เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    ใส่รองเท้าใส่บาตร, ใส่รองเท้าเข้าโบสถ์, อทิสสมานกายกราบพระไม่เรียบร้อย, กายทิพย์
    (จากธัมมวิโมขก์ มิถุนายน 2547 หน้า 89-90).jpg (จากธัมมวิโมขก์ มิถุนายน 2547 หน้า 89-90)2.jpg

    (จากธัมมวิโมขก์ มิถุนายน 2547 หน้า 89-90)

    ภาพด้านบนนำมาจาก E-Book เวบวัดท่าซุงตามลิงค์ด้านล่างครับ
    http://thasungmedia.com/wat/puy/ebook/index.php

     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    0.jpg



    (11)-vert.jpg
     
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    หลวงปู่ชุ่ม โพธิโก กับ ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร
    (มีเหตุเพราะชื่อคล้ายกัน)


    ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกวินาที หัวใจของคนไทยได้รวมกันเป็นหนึ่ง ต่างก็ส่งแรงใจให้แก่ผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือ ภาวนาขอให้ผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำทั้ง ๑๓ ชีวิตได้ปลอดภัย

    ทั้งนี้ รวมทั้งคนไทยในต่างประเทศ และคนทั่วโลกต่างก็ให้กำลังใจกัน คงจะลืมไม่ได้จากหัวใจของประมุขแห่งวาติกัน ที่พระองค์ได้ทรงแสดงความเป็นห่วงใยด้วยเช่นกัน

    แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่กี่วัน มีการออกข่าวทางสื่อไปทั่วประเทศ และการแชร์ในเฟซบุคอย่างกว้างขวาง

    ทำให้ผู้เขียนอดที่จะแสดงความเห็นไม่ได้ ในเมื่อเรื่องราวผ่านมานานหลายสิบปี โดยเฉพาะความเลื่อมใสศรัทธาต่อ ท่านครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ตลอดถึงครูบาอาจารย์ของท่านด้วย

    ผู้เขียนต้องการจะเขียนแบบรวบลัด หากผู้ใดจะย้อนอ่านรายละเอียด สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลเหล่านี้ได้ เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น

    ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวัดท่าซุง เพราะได้เคยเห็นท่านตั้งแต่ยังเป็น สามเณรบุญชุ่ม ทาแกง โดยการนิมนต์มากับ คุณประพัฒน์ ทีปะนาถ

    ผู้อ่านสามารถทบทวนความจริงได้กับ คุณประพัฒน์ (เดิมชื่อ "วิชัย") อยู่กรุงเทพฯ เคยบวชที่วัดท่าซุงเมื่อปี ๒๕๑๘ และได้เดินทางไปกับหลวงพ่อฯ รวมทั้งผู้เขียนด้วย เพื่อกราบไหว้หลวงปู่ชุ่ม ที่วัดจามเทวี จ.ลำพูน

    หลังจากนั้น เท่าที่พอจำได้ผู้เขียนเห็น "ครูบาบุญชุ่ม" มาวัดท่าซุงเป็นครั้งแรก เมื่องานทำบุญประจำปี ๒๕๒๘ เป็นงานฉลองสมณศักดิ์ที่ "พระสุธรรมยานเถระ"

    ** (มีคนนำโพสต์บอกว่าหลวงพ่อฯ วัดท่าซุงนิมนต์มา เรื่องนี้ไม่จริง ท่านมากับคุณประพัฒน์เองนะ)

    ในคราวนั้น ก่อนงานหลวงพ่อฯ บอกว่าจะมีพระองค์ที่ ๑๐ มาร่วมงานด้วย ท่านจึงให้เขียนป้ายไว้ในศาลา ๒ ไร่ว่า "พระประหลาด" จนกระทั่ง "สามเณรบุญชุ่ม" เดินมากับคุณประพัฒน์ ข้างศาลา ๒ ไร่ คนก็ไปเล่าลือกันว่าเป็น "พระองค์ที่ ๑๐"

    นั่นเป็นการเล่าลือกันในครั้งแรก จนกระทั่งเวลาผ่านไปนาน ๓๐ กว่าปี คำเล่าลือก็ได้กลับมาอีกเป็นครั้งที่ ๒ นั่นก็คือลือกันว่าเป็น "สามเณรสมาบัติ ๘" ลูกศิษย์หลวงปู่ชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย จ.ลำพูน

    โดยนำรูปภาพตั้งแต่เป็น "สามเณร" แชร์กันสะพัดในสื่อออนไลน์ เหมือนไฟลามทุ่ง ยังไม่ทันนุ่งกางเกง ต่างก็นำประวัติความเป็นมาของท่านมาแชร์กันมากมาย

    ข่าวจริง ประเทศไทย
    @realnewsthailand
    เหตุการณ์ในตอนนี้ จึงมีทั้งข่าวจริงและข่าวลวง วันนี้ (๒ ก.ค.) รัฐบาลจึงตั้งไลน์กลุ่มว่า "ข่าวจริงประเทศไทย" ขอเชิญเข้าไปหาข่าวในนี้ดีกว่า เพราะเป็นของหน่วยงานที่แท้จริง

    คราวนี้ มาย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่า ผู้เขียนได้เริ่มเห็นคนโพสต์เรื่องครูบาฯ ลงในเฟซบุคตั้งแต่แรกๆ จึงพูดกับคนใกล้ชิดว่า เขาเอาข่าวมาลงแบบนี้ ประเดี๋ยวก็มีคนเต้าข่าวกันไปอีกยาว

    ผลปรากฏว่าเป็นจริง ตั้งแต่ลงข่าวครูบาฯ ในเฟซบุค ๒-๓ วันที่ผ่านมานี้ (๒๘-๓๐ มิ.ย.๖๑) เริ่มตั้งแต่นำข้อเขียนของ "หลวงตา" เรื่อง "สามเณรสมาบัติ ๘" (ความจริงท่านก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร)

    แต่ภายหลังแชร์กันไปแชร์กันมากลายเป็น สามเณรสมาบัติ ๘ คือ "ครูบาบุญชุ่ม" จนได้ พร้อมกับบอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ชัยวงศ์ (มีภาพยืนคู่กัน) และ หลวงปู่ชุ่ม โพธิโก (แต่กลับไม่มีรูปภาพ)


    36514113_2243373245890524_1367392375864819712_n.jpg
    (ภาพนี้เป็นช่วงที่มาวัดท่าซุงแล้ว)

    ผู้เขียนเองอ่านแล้วก็งง เพราะภาพถ่ายสามเณรนี้ก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก แต่เท่าที่เคยเห็นรูปเดิมๆ จะพิมพ์คำว่า "สามเณรบุญชุ่ม ทาแกง" ด้วย (ยังหาภาพไม่ได้)

    36460240_10160493834860057_9077499412585906176_n.jpg
    561000006807005.JPEG
    (ภาพนี้ตั้งแต่เล็กจนโต แล้วลองเปรียบเทียบสามเณรที่ยืนคู่กับหลวงปู่วงศ์ว่า ภาพไหนเหมือนกันที่สุด)
    36561488_1795538277181465_7822658342634913792_n.jpg

