สอบถามนะครับ เกี่ยวกับกาม อภิญญา

สอบท่านผู้เชี่ยวชาญ ด้านกามศาตร์ครับ

ผมทีความรู้สึกปราถนาในเพศตรงข้าม

อย่งาสนุกสนาน ผิดตรงไหนอ่ะครับ?

สัตว์โลกต้องดำรง เผ่าพันธ์ ถ้าไม่เป็นแบบนี้

สัตว์โลกจะสูญพันธุ์เอานะครับ การเสพกาม

เป็นความสุขที่แยบยล ผ่อนคลายไม่ใช่หรอครับ

เห็นแพทย์ หมอบอกว่าแบบนั้น

เสพกามด้วย ฝึกอภิญญาด้วย ผมว่าจะมีกำลังใจ

ในการฝึกนะครับ
็

 

ยากครับ กามทำให้อภิญญา พลังทดทอย อาจจะได้ช้าหรือไม่ได้เลยเพราะกาม

 

ดีครับ ฝึกให้สำเร็จแล้วประกาศให้โลกรู้ไปเลย
ถ้าคุณสามารถฝึกให้บรรลุอภิญญาได้โดยที่สามารถเสพกามไปด้วยได้ ต่อไปคุณจะได้เป็นมหาศาสดาคนใหม่มีผู้หันมานับถือและเรียนรู้ไปด้วย เตะบรรดาศาสดารุ่นเก่าที่ล้าหลังให้ตกขอบโลกไปเลย
ขอแค่ให้ทำให้ได้จริงเท่านั้น

 

ขอบคุณครับ

 

ฝึกได้ ได้ฝึก

กับ ได้ กับสำเร็จ

คนละความหมายนะครับ

เจริญสตินะครับ ให้มากๆ

เจริญในธรรมครับ

 

อ้าววว ถามมาตอบไป กลายมาเป็นสั่งสอนผมซะงั้น
ก็คุณเองไม่ใช่หรือที่แสดงทัศนะว่าอยากฝึกอภิญญาไปด้วย ระเริงกามไปด้วย
ผมก็แสดงความคิดเห็นสนับสนุนแล้วไงว่า ให้พยายามฝึกให้สำเร็จ
ถ้าทำได้ จะได้ลบล้างทฤษฎีเก่าๆไปซะที แบบนี้ไม่ดีอีกหรือ ??
ในเมื่อตัวคุณเองทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แล้วจะพูดขึ้นมาทำไม

 

เหมือนประชดนะครับ

 

คิดดูจากข้อความนี้ก็น่าประชดอยู่

 

ส่วนมากคนที่เมา มักจะบอกว่าฉันไม่เมา คนที่ทำไม่ดีในสายตาเรา เเต่เขาจะบอกว่าเขาทำดีเเล้ว มันเป็นธรรมดา ปล่อยวางอย่างเดียว สุขใจ เขาดีของเขาก็ปล่อยให้เขาดีเเบบของเขา เราก็ดีเเบบของเรา ถ้าฉลาดก็ดีเเบบคำสอบพระพุทธเจ้า

 

ถ้าเป็นญาณโลกี ได้อภิญญาก็เป็น อภิญญาโลกี ครับ จะเสื่อมก็ต่อเมื่อผิดในศีล ฤาษีหลายๆตนในชาดกก็ได้อภิญญาแต่ก็ยังเสพกามอยู่ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของมักนารีผล ในป่าหิมพานต์ เกิดขึ้นมาก็เพื่อสนองกามให้กับเหล่าฤาษีทั้งหลายได้เสพ(อันนี้ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ก็เพื่อเป็นการผ่อนคลายในเรื่องกามนั้นเอง

