศัยแสงจันทร์ เป็นเครื่องส่องนำทาง แต่ก็ไม่สว่างมากนัก พอจะมองเห็นบ้างทั้งนี้ เพื่อจะมุ่งหน้าไปถึงหมู่บ้านตอนเช้า เพื่อรับบิณฑบาต การเดินทางกลางป่าดงดิบรกรุงรังไปด้วยแมกไม้นานาชนิด อีกทั้งเถาวัลย์ระแกะระกะเต็มไปหมด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อท่านนัก ในขณะที่ท่านกำลังเดินผ่านสถานที่แห่งหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงซู่ๆ และเสียงใบไม้ดังกรอบแกลบคล้ายเสียงสัตว์เลื้อยคลานผ่านท่านก็หยุดเดิน เพื่อดูให้แน่ว่าเป็นเสียงอะไร พอท่านหยุดเดินเจ้างูยักษ์ก็โผล่หัวออกมาจากดงไม้ ตัวโตเท่าโคนขาและตรงเข้ารัดลำตัวของท่านโดยรอบ ท่านตั้งสติยืนตรงพร้อมกับเอากลดยันไว้มิได้ล้มลง เจ้างูยักษ์ยันพยายามจะฉกกัดใบหน้าของท่าน แต่ท่านได้สติ ยืนนิ่งทำสมาธิจิตเจริญภาวนาอยู่ครู่หนึ่ง เจ้างูใหญ่ตัวนั้นมันก็คลายจากการรัดร่างของท่านแล้วเลื้อยเข้าป่ารกไป มิได้ทำอันตรายแก่ท่าน

    สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร : ความสำรวมในที่ทั้งปวง เป็นดี
    ตลอดระยะเวลาที่หลวงปู่ภูมีชีวิตอยู่ ท่านมิได้ใช้เวลาให้ว่างเปล่า ทุกเวลาของท่านมีค่ามาก มุ่งหน้าปฏิบัติมีพุทธภูมิเป็นที่ตั้ง การร่ำเรียนวิชาอาคมมา ก็เพียงเพื่อช่วยเหลือ ผู้ที่กำลังทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บนับว่าท่านมีเมตตาธรรมสูงส่ง การอธิษฐานบาตรลอยทวนน้ำ สำเร็จสุดยอดต้องใช้เวลา ปฏิบัติวิชาละ ๑๐ ปี จะเสกน้ำมนต์ให้เดือดได้ ต้องเรียนถึง ๑๑ ปี เต็มฉะนั้นการศึกษาวิชาอาคมของท่าน กว่าจะสำเร็จจะต้องใช้เวลาถึง ๗๑ ปีเต็ม

    • การที่ท่านมุ่งมั่นเรียนวิชา ดูเมฆ หรือเรียกกันว่า วิชาเมฆฉาย ในพจนานุกรม หมายความว่า “การอธิษฐาน” โดยบริกรรมด้วยมนต์คาถาจนเงาของคนเจ็บลอยขึ้นไปในอวกาศ แล้วพิจารณาดู คนเจ็บนั้นเป็นอะไร
    • ส่วนวิชากสิณนั้นหมายถึง อารมณ์ที่กำหนดธาตุทั้งสี่ มีปฐวี อาโป เตโช วาโย อัน มีวรรณ ๔ คือ นีล ปีต โลหิต โอกทาต อากาศแสงสว่าง ก็คือ อาโลกกสิณ
    ซึ่งวิชาทั้งสอง ที่ท่านได้เพียรพยายามศึกษาเมื่อมุ่งช่วยเหลือมวลมนุษย์ ที่ประสบเคราะห์กรรมเป็นต้น การบำเพ็ญปฏิบัติของท่านจะเริ่มขึ้นหลังจากท่านได้ฉันจังหันแล้ว คือเวลา ๗.๐๐ น. ตรง ตลอดชีวิตท่านฉันเพียงมื้อเดียว(ถือเอกา)มาโดยตลอด ผลไม้ที่ขาดไม่ได้ คือ กล้วยน้ำว้าท่านบอกว่าเป็นโสมเมืองไทย

