เรื่องเด่น ประสบการณ์และผลที่ได้จากการนั่งสมาธิ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย แสงแห่งบารมี, 5 มีนาคม 2017.

  1. แสงแห่งบารมี

    แสงแห่งบารมี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    12
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +107
    entrevo-keypersonofinfluence-get-started-meditation.jpg

    ประสบการณ์การนั่งสมาธิ การปฏิบัติของผม เนื้อหาแบ่งเป็นหลายช่วง ตั้งแต่เริ่มต้น คนธรรมดา จนถึงมีฌานสมผัสโลกทิพย์ ช่วยเหลือคน ภาษาที่ใช้อาจมีไม่สุภาพ ไม่ถูกปรับแต่ง เพื่อให้เข้าใจอารมณ์ในช่วงนั้น เนื้อหาทั้งหมดอาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์เนื่องจากผ่านมานาน แต่เรื่องหลักทั้งหมดเกิดจากความจริงทั้งสิ้น การเล่าเรื่องเกิดขึ้นจากเทวดามาหาในสมาธิขอให้ข้าพเจ้าได้แบ่งปันเรื่องราวของตนเองขึ้น

    เริ่มต้น ผมเกิดในครอบครัวฐานะที่มีปัญหาทางครอบครัว ทะเลาะกันเกือบทุกวัน เรื่องปัญหาหนี้สินและการใช้เงิน ผมทำทุกวิถีทางที่เป็นทางโลกเพื่อที่อยากให้บ้านสงบสุข หาเงินมาให้ไม่กี่วันหมด ทุกครั้งที่ยุ่งกับการเงินพ่อ แม่ ทำให้ทะเลาะกับพ่อ แม่ ทั้งสิ้น ไม่มีความสุข ผู้ใหญ่ไม่ฟังลูกสักนิด โดนเสมอว่า เป็นเด็กเป็นเล็กจะไปรู้อะไร แต่แล้วผมได้เหมือนเห็นแสงสว่าง เมื่อเจอธรรมมะที่ว่า “นั่งสมาธิเกิดปัญญา” ในเมื่อผมหาทางออกทางโลกไม่ได้ พยายามทุกวิถีทางจนเหนื่อย บางทีปัญญาผมอาจไม่ถึง ผมลองไปก็ไม่มีอะไรเสียหาย ช่วงนั้นผมคงคิดประมาณแบบนี้ ผมจึงเริ่มปฏิบัติอย่างจริงจังขึ้น ผมดูลมหายใจ เมื่อย เหนื่อย ท้อ สารพัสความคิดโผล่ขึ้นมา ทำทำไม ทำไปแล้วได้ผลจริงหรอ ผมอ่านวิธีการนั่งสมาธิหลายๆที่จึงรู้ว่า การนั่งสมาธิต้องปล่อยวางก่อน ทำให้เป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป ช่วงนั้นใครมันละจะปล่อยวางได้ ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น ผมรู้แต่ว่า การที่เราจะประสบความสำเร็จด้านใดด้านหนึ่งได้ เราก็ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง ผมนึกถึงภาพที่แม่ต้องร้องให้ ที่ครอบครัวต้องลำบาก ผมบอกกับตัวเองว่าไม่มีอะไรจะเสีย ไม่มีอะไรให้ลำบากไปกว่าเห็นภาพนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบทุกวันที่เป็นอยู่ ผมพยายามทุกวัน วันแล้ววันเล่า ปล่อยวางให้ได้ นั่งสมาธิดูลมหายใจ เหนื่อย ท้อ ลำบาก ก็คิดถึงว่าวันหนึ่งเราต้องช่วยครอบครัวให้ได้ เห็นภาพที่แม่ร้องให้ ไม่มีอะไรที่ทุกข์ใจไปมากกว่านี้ ไม่มีอะไรที่เจ็บปวดเท่านี้ ผมยอมตายดีกว่าที่จะเห็นภาพเหล่านี้ซ้ำไปมา แล้วการเจ็บปวด เมื่อยแค่นี้จะทำอะไรผมได้ ผมบอกแบบนี้ทุกครั้งที่ท้อและหมดกำลังใจ ผมรู้เคล็ดลับว่าถ้าจะทำให้ได้ผล มีปัญญาที่แท้จริง ต้องปล่อยวาง เป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป วันแล้ววันเล่า ผ่านไป