    สมัยก่อนเท่าที่จำได้ ท่านมาวัดท่าซุงครั้งนั้น (ตอนวัดมีงานสำคัญ) ครั้งเดียวปี ๒๕๒๘ ส่วนครั้งอื่นท่านมาตอนไหนไม่เห็น จึงไม่อาจจะทราบได้

    ประการสำคัญ ไม่เคยเห็นภาพคู่ระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ คือ "หลวงปู่ชุ่ม" กับ "สามเณรบุญชุ่ม" เลย นอกจากผู้ใดหาหลักฐานมาอ้างอิงได้ ก็จะแก้ไขประวัติศาสตร์ตอนนี้ให้ถูกต้องเสียเลย

    ส่วนที่จำได้แน่นอนก็คือ หลวงปู่ชุ่ม โพธิโก มากับพระติดตามองค์หนึ่งเท่านั้น ภายหลังกลับไปวัดวังมุย ทราบว่าพระผู้อุปฐากองค์นี้ได้เชิดเงินหายไปจากวัดแล้ว

    เรื่องนี้สามารถตรวจสอบกับคนสมัยนั้นได้ (ต้องเป็นคนภายในที่ช่วยหลวงพ่อจัดงานตอนนั้นได้) แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้ เพิ่งจะนำมาเล่ากันในตอนนี้

    เพราะมีความจำเป็นต้องเล่า มิฉะนั้นกาลเวลาผ่านไป การจำเรื่องราวเหล่านี้ อาจบอกเล่าไม่ตรงกับความเป็นจริง หรืออาจมีบางคนเอาไปแต่งเติมให้เข้าใจผิดกัน


    U02371026355764348766480501.jpg

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พิสูจน์ได้ชัดเจน อันเป็นเหตุผลที่สำคัญที่จะต้องนำ "ประวัติ" ของท่านมาอ้างอิง นั่นก็คือ "หนังสือ ๓๐ พรรษาในร่มเงาพระพุทธศาสนา ของพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร"

    ประวัติตอนแรกท่านเกิดปี ๒๕๐๘ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้เข้ามาเป็นเด็กวัด โดยมีพ่อลุงทาเอาไปฝากกับเจ้าอธิการสิน จิรธัมโม วัดบ้านด้าย (อ.เชียงแสน จ.เชียงราย) ตอนท่านอายุได้ ๑๑ ปี

    หลังจากเป็นเด็กวัดได้ ๓ ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ใน พ.ศ. ๒๕๑๙ ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร ได้บวชเรียนตามปณิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่เยาว์วัย

    หมายเหตุ - หลวงปู่ชุ่ม (ลำพูน)ไปวัดท่าซุงครั้งแรก ปี ๒๕๑๘ ขณะนั้นเด็กชาย "บุญชุ่ม" (เชียงราย) ยังไม่ได้บรรพชาเป็นสามเณร (ที่วงเล็บไว้เพื่อให้สังเกตว่า ช่วงนั้นท่านอยู่ตรงจุดไหนกัน)

    ส่วนตอนท้ายหนังสือเล่มนี้ จะมีรายชื่อครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพนับถือว่าเป็นผู้ใดบ้าง สามารถตรวจดูรายชื่อเหล่านี้ว่า มีชื่อ หลวงปู่ชุ่ม โพธิโก เป็นครูบาอาจารย์ของท่านด้วยหรือไม่

    hqdefault.jpg

    หลักฐานเหล่านี้ จะเป็นคำตอบได้ดี สำหรับวันนี้..เวลานี้..อันเป็นวันที่ ๑๐ ของการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนเขานางนอน

    ท่านได้ทำพิธีกรรมไปแล้วก็ย่อมมีผล แต่ก็คงต้องเป็นผลของกรรมด้วย ไม่มีผู้ใดที่จะอยู่นอกเหนือกฏแห่งกรรมได้

    แต่ก็ไม่ควรตำหนิหรือปรามาสกัน เพราะเป็นการรวมใจกันทั้งหมด ด้วยความปรารถนาดีต่อกัน จึงขอคัดลอกมาโดยย่อ ดังนี้

    - ลำดับครูบาอาจารย์โดยตรง ของ พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร

    ๑. หลวงปู่ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทราวตากผ้า จังหวัดลำพูน
    ๒. หลวงปู่ครูบาอินทจักร์ วัดวนาราม (น้ำบ่อหลวง) สันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
    ๓. หลวงปู่ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน
    ๔. หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
    ๕. หลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง แม่แตง
    ๖. หลวงปู่ครูบาคำแสน วัดดอนมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

    ๗. หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (มหาวีระ ถาวโร)
    ๘. หลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
    ๙. หลวงปู่ฤาษีธนะธัมโม วัดถ้ำผาแตก อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
    ๑๐. หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร
    ๑๑. หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา
    ๑๒. พระครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน

    - ครูบาอาจารย์ภาคอีสาน ที่ท่านได้ถวายตัวเป็นลูกศิษย์

    ๑. หลวงปู่นิล วัดครบุรี จ.นครราชสีมา
    ๒. หลวงปู่พุธ ฐานิโย วัดป่าสาละวัน จ.นครราชสีมา
    ๓. หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
    ๔. หลวงพ่อแสวง วัดถ้ำพระ จ.สกลนคร
    ๕. หลวงปู่คูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา

    พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร
    ๕ ตุลาคม ๒๕๔๙

    ที่มา - https://www.phuttha.com/พระสงฆ์/สังเขปประวัติพระภิกษุสงฆ์/ครูบาเจ้าบุญชุ่ม-ญาณสํวโร

    *********************************************************************************

    บทความด้านบนนำมาจากเวบวัดท่าซุงตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ
    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=2546


    *********************************************************************************

    หมายเหตุ : จากบทความในเวบวัดท่าซุงท่านครูบาฯบุญชุ่มมาวัดท่าซุงเราเพียงครั้งเดียวคือในปี พ.ศ. 2528

    ขอได้โปรดสังเกตุด้วยครับว่าท่านเป็นศิษย์หลวงปู่โง่น มาวัดเราปี 2528 แค่ครั้งเดียว
    ประวัติระบุเป็นศิษย์หลวงพ่อเราด้วย แต่งานวัดสำคัญๆของวัดเรางานพระศพหลวงพ่อเราไม่เคยมา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2018
  4. แสงศร

    แสงศร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    76
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +616
    สวัสดีค่ะพี่วัน ศรขอถามเรื่องเด็กๆ13คนที่ติดถ้ำหน่อยค่ะว่า พี่คิดว่าอย่างไรคะ จะช่วยเด็กๆออกมาได้ไหมคะ สงสารเด็กๆจังเลยค่ะ?
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    สวัสดีครับคุณศร

    เป็นกรรมของพวกเขาเองนะครับเหมือนอย่างที่ทางเวบวัดท่าซุงนำเรื่อง "กรรมของภิกษุถูกขังในถ้ำ" มาลงตามลิงค์ด้านล่างครับ

