วัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง จอมขมังเวทย์ "ตะกรุด เบี้ยแก้ ลูกอม (สามารถส่งออกบัตรรับประกันทุกชิ้น )

สนใจสอบถามได้ครับ

 

รายการที่38
ลูกอมมหากัณฑ์ หลวงพ่อคง วัดบางกระพร้อม ตัวจริงเสียงจริง ลงรักถักเชือก จับแล้วหน่วงมีน้ำหนัก สภาพสมบูรณ์มากๆ สุดยอดของดีแห่งบางกระพ้อม ​

หลวงพ่อคง บางกะพ้อม ว่ากันว่าท่านสำเร็จวิชานะปัดทะมัง(ปถมัง) ซึ่งในการสร้างลูกอมของท่านได้ใช้วิชานะปัดทะมัง ลบถมมาทำลูกอม พุทธคุณ...ชนิดที่ว่ากัน สาระพัดกัน เช่น กันสะเนียดจัญไร กันผีพราย ฯลฯ ประวัติ หลวงพ่อคง หลวงพ่อคง ท่านเกิดวันอาทิตย์ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลู ตรงกับวันที่ ๓ เมษายน ๒๔๐๘ ณ ตำบลบางสำโรง อำเภอบางคณฑี จังหวัดสมุทรสงคราม โยมบิดาชื่อ "...เกตุ จันทร์ประเสริฐ..." โยมมารดาชื่อ "...ทองอยู่..." พออายุได้ ๑๒ ปี บิดามารดาให้บวชเณร เพื่อเล่าเรียนศึกษา ระหว่างเป็นสามเณรสนใจในวิชาเมตตามหานิยม พอใกล้บวชพระได้สึกจากสมเณร และได้ทดลองวิชาเมตตามหานิยมดูว่าจะขลังจริงหรือไม่ โดยเสกสีผึ้งละลายน้ำไปให้หญิงผู้หนึ่งซึ่งอยู่ทางใต้น้ำ ปรากฏว่า เย็นวันนั้น หญิงสาวหอบผ้าหอบผ่อนมาหาท่านถึงบ้าน และร้องไห้จะขออยู่ด้วยให้ได้ ทำให้วุ่นวายชี้แจ้งกันเป็นการใหญ่ ต่อมาท่านก็อุปสมบทในบวรพระพุทธศาสนาสืบมาได้เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับเกียรติยกย่องว่า ท่านทำวัตถุมงคลทุกอย่างได้ขลัง และศักดิ์สิทธิมีอิทธิฤทธิ์อันมหัศจรรย์เป็นที่ขนานนามยกย่องกัน ทั่วลุ่มแม่น้ำแม่กลอง หลวงพ่อคง มรณภาพวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๖ สิริอายุ ๗๘ ปี พรรษาที่ ๕๘ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีศิษยานุศิษย์ และประชาชนทั่วประเทศ เคารพนับถืออย่างมาก สมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง เช่น เหรียญรูปเหมือน พ.ศ. ๒๔๘๔ ซึ่งในปัจจุบันเหรียญสวยคมชัดเช่าหาบูชากันในราคาล้านกว่าบาท และเหรียญหล่ออรุณเทพบุตร สภาพสวยเดิม ๆ ก็อยู่ในหลักแสน ส่วนเครื่องรางของขลัง อาทิ ตะกรุด ลูกอม ผ้ายันต์ ล้วนมีราคาเช่าบูชาแพงมาก และของแท้ ๆ หายากครับ ในภาพสภาพสวยเดิม เก่าแท้ ดูง่าย

เปิดบูชา 3500บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638​

โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629
​

ปิดรายการครับ

​

 

รายการที่39​

ประคำ เนื้อผงชุุบรัก ๑๐๘ (อิติปิโสฯถอยหลัง)
หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท ตัวจริงเสียงจริงครับ พบเจอได้น้อยมาก​

ประคำ หลวงปู่ศุข มะขามเฒ่า นับได้ว่าเป็นประคำที่ได้รับความนิยมในระดับต้นๆ เคียงคู่มากับ ประคำนเรศวรปราบหงสาฯ ของหลวงปู่บุญ แห่งวัดกลางบางแก้ว นครปฐม ซึ่งในปัจจุบันแทบเป็นตำนานไปแล้วเนื่องจาก ใครมีอยู่ในความครอบครองต่างหวงแหน เปรียบได้ดังสมบัติอันล้ำค่า เสริมส่งบุญบารมี อำนาจวาสนา ให้ความอยู่เย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรืองในธุรกิจการงานในทุกประการ
ประคำ หลวงปู่ศุข สามารถแบ่งแยกได้เป็น 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก เรียกว่าประคำนิ้ว ขนาดกลาง เรียกว่า ประคำมือ และขนาดใหญ่ เรียกว่า ประคำคอ ในประคำเส้นหนึ่งๆ จะประกอบไปด้วยวัสดุอาถรรพ์เวทย์ 4 อย่าง คือ เขี้ยว งาช้างอาถรรพ์ (จำพวกงากำจัด งากำจาย ซึ่งเป็นของดีทนสิทธิ์) , กะลาตาเดียว , เขาควายฟ้าผ่าตาย หรือเขากวางคุด // เสร็จแล้วหลวงปู่ศุข ท่านจึงปลุกเสกด้วยบทอิติปิโสถอยหลัง ทั้งกันทั้งแก้ ถอดถอนคุณคน-คุณไสยฯ มนต์ดำต่างๆ อักขระที่ลงในเส้นประคำ บางเส้นก็ลงจารทุกเม็ด (บทอิติปิโส108) ในบางเส้นก็ลงอิติปิโสบทย่อ หรือเรียกอีกอย่างว่า หัวใจนวหรคุณ (มงคล ๙ ประการ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ) บางเส้นไม่ลงจารก็มีเช่นกันครับ ที่กะโหลกงามักจะจาร “อิติ อัตอุดปิด มะอะอุ”

ประวัติความเป็นมาของบทอิติปิโสถอยหลัง
สมัยพุทธกาล มีเหล่าพระสงฆ์อยู่กลุ่มหนึ่งได้ออกธุดงค์ไปในป่าเขาแห่งหนึ่งซึ่งเป็นป่า ที่ว่ากันว่าไม่มีนักบุญท่านใดอยู่ได้นาน เพราะมักจะมีเหล่าอสูรกายมาหลอกหลอน ให้ตบะพังจนสติแตกอยู่ร่ำไป พระสงฆ์กลุ่มนี้ได้ปักกรด และจำศีลอยู่ที่นั่น ซึ่งมีกันทั้งหมด 8 องค์ // ตกกกลางคืน เหล่าอสูรกายก็ออกฤทธิ์ ทั้งหัวเราะทั่วหุบเขา ทั้งแปลงเป็นผี ควักไส้พุง ตาถลน ทั้งหมดกลัวสุดขีดแต่ได้ตั้งสติและสวดมนต์ โดยเฉพาะอิติปิโส // แต่พอสวด อสูรกายกลับกลายร่างเป็นยักษ์โล้น(ร่างแท้ๆ) ปัดกลดกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งหมดทุกท่าน และนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้า ได้ให้บทสวด อิติปิโส แต่ให้สวดถอยกลับ เพื่อไปปลดปล่อยยักษ์ตนนั้นที่หวงที่ เหล่าพระสงฆ์เหล่านั้น ก็กลับไปที่เดิม ตกกลางคืน มาอีกหนักกว่าครั้งที่แล้ว // ทั้งพายุห่าฝนทั้งฟ้าผ่า และมันกำลังจะกระทืบไปที่เหล่าพระสงฆ์กลุ่มนั้น ทั้งหมดห้อมล้อม // และท่อง อิติปิโส ถอยหลัง ยักษ์ตนนั้น ปวดหัวทรมานอย่างแรง จนต้องอ้อนวอนให้พระสงฆ์กลุ่มนั้นหยุดท่องคาถานี้
หัวหน้าคณะได้ให้ยักษ์สาบานด้วยวาจาสัตย์ว่าต้องไม่ทำร้ายใครอีก และต้องจำศีลเพื่อให้หลุดพ้นจากวัฏสงสารที่เป็นอยู่นี้ // ยักษ์จึงตกลง..และในที่สุดก็มาเป็นบทคาถาบทหนึ่งที่ไม่ใช่แค่คุ้มครองผู้สวดแล้ว ยังป้องกันภัยอันตรายทั้งหลาย ยามจำเป็นต้องพักในที่ที่เราไม่คุ้นเคย
คาถาบทนี้มี 56 ตัว ให้ภาวนา 3 หรือ 7 คาบ ก่อนออกเดินทางไปสารทิศใด ๆ จะแคล้วคลาดปราศจากทุกภัยพิบัติทั้งปวง หากภาวนาได้ครบ108คาบ ติดต่อกัน จะมีตัวเบา เดินตัวปลิว เสกหรือสะเดาะเคราะห์ สะเดาะกุญแจ หรือโซ่ตรวนของจองจำทั้งปวงได้สิ้น

"ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ ฯ"

๏ สิทธิการิยะ พระอิติปิโสถอยหลัง =>> ผู้ใดเล่าเรียนไว้ คุ้มได้มากครัน ศัตรูนึกหวัง มิได้กล้ำกราย // เป็นเสน่ห์แก่เขา เข้าหาเจ้านาย ท้าวพระยาทั้งหลาย มีจิตเมตตา // ปรารถนาสิ่งใด นึกไว้ในใจ ดังคิด อย่าได้แคลงจิต คิดไปสู่อื่น ฝูงคนทั้งพื้น คงจะบูชา พระคาถานี้ // อุปเท่ห์พิธี เหลือจะพรรณนา ปลุกเสกกายา ได้สมดังใจ คงกระพันชาตรี ฤทธีมากมาย ขอท่านทั้งหลาย จงหมั่นภาวนา ๚
๏ จะกล่าวอุปเท่ห์ พระอิติปิโสถอยหลัง =>> ผู้ใดเรียนได้ ไว้เป็นปิยัง ศัตรูนึกหวัง บ่มิกล้ำกราย // เป็นที่เสน่หาเทพารักษ์ ทั้งมนุษย์หญิงชาย สิ่งใดปรารถนา ภาวนาอย่าคลาย ถ้วนร้อยแปดหมาย // ทำเมื่อเที่ยงคืน คนรักนักหนา ถือดังญาติกา ทั้งอายุยืน // จะทำสิ่งไร ตั้งใจอย่าขืน คืออย่าเป็นอื่น บ่ายหน้าหนบูรพ์ // ไม้รักซ้อนแกะทำ พระภควัมอย่าสูญ ใส่น้ำมันแช่ เสกแปรเป็นคุณ // บ่ายหน้าหนบูรพ์ จนพระลุกนั่ง ใช้เป็นเสน่ห์ ล่องหนกำบัง // ออกสงครามเจรจา ท้าวพระยาปิยัง ฝูงชนทั่วทั้ง รักนักรักหนา // ถ้าท่านจองจำ ตั้งจิตบริกรรม ด้วยพระคาถา มนต์น้ำหมากนั้น ๑๔ คาบตรา ถูกต้องขื่อคา หลุดลุ่ยบัดใจ // ถ้าหาน้ำหมากมิได้ อาจารย์กล่าวไว้ ใช้ร่ายเป่าไป ขื่อคาอันแข็ง อ่อนคือลนไฟ เสกสิ่งใด ๆ กินคงกระพัน ๑๓ คาบหนา // ๑๕ คาบว่า ใช้เป็นจังงัง โดยท่านกล่าวมา เอาลิ้นดุนเพดาน ๑๕ คาบอย่าคลาด เป่าไปอย่าคลา กระทืบตีนออกมา อาวุธศาสตรา ลุ่ยหลุดจากมือ // มหาละลวยฤา เป็นได้เหมือนกัน ให้ร่ายเป่าไป ๑๑ คาบนั้นไซร้ // เป่าไปสู่มัน มันมาหาเรา เขาผูกมัดขันชะเนาะ บ่ายหน้าจำเพาะ สู่หัวเชือกเข้า ถ้วนร้อยแปดเป่า สู่หัวเชือกเข้า ลุ่ยหลุดแลนา // ถ้าจะลุยอัคคี เสกหมากกินดี เสกน้ำมันทา ๕ คาบให้ไว้ ให้ใช้คาถา เสกน้ำมันทา ไม่มีโภยภัย // ถ้าจะล้วงตะกั่ว เสกน้ำมะกรูด ยกมือขึ้นไหว้ เจ้าประคุณทูนหัว ไม่มีอันตราย ผิวจะแก้ คุณเขาทำแล // แม้คุณทั้งหลาย ยืนเหนือลมร่าย ๑๐ คาบโดยหมาย เป่าไปอย่าคลา หายสิ้นสูญพลัน // เมื่อทำรำลึก ตรึกหาพระพุทธ พระธรรมสังฆา ขอคุณบิดา ทั้งพระมารดา คุณครูอุปัชฌาย์ อยู่เหนือเกสา เสกหมากให้กิน ท่านรักนักหนา เสกน้ำล้างหน้า ไม่มีโภยภัย // ทั้งสองสิ่งนี้ เสก ๔ คาบตรา ไม่ม้วยมรณา เทวดาดลใจ อนึ่งเล่าหนา ขอดชายผ้าไว้ ผูกเป็นหัวพิรอด ๑๗ คาบใส่ หัวเป็นประเจียด ภาวนาเดินไป ขึ้นลงที่ไหน คนไม่เห็นเรา // ปัดพิษงู ตะขาบ แมลงป่อง ๓ ที // คงกระพันชาตรี ๑๙ คาบหนา แม้นเขาตามไป จงหักกิ่งไม้ เสกขวางมรรคา เสกสิ่งไร ๆ ตามใจปรารถนาแล

เปิดบูชา 2500บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638
โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629

ปิดรายการครับ ​

​

 

รายการที่40 ​

แหวนพิรอด หลวงพ่อม่วง วัดบ้านทวน สุดยอดเกจิของเมืองไทย ผู้สร้างตำนานแหวนพิรอดแห่งเมืองสยาม แท้ดูง่ายครับ ​

แหวนพิรอดหลวงพ่อม่วง แห่งวัดบ้านทวน สวยสมบูรณ์มากรักไม่เปิดให้เห็นผ้าเลยแม้แต่จุดเดียว แต่ถึงจะสวยอย่างไรแหวนวงนี้ก็ไม่ได้ขาดความมันส์สะใจไปแม้แต่น้อย เพราะขี้แมลง ขี้ปลวกเกาะกันเต็มวง โดยเฉพาะด้านหลังวงแหวน และแหวนวงนี้มีขนาดเล็ก ขนาดใส่นิ้วนางของบุรุษได้พอดี ขนาดกำลัง น่าพกน่าใช้ น่าสวมใส่เวลาออกลุย “เพราะใส่ได้พอดีนิ้วแบบแบนราบสวยงาม แต่อนุรักษ์กันไว้เถอะ อย่าใส่เลย เป็นแหวนที่หลวงปู่ทำแจกจำนวนการสร้างไม่มากนัก รักเก่าๆสวยสมบูรณ์ บวกความมันส์สะใจของขี้ปลวกขี้แมลง น่ารักครับ.