    ระยะที่สอง การนั่งสมาธิ ผมเริ่มนั่งสมาธิทุกวัน เริ่มเกิดนิมิตรขึ้น ขนลุก เห็นแสงวงกลม ช่วงแรกๆผมเองก็อยากรู้ เป็นคนอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว แต่คำสอนของเหล่าพระอริยะ นักปฏิบัติบอกไม่ให้สนใจ ผมเองก็ไม่รู้จะสนใจทำไม ในเมื่อของพวกนี้ช่วยอะไรผมไม่ได้ ความอยากรู้ อยากเห็นที่มีก็หายไป ในตอนนั้นรู้เพียงต้องช่วยครอบครัวให้ได้ จนผมอ่านเจอ วิธีเบิกบุญ ผมประยุกต์และอธิษฐานประมาณว่า “ขออำนาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และพระแม่ธรณี หากข้าพเจ้าได้เคยสร้าง สะสมบุญ บารมีไว้ในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ บุญ บารมีทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้กระทำมา ขอให้ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้สร้างไว้ทั้งหมดจงส่งผลให้ข้าพเจ้าช่วยครอบครัวสำเร็จ มีทั้งทรัพย์ภายนอกและภายในมหาศาลด้วยเทอญ” ผมนั่งสมาธิบ่อยๆ ผมเริ่มรู้สึกมองในมุมมองที่แตกต่างออกจากเดิม วิธีการแก้ปัญหาในทางโลกผมเริ่มใช้วิธีอื่นที่แปลกออกไป ผมเริ่มเห็นจุดอ่อนของคน รู้ว่าควรทำแบบไหนให้ได้ผลดี ความเครียดที่มากเหมือนเมื่อก่อนเริ่มเบาบาง เริ่มรู้สึกสุขกับสมาธิ แต่ความอยากช่วยครอบครัวไม่ได้น้อยลงไป หลังจากที่ผมเบิกบุญ อธิษฐานในอุโบสถกับสมาธิช่วงที่ลึกที่สุดได้ไม่นาน ผมเริ่มรู้สึกเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน การนั่งสมาธิของผมสงบเร็วขึ้นมาก เข้าใจผู้คนมากขึ้น เริ่มมองมุมมองของคนอื่นๆด้วยมุมมองของคนนั้นๆ เมื่อก่อนจะมองมุมมองคนอื่นด้วยมุมมองตนเองทั้งสิ้น

