เลือกซื้ออาหารอย่างไร ที่ไม่ถือว่าเป็นคนที่ติดรสชาติ

อ่านคำถามของ จขกท.แล้วมันทำให้ผมนึกไปถึงคำๆหนึ่งคือ ภพที่ชื่อว่านิพพาน
คือนิพพานภพ นี้จะมีจริงหรือไม่มีจริงก็ไม่ทราบ เพราะเป็นเพียงสิ่งที่ผมจินตนาการขึ้นมาเองเฉยๆ

ภพที่ชื่อว่านิพพาน หรือสวรรค์ที่ชื่อว่านิพพาน ไม่ใช่นิพพานจริงๆ
แต่เป็นเพียงสวรรค์หรือเทวโลกชั้นหนึ่ง ที่อุบัติมาตามความปรารถนา
ของผู้ที่ทำบุญแล้วตั้งจิตขอไปเกิดในนิพพาน แต่สภาวะการละกิเลสยังไปไม่ได้
ดวงจิตได้แค่กามาพจรฝ่ายกุศลเท่านั้น ก็เลยไปสร้างและเกิดที่ภพนี้
มีสถานะเป็นเทวโลก แต่ติดป้ายไว้ว่า "นิพพาน"
นี่ก็คือจินตนาการของผมเองนะครับ อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องจริง
หรือผมไปรู้ไปเห็นอะไรมา เพียงแค่สมมุติให้ฟัง

ใครที่ทำบุญแล้วตั้งความปรารถนาอยากไปเกิดในนิพพาน แต่ดวงจิตยังละกิเลสตัณหาไม่ได้ ระวังจะได้ไปเกิดในภพที่ชื่อว่า"นิพพาน"นี้ :boo:
(ไม่รู้มีจริงหรือเปล่า ผมแค่เดา)

 

น่าคิดดีครับ ช่วยกันเเชร์ความคิด งั้นผมเสนอต่อว่า ไปนิพพานที่ พระอรหัตน์ท่านอยู่ กันเหนียว 55

 

เหมือนอย่างที่คุณนิวรณ์เคยพูดเอาไว้ว่า สอนกันให้นึกเห็นภาพพระพุทธรูปตอนใกล้ตาย
เพราะหวังว่า ถ้าจิตเป็นกุศลแล้ว ตายไปจะได้ไปบังเกิดในเทวโลก แต่การณ์กลับปรากฏว่า
ตายไปแล้ววิญญาณไปสถิตเป็นปู่โสมอยู่กับพระพุทธรูป ไม่ได้ไปบังเกิดในสวรรค์ดังว่า

 

ส่วนนี้ผมคิดว่า ต้องพิจาราณา ตัวเจตนาว่า ก้อนพระ หรือ พระผู้ทรงความดี

 

ผมก็เลยมาเกิดความคิดว่า พวกที่ทำบุญแล้วตั้งจิตอยากไปนิพพาน แต่ดวงจิตยังไม่ได้ละกิเลสนี้ บางทีตายไปแล้ว อาจมีภพที่รองรับอยู่
มีสถานะเป็นเทวโลก แต่ติดป้ายชื่อว่า"นิพพาน" เพื่อรองรับคนที่ปรารถนาไปเกิดในนิพพาน
แต่สภาวจิตยังไม่ถึง(คือยังละกิเลสไม่ได้)

 

ขออนุญาตเสริม ที่คุณ Yostro พูดถึงภพนิพพานนั้น
มันคือ ชั้นจาตุมหาราชิกาหรือสวรรค์ชั้นแรกครับ..
เป็นที่ๆนักปฏิบัติที่พอจะสัมผัสอะไรได้บ้าง
แต่ว่าไม่ได้มาเจริญสติและปัญญาเพื่อลดละกิเลสจริงๆ
มักจะติดกับตรงนี้ มีการเตือนเรื่องทำนองนี้มามาก
โดยเฉพาะพระป่ามีชื่อในอดีตท่านมักจะเตือนประจำ
เอาไว้เตือนพวกที่พอมีสัมผัสได้บ้างเล็กๆน้อยๆ
เตือนพวกที่พอส่งจิตไปไหนมาไหนได้บ้าง
ที่ต่อมามักหลงตัวเองครับ
ชั้นนี้ประมาณเขาพระสุเมรนั่นหละครับ...
นอนๆอยู่ แค่ฝันๆก็ไปได้แล้วหละครับ
สำหรับบุคคลทั่วๆไปที่พอมีสัมผัสบ้าง
เล่าให้ฟังเฉยๆนะครับ

