พระไม่ทุกข์ "พ่อท่านผอม ถาวโร" พระแท้คือผู้มีหัวใจว่างเปล่า

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wajula, 22 พฤษภาคม 2018.

  1. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    32286578_589997814698393_1903594411132977152_n.jpg

    200095a08.jpg

    ความสงบอย่างยิ่ง

    คือการดำรงอยู่เหนือกาลเวลา

    โดยธรรมชาติแล้วป่าช้าเป็นสถานที่ที่มนุษย์ทุกคนต้องเดินทางเข้าไปพักอาศัยอยู่แล้วไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่ในเมื่อมันยังไม่ใช่วันเวลาของเรา ค่าของการเป็นสถานที่เฉพาะทางจึงไม่ค่อยมีใครอยากจะเฉียดกายเข้าไป นัก หากไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ

    แต่แล้วโลกทัศน์ใหม่แบบเล็กๆ ของชาวบ้านละแวกวัดก็เกิดขึ้น เมื่อพ่อท่านได้เข้ามาจำพรรษาอยู่ในป่าช้าของวัด ด้วยความที่พ่อท่านเป็นพระที่มีดีและอารมณ์ดี ภายในระยะเวลาไม่นานนักท่านก็สามารถเปลี่ยนทัศนคติของชาวบ้านแบบพลิกฝ่ามือ

    ท่านได้เปลี่ยนความกลัวให้เป็นความกล้า

    ท่านได้เปลี่ยนใบหน้าที่หวาดระแวงให้เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

    20009f1a0.jpg

    สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงตรัสสั่งสอนว่าวิธีการที่จะมีความสุขที่สุดนั้นก็คือการดับทุกข์ ดังนั้นใครก็ตามที่เข้าใจในสัจธรรมที่เป็นความจริงของธรรมชาตินี้ ก็จะรู้ดีว่าการดับทุกข์นั้นสามารถทำได้ด้วยตนเอง

    ถ้าพูดแบบชาวบ้านก็ต้องว่า อย่างแรงคือหักดิบดับทุกข์ทันที และอย่างค่อยเป็นค่อยไปคือการละทิ้งความทุกข์ไปทีละนิดทีละน้อยภายในระยะเวลาไม่นานนักความทุกข์ก็จะลดน้อยถอยลงและมีความสุขมากขึ้น

    ภายในศาลาปลายทางที่ใช้จำพรรษา ท่านได้เขียนสูตรยาชนิดหนึ่งไว้บนกระดานแขวนอยู่กับผนังของศาลา โดยหวังให้คนทั่วไปได้มาเห็น ได้มาศึกษา

    ท่านว่าหากใครสามารถเข้าเครื่องยานี้ได้ ท่านรับรองผลว่าสามารถพ้นทุกข์ได้อย่างแน่นอน

    20009fc3d.jpg

    ๑.ต้นไม่รู้ไม่ชี้นี้เอาเปลือก

    ๒.ต้นช่างหัวมันนั้นเลือกเอาแกนแข็ง

    ๓.อย่างนั้นเองเอาแต่รากฤทธิ์มันแรง

    ๔.ไม่มีกูของกูแสวงเอาแต่ใบ

    ๕.ไม่น่าเอา น่า เป็น เฟ้นเอาดอก

    ๖.ตายก่อนตายเลือกเอาลูกใหญ่ๆ

    หกอย่างนี้ หนักอย่างละชั่ง ตั้งเกณฑ์ไว้ “ดับไม่เหลือ”

    ครั้งสุดท้ายใช้เมล็ดมัน ๖ อย่างนี้หนักเท่ากับยาทั้งหลาย เคล้ากันไปเสกอาถาที่อาถรรพ์

    “สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ”

    อันเป็นธรรมหฤทัยในพระพุทธนาม เอาลงหม้อใส่น้ำพอท่วมยา / เคี่ยวไฟกล้า เหลือได้หนึ่งในสาม / ๑ ช้อนชากิน ๓ เวลาพยายาม / กินเพื่อความหมดสรรพโรค เป็นโชคดี

    200095581.jpg

    “กินยานี้แล้วจะไม่เป็นหนี้”

    พ่อท่านบรรยายสรรพคุณของยาเพิ่มเติมให้ชาวบ้านที่นั่งฟังอยู่ได้ทราบ

    “กินยานี้แล้วหนี้เก่าจะหมดไปด้วยหรือเปล่า?”

    ไม่อยากเรียกว่าคำถามเลย เพียงแต่ผมอยากรู้สรรพคุณเพิ่มเติม

    “อะไรที่ผ่านมาแล้ว ก็ผ่านไป เราพูดถึงหนี้ใหม่ ไม่รวมหนี้เก่า”

    เจ้าของสูตรยาหัวเราะก่อนตอบ

    คำตอบที่พริ้วไหวแต่ไม่แตกแถว หากพิจารณาให้ดีแล้วจะพบว่าเนื้อในของคำตอบมันคือธรรมะที่สอนให้ทุกคนรู้จักการปล่อยวางและดำรงชีวิตอยู่ด้วยสติ

    พ่อท่านองค์นี้หากมองดูเผินๆ ท่านก็เหมือนพระทั่วไปครับไม่มีอะไรที่จะแตกต่างหรือจะโดดเด่น ซึ่งเมื่อเราถามถึงสิ่งที่ท่านกำลังทำ ท่านตอบว่าท่านก็บอกไม่ได้หรอกว่าสิ่งที่ท่านทำอยู่นี้ มันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่อ่านได้แค่ไหน

    200095cc0.jpg

    “ปัญหาในเบื้องแรกก็อยู่ตรงที่ว่า จะทำอย่างไรทุกคนจึงจะเห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องนี้เป็นจริงได้และทุกคนจะได้ประโยชน์”

    ท่านว่าไม่ต้องมากหรอกขอแค่จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่ และมากขึ้นเรื่อยๆ

    ผมเองได้แต่สงสัยว่าหลวงตาแก่ๆ ที่พูดภาษาใต้ได้ชัดเจนมากกว่าภาษากลาง ท่านสามารถหยิบยกเอาคำสอนที่ลึกซึ้งและซับซ้อนอันเป็นแก่นแท้แห่งพระพุทธศาสนาขึ้นมาถ่ายทอดสด ผ่านกำแพงพื้นฐานความรู้ทางธรรมที่ทุกคนมีไม่เท่ากันให้เข้าใจเหมือนกันอย่างง่ายๆ ได้อย่างไร

    20009da82.jpg

    “เสือเป็นเจ้าป่าใช่ไหม? เราจับเสือมาขัง เสือก็ยังเป็นเจ้าป่าใช่ไหม? ถ้าเราขังเสือแล้วไม่ให้อาหาร เสือตายไหม?

