ลูกศิษย์บันทึก เล่ม 3 หน้า 149 ของข้าพเจ้า

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย montrik, 1 กันยายน 2018.

  1. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    ขอบคุณมากครับ
     
  2. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    ขอบคุณมากครับ
     
  3. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    ขายของทางเวบ.....ขายได้ แม้เศรษฐกิจซบเซา

    ในช่วงที่ผมยังทำงานบริษัทฯเอกชน ผมจะเป็นผู้ซื้อ ไม่เคยขาย และไม่คิดมาก่อน ว่าจะขายของอะไรทางเวป
    เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ก็ต้องตัดสินใจ นำของที่ผมได้สะสมมาออกจำหน่าย เป็นสินค้ามือสอง ทางเวปไซท์ ผลตอบรับไม่ดีนักในช่วงแรก

    เป็นที่น่าประหลาดใจว่า หลายครั้งที่บรรยากาศการขาย เงียบไปนาน ขณะนั้น ก็มีความจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องมีเงินเพื่อใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่ง( เพราะผมก็ไม่มีรายได้ประจำในตอนนั้น) ก็จะมีออเดอร์เข้ามา เท่าๆกับ จำนวนที่ต้องการ ไม่ขาด ไม่เกิน จะบอกว่า แค่นึก ก็มาแล้ว ประมาณนั้น หากเป็นครั้ง สองครั้ง ก็เป็นเรื่องปกติ ธรรมดา นี่เกิดขึ้นร่วมสิบครั้ง จะบอกให้ใครฟัง ก็คงเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ผมรู้จากที่ประสบกับตัวเอง

    รวยอยู่ไม่ทน จนอยู่ไม่นาน

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2018
  4. นพพร 2553

    นพพร 2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    743
    ค่าพลัง:
    +1,231
    อ่านติดตามอยู่ครับ
    ผมก็ทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทเหมือนกับคุณมนตรี
    ช่วงวัยเดียวกับที่คุณมนตรีเล่า 48-55
    เข้าใจความหนาวในใจ เเละความทุกข์ในใจ
    ในตอนทำงานบริษัท
     
  5. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    ขอบคุณครับคุณนพพร

    ผมพยายามฝึกให้อยู่กับปัจจุบัน
    โลกนี้เป็นของชั่วคราว
    ไม่มีทุกข์ที่แท้ สุขถาวร
    ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่ผ่านเข้ามา
    เห็นทุกอย่างเป็นธรรมดา
    ทุกอย่างเป็นไปตามกฎแห่งกรรม

    มุ่งพระนิพพาน เป็นอารมณ์

    ขอบคุณที่ติดตามครับ
     
  6. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    การฝึก สมาธิ ของผม

    ผมทำสมาธิมาตั้งแต่วัยเด็ก มาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ถึงจะไม่ทุกวัน แต่ก็ถือว่า เป็นส่วนใหญ่ พอพอกับการสวดมนต์ ท่องคาถาก่อนนอน ผมจะทำสมาธิส่วนใหญ่ในช่วงก่อนนอน ส่วน การทำสมาธิหลังตื่นนอน เพิ่งมาทำเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ผมไปปฎิบัติธรรม ที่วัดอัมพวัน มาตลอด 7 วัน แล้วมีความรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง

    สำนักของหลวงพ่อจรัญ ท่านสอนแบบ ยุบหนอ พองหนอ เดินหนอ ได้ยินหนอ ซึ่งฝึกสติให้อยู่กับปัจจุบัน และ กำหนดระยะเวลาต่อครั้ง เริ่มจาก ครึ่ง ชั่วโมง จนไปถึง ชั่วโมงเศษ เรียกว่า หนึ่งบัลลังค์ ซึ่งเป็นการฝึกความอดทน เป็น ขันติบารมี วิริยะบารมี อธิษฐานบารมี ไปพร้อมๆกัน
    การเข้าคอร์ส 7 วัน ทำให้เราได้สามารถบำเพ็ญเพียรได้อย่างต่อเนื่อง และ สังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลง ทางกายและใจได้ดี นอกจากนี้ ยังสามารถสังเกตุอาการจากการทำสมาธิ ในแต่ละขั้น ได้ละเอียดลึกซึ้งได้ชัดเจน
    การฝึกที่วัดอัมพวัน ผมมาสองคราว คราวแรก 7 วัน คราวที่ 2 เป็นเวลา 3 วัน