    ระยะที่สาม ผลบุญเริ่มปรากฎขึ้น ผมเริ่มศึกษาธรรมมะ วิธีการช่วยเหลือคนของเหล่าพระอริยะ ผลของอภิญญา โลกทิพย์ต่างๆ ผมนั่งสมาธิให้ลึกที่สุด สงบที่สุด ผมเริ่มอธิษฐานในสิ่งที่อยากได้ในช่วงที่เป็นสมาธิที่สุด โดยเริ่มจาก “เมื่อใดก็ตามที่ผมได้พูดวิธีการแก้ปัญหาของใคร หรือแนะนำธรรมมะที่ตรงกับความเป็นจริงที่เกิดประโยชน์ขอให้ผู้คนที่ฟัง จงเชื่อและไปใช้ให้เกิดประโยชน์” ในช่วงนี้ผมเริ่มมีอภิญญา สัมผัสที่หก ผมเริ่มถามคำถามในฌานได้ ผมเป็นคนที่ทำอะไร ต้องรู้ลึก รู้จริง ลงมือทำอย่างจริงจัง ผมอ่านเจอว่าคนอื่นทำได้ ผมก็ต้องทำได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องหาเหตุผลว่าทำไม เมื่อรู้ว่าคนอื่นทำได้ พอช่วงที่สงบที่สุดในฌานผมก็ถาม คำถามขึ้นมาบ้าง คำตอบก็โผล่มาแบบมหัศจรรย์ ช่วงแรกๆ มีคิดไปเองบ้าง ตรงบ้าง เคล็ดลับอยู่ที่ ปล่อยวางอีกนั่นเอง เป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป ความรู้ทั้งหลายตัวดีเลยที่ขวางกั้นจิตใต้สำนึกที่ทรงพลังเวลาถามคำถามในฌาน ผมรู้ว่าอะไรดี อะไรเสีย อะไรเน่า แล้วผมจะยึดติดกับความรู้เหล่านั้นเวลาต้องการฌาน ช่วงถาม นั่งสมาธิทำไม เมื่อรู้แบบนั้นผมจึงฝึกจิตตัวเองให้คล่องในฌาน เวลาถามต้องปล่อยวางทุกเรื่อง เวลากำหนดดูเรื่องอะไรต้องมีสมาธิก่อน เท่านั้นไม่พอ ผมรอช่วงที่ผมนั่งสมาธิลึกที่สุด อธิษฐานว่า “เวลาถามคำถามในฌาน ขอให้ไม่ปรุงแต่ง ตรงความเป็นจริงทุกประการ” อธิษฐานบ่อยๆ ให้รู้ไปว่าผมจะแพ้จิตที่ฟุ้งซ่านและปรุงแต่งเหล่านั้น เมื่อผมฝึกจนชำนาญ ก็ถึงเวลาทำตามความฝัน ผมสามารถกำหนดดูในสิ่งที่สมองไม่มีความรู้ ข้อมูล ผมก็หาคำตอบได้ เช่น คนนี้คิดกับผมยังไง คนนี้จะไปไหน เป็นต้น ในตอนนี้ผมลองกับคนอื่นตรงทั้งหมด ผมจึงพร้อมที่จะลองกับพ่อแม่ ผมแนะนำพ่อ แม่ ทัก พ่อแม่ทุกๆเรื่อง คิดอะไร พรุ่งนี้เจออะไร แรกๆพ่อแม่ก็ไม่เชื่อ พอเจอความจริงหลายๆครั้ง แบบผมรู้ได้ยังไงมากขึ้นทุกๆวัน ก็ถึงเวลาที่ผมจะเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของพ่อ แม่ได้ (ในตอนนี้หากถามผมว่า เป็นเพราะผมอธิษฐานหรือผมได้อภิญญากันแน่ถึงสำเร็จ คำตอบที่ถูกต้อง คือ ทั้งสองอย่าง หากคุณอธิษฐานด้วยผลบุญที่มหาศาลบ่อยๆและคุณกระทำในความเป็นจริงในการแก้ปัญหาอย่างสม่ำเสมอด้วยอิทธิบาท 4 และอริยสัจ 4 [อริยสัจ 4 ใช้สำหรับแก้ปัญหาได้ดีนัก ปัญหาทางโลกทุกอย่าง ไม่แค่ในเส้นทางแห่งการดับทุกข์อย่างเดียว] ต่อให้คุณไม่มีอภิญญา ผมก็เชื่อว่าคุณก็ทำสำเร็จได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับบุญแต่ละคนไม่เหมือนกัน) ผมจึงเริ่มพาพ่อแม่ไปทำบุญ แน่นอนช่วงแรกยากอย่างมหาศาล แต่ผมเองก็รู้จุดอ่อน รู้ว่าควรพูดยังไง โน้มน้าวยังไง ปัญญาที่ได้จากสมาธิ ทำให้ทำทุกอย่างได้ตรงจุดเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ บางทีการพูดทางโลกถึงแม้ตรงจุดก็ยากสำเร็จผมรู้ข้อนี้ดีสำหรับบางคนที่ไม่เปิดทางให้ ผมจึงอธิษฐานไว้ก่อน “ขอให้ข้าพเจ้าได้พาพ่อแม่ไปทำบุญสำเร็จ ขอให้พ่อแม่ข้าพเจ้าได้สร้างบุญ บารมียิ่งๆขึ้นไป รอดพ้นจากทุกข์ที่เป็นอยู่” อธิษฐานช่วงที่สมาธิลึกที่สุดหรืออธิษฐานในอุโบสถบ่อยๆ พอถึงเวลาจริงการชวนพ่อแม่ทำบุญ บลาๆ ไม่ยากอย่างที่คิด