    เดี๊ยวข้อมูลจากทหารตำรวจที่ช่วยเหลือเด็กอยู่ออกมาชัดเจนขึ้นว่าคาดการณ์ว่าจะช่วยออกมาได้เมื่อไหร่ก็จะมีคนช่วยออกมาทำนายเองครับว่าอีกกี่วันถึงจะเอาเด็กออกจากถ้ำได้ เหมือนเที่ยวแรกที่พบเด็ก


    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=2546

    กรรมของภิกษุถูกขังในถ้ำ

    ..ภิกษุ ๗ รูปเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่วิหารเชตวัน กล่าวคือระหว่างทางได้แวะไปพักที่วิหารแห่งหนึ่งในเวลาเย็น

    พระภิกษุที่อยู่ประจำที่วัดก็จัดที่นอนให้นอนในถ้ำแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนมีก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งกลิ้งมาปิดปากถ้ำไว้

    เช้าวันรุ่งขึ้น พระภิกษุเจ้าของถิ่นก็มาดูภิกษุอาคันตุกะ ๗ รูปนั้น เห็นก้อนหินปิดปากถ้ำอยู่ จะระดมคนช่วยกันอย่างไรก็ยกก้อนหินนั้นไม่ได้ แม้พระภิกษุที่อยู่ภายในถ้ำจะช่วยก็ไม่สำเร็จ

    จนถึงวันที่ ๗ ก้อนหินนั้นก็กลิ้งออกจากปากถ้ำได้เองเป็นที่อัศจรรย์ ภิกษุที่มาพักและติดอยู่ในถ้ำพากันอิดโรยอดอาหารอยู่ถึง ๗ วัน

    เมื่อออกจากถ้ำแล้วก็คิดว่าจะไปกราบทูลถามถึงกรรมของตน ครั้นเดินทางไปถึงวัดเชตวัน แล้วก็กราบทูลเล่าเรื่องนี้ให้ทรงทราบ พร้อมทั้งขอทราบกรรมที่ภิกษุทั้ง ๗ได้กระทำไว้

    พระผู้มีพระภาคตรัสเล่าว่า ในอดีตกาลภิกษุทั้ง ๗ รูปนี้ได้เกิดเป็นเด็กเลี้ยงโค ๗ คนในเมืองพาราณสี ได้ต้อนโคไปเลี้ยงยังที่ต่างๆ

    วันหนึ่งพบ "ตัวเงินตัวทอง" ตัวใหญ่ตัวหนึ่งจึงติดตามไป ตัวเงินตัวทองก็หนีเข้าไปในจอมปลวก จอมปลวกนั้นมีช่องอยู่ ๗ ช่อง

    เด็กทั้ง ๗ คนก็พาไปหากิ่งไม้ใบไม้มาปิดช่องนั้นคนละช่อง คิดว่าพรุ่งนี้จะมาจับเอาไป แต่แล้วก็ลืมเสียได้พาโคไปเลี้ยงยังที่อื่น

    พอถึงวันที่ ๗ กลับมาที่เก่าพบจอมปลวกนึกขึ้นได้ จึงได้ไปเปิดกิ่งออก ตัวเงินตัวทองนั้นอดอาหารอยู่ ๗ วันซูบผอมแทบสิ้นชีวิต เด็กๆ ก็สงสารบอกกันว่า เราอย่าฆ่ามันเลยปล่อยไปเสียเถอะ แล้วก็ปล่อยมันไป

    เด็กทั้ง ๗ นั้นไม่ได้ไปตกนรก เพราะว่าตัวเงินตัวทองนั้นไม่ตาย แต่ก็อดอาหารถึง ๗ วัน ถึง ๑๔ ชาติด้วยกัน นี่เป็นอดีตชาติของภิกษุ ๗ รูปนั้น

    ...ใครทำกรรมอย่างไรย่อมได้รับผลอย่างนั้น ไม่มีใครหนีกรรมที่ตนทำได้พ้น ผลที่ได้รับเกิดจากการกระทำของตนเองทั้งสิ้น

    สิ่งอื่นๆ และคนอื่นเป็นเพียงเครื่องมือช่วยสนับสนุนให้ผลของกรรมนั้นเกิดขึ้นเท่านั้น ถ้าเราไม่ได้ทำกรรมไว้เหตุต่างๆ ที่จะเป็นเครื่องสนับสนุนให้วิบากคือ ผลของกรรมเกิดขึ้นก็ไม่มี

    อ้างอิง - http://www.dhammajak.net

    อ้างอิง - http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=19&p=11
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 40-41).jpg (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 40-41) 2.jpg
    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 40-41)

    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 45).jpg
    (จากธัมมวิโมกข์ กุมภาพันธ์ 2555 หน้า 45)

    คาถา"สัมปติจฉามิ" มีอีกอานุภาพคือสำเร็จผลทุกอย่างและเร่งรัดลาภ นอกจากเป็นคาถาเมตตาและคาถาศัตรูมองไม่เห็นตัว

    บทนี้มารวมอยู่ในพระคาถาเงินล้านทั้งบทก็จะเร่งรัดลาภและให้ทุกคาถารวมในบทใหญ่สำเร็จแล้วก็ยังให้คนมีเมตตากับเราและปลอดภัยทุกอย่างอีกด้วย

    เจริญพระคาถาเงินล้านบทเดียวทั้งบทได้ครบถ้วนหมดทุกอย่างมีทั้งมหาลาภเงินแสนเงินล้านลาภไม่ขาดสาย มีเมตตา ป้องกันภัยทุกอย่าง สะท้อนกลับสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งมวลรวมถึงคุณไสย(สัมปจิตฉามิ) และภาวนาพระคาถาเงินล้านยังเกิดมหาอำนาจ(มิเตพาหุหะติ)อีกด้วยครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2018
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    จากจดหมายของหลวงพ่อด้านล่างนี้ทำให้ทราบว่าคาถาเงินล้านท่อน "มิเตพาหุหะติ" เป็นคาถาของพระพุทธกัสสป เป็น "คาถามหาอำนาจ" ภาวนาไว้ทุกวันจะมีอำนาจเหตุร้ายจะไม่เกิดขึ้น และเป็น"คาถามหาลาภ"ด้วย

    วัดจันทาราม(ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๑๑


    ลูกตุ๋ย

    จดหมายของลูกได้รับแล้ว เมื่อเช้าของวันที่ ๑๒ เรือไปรษณีย์ของ มโนรมย์ เขานำไปส่งให้ พระอาทร เป็นคนลงไปรับ และได้ให้แกอ่านทราบข้อความตลอดแล้ว

    ดีใจด้วยกับลูก ที่พยายามสงเคราะห์คนที่มีทุกข์ คือ คุณแต๋วใหญ่ บอกคุณแต๋ว แกด้วยว่าพ่อเป็นห่วงแกมาก เพราะป็นคนที่รู้จักดีมาก่อน แต่ก็หวังในพระมหากรุณาธิคุณของพระรัตนตรัยและเทวานุภาพ ตลอดจนความดีของแกเองที่ได้สงเคราะห็สัตว์ที่จะต้องถูกฆ่าให้รอดชีวิต