    FB_IMG_1538257902942.jpg

    ซึ่งถือว่า การปฎิบัติตามแนวของวัดท่าซุง และ วัดอัมพวัน เป็นพี้นฐานที่สำคัฐของผม

    เมื่อได้มีโอกาสได้ศึกษากับ สถาบันพลังจิตตานุภาพ หรือ ครูสมาธิ ของหลวงพ่อวิริยังค์ด้วยแล้ว สามารถเติมเต็ม ทั้งความรู้ และการปฎิบัติ ให้แข็งแกรงก้าวหน้า ส่งเสริมกันเป็นอย่างดี

    เมื่อก่อน ผมไม่ได้มีเป้าหมายอะไรมาก แค่ทำจิตให้สงบ นึกถึงภาพ พระพุทธรูป แล้วภาวนาพุทโธ ตามที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านได้สอนไว้ เป็นอาจารย์ท่านแรกของผม ก็ทำอย่างนี้เรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน

    มีต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2018
  7. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    ผมขอนำเอาบันทึกของอาจารย์ศุภรัตน์ที่กล่าวถึงหลวงปู่ดู่ เพื่อแบ่งปันผู่ศรัทธาได้อ่านครับ

    FB_IMG_1538718828603.jpg FB_IMG_1538718826450.jpg
     
  8. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    ผลดีของการนั่งนาน

    ผมเคยอ่านจากหลายความเห็น ของผู้ที่เปรียบเทียบระหว่างการนั่งนาน กับนั่งแบบกำหนดระยะเวลาสั้นๆ จากหลายท่าน บางท่านถึงกับกล่าวอย่างรุนแรงว่าการนั่งนาน เป็นการเกินความจำเป็น และ ตึงสุดขั้ว
    ทำให้ผมนึกถึง พระอุปคุต ที่ยังนั่งในกลางสดือทะเล และ พระมหากัสสปะ ที่ยังนั่งอยู่ในถ้ำเขตสิบสองปันนา หรือ แม้ พระเถระบางรูปที่อธิษฐานนั่งเข้ากรรม หรือนิโรธสมาบัติ นานๆนับสิบวัน อย่างนี้ก็เป็นการไม่สมควรหรือ

    ท่านที่กล่าววิพากย์วิจารณ์ เคยปฎิบัติแบบนั่งนานที่สุดกี่นาที กี่ชั่วโมง ถึงได้ทำตัวเป็นผู้อวดรู้ได้

    ผมได้มีโอกาสพิสูจน์ด้วยตัวเอง ด้วยการไปปฎิบัติ ตามแบบหลวงพ่อจรัญ 7 วัน เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว และมานั่งฝึกเอง นานเท่าที่ตัวเองต้องการ สองชั่วโมงกว่าต่อครั้ง หลายหน
    ผลของการปฎิบัติเป็นอย่างไร

    ก่อนนั่ง ก็ฝึกยืน และ ฝึกเดินจงกลมก่อน แบบย่างหนอ พัฒนาจาก 2 จังหวะ เป็น 3 / 4 / 5 .......ระยะเวลาต่อยก ก็ เริ่มจาก ครึ่งชั่วโมง 45 นาที 1 ชั่วโมง
    เมื่อเดินเสร็จ ก็มาสลับนั่ง

    แบบการนั่ง ขาขวาทับขาซ้าย นั่งตัวตรง หายใจ เข้าพองหนอ หายใจออก พองหนอ จิตจับที่ท้องที่ยุบ พอง ตามจังหวะ (ตรงนี้ปรับ ประยุกต์เองได้ตามที่ตัวเองถนัด)