    กิเลสก็เหมือนกัน กิเลสเป็นเจ้าของหัวใจ เราจับกิเลสมาขัง กิเลสก็ยังคงเป็นเจ้าของหัวใจอยู่ดี แต่ถ้าเราไม่ให้อาหาร

    ไม่ให้ตากระทบรูป ไม่ให้อารมณ์กระทบใจ กิเลสก็ต้องตายไปเหมือนเสือ”

    ครับ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าป่าหรือเจ้าของหัวใจ ทุกอย่างมีสิทธิ์ตายดับไปได้เสมอ

    จะว่าไปแล้วตามประวัติถึงพ่อท่านจะเรียนหนังสือไม่สูง ไม่รู้จักเทคโนโลยีตลอดจนการสื่อสารที่ทันสมัยใดๆ แต่ท่านก็มีดีและมีสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนต้องยกมือป้องหูและเบิ่งตาดูด้วยความฉงน

    ท่านบอกว่าที่เรียนรู้และเอามาสอนคนในทุกวันนี้ ท่านได้เรียนรู้วิถีแห่งชีวิตจากห้องเรียนธรรมชาติตามป่าตามเขาด้วยตัวของท่านเอง ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ท่านเปี่ยมปัญญาและน่าติดตามครับ

    ผมนึกถึงเรื่องราวในหนังสือเล่มหนึ่งที่ว่า การที่สิ่งธรรมดาจะกลายเป็นสิ่งพิเศษ ก็ต่อเมื่อเราเข้าไปรู้จักและสร้างสัมพันธ์ด้วย คงน่าเสียดายนะครับถ้าเราจะมัวแต่เงยหน้ามองท้องฟ้าหาจานบิน โดยหลงลืมคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์

    การหัดมองย้อนหลังและสังเกตสิ่งที่เราผ่านมากันบ้าง อาจทำให้เราได้เห็นมุมสวยๆ ของธรรมะและโลกกว้างใบนี้อย่างแท้จริง

    ยิ่งได้รู้จักพ่อท่านมากขึ้นเท่าไร ยิ่งเข้าใจธรรมะมากขึ้นเท่านั้น

    2000922aa.jpg

    ว่ากันว่าสิ่งปลูกสร้างมหัศจรรย์บนโลกใบนี้มีมากมายนับไม่หวาดไม่ไหว เกือบจะเต็มร้อยล้วนสร้างขึ้นด้วยพลังแห่งศรัทธาแทบทั้งนั้น

    ไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองจีน ทัชมาฮาล หอเอน ฯลฯ ไล่ลำดับลงมาจนถึงวัดข้างบ้านที่เพิ่งฝังลูกนิมิตไปเรียบร้อยเมื่อไม่กี่วันนี้

    หรือจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในแบบที่ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้าง เช่นความเชื่อ ความคิด วิถีชีวิต ฯลฯ ก็เกิดจากพลังแห่งศรัทธาในอะไรสักอย่างที่มีอยู่ในตัวของตัวเรา

    20009d778.jpg

    สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ

    สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่พึงยึดมั่นถือมั่น

    วิถีชีวิตภายใต้ร่มเงาแห่งพระพุทธธรรมคำสอนเช่นนี้ ทำให้ “พ่อท่านผอม ถาวโร” วัดไทรขาม อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เสมือนมีภูมิคุ้มกันอันเข้มแข็งต่อการเปลี่ยนแปลงจากโลกภายนอกที่นับวันจะเข้ารุมล้อมการดำเนินชีวิตอันสงบสุขของท่าน

    ท่านว่าด้วยคำสอนขององค์พระศาสดานี้เองที่เป็นดั่งเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงสิ่งเดียวที่คอยผลักดันและเป็นกำลังใจให้ท่านสามารถดำรงชีวิตสมณะได้อย่างสง่างาม โดยไม่ต้องใส่ใจว่าใครจะคิดกับท่านอย่างไรหรือจะมองท่านว่าเป็นพระแบบไหน

    ท่านว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่เข้ามากระทบอาจจะสร้างความทุกข์ใจ ไม่พอใจ แต่ถ้าเรามีสติและรู้ตัวก็จะช่วยให้เกิดการปล่อยวาง ไม่ขึ้นลงไปตามสิ่งต่างๆ ที่เป็นทุกข์

    20009c0bd.jpg

    “คนเราถึงจะไปอยู่ที่ไหน หากมองโลกถึงด้านในได้ ก็อยู่เหนือโลก เหนือกว่าเรือน ได้กำไรเป็นอย่างยิ่ง ได้รับความสุขประเสริฐเพิ่มเข้ามา โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย”

    ผมรู้จักพ่อท่านผอมครั้งแรกจากการอ่านหนังสือพระเครื่อง ตอนนั้นยังใส่กางเกงขาสั้นเรียนประถมและอาศัยอ่านหนังสือฟรีตามแผงหนังสืออยู่เลยครับ

    หนังสือพระเครื่องฉบับที่ลงก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากนัก นอกจากลงรูปพ่อท่านผอมขณะเอามือแตะกล่องใส่พระ และคำบรรยายเล็กน้อย ซึ่งผมเองก็จำไม่ได้ว่าเขาเขียนอะไรไว้

    สมัยนั้นท่านจำพรรษาอยู่ ณ วัดหญ้าปล้อง ขณะเสกพระชุดดังกล่าวท่านมีอายุเพียง ๕๒ ปี ๓๒ พรรษา ซึ่งว่ากันด้วยพระเกจิอาจารย์สายใต้ในขณะนั้น ท่านคือพระที่มีอายุน้อยที่สุดครับ

    แต่ด้วยฝีมือและคุณวิเศษในตัว ทำให้ท่านได้รับนิมนต์ปลุกเสกพระร่วมกับพระเกจิอาจารย์อาวุโสชั้นนำของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีอายุมากกว่า ๘๐ ปีหลายองค์ เช่น

    พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ พ่อท่านหีต วัดเผียน พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ฯลฯ เรื่องราวของท่านที่ปรากฏตามหน้าหนังสือก็คงมีเพียงเท่านี้แหละครับ

    20009157a.jpg

    จริงอยู่การที่เรารู้จักใครสักคนเพียงแค่อ่านผ่านตัวหนังสือ ถึงมันจะเป็นเวลาที่สั้นเกินไปในการทำความรู้จักกันได้อย่างถ่องแท้ แต่สำหรับผมแล้วมันมีคุณค่าและมากพอที่จะทำให้ผมเก็บท่านไว้ในความทรงจำครับ

    รุ่นพี่ที่เป็นนักพระเครื่องอาวุโสและเคยเป็นอดีตบรรณาธิการหนังสือพระเครื่องหลายฉบับได้เล่าให้พวกเราฟังว่าตัวเขาเองก็เคยเจอพ่อท่านผอมในงานพุทธาภิเษกเหรียญพ่อท่านคลิ้ง หลัง “ภปร” หลังงานพุทธาภิเษกเสร็จสิ้นเขาและเพื่อนได้ไปส่งพ่อท่านผอมที่วัดหญ้าปล้อง

    เขาจำได้ว่าพ่อท่านผอมเป็นพระที่สมถะ กล่าวคือท่านไม่เคยใส่รองเท้าและไม่มีย่าม เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ๒๕๒๑ ถึงมันจะเป็นเวลา ๓๐ กว่าปีมาแล้วความประทับใจในท่านก็ยังคงอยู่ในใจของเขาไม่ลืมเลือน

    20009140c.jpg

    เขาเล่าว่าสมัยก่อนเมื่อใครไปกราบขอพร “พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน” จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านมักจะถามว่า “มาแต่ไหน?” หากใครตอบว่า “มาจากร่อน” (ร่อนพิบูลย์) ท่านก็จะบอกว่า มาหาท่านให้ไกลๆ ทำไม ที่ร่อนก็มีพระเก่งอยู่แล้ว ทำไมไม่ไปหา “พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง” เขาว่าสมัยนั้นวัดถลุงทองอยู่ลึกเขาไปในป่ามาก เส้นทางคมนาคมก็ไม่สะดวก เป็นพื้นที่สีแดงและมีภัยจากโจรผู้ร้ายอยู่เนืองๆ

    ต่อมาเมื่อความเจริญเข้าไปถึงวัดถลุงทองจึงมีผู้รู้จักพ่อท่านคลิ้งกันมากขึ้นและผู้ที่เปิดตัวพ่อท่านคลิ้งสู่สาธารณะชนคนไกลจากวัดถลุงทองเป็นคนแรกคือ “โกหว่า ทุ่งสง” (คุณวรศักดิ์ อดิเทพวรพันธ์) ลูกศิษย์ของพระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา

    เราต้องยอมรับครับว่าพระเกจิอาจารย์ภาคใต้ที่เก่งๆ หลายองค์ในยุคสมัยนั้น “โกหว่า ทุ่งสง” มักจะเป็นผู้เปิดตัวและสร้างเหรียญถวายพระเกจิอาจารย์เหล่านั้นเพื่อเอาไว้แจกแก่ลูกศิษย์และสาธุชนทั้งคนไกลที่เข้ามากราบนมัสการ

    20009ca9e.jpg

    ทุกวันนี้เหรียญที่โกหว่าสร้างถวายแก่บรรดาพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ล้วนได้รับความนิยมและเป็นที่เล่นหาของวงการพระเครื่อง ด้วยรูปแบบและจำนวนที่มาตรฐานแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มาสนับสนุน เช่น

    หนึ่ง-พระเกจิอาจารย์ที่จะผ่านกำแพงศรัทธาของผู้รอบรู้ในไสยศาสตร์ ที่มีดีกรีเป็นถึงศิษย์เอกของพระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา นั้นต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

    สอง-พระเกจิอาจารย์ที่โกหว่าได้สร้างถวายนั้นล้วนเป็นพระสงฆ์ที่ดีและมีดีจริงๆ อาทิเช่น เหรียญพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ปี ๒๕๒๑ เหรียญพ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ ปี ๒๕๒๑ฯลฯ รวมไปถึงเหรียญรุ่นแรกของพ่อท่านผอม ที่สร้างขึ้นในปี ๒๕๑๗

    ไม่เพียงแต่โกหว่าเท่านั้นที่ยอมรับในความเก่งและคุณธรรมของพ่อท่านผอม พระสงฆ์ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นทองเนื้อแท้แห่งพระพุทธศาสนาอย่าง “พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ” แห่งวัดถลุงทอง ก็ให้คำรับรองแก่ผู้ใกล้ชิดเสมอๆ ว่า

    “ท่านผอมเป็นพระบริสุทธิ์ที่เก่ง มีสมาธิและอาคมที่ดี สมควรแก่การกราบไหว้บูชาอย่างที่สุด”

    ดังนั้นในงานพุทธาภิเษกใดก็ตามที่พ่อท่านคลิ้งรับเป็นประธาน ท่านจะให้ลูกศิษย์นิมนต์พ่อท่านผอมมาร่วมเสกด้วยเสมอๆ เช่น งานพุทธาภิเษกเหรียญพระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ หลัง “ภปร” ปี ๒๕๒๑

    2000939bc.jpg

    ผมเล่าเรื่องที่ไปพบพ่อท่านผอมให้รุ่นพี่ท่านนี้ฟังพร้อมกับมอบรูปถ่ายของพ่อท่านในปัจจุบัน ยืนยันความชัดเจนว่าพระองค์ที่พวกเราไปพบไม่ผิดฝาผิดตัวแน่นอน

    ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากกาลเวลาคือสภาพร่างกายของพ่อท่านที่ท้วมขึ้นตามอายุและทุกวันนี้ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดไทรขาม ซึ่งห่างจากวัดหญ้าปล้องมากพอสมควร

    รุ่นพี่ท่านนี้ได้โทรศัพท์แจ้งข่าวไปที่โกหว่า น้ำเสียงดีใจของผู้สร้างเหรียญรุ่นแรกพ่อท่านผอมดังลอดออกมาพอให้พวกเราได้ยิน

    “เก่ง ดี ไม่ใส่เกือก ไม่มีย่าม”

    คำพูดของโกหว่าทำให้ผมฉุกคิดได้ว่า

    “การค้นหาตัวตนของใครบางคน เราอาจจะรู้ได้จากคำพูดเพียงไม่กี่คำก็ได้”

    กรณีของสมณะที่เรียบง่ายอย่าง “พ่อท่านผอม ถาวโร” ก็ไม่ต่างกันครับ ชัดเจน เด็ดขาดและแน่นอน

    20009054c.jpg

    ด้วยความเข้าใจในภาษาใต้ที่มีน้อยถึงน้อยมาก ผมตัดสินใจไปลากเจ้าเพชรออกมาจากบ้านอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าการสื่อสารด้วยภาษาท้องถิ่นของเขาจะช่วยให้การซักถามของผมมีสีสันมากขึ้น

    อย่างน้อยการได้เพื่อนดีๆ มาแบ่งปันแง่มุมที่แตกต่าง อาจทำให้ผมได้ฟังคำพูด คำสอนเก่าๆด้วยความรู้สึกใหม่ก็ได้

    วันใหม่กับการเดินทางครั้งใหม่เริ่มต้น ในขณะที่ทุกคนพักผ่อนอยู่กับบ้านอย่างมีความสุขแต่ผมกับเจ้าเพชรยังคงมุ่งหน้าไปยังวัดไทรขาม การมาครั้งนี้ทำให้ผมพบความจริงข้อหนึ่งว่า วัดไทรขามยังคงตั้งอยู่ที่เดิมแต่ทางเข้าเริ่มแตกสาย

    ครั้งก่อนเราผ่านสวนมังคุด

    ครั้งนี้เราเจอสวนทุเรียน

    “หรือเรากำลังออกนอกเส้นทาง”

    เจ้าเพชรหยุดคิดพักใหญ่ก่อนจะหันมาบอกผมว่า

    “คนเรามีหลายแง่มุม สุดจะคาดเดา ทางเข้าก็มีหลายทาง มันน่าสนใจมากกว่าเราจะเข้าเป็นอยู่ทางเดียว”

    “เป็นความคิดเชิงบวกที่เข้าท่าดี”

    ผมคิดในใจก่อนที่เราจะช่วยกันงมหาทางเข้ากันอีกครั้ง

    200095be3.jpg

    ระหว่างทาง...ผมมองออกนอกกระจกรถเห็นทุ่งนา เห็นสวนมังคุด เห็นพื้นดินสีน้ำตาลอ่อนที่เจิ่งนองด้วยน้ำซึ่งมันคงเป็นผลพวงจากฝนที่ตกหนักราวกับฟ้ารั่ว เผลอถอดจิตไปเฝ้าพระอินทร์เอาตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อเจ้าเพชรมาเรียก

    “ถึงแล้วพี่ ป่าช้าวัดไทรขาม”

    “ป่าช้าวัดไทรขาม”

    ผมทวนคำ

    เหลือบไปเห็นคุณยายแก่ๆ คนหนึ่งกำลังหิ้วปิ่นโตมาถวายเช้าพ่อท่านผอม ถามไถ่ได้ใจความว่า แกก็อายุเฉียดร้อยตั้งแต่เกิดมาและจำความได้ก็เห็นป่าช้านี้แล้ว

    คำตอบของคุณยายทำให้ผมรู้สึกถึงความคลาสสิกกับการได้ยืนอยู่บนป่าช้าแห่งประวัติศาสตร์ของชาวบ้านดอนตะโก

    ครั้งหนึ่งพ่อท่านผอมเคยสอนผมว่า..