มงคลแขนแหวนพิรอด ของพระครูสิงคิคุณธาดา (หลวงพ่อม่วง จันทสโร) วัดบ้านทวน จ.กาญจนบุรี เป็นเครื่องรางที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดของเครื่องราง ที่นักสะสมเครื่องรางต่างก็ใฝ่ฝันที่จะได้มาไว้ในครอบครอง เพราะคนที่มีต่างก็หวงแหนเป็นอย่างยิ่ง

มงคลแขน และแหวนพิรอดของหลวงพ่อม่วง สร้างจากตำราโบราณ ท่านทำด้วยผ้าดิบตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพหรือผ้ามัดตราสังฆ์ นำมาตัดเป็นเส้นแล้วลงอักขระหมึกจีนที่ผ้าด้วยพระคาถาอิติปิโส มงคลฯ กับหัวใจพระธรรม ๗ คัมภีร์ ลงเดินหน้า ถอยหลัง กลับไปกลับมา เรียกว่าสงไปสงกลับ หรือสงกลับไปสงกลับมา ที่สมัยนี้นิยมเรียกลงอักขระสดุ้งกลับ คือกลับสิ่งเลวสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี หรือที่ดีอยู่แล้วก็จะทำให้ดียิ่งๆขึ้น เมื่อใครอยากจะได้ก็จะไปขอให้ท่านเมตตาทำให้ ท่านก็จะพิจารณาทำให้เป็นรายบุคคลไป เมื่อทำเสร็จแล้ว หลวงปู่จะทดสอบความขลังในเวลาค่ำคืนอันเป็นเดือนมืดดึกสงัด ท่านจะก่อกองไฟทำพิธีแล้วท่านจะโยนมงคลแขน หรือแหวนพิรอดนั้นๆเข้าไปในกองไฟจนรุ่งเช้าท่านก็จะมาเขี่ยกองขี้เถ้าดู ถ้าวงใดที่ไหม้ไฟถือว่ายังใช้ไม่ได้ ถ้าวงใดไม่ไหม้ไฟก็ถือเป็นอันเสร็จใช้ได้ ท่านก็จะมอบให้แก่ผู้ที่มาขอไป ซึ่งบางคนกว่าจะได้ต้องรอนานหลายๆเดือน จนกว่าท่านจะมีเวลาทำให้ คนที่ได้นำไปใช้ต่างก็มีประสบการณ์กันมากมาย จึงเป็นที่นิยมเสาะหาพกพาติดตัวกันมากในหมู่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ที่ได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลมาจนเป็นอย่างดี

อุปนิสัยของท่าน ท่านเป็นพระใจดีมีพรหมวิหารธรรม ใครได้พบได้สนทนาด้วย ก็รู้สึกอิ่มเอิบใจ ไม่ถือตัวถือชั้นวรรณะ เป็นกันเองแก่คนทั่วไป นอกจากเหรียญของท่านแล้ว ก็มีแหวนพิรอดนี่แหละที่ดังมากๆ จนมีคำขวัญว่า ของดีของขลังของเมืองกาญจน์ก็มีลูกอมวัดหนองบัว แหวนพิรอดวัดบ้านทวน ซึ่งดีทางคงกระพันชาตรี ก่อนจะแจกเอาใส่ในกองไฟ อันใหนไฟไม่ไหม้ จึงหยิบมาแจก นับว่าเป็นพระเถระ ที่มีอาคมและใช้อาคมแกล่งกล้ามาก

•••••ขอเอ่ยถึงแหวนหลวงปู่ยิ้ม พ่อเฒ่ายิ้ม อาจารย์ใหญ่แห่งวัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ได้รู้ลึกเข้าไปถึงตำรับการสร้างแหวน...ท่านสร้างจากตำราโบราณ เช่นเดียวกันกับกำไลแขนแหวนพิรอดวัดบ้านทวน ตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพ หรือผ้ามัดตราสังฆ์ เป็นการใช้ผ้าสูตรเดียวกับของหลวงพ่อม่วงแห่งวัดบ้านทวน แต่เอกลักษณ์การขึ้นถักทำรูปแหวนแตกต่างกัน น่าจะมาจากการแลกเปลี่ยนวิชากันของพระเถราจารย์ทั้งสองท่าน เพราะทั้งสองเป็นพระเถราจารย์ร่วมรุ่น ร่วมยุค ร่วมสมัย และโด่งดังเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ทั้งสองท่านถือว่าเป็นที่สุดของ จ.กาญจนบุรี เกี่ยวกับปี พ.ศ. ที่ควรรู้!

“หลวงพ่อม่วงเกิด พ.ศ.๒๓๖๖ , หลวงปู่ยิ้มเกิด พ.ศ.๒๓๘๗” หลวงพ่อม่วงมีอายุมากกว่าหลวงปู่ยิ้ม ๒๑ปี และปีที่หลวงปู่ยิ้มเกิด คือปีที่หลวงพ่อม่วงอุปสมบท คือปี พ.ศ.๒๓๘๗_คนโดยส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดคิดว่าหลวงปู่ยิ้มมีอายุมากกว่าหลวงพ่อม่วง คงเนื่องมาจากคำนำหน้าที่ใช้เรียกตัวท่าน จึงลงปีเกิดมาเพื่อเป็นความรู้เล็กๆมาแบ่งปันกันครับ

ต้นตำรับตำรา อันตำราทำแหวนพิรอดถักนี้เป็นของโบราณ สืบแต่แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยนั้นในราชสำนักมีอาจารย์ฆราวาสชื่อดัง ๒ คน คือ พระวิชาจารย์มนตรี(อาจารย์ชาตรี) กับหลวงราชปรีชาหาญ(อาจารย์พิรอด)"น่าจะเป็นที่มาของชื่อแหวน(ความเห็นส่วนตัว_วัต ท่าพระจันทร์)" อาจารย์ ๒ คนนี้เคยไปกับ พระวิสูตรสุนทร(ปาน)หรือโกษาปาน ถึงประเทศฝรั่งเศส และได้ลองวิชาอาคมให้พระเจ้าหลุยส์ ประเทศฝรั่งเศสเป็นที่พอพระทัยมาก ได้รับรางวัลกลับเมืองไทยมากมาย

หลวงพ่อม่วง(พระครูสิงคิคุณธาดา) บำรุงศาสนกิจมาด้วยความเรียบร้อย ท่านไม่เคยเจ็บป่วยออดแอด แต่พอชรามากก็หนีกฎธรรมดาไม่พ้น ได้ถึงมรณภาพด้วยโรคชรา สิริอายุได้ ๘๙ ปี ได้ทิ้งคุณงามความดีไว้เป็นที่ร่ำลือมาจนทุกวันนี้.

พระคาถาบูชาการใช้
"โอมพระพิรอด ขอดพระพินัย_หัวใจพระคาถาเมื่อสวมใส่หรือพกพา"
"โอมพระพินัย คลายพระพิรอดหัวใจพระคาถา เมื่อถอดออก”
เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการจดจำ

เปิดบูชา 4500บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638​

โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

ปิดรายการครับ


​

 

รายการที่41​

ตะกรุดพิศมรใบลานบังปืน หลวงพ่อบ่าย วัดช่องลม สุดยอดของดีแห่งเมืองแม่กลองที่ไม่แพ้หลวงพ่อแก้วเลยครับ จะเป็นตำนานไปแล้วครับ หลายคนมองหาแต่หลวงพ่อแก้ว จนลืมไปว่าหลวงพ่อบ่ายนี้ได้สำเร็จวิชาที่ไม่แพ้หลวงพ่อแก้วเลย ดอกนี้ตัวจริงเสียงจริงเลยครับ ​

พระเกจิอาจารย์สายแม่กลองที่อาวุโสรองจากหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ก็คือหลวงพ่อบ่าย วัดช่องลม วัตถุมงคล+เครื่องรางของท่านก็มีผู้นิยมกันมาก โดยเฉพาะตะกรุดพิสมรใบลาน ซึ่งท่านทำไว้น้อยมาก ๆๆ ส่วนใหญ่จะไม่ลงรัก และลายถักมีเอกลักษณ์ ต่างจากของหลวงพ่อแก้ว หลวงพ่อบ่ายท่านได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมจากหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ท่านจึงมีพุทธาคมเข้มขลังและเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ของแม่กลอง ได้รับเกียรตินิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ใน งานหล่อพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้าวัดราชบพิธ เมื่อปี พ.ศ.2481 และในงานพุทธาภิเษกใหญ่ๆ แทบทุกงาน และท่านก็เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ด้วย หลวงพ่อบ่าย วัดช่องลมท่านมรณภาพลงเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2485 สิริอายุได้ 81 ปี พรรษาที่ 60 ชิ้นนี้ สวย สมบูรณ์เดิม ๆๆ ตามรูป ขนาดประมาณเหรียญ 2 บาท ดูง่าย สบายตา

