ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 18 มกราคม 2010.

  1. ผู้ธรรมดา

    ผู้ธรรมดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2015
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +369
    ดีใจด้วยครับ :cool:
    จะมีอะไรสุดยอดไปกว่าการสวดคาถาเงินล้านแล้วได้เงินล้านจริงๆ มันสุดๆจริงๆเลย นี่แหละหนอต้นทุนบุญเก่าที่ทุกคนทำมาไม่เท่ากัน บางคนสวด9จบ แต่ได้เป็นล้าน บางคนสวด30จบ สวด108 หรือสวดเป็นพันจบ ยังอาจจะได้โชคไม่ถึงครึ่งล้านกันเลย

    แต่ไม่เป็นไร ผลย่อมมาจากเหตุ หมั่นทำบุญสังฆทานทุกๆอาทิตย์อย่าได้ขาด พร้อมสวดพระคาถาไปด้วย ถ้าไม่ตายซะก่อนชาตินี้ต้องมีวันที่สมกับชื่อของพระคาถาสินะ

    ยินดียินดีด้วยจริงๆ อีกไม่นานเกินรอจะมาเล่าประสบการณ์ของตนให้ผู้อื่นได้อ่านบ้าง และก็หวังลึกๆว่าจะเป็นเช่นนั้น สวัสดี(smile)
     
  2. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    สวัสดีทุกท่าน วันนี้ฉันขอมาเล่าประสบการณ์อานุภาพของพระกริ่งสมเด็จองค์ปฐม รุ่น 5 ฐานก้นถ้วยให้ทุกท่านได้อ่านกัน จากประสบการณ์ของตัวฉันเมื่อสดๆร้อนๆนี่เอง

    ฉันมีความศรัทธาหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงมานานพอสมควรแล้ว และได้ศึกษาติดตามวัตถุมงคลที่หลวงพ่อฤาษีสร้างไว้หลายอย่างด้วยกัน แต่ที่ฉันอยากได้และอยากบูชามากที่สุดเป็นพิเศษในตอนนี้คือ พระกริ่งสมเด็จองค์ปฐม องค์นี้ฉันอยากมีบูชามากๆ

    และบังเอินว่าโชคยังเข้าข้างฉันอยู่ ตอนนี้ที่วัดยังมี พระกริ่งสมเด็จองค์ปฐมรุ่นล่าสุด น่าจะรุ่น5.? ฐานก้นถ้วย มีให้บูชาที่วัด องค์ละ 400 บาท พอดีด้วยความที่ฉันมีงบไม่มากแต่มีศรัทธามากกว่า ฉันไม่รอช้า บูชาเลย เป็นพระกริ่งสมเด็จองค์ปฐมที่ลูกศิษย์เอกหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุงสร้างขึ้น ตามประวัติบอกว่า พุทธาภิเษก ในวันเสาร์5 อะไรสักอย่างนี่แหละ จำได้คร่าวๆ ความจริงฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องนั้น แต่ฉันสนใจว่าฉันจะมีองค์สมเด็จองค์ปฐมที่ฉันปรารถนาตั้งนาน มาไว้บูชาให้สมใจปรารถนาให้ได้

    และด้วยความศรัทธาในองค์สมเด็จองค์ปฐมฉันมีเยอะล้นฟ้าเหลือประมาณไง ฉันเลยปลึ้มใจสุดขีดที่ได้พระกริ่งสมเด็จองค์ปฐมมาไว้บูชาจริงๆเสียที เป็นอะไรที่ชื่นใจมากจริงๆ ชีวิตนี้ฉันหาความชื่นใจพิเศษแบบนี้ไม่ได้บ่อยนัก

    ต่อมาเมื่อกลับมาถึงที่พักฉันอาราธนาพระท่านจ้องมองท่านอย่างใจจดใจจ่อ หมายถึงมองพระสมเด็จองค์ปฐมที่ฉันรักนั่นนะ มองไปก็อิ่มใจไป พระท่านสวยมากๆ ละเอียดประณีตมากๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึกรักและหวงมากยิ่งๆขึ้นไม่มีประมาณ ฉันคิดในใจว่าอนาคตองค์เป็นล้านฉันก็ไม่ยอมขาย รักท่านมาก

    ไม่นานฉันก็เริ่มรู้สึกหนักๆหัวมึนๆ หวิวๆเหมือนคนจะเป็นลม รู้สึกว่าเลือดลมมันปั่นป่วนไปหมด ตาเริ่มวิงๆเวียนๆ ฉันเลยยกพระกริ่งสมเด็จองค์ปฐมขึ้นไว้เหนือหัวแล้วก็อาราธนาท่านคุ้มครอง นึกภาพท่านครอบเราทั้งตัวเลย ฉันก็ไม่ทราบหรอกนะว่าเป็นเพราะอะไร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพุทธานุภาพที่พระพรหมเทพเทวดาที่ท่านบรรจุไว้ในองค์สมเด็จองค์ปฐมจะสำแดงอิทธิฤทธิ์ให้ฉันได้รับรู้หรือเปล่า อันนี้ก็ไม่ทราบได้