แต่ถ้าจะใช่อภิญญามาในทาง วิปัสสนาแล้ว(เพื่อให้หลุดพ้น) เรื่องกามถือว่าเป็นภัยจะทำควบคู่กันไปคงไม่ได้แน่นอน ยกตัวอย่างเช่นในพระไตรปิฎก มีสูตรหนึ่ง ที่กล่าวถึง พระอนาคามีในเพศฆราวาส ซึ่งก่อนจะเป็นพระอนาคามีมีนั้น ท่านได้แต่งงานมีภรรยามาก่อน แต่เมื่อสำเร็จพระอนาคามีแล้ว ท่านก็แยกห้องนอนกับภรรยา และไม่มีความต้องการทางกามหรือแม้กระทั้งทางเพศตรงข้าม จนทำให้ภรรยาน้อยใจคิดว่าสามี(ที่เป็นพระอนาคามี)ไม่พอใจ หรือมีภรรยาใหม่นอกบ้าน จึงคิดเสียใจ แต่ในภายหลังสามีก็ได้บอกให้ภรรยาเข้าใจ...

อันนี้ถือเป็นความเข้าใจส่วนตัวนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใด ก็น้อมรับฟังทุกท่านที่มีความรู้ครับ

 

ความเห็นส่วนตัวนะครับ ช่วงนี้ห้องอภิญญาสมาธิ
จะมีคำถามเกี่ยวกับทางกามเยอะเป็นพิเศษ
หรือว่าเพราะฝนมักตกบ่อย อากาศมันเย็นก็ไม่รู้ จบ..

และผู้เชี่ยวชาญด้านกามศาสตร์จริงๆ โดยส่วนตัวคิดว่า
ท่านคงไม่สนทางด้านอภิญญาแน่นอน ท่านคงจะทำวิจัย
เชิงคุณภาพในทางด้านกามศาสตร์ เพื่อหาเทคนิคคอล
เทอมทางด้านกามศาสตร์ เป็นทฤษฏีใหม่ ที่ออกมา
แล้วทำให้ชาวโลก ที่เน้นทางด้านกามศาสตร์ จนผู้เชียว
ชาญนั้นได้รับการยกย่อง ว่าเป็นบิดาแห่งกามศาสตร์แน่นอนครับ

แต่อย่าเราปถุชนคนธรรมดาบางกลุ่ม ที่ยังมีความต้องการทางเพศอยู่
เพราะเรารู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่เรายังไม่สามารถตัดขาดได้
และเราก็ยอม รับว่าเรายัดขาดไม่ได้ เป็นการพูดกับแบบลูกผู้ชายตรงๆ
มิได้มีการแสแสร้งว่า ว่าตนเป็นคนดี ไม่ได้แสแสร้งว่าตน
นั้นเป็นผู้ละกามได้นั้น..
ที่ซึ่งต้องการที่จะมีความสามารถพิเศษร่วมด้วย
แม้ว่าตนเองจะยังตัดไม่ขาด
ในเรื่องของกามนั้น มีความสงสัยว่าจะฝึกจิต
จนให้เกิดอภิญญาสมาธิได้หรือไม่...
ตอบว่าได้แน่นอนครับ แต่มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้...
๑.มีความเพียรและความสม่ำเสมอในการฝึกหรือไม่...
และเข้าๆออกๆคล่องจนเป็นวสีด้วยครับ
๒.ในขณะที่ฝึกสามารถตัดเรื่องกามได้หรือไม่...
๓.ในสภาวะเวลาปกติที่ไม่ได้ฝึก มุ่งมั่นเอาเรื่องหื่นกาม
เป็นหลักใหญ่ในชีวิตหรือไม่ ตลอดทั้งวันหลังจากไม่ได้ฝึก
หรือหื่นเป็นบางครั้ง ตามโฮโมนร่างกายตามวัยตนเอง..
๔.ถ้าเกิดหื่นกาม ถามว่า อารมย์ที่จะตอบสนองกามนั้น
มาจากอารมย์ทางด้านกุศลหรืออกุศล ถ้ากุศลหมายถึง
ต่างฝ่ายต่างสปาร์ค ต่างๆปิ๊งแว๊บใส่กัน โดยมิได้โกหก
หลอกหลวง ใช้อุปกรณ์เสริม หรือวิธีหลอกหล่อใดๆ
เพื่อมุ้งเน้นสนองให้ได้ซึ่งกามอย่างเดียว....
ถ้าเป็นไปประมาณ ๔ ข้อจะสามารถฝึกให้เกิด
ความสามารถพิเศษได้...
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ..
๑.ความสามารถนั้นจะเสื่อมได้ หากมีอารมย์กามเข้ามาเกี่ยวข้อง
๒.ต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกและความสม่ำเสมอในการฝึกที่นานขึ้น
เช่น ความสามารถ A ปกติเฉลี่ย ๑ ปีสำเร็จแต่ท่านอาจจะต้องใช้
เวลาไม่ต่ำกว่า ๕ ปีเป็นต้น
๓.ท่านต้องเข้าใจว่าเสื่อมในที่นี้ ไม่ใช่กำลังตกการใช้งานมันตกลง
แต่มันคือ ใช้อีกไม่ได้ ท่านต้องมาฝึกแบบสม่ำเสมอ มีความเพียร
ต่อเนื่องจนกระทั่งกลับมาใช้งานได้อีก