 

จริงๆแล้ว มันมีพรหมโลกชั้นพิเศษอยู่ ๕ ชั้น ที่เรียกกันว่า พรหมโลกชั้นสุทธาวาส
ซึ่งเป็นที่เกิดของพระอริยะบุคคลชั้นอนาคามี คือพระอริยบุคคลที่บรรลุถึงชั้นอนาคามี
ต้องไปเกิดที่ชั้นนี้
แต่ถามว่า ถ้าเป็นปุถุชน ทำบุญแล้ว ตั้งจิตอธิษฐานขอไปเกิดที่ชั้นนี้ได้ไหม
คำตอบคือไม่ได้ครับ ต้องบรรลุอนาคามีผลเสียก่อนเท่านั้นถึงจะไปบังเกิดได้
ฉันใดก็ฉันนั้น
พระนิพพานนั้น สำหรับผู้บรรลุอรหัตตผลแล้วเท่านั้น จึงนิพพานได้
ถ้าปุถุชนที่ยังละกิเลสไม่ได้ ทำบุญแล้วตั้งจิตอยากไปได้ไหม คำตอบก็จะเหมือนกัน คือไม่ได้
ต้องละกิเลส สำเร็จเป็นพระอรหันต์เสียก่อน จึงเข้าถึงนิพพานได้
มิฉะนั้น ก็อาจต้องมีภพสำหรับรองรับ ที่ชื่อว่า ภพนิพพาน ดังที่สมมุตเป็นตัวอย่างมาแล้วนั่นแหละ

 

ดีละ ดีละ

ในเมื่อหยิบประเด็น ภาพพระ แล้วกำหนดรู้ความไม่ประมาท

อันนี้ ต้องกลับไปที่ คำสอนพระ คำสอนหลวงพ่อฤาษีก็ได้ ท่าน
จะเน้นไปทาง ละรูปขันธ์ให้ได้ ละ กฬิงกลอาหาร(อาหารคือคำข้าว) ให้ได้

ในพระไตรปิฏก ผู้ที่ ปรารภนิพพาน สามารถตัด รูปขันธ์ได้เบ็ดเสร็จ
เด็ดขาด ไม่หวลไปพอใจ ไม่พอใจ เฉยๆกับ รูปขันธ์ มหาภูตรูป4ดิน น้ำ ลม
ไฟ ในพระไตรปิฏก จะระบุถึง ภพๆหนึ่ง ของผู้สำเร็จอนาคามีก่อนตาย
หรือขณะที่ตาย แล้ว ไม่สำเร็จอรหนต์ แล้วไปรวมอยู่ในภพ "สำเร็จด้วยใจ"
อันนี้มีอยู่ ไม่ใช่ไม่มี ...[ หาอ่านเรื่อง ภพสำเร็จด้วยใจ ได้ใน กถาที่
พระสารีบุตร เถียงกับ พระอุททายี(ถ้าจำไม่ผิด) ...]

ดังนั้น

คุณพี่ยอส สังเกต การตัดรูปขันธ์ อุบายการตัดรูป แยกรูป แยกนาม
ตรงนี้ให้ดีๆ

แล้วจะได้คำตอบ การเกาะภาพพระ ที่ไปเกิดเป็น โสมเฝ้าทรัพย์ จิ้งจก
แมลงมุม ตัวเล็น ตัวไร เกาะ พระพุทธรูป ไม่นิพพาน เพราะ เอาอยาก
นิพพานนำหน้าแต่ทว่า อยากในรูปขันธ์ ดิน น้ำ ลม ไฟ อย่างอื่นไม่รู้
อุบายนำออก อ้างยังไม่ใช่วาระ