    แต่สิ่งน่าอัศจรรย์ก็ค่อยบังเกิด คืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับฉันก่อนหน้านั้นได้ค่อยๆหายไปจนเป็นปริดทิ้ง แถมเวลาฉันเดินไปไหนมาไหน จะมีความรู้สึกในใจลึกๆ เหมือนกับว่าฉันเป็นผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาเลย ใจมันใหญ่มันหึกเหิมขึ้นอย่างน่าแปลกจริงๆอันนี้สุดยอดบอกไม่ถูก และก่อนหน้านี้ฉันเป็นคนที่ชอบพะวงกับความมืดมาก เวลาไปไหนมาไหน มืดๆเปลี่ยวๆคนเดียวตอนกลางคืนมักรู้สึกว่า ชอบระแวงไม่ปลอดภัย แต่พอฉันมีพระกริ่งสมเด็จองค์ปฐมอยู่กับตัว ฉันเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เดินไปที่มืดๆเปลี่ยวคนเดียวกลับรู้สึกอุ่นใจมากๆ เหมือนมีเทพเทวดาองค์ใหญ่คอยติดตามดูแลเราตลอดเวลา ซึ่งความจริงฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ามีจริงหรือไม่จริง แต่คือว่าอุ่นใจมากกว่าตอนที่ไม่มีจริงๆ อันนี้จากใจเลย

    และอีกอย่างที่ฉันสังเกตเห็นความรู้สึกและพฤติกรรมของฉันเปลี่ยนไปคือ เวลาฉันพูดกับใครก็ตามไม่ว่าจะคนแก่กว่าฉันมากเท่าไรก็ตาม ฉันจะรู้สึกว่าฉันพูดเหมือนคนที่ยิ่งใหญ่ ไม่เก้อเขินติดขัด พูดจานุ่มลึกภายในไม่พูดรนๆ น้ำเสียงฉันดูมีความมั่นคงหนักแน่นขึ้นมาก จากแต่ก่อนที่ฉันเป็นคนพูดลิ้นพลันกันคือใจคิดไปก่อนแล้วแต่ปากดันขยับไม่ทัน เลยกลายเป็นคนที่พูดติดๆขัดงกๆเงิ่นๆ แต่เดี๋ยวนี้ฉันพูดกับใคร จะรู้สึกว่าฉันแข้มแข็งขึ้น หมายถึงความรู้สึกของจิตใจนะ เอ่อ นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์สำหรับฉันมากๆเลยทีเดียว

    สิ่งที่ฉันเล่ามาทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฉันประสบพบเจอกับตัวกับใจฉันเองในอานุภาพของพระกริ่งสมเด็จองค์ปฐมจริงๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์สำหรับตัวฉันมากเลยทีเดียว และฉันก็เอารูปของพระสมเด็จองค์ปฐมที่ฉันสุดรักสุดหวงที่สุดในชีวิตมาแบ่งให้ทุกท่านได้ชมกันด้วย

    พระกริ่งสมเด็จพ่อองค์ปฐมองค์นี้ฉันรักท่านมาก และรักเคารพหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วย ขอให้โชคดีมีความสุขทุกๆท่าน อนุโมทนา สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Thammapiti

    Thammapiti สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2014
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +10
    อ่านปสก.คุณนิพพานสุขแล้วชอบมากครับเลื่อมใสเลยว่าเป็นหญิงมีศรัทธามั่นกับหลวงพ่อเลยอยากหาอ่านปสก/ข้อเขียนที่เคยโพสท์ ก้อไปค้นอ่านดูเลยไปเจอคำสรรพนามแทนตัว ข้าพเจ้ากับผม (เจอกะโผมก้อมี 5555+)

    ชักมึนๆ + งงครับว่าปสก.เรื่องบนนี้ใช่เกิดขึ้นจริงกับตัวคุณนิพพานสุขหรือหยิบปสก.ที่อื่นมาลงกันแน่ สำนวนภาษาในโพสท์เก่าเปรียบกับเรื่องบนก้อแตกต่างออกไป ถ้านำเรื่องบนมาจากเวบไหนก้อช่วยลงเครดิตให้ด้วยซิครับจะได้ตามไปหาอ่านกันได้

    ด้วยความเคารพครับ

    http://palungjit.org/10007800-post1140.html

    เอาเป็นว่าขอแก้ใหม่ก็แล้วกันนะคุณขอขมา
    ความจริงไม่ได้เจตนาจะมาขัดคอขัดใจหรอก แต่ตัวหนังสือมันก็คือตัวหนังสือน่านะ อาจมีการตีความที่ต่างกันตามความรู้สึกนึกคิด ถ้ามองบวกมันก็เสริมถ้ามองลบมันก็ขัด แต่ก็ดีแล้วนะมองจุดเล็กไปมันก็ดีอยู่

    ผมก็ปรารนาพุทธภูมิคนหนึ่ง ก็สนับสนุนทุกคนทำความดีเหมือนกัน ใจไม่คิดหรอกแต่ตัวหนังสือมันอาจให้คนอื่นหมองใจอันนี้ขออภัยนะ แก้ไขๆ
    ยินดีมาคุยด้วยใหม่เมื่อมีเวลาอำนวย[/quote]
    http://palungjit.org/10081468-post13.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2016
  4. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    555 สวัสดีคุณ ธรรมะปีติ(อิงลิช)

    ขอแก้เคล็ดเอ้ย..แก้ข่าวนิดหน่อย ความจริงฉันไม่ใช่ผู้หญิงหรอก แต่ตอนที่เขียนประสบการณ์นี้ ข้าพเจ้าคิดถึงหลวงพ่อฤาษี ที่ท่านชอบใช้สรรพนามแทนตัวท่านว่า"ฉัน" แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้คิดไปถึงเรื่อง ลบหลู่เทียบเคียงอะไรกับหลวงพ่อท่านหรอกนะ ตอนนั้นคิดว่าใช้ ฉันมันก็แปลกไปอีกแบบหนึ่งเท่านั้นเอง ตรงนี้เข้าใจตามนี้นะ ว่าฉันคือผมหรือคือข้าพเจ้าก็ตามแต่นั่นแหละ 55