๔.ท่านต้องเข้าใจว่า แม้ว่าท่านจะฝึกจนสามารถใช้งานได้จริงแล้วก็ตาม
แต่ท่านต้องยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นว่า มันจะต้องเหนื่อย มันจะต้องหนัก
มันจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติ กว่าจะเกิดผล และผลที่เกิดนั้นก็เกิดขึ้น
ได้ในระดับที่ไม่ดีมาก เช่น การรักษาโรคบางอย่าง ท่านอาจใช้เวลาเป็น
ชัวโมงแค่พอทุเลา ทั้งที่ควรไม่กี่นาทีแล้วดีขึ้นมากกว่าแค่ทุเลาเป็นต้น..
หรือความสามารถบางอย่าง ท่านต้องตั้งท่า มีลีลากว่าจะใช้งานได้
ซึ่งความเป็นจริง มันไม่ควรจะต้องตั้งท่าหรือต้องมีลีลาประกอบอะไรเป็นต้น...

และเรื่องกามมีผลต่อเรื่องของกำลังจิต เรื่องความหนาแน่นของใช้งาน
ที่จะตกลงบ้างเล็กน้อยครับ แต่กรณีนี้นั่นหมายความว่า
ตัวจิตท่านจะต้องใช้งานได้แล้ว ท่านถึงจะเริ่มสังเกตุผลได้นะครับ
แต่ถ้าท่านยืนพื้นมาทางด้านกามก่อน แล้วกรรมกรฝึกจนสามารถ
ใช้งานทางจิตได้ ท่านจะแยกแยะไม่ออกในเรื่องนี้
และท่านอาจจะคิดได้ว่า ท่านเก่งที่สุดแล้ว ณ เวลานั้น
ทั้งๆที่ท่าน ทั้งเหนื่อย ทั้งหนัก ทั้งใช้เวลานาน
ท่านก็จะคิดว่าท่านเก่งกว่าใครได้อย่างคาดไม่ถึงครับ..

