วีดีโอ เบิกเส้นทางสู่ "มหาเศรษฐี" ด้วยสุดยอดเครื่องรางของขลังหายาก "เหล็กไหลเป็น"

== ตำนาน เหล็กไหล เงินยวง (มีชีวิต) ==
สามารถแสดงอิทธีฤิทธิ์และเคลื่อนไหวเองได้​

******** เปิดเส้นทางสู่อำนาจ และมหาเศรษฐี ผู้ที่สามารถครอบครอง เป็นเจ้าของเหล็กไหลในอดีตกาลนั้น จะเป็นบุคคลที่มีบารมีขั้นสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น เจ้าเมือง มหาเศรษฐี หรือแม้แต่นักรบผู้เก่งกล้า กล่าวได้ว่า เป็นหนึ่งในวัตถุที่ทรงอิทธิฤทธิ์ปาฎิหารย์ ที่สามารถดลบันดาลให้ผู้ครอบครองได้ทุกสิ่งที่ตนเองคาดหวังไว้ทุกประการ ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่บุคคลนั้น ได้สั่งสมมาตั้งแต่ครั้งปางก่อน โดย ธาตุศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้นำเสนอในที่นี้ เป็นเหล็กไหลชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อกันว่า เหล็กไหลเงินยวง หรือเหล็กไหลชีปะขาว ที่แต่ที่พิเศษกว่า เหล็กไหลที่เห็นๆกันอยู่ทั่วไปคือ ยังคงมี อิทธิฤทธิ์อานุภาพในตัวของ ให้ทุกท่านได้สัมผัสผ่านการมองด้วยตาตนเอง "สามารถเคลื่อไหวได้โดยพลังงานของตนเอง" ดังนั้นจึงอยากให้ทุกท่าน ร่วมกันพิสูจน์ ดังจะเห็นได้จากคลิปวีดีโอด้านล่างได้เลยครับ

​

เหล็กไหลเงินยวง หรือ เหล็กไหลชีปะขาว ( เหล็กไหลน้ำหนึ่ง)

เหล็กไหลเป็นสสารธาตุบริสุทธิ์ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นโลหะที่มีความมหัศจรรย์ แฝงความเร้นลับและมนต์ตราแตกต่างไปจากธาตุที่มีอยู่ทั้งปวงในผืนโลก เป็นแร่ธาตุที่ได้รับฉายาว่า ธาตุกายสิทธิ์คือเป็นโลหะธาตุ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ และมีพลานุภาพ เหนือแร่ธาตุทั่วไป จากตำนานเล่าขาน ของคนโบราณ จากตำราโหราศาสตร์ และจากบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับศาสตร์อันเร้นลับ หลายต่อหลายเล่ม ได้บันทึกเรื่องราวของเหล็กไหล เอาไว้ว่า แร่ธาตุที่เรารู้จักกันในนามของเหล็กไหล เป็นธาตุกายสิทธิ์ ถูกอัดแน่นด้วยฤทธานุภาพ ที่ได้รับการอธิฐานจิต จากผู้ทรงญาณขั้นสูงตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เป็นสุดยอดเครื่องรางที่แฝงด้วยมนต์ตรา และพลังที่ทรงอานุภาพอย่างยิ่ง สามารถป้องกันภัยอันตราจากธรรมชาติ ป้องกันภัยจากศาสตราวุธทุกชนิด หรือแม้แต่ภัยจากภูติผีปีศาจต่างๆ ถือเป็นเครื่องรางอมตะ ที่หาได้ยากยิ่ง เหล็กไหลเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และเป็นที่ต้องการของใครๆ อีกหลายคน เพราะมีความเชื่อว่าด้วยอานุภาพของเหล็กไหลนี้ สามารถคุ้มครองชีวิตของผู้เป็นเจ้าของ ให้แคล้วคลาดจากอุบัติภัยร้ายแรง รวมไปถึงศาสตราวุธได้อย่างน่าอัศจรรย์ เชื่อกันว่าเหล็กไหลนี้เป็นธาตุกายสิทธิ์ ที่มีอิทธิฤทธิ์พิเศษ โดยมีตำนานมาแต่ครั้งโบราณกาลว่า พระมหาฤาษี ผู้มี ฌาน (สมาธิระดับสูง) และ อภิญญา (ความสามารถพิเศษ) ขั้นสูง ที่มีชีวิตอยู่ในระหว่างยุคที่พระพุทธศาสนายังไม่ถือกำเนิด พระมหาฤาษี ผู้ได้ออกบำเพ็ญพรต (ถือศีล) พรหมจรรย์ (การออกบวชเว้นเมถุน-คือเว้นชีวิตคู่) ด้วยมุ่งหวัง “อมตะธรรม” ก็คือ ปรารถนาพระนิพพานที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ แต่ไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ จึงได้แต่เจริญสมาธิภาวนา จนได้ฌานและอภิญญาแก่กล้า จนเมื่อสิ้นอายุขัย ก็รู้ว่าตนเองนั้นยังไม่อาจพ้นความตายได้ และยังไม่เห็นทางที่จะถึงอมตะธรรม จึงปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ยั่งยืนที่สุด เพื่อรอการกำเนิดขึ้นของพระพุทธเจ้า และทราบถึงแนวทาปฏิบัติให้ได้บรรลุถึงอมตะธรรม จึงค้นหาวิธีสร้าง "วัตถุธาตุอันเป็นที่สถิตแห่งจิตวิญญาณของตน" ก่อนเบญจขันธ์ของตนจะสลายไป โดยได้ใช้อิทธีฤทธิ์ดึงเอาธาตุเหล่านี้ขึ้นมา และเพ่งกระแสจิตอันกล้าแกร่งของตนนั้น เข้าสถิตอยู่ในธาตุศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เพื่อฝึกฝนทางด้านญาณสมาบัติ ให้เพิ่มพูนยิ่งๆขึ้นไป จึงทำให้วัตถุที่แฝงด้วยเจตสิกของมหาฤษี ผู้ทรงญาณนั้น เกิดพลานุภาพอันมหาศาล สามารถลบล้างอาถรรพณ์และฤทธิ์เดชของหมู่มารทั้งปวง แม้แต่ พรหม เทพ และเทวดา ทุกชั้นฟ้าชั้นดิน ก็ยังต้องลงมาเฝ้าปกปักรักษากราบไหว้ บูชาสักการะอยู่เป็นประจำ ในกาลต่อมาเมื่อมนุษย์เราได้ค้นพบสิ่งเหล่านี้ และได้เห็นถึงอิทธิฤทธิ์ ความศักดิ์สิทธิ์ และปาฎิหาริย์ที่เกิดขึ้น เป็นที่ประจักษ์แก่สายตา จึงพากันเรียกว่าเหล็กไหล ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เหล็กไหลจึงเป็นที่รู้จักกันในหมู่คนทั่วไปมากขึ้น โดยมีความเชื่อกันว่า เหล็กไหล สามารถปกป้องผู้ที่ได้ครอบครองให้พ้นจากภัยอันตราในทุกๆรูปแบบต่างๆ ตามแต่บุญบารมีที่ได้ทำมา จึงขอให้ผู้ที่มีโอกาสได้ครอบครอง หมั่นสร้างบุญบารมี และประกอบแต่คุณงามความดีจนเป็นนิสัย ยึดมั่นในพรหมวิหาร 4 และพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง รวมถึงปฏิบัติตนอยู่ในทางสว่าง โอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ บำเพ็ญกุศลในด้าน การให้ การบริจาคทาน ช่วยเหลือเกื้อกูล รักษาศีล โอวาทและคำสั่งสอนของพระพุทธองค์หรืออริยสงฆ์ หรือผู้บำเพ็ญเพียรบารมี มีญาณบารมีของฤาษี เหล่าเทพ-พรหม จักให้ความคุ้มครองดูแลปกป้องรักษา และดลบัลดารให้บุคคลผู้นั้นทำการใดก็สามารถสำเร็จได้ดั่งปรารถนา พ้นจากกองทุกข์และภัยพิบัติทั้งปวง จะมีแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนค้ำชู ศาสตราวุธทุกชนิด ไม่อาจจะเข้ามากล้ำกรายได้ สัตว์ร้ายทุกชนิดจะถอยไกลไม่กล้าเข้าใกล้ ศัตรูทั้งหลายจะแพ้ภัยไปเอง อีกทั้งยังเป็นที่รักของหมู่เทพเทวดาและสัตว์โลกทั้งปวงอีกด้วย