    ต่อมาเรื่องที่คิดว่าข้าพเจ้าไปหาก๊อปประสบการณ์ที่ได้เขียนไปจากที่เว็บไหนมานั้น ก็ขอตอบว่าไม่มีหรอก เขียนมาจากประสบการณ์ตนเองจริงๆนี่แหละ ของแบบนี้ถ้าจะพูดไปแล้วมันก็ขึ้นอยู่ที่ความเชื่อมั่นและความศรัทธาต่อพระที่เราเคารพบูชาของแต่ละบุคคล ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว บูชาไป 100 กว่าคน ผลลัพธ์ที่ได้ใช่ว่าจะต้องเหมือนกันทั้งหมดทุกคน กำลังใจและความศรัทธาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ต่อเรื่องพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพแบบนี้

    ได้แต่อ่านประสบการณ์คนอื่น ไม่อยากรู้ของตัวเองบ้างเหรอ ไปบูชาได้นะที่วัดยังมีให้บูชาอยู่ แต่สำคัญอยู่ที่ศรัทธาคุณมีเพียงพอหรือเปล่า ส่วนตัวข้าพเจ้าเอง ก่อนนอนก็จะกำท่านออกมาดูแล้วก็ไหว้บูชาท่าน ตอนสวดมนต์เย็นก็จะกำท่านไว้ในมือแล้วก็สวดมนต์บูชาท่าน ตื่นเช้ามาพอได้สติปั๊บ ควานหาพระท่านมากำไว้ในมือไหว้บูชาท่านก่อนเลยทั้งๆที่นอนอยู่นั่นแหละ เวลาเดินไปเดินมานึกถึงท่านก็หยิบท่านขึ้นมากำในมือแล้วก็เพ่งมองดูพระพักต์ท่านให้ชื่นใจหายคิดถึง และที่สำคัญเวลาตอนเช้าก่อนออกจากห้องไปทำธุระต้องยกท่านขึ้นมากำไว้ในมือ มองท่านแล้วก็สวดมนต์บทเล็กขอพรให้ท่านคุ้มครองอันนี้ทำเป็นประจำเป็นปกติ

    เหตุเพราะอย่างนี้ไงถึงบอกว่าศรัทธาของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน แต่ถ้าเราบูชาพระท่านจริงๆรักพระท่านจริงๆ เราย่อมจะรู้เองว่า "สมเด็จพ่อองค์ปฐมนี้ ศักดิ์สิทธิ์ไม่มีประมาณได้จริงๆ อันนี้ไม่มีสิ่งใดมาเปรียบเทียบกับท่านได้อีกแล้ว แต่ส่วนใครยังไม่เชื่อหรือยังเคลือบแคลงสงสัยต้องหามากราบไหว้บูชาดูเอาเองนะจ๊ะ "เรารักพระท่าน พระท่านก็เมตตาเรา" สิ่งนี้เป็นความจริงที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 กันยายน 2016
  5. undfined

    undfined เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +240
    ตอนผมอาราธนาพระคำข้าวทีไร มีแต่คนเลี้ยงข้าวครับ หรือมีของฟรีให้กิน หรือบางทีจะมีเรื่องให้เสียเงินก็ไม่ต้องเสีย
     
  6. Gilenfire

    Gilenfire สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +15
    สวัสดีครับ ผมขอเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ผมเคยประสบมาบ้างนะครับ วัตถุมงคลอย่างแรกของหลวงพ่อฤาษีที่ผมได้มาคือลูกแก้วครับ ซึ่งก็จำไม่ได้ว่าได้มาได้อย่างไร แต่รู้สึกชอบมาก ผมแขวนขึ้นคอองค์เดียวเลยแต่ลูกแก้วองค์นี้มีน้องที่รู้จักกันเขาขอซึ่งตอนนั้นน้องคนนี้กับผมเรามีเหตุที่จะต้องแยกจากกันโดยไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับมาพบกันอีกหรือป่าว ผมเลยบอกน้องเขาว่าเขาอยากได้อะไรในตัวผม ผมก็จะให้เขาทุกอย่างตามที่เขาอยากได้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงกัน ผมเองมีวัตถุมงคลเยอะมาก มีของสะสมก็มาก ก็ไม่คิดว่าน้องเขาจะขอเอาลูกแก้วบนคอ พอน้องเขาขอลูกแก้วบนคอ ผมนี่ใจหายเลย แต่ด้วยว่าเราพูดไว้แล้ว ก็เลยถอดให้ไปทั้งสร้อยเลย แต่ผมก็อธิฐานว่าหากผมมีบุญก็ขอให้ได้ลูกแก้วของหลวงพ่อมาใหม่ ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้จะไปหาลูกแก้วของหลวงพ่อได้จากไหน ไม่รู้จักวัดของหลวงพ่อด้วยซ้ำ รู้แต่ว่าอยู่อุทัย และก็ไม่คิดว่าที่วัดจะยังมีลูกแก้งของหลวงพ่อให้บูชาอยู่ และคงไม่มีปัญญาไปถึงวัดของหลวงพ่อได้แน่ๆเพราะตอนนั้นผมทำงานอยู่ภาคใต้แล้วอายุก็แค่ 18-19 ปีเอง เลยได้แต่อธิฐานเอา ซึ่งหลังจากนั้นมาอีกหลายปี ผมก็ได้ลูกแก้วของหลวงพ่อมาใหม่ซึ่งก็จำไม่ได้เหมือนกันครับ ว่าได้มายังไง ผมก็แขวนขึ้นคอเลย แล้วมีวันนึงผมไปวิ่งออกกำลังกายลูกแก้วหลุดออกจากสร้อยตกหายไปตอนไหนไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ไม่เห็นลูกแก้วบนคอแล้ว ใจผมหายวาบเลย ถนนที่ผมวิ่งเป็นทางโล่งๆสองข้างถนนเป็นหินกรวดแล้วช่วงนั่นแสงแดดแรงมาก ช่วงประมาณ 3-4 โมงเย็น ผมไม่รู้ว่าลูกแก้วหลุดหายไปตอนไหน นานขนาดไหนก็ไม่รู้ เลยเดินกลับไปทางที่วิ่งมาเดินมองไปเรื่อยๆ ในใจคิดว่าคงไม่เจอแน่ ไม่รู้จะทำไงเลยอธิฐานถึงหลวงพ่อว่า ถ้าผมมีบุญที่จะได้บูชาลูกแก้วของหลวงพ่ออยู่ขอให้เจอ พออธิฐานเสร็จมองไป เห็นแสงอะไรไม่รู้มันแวบๆอยู่ข้างหน้า ประซัก 100 เมตรได้ แต่เห็นชัดมากครับ เหมือนแสงแดดกระทบกระจกอย่างนั้นเลยครับ เลยรีบวิ่งไปดูตรงจุดที่เห็นแสงแวบแบบมองไปตลอดไปให้คาดสายตาเลย แล้วก็เหลือเชื่อครับ เป็นลูกแก้วของหลวงพ่อจริงๆผมนี่ดีใจมากเลยครับ นี่เป็นประสบการณ์ความอัศจรรย์ที่ผมได้ประสบมาครับ ยังคงมีอีกครับเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อ เอาไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ
     