เปิดบูชา 2500บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638​

โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

ปิดรายการครับ

​

 

รายกาที่42​

ตะกรุดอาจารย์ฝั้น อาจาโร (ยุคต้น) เนื้อทองแดง
มาตรฐานครับ เป็นอีกหนึ่งของดีที่ท่านสร้างและมีประสบการณ์ให้เห็นอยู่มากมาย​

อาจารย์ฝั้น อาจาโร ท่านได้สร้างตะกรุดให้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดได้นำไปบูชาติดตัว โดยมีเอกลักษณ์คือ สวมปลอกด้วยท่อยางพลาสติก
โดยแบ่งออกเป็นยุคต้นกับยุคปลาย
1.ยุคต้นจะใช้ท่อยางสีเขียว
2.ยุคปลายจะใช้ท่อยางสีเหลือง
แต่เท่าที่พบเห็นไม่ว่าจะยุคต้นหรือยุคปลายก็หายากทั้งสิ้นค่ะ
***พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระเกจิชื่อดังแห่ง วัดป่าอุดมสมพร ท่านเป็นลูกศิษย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้นท่านเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ประชาชนทั่วประเทศต่างให้ความศรัทธาเลื่อมใสไปทั่วสารทิศ บรรดาศิษยานุศิษย์และผู้คนชาวพุทธที่ต่างรู้จักกันดี เป็นที่พึ่งทางใจของทุกคน เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พระอาจารย์ฝั้นท่านได้แสดงธรรมอันเป็นประโยชน์แก่ชาวบ้าน เพื่อจะได้นำไปประพฤติปฏิบัติ และอบรมสั่งสอนลูกหลานให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมสืบต่อไป

เปิดบูชา 1500บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638​

โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

ปิดรายการครับ


​

 

รายการที่ 40......3000ครับ

 

ปิดรายการที่ 39 เม็ดประคำ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

 

ปิดรายการที่38 ลูกอมมหากัณฑ์ หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม

 

ยังเหลืออยู่หลายรายการให้เลือกชมน้ะครับ ต่อรองราคามาได้ครับ ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำด้านเครื่งรางทุกชนิดครับ LINE ID : golfsuphan-nb หรือโทรมาที่0922711638
รับประกันความแท้ถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากลครับ

 

รายการที่43 ​

พิรอดแขน หลวงพ่อม่วง วัดบ้านทวน สุดยอดเกจิของเมืองไทย ผู้สร้างตำนานแหวนพิรอดแห่งเมืองสยาม แท้ดูง่ายครับ ลงรักใหม่ทับอีกรอบ ​

มงคลแขนแหวนพิรอด ของพระครูสิงคิคุณธาดา (หลวงพ่อม่วง จันทสโร) วัดบ้านทวน จ.กาญจนบุรี เป็นเครื่องรางที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดของเครื่องราง ที่นักสะสมเครื่องรางต่างก็ใฝ่ฝันที่จะได้มาไว้ในครอบครอง เพราะคนที่มีต่างก็หวงแหนเป็นอย่างยิ่ง

มงคลแขน และแหวนพิรอดของหลวงพ่อม่วง สร้างจากตำราโบราณ ท่านทำด้วยผ้าดิบตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพหรือผ้ามัดตราสังฆ์ นำมาตัดเป็นเส้นแล้วลงอักขระหมึกจีนที่ผ้าด้วยพระคาถาอิติปิโส มงคลฯ กับหัวใจพระธรรม ๗ คัมภีร์ ลงเดินหน้า ถอยหลัง กลับไปกลับมา เรียกว่าสงไปสงกลับ หรือสงกลับไปสงกลับมา ที่สมัยนี้นิยมเรียกลงอักขระสดุ้งกลับ คือกลับสิ่งเลวสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี หรือที่ดีอยู่แล้วก็จะทำให้ดียิ่งๆขึ้น เมื่อใครอยากจะได้ก็จะไปขอให้ท่านเมตตาทำให้ ท่านก็จะพิจารณาทำให้เป็นรายบุคคลไป เมื่อทำเสร็จแล้ว หลวงปู่จะทดสอบความขลังในเวลาค่ำคืนอันเป็นเดือนมืดดึกสงัด ท่านจะก่อกองไฟทำพิธีแล้วท่านจะโยนมงคลแขน หรือแหวนพิรอดนั้นๆเข้าไปในกองไฟจนรุ่งเช้าท่านก็จะมาเขี่ยกองขี้เถ้าดู ถ้าวงใดที่ไหม้ไฟถือว่ายังใช้ไม่ได้ ถ้าวงใดไม่ไหม้ไฟก็ถือเป็นอันเสร็จใช้ได้ ท่านก็จะมอบให้แก่ผู้ที่มาขอไป ซึ่งบางคนกว่าจะได้ต้องรอนานหลายๆเดือน จนกว่าท่านจะมีเวลาทำให้ คนที่ได้นำไปใช้ต่างก็มีประสบการณ์กันมากมาย จึงเป็นที่นิยมเสาะหาพกพาติดตัวกันมากในหมู่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ที่ได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลมาจนเป็นอย่างดี

อุปนิสัยของท่าน ท่านเป็นพระใจดีมีพรหมวิหารธรรม ใครได้พบได้สนทนาด้วย ก็รู้สึกอิ่มเอิบใจ ไม่ถือตัวถือชั้นวรรณะ เป็นกันเองแก่คนทั่วไป นอกจากเหรียญของท่านแล้ว ก็มีแหวนพิรอดนี่แหละที่ดังมากๆ จนมีคำขวัญว่า ของดีของขลังของเมืองกาญจน์ก็มีลูกอมวัดหนองบัว แหวนพิรอดวัดบ้านทวน ซึ่งดีทางคงกระพันชาตรี ก่อนจะแจกเอาใส่ในกองไฟ อันใหนไฟไม่ไหม้ จึงหยิบมาแจก นับว่าเป็นพระเถระ ที่มีอาคมและใช้อาคมแกล่งกล้ามาก

•••••ขอเอ่ยถึงแหวนหลวงปู่ยิ้ม พ่อเฒ่ายิ้ม อาจารย์ใหญ่แห่งวัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ได้รู้ลึกเข้าไปถึงตำรับการสร้างแหวน...ท่านสร้างจากตำราโบราณ เช่นเดียวกันกับกำไลแขนแหวนพิรอดวัดบ้านทวน ตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพ หรือผ้ามัดตราสังฆ์ เป็นการใช้ผ้าสูตรเดียวกับของหลวงพ่อม่วงแห่งวัดบ้านทวน แต่เอกลักษณ์การขึ้นถักทำรูปแหวนแตกต่างกัน น่าจะมาจากการแลกเปลี่ยนวิชากันของพระเถราจารย์ทั้งสองท่าน เพราะทั้งสองเป็นพระเถราจารย์ร่วมรุ่น ร่วมยุค ร่วมสมัย และโด่งดังเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ทั้งสองท่านถือว่าเป็นที่สุดของ จ.กาญจนบุรี เกี่ยวกับปี พ.ศ. ที่ควรรู้!