ทีนี้ หากพี่ยอสกำหนดรู้ แยกรูป แยกนาม แยกรูปถอด(หลวงปู่ดูลย์)
มาพิจารณาส่วนนาม จิต(ซึ่งจะมีความแปรปรวนถอดรูปเป็น วิญญาณบ้าง
สัญญาบ้าง สังขารบ้าง เวทนาบ้าง รวมเรียก สุขุมรูป[นามรูปนั่นแหละ]) ยังไม่เจอ "จิตหนึ่ง" ก็จะเป็น โสมเฝ้า
ทรัพย์หากใช้สังขารเกาะภาพพระ จะเป็นเทวดาเฝ้าพระหากใช้วิญญาณ

ส่วนสัญญา และเวทนาเกาะภาพพระ อันนี้ ละเอียดไป ถ้ากำหนดรู้
สองตัวนี้ได้ จะวิปัสสนาเป็นและ จะเฉียดญาณ เฉียดนิพพานแท้ๆ
ไม่น่ากลัวเท่าติดด้วย สังขาร หรือ วิญญาณ


ถ้าจะให้ พูดสั้นๆ พี่ยอสของนวลปรางหา.... พี่ยอสตรึกให้ลงเป็น ขันธ์5(แทรก สัทธรรม เอาไว้นิดเดียวพอ )
ก็จะ ปลอดภัยจากการ ใช้วิธีเกาะภาพพระ ฮับ

 

อ่อ ครับ ผมนึกว่า ภพที่ชื่อว่านิพพานนี้ สมมุติว่า ถ้ามีจริง
ควรจะสูงเทียบเคียงกับสวรรค์ชั้นดุสิตได้ซะอีก เพราะเป็นที่อยู่ของผู้ที่
ทำบุญแล้วอยากไปเกิดในนิพพาน
แต่ก็โอเคละครับ เอาตามนั้น เพราะผมเองก็ไม่ได้ไปรู้ไปเห็นอะไรมา แค่คิด
และจินตนาการเล่นเฉยๆ
ก็เลยลองพูดมาให้หลายคนนำไปคิดเท่านั้น ไม่ได้จริงจังอะไรมาก

 

ทีนี้

ถ้า คุณพี่ยอสของนวลปรางหา.....ี พอเข้าใจ ปฏิปทาเกาภาพพระ
ที่แยกได้ระหว่าง ไม่ใช่ทาง กับ ใช่ทาง

คุณพี่ยอสของนวลปรางหา.....ี ไม่จำเป็นต้องไปฝึกพิสูจน์ เกาะภาพพระ

แต่ให้ กำหนดรู้ ญาณ การหยั่งลงไปในสัทธรรม เอาสัททานำหน้า
ตรงที่กำหนดรู้เห็น " ญาณหยั่งรู้ว่าใช่ทาง ไม่ใช่ทาง "

เอาญาณตัวนี้ ยกขึ้น อันมีแล้วที่จิต ดับไปที่จิต ตามเห็น
" ญาณหยั่งรู้ว่าใช่ทาง ไม่ใช่ทาง " เกิด ดับ ไปเลยฮับ

แล้วจะได้ ญาณเห็นอริยสัจจ4 เกิด แล้ว ก็ดับ

ถ้าไม่กำหนดตัวนี้

จะสัททาธรรม เดี๋ยวก็ผลิกออกไปทางโลก เดี๋ยวก็ผลิกกลับมาใส่ใจธรรม
แทนที่จะเห็น ความเกิด ความดับ ของสิ่งนี้ ไปมัว ชะเง้อ หาผลการปฏิบัติ
แบบ สังขารริกัง จะหา อสังขตไม่เจอ

พอไม่เจอ อสังขต ก็จะ ลูบคลำ สัทธรรมไปเรื่อย พระพุทธศาสนาเกิดดับ
ไปเป็นล้าน ก็ งง อยู่นั่นว่า สัจจะ หรือ นิพพาน อยู่ไหน


ธรรมาธรรมะปฏิบัติ มรรค และ ผล เป็น อกาลิโก ครับ

ถ้ายังมี เลื่อน มีวาระ โดนหลอกแน่นอน

 

