กายหยาบ vs กายทิพย์(ผี เทวดวา พรม อื่นๆ) VS กับจิตที่นิพพาน ต่างกันอย่างไรครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย somkiatfem, 20 ตุลาคม 2016.

  1. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    คุณ nee ครับ ตั่งสตินะครับ ในห้องนี้ผมตั่งคำถาม เพื่อต้องการความรู้ เพิ่มเติมยังไม่ดีพอครับ

    สำหรับคุณ nee คุณเเสดงความชัดเจนมากนะครับ
    คุณอาจจะเเกล้งทำก็ได้นะครับ เพราะคุณนั้นผมมั่นใจว่ามีความรู้มากกว่าคนทั่วไป คุณอาจจะมาเป็นอาจารย์ทดสอบจิตของคนในห้องนี้ก็เป็นได้ อย่างไรก็เเล้วเเต่อย่างที่คุณบอกเเหละครับ ตั่วใครตัวมันครับ โชคดีมีชัยสักวันพบกันที่นิพพาน ครับ

    กราบขอบพระคุณจากใจ สาบานให้ตาย คุณเเละอีก 2-3 คนทำให้ผมรู้สึกถึงอารมณ์วางเฉยได้ชัดเจนกว่าใครๆ อันนี้ผมไม่ลืมบุญคุณจริงๆครับ เเละผมก็ได้นำไปใช้กับบางสิ่งในชีวิตได้บ้างครับ ขอบพระคุณอีกครั้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2016
  2. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  3. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  4. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  5. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    เออ ผมเเมร่ง บ้าไปเเล้ว ไปคุยกับคนบ้าอยู่ตั่งนาน 5555 เพิ่งรู้ตัว น่าอายจริงๆ :'(
     
  6. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    กายหยาบสร้างสติทางธรรมได้
    กายทิพย์สร้างสติทางธรรมไม่ได้ มีแค่ไหนแค่ไหนครับ

    กายหยาบไม่มีธาตุดิน คือธาตุที่มีน้ำหนัก
    จับต้องได้ กดแล้วยุบ มีการคืนตัว
    กายทิพย์ไม่มีธาตุดิน แต่สามารถสร้างให้จับต้องได้คล้ายกายหยาบ
    ขึ้นอยู่กับบารมีครับ เช่นถ้าไม่มาก สามารถจับได้แต่ทะลุได้
    ถ้าบารมีมากก็จะคล้ายๆเหมือนมนุษย์ปกติทั่วไปครับ.

    กายทิพย์สามารถมองเห็นว่ามีสีต่างๆได้ ตามแต่บารมีที่ได้สะสม
    เช่น สีเขียวรักษาโรคได้ สีขาวทางธรรม สีแดงเน้นฤิทธิ์ สีทองเน้น
    พลังงานบริสุทธิ์ภายนอก สีน้ำเงินเด่นสมาธิ สีม่วงกำลังจิต
    สีดำเทาๆถือว่าไม่ดี ไม่มีสีเลยคือไม่มีกิเลส
    กายเนื้อ สามารถมองเห็นเป็นออร่า ที่ออกจากจิตได้ ลักษณะต่างๆ
    ของสีที่บอกคลายกายทิพย์ครับ...

    การทิพย์มีความเป็นทิพย์โดยธรรมชาติ
    กายหยาบมีความเป็นทิพย์ได้ภายหลังเหตุและปัจจัย
    เพราะฉนั้นต่อให้กายหยาบเก่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางสู้
    กายทิยพ์ได้ครับ แม้ว่ากายหยาบมีฤิทธิ์ทำได้จริงๆ
    แต่จะแพ้กันตรงที่ความเร็วครับ เรียกว่า แม้กายหยาบ
    จะเร็วซัก ๑ส่วน๑๐๐๐ วินาที แต่ยังไงก็ช้ากว่ากายทิพย์อยู่ดีครับ

    กายทิพย์เปลี่ยนรูปร่างเป็นอะไรก็ได้ตามสัญญาที่อยู่ในจิต
    หรือฝั่งในจิตของกายหยาบ จะเป็นเทพองค์ไหนก็ได้ ที่กายหยาบเครารพนับถือครับ
    ตรงนี้ กายหยาบต้องมีกำลังสติเพียงพอ ที่จะมองกายทิพย์
    ในระยะเวลานานพอสมควร อย่างน้อยก็เป็นนาทีด้วยตาเปล่าๆ
    หรือไม่ก็ในนิมิตแบบนิ่งๆนะครับ
    ถึงจะทราบลักษณะที่แท้จริงของกายหยาบได้ครับ
    ถ้าน้อยกว่านี้ โอกาสถูกกายทิพย์หลอกจะสูงครับ

