บัญญัติจากตำราที่ความหมายแตกต่างกัน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 22 พฤศจิกายน 2018.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ความหมายของคำว่า
    ตั้งสติกำหนดลมหายใจ กับ ตั้งสติกำหนดรู้ลมหายใจ
    ต่างกันมากแค่ไหนเมื่อปฏิบัติทั้ง 2 แบบ
    สำหรับผู้เริ่มปฏิบัติตามตำรา
    จะเกิดผลลัพท์เหมือนกันไหม
    หรือจากอย่างไหน
    จะเป็นการเริ่มต้นที่ถูกต้องครับผม
     
  2. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    แบบแรกคือ "ไม่มีสติ เพราะตั้งมั่นการเพ่ง/ดู ลมหายใจ"(กำหนดลมหายใจ) แต่หลายๆคนเข้าใจว่ามันคือ รู้ลม ซึ่งไม่ใช่

    ส่วนกำหนดรู้ถึงจะใช่ เพราะปกติมันก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่ไปเพ่งจน "รู้สึก" ถึงลมครับ

    ส่วนผลลัพธ์ข้อแรกคือ"ตั้งจิตมั่น"เพื่อทำฌาน
    ข้อสองคือ "ตั้งสติ" ผลลัพธ์คือ เป็นฐานของสัมมาสติซึ่งรู้สภาวะธรรมตามจริง ไม่ใช่ฌานฤาษีฮับ
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ทั้ง 2 อย่างเป็นฐานของการเดินปัญญาไปสู่การ
    รู้แจ้งได้ถูกไหมคับ
    แต่ความรวดเร็วจะแตกต่างกันไหมคับ
    เฉพาะปัจจัยด้านวิธีการ
     
  4. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ใช่ครับ "ทั้งสองอย่าง" เลย ส่วนความรวดเร็วไม่มีแตกต่างกันครับ เพราะต้องมีทั้ง สติ และ สมาธิ จึงจะเห็น สรุปคือต้องทำทั้งสองแบบเพื่อให้ได้ทั้งสติและสมาธิครับ

    แต่ถ้าอยากได้สองอย่างพร้อมๆกันต้องตั้งจิตไว้ในกายฮับ จะได้ทั้งรู้สึก(ที่ตัวดู,อัตตา,วิญญาณ,ผู้รู้ที่กำลังดู/เพ่งอยู่) กับรู้ตามจริงได้ครับ เพราะตั้งกับลมมันเล็กไปมันจะไม่รู้ซะมากกว่า
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    กำหนดรู้ ที่เปน ภาษาใน พระไตรปิฏก จะรบุชัดว่า
    หมายถึงความครบถ้วนในการ ยก ธรรม(คู่) เพื่อ
    การศึกษา จะมี สัจจญาน กิจญาน กตญาณ

    และให้รวมถึงรู้ เหตุของการเกิด ( อิทัปปัจจัยการ สายเกิด )

    และ อุบาบเครืองนำออก ( อิทัปปัจจัยการ สายดับ )

    พอครบถ้วน สมบูรณ์ จะเหน วิมุตติ ที่เปน วิเวก
    บ้าง วิขัมภะบ้าง ตทังคประหานบ้าง

    ส่วน ตทังคประหาร หากเห็นได้ ก้จะเพิ่มคำว่า "แล้ว" คือ กำหนดรู้แล้ว....ถ้ายังไม่เข้า ประหานะ
    ก้ถือว่า กิจยังมี ให้กำหนดรู้ให้มากๆ เนืองๆ จนกว่า
    จะสมควรแก่ธรรม

    ส่วน กำหนดรู้ ที่พระป่าเอามาใช้ จะออกแนว นั่ง
    ทางในไปสำรวจอดีตชาติ อนาคต หรือแม้นกระทั่ง
    ดักทายใจสัตว์........ไปคนละเรื่อง ตามลักษณะ
    กลองอนากะ(กลองจานลา...ก้เรียก)

    คนไปฟังธรรมพระป่า ยิ่งไปกันใหญ่ ไปแปลเป็น
    การเพ่ง จ้อง ปั้นท่า ปั้นทาง พยักหน้าทำท่าว่ารู้