    2000937b1.jpg

    “สัจจะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับความเป็นมนุษย์ คนที่ไม่มีสัจจะก็คือคนที่ไม่เข้าถึงความเป็นมนุษย์”

    ผมนึกถึงคำพูดของท่าน นึกถึงภาพของพระสูงวัยองค์หนึ่งที่มีความเคลื่อนไหว ท่านรอนแรมจาริกธุดงค์ไปทั่วเป็นเวลาหลายสิบปี

    ณ วัดไทรขาม ท่านได้เพียรมาถวายเทียนพรรษาถึง ๓ ปี ก่อนที่จะเข้าจำพรรษา การย้ายจากสถานที่แห่งหนึ่งไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความกล้าอย่างมากมาย

    หนึ่งคือตัวท่านจะต้องอาศัยอยู่กับความแปลกหน้าไปช่วงหนึ่ง

    สองคือท่านจะต้องทิ้งความทรงจำหลายอย่างไว้ข้างหลัง

    ท่านเคยบอกว่าทุกสถานที่ที่ท่านจำพรรษา ไม่ว่าจะเป็นวัดหรือตามป่าเขา ท่านว่าเป็นการชดใช้กรรมเก่าของท่านซึ่งเคยทำไว้ ณ สถานที่แห่งนั้น สำหรับวัดไทรขามแห่งนี้จะเป็นสถานที่สุดท้ายโดยท่านจะไม่ย้ายไปไหนแล้ว

    ผมเรียนถามท่านว่าเป็นโชคชะตาหรือบุพกรรมใช่ไหมที่นำพาให้ได้พบกัน? ซึ่งเรื่องของการพบเจอกันนั้นในคติของชาวพุทธถือว่าเคยทำกรรมร่วมกันมา

    ท่านหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนตอบแบบได้ใจสมกับที่เขาเรียกท่านว่า “พระจี้กงเมืองนคร” พระผู้ก้าวข้ามกาลเวลา

    “เป็นเพราะโลกมันกลม”

    ฟังแล้วอยากจะตีลังกาไปสามตลบ เพราะนอกจากจะเหนือถูกเหนือผิดแล้ว คำตอบนี้มันยังเหนือความคาดหมายจริงๆ........สวัสดีครับ

    20009df4e.jpg

    ขอขอบคุณ คณะศิษย์พ่อท่านผอม/พี่แล่ม จันท์พิศาโล สำหรับข้อมูล คุณเพชร-ร้านเพชรฉลูกัณฑ์ คุณพรชนก สุขพงษ์ไทย สำหรับภาพถ่ายสวยๆ เพื่อนต่อกับคำแนะนำ คุณสมบูรณ์ ร้านนายฮ้อ สระบุรี สำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอ


    Credit : http://oknation.nationtv.tv/blog/sitthi/2013/02/21/entry-1

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2018
  2. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร

    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    -----------------------------------------------------
    "มึงต้องใจเดียว!!"
    -----------------------------------------------------

    31948086_587466421618199_7268997862308970496_n.jpg

    ตอนนั้นผมได้ขออนุญาตพ่อท่านสร้างพระปิดตาเพื่อจะทำผ้าป่ากองทุนสุขภาพถวายพ่อท่านผอม ท่านเขียนยันต์ด้วยอักขระ "ขอมกลาย" ให้ ๒ ตัว ซึ่งมีลักษณะเอกลักษณ์ที่อ่านได้เฉพาะท่าน ผมถามท่านว่า
    “ยันต์อะไรครับพ่อท่าน?”
    ท่านบอกว่า
    “ยันต์ตัวหนึ่งเป็นทางเมตตาอ่านว่า อ่อ ออ มึงเห็นไหม? เวลาโนราร้องเบิกโรงเรียกคน ก็จะร้อง อ่อ ออ… "
    ถามท่านว่า
    “แล้วอีกตัวล่ะครับ?”
    ท่านตอบว่า
    “อันนี้เป็นยันต์ทางมหาอุด แบบของกู แบบปืนยิงไม่ออก”
    “โอ้โฮ.. ขนาดนั้นเลยรึครับ? อย่างงี้ลองยิงได้ไหมพ่อท่าน?”
    ผมลองถามแหย่ท่านดู ท่านตอบเสียงแข็งอย่างมั่นใจว่า
    “ลองได้เลย.. มึงต้องแขวนแล้วให้เขายิงมึงนะ กูรับรองว่าไม่ออก!!”
    “อ้าว.. แล้วถ้าออกล่ะ ผมก็ตายนะสิ” ผมชักไม่มั่นใจ
    “ถ้าออกแสดงว่ามึงไม่เชื่อถือกู ถ้ามึงเชื่อต้องไม่ออก”
    “โอ๊ย..อย่างงี้ไม่ลองหรอก เอาไปวางไว้แล้วลองยิงไม่ได้เหรอครับ?”
    “ไม่ได้!!... ถ้ามึงอยากลองก็ต้องแขวนแล้วให้เชื่อแบบใจเดียวว่ายิงไม่ออก มึงอยากลองก็ต้องแลกกันหน่อย กูเสกใจเดียว มึงก็ต้องใจเดียว”
    -----------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : คุณ Sitthi Sutthiamporn
    Credit : นภดล หมูตู้

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    -----------------------------------------------------
    "อัศจรรย์ใต้ต้นมะม่วง"
    -----------------------------------------------------
    31947425_587464074951767_7788306691690332160_n.jpg
    "โกชุน" เป็นศิษย์พ่อท่านยุคก่อน เป็นคนพัทลุง ปัจจุบันก็ยังคงติดต่อกับพ่อท่านอยู่เสมอ โกชุนเป็นคนหนึ่งที่พบเจอเรื่องราวแปลกๆ พิสดาร เหนือธรรมชาติของพ่อท่านหลายต่อหลายครั้ง
    สมัยที่พ่อท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดใต้หล้า (ปัจจุบันคือ วัดใต้หล้าพนาราม ต.ดอนตรอ อยู่ในเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ นครศรีธรรมราช) เล่ากันว่าในยุคนั้นเส้นทางเข้าไปยากลำบากมาก เป็นเหมือนวัดร้าง
    โกชุนเล่าว่า พ่อท่านผอมไปพักอาศัยอยู่ใต้ต้นมะม่วง นอนจำวัดใต้ต้นมะม่วงนี้ลูกมันดกมาก ตอนนั้นยังไม่มีที่พักอะไร ก็ต้องอาศัยอยู่ใต้ต้นไม้ โกชุนก็บอกกับพ่อท่านว่า
    "พ่อท่าน นอนใต้ต้นมะม่วงไม่กลัวลูกมันร่วง กิ่งหัก ใส่รึ?"
    "ไม่กลัว" พ่อท่านตอบ
    วันต่อมาก็แวะมาเยี่ยมพ่อท่านเพราะว่าเมื่อคืนลมแรงฝนตกหนักมาก รู้สึกเป็นห่วงว่ากิ่งมะม่วงจะหักตกใส่ท่านหรือเปล่า แต่เมื่อโกชุนมาถึงสิ่งที่เห็นกลับกลายเป็นบริเวณใต้ต้นมะม่วงที่พ่อท่านอาศัยอยู่ เพียงต้นเดียว กลับสะอาดสะอ้านไม่มีเศษกิ่งไม้เลยสักนิด ลูกมะม่วงก็ไม่มีร่วงให้เห็นเลย แม้แต่ใบไม้ก็ไม่มีสักใบ
    แต่พอพ้นไปจากร่มต้นมะม่วง กลับระเกะระกะเต็มไปด้วยกิ่งมะม่วงที่หักโค่นลงมา ลูกมะม่วงที่ร่วงตกกระจายรอบๆ ใบไม้มะม่วงร่วงรอบๆต้นมากมาย จากแรงลม ต้นอื่นๆรอบๆบริเวณนั้นก็สภาพหักโค่นกระจัดกระจายไปทั่ว ถามพ่อท่านว่า
    "ทำไมมันไม่หักโดนพ่อท่าน?"
    ท่านตอบ
    "กูไม่รู้!!"
    ----------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : จากพี่ Sitthi Sutthiamporn
    Credit : นภดล หมูตู้

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  4. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
  5. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    "โกหว่า"
    --------------------------------------------------

    32169568_589192458112262_7172156550331498496_o.jpg

    หากจะพูดถึงชื่อ คุณวรศักดิ์ อดิเทพวรพันธ์ ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงจะไม่รู้จักแต่ถ้าหากจะพูดถึงชื่อ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช หรือ ขุนพัน ทุกๆท่านที่เดินทางในสายขลังจะต้องไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน. . .