    ผลกรรมดีที่เรียกว่า อภัยทาน นี้ จะส่งผลให้แกหายจากโรค และจะมีความรุ่งเรืองขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ขอให้แกเบาในเรื่องโรคได้เพราะตรงกับเทพพยากรณ์พอดี ที่เขาบอกเมื่อวันไหว้ครูว่าจะต้องมีอาการทรุดหนักกว่าเดิมและจะหายสนิท ต่อไปจะรุ่งเรืองขึ้น ด้วยอำนาจจิตที่เป็นกุศล

    เครื่องกระป๋องของ ฉลวย พ่อก็เห็นแล้ว ตั้งแต่วันที่ตุ๋ย กลับไปเขาวางไว้หน้ากุฎิ อยู่ในลังกระดาษ ถาม พระอาทร ว่าเป็นของใครนำมาท่าบอกว่า พี่แสวง นำมา มีนมสด เครื่องอาหารกระป๋อง บอก ฉลวย ด้วยว่าอาหารกระป๋องรสดี แต่เสียที่น้อยไปหน่อย

    อาคารรับรอง เรียกชื่ออย่างนี้ไม่ผิดแต่พ่อเปลี่ยนใจใหม่ และเปลี่ยนชื่อใหม่ ขอให้ชื่อว่า อาคารอบรมกรรมฐาน เขียนอย่างนั้นจริงๆ เดิมคิดจะให้เป็นที่พักและรับแขก พอสั่งของเสร็จ เห็นว่าราคามันปาเข้าไปถึง ๔,๐๐๐ บาท รวมห้องส้วมห้องน้ำเสร็จ

    มานั่งคิดว่าเงิน ๔,๐๐๐ บาทเสียได้ ถ้าจะทำพื้นให้ดีเสียเลย ก็จะเพิ่มเงินอีก ๒,๐๐๐ บาทเศษ เอาพื้นไม้แดงเพิ่มรอดตงอีก ก็ประมาณ ๒ พันเศษเล็กน้อย เลยตัดสินใจเอาอย่างนั้น ทำอะไรไม่ชอบใจมันนอนไม่หลับ เกรงว่าวิมานที่ได้ในวันหน้ามันจะกลายเป็นวิมานโกโรโกโสอย่างกุฏิที่อยู่ มันดีที่อาศัยได้ แต่ไม่ชอบใจลูกตา

    ตามันติเรื่อยด้วยสร้างของเป็นแบบชั้นดีมาเสียจนเคยตัว ปรึกษา พระอาทร แกก็เห็นชอบด้วยเลยไปกันใหญ่ ของเล็กเราทำได้ดี เพราะมันแพงไม่มาก ของใหญ่ขืนทำดีก็เห็นจะต้องขายสบงใช้หนี้เป็นแน่

    ขณะนี้ช่างปั้น พระสี่องค์ เขาเริ่มงานแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ก่อนหน้าจดหมายลูกมาถึงสักประมาณ ๑ ชั่วโมง เขากำลังทำแท่น พ่อให้เขาว่าราคาพระองค์ใหม่ เพราะเดิมเราพูดเรื่องรูปเหมือน แต่ไม่ได้ให้ราคาค่าทำแท่นเขาไว้ เขาบอกว่าสุดแล้วแต่พ่อจะให้

    พ่อเลยเหมาเขาทั้งแท่น รูปเสร็จ ไม่ปิดทอง ขอให้เขา ๔ องค์ ๒,๐๐๐ บาทถ้วน เขาก็ตกลง รวมทั้งค่าวัสดุและค่าเลี้ยงดู พ่อคิดว่าประมาณ ๔,๐๐๐ บาท พระนี้ดีมาก เพราะเป็นปูชนียบุคคลที่หาเงินให้วัด เมื่อวัดมีรายได้คราวใด ก็ส่งผลให้ผู้สร้างมีความสมบูรณ์พูนสุขไปด้วย ยังขาดเงินอีกประมาณไม่เกิน ๓,๐๐๐ บาทสำหรับปั้นพระ

    ไม่คิดค่าปิดทอง เขาบอกว่าค่าปิดทองพระพุทธ องค์เดียวก็หลายพันบาท พ่อเลยคิดจะทาทองบรอนซ์ไว้ก่อน เรื่องปิดทองรอไว้ปีต่อไป สถานที่อบรมกรรมฐาน บวกที่นั่งรับแขก หรือสถานรับรองขาดเงินอีกประมาณ ๕,๐๐๐ บาท ยังหาตัวเงินไม่พบ ลองเที่ยวงมๆ ดูตามกระเป๋าผู้มีจิตศรัทธาดูด้วย

    ดูไว้ อย่าเพ่อขอ รอให้เขามาดูสถานที่ก่อนให้ศรัทธาเขาเกิดเอง เพราะเป็นสถานที่ให้ความสุขทั้งกายและใจ เขาพอใจเท่าไร เขาให้เท่านั้น ดีกว่าเราตั้งราคาทั้งสองรายการนี้คือสร้างพระ เป็นดินแดนให้ความสุขเรื่องทรัพย์สิน และเพิ่มบารมี สร้างอาคารรับรองและเป็นสถานที่อบรมจิตใจ

    ให้ผลในทางสบายกายใจสงบ สองสถานมีคุณค่าที่มีอานิสงส์สมบูรณ์ที่สุด ตามความปรารถนาของคนเล่าให้เขาฟัง แต่อย่าขอสตางค์เขาโดยตรง เขาศรัทธาเขาช่วยเอง อย่าบังคับกัน ศรัทธาจะทำให้เขาเสียกำลังใจ

    พระอาทร มีความสุขดี แกกินอาหารไม่ยาก ถามว่าพอฉันท์ได้ไหม แกตอบว่าพอฉันท์ได้ คงจะคิดตามแบบพระเพราะแกบวชเพื่อเอาบุญ แกทำถูกแล้ว ขณะนี้พระทั้งวัด มีเจ้าอาวาสเป็นหัวหน้า ขอขึ้นกรรมฐานทั้งหมด อุบาสกอุบาสิกาทั้งวัด ที่รักษาอุโบสถ ก็ขอเรียนกรรมฐาน คิดแล้วว่ามาอยู่วัดนี้ไม่ผิด

    ถึงแม้ว่าสมภารจะช้าไปหน่อย แต่ก็ตัดสินใจถูกที่นำคณะเข้ามาศึกษากรรมฐาน ถ้าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ตลอดไปสักสามปี วัดนี้มีหวังรุ่งเรืองเพราะวัดใดเจริญกรรมฐานมาก วัดนั้นรุ่งเรือง ทั้งนี้เพราะผลการปฏิบัติที่เป็นสมาบัติส่งผลให้ชาวบ้านมีกินมีใช้ พระเองก็สงบเสงี่ยมเป็นที่น่าเลื่อมใส เป็นเครื่องส่งเสริมศรัทธาของประชาชนทั้งหลายที่พบเห็น

    ลูกจำชื่อน้ำมันที่ทาพื้นแล้วเป็นมันสวยๆ ได้ไหม พ่อจะเอามาทาพื้นสถานรับรอง เพราะหลังมันเล็ก อยากจะทำให้ดี บอก.... ด้วยว่า อยากชนะ และมีความสุขมีโชคมากๆ กว่านี้ ให้ร่วมสร้างพระ และอาคารอบรมกรรมฐานจะได้มีอานิสงส์เป็นพุทธา ธัมมา สังฆานุสสติ และมีอานิสงส์ในส่วนวิหารทานที่ให้ความสุขในการบรรลุมรรคผล จะได้ถึงพระนิพพานเร็วๆ เมื่อยังไม่ตายจะรวยและมีความสุขมากกว่านี้