“หลวงพ่อม่วงเกิด พ.ศ.๒๓๖๖ , หลวงปู่ยิ้มเกิด พ.ศ.๒๓๘๗” หลวงพ่อม่วงมีอายุมากกว่าหลวงปู่ยิ้ม ๒๑ปี และปีที่หลวงปู่ยิ้มเกิด คือปีที่หลวงพ่อม่วงอุปสมบท คือปี พ.ศ.๒๓๘๗_คนโดยส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดคิดว่าหลวงปู่ยิ้มมีอายุมากกว่าหลวงพ่อม่วง คงเนื่องมาจากคำนำหน้าที่ใช้เรียกตัวท่าน จึงลงปีเกิดมาเพื่อเป็นความรู้เล็กๆมาแบ่งปันกันครับ

ต้นตำรับตำรา อันตำราทำแหวนพิรอดถักนี้เป็นของโบราณ สืบแต่แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยนั้นในราชสำนักมีอาจารย์ฆราวาสชื่อดัง ๒ คน คือ พระวิชาจารย์มนตรี(อาจารย์ชาตรี) กับหลวงราชปรีชาหาญ(อาจารย์พิรอด)"น่าจะเป็นที่มาของชื่อแหวน(ความเห็นส่วนตัว_วัต ท่าพระจันทร์)" อาจารย์ ๒ คนนี้เคยไปกับ พระวิสูตรสุนทร(ปาน)หรือโกษาปาน ถึงประเทศฝรั่งเศส และได้ลองวิชาอาคมให้พระเจ้าหลุยส์ ประเทศฝรั่งเศสเป็นที่พอพระทัยมาก ได้รับรางวัลกลับเมืองไทยมากมาย

หลวงพ่อม่วง(พระครูสิงคิคุณธาดา) บำรุงศาสนกิจมาด้วยความเรียบร้อย ท่านไม่เคยเจ็บป่วยออดแอด แต่พอชรามากก็หนีกฎธรรมดาไม่พ้น ได้ถึงมรณภาพด้วยโรคชรา สิริอายุได้ ๘๙ ปี ได้ทิ้งคุณงามความดีไว้เป็นที่ร่ำลือมาจนทุกวันนี้.

พระคาถาบูชาการใช้
"โอมพระพิรอด ขอดพระพินัย_หัวใจพระคาถาเมื่อสวมใส่หรือพกพา"
"โอมพระพินัย คลายพระพิรอดหัวใจพระคาถา เมื่อถอดออก”
เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการจดจำ

เปิดบูชา 3000บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638​

โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

[/url][/CENTER][/IMG]

[/url][/CENTER][/IMG]

[/url][/CENTER][/IMG]

 

รายการที่44​

ตะกรุดหลวงปู่ศุข ลายจระเข้ขบฟัน เนื้อตะกั่วน้ำนม สภาพสวยสมบูรณ์สุดๆครับ รักแท้ดูง่าย ขนาด3.5นิ้ว
​

ประวัติการสร้างพอสังเขป

ตะกรุด หลวงปู่ศุข สภาพสวย ดูง่ายๆ ลงรักโชว์โผล่เส้นเชือกมันส์ๆ รักแด้งแดงสวยสะใจ อายุการสร้างกว่า ๑๐๐ปี(ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน ๔ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีวอก พ.ศ. ๒๓๙๐ท่านมรณภาพเมื่อ เดือน ๑ ปีกุน พ.ศ. ๒๔๖๖ ไม่ปรากฏวันที่ที่แน่นอน คำนวณอายุได้ ๗๖ ปี )

ตามประวัติท่านจะทำตะกรุดใต้น้ำ ในวันเพ็ญเดือน๑๒ ของทุกๆปี ปีไหนตรงกับวันเสาร์ยิ่งดียิ่งแกร่งเพราะเป็นวันแข็ง โดยท่านจะจุดเทียนลงไปจารในแม่น้ำหน้าวัด และที่หนองท่าเรือทองใกล้กับวัดท่าน

เมื่อจารเสร็จจะปล่อยตะกรุดลอยขึ้นมาเหนือน้ำ และขึ้นมาจากน้ำโดยสบงจีวรไม่เปียกและขั้นตอนการทำแผ่นตะกรุดก็แปลกไม่เหมือนใครคือ

ต้องเคี่ยวตะกั่วนมกับปรอทในกระเพาะควายเผือก เป็นเวลาถึง ๗ วัน ๗ คืน ซึ่งท่านจะควบคุมการเคี่ยวตะกั่วด้วยตัวท่านเองเสมอถึงกระทั่งบางครั้งลงมือเองก็มีอยู่บ่อยไปที่ใต้ถุนกุฏิของท่าน

เสร็จแล้วจะนำมาเทลงในสมุดข่อย เมื่อตะกั่วเย็นตัวลงแล้วก็จะนำไปตีแล้วตัดตามขนาดที่ต้องการ ๑นิ้ว ๑.๕นิ้ว ๒นิ้ว ๒.๕นิ้ว ๓นิ้ว ๔นิ้ว จนถึง๖นิ้ว "ที่ยาวกว่านี้ก็มีแต่หาพบเห็นได้น้อยมากๆ" เพี่อเตรียมพร้อมสำหรับในการลงตะกรุด(ลงจารอักขระ)ต่อไป

คาถาอาราธนาพระและตะกรุดหลวงปู่ศุข: ตั้งนะโม ๓ จบ : อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ

คาถาหลวงปู่ศุข : สัตถาเทวะมนุสสานัง พุทธโธภะคะวาติ มะอะอุ.

•••••การทดสอบวิทยาคม และพลังจิตจากพระอาจารย์ทั่วประเทศในปี พ.ศ.๒๔๕๒
หลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเป็น ๑ใน๑๐ คณาจารย์ผู้มีพลังจิตสูงในปี พ.ศ.๒๔๕๒ ที่จังหวัดนครปฐมได้มีการชุมนุมพระอาจารย์จากสำนักต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีการทดสอบวิทยาคม และพลังจิตจากพระอาจารย์ทั่วประเทศที่ได้รับนิมนต์มาร่วมในพิธี ๑๐๐กว่าองค์ ซึ่งแต่ละจังหวัดได้จัดให้พระอาจารย์ที่โด่งดัง และเก่งเรื่องสมาธิจิตในจังหวัดตนเองนั้นเดินทางไปร่วมในงานพิธี โดยมีการทดสอบพระอาจารย์ต่างๆ ครั้งละ ๑๐ องค์ มีสมเด็จพระสังฆราช (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่บริเวณ วัดพระปฐมเจดีย์ ในการทดสอบครั้งนั้นมีกติกาว่าให้เอาท่อนไม้มา ๑ ท่อน วางบนม้า ๒ ตัว แล้วเอากบไสไม้วางไว้บนท่อนไม้ แล้วประธานฝ่ายสงฆ์จึงบอกกติกาว่า อาจารย์องค์ใดสามารถทำกบไสไม้ให้วิ่งไสไม้ไปกลับได้โดยกบไม่หล่นทำการทดสอบกันถึง ๓ วัน ๓ คืน พระอาจารย์ส่วนมากสามารถใช้จิตบังคับให้กบวิ่งไปได้ แต่กลับไม่ได้ ที่ทำให้กบไสไม้ไปกลับได้ มีด้วยกัน ๑๐ รูป ในสิบรูปนั้นมีหลวงปู่ศุขเป็น ๑ใน๑๐ นั้นด้วย และในพระคณาจารย์ที่มีจิตญาณวิเศษสูงส่งทั้ง ๑๐ ท่านที่กล่าวถึงคือ.