    ส่วน กำหนดรู้ ที่เปนคำเขมร ที่แปลว่า กดข่ม
    ก้ว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง

    กำหนดรู้ ในพระไตรปิฏก จึงหมายเอา สุตตมัย
    ปัญญา(การสำเร็จมรรคสี่ผลสี่)

    ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นแล้วตาม ผลสี่ เรียกว่า ภวนามัยปัญญา

    ส่วน อาการทำท่าว่ารู้ ปั้นท่า ปั้นทาง หาอะไรไหว
    มาเทียบเคียงว่ารู้ ที่ไปหยิบเอาชื่อ ปัญญาที่มีเฉพาะในพระโพธิสัตว์มาใช้(จินตมัยปัญญา) เปน
    อีกอาการหนึ่งของ สาวกที่ทำอาการ กลองอนากะ
    (กลองจันรำไร) อีกอาการหนึ่ง
     
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เก็ตแล้วฮับขอบคุณคับ
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    คำตอบที่แบบไม่แยกพระป่ากับพระห้องแอร์
    มีไหม
    พระหม่องไหนบรรลุมรรคผลนิพานมีจำนวน
    มากกว่ากันฮับ
     
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ตาม คำชี้แจงข้างบน

    นักปฏิบัติรุ่นใหม่ พอพูดว่า กำหนดรู้ลม จึงหมาย
    ถึงการเพ่งลม หรือ ฝึกกสิณลม

    ไม่ใช่การยก ลม เปน ปรมัตถ มหาภูตรูป เพื่อเหน
    สัจจญาน การมีอยู่ของลม กิจญาน การเคลื่อน
    กตญาน การปิดบังทุกข์

    เหนเหตุของการมี ลม อาสัยปัจจัยคือ ช่องว่าง
    ในการถ่ายเท

    เหนเหตุของการดับไปของ ลม ...ลมดับได้เฉพาะใน นิพพาน นอกนั้นจะถือว่ามีลมทั้งหมด

    พอรู้รอบเรื่อง ธาตุลม จะเหนว่า จะต้องเกิดวิมุตติ
    หลุดพ้น ด้วน วิเวก วิราคะ วิขัมภะ ฯ ตามที่ได้
    อธิบายไปแล้ว
     
  9. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    การกำหนดรู้การหายใจ นักปฏิบัติรุ่นใหม่จะ
    ไปเพ่งที่ กาย เช่น ท้อง คอหอย ก้นหยอย ฯลฯ

    ไม่ใช่ พิจารณา เหน อาการหายใจ

    กิจญาน คือ การก่อธาตุไฟ เพื่อเผาผลาญ มีชรา
    มีมรณ ดำเนินไปจนกว่าจะถึง จุดจบของการมี
    ลมหายใจ

    กตญาน คือ การปิดบังทุกข อริยสัจจ เผลอเพลิน
    ในอาหารสี่ ฯลฯ

    ปัจจัยให้เกิด คือ กามภพ รูปภพ อุปทาน กามสัญญาในกาลก่อนๆ ทะยอนให้ผลจนกว่าจะจบ
    หากไม่มี กรรมตัดรอน

    ปัจจัยให้ดับ .....ก้เปนการเหนวิมุตติ ตายก่อนตาย
    ข้ามฝากตาย (ไม่ใข่เรื่องเข้าสมาบัติ ลมหายใจหาย)

    นะ..จบลงที่ เหน วิมุตติชริดต่างๆ

    ที่เหลือ ว่าไปตาม กำลังในการพิจารณา ...
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    แถม..

    อานาปานสติ เปน กองสัญญา

    หมายเอาการเหน สัญญาที่ระลึกได้ใรอาการลม6 อย่าง

    แสดงความเกิดดับ ของ สัญญขันธ์

    เพื่อเลี่ยง กองเวทนา ที่จะสัมปยุตกับ กาย กลายเปน อาการร่างกายหายใจ

    เพื่อเลี่ยง การเพ่งลม ที่จะอ้อมไปฝึก กสิณ

    พอตามเหน สัญญขันธ์เกิดดับ ได้

    ก้จะ ยก อนิจจสัญญา มาดูเกิดดับ ของอนิจจสัญญาได้

    ยกไปต่อใน อนัตตสัญญา....