    และที่สุดยอดก็คือ ที่ไม่มีกายก็ได้ ไม่มีก็ได้ และ
    มีรูปร่างก็ได้ ไม่มีรูปร่าง และมีบารมีกว้างๆมีความสว่างใน
    ตัวมันเอง แบบไร้รูปร่าง
    (คือไม่สามารถเรียกได้ว่า เป็นวงกลม อะไรมาณนี้ หรือเรียกถูกได้)
    และไปมาไร้ร่องรอยครับ คือ นิ่ง เบา เงียบ สงบ สว่างแบบไม่มีดวง
    อาทิตย์ส่วนจะเป็นสีอะไรสุดแล้วแต่ครับ เป็นลักษณะดวงจิตที่
    เชื่อว่าไม่มีการเกิดอีกแล้วครับ ที่พอจะพบได้ง่ายสุด เช่น
    พระปัจจักเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นต้นครับ
    และเวลาพบเจอท่านเสด็จ ท้องฟ้าจะสว่างแบบไม่มีประกาย
    ไม่ดวงอาทิตย์
    ตามเอกลักษณ์ของบารมีที่ท่านได้บำเพ็ญมาครับ


    กายทิพย์สามารถพอทำให้คาดคะเนอนาคตของกายหยาบได้
    เช่น กายทิพย์พระสงฆ์บางท่านเป็นคล้ายๆพระพุทธรูปองค์ใหม่มาก
    ทำให้พอคาดได้ว่า ท่านน่าจะเป็นพระพุทธฯองค์ใดองค์หนึ่งในอนาคตได้
    ประมาณนี้ครับ...
    หรือ ถ้ากายทิพย์ท่านเป็นคล้ายรูปพระพุทธองค์ไม่ใหญ่มาก แสดงว่า
    นอกจากท่านจะไม่มีกิเลสแล้วยังจะเป็นพระปัจจเจกพุทธเจ้าองค์หนี่งองค์ใดได้ครับ
    อย่างเช่น หลวงปู่องค์หนึ่งที่เด่นทางด้านห้อยพระท่านแล้วไม่ตายโหงเป็นต้น
    (ฟังหูไว้หูนะครับ)

    กายทิพย์พิเศษ คือกายทิพย์ในลักษณะการโปรด
    เพื่อทำให้ผู้พบเห็นครั้งแรกและทราบได้ว่าท่านเป็นใครครับ
    แต่แม้เห็นได้ด้วยตาเปล่า ก็ควรจะต้องมีสติระลึกให้ท่าน
    และอย่าไปยึดมั่นถือมั่นครับ แต่ควรให้ความเคารพนับถือแทนครับ..


    ปล ที่เห็นได้ชัดเจนสุดระหว่างกายทิพย์และกายหยาบ แม้ว่าความเป็นทิพย์
    ของกายหยาบจะไม่สามารถสู้กายทิพย์ได้ แต่กายหยาบนั้นสามารถ
    สร้างสติทางธรรมได้ ซึ่งกายทิพย์จะไม่สามารถกระทำได้ครับ
    และสติทางธรรมนี้ ยังเป็นพื้นฐานสำหรับการเดินปัญญา
    เพื่อลดละกิเลส จนถึงขั้นเป็นเหตุให้ไปสู่การหลุดพ้นได้ครับ

    ส่วนถ้าไปติดในระบบภาคทิพย์ หรือกายหยาบ จริงอยู่แม้ว่า
    มันดูเหมือนไม่ยึด แต่ว่ามันเป็นกิเลสอย่างหนึ่งเรียกว่ากิเลสธรรมครับ
    ซึ่งมันจะโน้มน้าว ไม่ให้สนใจเรื่องการสร้างสติทางธรรม
    และเรื่องการเดินปัญญาลดละกิเลส และจะทำให้หลงตัวเอง
    ได้อย่างคาดไม่ถึงครับ...