  7. Gilenfire

    Gilenfire สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +15
    สวัสดีครับ มาเล่าประสบการณ์วัตถุมงคลของหลวงพ่อฤาษีให้ฟังอีกเรื่องครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณต้นๆปี 59 นี้เองครับ เรื่องเกิดกับลูกชายผม อายุ 6 ขวบ คือ วันนึงผมไปรับลูกที่ รร. คุณครูบอกว่าให้หยุดเรียนไปอาทิตย์นึงเลยนะ เพราะมีเด็กห้องข้างๆกับห้องที่ลูกผมเรียนอยู่เป็นโรคมือเท้าปาก รร.เลยจะหยุดเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ ตอนนั้นผมก็รู้สึกระแวงๆว่าลูกผมจะติดหรือป่าวแบบมีความรู้สึกไม่สบายใจยังไงไม่รู้ครับ แต่ลูกผมก็ไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไรร่าเริงสดใสเหมือนเดิม แต่พอผ่านไป 2 วันลูกผมเริ่มมีไข้ ซึมนอนซมไม่เล่นไม่ร่าเริงเหมือนเคย ผมก็หายาลดไข้ให้กินโดยที่ยังไม่ได้พาลูกไปหาหมอ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นไข้แพ้อากาศปกติ แต่ต่อมาลูกผมเริ่มไม่อยากกินข้าว บอกเจ็บข้างในปาก ไข้ก็ไม่ลด ความที่ผมระแวงไว้แต่แรกอยู่แล้วก็เริ่มทำให้ผมคิดว่าน่าจะติดมาแน่ คงไม่ใช่ร้อนในแน่ๆเพราะมีไข้ด้วย แล้วถ้าเป็นแค่ร้อนในไม่น่าถึงขนาดงอแงกินข้าวไม่ได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งมันผิดปกติของลูกผมมาก คือ ผมเป็นคนเลี้ยงดูลูกมาเองตั้งแต่เขาเกิด ผมจะรู้เลยครับว่าเขาปกติหรือผิดปกติยังไง ผมเลยสอบถามกับลูกผมว่าได้ไปเล่นกับเด็กห้องข้างๆบ้างไหมเขาบอกไปเป็นประจำเพราะห้องข้างๆเปิดกาตูนแต่ห้องของเขาคุณครูชอบเปิดดูหนัง เขาอยากดูกาตูนเลยไปดูห้องข้างแทน และไปดูเป็นประจำ คือ ลูกผมเป็นเด็กอนุบาลนะครับ เมื่อถามได้ความอย่างนี้ผมยิ่งค่อนข้างมั่นใจว่าลูกผมติดมาแน่ๆ ไปค้นหาข้อมูลของโรคนี้จากกรูเกิ้ล ก็ว่าน่าจะเป็นอาการแรกเริ่มแล้ว ผมนึกถึงเหรียญของขวัญวันเกิดของหลวงพ่อฆาษีขึ้นมาทันที ตอนนั้นนึกถึงที่พึ่งคือหลวงพ่อฤาษีอย่างเดียว เลยจัดแจงเอาเหรียญของขวัญวันเกิดทำน้ำมันขอบารมีองค์พระพุทธเจ้าตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบัน และหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ช่วย อธิฐานไปน้ำตาก็ไหลไปด้วยความกลัวความห่วงลูกครับ เอาน้ำมนต์ให้ลูกกิน วันต่อมาก็พาลูกไปหาหมอ หมอบอกอาการน่าจะใช่ มีตุ่มขึ้นที่มือและเท้าด้วย แต่ขึ้นอยู่เพียงแค่ 3-4 ตุ่ม แล้วตุ่มก็ขึ้นกระจายกันไม่ได้ขึ้นเป็นผื่น ซึ่งจริงๆแล้วโรคนี้ตุ่มจะขึ้นติดๆกันเป็นผื่นที่มือที่เท้าและในช่องปาก โรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรงต้องรักษาตามอาการเท่านั้น หมอก็ให้ยาแก้ไข้จำพวกนี้กลับมากิน กำชับว่ายังไงก็ต้องให้เด็กกินข้าวให้ได้แล้วหมอก็นัดวันมาดูอาการอีกที