    .......
    ........
    สัญญา เวทยิตฯ.....
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    แถมทำไม??
    มันยังไม่มีอะไรสัมปยุตกับอะไรดอก
    ตราบใดที่จิตยังไม่เคยสัมผัสแสงสว่าง
    ซักวูบเท่าแสงหิ่งห้อย555
     
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ถ้ามา อนัตตสัญญา เกิดดับ ได้

    จิตมันจะ เข้า ออก เก็บ กำลัง แสงเหล่านั้นเอง

    ของกล้วยๆ วันนึงจะเอากี่รอบก้ได้ แล้ว ไม่มี
    วิปัสสนูกิเลาแทรก สำคัญตน 7วันตาย หรือ
    ไม่ตาย จนเครียด ต้องไปคอยแช่งใครเขา
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ใครแช่งใครอีกอ่ะ
     
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    มาทบทวนกานนว์าฮ้ว์า

    ภาษาพระไตรปิฏก เข้าใจง่าย

    เริ่มที่ " ทุกข์ ให้กำหนดรู้ "

    ใช่เพ่ง ใช่ทำท่า อะไรไหมฮ้ว์า

    หรือ กำหนดรู้ถูกต้อง ต้องเหน วิมุตติ นิโรธน แน่นอน
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ตั้งสติในที่นี้ เป็นสติแบบทางโลกนะครับ
    เป็นลักษณะการระลึกให้ไปรู้ว่า ต้อง กำหนดลมหายใจหรือต้องรู้ลมหายใจ

    กำหนดลมหายใจ คือ ลักษณะที่เรายังบังคับลมหายใจอยู่นะครับ
    รู้ลมหายใจ เป็นลักษณะที่เอาสติทางโลกนั้นตัวนั้น ไปรู้กิริยาของลมหายใจ

    ในมุมส่วนตัว มองว่า ถ้าจะหวังผลในเรื่อง ของการสร้างสติทางธรรม
    (ไม่ใช่ทางโลก
    สติทางธรรม คือ ตัวที่ควบคุมความคิด พฤติกรรมของจิต ตัวที่ทำให้
    เข้าใจในเรื่องนามธรรมต่างๆ หรือตัวที่เหมือนคิดได้เวลาฝัน)

    และพัฒนาความละเอียดของจิต หรือ ยกระดับกำลังสมาธิใช้สูงขึ้น
    ทั้ง ๒ วิธีนี้ยังไม่ดีเลยครับ....

    ถ้าเป็นระลึกรู้ลมหายใจเข้าและออกหยุดที่ปลายจมูก
    ตรงนี้ถึงจะเป็นการสร้างสติทางธรรมได้ครับ....

    ส่วนลมหายใจก็ดันมันให้ลึกถึงท้อง
    เรียกว่า หายใจเข้าท้องพอง หายใจออกท้องยุบ
    ตรงนี้ถึงจะได้ความละเอียดของจิตครับ....

    และก็อย่าใช้สติทางโลก ในการไปตามลมหายใจนะครับ
    ถ้าต้องการยกระดับสมาธิให้สูงกว่าปฐมฌาน...
    เพราะว่า ตัวจิตมันเกิด มันไปตามลมอยู่ มันจะสงบได้ยากครับ

    ยกเว้นว่า จะพอใจในกำลังระดับนี้ แล้วไปเรื่อง
    ของการเดินปัญญาไม่ว่ากัน......

