@@@ พระเครืองหลากหลาย มีพระเข้าตลอด ประกันทุกองค์ ชินบูรพา ครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ชินบูรพา, 29 พฤษภาคม 2016.

  1. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 20 ค่าบูชา 300
    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หลังหมู รุ่นคูณทอง หมูทอง ปิดทองหน้า-หลัง มีตะกรุด ปี 38

    รุ่นนี้ ค้าขาย เฮง เฮง เฮง ครับ



    [​IMG][​IMG]
    หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ สมเด็จ หลังรูปเหมือน ฝังตระกรุด 3 ดอก ปี 36
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2016
  2. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 21 ค่าบูชา 400
    พระผงหลวงพ่อเปิ่น รุ่นมหาเศรษฐี วัดบางพระ ปี 34

    ***องค์นี้พิเศษ ฝังตระกรุด*** หายากครับ



    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 22 ค่าบูชา 400
    พระผงหลวงพ่อเปิ่น รุ่นมหาเศรษฐี วัดบางพระ ปี 34

    ***องค์นี้พิเศษ ฝังตระกรุด*** หายากครับ



    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 23 ค่าบูชา 200
    หลวงพ่อเปิ่น รุ่นสร้างตึกอาพาธสงฆ์ กล่องเดิม ปี 35

    ที่ระลึกสร้างตึกอาพาธสงฆ์โรงพยาบาลหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ปี 35



    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 24 ค่าบูชา 250
    พระปรกโพธิ์สดุ้งกลับ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม

    พระสะดุ้งกลับ กลับเรื่องร้ายๆ ให้กลายเป็นดี ..ผ่อนหนักให้เป็นเบา ที่เบาก็หายไปหมดสิ้น

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 25 ค่าบูชา 300
    ลูกอมชานหมาก หลวงปู่ทิม วัดพระขาว


    "ลูกอมชานหมากหัวใจพระสีวลี" ของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้ใช้เมตตาและบารมีในการปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก ด้วยอิทธิเวทพุทธาคม อย่างลึกล้ำยากที่จะเสมอเหมือน

    หลวงปู่ทิม วัดพระขาว เวลาท่านแจกชานหมากท่านจะรับรองว่า เวลาต้องการให้ฉันช่วยอะไรก็ให้นำชานหมากของฉันมาใส่มือธิฐานนึกถึงฉันแล้วฉันจะช่วยให้สำเร็จในเรื่องที่ดีงาม(ผมว่าประโยคนี้ลูกศิษย์ที่ไปรับชานหมากจากมือท่านจะได้ยินบ่อยๆครับ)


    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 26 ค่าบูชา 300
    พระผงพุทธรักษา รุ่นสร้างโรงพยาบาล หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา

    "เกจิอภิญญาสังขารไม่เน่าเปื่อย"



    สุดยอดเกจิอาคมขลัง ผู้สืบทอดสรรพวิชาจาก"พระทองคำ แห่งเมืองกรุงเก่า" หลวงพ่อจง วัดหน้านอก มาอย่างครบถ้วนกระบวนความ อย่าง เป็นที่"รับรู้"และ"ยอมรับ"ของชาวเมืองกรุงเก่ามาช้านาน

    ท่าน เป็น"พระคงแก่เรียน"ชอบศึกษาหาความรู้ทางด้านเวทย์มนต์คาถา อัก ขระเลขยันต์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากท่านจะไปศึกษากับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกแล้ว ท่านยังได้ไปศึกษาวิชาต่างๆจากสุดยอดเกจิแห่ยุคอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท หลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงเป็น"ที่พึ่ง ในยามยาก"ของชาวบ้านมาโดยตลอด

    เรื่องขับคุณไสย์ ไล่ผี ปัดรังควาน ต่อกระดูก แข้งขาหัก ฯลฯ เรียกว่าท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน"ตั้งแต่เกิด ยันตาย"เลยทีเดียว แต่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านเป็นอย่างมาก ก็เป็น"ประสบการณ์"ในวัตถุมงคลของท่าน ที่มีกันอย่างมากมาย และมีกันอย่างต่อเนื่อง

    จนเป็นที่กล่าวขานของคนในพื้นที่ว่า ถ้าไม่มีพระของหลวงพ่อจง หลวงพ่อปาน หลวงพ่อขัน แล้วล่ะก็ ให้ใช้พระของหลวงพ่อเมี้ยน ก็แขวนบูชา"แทนกันได้"ครับ นี่แหละครับ"ตัวจริง ของจริง"จากเมืองกรุงเก่าอีกท่าน หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 27 ค่าบูชา 300
    พระผงพุทธรักษา รุ่นสร้างโรงพยาบาล หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา

    "เกจิอภิญญาสังขารไม่เน่าเปื่อย"