    20121229_1771762460.jpg
    หลวงพ่อโต วัดอินทร์
    เวลาท่านออกบิณฑบาตทุกวัน ซึ่งถือเป็นกิจวัตรของพระสงฆ์ที่พึงปฏิบัติทั้งๆ ที่ท่านไม่จำเป็นจะต้องออกก็ได้ เพราะเจ้าฟ้าสมเด็จกรมพระนครสวรรค์พินิจ ได้จัดอาหารมาถวายทุกวันแต่ท่านก็ได้บอกว่า การออกบิณฑบาตโปรดสัตว์เป็นกิจของสงฆ์
    เมื่อท่านฉันจังหันเสร็จแล้ว ก็จะครองผ้าลงโบสถ์และลั่นดานประตู เพื่อมิให้ผู้ใดเข้าไปรบกวนท่าน จะเจริญพุทธมนต์ถึง ๑๔ ผูก วันละ ๗ เที่ยวแล้วจึงนุ่งวิปัสสนากรรมฐานต่อไปจนถึงเที่ยวทุกๆวัน ท่านเคยเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า ขณะที่นั่งกรรมฐานอยู่พอได้เวลาเที่ยง ทางการจะจุดปืนใหญ่ (เพื่อบอกเวลาว่าเที่ยงแล้ว)ในขณะที่จุดปืนใหญ่ “กูหงายหลังทุกที” พอท่านพักได้ชั่วครู่ก็จะบำเพ็ญเจริญภาวนาต่อไปจนถึงตีหนึ่ง จึงจะจำวัด

    ถึงแม้ตอนท่านชราภาพ ท่านก็มิได้ขาดจากการลงทำวัตร เว้นแต่ท่านอาพาธหนักจนลุกไม่ไหวท่านก็เจริญวิปัสสนา โดยการนอนภาวนา ซึ่งในพระธรรมวินัยได้กล่าวไว้ เรื่องวิปัสสนากรรมฐานการปฏิบัติด้วยอิริยาบถ ๔ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน ก็ปฏิบัติได้

    ท่านเคยเปิดก้นให้ลูกศิษย์ดู พร้อมกับถามลักษณะก้นของกูเป็นอย่างไร ลูกศิษย์ก็ตอบว่าก้นหลวงปู่ด้านเหมือนกับก้นของลิง หรือเสน ท่านจึงได้บอกว่า “ปฏิบัติอย่างนี้ ไม่ได้ดี แล้วจะดีเมื่อไหร่ คนที่เป็นอาจารย์เขา “จริง” อย่างเดียวไม่พอต้อง “จัง” ด้วยคือต้องทั้งจริงและจังควบคู่กันไป (ต้องรู้แจ้งแทงตลอด)

    เป็นยังไงกันบ้างกับหลากหลายเรื่องราวที่เล่าต่อกันมาของตำนาน หลวงปู่ภู วัดอินทร์ บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อศึกษาเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์ ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางเรื่องอาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคล


    ที่มา
    https://www.kidnan.com/21096/?fbclid=IwAR0VMPGJbj-HEpNrp9sFFkzL7s1-evEcoBoEl0GbEAYyXhYVcK0YmHGYApU
     
  20. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    เรื่องเล่าเล่นๆๆตอนที่48

    ไม่ได้เล่าซะนาน จริงก็อาจเรียกได้ว่าเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์และวิธีใช้

    เครื่องรางให้เหมาะสมกับตัวเรา ล่าสุดได้หุงสีผึ้งเสน่ห์จันทร์ขึ้นมา สีผึ้งนี้ถ้าคนรู้วิธีใช้จริงๆ

    แล้ว สามารถทำได้หลายอย่าง นอกจากป้ายตัวเอง ป้ายคนอื่นก็ได้หรือใช้ทาเพื่อเพิ่มพลังกาม