•••••หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า
•••••หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ
•••••หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
•••••หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
•••••หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
•••••หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
•••••หลวงพ่อทอง วัดเขากบทวาศรี นครสวรรค์
•••••หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย
•••••หลวงปู่ยิ้ม หนองบัว
•••••หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ ชุมพร

เปิดบูชา 25000บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638​

โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

ปิดรายการครับ ​

[/url][/CENTER][/IMG]

[/url][/CENTER][/IMG]

[/url][/CENTER][/IMG]

[/url][/CENTER][/IMG]

[/url][/CENTER][/IMG]

 

รายการที่45 ​

ตะกรุดโทนหลวงพ่อทบ วัดชนแดน
เนื้อสองกษัตริย์ ขนาด5นิ้ว โต1ซม ตัวจริงเสียงจริงเชือกไนล่อนเก่าถึงยุค​

ประสบการณ์ตะกรุดหลวงพ่อทบ วัดชนแดน
ประสบการณ์เรื่องอภินิหารตะกรุดโทนของหลวงพ่อทบนั้นจะยกมาเล่าให้ฟังสักเรื่องหนึ่ง คือในราวปีพ.ศ.2517 ตอนนั้นในอำเภอวิเชียรบุรี มีเรื่องพิพาทเกี่ยวกับที่ดินมาก ผู้ใหญ่ประเสริฐ ได้ถูกคุกคามจากผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง จะฮุบเอาที่ดินของผู้ใหญ่ประเสริฐ แต่ไม่สำเร็จ ผู้มีอิทธิพลคนนั้นจึงสั่งลูกน้องให้ฆ่าล้างครัว ผู้ใหญ่ประเสริฐจึงพาครอบครัวไปกราบมนัสการหลวงพ่อทบ พร้อมทั้งเล่าเรื่องต่างๆ ให้หลวงพ่อทบฟัง หลวงพ่อทบ วัดชนแดน ท่านจึงได้ทำน้ำมนต์อาบให้ทุกๆ คนจากนั้นท่านก็มอบ ตะกรุดโทนให้กับผู้ใหญ่และลูกชาย ส่วนภรรยาและลูกสาวท่านได้มอบเหรียญรูปท่านกับสีผึ้งให้ไป ก่อนกลับผู้ใหญ่ได้ถวายเงินจำนวน 500 บาทให้หลวงพ่อทบ แต่ท่านไม่รับ ท่านบอกผู้ใหญ่ว่า "เก็บเอาไว้เถอะยังมีความจำเป็นต้องใช้อีกมาก วันๆ ข้าไม่ใช้เงินอยู่แล้ว" จากนั้นท่านก็ให้พรผู้ใหญ่ และกำชับว่ากลางค่ำกลางคืนไม่มีธุระจำเป็นจริงๆ แล้ว อย่าออกไปไหนเป็นอันขาด มิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายได้ เมื่อกลับจากวัดแล้ว ทุกคนต่างก็มีกำลังใจที่จะต่อสู้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง ผู้ใหญ่ได้บอกกับลูกเมียให้ทำที่กำลังให้มั่นคง กลางคืนหากมีใครมาเรียกอย่าขานรับโดยเด็ดขาด ผู้ใหญ่กับลูกชายมีอาวุธครบมือ เพื่อรับกับเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น เวลาที่ผ่านมานานนับเดือนก็ไม่มีเหตุร้ายใดๆ อยู่มาวันหนึ่งแกรู้สึกตัวในตอนดึก และหิวน้ำจึงลุกขึ้นไปดื่มน้ำ สายตาของผู้ใหญ่ก็เห็นคนกำลังเดิมจะมาเปิดประตูขึ้นบ้าน ผู้ใหญ่จึงหยิบปืนลูกซองที่เตรียมไว้ยิงทันที เสียงปืนดังแชะ ผู้ใหญ่ยังไม่ละความพยายาม ขึ้นนกยิงอีกนัด เสียงปืนดังแชะเหมือนเดิม และแล้วบุรุษผู้มาในยามวิกาลได้ร้องขึ้นว่า "พ่อทำอะไรนะ ฉันเอง" เท่านั้นเองปืนลูกซองแทบหล่นจากมือ แกรีบเดินไปเปิดประตูและสวมกอดลูกชาย แล้วถามว่า "เอ็งหรอกหรือไอ้ทิด แล้วเอ็งออกไปทำไมตอนดึกดื่มเที่ยงคืนอย่างนี้" ลูกชายก็ตอบว่า "ฉันปวดท้องเบาจึงลุกไปฉี่ข้างนอก" ผู้ใหญ่ยกมือท่วมหัวแล้วพูดว่า "เป็นเพราะบารมีตะกรุดหลวงพ่อทบ วัดชนแดนแท้ๆ ที่ช่วยไม่ให้พ่อต้องฆ่าลูกในไส้" ในตัวของลูกชายผู้ใหญ่มีตะกรุดโทนของหลวงพ่อทบเพียงดอกเดียวเท่านั้น วัตถุมงคลและพระเครื่อง
เหตุการณ์ที่มีผู้ประสบเกี่ยวกับตะกรุดหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ส่วนมากจะถูกยิงแต่กระสุนด้านเป็นส่วนมากครับ พวกทหารที่ไปรบที่เขาคล้อ ภูหินร่องกล้าต่างก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับตะกรุดของหลวงพ่อทบกันมาก ชาวเพชรบูรณ์ต่างก็ห่วงแหนตะกรุดของหลวงพ่อทบมากครับ คาถาบูชาตะกรุดหลวงพ่อทบ วัดชนแดน
หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ (พระครูวิชิตพัชราจารย์) วัดพระพุทธบาทชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ นับเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีพลังจิตแก่กล้าเหนือธรรมชาติ อีกท่านหนึ่งที่เชื่อกันว่าท่านได้บรรลุธรรมชั้นสูง จนสำเร็จเป็น พระอรหันต์ อีกรูปหนึ่งที่มีผู้ให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสอย่างกว้างขวาง เมื่อท่านมรณภาพแล้ว สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อยแต่ประการใด จนถึงทุกวันนี้

เปิดบูชา 3500บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638​

โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

ปิดรายการครับ ​

[/url][/CENTER][/IMG]

 

ตะกรุด

จองครับ

 

รายการที่25 ติดจองครับ

ยังมีอีกหลายรายการที่ยังอยู่นะครับ ราคาที่ตั้งเป็นเพียงแค่ตัวเลข ราคาจริงอยู่ที่ทุกท่านครับ เข้ามาพูดคุยกันได้ครับผม

 

ยังเหลืออยู่หลายรายการให้เลือกชมน้ะครับ ต่อรองราคามาได้ครับ ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำด้านเครื่งรางทุกชนิดครับ LINE ID : golfsuphan-nb หรือโทรมาที่0922711638
รับประกันความแท้ถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากลครับ

 

รายการที่46​

ตะกรุดโทนหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ตัวจริงเสียงจริง ขนาด4.5นิ้ว ลายถักมาตรฐาน เชือกเก่าถึงยุค
​

พระครูวิหารกิจจานุการ หรือหลวงพ่อปาน โสนันโท แห่งวัดบางนมโค ตำนานผู้สร้างพระพิมพ์ทรงสัตว์ เนื้อดินเผา นอกจากพระเวชย์วิทยาคมที่แก่กล้าแล้ว ยังรอบรู้ด้านแก้คุณไสยกระทำ ตลอดจนถึงสรรพวิชาการแพทย์แผนไทยโบราณในการรักษาโรค...