    ระยะที่สี่ “กรรม” ผมไม่เคยเชื่อว่า กรรมจะมีผลมาก หากเรามีความพยายามมากพอ ย่อมเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ มีแต่คนขี้เกียจเท่านั้นแหละที่โทษกรรมแล้วไม่ยอมทำอะไร แต่แล้ววันนี้ผมต้องมองในมุมมองใหม่ ถึงช่วงเวลาที่ผมไปยุ่งกับการเงินของพ่อแม่ พ่อแม่ผมนั้นมีเงินเรียกว่าเยอะ แต่กลับมีรายจ่ายที่เยอะเช่นกัน เงินที่อยู่ในกระเป๋า ของพ่อแม่ เมื่อมีแปปเดียวก็หมด เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยไป ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร คือบางอย่างรายจ่ายไม่จำเป็น แต่พอมีเหมือนโดนอีการุมแปปเดียวหมด ผมพยายามให้พ่อแม่ประหยัดเท่าไรก็ไม่เป็นผล พยายามอธิษฐานด้วยสมาธิที่ลึกที่สุดก็มีผลไม่กี่วันรอบนี้ดูเหมือนผมจะยอมแพ้ แต่ไม่มีวัน ถ้าผมยอมแพ้ พ่อแม่ก็เป็นแบบนี้ ถ้าผมพยายามแล้วประสบความสำเร็จ พ่อแม่ก็มีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าถามว่าไม่สำเร็จเหนื่อยฟรีดิ ความเหนื่อยมันเป็นเพียงอุปทานเท่านั้น ผมเริ่มงงว่าทำไมคราวนี้ไม่เป็นผล แต่แล้วก็เหมือนปาฏิหาริย์ (ผมเริ่มเข้าใจ การอธิษฐานในช่วงที่สมาธิลึกที่สุด จะดลจิตดลใจเรา ตัวเรา หรือผู้อื่น เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เราอธิษฐานไว้ หากบารมีไม่ถึงพร้อมก็จะได้ใกล้เคียง หรือทางสร้างบารมีเพื่อให้ได้สิ่งนั้น) ผมได้เจอกับหนังสือกฎแห่งกรรมของเหล่าพระอริยะ นักปฏิบัติที่มีฌาน เปิดกรรมให้กับคนที่มาหา ผมจึงแปลกใจกับความเชื่อทั้งหมดที่ผมเคยมีมามันขัดแย้งกัน แต่เนื่องด้วยผมอธิษฐานด้วยฌานในสมาธิที่ลึกที่สุดแน่นอนย่อมทรงพลังมากกว่าความเชื่อที่เป็นตัวตนผมในปัจจุบัน ผมจึงมีความรู้สึกสนใจถึงแม้จะขัดแย้ง แต่ก็อยากรู้ว่าเป็นยังไง ผมจึงนั่งสมาธิปล่อยวางให้ลึกที่สุด ดูว่า ทำไมพ่อแม่ถึงเป็นแบบนี้ เมื่อถึงช่วงเวลาที่ผมเป็นสมาธิลึกที่สุด เริ่มปราศจากตัวตน ความยึดติด ความคิดทั้งปวงเริ่มหายไป ผมก็อธิษฐาน “ขออำนาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นกรรมที่พ่อแม่ทำไว้เรื่อง .... ทำไมพ่อแม่ผมถึงเป็นแบบนี้” ผมได้เห็นภาพ พ่อแม่ผมเป็นเหมือนเกี่ยวข้องกับพวกมาเฟีย เก็บเงินค่าคุ้มครอง รายได้ที่คุณอื่นลำบากทำแทบเป็นแทบตายในสัมมาอาชีพ ถูกพ่อแม่ข้าพเจ้านำไปใช้ เคราะห์ดีที่พ่อแม่ เก็บเฉพาะผู้ที่มีเงิน ไม่มีเงินก็ค่อยๆจ่าย ไม่รีดไถ ไม่ทุบตีผู้คนอื่น ผมจึงเข้าใจอย่างถ่องแท้ หลายๆครั้ง ผู้คนในชีวิตหากเจอเคราะห์กรรมที่ตนเองทำไว้ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็ทุกข์ใจไม่ต่างกับผู้คนที่ถูกกระทำ หากไม่เจอกับตัวผมไม่มีทางเชื่อ เพราะพ่อแม่นั่นแหละที่ไม่ยอมประหยัด ผมโทษแบบนี้มาเสมออยู่หลายปี มาวันนี้ผมแทบทรุด ความคิด ความอ่านที่ผมมีมาทั้งหมด มันเกิดอะไรขึ้น ผมต้องมาเชื่อกรรมแล้วงอมืองอตืนปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างงั้นหรือ ไม่มีทาง ผมเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ ผมจึงศึกษาวิธีบรรเทากรรมของเหล่านักปฏิบัติที่ตรวจกรรม ผมจึงประยุกต์และอธิษฐานผลบุญที่ได้จากสมาธิ หากพ่อแม่ข้าพเจ้าได้สร้างกรรมกับพวกท่านเหล่านี้ไว้ เรื่อง ..... ขอให้ผลบุญนี้จงส่งผลเป็นขอขมากรรม ขออโหสิกรรม ขอให้ท่านเหล่านั้นจงมีความสุข ความเจริญยิ่งๆขึ้นไป พอเวลาผ่านไป ทุกอย่างดีขึ้นจากเดิมเหมือนปาฏิหาริย์ที่ผล 100% ผมเห็นน้อยลงกว่าเดิม สมมติทุกข์ใจ อาทิตย์ ละ 4 วัน เป็น เดือน ละ 2-5 วัน เป็นต้น ถึงแม้ผมช่วยพ่อแม่ได้ไม่หมด แต่ทุกอย่างก็ดีขึ้นทุกวัน ทุกเดือนเรื่อยๆ (คนเราเมื่อมีความพยายาม ต่อให้ไม่บรรเทากรรมเมื่อผลกรรมหมดก็ย่อมหลุดไปในสักวันหนึ่งอยู่ดี) ทุกวันนี้พ่อแม่ถวายสังฆทานเดือนละครั้ง ทะเลาะทุกข์ใจประมาณ เดือนละ ครั้งหรือสองครั้ง จากเมื่อก่อนวันเว้นวัน ไม่เห็นแม่ร้องให้อีก นับว่าเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าภูมิใจอย่างยิ่ง