    ลองพิจารณาดูครับ
     
  16. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219


    นาทีที่ 36 เป็นต้นไป พระอาจารย์ปราโมทย์บอกกรรมฐานที่ใช้ไม่ได้
     
  17. [-VaLentine-]

    [-VaLentine-] กระผมสมาธิและกำลังจิตกากสุดในเวปนี้

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +486
    ไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้นะครับ ทำไมผมเริ่มอ่าน ข้อความของท่านเล่าปังรู้เรื่องนะ ผมอ่านบ้างไม่อ่านบ้างเพราะไม่เข้าใจเพราะผมโง่ธรรมเกินไป แต่ช่วงนี้เริ่มอ่านรู้เรื่อง คนโง่อย่างผมโคตรดีใจเลยครับ
     
  18. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    พระพุทธองค์ทรงตรัส

    "ห้ามตำหนิจิต เด็ดขาด"

    ธรรมนั้น ...เอาเข้าจริงๆ ธรรมก้ไม่เที่ยง

    รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง

    ตอนที่ รู้ว่า. ไม่รู้ หลวงพ่อพุธทูลเกล้าถวาย
    ธรรมให้ในหลวงในพระบรมเจีดีย์ ว่า "คือสุดยอดการรู้"

    เพราะ "ขณะ" ที่ ไม่รู้ ....คือการเหน จิต ดูจิต
    ประจักษ์ลักษฯะของจิต แสดงความไม่เที่ยง

    สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นควรเหนเปยสุข หรือ ทุกข์

    สิ่งใดแสดงสัจจทุกข์ "กำหนดรู้ได้" ...จะเหนือ
    กว่า เรียนธรรมเอา "รู้เรื่อง"

    นอกเหตุ เหนือผล

    เหนือโลก หงายของที่คว่ำ

    ตามเหนเนืองๆ ยกเปน ธัมมานุปัสสนา ไม่
    ประมาทรีบร้อนนั่งนับ 7วัน ภาวนาไม่เลิก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2018
  19. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ไอ้ท่านอาจารย์ปังขาเป๋
    มันเก่งทฤษฎีหาตัวจับ
    ยากฮับ
    ใครอ่านเข้าใจก็ใช้เป็นไกด์ไลน์
    ได้ฮับ
    ถ้าไม่เมาศัพท์แสงจนอาเจียร
    เวียนหัวเสียก่อน
     
  20. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ หากเริ่ม "ปฏิบัติ = ลงมือทำ" จะให้ผล "ต่างกันทันที"
    +++ หากเริ่ม "ปฏิบัติ = ลงมืออ่าน" จะให้ผล "เหมือนกันทั้งหมด" เพราะ "ไม่ได้ทำ"
    +++ ลุงแมว เริ่ม "ตั้งสติกำหนดลมหายใจ" แบบที่ลุงแมวรู้จัก ตอนนี้เลย แล้ว "รู้ให้ชัดเจน" ว่าอาการที่เกิดขึ้น "เป็นยังไง"
    +++ พอ "รู้จักอาการแล้ว" ให้ถอนออก แล้ว ...
    +++ ต่อจาก "ยกที่แล้ว" ทันที ก็จะ "รู้" ได้ทันทีว่า "มันต่างกัน" หรือไม่ อย่างไร
    +++ ตรงนี้แหละ จึงจะเรียกว่า "พิจารณา" ตัวจริง
    +++ เพราะเป็นการ "เทียบอาการ" จากการ "ลงมือทำ ไม่ใช่ ลงมือคิด/มโน"
    +++ ตามอาการที่ "เกิดขึ้นจริง"

    +++ และตรงนี้ เป็นจุดแยกแยะความเข้าใจระหว่าง "ดู VS รู้" ในขณะนั้น ทันที
    ====================================================
    *** หมายเหตุ ลุงแมว "ทำ รู้ ลมหายใจ" เป็นแล้วหรือยัง เพราะ 100/100 บอกว่า "ทำเป็น" แต่พอ "สอบจิต" เข้าให้ ปรากฏว่า 100/100 ล้วนเป็น "ดู" ลมหายใจ ทั้งหมด และ "ไม่สามารถ "รู้" ลมหายใจ ได้เลย" ***
    ====================================================
    +++ คำศัพท์เพียง "คำเดียว" แท้ ๆ ในภาค "ปฏิบัติ" หากไม่สามารถ "ปฏิบัติให้ตรง (อุชุปฏิปัณโณ)" ได้ ก็รับประกันได้ว่า "ไม่ไปไหน" แน่นอน นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...