    จะร่วมมากร่วมน้อยพ่อไม่จำกัด มันเป็นลูกที่มีความเหน็ดเหนื่อยมาก ก็ห่วงมากหน่อย ลูกตุ๋ย เหนื่อยแต่ก็มีความสุขดีกว่า.... เพราะมีโอกาสถึงธรรม..... มันมีโอกาสปี๊ดออกอากาศมากกว่าเข้าถึงธรรมต้องให้ร่วมด้วย จะได้ตรงตามปฏิญญาเดิม ที่ตั้งมโนปณิธานไว้ในชาติอดีตไม่ต้องมาก เพียงร่วมสร้างพระ ๔ องค์ขอ ๔ สลึง อาคารหนึ่งหลังอีก ๑ สลึง ก็พอใจแล้ว

    สำหรับ ลูกตุ๋ย มีทุนอยู่แล้ว เพราะเงินหลังบวชพระ พ่อตั้งงบไว้อาคารตั้งไว้ ๓,๒๐๐ บาท(สามพันสองร้อยบาท) รูปพระตั้งงบไว้ ๒,๓๐๐ บาท (สองพันสามร้อยบาท)

    นอกจากนี้ ลูกยังบำเพ็ญตนไว้เป็นไวยาวัจกรเป็นอานิสงส์ใหญ่กว่าอานิสงส์ใดๆ และเป็นอานิสงส์เนื่องในการบรรลุมรรคผลอยู่แล้ว จงพยายามสงเคราะห์คนอื่นที่ยังไม่เข้าถึงเขตมรรคผล เพื่อเป็นการส่งเสริมบารมีของตนเองให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

    วันนี้ขอคุยเท่านี้ มันก็มาไม่น้อยกว่าของลูก ขณะเขียน ไม่รู้ว่า คุณอาทร ไปไหน จะถามว่าจะสั่งอะไรบ้าง ถ้าท่านจะสั่งพบตัวจะต่อท้ายให้อีกสักหน่อย

    จากพ่อ

    ป.ล. พ่อขอส่งรูปที่สมเด็จคุม ที่ถ่ายที่ มโนรมย์ มาให้ลูกดู พ่อจะอัดขนาด ๑๒ นิ้วสัก ๑ โหล เพื่อแจกลูกหลานไว้เป็นอนุสรณ์ ตอนนั้นท่านเข้าคุมเต็มตัว ดูแล้วลูกคงแปลกใจมาก คล้ายกับวันที่ไปบ้านคุณนายโรจนวิภาตหรือไม่

    ลูกดูเอาเองพ่อเองพ่อไม่เคยเห็นหน้าพ่อเวลาท่านคุม แต่รู้ตัวแต่เพียงว่าพูดน้อย อารมณ์แจ่มใส ใจรู้ว่าผิดเหลืองเท่านั้นเอง พ่อคอยช่างนาน ท่านมาท่านบอกว่า วันนี้ฉันเข้าเต็มตัวแกจะได้เห็นภาพขณะฉันมาคุมว่าเป็นอย่างไร ดูแล้วรู้สึกว่าหนุ่มขึ้นเยอะ แต่ท่านไปแล้วกลับแก่ลงเสียอีก น่าเสียดาย

    เพิ่มเติม

    หนังสือนี้มีใบจบลงแล้ว แต่ต้องเพิ่มเติมอีกก็เพราะเหตุดังนี้

    (๑) เมื่อเขียนจบ ให้พระนำมาส่งที่ไปรษณีย์ เพื่อกันแกเอาไปทิ้งในถังขยะ ก็บังคับให้ทะเบียน บังเอิญไปตรงกับวันเสาร์เข้าเลยตกค้างส่งไม่ได้

    (๒) เมื่อจดหมายกลับที่เดิม ตอนกลางคืนฝึกพระปฏิบัติกรรมฐานมียักษ์ตนหนึ่ง มาหาแล้วแจ้งว่า

    ท้าวเวสสุวัณ ได้ให้นำคาถาบทหนึ่งมาให้คาถาบทนี้เป็นคาถาของพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าเป็นคาถามหาอำนาจ ภาวนาหรือสวดมนต์ไว้ทุกวัน จะมีอำนาจ เหตุร้ายจะไม่เกิดขึ้น และเป็นคาถามหาลาภภาวนาตลอดไป โดยเอานำคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้ามาต่อ ว่าดังนี้ "มิเตพาหุหะติ พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย ฯลฯ" อย่างนี้เป็นปกติ ท่านว่าเงินล้านจะเข้ามาสู่สำนัก เวลาไปหาเงินเจ้าของเงินทั้งรักทั้งเกรงใจ

    พ่อขออนุญาตท่านให้ลูก ท่านก็อนุญาต บอก... มันด้วย เพราะปกครองคนมากต้องหากิน ถ้า พี่แสวง และคนอื่นที่พอใจก็ให้ได้ แต่ขอให้จัดธูปบอกท่าน ท้าวเวสสุวัณ และท่านพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระพุทธกัสสป เสียก่อน ทำจริงได้ผลจริง ทำเล่นๆ ได้ผลเล่นๆ สักแต่ว่าทำ ไม่ได้ผลเลย

    ก่อนที่ยักษ์จะมาบอก พ่อพบ หลวงพ่อปาน และครูบาอาจารย์ทุกท่าน ท่านมาคุมพระปฏิบัติ พอหลวงพ่อสมัยมา ท่านบอกว่า สัมพเกสี ไม่ช้าเธอจะเดือดร้อน เพราะคนจะทำให้เดือดร้อน และจะมีหญิงสาวขาวท้วมและขาวโปร่งจะมาทำท่าเจ้าชู้ แต่เรื่องเจ้าชู้เป็นเรื่องขึ้ผง เขี่ยนิดเดียวก็หล่นไปเรื่องคนทำให้เดือดร้อนนี้ยุ่งหน่อย

    และจะมีคนคิดว่าเธอรวย เขาคิดจะปล้นหรือชิงทรัพย์ พอท่านบอกเสร็จไม่ช้ายักษ์ก็มาบอกคาถา เป็นอันว่า ท่านพระพุทธบิดาพุทธกัสสป ท่านห่วง จึงให้คาถาป้องกัน และเป็นคาถาหาเงินด้วย ลูกภาวนาไว้คู่กับ คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า ตามที่พ่อเขียนมาอย่าให้ขาด จะเกิดผลสบายใจ

    จะปลูกบ้านได้ตามทีคิดไว้ ค่อยๆ ทำไปให้สบายอย่าเร่งรัด อย่าคิดรวย คิดเพียงอารมณ์สงัด จะรวยเอง ถ้าคิดรวย ลาภจะหาย