    ระยะแรกของการฝึก เริ่มจาก ครึ่งชั่วโมง 45 นาที 1 ชั่วโมง

    เวทนาคือความเจ็บปวด เกิด ทั้งขนะยืน เดิน และนั่ง
    ยืนเฉยๆ แต่ปวดฝ่าเท้าแทบยืนไม่ได้
    เดินย่างไปมา แต่ปวดเท้า ปวดขา แทบเดินไม่ไหว
    นั่งเฉยๆ แต่ปวดทั้งแผ่นหลัง ปวดชาตามขา ก้น แทบจะล้ม

    ความเวทนาเกิดขึ้นหลังจากเราเริ่มไปประมาณครึ่งชั่วโมง เริ่มจากอาการชาตามจุดต่างๆของร่างกาย ยุบยิบๆ ขยายวงกว่างไปเรื่อยๆ กลายเป็นความเจ็บปวด จากน้อยไปมาก จนเหงื่อท่วมตัว
    จุดนี้ เป็นจุดแตกหัก ที่จะทดสอบจิตใจของตัวเราเอง ว่าจะแพ้ หรือจะสู้ต่อ ผมเคยแพ้ ด้วยการขยับตัว ขยับขา ให้เลือดมันเดิน เพื่อให้หายปวด แต่ทว่า ความปวดหายไปแป้บเดียว เราทำต่อก็ปวดอีก เป็นอยู่หลายครั้ง จึงเริ่มรู้ว่า ไม่ถูกต้อง ต้องสู้เท่านั้น
    ในช่วงวันที่ 3 ของการฝึก ร่างกายจะปวดร้าวไปทุกส่วน แต่เราก็เริ่มจะจับจุดได้ และเริ่มทดลองบางอย่างที่จะเอาชนะความเจ็บปวด

    เมื่อใจสั่งว่าต้องสู้ คิดว่า ตายเป็นตาย หลังจากผ่านไป ครึ่งชั่วโมง อาการเดิมๆ เริ่มปรากฎอย่างเคย เอาใจไปจับตรงที่เกิดเวทนา ขณะเดียวกันก็บริกรรมในใจไปด้วย จดจ่ออยู่ตรงนี้ ให้มันค่อยๆผ่านไป แม้ความเจ็บปวด จะเริ่มปรากฎ และทวีคูณขึ้น เราก็แค่เอาใจไปดูมัน อย่าพวงกับเวลา หรือสัญญานบอกใหยุดจะมีเมื่อไร

    เราได้พบกับอีกฟากหนึ่งของความเจ็บปวดหรือเวทนา

    อาการที่เกิด ช่างน่าแปลก และอัศจรรย์ เป็น ปัจจัตตัง ที่คนปฎิบัติจะรู้เองเห็นเอง...คืออะไร
    ความปวดที่เกิดขึ้นที่ร่างกายเรา จะเริ่มรวมเป็นจุดเดียว ค่อยๆหดตัวจากวงกว้าง ค่อยๆรวมเป็นจุดเล็กเท่าปลายเข็ม บางอาการเกิดที่ก้น เหมือนนั่งอยู่บนลูกอะไรกลมๆ และค่อยๆยุบ ความปวดค่อยๆ เป็นความเย็น แบบโดนน้ำแข็ง ทีละน้อย แผ่ซ่านออกไปเป็นวงกว้าง จากกลางก้นกบ ออกไปทีละขา จนปลายเท้าทั้งสองข้าง จากการที่ไม่สามารถขยับขาย ขยับนิ้วได้เลย ก็จะค่อยๆ ขยับปลายนิ้วได้ทีละนิด ความปวดก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง เวทนาค่อยๆหมดไป หมดไปจริงๆ ไม่หวนมาปวดอีก แม้ในวันต่อๆมาก็รู้สึกนั่ง เบาสบาย ตลอดหนึ่งชั่วโมงกว่า