    ระยะที่ห้า ตลอดระยะเวลาทั้งหมด ผมนั่งสมาธิสม่ำเสมอ ปล่อยวางให้เป็นธรรมชาติ ดูลมหายใจธรรมดา ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป อาการต่างๆที่ช่วงนั่งสมาธิไม่สนใจ สนแค่ดูลมหายใจ รู้แต่ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก พักหลังมานี้ข้าพเจ้าเริ่มรู้สึกแปลกๆ ฝันถึงเจ้าที่มาขอบุญบ้าง แรกๆก็คิดไปเอง พอบ่อยครั้งขึ้นจนเข้าใจเรื่องโลกทิพย์ ได้ยินเสียงเทวดาเวลาที่ไปไหว้ศาลต่างๆ หรือเทวดาที่เฝ้าพระประธานในอุโบสถ บางทีท่านก็แนะนำวิธีมาเพื่อให้ได้ในสิ่งที่อธิษฐาน ให้ทำแบบนี้สิ เป็นต้น ข้าพเจ้าเริ่มมองโลกด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไป เหมือนข้าพเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ รู้สึกสดชื่นตลอดเวลา เริ่มเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริง เริ่มมองเห็นทุกอย่างเป็นพลังงาน ทุกอย่างเชื่อมกัน ผลักกัน ตามกฎแห่งแรงดึงดูด และกฎแห่งกรรมคือทั้งหมดทั้งมวลที่เป็นไป ช่วงที่ออกจากสมาธิ แผ่เมตตาให้ตนเอง หลังจากนั้นใช้ บทนำส่งบุญให้ไพศาล คลิก ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ให้คนที่รับบุญ วิญญาณ เทพเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่รับบุญไปได้สร้างบารมียิ่งๆขึ้นไป ช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ โลก ให้น่าอยู่และดียิ่งๆขึ้นไป อยากรู้อะไรก็ได้รู้ อธิษฐานในฌานสมาธิได้คำตอบหมด ศึกษาเรื่องเทวดาการให้พร ก็รู้ว่า มนุษย์ทุกคนที่ขอพรกับเทวดาทั้งหลายนั้น เทวดาทำได้เพียงเร่งบุญ บารมีให้เท่านั้น ทุกอย่างเป็นไปตามกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น เทวดาเร่งบุญให้ส่งผลก่อน เลื่อนระยะเวลากรรมได้ สิ่งที่เทวดาทำได้ นักปฏิบัติอธิษฐานด้วยกำลังของฌานก็ได้เหมือนกัน หลายคนขอเทวดาแล้วได้อะไรปาฏิหาริย์เยอะๆ นั่นเพราะคุณได้สะสม บุญ บารมีไว้ หากคิดว่า ถ้าเทวดาไม่ช่วย คนอื่นก็มาช่วย ไม่ตอบแทนบุญคุณ เวลาที่คุณทำความดีช่วยเหลือคนอื่นคุณก็ได้รับผลกรรมเหมือนที่คุณทำกับเทวดาแค่นั้นเอง วิธีตอบแทนบุญคุณเทวดา ส่วนใหญ่เทวดาชอบบุญ ถวายสังฆทานส่งบุญให้ท่าน ใช้บทส่ง บุญไพศาล ครอบคลุมหมด ทุกอย่างเป็นไปตามกฎแห่งกรรมทั้งสิ้นไม่มีผิดเพี้ยน เมื่อคุณมีฌานคุณจะมองย้อนหลังทุกอย่างได้หมด เหมือนเทวดาที่เห็นทุกการกระทำของมนุษย์