พอมาวันนัดที่หมอนัดต่อมา หมอบอกตุ่มที่ขึ้นมันไม่ขึ้นมาเพิ่มอีก มันเหมือนหยุดอยู่แค่นั้น แต่อาการของลูกผมก็ยังไม่ได้หายนะครับยังเหมือนเดิม หมอก็ว่าแปลก หมอบอกหรืออาจจะไม่ใช่โรคมือเท้าปากก็ได้ แต่อาการลักษณะก็เหมือนจะใช่ เพียงแต่อาการมันหยุดอยู่แค่นั้นไม่เป็นเพิ่ม หมอก็นัดมาดูอาการเรื่อยๆ หลังจากนั้นลูกผมก็เริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆจนหายเป็นปกติ ทั้งผททั้งหมอก็แปลกใจเพราะตามปกติเด็กที่เป็นโรคนี้อาการเขาจะเป็นม่กขึ้นเรื่อย คือตุ่มที่ขึ้นนี้จะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นผื่นๆ แต่นี้อาการกับหยุดอยู่แค่นั้นแล้วค่อยๆหายไปจนเป็นปกติ หมอเลยว่าอาจจะไม่ใช่โรคมือเท้าปากก็ได้ แต่ผมคิดว่าใช่เพราะจากาภาพแวดล้อมเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น มีเด็กห้องข้างๆเป็นโรคนี้แล้วลูกผมเข้าไปเล่นกับเด็กที่ห้องนี้เป็นประจำ ที่สำคัญในวันที่ผมไปรับลูกก่อนที่ รร. จะปิด รร.เพื่อทำความสะอาดพื้นที่นั้น ตอนนั้นผมรู้สึกมีเหมือนลางสังหรณ์ว่าลูกผมจะเป็น คือ ตอนมองเห็นหน้าเขาผมเหมือนเห็นอะไรแปลกบางอย่าง แล้วความคิดว่าลูกผมติดโรคมือเท้าปากก็ผุดขึ้นมาเองเลย คือ ผมเป็นคนมักจะมีลางสังหรณ์อะไรๆแปลกๆและแม่นๆมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ อาจเพราะเป็นคนชอบสวดมนต์นั้งสมาธิมาแต่เด็กด้วย เลยเป็นคนมักมีลางอะไรแบบนี้บ่อยครับ ผมเลยมั่นใจว่าลูกผมต้องเป็นโรคมือเท้าปากแน่นอน และผมมั่นใจอีกว่าที่อาการของโรคมันไม่รุนแรงเพิ่มขึ้นทั้งๆที่ปกติแล้วน่าจะต้องมีอาการที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเหมือนๆกับที่คนอื่นๆเขาเป็นกันนั้น เป็นบารมีขององค์พระพุทธเจ้า บารมีของหลวงพ่อฤาษีลิงดำและอานุภาพของเหรียญของขวัญวันเกิดของหลวงพ่อที่ผมอธิฐานทำน้ำมนต์ให้ลูกผมกินแน่ๆครับ นี่ก็เป็นอีกประสบการณ์นึงที่ผมได้ประสบมาด้วยตัวเองครับ
     
  8. puniw

    puniw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    765
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,087
    เดี๋ยวนี้เกือบทุกคืน เวลาผมสวดคาถาเงินล้าน ๙ จบ พร้อมถวายเหรียญบาทลงในบาตรวิระทะโย(เรียกซะยิ่งใหญ่เลยทีเดียว อิอิ ความจริงคือตลับพลาสติคเล็กๆ ใส่ของกระจุกระจิกที่ผมเอาใส่เงินถวายสังฆทานหลังสวดคาถาเงินล้าน ๙ จบนั่นแหละ) ผมจะอาราธนาพระสมเด็จคำข้าว(รุ่น ๒) เอามาวางเป็นประธานในฝาที่ใส่เหรียญบาทเพื่อเตรียมถวายลงในบาตรวิระทะโยด้วย เพราะไหนๆ เราก็ต้องสวดมนต์บทคาถาเงินล้าน ๙ จบก่อนถวายเงินอยู่แล้ว จะได้เป็นการอาราธนาองค์พระมาสวดคาถาถวายเพิ่มพลังไปพร้อมกันเลยทีเดียว
    ผมทำแบบนี้ได้ใช่มั๊ยครับ ?
     