•••••ท่านศึกษาพุทธาคมจาก หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ และหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ขนาดที่ว่า ก่อนหลวงพ่อเนียม สิ้นลมหายใจ ยังได้กำชับกับเหล่าสานุศิษย์ ว่าถ้ามีอะไรติดขัดไม่เข้าใจ ให้ไปถาม ท่านปาน แห่งวัดบางนมโค

•••••ตะกรุดของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นตะกรุดที่หาพบเห็นได้ค่อนข้างยาก อาจจะเป็นว่าท่านสร้างไว้น้อยก็เป็นได้ ดอกนี้เป็นตะกรุดไส้ฝาบาตร ถักเชือกขึ้นลายหนึ่งตามสูตรตะกรุดของท่าน ที่พิเศษตรงตะกรุดดอกนี้ โดยส่วนใหญ่ที่พบเจอจะเจอแต่เนื้อทองแดง และตะกั่ว ซะเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่แปลกถ้าจะเอ่ยถึงตะกรุดดอกนี้ว่าดอก “Limited Edition” ตะกรุดของท่านจะลงด้วยอักขระยันต์เกราะเพชร คาถาพุทธคม56 ซึ่งเป็นที่สุดของท่าน มีดีทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน เมตรา มหานิยม และโชคลาภ ค้าขาย ฯลฯ

•••••ขั้นตอนการสร้างผงของหลวงพ่อปานคือ “ที่ต้องเอ่ยเพราะตะกรุดดอกนี้มีการพอกผง” วิธีในการทำผงพุทธคุณ ท่านทำผง และลบผงด้วยตนเอง ทำเฉพาะในระหว่างวันเข้าพรรษาเท่านั้น ผงที่ทำได้แก่ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห และผงมหาราช ทำโดยปั้นขึ้นเป็นแท่ง เขียนอักขระลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงรวบรวมไว้เพื่อ สร้างลูกอม พระเนื้อผงพุทธคุณ และอุดลงบนด้านบนของพระเนื้อดินพิมพ์ทรงสัตว์ต่าง ดังนั้นผมจึงมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า พระไม่ว่าจะพิมพ์อะไร กับลูกอมของท่าน รวมถึงตะกรุด มีสรรพคุณเหมือนกันอย่างเดียวกัน วิธีอาราธนาการใช้อย่างเดียวกัน คือบูชา คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ดั่งเช่นที่เคยบูชากันมา พระพุทธคุณและความนิยม...

•••••ของ ของหลวงพ่อปาน ท่านขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ กันคุณไสย และอาจอธิษฐานเสี่ยงทายในบางอย่าง เช่น ถ้าเดินทางจะไปดีมาดี มีลาภและมีสุข ขอให้พระเย็นในฝ่ามือ หากไม่ดีมีภัยอันตราย ก็จะร้อนในฝ่ามือ (สรรพคุณนี้หลวงพ่อปานท่านระบุไว้ในใบฝอยวิธีบูชาพระของท่านเอง) คุณปรีชา เอี่ยมธรรม (จ่าเปี๊ยก) นักเล่นพระรุ่นเก่าและนักเขียนเรื่องพระเครื่องที่มีชื่อได้เล่าว่า พระหลวงพ่อปานนั้นขึ้นชื่อในทางรักษาโรคและเป็นที่หวงแหนของคนรุ่นก่อนมาก เมื่อตอนเด็ก ๆ คุณปรีชาชอบขอพระจากคนทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่จะให้ ไม่หวงกันนัก แต่มีอยู่รายหนึ่งไม่ยอมให้ คุณปรีชา เอี่ยมธรรม ได้เล่าว่า “....ผมจะขอพระที่เขาห้อยมากันคนละองค์ ส่วนใหญ่เป็นพระท้องถิ่น...ในชีวิตที่ขอพระตอนนั้นมีไม่ให้อยู่คนเดียว จำได้แม่น แกให้เหตุผลว่าถ้าแกให้ผมเอาไป เท่ากับเอาหมอไปจากหมู่บ้านเขาเลย พระองค์นั้นคือพระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์อะไรจำไม่ได้ นั่นเป็นเพราะสมัยนั้นการแพทย์ยังไปไม่ถึง ใครจะเป็นอะไรก็จะเอาพระมาแช่น้ำดื่มแก้โรคนั้นโรคนี้กัน

เปิดบูชา 4500บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638​

โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

ปิดรายการครับ




[/url][/IMG]

[/url][/IMG]

[/url][/IMG]​

 

รายการที่47 ​

หมากดีแห่งฝั่งธน หมากทุยเจ้าคุณผล วัดหนัง สภาพสวยสมบูรณ์ ทรงนิยมตามตำราหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง โดยตรงใช้แทนกันได้อย่างสบายใจ ​

หมากดีที่วัดหนัง!
•••••หมากทุย_ของท่านเจ้าคุณผล ลูกศิษย์สายตรงที่ไกล้ชิดที่สุด ของเจ้าคุณเฒ่า(หลวงปู่เอี่ยม แห่งวัดหนัง บางขุนเทียน) ทุกลูกที่ผมได้มา มีผิวเปลือกแห้งเหี่ยวย่น สวย สมอายุ แต่ก็ดูมีมนต์ขลัง แต่ละลูกก็มีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป ดูง่าย และสมบูรณ์เต็ม ๑๐๐% ใช้แทนกันได้ครับกับหมากหลวงปู่เอี่ยม "ศิษย์กับอาจารย์" ซึ่งตอนนี้ของอาจารย์มีราคาสะสมกันเป็นแสนกันไปแล้วถ้ายังเสียดายด้านทุนทรัพย์ แต่อยากรับของดีไว้ใส่ตัว ก็อย่ามัวรอช้า จัดไปกับหมากเม็ดนี้ หมากดีที่วัดหนังครับ

ถ้าเอ่ยชื่อว่า วัดหนัง บางขุนเทียน แล้วเชื่อว่าไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก และที่จะต้องนึกถึงเป็นท่านแรกเบอร์หนึ่งก็คือ ท่านเจ้าคุณเฒ่าพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม) เจ้าอาวาสองค์ที่ ๕ และถัดรองลงมาเป็นที่สองก็คงจะหนีไม่พ้น.........
หลวงพ่อท่านเจ้าคุณสุนทรศิลสมาจาร (ผล) เจ้าอาวาสองค์ที่ ๗ แห่งวัดหนัง บางขุนเทียน
ชาตะ ๖ สิงหาคม ๒๔๓๗ เวลา ๑๕.๐๐น.เศษ ตามแผ่นยันต์ดวงชะตากำเนิด ที่ผมได้แนบมาให้ดูดังในรูปองค์ที่ ๗๑ ในร้านลองเข้าไปดูกัน_(ค้นคว้าจากเอกสารของวัด)_แต่ตำราบางเล่มส่วนใหญ่ระบุว่าท่านเกิด ๑๓ สิงหาคม ๒๔๓๗?
มรณภาพ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ เวลา ๒๑.๑๐น. ศิริชนมายุ ๗๔ ปี ๖ เดือน

•••••เริ่มอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหนัง อ.บางขุนเทียน โดยมีพระภาวนาโกศลเถร (เอี่ยม) วัดหนังเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการนิ่ม แห่งวัดโคกขาม พระปลัดแจ้งแห่งวัดหนัง เป็นคู่กรรมวาจาจารย์ อุปสมบทแล้วจำพรรษา ณ วัดหนัง แห่งเดียว จนถึงวันมรณภาพ

•••••หลวงพ่อท่านเจ้าคุณนั้นเป็น "ศิษย์มีครู" เนื่องจากท่านเป็นศิษย์ของพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม สุวณฺณสโร) เจ้าอาวาสองค์ที่ ๕ ทำให้ท่านมีความเชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนาธุระ ตามแบบของหลวงปู่เอี่ยม ดังนั้น จึงถอดแบบอย่างมาจากองค์หลวงปู่เอี่ยมแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน หลวงปู่เอี่ยมเก่งอย่างไร หลวงพ่อท่านเจ้าคุณก็เก่งอย่างนั้นจึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจที่ท่านจะมีศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือศรัทธาในตัวท่านมากมาย และวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างไว้ก็ได้รับอิทธิพล และแรงบันดาลใจมาจากหลวงปู่เอี่ยมซึ่งเป็นอาจารย์ ดังจะเห็นได้ว่า ท่านได้สร้างวัตถุมงคล ไม่ว่าจะเป็นพระ หรือเครื่องรางของขลัง ล้อพิมพ์ตามแบบอย่างหลวงปู่เอี่ยมซึ่งเป็นอาจารย์ อย่างมากมายดั่งเช่น