    เพราะฉนั้นสร้างสติทางธรรม เพื่อควบคุมความคิด เพื่อควบคุม
    พฤติกรรมของจิตให้ได้ก่อน ในขณะที่เป็นกายหยาบ
    ก็มีโอกาสที่จะทำให้หลุดพ้นได้ครับ จิตจะไปไหน กายหยาบจะไปไหน
    สติทางธรรมต้องตามรู้ทัน ไม่ให้ไป หรือถ้าจะไปไหนต้องตามไปด้วยตลอด

    กิริยาที่ ไม่แล้วไม่รู้ตัว ว่าไปได้อย่างไร ไปแล้วหกคะเมนตีลังกา ไปแล้วไม่รู้ว่าที่ไหน
    ไปแล้วไม่รู้ว่าคืออะไรได้ เห็นอะไร และคืออะไร
    แม้ในขณะที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือภายหลังจากที่ลืมตาครั้งแรกนั้น
    เป็นตัวบอกว่ากำลังสติทางธรรมเรายังไม่พอครับ ตรงนี้ต้องระวังดีๆนะครับ
    อย่าไปสนใจว่า ที่ไหน อะไร อย่างไร ทำไมเป็นอย่างโน้นนี่นั้น
    และไปสนใจว่า จะไปอีกได้อย่างไร เพราะพวกนี้ล้วนเป็นกิเลสทางธรรม
    ที่มาหลอกให้เรา ไม่สนใจสร้างสติ ไม่เจริญปัญญา หลอกให้เราไม่ยึดมั่น
    ถือมั่นเป็นจริงเป็นจัง จนสร้างเป็นอัตตาตัวตนได้
    อย่างที่คาดไม่ถึง และที่สำคัญ ความเข้าใจนามธรรม
    เราจะคาดเคลื่อน ตลอดจนฝึกกรรมฐานอะไรก็ไม่สำเร็จผล
    แม้ว่า จะยังไม่อยู่ในระดับใช้งานได้จริงๆ ก็จะคิดว่าตนเก่ง
    กว่าใครและจะหลงตัวเองได้อย่างคาดไม่ถึงครับ
    และไม่ยอมรับฟังความคิดใคร ใครแนะใครสอนไม่ได้
    หนักๆก็จะกลายเป็นบุคคลวิปลาสไปอย่างที่ไม่รู้ตัว ได้ครับ
    ปล ที่พอมองเห็นประโยชน์ และข้อควรระวังก็ประมาณที่
    ได้เล่าให้ฟังไปข้างต้นด้านบนครับ หวังว่าพอจะมีประโยชน์บ้าง



     
  8. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เขียนตามความเข้าใจผมนะ

    อวิชชา>>สังขาร>>วิญญาณ>>>ขันธ์ห้า ในภพต่างๆ

    ตัวสังขารที่ต่อจากอวิชชา เป็นตัวก่อภพในจิตเจ้าของ

    มันแปลงร่างได้สารพัด

    เป็นพระพุทธเจ้าก็ได้
    เป็นกายของสัตว์ชนิดต่างๆก็ได้
    เกิดขึ้นในจิตเจ้าของ

    วันไหนที่จิตเรารวมด้วยกำลังสติ
    มีสมาธิหนุน จิตโพรงเด่น ในกายเนื้อ

    มันจะเห็นจัดเจน..
     
  9. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ผมมีความคิดเเบบมโนดังนี้ รู้สึกว่านอกจากกายเนื้อ เเล้ว มีสองสิ่งอยู่ภายในคือ

    ความฟุ้งมาก ฟุ้งน้อย ที่จะเกาะกิเลส หรือไม่เกาะ (ตัวเกิดภพชาติ)

    อีกสิ่งคือ ตัวรู้ สติ (ตัวเราจริงๆ)

    ผมรู้สึกตัวเราจริงๆคือ ตัวรู้ ธาตุรู้ รู้ดี ชั่ว ธาตุรู้จะเจริญได้เมื่อฝึกภวานา มาก

    เเต่ผมไม่สามารถมโนได้ว่า ตัวรู้ กับ จิตที่ยังเกาะกิเลส มันคือตัวเดียวกันหรือไม่ หรือต่างกันอย่างไร หรือ ผมมโนผิดไปไกลทั้งหมด ผู้รู้เชิญครับ