  9. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,261
    .....อาราธนาพระพุทธเจ้าท่านมาเป็นประธาน ทำถูกต้องแล้วค่ะ ขอแนะนำเพิ่มเติมว่า
    .....ตั้งใจ สวดถวายท่าน เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชาได้ด้วยเลย
    .....ตั้งใจว่า การสวดคาถานี้ เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์ของตนเอง
    .....นำเงินที่ใส่บาตร ไปทำบุญเป็นค่าอาหารพระ หรือเลี้ยงพระ
    เพียงเท่านี้ก็มีความคล่องตัวเป็นเบี้ยต่อไส้ และมีกินมีใช่ไม่ขาดแคลนค่ะ
     
  10. kao-pan

    kao-pan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +118
    เวลาทำบุญ สวดเฉพาะคาถาพระปัจเจกโพธิ์อย่างเดียวได้มั๊ยครับ
    ก่อนจะถวายเงินสังฆทาน ผมสวดเฉพาะคาถาพระปัจเจกโพธิ์อย่างเดียว (ตามรูป) 1-3 จบ แทนคาถาเงินล้านทั้งหมดได้มั๊ยครับ เพราะคาถาเงินล้านความจริงก็คือคาถาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์นั่นเอง แล้วจึงมาเติมบทนั้นบทนี้เพิ่มในภายหลัง ขอบคุณครับ

    Capture.PNG
     
  11. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,261
    สวดพระคาถาเงินล้าน ไม่จำเป็นต้องเฉพาะเวลาทำบุญค่ะ
    สามารถสวดภาวนาได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา
    จะภาวนาต่อจากการนั่งสมาธิก็ได้
    คือ สามารถภาวนาเป็นพระกรรมฐานได้

    ในส่วนของพระคาถานั้น
    อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ พระคาถาทุกอย่างดีหมด
    ขึ้นอยู่กับจิตของผู้ใช้ อย่างคุณ kao-pan มีความศรัทธาในพระคาถาบทนี้
    ก็ปฏิบัติไปตามที่ตนเองศรัทธา เป็นสิ่งที่ดีค่ะ

    ส่วนตัวของดิฉันเอง ใช้พระคาถาเงินล้าน ฉบับอัพเกรด หรือฉบับล่าสุด
    ที่มีการเติมคาถา สัมปจิตฉามิ ก่อน (เมื่อก่อนจะสวดเริ่มต้นที่ นาสังสิโม)
    ด้วยความที่เป็นคนกำลังใจไม่ค่อยจะดีค่ะ เลยชอบอะไรที่อัพเกรดไปเรื่อยๆ
    อย่าง สัมปจิตฉามี (ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นเรื่องของการ ปัดอุปสรรคออกไปก่อน)
    ดังนั้น จึงมีความเชื่อว่า ก่อนที่จะทำการใด แล้วมีการปัดอุปสรรคไป
    ก็น่าจะดี พระคาถาบางคาถา จริงๆแล้วเขาไม่ให้แปล
    แต่จะมีวงเล็บท้ายพระคาถาบอก

    อีกอย่างที่ใช้ฉบับเต็ม เพราะบางคาถาจะเป็นความเมตตาจากพระพุทธเจ้า
    ครูบาอาจารย์หลายท่านเลย ที่เมตตามาบอกเพิ่มเติม
    (ปกติเป็นพระคาถาเฉพาะ หลวงพ่อของเรานะคะ ท่านไม่ได้เปิดเผย
    แต่ต่อมา พระท่านอนุญาตให้นำมาเปิดเผยแก่ลูกหลานลูกศิษย์ได้)

    ซึ่งพระคาถาปัจเจกโพธิ์สัตว์คิดว่าเป็นของพระปัจเจกพุทธเจ้า
    เพียงส่วนเดียวเท่านั้น

    พระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ และครูบาอาจารย์อื่นๆมาบอกเพิ่มเติม เช่น
    นาสังสิโม เป็น คาถาพระพุทธกัสสป สัมมาสัมพุทธเจ้า
    มิเตพาหุหะติ มียักษ์ตนหนึ่งนำความจากท้าวเวสสุวรรณนำคาถามาบทหนึ่งเป็นของพระกัสปะสัมพุทธเจ้า มาบอก
    ดังนั้นจึงทำให้เปลี่ยนจาก คาถาพระปัจเจก เป็นพระคาถาเงินล้านในปัจจุบันนี้

    เป็นการภาวนาเพื่อบูชาคุณพระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์ท่านผู้มีพระคุณทุกท่าน
    ที่เมตตาต้องการให้ลูกศิษย์ลูกหลานของท่านค่ะ

    สรุปว่า ขึ้นอยู่กับความศรัทธา จะท่องแค่พระคาถาปัจเจกพุทธเจ้าเฉยๆก็ได้คะดีหมด
    หรือ กำลังใจไม่ดี ต้องการผลครอบคลุมทุกอย่าง (อย่างตัวข้าพเจ้า)
    และถวายเป็นปฏิบัติบูชาแก่เจ้าของพระคาถาทุกท่าน ก็จะใช้ พระคาถาเงินล้าน
     
  12. kao-pan

    kao-pan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +118
    ขอบคุณมากครับคุณพิชญากร :)
     
  13. บารมี 10

    บารมี 10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +1,072
    สวัสดีครับ วันนี้พอมีเวลามาเล่าประสบการณ์พระคำข้าวและพระธาตุชานหมากของหลวงพ่อวัดท่าซุง เพื่อเจริญศรัทธาญาติธรรมทุกท่านครับ

    ด้วยผมเองรับราชการทหารทำหน้าที่คุมพลทหารประจำโรงประกอบเลี้ยงให้นักศึกษาวิชาทหารที่มาฝึกภาคสนามในป่าซึ่งอยู่ติดกับเขา โดยเราจะกางเต้นท์โครงเหล็กทำเป็นโรงประกอบเลี้ยงและกองอำนวยการ ส่วนเต้นท์สนามของทหารใช้สำหรับนอนพัก