    ขณะนี้พ่อเริ่มสร้างพระพุทธรูปตามที่บอกมาแล้วนั้น เมื่อคืนนี้ท่านมาบอกว่าให้ทำบุญบรรจุเริ่มสวดมนต์เย็น วันที่ ๒๑ กันยายน ตรงกับวันเสาร์บรรจุพระบรมธาตุและเลี้ยงพระ วันที่ ๒๒ ตรงกับวันอาทิตย์ตอนเช้า งานนี้จะบรรจุพระพรมธาตุพระพุทธรูปองค์เดียว

    พ่อขอให้ลูกหาตลับทองคำ หนักหนึ่งบาทให้พ่อ ๑ ลูก ตลับเงินที่โตกว่าตลับทอง ๑ ลูก ตลับโลหะ โตกว่าตลับเงิน ๑ ลูก น้ำมันจันทน์อย่างแท้ ๒ ออนซ์ พ่อจะขอให้ นนทา ช่วยด้วย การสร้างตลับมีอานิสงส์มาก ขอให้ ฉลวย พี่แสวง และถ้าเขาพอใจ บอก พิมพ์ อู๊ด ร่วมกัน

    อย่ากำหนดการเงิน ให้ออกกันคนละบาทหรือสลึงก็ตามใจ เหลือเท่าไร พ่อออกหมด ลูกหาทุนสำรองให้พ่อมาก่อน เมื่อของมาแล้ว พ่อจะจ่ายให้ ตามที่เหลือ ที่ให้บอกทั่วก็เพราะเป็นของใหญ่ บอกคนอื่นด้วยก็ได้ ใหญ่ในอานิสงส์ ไม่ใช่ราคาใหญ่ ทำแล้วถึงนิพพานเร็ว

    ยังไม่ถึงนิพพาน ก็จนได้ยาก ลาภมาก จึงขอให้บอกให้ทั่วๆ กัน ตามศรัทธาเขา อย่ากะเกณฑ์ เพราะการถวายตลับทองแก่พระบรมธาตุ สมัยโบราณเขาแย่งกันถวาย พ่อและลูก พวกเราทั้งหมดก็ทำมาแล้วหลายครั้ง.....ฯลฯ.............

    พระมหาวีระ ถาวโร

    ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๑๑



    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกพิเศษ หน้า 47 - 51)

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1226#14
     
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    คาถากันนิวเคลียร์นิวตรอน ของหลวงปู่ปาน บูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลของวัดเราด้วยพระคาถานี้ปลอดภัยจากกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์แน่นอนครับ
    1.JPG 2.JPG 3.JPG
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    lWn-HE_LuEP1rL7J4zk8UGtBQkW4yQn-g89MTYB-KpFCdOejjRLeARCj6gSOhsSX.jpg lWn-HE_LuEP1rL7J4zk8UD9YdV7dVc2cdvJZUWE0TYtqYKWMHHuTS0NpFduMMN0G.jpg lWn-HE_LuEP1rL7J4zk8UL61_VlEMkMVVGwYuQshfh8WQl-qJODxsJAJfcAZGwQY.jpg lWn-HE_LuEP1rL7J4zk8UL4f3Uftmb14TL13wI3HS4l6AOO4xdEpjP7vGStRH8ZO.jpg lWn-HE_LuEP1rL7J4zk8UNf1_tSvRIXZoEzAvalRYTL68z2Oz5IQ0IzdkoQHzXvG.jpg lWn-HE_LuEP1rL7J4zk8ULlRdqk5pa33AA8jH9TAv0tXsk2D3i-C5xbV2eI7EOFK.jpg

    หลวงพ่อยิ้มขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว วัดธรรมยาน ออกให้บูชางานผูกพัทธสีมาเดือนมกราคม
    2559

    lWn-HE_LuEP1rL7J4zk8UOy_8Rr9q8YO5nj5HyBl32fiTcOu45rS8hNQAEfrJTox.jpg
    หลวงพ่อยิ้มขนาดบูชาหน้ารถ

    lWn-HE_LuEP1rL7J4zk8UGaYSeO2WZ3uBoWfUZoxQrEmV8sg2-aOZIZVfaYHYt3T.jpg
    หลวงพ่อยิ้มขนาดบูชาหน้ารถและขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว เป็นภาพของกัลยาณมิตรท่านนึงช่วยส่งภาพมาให้ชมกันครับ
     
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    วันนี้เป็นวันที่ 8 กรกฏาคม ตรงกับวันเกิดหลวงพ่อครับ

    ประวัติ.jpg

    (จากหนังสือประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หน้า 76)

    นำมาจาก E-Book เวบวัดท่าซุงด้านล่างนี้ครับ
    http://thasungmedia.com/wat/puy/ebook/index.php

    311685_330076670420319_634014865_n.jpg 5_173.jpg 101_177.jpg IMG_20170716_142136.jpg
     
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    2616b826.jpg

    ถูกคนกลั่นแกล้ง

    ผู้ถาม : นึกถึงความกลั่นแกล้งเป็นเวลา 10 ปีมาแล้ว ต้องร้องไห้ทุกที ภาวนาก็ไม่หาย ทำบุญทีไรก็ไม่เป็นเรื่อง ขอบารมีหลวงพ่อช่วยเปลื้องความที่คนอื่นมากลั่นแกล้งด้วยเถิดเจ้าค่ะ


    หลวงพ่อ : โธ่เอ้ย ! เฉยๆ ไว้ อุเบกขา ช่างมันๆๆ ไอ้การถูกกลั่นแกล้งนี่ ฉันโดนมาขนาดหนักนะ

    ผู้ถาม : อะไรครับ ! เป็นพระสงฆ์ยังโดนอีกหรือครับ ?

    หลวงพ่อ : ยิ่งกว่าพวกนี้เยอะ โดนมาหนักเลย เพิ่งจะมาเบาๆ แค่ 2 ปีนี่เอง เมื่อก่อนโดนมาตลอด ฉันถือว่าการแกล้งเป็นเรื่องของคนแกล้ง ถือคาถาบทเดียวว่า " ช่างมันๆๆ "

    แล้วผลที่สุด คนแกล้งก็พังทุกราย พังย่ำแย่เลยนะ

    ผู้ถาม : โอ...หลวงพ่อนี่แตะไม่ได้เลยนะ

    หลวงพ่อ : แตะไม่ได้หรอก....ล้ม ! ไม่แตะยังล้มเลย (หัวเราะ)

    ผู้ถาม : ใช้ สัมปจิตฉามิ หรือครับ ?

    หลวงพ่อ : เมื่อก่อนใช้เฉยๆ ไม่ยอมรับ ถ้าเราไม่ยอมรับมันกลับไปหาเจ้าของเขา ถ้าย้อนกลับไปมันแรงกว่า มันมากระทบเรา ไม่ต้องไปแช่งเขานะ ไปแช่งเขาไม่มีผลกำลังเราตก

    ถ้าเป็นฆราวาสเวลาสวดมนต์เสร็จ อุทิศส่วนกุศลกรวดน้ำให้

    ผู้ถาม : ให้คนที่เราไม่ชอบใจนี่หรือครับ ?