    นี่เหละครับความลับที่เจอด้วยตัวเอง และไม่เคยกลัวการนั่งนานอีกต่อไปเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2018
  9. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610
    เรื่องราวชีวิตยังกะละคร
    มีทั้งสุข ทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง
    แต่นับถือ ชีวิตที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
    ทุกวันมีความหวังว่า วันพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้
    รออ่านต่ออยู่นะครับ
     
  10. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    ดีและชั่ว อยู่ในตัวเรา
    ดีและชั่ว ลิขิตชีวิตให้เป็นไป
    เป็นคนตามกระแสก็แพ้พ่าย
    หากทวนกระแสได้ ชนะใจตัวเองได้ ฝันก็จะกลายเป็นจริง
    ขอบคุณที่ติดตามครับ
     
  11. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610
    เคยไปวัดสังกัต เป็นวัดที่มีประเพณีตักบาตรเทโว แต่ไม่ได้ช่วงเทศกาล

    รูปแทนตัว คุณแดง พิจารณาแล้ว ก็น่าจะบูชาท้าวเวสสุวรรณจะช่วยเสริมสร้างบารมี
    ไม่ให้ตกทุกข์ได้ยากอีกต่อไป(ขอโทษ ถ้าล่วงเกิน)
     
  12. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    ขอบคุณมากครับที่แนะนำ
    ไม่ได้คิดว่าล่วงเกินอะไร ดีเสียอีกที่เราแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกันครับ
     
  13. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    วสี = ความชำนาญแคล่วคล่อง = Skill

    ในที่นี้ เคยถามตัวเองว่า ต้องปฎิบัตินานเท่าไร จึงจะเห็นผลที่เราทำมา เมื่อไร จะมีปิติ เมื่อไรจิตจะรวม เมื่อไรจะเห็น เหมือนท่านอื่นๆ เหมือนที่อาจารย์บอกเล่า

    แม้ว่า หลายๆพระอาจารย์ก็ย้ำเสมอว่า ให้ทำบ่อยๆ ทุกๆวัน ขี้เกียจก็ทำ ขยันก็ทำ เมื่อไรเรายังกินข้าวได้ เมื่อนั้นก็ต้องทำไปตลอด อย่าทิ้ง

    แต่เมื่อทำไป บางครั้งก็ท้อ รู้สึกล้า รู้สึกไม่เห็นฝั่ง ที่เราต้องการ

    ตอนนี้ ผมก็พอจะได้ข้อสรุปด้วยตัวเองบ้างแล้ว คือ เรื่องของ "วสี"

    ผมเปรียบเหมือนการขับรถ ไม่ว่า จะเป็นมอเตอร์ไซด์ หรือรถยนต์ ตอนเด็ก ผมขับไม่เป็นสักอย่าง โตขึ้น พ่อ หัดให้ผมขัยรถยนต์ครั้งแรก ขับรถชนเสาบ้าน ร้องให้เป็นวักเป็นเวร เริ่มเป็นใหม่ๆ รถเฉี่ยว ชน เป็นประจำ ทุกวันนี้ มีความชำนาญ ทั้งการขับ ความรู้ในการแก้ไขปัญหารถเบื้องต้น และรู้วิธีการ วางแผนการเดินทาง นี่คือ Skill หรือ วสี ในการขับรถของผม

    วสี ในการปฎิบัติกรรมฐาน ทำสมาธิ ก็ไม่ต่างกันนักในรูปแบบ แต่อาจต่างกันมาก ในแง่ของ ระยะเวลาในความสำเร็จ หรือผลลัพท์ที่เราต้องการ เพราะเป้าหมาย ต่างกันมากนัก กล่าวคือ การขับรถ บังคับยวดยาน ใช้เวลา สัปดาห์เดียว หรือไม่เกิน 1 เดือนก็สามารถเป็นได้ แต่ การปฎิบัติ เพื่อ ฟอกจิตใจให้ขาวสะอาด ที่จะเรียกได้ว่า จิตบริสุทธิ ดังเช่น พระอริยเจ้านั้น ท่านว่ากัน เป็นกัปป์ หรือนับชาติไม่ถ้วน เปรียบเหมือนเม็ดทรายในมหาสมุทรกันเลยทีเดียว