    ความจริงส่วนแฟนตาซีและซุปเปอร์ไซย่าถูกตัดทิ้ง เก็บไว้สร้างหนังนะครับ ^_^ เรื่องโลกทิพย์มีอะไรมากมายให้หลง หากคุณท่องโลกทิพย์ด้วยความโลภ ความอยาก ความที่คุณไม่ปล่อยวาง เป็นธรรมชาติ วันหนึ่งคุณอาจฟุ้งซ่าน จินตนาการขึ้นมาเองทั้งหมดและเป็นบ้าในที่สุด ถ้าหากอยากยุ่งกับโลกทิพย์คุณต้องอธิษฐานหรือสะสมบุญ บารมีไว้เยอะ มีครูบาอาจารย์ เป็นเทวดา พระอริยะทั้งหลาย ไปกราบไหว้ท่าน อธิษฐานให้ท่านคุ้มครองในการปฏิบัติ การนั่งสมาธิ

    คนที่ประสบความสำเร็จ เห็นวิกฤต ปัญหาเป็นโอกาส ไม่โทษนู้น โทษนี่ ไม่โทษผู้อื่น โทษแต่ตนเอง เพราะตนเองพยายามไม่มากพอ ขี้เกียจ ใช้ผิดวิธี ความรู้ไม่ถึง เป็นต้น พัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ พยายามลงมือกระทำอย่างเต็มที่ รู้ลึก รู้จริง ศึกษาให้เข้าใจถึงต้นเหตุปัญหาอย่างถ่องแท้ มองโลก มองผู้อื่นให้หลายๆมุมมองที่ไม่ใช่แค่มุมมองของตนเองเป็นใหญ่เพียงอย่างเดียว