สำหรับเหล็กไหลเงินยวง หรือ เหล็กไหลชีปะขาว ​

มีลักษณะเป็นโลหะ สีเงินขาว คล้ายกับปรอท มีความแวววาว และเป็นมันเลื่อมคล้ายเกล็ดงู เกจิอาจารย์บางท่านเรียกว่า “พญางูเผือก” มีฤาษีชั้นพรหมดูแลรักษาอยู่เป็นเหล็กไหลที่มีบารมีสูงสุด จะเรียกว่าดีที่สุดก็ว่าได้ เป็นเหล็กไหลที่มีบารมีสูงสุด จะเรียกว่าดีที่สุดก็ว่าได้ เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่ป้องกันได้คลอบจักวาร มักอยู่ตามที่ๆมีอากาศเย็นมาก ในแถบประเทศเนปาล ธิเบต ที่มีหิมะปกคลุมตลอด ส่วนในประเทศเราจะพบตามถ้ำทางภาคเหนือ และลึกเข้าไปในแคว้นเชียงตุงของพม่า เพราะเหล็กไหลชีปะขาวชอบอากาศหนาวจัด มีอานุภาพทางแคล้วคลาด ล่องหนหายตัวได้ชั่วคราว เพื่อป้องกันตนเองและผู้ที่ได้ครอบครอง ให้แคล้วคราดจากภัยอันตราย อีกทั้งยังช่วยปรับอุณหภูมิภายในร่างกาย และใช้ในการทำน้ำมนต์รักษาโลก ป้องกันภัยจากภูติผีปีศาจและสามารถป้องกันภัยจากคุณไสต่างๆได้ เป็นมหาอุต อยู่ยงคงกระพัน รวมถึงการเสริมดวง โชคลาภ บารมีให้กับผู้ครอบครองได้เป็อย่างดี

 

ครั้งหนึ่งที่ พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) ได้กล่าวถึงประสบการณ์ การพบเหล็กไหล​

 

ขออนุญาติ นำบันทึกประสบการณ์การพบเจอเหล็กไหล ของ พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) ซึ่งได้ ได้กล่าวเอาไว้ว่า " เหล็กไหลจริงๆนี้ จะมีขนาเท่าเมล็ดข้าวโพดใหญ่ๆ มีลักษณะการไหล อยู่ตลอด ทางท่านมีความพยายามในการเข้าตระครุบ แต่ไม่สามารถนำมาวางไว้บนมือได้ มีสัมผัสคล้ายกับสำลี หากตกพื้นก็จะหายไปในทันที "

เครดิต จากบันทึกประสบการณ์การพบเจอเหล็กไหล ของ พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)