    รู้สึกว่าต้องศึกษา ขันห้า เพิ่มเติมครับ

    อยากเรียนถาม ว่า เมื่อเกิดเป็นเทวดา เเล้วจะต่อนิพพาน ใช้ธรรมอันใด ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2016
  10. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  11. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  12. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  13. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    กล่าวถึงครูบาอาจารย์ วันสองวันมานี้ครูบาอาจารย์เพิ่งให้สติกับญาติโยมไปครับว่า "กาม หลับ ฝัน เทพ นิมิต ไม่ควรส่งเสริมฟุ้งซ่านหมกมุ่น เป็นธรรมไม่เจริญ ( ขวางนิพพาน)"

    และวันนี้ได้มีโอกาสไปกราบพระอาจารย์ ท่านเล่าว่า ตอนท่านไปกราบหลวงปู่ทองใบใหม่ๆ (2 หนแรกผมจำที่ท่านเล่าไม่ได้ รู้แต่ว่าท่านบอกเจอเข้าไปหงายท้องเลย คือมันโดนมาก คือท่านเองก็มีเทคนิคในการตรวจสอบทางในของท่านแหละ) ทีนี้พอหนที่สามเอาอีก หลวงปู่บอกประมาณว่า ที่เห็นนั่นน่ะ มันก็แค่ตาของเอ็งคนเดียวนั่นแหละ เท่านั้นเองพระอาจารย์บอก หงายท้องเลย ตั้งแต่นั้นมายอมหลวงปู่เลย

    ความหมายนัยยะนั้นไม่ใช่ว่า เห็นมั่วหรอกนะครับ หลวงปู่ไม่ได้สอนนะจุดนั้น เห็นน่ะเห็นจริง แต่ก็เป็นแค่สัญญาสังขารของเจ้าของเองคนดียวเท่านั้น (หรือจะว่าขันธ์ ๕ ก็ได้) ที่ทำให้เห็นให้เป็นไปต่าง ๆ นานานั่นเอง พระระดับนี้ท่านฟังปุ๊บรู้เลยทุกข์อยู่ตรงไหน..ครับ

    แค่เล่าให้ฟังครับ
     
  14. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +470
    “ สัสสตทิฏฐิ ความเห็นว่าเที่ยง คือความเห็นว่า อัตตาและโลก เป็นสิ่งเที่ยงแท้ยั่งยืน คงอยู่ตลอดไป
    เช่น เห็นว่าคนและสัตว์ตายไปแล้ว ร่างกายเท่านั้นทรุดโทรมไป ส่วนดวงชีพหรือเจตภูตหรือมนัสเป็นธรรมชาติไม่สูญ ย่อมถือปฏิสนธิในกำเนิดอื่นสืบไป เป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างหนึ่ง ”…อันนี้มาจากพระไตรปิฏ
    ที่ถามเรื่องรูป นาม ก็ควรเข้าใจว่า ท่านให้ศึกษาลงใน ปัจจุบัน ถ้าเข้าใจรูป นาม ก็จะถือว่าเข้าใจโลก เพราะมันมีลักษณะ เดียวกัน
    ถ้าไม่เข้าใจ งง ก็ให้กำหนดรู้ กลับมาที่กรรมฐานในปัจจุบัน ถ้ารู้ไม่ได้ ไม่ไหว งงสุดๆ มันยังคิด อนุโลมให้ คิดนำไปเลย งงมันเป็นเราไหม งงกับเรามันอันเดียวกันไหม ให้มันคลายลงแล้วค่อยกลับมาที่กรรมฐาน รู้บ่อยๆ เห็นบ่อยๆ จะ ค่อยเห็นอาการของความคิด ของรูปธรรม นามธรรม
    ไม่ต้องรีบไปเป็นเทวดา หาทางนิพพาน ศึกษาที่ปัจจุบัน รู้ที่ปัจจุบัน จึงจะถือว่าเป็นผู้ไม่ประมาท
     
  15. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2016
  16. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ทราบมาว่า เทวดาได้พิจารณาพระไตรลักษณ์ จิตคลายจากกามภพ จากหยาบไปละเอียด จนจะละจากกามภพไปอุบัติในพรหมโลก เผอิญท่านเป็นพระโพธิสัตว์ท่านเลยจุติบำเพ็ญบารมีต่อ พิจารณาต่อในเรื่องกามนิต ภาคสวรรค์ ตอนพิจารณาธรรมจนเป็นพรหม จนจะนิพพาน