    หลวงพ่อ : ใช่ๆ ทำจิตใจให้เป็นสุข เมื่อมันตายแล้วจะได้รับ

    ผู้ถาม : อ๋อ...โมทนาให้เขาเลย

    หลวงพ่อ : คิดว่าเขาตายแล้วไงล่ะ เรากรวดน้ำให้เขาเป็นสุข ไม่ช้าก็พัง รับรองว่าไม่เกิน 1 ปี ของฉันนี่พังมาแล้ว ไม่รู้กี่ร้อยรายแล้ว

    แต่เราต้องทำเฉยๆ นะ ทำจิตเป็นสุข ไม่โกรธ ห้ามใจเสีย บูชาพระด้วยจิตเป็นสุข หลังจากนั้นจึงอุทิศส่วนกุศลกรวดน้ำให้เลย อย่างนี้ขอยืนยันว่า ถ้าเอาจริงๆ นะ ไม่เกิน 3 เดือน จอดแน่ๆเลย

    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ มีนาคม 2549)



    ตะกรุดเม00.jpg ตะกรุดเม0.jpg
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    1.1.jpg
    ภาวนาสัมปจิตฉามิ หมาหนี


    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ทุกๆวัน ลูกจะต้องเดินเข้าซอย กลางซอยจะมีสุนัข 3-4 ตัวเป็นเจ้าถิ่นในซอย พอลูกเข้าซอยปุ๊บลูกจะท่อง "สัมปะจิตฉามิ" ทันที เพราะซอยมันเปลี่ยว พอลูกเดินถึงเจ้าสุนัข พวกมันจะต้องเดินหลบ และก้มหน้าเดินเลี้ยวไปทางอื่น พอลูกเดินพ้นพวกมัน ก็เห็นพวกมันก็มานอนที่เดิมเป็นอย่างนี้ทุกที อย่างนี้เป็นเพราะมันกลัวบทที่ลูกท่อง "สัมปะจิตฉามิ" หรือคะ ?

    หลวงพ่อ : "สัมปะจิตฉามิ" เป็นบทขับนี่ ขับศัตรู

    ผู้ถาม : ขับทั้งหมาทั้งคนเลยหรือครับ ?

    หลวงพ่อ : ใช่...

    ผู้ถาม : โอ..อย่างนี้ใครมาทวงหนี้ก็ "สัมปจิตฉามิ" ก็เปิดเลย

    หลวงพ่อ : เอาเฉพาะเจ้าหนี้นะ อย่าไปไล่ลูกค้า

    "สัมปจิตฉามิ" เป็นคาถาย้อน ใครเขากลั่นแกล้งเราก็ตาม ก็กลับไปหาคนนั้น ของพระพุทธเจ้าท่านนะ ท่านบอกที่นิวซีแลนด์

    ท่านบอกคาถาบทนี้ใครจะทำอะไรก็ตามจะย้อนกลับ ไม่เฉพาะบุคคลนั้นทั้งกลุ่มเลยนะ


    (จากธัมมวิโมกข์ เดือนพฤษภาคม 2537)


    yesyes3.jpg
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    0r08.jpg
    ถูกกระทำไสยศาสตร์


    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง วันนี้ขอสักครั้งเถอะ ขอพึ่งบารมีหลวงพ่อ คือว่าลูกเป็นครูสอนหนังสือ ถูกกระทำไสยศาสตร์ทุกรูปแบบที่เขากระทำมาเป็นเหตุให้ครอบครัวเดือดร้อนเหลือเกิน แก้หลายแห่งไม่หาย กันหลายที่ก็ไม่อยู่ วันนี้จึงบากหน้ามาพึ่งเพื่อผ่อนคลาย ถ้าหลวงพ่อไม่ช่วยลูกคงม้วยแน่เจ้าข้า

    หลวงพ่อ : เขาไม่ได้เขียนยังงั้นละมั๊ง

    ผู้ถาม : ต่อให้อีกหน่อย

    หลวงพ่อ : เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ฉันก็แก้ไม่เป็น เวลาบูชาพระก็ภาวนาว่า "สัมปติฉามิ" ซัก 7 ครั้ง แค่นี้กันได้เลย

    ผู้ถาม : ติ หรือ จิต ครับ

    หลวงพ่อ : ติ ก็ได้ ติจ ก็ได้

    ผู้ถาม : มันมี 2 คำ นะครับ จิตก็มี

    หลวงพ่อ : อ๋อ..จิตนั้นย้อนกลับ

    "สัมปติจฉามิ" หรือ "สัมปติฉามิ" นี่กัน กันทุกอย่าง

    ถ้า "สัมปจิตฉามิ" ถ้าเขาทำมากลับไปหาเขาเอง



    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ ธันวาคม 2538)


    2-15.jpg
     
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    2-4.jpg 6 (1).jpg
    ขับรถมักเกิดอุบัติเหตุ

    ยกทรง : เอ่อ..เขาบอกว่าเขาขับรถแท็กซี่หรือไงนี่เดี๊ยวชนเขา เขาชนเราตลอดเวลาครับ คันอื่นก็ไม่ชน ชนเฉพาะของเขานี่ ไม่รู้มีวาสนาบารมีอย่างไร จะแก้ไขอย่างไรหลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : ชาติก่อนเคยเล่นชนไก่ (หัวเราะ) กรรมชนไก่มันสนอง

    ยกทรง : เขาเลยให้เรียนถามว่า จะมีวิธีอะไรผ่อนหนักให้เป็นเบา

    หลวงพ่อ : จะไม่ให้ชน ใช่ไหม

    ยกทรง : ครับ ครับ

    หลวงพ่อ : ก็ไม่ขับรถมันเสียเลย (หัวเราะ) ก็หมดเรื่อง


    ถ้าจับพวงมาลัยแล้วภาวนาว่า "สัมปติจฉามิ" นึกถึงพระพุทธเจ้านะ นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อนนะของท่านนะ

    (จากสนทนาสายลม หนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 15 หน้า 413 )


    4A661312-91AC-42E3-9B85-DAB51CBE1479_zps4zbi7pbw.jpg
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    พระพุทธคาถา
    พระพุทธคาถา.jpg
    (จากหนังสือสมบัติพ่อให้ ฉบับพิมพ์ตุลาคม 2537 หน้า 185)
     
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    Incense-Sticks-With-Amazing-Fragrance.jpg
    ใช้ธูปกี่ดอกดี

    หลวงพ่อ : นางกวักนี่ เอ ฉันไม่เคยมีนางกวักกับเขาหรอก บวชเสียนาน

    ยกทรง : เป็นรูปคล้ายๆ ผู้หญิงน่ะหลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : ก็นั่นนะซิ พระเข้าไปได้เมื่อไหร่ เป็นอาบัติ เลยไม่รู้วิธีปฏิบัติ นางกวักนี่เขาอาจจะเสกด้วยพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณกระมัง ไม่รู้วิธีเขาจริงๆ ความจริงนางกวักก็บูชาแบบพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณดีกว่า นึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระธรรม พระอริยสงฆ์ นึกถึงพรหมเทวดาไปเลย นางกวักมันแค่เป็นรูปเท่านั้นใช่ไหม บูชาพระไปเลยดีกว่า ความจริงไม่รู้นะ จริงๆ นางกวกนี่