    ซึ่งเมื่อปลายเดือน กุมภา ที่ผ่านมาพยากรณ์อากาศได้แจ้งถึงเรื่องพายุฤดูร้อนจะผ่านเข้าภาคกลางแต่เมื่อถึงวันที่กรมอุตุแจ้งว่าจะมีพายุเข้าก็มีเพียงเมฆฝนกับลมแรงเท่านั้น พวกเราคิดว่าคงจะไม่มีฝนตกอีก ปรากฎว่าหลังจากวันที่กรมอุตุแจ้งประมาณ 2 วัน คือวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ.61 ช่วงเย็นก็มีเมฆฝนมา เวลา 17.00 น.โดยประมาณ

    พวกเราคิดว่าคงจะเป็นฝนตกธรรมดา กลายเป็นพายุฝนตกเม็ดเล็ก แต่ลมแรงมากขนาดที่ว่าหอบเต้นท์โครงเหล็กลอยขึ้นสูงแล้วตกลงพื้นอย่างแรง เต้นท์สนามที่เราใช้พักนอนสมอบกที่ตอกับพื้นไว้ถึงกับถอนออกจากพื้น บางเต้นท์ที่ขนาดเล็กก็โดนลมพัดตลบ

    นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่พบกับพายุฤดูร้อน เหมือนในหนังเลย แต่ของจริงระทึกใจกว่าเยอะ
    ต่างคนต่างช่วยกันจับเสาเต้นท์สนามไม่ให้ลมพัดหอบเอาเต้นท์ของเราไป ผมก็กลัวแต่ก็นึกในใจขอกับพระที่คล้องคอให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์นั้น

    โดยคิดถึงพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ หลวงปู่ปาน และหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นที่สุด ขอให้ลมสงบโดยเร็ว ก็ได้นึกภาพสมเด็จองค์ปฐมครอบพื้นที่สนามฝึกและท่องคาถาบารมี 30 ทัศ ต่อด้วย นะโมพุทธายะ ไม่นานนักลมฝนก็เบาลง คงมีแต่ฝนตกเกือบตลอดทั้งคืน

    สรุปแล้วไม่มีใครได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนั้นคงมีแต่เต้นท์ที่เสียหายจากต้นไม้ล้มทับเท่านั้น S__4440098.jpg S__4440100.jpg S__4440101.jpg S__4440102.jpg S__4440097.jpg
     
  14. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,261
    ........
    เรื่องภัยพิบัติ ลมฟ้าลมฝน ต้องยกให้ธงมหาพิชัยสงครามค่ะ
    สามารถอาราธนาได้ครอบคลุมภัยทุกอย่างเลย
    น้ำท่วมปี 54 รอบๆน้ำท่วม แต่ไม่ท่วมเข้ามาในหมู่บ้าน
    จำไม่ได้ว่า ธงนี้สามารถครอบคลุมได้กี่เมตร
    แต่ที่แน่ๆ คลุมทั้งหมู่บ้าน (เรามั่นใจ แต่เรื่องนี้พูดไปคนที่ไม่เชื่อก็จะว่าเอาได้)
    ถ้าคิดก็แปลกหมู่บ้านอยู่ติดคลอง ท่อน้ำปะปาก็ล้นดันขึ้นมาแล้ว
    เตรียมพร้อมเอากระสอบทรายมากั้นกันแล้ว แต่ไม่ท่วม

    แต่....ถ้าเราไม่ขอไม่อาราธนา ฝนตกครึ่งวันค่ะ ท่วมถนนทั้งหมู่บ้านเช่นกัน

    บ้านหลังเดิมอยู่ริมคลอง หน้าน้ำหลาก มันจะเซาะตลิ่งพังไปทุกที ที่ดินหดหาย
    แต่พอมีธงพิชัยสงครามของหลวงพ่อ คอยอาราธนาบอกท่านเวลาน้ำท่วมน้ำหลากมา
    น้ำเปลี่ยนทิศทาง ตลิ่งที่พังอยู่ๆก็เพิ่มขึ้นมา
    น่าอัศจรรย์ ไม่มีรูปให้ดูนะคะ เพราะบ้านหลังนี้ขายไปนานแล้ว
    และความอัศจรรย์ นี้ เรารู้อยู่ในใจเท่านั้น

    ของเหล่านี้เป็นปัจจัตตัง
     
  15. Jindamunee

    Jindamunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ผมเป็นผู้หนึ่งที่มีประสบการณ์การสวดคาถาเงินล้านมาตลอด โดยใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมานานจนไม่รู้ว่าจะกลับบ้านไปทำอะไร คือผมจะบอกว่าการสวดคาถาเงินล้านวันละ108 จบนี้มีจุดไหนเป็นที่ลงเอยของพลานุภาพ งานรึ??ลาภรึ??เงินรึ?? ไม่ใช่ทั้งหมดครับผมทำมาหมดแล้วและไม่โลภด้วยแถมใจทำไปเพื่อส่วนรวมมาตลอด สุดท้ายทุกอย่างมีตั้งอยู่-ดับไป ไม่ว่าเรื่องงานเรื่องคนที่รู้จักหรือแม้แต่เงินที่หามาได้