ให้พึ่งพิจารณาเอาเอง ถือว่าเล่าให้ฟังเฉยๆนะครับ
ขอเสริมคุณนักบุญภาคอีสาน เมื่อมี ๓๘ มีฤาษีท่านหนึ่ง
บำเพ็ญมา ๕๐๐ ปีในป่าเม็ดมะม่วง(ป่าหิมพานต์)ไปจอด
เพราะไปเสร็จเรื่องมักกะรีผลหรือนารีผลอยู่ท่านหนึ่ง
โด่งดังพอสมควรครับ...
ปล.ญานโลกีย์มันต้องฝึกเอา จนเข้าออกคล่องจนเป็นวสี
และมันมีเสื่อมได้คือใช้ไม่ได้เลย และต้องฝึกเอาใหม่ครับ
แบบโลกุตระเข้าถึงได้ ด้วยการละ การคลาย
เรื่องกิน กาม เกียรติ์ การตัดลาภ ยศ สุข สรรเสริญได้
ไม่มีเสื่อม มีแต่จะพัฒนาขึ้นได้ของมันเอง
ตามแต่การละได้ ตัดได้ ของตัวจิตครับ
และที่สำคัญคือไม่ต้องไปฝึกให้ยุ่งยาก
เพียงแต่ท่านต้องอาศัย แบบโลกีย์เพื่อให้มัน
เกิดขึ้นมาให้ได้ก่อน ยกเว้นท่านที่สามารถ
มีเกิดขึ้นได้เอง เป็นอีกกรณีหนึ่งครับ
พวกนี้ถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล แล้วแต่จะชอบไม่ชอบ
และพึ่งระลึกไว้ว่า ยังไม่ใช่ทางหลุดพ้นนะครับ (^_^)

 

ถามท่านผู้รู้ ที่เข้ามาตอบนะครับ

ถ้าเกิดอาการ กาม รุมเร้าอย่างรุนแรง

จนหน้ามืดตามัว และผมอยากจะดับมัน

ในทันที ทันใด อย่างกับเป่าเทียน ให้ดับสนิทดับพรึ๊บ

ในทันควัน มีวิธี ไหนพอจะทำได้อ่ะครับ

ทำแล้วแบบว่าได้ผลจริงๆ

 

ผมเชื่อว่าถือกรรไกรเอาไว้ติดตัวเเข็งเมื่อไร ควักออกมาตัดเลยครับ ถ้าหดก็รอดไป

 

อานาปานสติ ฮับ

เหน. อาการหมายรู้สภาวะลมหายใจ เข้า.ฯ ออกเกิดดับ. นี่แหละ

แต่เปนนี่แหละ. ที่ต้องฝึกให้ถูกวิธี นมสิการให้ถูกวิธี

เพราะถ้า นมสิการผิด. ด้วยการดำริเอา. มันจะกลายเปนกาม
ที่ทำให้เกิดกำหนัด

และแม้นจะถูกวิธี ก็ยังต้องใช้ปฏิภาณอีกนิดหน่อยว่า

แม้นการระลึกได้ในการเหนสัญญาเกิด. สัญญาดับ ก็ไม่เที่ยง

จึงจะพอเรียกได้ว่า เจริญธรรมานุสติปัฏฐาน จิตถึงจะตั้งมั่นพอ

พอให้เหนสภาวะ. ที่เลิสกว่า. วิเศษกว่า. อันมี สันติลักษณะ
ให้ค่อยๆเลื่อมใส

พอกพูลความเลื่อมใสต่อไปเรื่อยๆ. จนกว่า. จะ อจลสัททา
ถึงจะเข้าใจ เพราะเข้าถึง. หมดกริยาคาดเดา เปรียบเทียบ
ไม่ต้องถาม หรือทดลอง ลูบคลำ ลังเล ในผลอึก

 

แต่ถ้าฟังข้างบนแล้ว. ไม่รู้เรื่องเลย. แต่ก้สนใจ. การดับไปของหน้ามืด

เพราะเหนอยู่ว่า สภาวะหน้ามืดเปนภาระหนัก

ก้ให้กำหนดรู้ สถาวะจิตที่ระลึกได้ว่ามันหนัก

หนักที่สุดรวมลงมาที่ใจ

เหนความสั่นไหนของใจนั่นแหละ. ภาระหนัก. แทนสภาวะหนักอื่นๆทั้งหมด

ฉลาด. มีปฏิภานในการระลึก. ได้ของหนักเบายิบๆยับๆ จะสั่นไหวบางเบา
แค่ไหน. สัญญหมายรู้สภาวะหนักเบาไหวๆ. อัสสาสะ ปัสสาะดั่งลมเข้าลมออก