    ดังนั้นหากผมจะกล่าวว่า ขุนพัน และคุณวรศักดิ์ นั้นเปรียบเสมือนศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน ในตักศิลาไสยศาสตร์แห่งดินแดนทักษิณหรือที่ทุกๆท่านคุ้นหูกันในชื่อของ "เขาอ้อ" ก็คงจะทำให้ทุกๆท่านคิดตามผมกันได้ง่ายมากขึ้น

    และหากจะให้พี่ๆน้องๆลูกศิษย์พ่อท่านผอม เข้าใจมากขึ้นไปอีก ผมคงจะต้องขอเรียนตามตรงครับว่า คุณวรศักดิ์ อดิเทพวรพันธ์ นั้นมีอีกชื่อนึงซึ่งเป็นที่รู้จักในคนหมู่มากที่นิยมชมชอบพระเครื่อง ของขลัง ซึ่งก็คือ. . .

    "โกหว่า"

    ใช่แล้วครับ "โกหว่า" คือชื่อของผู้ที่สร้างเหรียญยอดนิยมอย่าง "เหรียญพ่อท่านคลิ้ง รุ่นโกหว่าสร้าง" รวมไปถึง "เหรียญพ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ" ซึ่งเป็นถึงปรมาจารย์ไสยศาสตร์แห่งแดนใต้

    และเท่าที่ผมสืบหาข้อมูลจากพี่ใหญ่ใจดีของผมมานั้น โกหว่า เป็นถึงลูกศิษย์อันดับต้นๆรุ่นเดียวกับขุนพันของสำนักเขาอ้อครับ นอกจากนี้แกยังเป็นศิษย์สายตรงของ อ.นำ แก้วจันทร์ แห่งวัดดอนศาลา สุดยอดเกจิในตำนานแห่งสายตักศิลา เขาอ้อ

    ก็คงจะพอการันตีได้บ้างแล้วใช่มั้ยครับ ถึงภูมิความรู้ในเชิงไสยศาสตร์ของ โกหว่า ว่าไม่น้อยหน้าใครหน้าไหนอย่างแน่นอน ดังนั้นหากคนอย่างโกหว่าจะเดินทางไปกราบพระรูปไหน ผมมีความเชื่อมั่นเหลือเกินครับว่า พระรูปนั้นจะต้องเป็นพระดี พระแท้ อย่างไม่ต้องสงสัย . . .

    แล้วมันเกี่ยวกับหลวงปู่ หรือ พ่อท่านผอม ของพวกเรายังไงหน่ะเหรอครับ ผมจะเล่าให้ฟัง. . .

    นอกจากโกหว่าจะเดินทางมากราบ หลวงปู่ ของพวกเราแล้วโกหว่า ยังเป็นผู้สร้างเหรียญรุ่นแรก พิมพ์หน้าแก่ ของพ่อท่านผอม ถาวโร หรือก็คือหลวงปู่ของพวกเราครับ ซึ่งจำนวนการสร้างในสมัยนั้นเท่าที่สืบทราบมาได้ ก็คงจะไม่ครบ ๑,๐๐๐ เหรียญดี หรือจะคิดคร่าวๆก็คงจะแค่ ๙๐๐ เหรียญเท่านั้น

    นอกจากนี้พระที่มีหมุนเวียนอยู่ในวงการส่วนใหญ่ก็มีจำนวนน้อยมากและเป็นที่ห่วงแหนของผู้ที่ได้ครอบครองกันทั้งสิ้นครับ. . .

    ซึ่งจากการสังเกตของผมเองเหรียญรุ่นนี้ของหลวงปู่นั้นหากได้พบเจอแล้วก็มักจะเป็นพระที่ผ่านการใช้งานมาแล้วแทบจะทั้งหมดครับ. . .

    และนั่นก็คงเป็นกระจกสะท้อนชั้นดีอยู่แล้วนะครับว่าทำไมเหรียญรุ่นนี้จึงเป็นที่หวงแหนของบรรดาเหล่าลูกศิษย์

    นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของพี่ชายท่านหนึ่งซึ่งขณะนี้ท่านบวชเป็นพระอยู่ครับ

    โดยส่วนตัวแกมีความคุ้นเคยและสนิทสนมกับโกหว่าคพอสมควรรับ วันดีคืนดีระหว่างนั่งๆคุยกันอยู่แกก็อดที่จะถามโกหว่าไม่ได้ว่า

    "ใน นครฯ ตอนนี้มีพระรูปไหนที่เป็นพระแท้และควรค่าแก่การกราบไหว้บ้าง ?"

    โกหว่าได้ยินคำถามดังนั้นจึงตอบอย่างชนิดที่เรียกว่าแทบจะไม่ต้องคิดคำตอบเลยครับว่า

    "ทั่วเมืองนครฯในยุคสมัยนี้นั้น พระที่ยังคงกราบได้อย่างสนิทใจ เห็นทีจะมี แต่ พ่อท่านผอม ถาวโร เพียงรูปเดียวเท่านั้น"

    ซึ่งจากคำพูดเพียงประโยคเดียวของ โกหว่า ก็คงจะพอทำให้ทุกท่านมีคำตอบในใจแล้วนะครับว่า หลวงปู่ของพวกเรา เป็นพระแท้ จริงรึเปล่า ?

    ซึ่งส่วนตัวผมเองต้องใช้คำว่า

    "รักและศรัทธาหมดใจแบบไร้ข้อกังขาใดๆทั้งสิ้นครับ"

    --------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : เชษฐ์ พุทธศิลป์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : แอดมินตัวเล็ก

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  6. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    "มึงไปบวชซะ"
    --------------------------------------------------

    31963961_587781434920031_3273460348857876480_n.jpg


    อันว่าอานิสงค์แห่งการบวชเป็นพระในพระพุทธศาสนานั้น สำหรับตัวผู้บวชเองมีอานิสงค์ถึง ๖๔ กัลป์ สำหรับผู้เป็นบุพการีจะได้รับอานิสงค์ถึงครึ่งหนึ่งหรือก็คือ ๓๒ กัลป์

    เรียกได้ว่าการได้บวชนั้นมีอานิสงค์มากมาย ทั้งกับตัวเอง บุพการี และพุทธศาสนา

    และสิ่งที่ผมจะนำมาเล่าต่อไปนี้เกี่ยวกับ "การบวช" ครับ

    เรื่องของเรื่องก็คือมีผู้ชายอายุซัก ๓๐ ต้นๆมากราบหลวงปู่ครับ ซึ่งต่อไปผมจะขอเรียกแกว่าพี่ เพื่อให้ง่ายต่อการเล่าเรื่องนะครับ

    พี่คนนี้เล่าว่าอยู่ๆแกก็ฝันเห็นพระชรา รูปหนึ่งครับ ซึ่งตัวแกเองก็ไม่รู้จักว่าเป็นพระที่ไหนชื่ออะไร. . .แกเล่าต่อไปว่าฝันเห็นพระรูปเดิมซ้ำๆอยู่หลายตอหลายครั้ง และทุกครั้งที่ฝัน แกเล่าว่า พระในฝันมักจะบอกแกว่า. . .

    "มึงไปบวชซะ"

    "แล้วปัญหาของมึงจะเบาลง"

    ซึ่งพี่แกเล่าต่อไปว่าไอตอนแรกๆผมก็นึกไม่ออกหรอกว่าชีวิตผมมีปัญหาอะไร ก็เลยไม่ได้สนใจความฝันนั้นซักเท่าไหร จนกระทั่ง. . .