    ข้อแนะนำในการนั่งสมาธิ - บทส่งบุญไพศาล คลิก

    เจาะลึก การสร้างบารมีแบบง่ายๆ คลิก
    เจาะลึก ชีวิต, กรรม, ฝืนดวงชตา, บรรเทากรรม คลิก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2017
  2. แสงแห่งบารมี

    แสงแห่งบารมี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    12
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +107
    เคล็ดลับการนั่งสมาธิของผม ควรทำสังฆทานที่วัด พอถวายสังฆทานเสร็จให้เบิกบุญก่อน https://www.dropbox.com/s/i7d6s3ne9dlab7s/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99.pdf?dl=0
    หลังจากนั้นอ่านหน้า 2 3 ให้หมดที่พระประธานในอุโบสถ
    คุณจะได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เบิกบุญของเก่าการนั่งสมาธิในอดีตชาติ หากคุณมีบุญเยอะสามารถไปได้เร็วมาก

    จำไว้นะ ผมสอนมาหลายคนละ แพ้เพราะอยากไม่ได้ดั่งใจ เครียด อยากสงบ อยากมีสมาธิ ชอบคิดแล้วไปเครียด แบบไม่สงบสักที บังคับดูลมหายใจ คุณอยากเท่าไร อยากได้ อาจใช้ความอยากผลักดันให้คุณต้องนั่งสมาธิทุกวัน บ่อยๆ แต่ตอนนั่งต้องปล่อยวางทั้งหมด สิ่งที่ถูกต้อง คือ ปล่อยวาง ธรรมชาติ ดูลมหายใจ เข้าออก ความคิดโผล่ขึ้นมา รู้ว่าคิด เครียดรู้ว่าเครียด ไม่สงบรู้ไม่สงบ ไม่สนใจทั้งนั้น สนใจแค่ลมหายใจ แรกๆจะต้องมีความตั้งมั่นสูงมาก เพราะอาจต้องกลับมาลมหายใจหลายร้อยครั้ง หลายพันครั้ง แต่อย่าไปหงุดหงิด อย่าไปเครียด สนใจแค่ลมหายใจ ปล่อยวางทุกอย่าง ทุกเรื่อง รู้แค่ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก รู้แค่นั้น มีแค่นี้

    ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ ดูลมหายใจ คิดเรื่องแม่ ดูลมหายใจ คิดเรื่องงาน ดูลมหายใจ คิดเรื่องน้อง ดูลมหายใจ คิดเรื่องแม่ (เริ่มสะสมความเครียดไม่สงบสักที) ดูลมหายใจ คิดเรื่องงาน (เริ่มเครียดหนักจิตสะสมความเครียดของก่อนหน้านี้อีก) คราวนี้บังคับจิตตัวเองดูลมหายใจ คิดเรื่องงานอีก คราวนี้ไม่ไหวละฟุ้งซ่าน

    กว่าจิตจะสงบเป็นสมาธิได้ต้องคิดเรื่องอื่นอยู่แล้ว แต่ผู้ที่ชำนาญจะวางเฉยแล้วกลับมาดูลมหายใจเรื่อยๆ ด้วยสภาวะธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป พอจิตไม่ไปกังวลกับความคิดหรือสนใจความคิดที่โผล่ขึ้นมา วางเฉยกลับมาดูลมหายใจใหม่เรื่อยๆ ไม่นานก็เป็นสมาธิ ความคิดจะเริ่มหายน้อยลงจนถึงหายไปโดยอัตโนมัติตามกำลังของสมาธิ ห้ามบังคับจิต ห้ามฝืนจิต กำหนดเบาๆ ดูลมหายใจ ท่องไว้ ธรรมชาติ ธรรมชาติ ธรรมชาติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2017
  3. Ratree0424

    Ratree0424 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2014
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +158
    อนุโมทนาสาธุค่ะ.
     