    ดังนั้น การปฎิบัติกรรมฐาน หรือการทำสมาธิ จึงต้องทำกันอย่างสม่ำเสมอ เป็นกิจวัตรประจำวัน สำหรับผู้ที่ต้องการสวนกระแสโลก จึงต้องมีเป้าหมายให้ชัดเจน ไม่ท้อ แม้จะยังไม่เห็นฝั่ง เฉกเช่นที่ พระมหาชนก แหวกว่ายกลางมหาสมุทร

    วสี จึงต้องทำกันตลอด อย่างต่อเนี่อง ความชำนาญในการปฎิบัติ จะค่อยๆเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น เคยนั่งแล้วเจ็บ ชา ปวดตามร่างกายบ่อยๆ วสีที่เกิด คือ ความเจ็บปวด ค่อยๆหายไป จนไม่มีความเจ็บปวด หรือ ความนิ่งของจิต จากที่เคย ฟุ้งซ่านบ่อยๆทุกครั้ง ยากที่มารวมได้แม้เสี้ยววินาที ภายหลังที่ วสี ค่อยๆพัฒนาขึ้น ก็คือ เราสามารถ รวมจิต รวมใจได้ จากชั่วขณะ เริ่มยาวขึ้น เป็นนาที หลายนาที ครึ่ง ชั่วโมง ได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว

    คำสอนของพระพุทธองค์ จึงเป็นจริง และอมตะตลอดกาล ที่ว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต ก็ต้องมีวสี ให้ถึงพร้อมเท่านั้น

    อย่าท้อกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2018
  14. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610
    การปฏิบัติธรรม สายวัดป่า ฟังดูน่าจะง่ายไม่ซับซ้อน แต่ภาคปฏิบัติยากกว่าที่เขียนไว้ในตำราเป็นร้อยเป็นพันเท่า

    เริ่มจากภาวนา การภาวนาก็เพื่อให้จิตนั้นตกภวังค์ เปรียบเหมือน ตกปลา ต้องใส่เหยื่อล่อ เหยื่อล่อในที่นี้ก็หมายถึง คำภาวนา

    พอปลามากินเหยื่อ เราก็จะสนใจแต่ปลาหาได้สนใจเหยื่อไม่

    จิตตกภวังค์ คำภาวนาหายไป ช่วงนี้คือความแตกต่างของสายวัดป่ากับสายอื่น

    สายวัดป่าต้องตัดกระแสภวังค์ให้ได้ ไม่ไหลไปตามกระแส ตรึงจิตให้อยู่กับที่โดยใช้ใจนั้นเป็นกำลัง

    เปรียบเหมือน มีคนเดินผ่านป่ารก มาเจอสะพานก็จะเดินผ่านสะพานไปอีกฝั่ง ที่มีความรื่นรมย์ เย็นสบาย แต่สายวัดป่าจะบอกกล่าวให้ถอยกลับมาตรงกลางสะพาน
    พร้อมฟิตซ้อมร่างกายให้มีกำลังมากที่สุดเท่าที่ทำได้(คือการตัดกระแสภวังค์ และใช้สติขีดวงรอบจิตไว้)

    พอมีกำลังมากพอก็ให้ออกวิ่งผ่านป่าที่ร่มรื่นย์ ไปให้พ้นป่าแห่งนี้ (ถ้าทำได้)

    เญยยธรรมคือ สัมผัสได้ด้วยใจอันบริสุทธิ์
    นั้นคือ จุดหมายปลายทางครับ ปิติ สุขในป่าอันร่มรื่นย์นั้นก็ไม่เอาครับ...
     
