เรื่องเด่น ทะเลใจ / เวทนานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน (พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 14 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,121
    ค่าพลัง:
    +70,469
    8888-9.jpg

    เมื่ออาตมากำลังถวายพระพรอยู่นี่ ได้ใช้สายตามองไปในทะเล ที่กำลังมีคลื่นใหญ่ และบางขณะทะเลก็มีคลื่นเล็ก สภาพของคลื่นไม่สม่ำเสมอกัน ในที่สุดนั้นคลื่นของทะเลก็มากระทบฝั่ง กระทบแล้วแทนที่คลื่นจะหายไป น้ำกลับย้อนถอยหลัง กลับไปตั้งเป็นคลื่นใหม่เข้ามากระทบ อย่างนี้จิตของบุคคลเราเข้าไปกระทบกับคลื่นของอารมณ์ ถ้าคลื่นนั้นเป็นอิฏฐารมณ์ตามที่พระอาจารย์วันถวายพระพร เป็นคลื่นที่มีความพอใจที่เราเรียกว่า...กามคุณก็ดี จัดว่ามีอามิส หรือว่าเป็นคลื่นที่มีความพอใจในความสงบสงัดที่ปราศจากอามิส ก็ถือว่าจิตนั้นยังเป็นจิตที่ไม่ดียังมีความพอใจในคลื่น

    เพราะว่าคลื่นไม่มีเวลาหยุด กระทบกระแทกเป็นคลื่นเล็ก และคลื่นใหญ่อยู่ตลอดเวลา ถ้าหากว่าจะเป็นอาการทางร่างกายของคน ก็จะรู้สึกว่าร่างกายของคนนี้เต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย ก็มีกิจหาที่จุดจบมิได้ คลื่นที่กระทบฝั่งดูเหมือนว่าคลื่นจะหายไป แต่ว่าคลื่นและน้ำก็กลับกลายเป็นคลื่นใหม่ต่อไปอีก ก็กระเพื่อมขึ้นกระเพื่อมลง สูงบ้าง ต่ำบ้าง แล้วในที่สุดก็มากระทบฝั่ง มีสภาพคล้ายว่าจะหายไป แต่ทว่าก็ไม่หาย กลับไปเกิดขึ้นมาใหม่

    ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ก็จะเทียบได้กับจิตใจของบุคคล ที่ยังพอใจอยู่ในคลื่นของกิเลสไม่สามารถจะทำลายจิต ตัดกิเลสให้เป็นสมุจเฉทปหานได้ คือจะต้องมีสภาพเหมือนน้ำ ที่มีคลื่นกระทบฝั่ง ดูเหมือนว่าจะหายไป แต่การหายไปนั่นเป็นกายหาย แต่ใจ..คือกระแสน้ำจริงๆ ไม่หาย ทำให้กลับไปเกิด ไปเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารใหม่ กำลังใจของบุคคลที่ยังมีความพอใจในคลื่น คือ...โลกธรรม ก็เป็นกำลังใจที่คนมีความเหน็ดเหนื่อยหาจุดจบมิได้ ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ก็เหมือนกับคลื่นในทะเลฉันนั้น

    อาตมาขอถวายพระพรว่า องค์สมเด็จพระพิชิตมารตรัสไว้ในตอนท้ายว่า เมื่อความเกิดขึ้นหรือว่าความเสื่อมไปปรากฏแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วตรัสว่า

    “สติรู้ว่าเวทนามีอยู่ เข้าไปตั้งอยู่เฉพาะหน้าแก่เธอนั้น เพียงสักแต่ว่าเป็นที่รู้เท่านั้น เราไม่เกาะมันไว้ เพียงสักแต่ว่าเป็นที่อาศัยระลึก เธอย่อมไม่ติดอยู่ด้วยในอารมณ์นั้น คืออารมณ์ของโลกธรรม และย่อมไม่ยึดถืออะไรๆ ในโลกทั้งหมดด้วย ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นเวทนาเนืองๆ อย่างนี้”

    ถ้าจิตไม่เกาะในโลกธรรมทั้งหมด ตามที่องค์สมเด็จพระบรมสุคตตรัส ก็จัดว่าจิตของท่านผู้นั้นเข้าถึง “อธิโมกธรรม” คือว่าธรรมเป็นเครื่องพ้นจากความ เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    สำหรับในเวทนานุปัสสนามหาสติปัฏฐานนี้ไซร้ อาตมาขอถวายพระพรเพียงเท่านี้ ขอถวายพระพร

    อ้างอิง – คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๕๖ หน้า๙๙-๑๐๐ โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธาณี







    27972860_914003038759777_6693974190969109103_n.jpg

    ******************************************

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กุมภาพันธ์ 2018

แชร์หน้านี้

Loading...