กายทั้งปวงเกิดจากการสั่นไหว ไออุ่น. จุดและต่อม

น้อมไปเหนสภาวะกายส่วนหนึ่ง. ความพอใจในกายอันมีความสั่นไหว
หล่อเลี้ยงให้ดำรงของมันอยู่เพราะมนุษย์มีรากเง้าจากกามอันเริ่มมาจาก
พ่อแม่ เหนความพอใจในความสั่นไหวเกิดดับ. มีของมันเอง ดับของมันเอง
ตราบใดกรรมยังให้ผลอยู่ในภพเดิม. ก้เหมือนมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าเวทนาพอใจ
ไม่เกิดกับความสั่นไหวของกามคุณแล้ว. การมีชีวิตาอยู่ในภพนี้ก้หยั่งลง
ไม่ได้อีก. ตายไปเลยท่ามกลางความสั่นไหวก้มีมาก

เมื่อกำหนดรู้ภาระอยู่อย่างนี้ จะเหนกายไม่ใช่เรา. ความพอใจในการสั่นไหวเกิด
ดับของมันเองไม่ใช่เรา. สภาวะระลึกได้การหมายการครอง. ก็ไม่อยู่ในอำนาจไม่ใช่เรา

พอพิจารณาได้แบบนี้ จะเหนสภาวะความ. หมดภาระ. ให้ระลึกอีกฝากหนึ่ง

เปนหนทางดับไปของภาระทั้งปวงมีอยู่

ฝึกไปเรื่อยๆ. จนกว่าจะเลื่อมใส. มีจิตตั้งมั่น ไม่ฉวยภาระหนักเข้ามาง่ายๆ

ถึงจะ. อ๋อ. ว่าทำไมเขาสรรเสริญ. อภิญญาความรู้ยิ่งการดับไปของภาระ
จึงเปนอภิญญาเลิสที่สุด

 

ไม่น่าเป็นนักปฎิบัตธรรม
หรือสนใจธรรม
มันจะดีอยู่อยู่แล้วเชียว
ไม่น่าโง้เลย
หมายถึงใจ

 

แบบนี้ ok เลยครับ หวังดีกันจริงๆ
ขอบคุณครับ

 

โทษนะครับ เอาสมองส่วนไหนคิด

ลองตอบมาดูนะครับ

พวกขันที ราชองค์รักษ์ของจีน

ก็ถูกตัดกันทุกคน พอถูกตัด

บางคนกลับกลายเป็นชอบผู้ชายด้วยกัน

บางคน กลับกลายเป็นมักใหญ่ใฝ่สูง

ทะเยอทะยานสุดๆ

ตัดทางกายไม่มีผล อะไรเลย

ตัดใจ เท่านั้น ถึงจะใช่

แต่ที่ผมสนใจ คือ วิธีไหนดีสุด

 

ถ้าพอรับฟัง เอาแค่ รับที่จะฟังผ่านๆ. ตรงนี้ให้ยก. พิจารณาด้วย

จะเอาไว้ ยื้อยุติ ตอนที่กำหนดรู้สภาวะ. มืด. หนัก หมองๆ

ที่นี้ฟังต่อ

ตอนพระพุทธองค์ถูกนางจินกมาวิกา. มาทำอุบายว่า. ท้องกับพระพุทธองค์

พระพุทธองค์ตรัสว่า. กาม. มันเปนเรื่องเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ การมาปรักปรำจึง
มีเพียงสองคนเท่านั้รนที่รู้ว่าเสพหรือไม่