  15. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    สมาธิ สร้างอาหารเลี้ยงจิต
    อาหารที่ว่า คือพลังจิต

    ผมชอบคำเปนียบเปรยนี้ จากพระอาจารย์ท่านนึ่ง

    ในการเข้าฌาน ทรงฌาน ในแต่ละครั้ง ต้องใช้พลังงาน คือพลังจิต ใครมีพลังจิตมากเพียงพอ ก็จะสามารถเจ้าฌาน ทรงฌาน ได้ระดับที่ลึก และนาน คำว่า เพียงพอต่อการใช้งาน จะมีปริมาณเท่าไร ไม่สามารถวัดได้

    ดังนี้น การทำสมาธิ เพื่อผลิตพลังจิต จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ และค่อเนื่อง
    การสะสมพลังติจนี้แปลกอยู่อย่างที่ว่า จะไม่หายไปไหน แม้ตายแล้วเกิดใหม่ ก็จะสะสมในบัญชีให้เราในภพหร้าได้อีกด้วย

    การผลิตพลังจิต จึงจำเป็น และสำคัญ สำหรับนะกปฎิบัติ ที่ต้องการก้าวผ่านกระแสโลก เพื่อความหลถดพ้น เป็นอย่างยิ่ง

    วันนี้ท่านหยอดกะปุก สะสมพลังจิตไว้หรือยัง
     
  16. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610
    อยู่อุทัย เคยได้ยินเรื่องเล่าขาน ของหลวงปู่เคลือบ บ้างไหมครับ
    ถ้าเคย รบกวนเล่าให้ฟังบ้างครับ
     
  17. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    วิถีชีวิตคนอุทัยกับหลวงปู่เคลือบ จะมีความผูกพัน ความศรัทธา อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะย้ายถิ่นฐานไปอยู่จังหวัดไหน ก็จะนิมนต์ท่านติดตามไปด้วยเสมอ
    ในวัยเด็กเมื่อมีงานบุญ โต๊ะหมู่บูชานอกจากจะมีพระพุทธตั้งอยู่เป็นประธานแล้ว ก็จะมีรูปของท่านตั้งประกอบด้วยเสมอ เมื่อถวายข้าวพระพุทธ ก็จะมีอีกชุดถวายให้ท่านด้วย

    ผมเคยเห็นคุณพ่อของผม ถวายเหล้าขาว มะขามเปียกปั้นน้อย ๆ ให้ท่านอยู่บ่อย ๆ เวลาจะสังสันท์กับญาติมิตรที่มากินเหล้าที่บ้าน เมื่อเปิดขวดเหล้า ก็จะรินออกและกล่าวถวายท่านก่อนเสมอ

    เมื่อมีปัญหา เช่น ของหาย หาไม่เจอ หรือถูกคนยืมเงินไปแล้วไม่คืน สิ่งที่คิดถึงก่อนเป็นอันดับแรก คือการบนบานศาลกล่าวต่อท่าน และมักจะประสบความสำเร็จทุกครั้ง

    ผมได้มีโอกาสเดินทางไปหลายแห่งในจังหวัดนครสวรรค์ กำเพงเพชร หลายวัดในเขตจังหวัดติดต่อกับอุทัยธานี จะมีรูปหล่อหรือรูปปั้นของท่านขนาดเท่าองค์จริง อยู่เป็นส่วนใหญ่ จึงอาจจะกล่าวได้ว่า ท่านเปรียบเสมือนเทพเจ้าในพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรังอีกองค์หนึ่ง นอกเหนือจาก หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเดืม หรือหลวงพ่อเงินเลยทีเดียว

    ค่านิยมในวัตถุมงคลของท่าน ทั้งที่ทันท่าน และทำขึ้นมาภายหลัง จะได้รับความนิยมในหมู่ศิษย์ในพื้นที่เสมอ และมีราคาสูง ไม่แพ้พระหลักในส่วนกลางเลยทีเดียว

    ผมเชื่อว่าค่านิยม และความศรัทธาต่อหลวงปู่ นับวันจะยิ่งกว้างขวางแผ่ออกไป ช้า ๆ แต่มั่นคงครับ