  4. หญิงนิด

    หญิงนิด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +197
    สาธุค่ะ
     
  5. picko

    picko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2014
    โพสต์:
    635
    กระทู้เรื่องเด่น:
    97
    ค่าพลัง:
    +2,133
    เป็นประโยชน์สำหรับผู้เริ่มต้นมากๆค่ะ จะนำไปปฏิบัติค่ะ อนุโมทนาในทุกการปฏิบัตินะคะ สาธุๆๆค่ะ
     
  6. ลูกหยี22

    ลูกหยี22 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +13
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  7. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,261
    ใช่ค่ะ เรื่องกรรม ถึงเราจะทำบุญแค่ไหน ถ้าวาระนั้น อกุศลกรรมเข้าแทรกหรือมันถึงวาระของอกุศลกรรมให้ผลแล้วล่ะก็ อะไรๆก็ไม่สามารถฝืนได้ คือ สำหรับคนบุญอาจจะช่วยได้แบบบรรเทาเบาบางลง แต่หยุดอกุศกรรมไม่ได้
     
  8. น้ำครึ่งแก้ว

    น้ำครึ่งแก้ว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +20
    รัก....ในความพยายามของคุณ
    ชื่นชม....ในความกตัญญูของคุณ
    ขอบคุณ..... สำหรับการแบ่งปันของคุณ
    ขอให้เจริญในธรรม และ ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งนะคะ
     
  9. gednana

    gednana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +75
    สาธุ ได้กำลังใจมากมาย สำหรับคนขี้เกียจ หย่อนยาน ผัดวัน
     
  10. aneka9119

    aneka9119 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +47
    โมทนาสาธุครับ.. ได้อุบายและกำลังใจ ดีเยี่ยมเลย
     
  11. nathat_phapakornwijit

    nathat_phapakornwijit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +10
    สาธุ
     
  12. Wasan Lorprasert

    Wasan Lorprasert สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +6
    จริงครับดังที่กล่าวมา สาธุๆ
     
  13. มณีเมขลา20

    มณีเมขลา20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +446
    ขอบคุณนะคะ ขอร่วมอนุโมทนาสาธุ กับท่านด้วยนะคะ
     
  14. nangkeaw

    nangkeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +396
    ขออนุโมทนาบุญที่คุณช่วยแนะนำและบอกเล่าประสบการณ์ที่แท้จริงให้ผู้อื่นได้รับรู้ค่ะ สิ่งที่คุณบอกเล่าและสอนมานั้นเป็นประโยชน์มหาศาลมากค่ะ
     
  15. Wasan Lorprasert

    Wasan Lorprasert สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +6
    อ๋อ ครับขอบคุณครับ ในเวลากลางคืนครั้งนั้นผมตามลมหายใจกำหนดรู้อยู่ตลอดคืน ผลปรากฏว่าจิตได้หลุดเข้าไป โดยรอบๆข้างล้วนเป็นสีขาวทั้งหมด ที่สำคัญคือเมื่อถามปัญหาไป จะมีคำตอบออกมาเป็นตัวหนังสือตัวใหญ่มาก ในนั้นผมได้เข้าไปแค่พริบตาเดียวเท่านั้น ก็ได้ออกจากสมาธิ ในขณะเช้าก็เหมือนอิ่มเอมด้วยกำลังที่เกิดจากปิติครับ ไม่หิว ทรงอยู่ทั้งวัน ซึ่งเหมือนกันกับผู้เขียนที่โพสไว้ จึงเป็นที่มาของคำว่า "จริงครับดังที่กล่าวมาทุกประการ" สาธุๆ
     
  16. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    อนุโมทนาสาธุ ขอรับ
     
  17. charus

    charus Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +107
    การเบิกบุญมาใช้ให้เกิดสมาธิอธิฐานอย่างไรครับ
     
  18. mongkolkk

    mongkolkk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +64
    อนุโมทนาครับ
     
  19. เพียรละ

    เพียรละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +148
    ขอบคุณครับ ขออนุโมทนาบุญครับ
     
  20. Robben

    Robben สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...