    พวกนี้ต้องมีเคล็ดมีคาถากำกับ ส่วนมากคาถาพวกนี้จะเป็นพวกกระทำย่ำยีโดยมาก ซึ่งการ

    ท่องเรียกใช้คาถา ไม่ต้องใช้สมาธิอะไร เพียงแต่ใช้ความรู้สึกอารมณ์ของจิตในการท่องคาถา

    เราท่องคาถาโดยการใช้การออกเสียงเหมือนคำสั่ง อารมณ์สั่งคน นั่นแหละเคล็ดในการใช้

    คือพลังที่เรากำหนดลงไปด้วยอำนาจเสียง แล้วสุดท้ายให้เป่าลมพรวดเดียว ไม่ต้องเป่าลาก

    ยาวไม่มีประโยชน์ บางคนเป่าลมซะเป็นเป่าเค้กวันเกิด มันจะเอาพลังตรงไหนมา เทียนยัง

    ไม่ดับเลยคิดแบบนี้ ให้เป่าพรวดเดียว เคล็ดนี้ไม่มีใครบอกกัน ผมเอามาเล่าเป็นเกร็ดความรู้

    ไปลองใช้กัน เพราะทางสำนักจะเน้นเรื่องพลังมากกว่าคาถาร้อยแปดพันเก้า แต่เวลาใช้ให้

    อิงพลังเป็นหลัก ไม่มีจำกัดว่าต้องเฉพาะคาถาที่นี่ ที่ไหนก็ให้ใช้วิธีนี้ เอาความรู้สึกของเรา

    พยายามจับอารมณ์ให้ได้ ลองใช้ถ้าได้ผลให้จำเอาไว้ว่าประมาณนี้

    เรื่องของเสน่ห์นั้น การใช้งานต้องมีสติ ไม่งั้นเราอาจเผลอไผลได้ง่าย แต่ก็แล้วแต่

    ความแรงของสิ่งนั้นด้วย อันนี้ไม่ได้พูดเกินไป และของเสน่ห์ถ้าใช้ติดต่อกันนานๆๆ จะ

    ทำให้เราร้อน ร้อนที่นี้หมายถึงเรื่องกาม ต้องหยุดหรือพักบ้าง อย่างวันนี้ได้มีโอกาส

    ไปพบพระที่รู้จักกัน เผอิญระหว่างท่านกำลังให้พรโยม ที่นำกับข้าวมาถวายเพล

    พอให้พรจบทุเรียนที่วัดปลูกดันตกลงมาลูกเบ้อเร่อ บ๊ะ เธอรีบวิ่งไปเก็บ ขอหลวงตาไป

    กิน ผมก็เลยแซวไปว่า ได้พรลูกเบ้อเร่อเลยนะ เธอหัวเราะอายๆๆ ก็นั่งคุยกันเรื่อง

    ทั่วไปบ้าง ธรรมะบ้าง กับหลวงตาและโยมผู้หญิงคนน้้น ระหว่างคุยไปเธอก็ออกปาก

    ชวนให้ไปที่บ้าน ไปเที่ยวบ้าง อยู่ตรงนั้นตรงนี้ ก็เลยปฎิเสธไปว่า มาเจอที่วัดจะดีกว่า

    ไม่น่าเกลียด เพราะเดี๋ยวคนจะเห็นเอาไปนินทา ก็พูดคุยไปประมาณหนึ่งก็ขอลา

    หลวงตากลับบ้าน เธอก็กลับเหมือนกัน ไม่วายชวนไปกินทุเรียนที่บ้านเธออีก เอ้า

    จะให้ไปให้ได้ ผมก็เลยบอกไว้วันหลัง มันแรงจริงๆๆขุนแผนหลังฝังน้ำมันพรายองค์นี้

    ถ้าเราเผลอไป อาจมีเรื่องไม่ดีก็ได้ ถึงว่าใช้แล้วต้องมีสติให้มากๆๆครับ ฝากเตือนกันไว้
    326992.jpg 326991.jpg
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...