    เท่าที่ผมพอจะนึกออกก็ประมาณนี้ครับ
     
  18. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610
    รบกวนสอบถามอีกสักนิดครับ
    วัตถุมงคลที่สร้าง ทันหลวงพ่อเคลือบหรือไม่ครับ

    และอยากทราบว่า (อันนี้ไม่รู้จริงๆนะครับ)
    ทำไม ของแก้บน ต้องมีเหล้าขาวด้วยครับ
    ซึ่งรู้สึกแตกต่างจากที่อื่นๆครับ(ขอโทษ ด้วยถ้ารบกวนครับ)
     
  19. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    วัตถุมงคลที่ทันท่าน เท่าที่ผมทราบจะมีแต่ตะกรุดที่พอหาได้ในพื้นที่ ส่วนเหรียญ หรือพระรูปแบบอื่น ๆ ทำกันภายหลัง รุ่นที่นิยม จะเป็นปี 2515 เป็นพิธีใหญ่ และมีประสบการณ์

    ท่านสำเร็จวิชาเสกเหล้าเป็นน้ำได้ ตามประวัติ ท่านจะโดนจับสึกหลายครั้งจากทางการ เพราะมีการร้องเรียนไปว่าท่านฉันสุรา แต่เมื่อมีการพิสูจน์ปรากฎว่าเป็นน้ำเปล่าธรรมดา ดังนั้นการถวายเหล้าจึงเป็นการรำลึกถึงท่านในข้อนี้

    หรือจะเป็นข้ออ้างของนักนิยมสุราด้วยก็เป็นได้ครับท่าน
     
  20. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    เจอของดีมา
    ต้องเอามาบอกต่อครับ

    #คำแนะนำจากลุงยกทรง(ท่านวีระ งามขำ)

    #ของดีหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง

    1. บอกพระคำข้าว คือตั้งนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ) หลวงพ่อพระคำข้าวมหาลาภ ขอได้โปรดสงเคราะห์ลูกเรื่อง........ด้วยเถิดเจ้าข้า

    2. สังฆทาน ตั้งนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ) ขอถวายเป็นสังฆทาน ขอนิพพานชาตินี้ ขอให้ลูกคล่องตัวทุกๆ ประการ

    3. คาถาเงินล้าน ตั้งนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ)

    สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม พรหมมา จะมะหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
    พรหมา จะมะหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม
    มิเต พาหุหะติ พุทธะ มะอะอุ นะโม พุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระ อิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม สัมปะติจฉามิ เพ็งเพ็ง พาพา หาหา ฤาฤา

    #วิธีบนหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง
    มีดอกไม้ธูปเทียน หรือจุดธูป ๕ ดอก แล้วประณมมือด้วยความตั้งใจว่า................
    ลูกขอบนหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุงว่า หากไม่เกินวิสัย ขอได้โปรดสงเคราะห์ลูกเรื่อง......เมื่อสำเร็จแล้ว ลูกจะถวายสังฆทาน ชุดละ....บาท จำนวน....ชุด อุทิศส่วนกุศลถวายให้ ณ ภายหลัง
    ( รักษาศีล ๘ สามวันและนั่งกรรมฐานด้วยยิ่งดีเยี่ยม)

    #นิพพานชาตินี้
    1. ทำบุญ ทำทาน ทำดีทุกๆ อย่าง แล้วอธิษฐานว่า ขอนิพพานชาตินี้
    2. ภาวนา หายใจเข้านิพพาน หายใจออกนิพพาน
    3. อารธนา พระพุทธเจ้าประทับบนศรีษะตลอดทั้งวัน
    4. รักษาศีล ๕ หรือ ๘ หรือกรรมบถ ๑๐ อย่างน้อยวันละ ๑๐ นาที ( ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ได้โปรดสงเคราะห์ให้ลูกรักษาศีล ๕ ให้ครบภายใน ๑๐ นาทีนี้ ด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า )