•๐๑.เหรียญรุ่นแรก ปี ๐๙ สร้างเนื่องในโอกาสทำบุญ ๗๒ ปี มีเนื้อทองคำ เงิน อัลปาก้า บรอนซ์ทอง และ ทองแดง ทำจากกองกษาปณ์ (ก็มีรูปทรงใบพัทธสีมาล้อเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่เอี่ยมซึ่งเป็นอาจารย์)
•๐๒.พระชัยวัฒน์ก้นอุดชันโรงใต้ดิน ซึ่งมีมากมายหลานรุ่น และแต่ละรุ่นก็ได้รับความนิยม และมีมูลค่าการเล่นหา สะสมกันแพงในปัจจุบัน
•๐๓.พระปิดตาเนื้อผง และเนื้อชิน
•๐๔.หมากทุย
•๐๕.ตะกรุด และผ้ายันต์...ฯลฯ
จะเห็นว่าวัตถุมงคลของท่านจะได้รับอิทธิพลการสร้างพร้อมทั้งรูปแบบ วิธีลงอักขระเลขยันต์จากหลวงปู่เอี่ยมแทบทั้งสิ้น แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวบ่งบอก แบ่งแยกได้ง่าย ไม่สับสนในการเล่นหาสะสม

••••• ตำแหน่งท่านเจ้าคุณผลในขณะครองสมเพศ
หลวงพ่อเจ้าคุณ ฯ ได้รับสมณศักดิ์และรับพระราชทานสมณศักดิ์ ตำแหน่งที่การงานโดยลำดับ ดังนี้.-

•••พ.ศ. 2467 เป็นพระใบฎีกา ฐานานุกรมในท่าน เจ้าคุณพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม)
•••พ.ศ. 2468 เป็นพระสมุห์ ฐานานุกรมในท่าน เจ้าคุณพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม)
•••พ.ศ. 2470 เป็นพระปลัด ฐานานุกรมของพระวิเชียรกวี (ฉัตร)
•••พ.ศ. 2478 เป็นพระครูสัญญาบัตรผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นโท
(ฝ่ายวิปัสสนา)
•••พ.ศ. 2494 เป็นพระครูสัญญาบัตรผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก
•••พ.ศ. 2500 เป็นพระราชาคณะสามัญที่พระสุนทรศีลสมาจาร
•••พ.ศ. 2502 เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนัง
•••พ.ศ. 2503 เป็นเจ้าอาวาสวัดหนัง

เปิดบูชา 2500บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638​

โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

ปิดรายการครับ




]
​

 

รายการที่48
ลูกอมเนื้อตะกั่ว หลวงพ่อเนียม วัดน้อย จ.สุพรรณบุรี ตัวจริงเสียงจริงขนาด1.4 ซม
​

ลูกอมของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย จังหวัดสุพรรณบุรี ละก้อ ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีทีเดียวแหละเพราะกิตติศัพท์ในพระเดช พระคุณท่านอาจารย์รูปนี้ดังหลายยิ่งตอนท่านฤๅษลิงดำ เขียนประวัติของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ตอนท่านเป็นอาจารย์ด้านวิปัสสนาของหลวงพ่อปานแถมแทรก เกร็ดปาฏิหาริย์เกี่ยวกับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย จังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ผู้เขียนเอารู้จักหลวงพ่อเนียมดี ก็อีตอนอ่านหนังสือประวัติหลวงพ่อปานนี้เหมือนกัน

จะว่าดังไม่ดัง ดูได้จากยอดพระเครื่องเนื้อตะกั่วพิมพ์งบน้ำอ้อย และพิมพ์พระคงของท่าน แต่ถ้าพูดถึงลูกอมของท่านสร้างแปลก และมีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองคือสร้างเป็นลูกกลม ๆ ขนาดค่อนข้างเขื่องสักหน่อย ประมาณปลายหัวนิ้วโป้งด้วยเนื้อตะกั่ว เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้สร้างพระเครื่องพิมพ์งบน้ำอ้อย

เปิดบูชา 1500บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638
โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

[/url][/CENTER][/IMG]

 

รายการที่49 ​

ลูกอมพุทโทเนื้อปูนเสก คุณแม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธ จ.กรุงเทพ ลูกนี้สุดพิเศษครับ รอยจารมือคุณแม่เดิมๆเลยครับ เนื้อมวลสารสุดชัดเจนครับ ถ้าชอบด้านโชคลาภลูกอมชนิดนี้ไม่ควรพลาดครับ

​

ลูกอมพุทโทเนื้อผงปูนเสก คุณแม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธ ลูกศิษย์คณะสามัคคีวิสุทธิ์สร้างปั้นมือแจกเฉพาะศิษย์ใกล้ชิด หายาก คณะสามัคคีวิสุทธิ์คือคณะผู้ปฏิบัติธรรมบำเพ็ญบุญตั้งตามชื่อบ้านคือ บ้านสามัคคีวิสุทธิ์ คุณแม่และคณะลูกศิษย์เป็นผู้ตั้งขึ้น ลูกอมพุทโทในภาพ เป็นพระที่คุณแม่ได้อฐิษฐานธรรมเอาไว้และคุณแม่ให้ชื่อว่า"ลูกอมพุทโธตั้งตัว"ซึ่งมีที่มาคือ คุณแม่ท่านอยากสงเคราะห์ลูกศิษย์ของท่านที่ยังยากจนอยู่จึงได้ดำริ ให้สร้างพระชุดนี้ขึ้นมา(มีหลายพิมพ์ ปิดตา สังกัจจายขนาดเล็ก ขนาดบูชา พิมพ์พระพุทธและอีกหลายพิมพ์ตามแต่ช่างจะปั้น)พระทั้งหมดจะปั้นด้วยปูนขาวกินกับหมากที่คุณแม่อฐิษฐานธรรมเอาไว้แล้ว พระบางองค์คุณแม่จะให้ฝังศิลาน้ำ บางองค์จะฝ้งก้านธูปอฐิษฐาน บางองค์คุณแม่ให้ฝังพลอยเสก(มีทั้งเศษพลอยและพลอยเม็ดที่เจียรนัยแล้วที่ลูกศิษย์บ่อพลอยจากจันทบุรีนำไปถวาย ส่วนมากจะเป็นพลอยบ่อไร่จังหวัดตราดและพลอยบางกะจะจันทบุรี)พระทุกองค์จะถูกปั้นในฤกษ์ในพิธีที่มีคุณแม่นั่งเป็นประธานและท่านจะลงจาร"พุทโธ"ที่องค์พระด้วยตัวเองทุกองค์จากที่ถาม คุณยายบอกว่าคนปั้นพระมี 3 คน พระแต่ละองค์จะไม่เหมือนกันบางองค์เล็กบางองค์ใหญ่พิมพ์ทรงก็แตกต่างกันตามแต่คนปั้นจะรังสรรค์ออกมา เมื่อได้พระตามฤกษ์ที่กำหนดคุณแม่นำมาอฐิษฐานธรรมและแจกแก่ลูกศิษย์โดยมีเคล็ดว่า ถ้าเป็นพระปิดตาจะแจกแก่ลูกศิษย์ที่ยากจนเท่านั้นเพื่อให้เขาเอาไปบูชาประกอบสัมมาชีพ และตั้งเนื้อตั้งตัวได้ ดังนั้นพระชุดนี้ดีทั้งนอกดีทั้งในเจตนาสร้างบริสุทธิ์จากดำริของคุณแม่เองผ่านมือคุณแม่ทุกองค์ แต่พระชุดนี้มีจำนวนน้อยมากๆเพราะปั้นด้วยมือและแค่เท่าที่ฤกษ์ที่คุณแม่กำหนดเท่านั้นและเท่าที่ทราบจากคุณยายท่านบอกว่าเนื่องด้วยเวลาผ่านมาถึง50กว่าปีพระบางส่วนถูกความชื้นแตกสลายไปก็แยอะทำให้เหลือองค์ที่สมบูรณ์น้อยมาก

เปิดบูชา 2000บาท
สนใจติดต่อทางข้อความหรือโทร 0922711638
โอนเงินเข้าบัญชี นาย วุฒิพร โฉมสุข
ธ.ทหารไทย สาขาโรบินสันสุพรรณบุรี เลขบัญชี 6382102629​

​