    อยู่ๆแกก็มีเรื่องที่จะต้องเสียเงินเป็นจำนวนไม่น้อยครับ เอาง่ายๆก็เกือบ หนึ่งล้านบาท ใช่ครับ เกือบหนึ่งล้านบาท ก็เลยทำให้แกนึกถึงความฝัน ที่แกเคยมองข้ามมันไป

    พี่แกเล่าต่อไปว่าช่วงนั้นผมเครียดมากเงินไม่ใช่น้อยๆถ้าต้องเสียไปจริงๆคงกระทบหลายเรื่องทำให้แกเริ่ม ตามหาคำตอบครับ ว่า พระที่แกฝันถึงคือใคร. . .

    ใช่แล้วครับพระในฝันของแกก็คือ พ่อท่านผอม ถาวโร หรือ หลวงปู่ของพวกเรานี่แหละครับ

    หลังจากได้คำตอบแกก็ไม่รอช้าครับ รีบมากราบหลวงปู่และเล่าเรื่อง ความฝันของแกให้หลวงปู่ฟัง

    หลวงปู่ฟังแล้วได้แต่ยิ้มพร้อมกับพูดแบบเดิมครับ

    "มึงไปบวชซะ"

    "แล้วปัญหาของมึงจะเบาลง"

    พี่แกตอบหลวงปู่กลับไปว่า

    "แต่ผมเคยบวชแล้วนะครับหลวงปู่"

    ท่านตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

    "บวชแล้วมึงก็บวชอีกได้"

    พี่ชายท่านนั้นถึงจะมีคำถามมากมายแต่ก็คงต้องทำตามที่หลวงปู่ท่านแนะนำมาโดยการ "ออกบวช"

    ซึ่งล่าสุด แกก็กลับมากราบหลวงปู่อีกครั้งพร้อมทั้งเล่าให้พวกเราฟังว่า ปัญหาของแกเบาลงจริงๆ

    จากที่ต้องเสียเงินเกือบล้าน เหลือ อยู่แค่ แสนกว่าบาทเท่านั้น. . .

    ซึ่งหากจะถามหาเหตุผล ว่า อะไร? ทำไม? อย่างไร? ผมคงไม่มีคำตอบให้ทุกท่านนะครับ จะมีก็เพียงแต่พี่ชายท่านนั้น กับ หลวงปู่ เท่านั้นที่เข้าใจ

    แต่สิ่งที่ผม อยากจะนำเสนอให้ทุกท่านได้เข้าใจในประเด็นเดียวกันก็คือ "การบวชนั้นมีอานิสงค์มาก" และ"หลวงปู่ไม่เคยทอดทิ้งลูกศิษย์"ครับ

    --------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : เชษฐ์ พุทธศิลป์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : แอดมินตัวเล็ก

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  7. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    น้อมกราบพ่อท่านผอมครับ เคยไปกราบท่านครั้งหนึ่งครับ ท่านเมตตามากครับ ท่านสอนคนไปพระนิพพานเหมือนสายหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุงครับ ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนองค์หนึ่งครับ
     
  8. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    สาธุครับพี่
     
  9. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    ----------------------------------------------------

    "อร่อยไหม?"

    ----------------------------------------------------

    27972059_552012085163633_6176216527639077179_n.jpg

    ปกติเวลาพ่อท่านฉันอาหารก็จะมีคนคอยดูแลท่าน ต้องคอยเช็ดน้ำมูกบ้าง คอยเช็ดมือบ้าง บางครั้งก็ฉันได้มากบ้าง น้อยบ้าง แล้วแต่วัน

    วันหนึ่งระหว่างที่ท่านนั่งฉัน วันนั้นมีข้าวเหนียวทุเรียน ซึ่งท่านชอบฉันทุเรียนมาก แต่ตอนหลังอายุมากต้องลดการฉันลงเพราะหมอห้ามไว้ เห็นท่านฉันดูเอร็ดอร่อยเลยถามท่านว่า

    "อร่อยไหมครับ?"

    ท่านตอบว่า

    "กูไม่รู้..กูกินอย่างเดียว ความอร่อยเป็นของที่พวกมึงคิดกันเอาเอง"

    แล้วท่านก็พูดต่ออีกว่า

    "นี่กูจะบอกอะไรให้ ความอร่อยใช้กับคนโง่เว๊ย!!"

    ----------------------------------------------------

    เครดิตภาพ : Chanon Phuengbun Na Ayuttaya
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : นภดล หมูตู้

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  10. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    -----------------------------------------------------

    "ดอกไม้แท้"

    -----------------------------------------------------

    28166330_552011478497027_6966562320349028785_n.jpg

    "ดอกกุนหยี" เป็นชื่อเรียกสำเนียงปักษ์ใต้ที่ใช้เรียกขาน "ดอกบานไม่รู้โรย" ที่เรารู้จักกันทั่วไป พ่อท่านผอมท่านมักจะพูดถึงดอกบานไม่รู้โรยว่าคือ "ดอกไม้แท้" เหมาะแก่การนำมาบูชาพระอย่างยิ่ง

    คำว่า "บานไม่รู้โรย" คือความหลุดพ้น ความเบิกบาน ความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่รู้จักโรยรา เป็นความเชื่อถือเอาเคล็ดในเรื่องชื่อที่เป็นมงคล เกื้อหนุนชะตาชีวิตให้มีแต่ความเจริญก้าวหน้าไม่รู้จักตกต่ำสมดังชื่อ พ่อท่านเคยแนะนำถึงการจัดดอกไม้ไหว้พระให้ฟังว่า

    "มึงไปหาเอาดอกกุนหยี ๙ ดอก เสียบทางมะพร้าว ก้านละ ๓ ดอก จำนวน ๓ ก้าน ไว้บูชาพระ โบราณเขานิยมทำแบบนี้"

    ผมถามท่านว่า

    "ทำไม? ต้องใช้ ๙ ดอก ทางมะพร้าว ๓ ก้านล่ะครับพ่อท่าน"

    ท่านตอบว่า

    "ดอกกุนหยี ๙ ดอก คือ ตัวแทนของ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ รวมเป็น ๙ คือ โลกุตรธรรมทั้ง ๙ ประการ

    ส่วนทางมะพร้าวทั้ง ๓ ก้าน คือ คุณของพระพุทธเจ้า ได้แก่ พระบริสุทธิคุณ, พระปัญญาธิคุณ และ พระมหากรุณาธิคุณ

    หรืออีกนัยหนึ่ง คือ พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือ ไตรลักษณ์ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็ได้

    ดอกกุนหยีคือดอกไม้แท้ อยู่ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ประหยัดด้วย เขาถึงเรียกกันว่าบานไม่รู้โรยเว๊ย!!"