    #วิธีลาพุทธภูมิ
    1. ต้องมีดอกไม้ธูป-เทียน และพานรอง
    2. ตั้งคือ ตั้งนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ)
    ลูกขอกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย ขอได้โปรดยกโทษให้กับลูก ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    แม้ครั้งที่ ๒ ลูกขอกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย ขอได้โปรดยกโทษให้กับลูก ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    แม้ครั้งที่ ๓ ลูกขอกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย ขอได้โปรดยกโทษให้กับลูก ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    3. ตั้งนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ)
    ลูกขอกราบลาจากพระพุทธภูมิ เพื่อเป็นพระอรหันตะสาวกในชาตินี้
    แม้ครั้งที่ ๒ ลูกขอกราบลาจากพระพุทธภูมิ เพื่อเป็นพระอรหันตะสาวกในชาตินี้
    แม้ครั้งที่ ๓ ลูกขอกราบลาจากพระพุทธภูมิ เพื่อเป็นพระอรหันตะสาวกในชาตินี้

    #วิธีเปิดร้านค้าขาย
    ใช้เทปสมาทานพระกรรมฐาน ลูกขอกราบอาราธนาบารมีหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง ได้โปรดสงเคราะห์ให้ลูกมีผลสำเร็จสมบูรณ์แบบทุกๆ ประการเทอญ พอได้ยินเสียงเทปดังขึ้น ให้อธิษฐานขอตามใจชอบ แล้วพรมน้ำมนต์จากหลังร้านไปหน้าร้าน แล้วอุทิศผลบุญ ให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอจงงได้โปรดรับและโปรดโมทนา และโปรดสงเคราะห์ การค้าให้ซื้อง่ายขายคล่อง เงินทองเหลือใช้ ปลอดภัยทุกๆ ประการ และเปิดเทปคาถาเงินล้านต่อไป

    #หน้าที่ประจำทุกๆ วัน
    1. ตื่นนอน วันนี้ลูกจะทำความดีให้ได้มากที่สุด ตายเมื่อไหร่ขอไปนิพพานชาตินี้
    2. รักษาศีล ๕ หรือ ศีล ๘ หรือกรรมบถ ๑๐ อย่างน้อยวันละ ๑๐ นาที หลังจากตื่นนอน ( คืออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ได้โปรดสงเคราะห์ลูกให้รักษาศีล ๕ ให้ครบภายใน ๑๐ นาทีนี้ด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า )
    3. ทำบุญวันละ ๑ บาท ตั้งนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ)
    4. ภาวนา พุท-โธ หรือ นะมะ-พะธะ หรือ นิพพาน-นิพพาน
    5. อาราธนาพระพุทธเจ้า ขออาราธนาพระพุทธเจ้าประทับบนศรีษะของลูก ตลอดทั้งวันด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า
    6. ขอขมาโทษ ข้าพระพุทธเจ้า ขอกราบขอขมาโทษต่อพระรัตนตรัย ขอได้โปรดยกโทษให้กับข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดนี้เถิด
    7. กราบหมอน พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา ปลอดภัยทุกเวลาด้วย นะโมพุทธายะ
    8. พิจารณาร่างกาย เหม็นเน่า น่ารังเกียจ คน สัตว์ วัตถุธาตุทั้งหลาย พังสลายหมด หากตายตอนนี้ขอไปนิพพานเลย
    9. นอนภาวนา ถนัดบทไหนขึ้นต้นบทนั้นก่อน เช่น ภาวนา พุทโธ แล้วต่อด้วย

    #คาถาเงินล้าน
    สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม พรหมมา จะมะหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
    พรหมา จะมะหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม
    มิเต พาหุหะติ พุทธะ มะอะอุ นะโม พุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระ อิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม สัมปะติจฉามิ เพ็งเพ็ง พาพา หาหา ฤาฤา

    10. กลางคืน ตื่นนอนตอนไหน ให้ภาวนาตามใจชอบทันที ภาวนาจนหลับต่อไป อย่างนี้จะมีผลมากแล
    ❤❤
     

แชร์หน้านี้

Loading...