    แต่ว่า เคยทราบว่า อย่าไปรอทำตอนเทวดา เพราะอย่างที่มีบางท่านให้ความเห็น เทวดาประเภทที่จะพิจารณาธรรมได้ ต้องฝึกฝนมาก่อน ถ้าไม่ฝึกเลย พอเป็นเทวดาจะฝึกไม่ได้ พิจารณาไม่ขึ้นเลย เพราะท่านว่า ภพที่ไม่ใช่มนุษย์จัดเป็นภพรับวิบากกรรมเสียมากกว่า มีข้อยกเว้นที่จะบำเพ็ญเฉพาะกรณีบุคคลน้อยมาก

    ดังนั้น ฝึกฝนแต่เดียวนี้เลยครับ ไม่งั้นถึงเป็นเทวดา ก็เป็นเทวดาประเภททำกรรมฐานไม่ได้ จะไปนิพพานยิ่งยากกว่าตอนเป็นมนุษย์ หรือส่วนใหญ่ทำกรรมฐานไม่ได้ ก็รอมาเป็นมนุษย์อย่างเดียว ซึ่งโอกาสน้อยมากที่จะกลับมาเป็นมนุษย์นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2016
  17. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    รวมความสรุป ความสำคัญ ได้เบื้องต้นว่า เทวดา ไปนิพพาน ยากกว่า มนุษย์ ตอนนี้เราๆท่านๆควรมุ่งนิพพานให้ถึงที่สุด สอดคล้องกับที่เคยได้ยินว่า มนุษย์นั้นเหมาะสมกับการนิพพาน ผมรู้สึกว่าผมโง้เเละยังระยำที่ยังมาเกิด ฟังอย่างนี้รู้สึกเบาใจขึ้นครับ

    เเละเพราะมนุษย์ มีกายหยาบให้จิตได้ฝึกได้ สอดคล้องกับที่เคยได้ยินว่า ถ้าตายเเล้วทำความดีไม่ได้เพราะไม่มีกายหยาบต้องรอบุญ เเละสอดคล้องท่านผู้ตอบว่า ภพอื่นนั้น เป็นภพของการรับกรรม บุญ บาป ถ้าบาปนั้นไม่มีเวลารับบุญ ถ้าเทวดายังมี

    คือที่ผมถามเพราะ หลวงพ่อบอกว่า ถ้าไม่ถึงนิพพานก็ไป พักที่ เทวดา เเล้วต่อไปนิพพานผมเลยสงสัยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2016
  18. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    เป้นเทวดาก็ใช่ว่าจะดี ต้องทำตัวให้ดูดีตลอด ผมไม่อยากสร้างภาพก็ทำตามความชอบที่ไม่ระรานคนอื่น ให้มีกรรมกับคนอื่นน้อยที่สุด ไม่งั้นอาจเป็นเทวดาตกสวรรค์ได้
     
  19. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    เรียนถาม ประโยค ไม่อยากสร้างภาพก็ทำตามความชอบที่ไม่ระรานคนอื่น ผมเข้าใจว่า สร้างภาพในการระรานคนอื่น ถูกต้องไหม ครับ เเละขอถามต่อว่า มีความเกี่ยวข้องกับประเด็ดในกระทู้นี้หรือ คำตอบในกระทู้นี้อย่างไรครับ เพราะอ่านเเล้ว ไม่สามารถตีความต่อไปได้ ครับ ถ้าเป็นกรณีบางคน ผมก็ไม่ตีความผ่านไปเลยอันนี้ผมเข้าใจ เเต่คุณนั้นเห็นว่าพอจะตีความได้อยู่ถึงต้องเรียนถามครับ
     
  20. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    คือฝึกวิชาจนถึงขั้นอิ่มทิพย์ หรือเข้าไปในเมืองบังบดได้แล้ว จะรู้สึกว่าเกือบๆเทวดาเลย
    นอนดูนิมิตทั้งวันเลย สำหรับผม เห็นความเป็นไปของสัตว์โลกอะ แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนแหละต้องทำตัวให้ดูดี ให้เป็นที่นับถือของเหล่าสรรพสัตว์ ลองไม่ทำดูสิจะกลายเป็นตัวไรไม่รู้ เขาจะเอาเราไปล้อในการ์ตูนอะ มันเป็นกรรมที่เบาสุดแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...