    -----------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : กลุ่มหมีควาย
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : นภดล หมูตู้

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  11. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #คำสอนพระไม่ทุกข์ ตอนที่ ๑

    ๒๒ เมษายน ๒๕๖๑ พ่อท่านรับนิมนต์เทศน์ ณ ชมรมปฏิบัติธรรมโลกทิพย์ ห้วยขวาง กทม. อยากรู้ว่าพ่อท่านแสดงธรรมคำสอนอย่างไรถึงถูกใจและครองใจหมู่มวลสมาชิกของชมรมฯ โลกทิพย์ ต้องเปิดใจรับฟังครับ

    Credit : Sitthi Sutthiamporn



    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #คำสอนพระไม่ทุกข์ ตอนที่ ๒

    ๒๒ เมษายน ๒๕๖๑ พ่อท่านรับนิมนต์เทศน์ ณ ชมรมปฏิบัติธรรมโลกทิพย์ ห้วยขวาง กทม. อยากรู้ว่าพ่อท่านแสดงธรรมคำสอนอย่างไรถึงถูกใจและครองใจหมู่มวลสมาชิกของชมรมฯ โลกทิพย์ ต้องเปิดใจรับฟังครับ

    Credit : Sitthi Sutthiamporn



    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  13. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    ---------------------------------------------------

    "ขอมกลาย"

    ---------------------------------------------------

    27857866_550664538631721_7197474885950991539_n.jpg

    พูดถึงเรื่อง "ยันต์" คืออักขระอักษรที่จารึกพระคาถาหรือมนตรา บทหนึ่งบทใด ตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งปกติลักษณะนิยมที่พบเห็นจะลงด้วยอักขระตัว "ขอม" ที่คุ้นตา

    เวลาที่พ่อท่านจารึกลงอักขระใดๆก็ตาม เป็นอักขระที่มีลักษณะแปลกประหลาด ที่ไม่ใช่อักษรขอม แต่เป็นอักขระภาษาพิเศษที่สืบค้นหาต้นเค้าไม่ได้ (พบเห็นในพระเกจิสายใต้รุ่นเก่าหลายรูป)

    บางคนก็ว่าเป็นภาษาโบราณที่สาปสูญไป บางคนก็บอกว่าเป็นภาษาคนธรรพ์ พวกบังบดลับแล แต่เรื่องนี้คงไม่มีใครบอกได้ดีเท่ากับตัวพ่อท่านเอง อักขระแบบที่ท่านเขียน ท่านเรียกเองว่า "ขอมกลาย"

    ผมเคยทดลองว่าท่านเขียนแบบเส้นอิสระไปเรื่อยไหม? อักษรที่อ่านไม่ออกเหมือนฮู้จีน ด้วยการถามท่านว่าอ่านว่าอะไร? ผ่านไปกว่า ๒ ปีก็เอากลับมาถามท่านใหม่ ปรากฏว่าท่านอ่านเหมือนเดิม ไม่มั่วแสดงว่าเป็นภาษารูปแบบเฉพาะของท่านจริงๆ

    ความสงสัยนี้พอจังหวะที่ท่านอารมณ์ดีๆ จึงถามท่านว่า

    "ตัวขอมกลายนี้.. พ่อท่านเรียนมาจากไหนครับ?"

    "เขาให้สงวนไว้.. ไม่ให้บอกเว๊ย!!" ท่านตอบ

    "อ้าว.. ทำไมล่ะครับ?"

    "เดี๋ยวเพื่อนเลียนแบบ.. มึงอย่าไปอยากรู้มาก มันเป็นเรื่องของกู"

    เจอท่านตัดบทแบบนี้ เราก็ได้แต่มองหน้าอึ้งๆกันไป

    ----------------------------------------------------

    เครดิตภาพ : จากผ้ายันต์นางกวักลายมือพ่อท่าน
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : นภดล หมูตู้

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  14. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
  15. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    --------------------------------------------------

    "ยาเส้น"

    --------------------------------------------------

    27657859_548187635546078_2834202114474423936_n.jpg

    พูดถึงเครื่องรางที่พ่อท่านมักแจกให้ญาติโยมที่ไปกราบเป็นประจำนั่นคือ "ยาเส้น" ซึ่งทางใต้เขาเรียก "ยาเหนียด" ไว้เหนียดฟัน หรือเอามามวนเพื่อสูบ

    สมัยก่อนเวลาคนมาขอท่านจะเอามาประมาณหยิบมือแล้วกวาดในช่องปากเสกไปด้วย เชื่อกันว่ามีคุณวิเศษเด่นทางเมตตามาก เจรจาต่อรอง เด่นเรื่องการคุยการได้รับการอำนวยความสะดวก

    เคยมีคนมาขอให้พ่อท่านเสกยาเส้นหลายคน พอท่านทำให้แค่สองสามคนแล้วก็หยุด ถามท่านว่ายังได้กันไม่ครบ ท่านตอบว่า

    "พอก่อน.. กูเมา"

    พากันฮาครืน เวลาท่านกวาดในปากไปเจอน้ำลาย มีกลิ่น มีมึนได้ ก็อาจจะทำให้เมาได้ ตอนหลังเลยเรียกกันว่าเกรด A แต่ปัจจุบันท่านไม่ได้ทำแบบนั้นแล้ว อธิษฐานเอาเลยท่านว่ามันเหมือนกัน เคยสงสัยถามท่านว่า

    "ยาเส้นของพ่อท่านมันดียังไงครับ?"

    ท่านตอบว่า

    "มึงจะได้มีเส้นไง.. ในทางโลกคนเราไปไหนมีเส้นมีสาย มีพวก เขาก็ช่วยเหลือดีสะดวกราบรื่น เวลาขึ้นโรงขึ้นศาลมีเส้นสายก็ง่ายนิ"

    "งั้นแสดงว่าพ่อท่านเอาเคล็ดคำว่า เส้น สิครับ?" ผมถามต่อ

    ท่านตอบว่า

    "อื้อ..งั้นแหละ ทางโลกมันชอบกัน มันบอกว่าต้องมีเส้นสาย"

    ---------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : ไม่ทราบครับ
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : นภดล หมูตู้

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  16. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    --------------------------------------------------

    "ยังไงก็ทุกข์!!"

    --------------------------------------------------

    27749825_547038115661030_8980033309957787771_n.jpg

    พ่อท่านผอม เป็นผู้มุ่งตรงต่อความพ้นทุกข์เป็นหลัก นับตั้งแต่ท่านมีชีวิตเป็นเด็กวัดบ้านรามที่หัวไทร ท่านมีเป้าหมายอย่างมุ่งมั่น พ่อท่านมีความชัดเจนในเรื่องนี้มาก คือทำทุกๆอย่าง ปฏิบัติทุกๆสิ่งโดยมีจุดมุ่งหมายเดียวนั่นคือ "ความไม่เกิด"

    ผมเคยถามท่านว่า

    "ทำไม? พ่อท่านถึงออกธุดงค์ครับ"

    ท่านตอบว่า

    "กูตัดสินใจตายเว๊ย!!.. ไปหาทางพ้นทุกข์เพราะการเกิดมันเป็นทุกข์

    มึงดูสิ!!.. เกิดเป็นอะไรก็ทุกข์ คนจนก็ทุกข์อย่างคนจน คนรวยก็ทุกข์อย่างคนรวย เป็นเทวดาก็ยังมีทุกข์เลย เพราะยังมีความชอบไม่ชอบอยู่..

    ขนาดเป็นหมามันยังมีรวยมีจนเลย เกิดทุกทีเป็นทุกข์ทุกที ไม่เกิดได้แหละดี!!"