แค่ถือ ๕ มั่นคงมาซักระยะหนึ่ง...
แค่จิตพอมีสัมผัสทางนามธรรมต่างๆ
หรือพอทำอะไรได้บ้างเล็กๆน้อยก็ไปได้แล้ว
ชั้นที่ส่วนตัวว่านะครับแถมนอนๆหลับๆยังไปได้
ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย. ถึงบอกว่าสำหรับ
คนที่ว่าตัวมีอะไรพิเศษแต่หลงตัวเองนั้นหละครับ


แต่ถ้าแค่มีศีล ๕ แต่มีความสามารถในการไปได้
ยังไงก็ยังไปไม่ถึงชั้นพรหมนะครับ
แม้ขึ้นไปได้เค้าก็จะไม่ให้ผ่านเข้าไปครับ

ยกเว้นว่าจะขอบารมีพระช่วยก่อนแบบชั่วคราว
ตั้งแต่เริ่มต้นครับ
และแม้ว่าจะเป็นเซียนสมาธิไปไหนได้จริงๆ
และเป็นคนดีมีเมตตาหรือจิตใจดีจริงๆเก่งแค่ไหน
แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่
ก็ไม่เกินชั้นพรหมอีกเช่นเคยครับ

ยกเว้นในกรณีที่ ลป.บางท่านที่มีชื่อในอดีต
เช่น ลป. ชื่อย่อ ป. ที่เป็นครูบาร์อาจารย์ของบางท่าน
มักจะดึงลูกศิษย์ไปเรียนบนลานหินชั้นดุสิต
อย่างนี้คนนั้นถึงจะพอไปได้ ถ้าตาดีหน่อยก็จะเจอ
พระที่ทางศริสต์เข้านับถือแถวๆนั้นนั่นหละครับ

และการจะไปไหนมาไหนได้ โดยปลอดภัย
กรณีไม่ได้มีการขอบารมีพระนั้น
จิตดวงนั้นจะต้องมีกองสนับสนุน
อยู่เบื้องหลังด้วย ไม่ว่าจะครูบาร์อาจารย์
หรือพันธมิตรทางภพภูมิที่ได้สร้างไว้ครับ

ส่วนวิธีการตรวจสอบว่า จิตเราในทางด้านนามธรรม
ดีแค่ไหน ก็ให้ดูว่า ระดับไหนให้ความเคารพนับถือเรา
หรือว่านับเราเป็นเพื่อนครับ และถ้าเราพอมีความสามารถ
ไปได้ เราก็จะไปถึงได้ตามที่ระดับจิตของเราตอนนั้น
ที่เราเป็นอยู่ ซึ่งฝ่ายนามธรรมจะรับได้นั่นหละครับ
ตรงนี้เอาไว้ตรวจสอบตัวเองได้
ป้องกันการหลงตัวเองได้เป็นอย่างดีครับ
ยกตัวเช่น คิอว่าตัวเองมีศีล ๕ มีสมาธิ มีเมตตา
บรรละระดับโน้นนี่นั้น เป็นระดับโน่นนั้นนี้
แต่พอสัมผัสนามธรรมแม้แต่เทวดายังไม่เคารพเรา
ไม่มีความนอบน้อมเรา
อย่างนี้พอเข้าใจนะครับ จิตถ้าเป็นอย่างไรระดับนั้นๆจะนับ
เราเป็นมิตรครับ และระดับต่ำกว่าจะเคารพเราอย่างเห็น
ได้ชัดเจนครับ ตรงนี้คนทั่วไปจะดูไม่ออกครับ

ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังเล่นๆนะครับ
ไม่ควรยึดถือจริงๆจังอะไรดีแล้วครับ
แต่ที่คุณ Yo พูดมาเปรียบเรื่องภพนิพพานอะไรนั้น
เคยมีการสอนและแนะนำมานานแล้วหละครับ
ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครพูดนะครับ
ท่านที่พูด ล่วงลับไปแล้ว
ถ้าเอ่ยชื่อ รับรองว่าต้องเคยได้ยินครับ
นิพพานไม่ใช่ที่ๆสามารถจะไปได้
ด้วยการมาและการไปครับ
แต่มีอยู่ได้ทุกๆที่ แต่เป็นที่ๆไม่มีการเกิดอีกครับ
ความอยากแค่เพียงเล็กๆน้อยๆก็เข้าไม่ได้
แต่ใช้เป็นแนวทางได้แต่ว่า ต้องทิ้งให้เป็นครับ
จิตคลายตัวได้เป็นอย่างไร ทิ้งเรื่องกระทบต่างๆ
จนจิตคลายตัวได้เองโดยธรรมชาติเป็นอย่างไร จิตไม่รับไม่ดึงเรื่อง
ต่างๆเข้ามาจนจิตคลายตัวได้เองเป็นอย่างไร
กิริยาตรงนี้ ต้องเกิดเป็นปกติแล้วแทบจะทั้งวัน
และต้องมีสติรู้และเห็นกิริยาของจิตตรงนี้ด้วยครับ
สำหรับบุคคลที่จะพอจะเห็นเส้นทางเข้านิพพานได้ครับ
ย้ำว่าแค่พอจะมองเห็นบ้างนะครับ
ถ้าไม่เคยรู้เห็นกิริยาตรงนี้เลย
ไม่ต้องไปพูดถึงให้เสียเวลา
เอาเวลาไปปฏิบัติดีกว่าครับ

และแม้จะเห็นภาพพระพุทธฯได้(ส่วนมากจะโดนหลอก
ยิ่งถ้าสติทางธรรมไม่พอในระดับที่แยกแยะได้ว่า
สิ่งที่เห็นเป็นกระแสท่านจริงๆแล้วหรือไม่รับรองเสร็จครับ)
และแม้ว่าเป็นจิตท่านจริงๆได้ก็ยังไปติดที่ชั้น ดุสิตหรือดาวดึงส์
อยู่ดีครับ ยังไงก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดครับ
ปัญหาคือ คนไม่เคยฝึก ไม่เคยสัมผัส ไม่สร้างสติทางธรรม
มาเลย แยกแยะนิมิตไม่ได้ ไม่เคยซ้อมตาย เอาแค่ไปลอง
ขูดหินปูนดูก็ได้ ไม่ได้บรรลุอะไรและละกิเลสจนจิต
อยู่ในสภาวะนิพพาน จะได้เห็นอุคนิมิตพระพุทธฯ
ได้ไหมหละครับ หรือจะเห็นอะไรแล้วเพ้อเจ้อ
ข้อนี้ฝากไว้พิจารณาเฉยๆครับ

 

ผมมาจากพรหมชั้นที่4ครับ

 

ใหนช่วยสอนผมหน่อยซิครับ
ว่าจะสอนผมได้มั๊ย
ใหน
พูดสอนผมอย่างสุภาพชน
นะครับ

ผมเส้นตื้นคับ
เดี๋ยว
สอนไม่ดีผมตีกลับนะครับ
ผมอยากรู้

 

ขอแบบไม่เยอะนะครับ
กระชับ
สั้นง่าย
แล้วได้เลย
วิจัยกับวิจารย์ไม่เอาคับ

 

แล้วคุณนี พอจะรู้ไหมครับว่า พรหมา จะ โลกาธิปปติ สะหัมปะติ คนนี้เขาเป็นใครกัน ยิ่งใหญ่ขนาดไหน และมาจากพรหมโลกชั้นไหนกันครับ
เห็นอาจหาญมาอาราธนาให้พระพุทธเจ้าแสดงธรรมด้วย
แต่ไม่เห็นมีใครพูดถึงพรหมองค์นี้กันเลย

 

ว๊าาาว
คลื่นแรงดีแท้
5555+

 

ผมอยากคุยกับคนคนนั้นคับ

 

อยากคุยมากคับ
ผมไม่ได้มาปรามาสอาจารยคุณน๊าาาา
ผมอยากรู้

 

ว่าตัวผม
คิดผิดหรือคิดถูก
ผมอยากรู้ตัวผมเอง
คงไม่ผิด
ใช่ใหม
คุณนพ

 

ใหนคุณนพ
สอนผมซิ
ผมอยากรู้
คุณจะสอนผม
ให้ได้ดี
ได้มั๊ย