เจ้าของกระทู้ลองพิจารณา. จริงๆกาม. ไม่ใช่เรื่อง. หมู่สัตว์ การดำรงค์เผ่าพันธ์

มันเปนสิ่งที่ เจ้าตัวเท่านั้นลำพังทางเดียว แถมทีละทางด้วย. เดี๋ยวทางตาเดี๋ยวทางหู
เดี๋ยวทางกาย. เดี๋ยวทางการเพลินในการคิด. ฯ(ละ)

ดังนั้น. การจะรู้ธรรม ว่า เข้าใจธรรมไหม. จะอาสัยฟังจากผู้อื่นไม่ได้

เจ้าตัวต้องต่อสู้ พิจารณาโดย สันโดษ. เท่านั้น

ถ้าให้ผู้อื่นเล่า. ต่อให้เปนพระพุทธเจ้าแสดงธรรมตรงหน้า ยังไงก้จะเหมือน
โดนประชด. ไม่จริงใจ. อยู่ดี

 

อภิญญา ๖ คือ
1อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้
2ทิพพโสต มีหูทิพย์
3เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
4ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
5ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
6อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป

ถามว่า เทวดามีอิทธิฤทธิ์อะไร เทวดามีฤทธิ์แบบเดียวกับ อภิญญา ๕
ถ้าท่านเสพกามอยู่ ตัดอภิญญาที่ ๖ ได้เลย เพราะขัดกัน

ดังนั้น เอาเฉพาะอภิญญา ๕ ท่านไม่ต้องตัดกาม
แต่ถามว่าเทวดาเวลาใช้ฤทธิ์ ท่านเสพกามอยู่ หรือไม่เสพ?
แล้วเทวดาส่วนใหญ่เค้าจำเป็นต้องใช้ฤทธิ์กันไหม เทวดาที่เสพกามจนลืมทานอาหาร จะมีเวลาใช้ฤทธิ์อะไร?

คนจะใช้ฤทธิ์(อภิญญา ๕)แบบเทวดา ที่มีวิบากอันเป็นกุศลหนุนอยู่ จนมีพื้นฐานจิตที่มีคุณภาพกว่าคน มีกายที่เบากว่ามีจิตที่เบากว่า กว่าพื้นฐานจิตคนในโลก ถ้าท่านทราบกุศลและลักษณะจิตอย่างนั้น ก็ทำได้แน่นอน !!!

แต่ว่า อย่าลืมเรื่องเวลา เวลาของคนในโลกสั้นกว่า(ยุคนี้) แต่เทวดายาวนานกว่ามาก เวลาเสพกาม(ขั้นเมถุน) กับการที่จิตสงบในปีติแต่ไม่ใส่ใจกามคุณ ๕ เวลาเทวดายังมีมากกว่าคนในโลก

คนเราถ้าไม่ฝึกกรรมฐาน รักษาจิตให้สงบในศีลสม่ำเสมอ(หิริโอตตัปะเป็นฐาน) ให้ห่างไกลจากกามคุณ และว่างเว้นจากรสแห่งเมถุนธรรมพอสมควร(เห็นเป็นเรื่องธรรมชาติของระดับปุถุชนที่ยังพ้นไม่ได้ ก็ไม่ไปหลงไหลจนเกินไป เพียงแต่ยังตัดไม่ได้ แต่ทำไปแล้วก็แล้วไป แต่ก็เห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องวิเศษ) อันนี้ ถ้าจะฝึกอภิญญา ๕ แบบนอกพุทธ ก็แล้วแต่

เพียงแต่อภิญญาในศาสนาพุทธ ถูกใช้เป็นเพียงเครื่องมือกรรมฐานเพื่อหลุดพ้นเท่านั้น

ถ้าท่านจะใช้อภิญญาระดับเทวดาฝึกฝนกรรมฐาน ถึงจะถูกต้อง แต่ถ้าใช้อภิญญาทางโลก ผมว่ามันเลวร้ายกว่าการเสพเมถุนธรรมนะครับ