    บางท่านสวดเป็นพุทธบูชาอันนี้ขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง บางท่านสวดเพราะถือว่าเป็นเลิศที่สุด จุดนึงที่สวดแล้วควรนึกบ้างไม่ใช่เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องงานและไม่ใช่ธุระค้าขายโชคๆลาภๆใดๆ หากแต่สิ่งที่ควรคำนึงคือ"ชีวิตเรา"มองชีวิตอย่างมีสมาธินะครับแล้วนึกถึงความสุข อะไรก็ได้ที่ทำให้คุณยิ้ม อะไรก็ได้ที่มันเป็นคิดบวก ไม่ถือเป็นอกุศล ทำไปเรื่อยๆยามว่าง เรื่องทั้งหมดที่คุณอาจแค่มโนสมมุติเพลินๆหรือเรื่องจริงที่ผ่านมาแล้ว จะเป็นฝันกลางวันหรือวาดฝันกลางอากาศ ฯลฯมันล้วนไม่ผิดเพราะนั่นคือ"คิดบวก"ถ้าคุณจะคิดว่าคุณรวยก็อย่าลืมเห็นภาพความสุข อื่นๆในชีวิตนั้นด้วย ทั้งหมดนั้นให้คุณทำความเข้าใจว่าคุณกำลังเห็นตัว" ชีวิตเรา "

    แล้วจึงมีเจตนงว่าการสวดคาถาเงินล้านนั้นมาอุปถัมธ์ "ชีวิตเรา" คือเข้าใจอย่างนั้นไปเลยครับไม่ต้องไปทึ่การงานการเงินใดๆเลิกห่วงตรงนั้นซะ เพราะถ้าคิดอย่างนั้นแต่มันไม่ใช่ธุระอันสำคัญมันก็เป็นแค่ตัวตั้งอยู่ชั่วขณะแล้วดับไป ทุกอย่างที่เราจับทำไม่ว่าเราจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือไม่ก็ตามคุณจะไปห่วงหรือไปให้ความสำคัญกับมันโดยลืมคุณค่าชีวิตที่เหลือของคุณไม่ได้ครับ

    การสวดคาถาเงินล้าน 108 จบของผมจึงเปลี่ยนไปจากเดิมทีจิตใต้สำนึกนั่น"ห่วง"แต่เรื่องทำมาหากิน. แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ครับ
    คุณมีอะไรทำๆไปมีศีลมีมรรค ๘ ก็แสนสุดประเสริฐแล้ว อย่าห่วงว่าจะรวยจะจนซะเกินไป สังคมวัตถุนิยมสร้างความเชื่อเกินเหตุว่าเราต้องมีไอ้นั่นไอ้นี่ บ้างก็มีแล้วเอาไว้โชว์!!??.. ทุกๆอย่างเป็นมายาถูกสร้างให้เชื่ออย่างนั้น ขอให้ดึงสติกลับมาอย่างน้อยก็ให้รู้ว่าอย่าไปมัวหลงวังวนกับแนวคิดอย่างนั้นจนเกินไป(เป็นอาการหมกมุ่นจากกระแสสังคมรอบตัว) การสวดของผมจึงมีจิตใต้สำนึกใหม่หนุนไปกับชีวิตที่มีความสุข แทนการ"หวัง"ธุระการเงินอะไรๆที่มันมีค่าน้อยมากเมื่อเปรียบกับ"ชีวิตเรา" ถ้าคุณคิดอย่างนี้ได้แล้วความสุขบังเกิดการสวดคาถาเงินล้านของคุณจะลงตัวมาก มากจนรู้สึกว่าเป็นสิ่งมีค่า(จนปลื้มปิติมาก) มีค่าจนถวายเป็นพุทธบูชายังได้เลยครับ.
    **สิ่งที่นำมาลงนี้เป็นความรู้ที่ได้จากการเก็บตัวภาวนาจึงนำมาเผยแพร่เพราะเป็นสิ่งมีค่าที่ผมค้นพบ หากศัพท์แสงชวนสับสนต้องขออภัย
     
  16. พิชัยสงคราม

    พิชัยสงคราม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2021
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +10
    ประสบการณ์สดๆร้อนๆเมื่อช่วงประมาณวันจันทร์ที่ 18 เม.ย 2565 เกี่ยวกับผ้ายันต์พิชัยสงครามปัดเป่าลมพายุไม่ให้พัดเข้าบ้านครับ ยังไม่รวมกับประสบการณ์ด้านน้ำมันชาตรี(อานุภาพครอบจักรวาลจริงๆครับ)และทรายเสกของพ่อครับ(ป้องกันสัตว์มีพิษและสิ่งที่ลึกลับชงัดนักครับ)
     
  17. พิชัยสงคราม

    พิชัยสงคราม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2021
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +10
    ชุดที่แขวนติดตัวประจำ(ส่วนชุดน้ำมันชาตรีน้ำมนต์ก็อยู่ในกระเป๋าสะพาย)ผมเองเพิ่งจะมาเริ่มศรัทธาหลวงพ่อฤาษีฯเกือบๆปีครับ บูชาสะสมมาเอาไว้ติดตัวโดยตรงครับ ประสบการณ์ที่ล่าสุดคือแคล้วคลาดจากผนังอาคารถล่มในสนามบินดอนเมือง พายุฤดูร้อนพัดถล่มครับ วันที่ 18 เมษายน 2565 (แต่เห็นว่าหลังคาด้านล่างที่เศษผนังถล่มลงนั่นคือธนาคารกรุงไทยครับ รอดจากเศษผนังขนาดใหญ่หล่นใส่หัวหวุดหวิดแค่เสี้ยวนาที ในข่าวบอกไว้ว่าไม่มีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตถูกต้องครับ แต่ไม่มีลงบอกว่าคนที่เขารอดฉิวเฉียดไม่มีลงหรอกครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...