    --------------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : จากหนังสือชิตังเม
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : นภดล หมูตู้

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  17. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    "พี่ยุ้ย"
    --------------------------------------------------

    29597557_570700113294830_1940139821026676683_n.jpg
    29543284_570700149961493_3891185561153009149_n.jpg

    "เชื่อมั้ย? สมัยก่อน เวลาหลวงปู่ไปไหน ก็พกไปแค่กลดกับบาตร"

    พี่ยุ้ยหนึ่งในศิษย์ผู้อุปัฏฐากสมัยหลวงปู่จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์น้อย จังหวัดตรัง พูดกับผมพร้อมทำสีหน้าตื่นเต้น ที่กำลังจะได้เล่าเรื่องราวสนุกๆของหลวงปู่ให้ผมได้ฟัง

    พี่ยุ้ยเล่าว่าสมัยก่อนหลวงปู่อยู่ไม่เป็นที่ ย้ายไปทางนู้นที ทางนี้ที ตามแต่โอกาสและวาระที่จะมาถึง แม้กระทั่งโรงรถ หลวงปู่ก็ยังเคยไปปักกลดมาแล้ว

    โดยนอกจากหลวงปู่จะมีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดแล้วหลวงปู่ก็มักจะไปเยี่ยมเยียนเหล่าลูกศิษย์ที่ท่านตั้งใจไปหาโดยเฉพาะ. . . หลายๆครั้งก็ไปเพื่อทำบางสิ่งบางอย่างตามแต่โอกาสจะเอื้ออำนวยแล้วกลับเลย

    เหล่าลูกศิษย์ส่วนใหญ่ก็มักจะรู้แกว และไปตีเป็นเลขเพื่อนำไปเสี่ยงโชค ซึ่งก็มักจะมีโชคมีลาภกันทุกครั้งไป

    พี่ยุ้ยยังสำทับอีกว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล คนจะถูกยังไงก็ต้องถูก ผมจึงอดไม่ได้ที่จะถามถึงประสบการณ์ตรงของพี่ยุ้ยดูบ้าง

    พี่ยุ้ยบอกว่ามีครั้งหนึ่งหลวงปู่มีกิจนิมนต์ออกไปข้างนอก มีคนพยายามจะมาย้าย "ขนำ" หรือกระท่อมหลังเล็กๆที่หลวงปู่ใช้จำวัดออกจากพื้นที่เดิมโดยไม่ได้แจ้งแก่หลวงปู่ก่อน. . . ปรากฏว่าผู้ชายราว ๒๐ คนช่วยกันยกกลับไม่สามารถยก ขนำ ของหลวงปู่ให้เคลื่อนที่ไปไหนได้เลยแม้แต่น้อย

    จนกระทั่งท่านกลับมาผู้ดูแลงานในครั้งนั้นจึงไปขออนุญาตหลวงปู่. . . ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากหลวงปู่ "อนุญาต" ขนำที่เคยยกไม่ขึ้นกลับสามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยคนเพียงไม่กี่คน . . .

    หลังจากพี่ยุ้ยเล่าจบผม จึงอดไม่ได้ที่จะถามพี่ยุ้ยบ้างว่า แล้วพี่ยุ้ยเคยมีโชค กับเค้าบ้างมั้ย ?

    พี่ยุ้ยยิ้มเบาๆ ก่อนจะเล่าต่อว่า มีครั้งหนึ่ง หลวงปู่ออกไปกิจนิมนต์ และสั่งให้พี่ยุ้ยนั่งรออยู่ที่กุฏิ. . .

    รอไปได้ซักพัก ปรากฏว่า โทรศัพท์ของพี่ยุ้ยดังขึ้น. . . คนโทรมาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเบอร์ของหลวงปู่. . . แต่เรื่องน่าประหลาดใจก็คือโทรศัพท์ของหลวงปู่กลับอยู่ตรงหน้าของพี่ยุ้ย !!!

    แล้วมันเป็นไปได้อย่างไร. . . ?

    ตัวผมเองคงไม่มีคำตอบให้ทุกท่านนะครับ แต่ว่าพี่ยุ้ยก็ได้โชค จากเลขเบอร์โทรของหลวงปู่ในครั้งนั้นไปตามระเบียบ . . .

    ก็นั่นแหละครับเรื่องราวสนุกๆของ พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร ซึ่งผมคงจะไม่พยายามชี้ประเด็นว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติหรืออะไรหรอกนะครับเพียงแต่มาเผยแพร่เรื่องราวที่ผมได้ยินได้ฟังมาจากลูกศิษย์ยุคเก่าก็เท่านั้น

    เพราะว่าหลวงปู่มักจะสอนเสมอครับว่า

    ของพวกนี้นั้น มันไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ . . .

    --------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : สุภาภรณ์ รัตนถาวร ปานบางพระ ทองจันทร์ วรพล ชนัฐทรงพล
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : แอดมินตัวเล็ก

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  18. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    --------------------------------------------------

    "นิพพานคืออะไร?"

    --------------------------------------------------

    27540471_547037682327740_6509532075425248827_n.jpg

    วันหนึ่งของการสนทนาสมัยที่พ่อท่านยังอยู่ที่วัดไทรขามก่อนจะขึ้นมารักษาตัวที่ศรีราชา ระหว่างวันมีชาวบ้านแวะเวียนมาหาท่านมิได้ขาด พอมีจังหวะดีปลอดคนหน่อยได้ถามท่านว่า

    "พ่อท่านครับ.. นิพพานคืออะไร?"

    ท่านตอบว่า

    "คือความไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย หมดความทุกข์สิ้นเชิง ทุกคนไปได้ มึงก็ไปได้ แต่มึงต้องปฏิบัติให้ถูกให้ตรง มันถึงจะไปได้"

    ถามต่อ

    "แล้วทำยังไงถึงจะไปได้.. ทำบุญใส่บาตรไปเรื่อยๆจะไปถึงได้ไหมครับ?"

    ท่านตอบกลับมาว่า

    "นั่นมึงแค่เดินอยู่รอบๆบ้าน ยังไม่ได้เข้าบ้าน มึงต้องปล่อยวางจริง ใจมึงมันต้องว่างเปล่าจากสมมุติและความยึดมั่นถือมั่นทั้งหมด ไม่เอาไม่เป็นอะไรทั้งนั้น แม้แต่ใจมึงเองก็ต้องทิ้ง นั่นแหละมึงจะถึงนิพพานได้"

    --------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : หนังสือชิตังเม
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : นภดล หมูตู้

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  19. Wajula

    Wajula เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +383
    พระไม่ทุกข์ พ่อท่านผอม ถาวโร
    #เรื่องเล่าพระไม่ทุกข์
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    ----------------------------------------------------

    "ผู้เป็นที่รัก"

    ----------------------------------------------------


    27750837_547037432327765_7367558916374073480_n.jpg

    เวลาที่พ่อท่านอารมณ์ดีเบิกบานก็จะเล่าเรื่องราวเก่าๆที่ผ่านมาของท่านให้ฟังบ้าง เวลานั้นจะถามอะไรก็จะได้รับคำตอบ แต่ว่าอย่าเซ้าซี้มากท่านจะตัดบทเลย ท่านเล่าให้ฟังว่า

    "มึงรู้มั๊ย?.. ญาติพี่น้องกูเขารักกูกันทุกคน"

    ผมก็ถามว่า

    "ทำไม? เขาถึงรักพ่อท่านล่ะครับ"

    ท่านตอบว่า

    "ก็ที่ดินเก่าของพ่อแม่กู ส่วนของกู กูไม่เอาเลย กูยกให้ญาติพี่น้องกูหมดเลย กูไม่ต้องมีภาระอะไร..

    มึงเคยได้ยินที่พระพุทธเจ้าบอกมั๊ยว่า
    "ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก"
    กูนี่ทำตามท่านเลยนิ
    ญาติพี่น้องกูเขาเลยรักกูกันทุกคน

    ถ้ามึงอยากให้มีคนรักมึงมากๆ มึงก็ต้องรู้จักให้เว๊ย!!"

    ----------------------------------------------------
    เครดิตภาพ : จากพี่โต๊ด
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    Credit : นภดล หมูตู้

    ติดตามเรื่องราวของพ่อท่านผอมได้ที่ : https://www.facebook.com/PomTawaro/

    กลุ่มคณะศิษย์ : https://www.facebook.com/groups/428559633945420/
     
  20. กวง เอสวีเอส

    กวง เอสวีเอส สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +49
    D4CEEC6E-B0F2-47D2-9C8A-371E8E09273B.jpeg
     

แชร์หน้านี้

Loading...