    ลูกศิษย์ : ใช้ธูปกี่ดอก ถ้าจะจุด หลวงพ่อคะ

    หลวงพ่อ : ไอ้เรื่องธูปนี่ต้องดูก่อน เวลานี้ตอบแน่นอนไม่ได้ เพราะไม่มีหุ้นส่วนกับร้านขายธูป (หัวเราะ) ถ้าฉันมีหุ้นส่วนฉันบอกเขาใช้มากๆ ยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ อีความจริงใช้ธูปกี่ดอก ถ้าบูชาพระหรือบูชาเทวดานี่ก็ควรใช้ธูปเสมอกัน ไม่มีการกำหนด ธูปนี่พระพุทธเจ้าไม่เคยอธิบายมาเลย เท่าที่ฉันเทศน์มานี่

    ยกทรง : ก็ไม่มีปรากฏ

    หลวงพ่อ : ไม่มี ทีปะ ธูปะ บุปผะ ใช่ไหม ธูปะ ไปหาพระพุทธเจ้า มีธูป มีเทียน มีดอกไม้ เขาว่ากันแค่นี้ จึงไม่จำกัด ถ้าฉันทำธูปขายนะ ฉันจะบอกซื้อยี่ห้อที่ฉันขายแล้วใช้ให้มันมาก

    ยกทรง : 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ก็เป็น 31 พอดี

    หลวงพ่อ : ใช่ จะได้ใช้บ่อยๆ จะได้ซื้อขายดีๆ แล้วก็ต้องบูชาวันละหลายครั้ง ชั่วโมงละครั้ง แม่ค้าจะได้ร่ำรวย แต่อย่าลืมว่าตามบาลีคนที่จะไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทีปะ ธูปะ บุปผะ ใช่ไหม ถือว่าคนที่เขาจะไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ต่างคนต่างถือธูปเทียนดอกไม้กันไปเองไม่จำกัด มาสมัยนี้ถ้าบูชาผีก็ 1 ดอก

    ยกทรง : นั่นสิ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นไปได้หลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : อันนี้ไม่มีสตางค์ (หัวเราะ) เป็นคนจน หาธูปไม่ได้ หาสตางค์ซื้อมากไม่ได้ เอาไปหนึ่งดอก แต่ว่าถ้าบูชาพระหรือบูชาเทวดา ถ้าบังเอิญมีความสัมผัสได้นะ ถ้าคุยกันได้ ท่านบอกถ้าจะเรียกผมล่ะก็จุดเท่านี้ดอกนะเป็นสัญลักษณ์ อันนี้จำเป็นเหมือนกัน เคยเจอะมาถามว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้น ไอ้ที่เขาทรงกันน่ะ มีเจ้าหนึ่งบอกว่า ถ้าหากว่าจะจุดธูปเชิญผมมาล่ะก็ใช้ 6 ดอกนะครับ ถามว่าทำไมต้องใช้ 6 ดอก บอกใช้ 5 ดอกเป็นสาธารณะ ผมจะไปรู้หรือครับ ถ้าใช้ 6 ดอกล่ะผมมาเลยแน่นอน

    อันนี้ก็เคยไปเจอะที่ราชบุรีแต่ว่าท่านที่มาทรงน่ะ พรหมชั้นสูงมาก ไม่นานหรอก ถ้ามาวันนี้พับใช่ไหม ถ้ามาล่ะไม่พูดมากหรอก ไปเร็ว เอาแต่ธุระอย่างเดียว พอก่อนจะไปก็สั่งไว้ก่อน วันที่เท่าโน้นน่ะ ฉันมา แล้วก็วันนั้นจะมีคนไข้กี่คน คนไข้ลักษณะไหนบ้าง เตรียมยาอะไรไว้บ้าง ให้เตรียมยาเสร็จเลย แล้วจากนั้นจะไปเชิญล่ะก็ไม่มีมา นอกจากวันนั้น อันนี้เขาแน่นอน


    (จากสนทนาสายลม หนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ หน้า 527)


    S__87056443.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2018
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    คาถาปล่อยปลา.jpg

    ห้ามกินปลาชนิดที่ปล่อย

    ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง ลูกมีความสงสัยอยู่นิดหนึ่งตรงที่ว่า การที่เราปล่อยปลาจะเป็นปลาดุกก็ดี ปลาหมอ ปลาไหลก็ดี หรือปลาชนิดต่างๆก็ดี

    มีคนข้างบ้านเขาบอกว่า โบราณถือนักถือหนาว่า ปลาตัวไหนปล่อยไปแล้ว จะเอามารับประทานไม่ได้ ปล่อยปลาไหลห้ามทานปลาไหล ปล่อยปลาดุกห้ามทานปลาดุก

    ลูกเป็นคนธัมมะธัมโม ก็ต้องพึ่งหลวงพ่อช่วยชี้แจงด้วยว่า จะเชื่อใครดีเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : ฉันเห็นด้วยกับโบราณท่านนะ ปลาไหลตัวไหนที่ปล่อยไปแล้ว ห้ามกินตัวนั้น (หัวเราะ) อย่าเอามากินนะ บาปนะ ปลาดุกตัวไหนก็เหมือนกันนะ ปล่อยปลาตัวไหนตัวนั้นห้ามจับมากิน แต่ตัวอื่นกินได้

    ผู้ถาม : ความจริงไม่เกี่ยวกันเลยนะครับ ?

    หลวงพ่อ : ไม่เกี่ยวกัน มันเป็น "อภัยทาน" ปล่อยให้เขารอดชีวิตใช่ไหม ปลาที่ควรปล่อยก็คือปลาที่เรารู้ว่ามันจะต้องตายแน่ๆ เช่น ปลาตามแอ่งน้ำเวลาฝนตกมันขัง ถ้าน้ำแห้งตายแน่ๆ หรือปลาที่เขาขายในตลาดยังไงๆ ก็ตายแน่ๆ

    แต่ประเภทปลาที่ใส่ถุงเร่ขายตามหน้าวัดปลาพวกนี้ถูกจับมาขาย อันนี้ต้องคิด

    ผู้ถาม : ครับ !

    (จาก ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 241 เดือนเมษายน 2544 หน้า 67)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2021
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    ท่านที่ไม่สะดวกถือศีล 8 หลวงพ่อแนะนำให้ถือกรรมบท 10 แทน
    ศีล8 1.jpg ศีล8 2.jpg

    (จากธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2532 หน้า 5-6)
     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    คาถาในสมาธิ

    คาถา 1.jpg คาถา 2.jpg
    (จากธัมมวิโมกข์ พฤศจิกายน 2532 หน้า 6-7)
     
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    112
    ค่าพลัง:
    +225,706
    17-2.jpg
    ยันต์ท้าวมหาพรหม (ยันต์กันเพลี้ยกระโดด) แบบเนื้อผ้าแข็ง

    DSC06111.jpg
    ยันต์ท้าวมหาพรหม (ยันต์กันเพลี้ยกระโดด) แบบเนื้อผ้าอ่อน ผืนนี้เป็นรุ่นแรกครับ จะไม่มีรูป "ยันต์เฑาะว์"
     

แชร์หน้านี้

Loading...