    สุดยอดเกจิอาคมขลัง ผู้สืบทอดสรรพวิชาจาก"พระทองคำ แห่งเมืองกรุงเก่า" หลวงพ่อจง วัดหน้านอก มาอย่างครบถ้วนกระบวนความ อย่าง เป็นที่"รับรู้"และ"ยอมรับ"ของชาวเมืองกรุงเก่ามาช้านาน

    ท่าน เป็น"พระคงแก่เรียน"ชอบศึกษาหาความรู้ทางด้านเวทย์มนต์คาถา อัก ขระเลขยันต์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากท่านจะไปศึกษากับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกแล้ว ท่านยังได้ไปศึกษาวิชาต่างๆจากสุดยอดเกจิแห่ยุคอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท หลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงเป็น"ที่พึ่ง ในยามยาก"ของชาวบ้านมาโดยตลอด

    เรื่องขับคุณไสย์ ไล่ผี ปัดรังควาน ต่อกระดูก แข้งขาหัก ฯลฯ เรียกว่าท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน"ตั้งแต่เกิด ยันตาย"เลยทีเดียว แต่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านเป็นอย่างมาก ก็เป็น"ประสบการณ์"ในวัตถุมงคลของท่าน ที่มีกันอย่างมากมาย และมีกันอย่างต่อเนื่อง

    จนเป็นที่กล่าวขานของคนในพื้นที่ว่า ถ้าไม่มีพระของหลวงพ่อจง หลวงพ่อปาน หลวงพ่อขัน แล้วล่ะก็ ให้ใช้พระของหลวงพ่อเมี้ยน ก็แขวนบูชา"แทนกันได้"ครับ นี่แหละครับ"ตัวจริง ของจริง"จากเมืองกรุงเก่าอีกท่าน หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 28 ค่าบูชา 300
    สมเด็จหลวงปู่ทอง หลวงปู่สมเด็จพระศรีสุโภชธรรมราชา หลวงปู่ตะติสัมมิธ


    พร้อมใบคาถา
    *** สวยแชมป์ เก็บดี น่าบูชามากๆ ***



    [​IMG][​IMG]

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 29 ค่าบูชา 300
    สมเด็จหลวงปู่ทอง หลวงปู่สมเด็จพระศรีสุโภชธรรมราชา หลวงปู่ตะติสัมมิธ


    พร้อมใบคาถา
    *** สวยแชมป์ เก็บดี น่าบูชามากๆ ***



    [​IMG][​IMG]

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 30 ค่าบูชา 300
    พระผงกลีบบัววัดสามปลื้ม วัดสามปลื้ม หลวงปู่โต๊ะ ปี 2515


    พิธีใหญ่ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    และ พระเกจิคณาจารย์มากมาย แห่งยุคนั้น ปลุกเสก


    จัดสร้างโดย จอมพลประภาส จารุเสถียร สมัยนั้นดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการสร้างในปี พ.ศ.2515 จำนวนการสร้างประมาณ 3000 องค์
    สร้างจากเนื้อเก่าพระกรุวัดสามปลื้มที่แตกหักจากการกรุ
    และผงอิทธิเจ มวลสารศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย
    ผ่านพิธีปลุกเสกโดย หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง , หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม , หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ , หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ และอีกหลายพระเกจิคณาจารย์มากมาย แห่งยุคนั้น
    ที่มีสิงห์อยู่ด้านหลังพระ เพราะเป็นการให้เกียรติแก่เจ้าพระยาบดินเดชา สิงห์ สิงหเสนี ซึ่งเป็นสมุหนายกและแม่ทัพใหญ่ในรัชกาลที่ 3
    และเป็นผู้บูรณะพระอารามของวัด ทั้งนี้มีศาลของท่านอยู่ในเขตพุทธาวาส ใกล้บ่อจระเข้ของวัด
    พระเครื่องรุ่นนี้พุทธคุณ ดีทางมหาอุดเเละเหนียว ผ่านประสบการณ์สมรภูมิมามากเป็นที่เล่าลือถึงความเข้มขลังเป็นที่สุด

    เคยมีตำรวจลองยิงที่หลังโรงพักเมืองสาด้วย .38 ปรากฎว่ายิงไม่ออก ของดี จริงครับ

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2016
  12. เด็กแปดริ้ว

    เด็กแปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +317
    จองครับ

     
  13. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 31 ค่าบูชา 2,000
    จิ้งจก หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง


    จิ้งจกมหาลาภ การทำมาค้าขาย เมตตา มหาเสน่ห์ อันดับ 1 เมืองไทย


    หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง หนึ่งในยอดพระเกจิของอยุธยา
    ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งจังหวัดชัยนาท
    โดย หลวงปู่หน่ายได้มีโอกาสอยู่รับใช้หลวงปู่ศุขจนกระทั่งละสังขาร
    ตลอดชีวิตของหลวงปู่หน่ายท่านได้นำวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือชาวบ้านและลูกศิษย์อย่างต่อเนื่อง ท่านเป็นสงฆ์ที่รักสันโดษ ครองบรรพชิตอย่างเรียบง่าย และไม่เคิยโอ้อวดตนเอง สุดท้านท่านละสังขารลงอย่างสงบ เมื่อวันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2531 สิริอายุ 86ปี
    หลวงปู่หน่าย แห่งวัดบ้านแจ้ง ถ้าพูดถึงวัตถุมลคล ทางเมตตาแล้ว จิ้งจกหลวงปู่หน่าย (นิยมสูงที่สุดของประเทศครับ)
    สำหรับวิชา คงกระพัน ตะกรุดของท่าน กล่าวขานกันว่า "เหนียวถึงกระดูก" ทีเดียวครับ

    [​IMG]
    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 32 ค่าบูชา 2,000
    จิ้งจก หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง


    จิ้งจกมหาลาภ การทำมาค้าขาย เมตตา มหาเสน่ห์ อันดับ 1 เมืองไทย


    หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง หนึ่งในยอดพระเกจิของอยุธยา
    ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งจังหวัดชัยนาท
    โดย หลวงปู่หน่ายได้มีโอกาสอยู่รับใช้หลวงปู่ศุขจนกระทั่งละสังขาร
    ตลอดชีวิตของหลวงปู่หน่ายท่านได้นำวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือชาวบ้านและลูกศิษย์อย่างต่อเนื่อง ท่านเป็นสงฆ์ที่รักสันโดษ ครองบรรพชิตอย่างเรียบง่าย และไม่เคิยโอ้อวดตนเอง สุดท้านท่านละสังขารลงอย่างสงบ เมื่อวันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2531 สิริอายุ 86ปี
    หลวงปู่หน่าย แห่งวัดบ้านแจ้ง ถ้าพูดถึงวัตถุมลคล ทางเมตตาแล้ว จิ้งจกหลวงปู่หน่าย (นิยมสูงที่สุดของประเทศครับ)
    สำหรับวิชา คงกระพัน ตะกรุดของท่าน กล่าวขานกันว่า "เหนียวถึงกระดูก" ทีเดียวครับ

    [​IMG]
    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2016
  15. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 33 ค่าบูชา 3,000
    เบี้ยแก้หลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่ จ.อ่างทอง


    หนึ่งในสุดยอดตำนานเบี้ยแก้ ของจังหวัด อ่างทอง

    เด่นด้าน โชคลาภ ค้าขาย
    และป้องกัน ขับไล่เสนียดจัญไร สิ่งอัปมงคล


    เบี้ยแก้หลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่....หนึ่งในสุดยอดตำนานเบี้ยแก้ ของจังหวัด อ่างทอง ที่พบเห็น และนับตัวจริงได้ยากแสนยาก เหตุเพราะท่านได้สร้างเบี้ยแก้ขึ้นมาน้อยนั่นเอง จากปากคำที่ผม_วัต ท่าพระจันทร์® เคยได้พูดคุยกับผู้เฒ่าผู้แก่ พื้นที่จังหวัดอ่างทอง ได้ความว่า เบี้ยคื้อตัวหอย ที่จะนำมาทำเบี้ยแก้ ทุกๆวัด ในจังหวัดอ่างทอง จะไปซื้อตัวเบี้ย(หอย) จากร้านขายเครื่องยาจีนในจังหวัดอ่างทอง และผู้เฒ่าผู้แก่ ได้เล่าให้ผมฟังว่า จากที่ท่านได้เคยสอบถามจากร้านขายเครื่องยาจีนในอดีต ที่ท่านจำได้ จะมีวัดในจังหวัดอ่างทอง มาซื้อหอยเบี้ยในสมัยนั้น หลักๆอยู่แค่ ๔วัดเท่านั้น คือ
    ๑.วัดตลาดใหม่ ๒.วัดโบสถ์ ๓.วัดนางใน ๔.วัดโพธิ์ปล้ำ
    และวัดที่ซื้อตัวหอยเบี้ยไปน้อยที่สุด ก็คือวัดตลาดใหม่ นั่นเอง

    ต่อไปนี้เป็นความรู้ หลวงพ่อซำ ท่านมีพรรษาที่มากที่สุดอาวุโสสูงสุดในบรรดาพระเถราจารย์ทั้ง ๔วัด ที่ได้เอยมา แต่คนส่วนใหญ่นึกว่า หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์มีพรรษาแก่ที่สุด มากที่สุด อาจเป็นเพราะ หลวงพ่อซำ ท่านมีอายุยืนยาวถึง ๙๔ปี ๗๑พรรษา ในขณะที่หลวงพ่อภักตร์ ท่านมีสิริอายุรวม ๖๐ปี ๔๐พรรษา
    “หลวงพ่อซำ เกิด ๒๔๑๓ บวช ๒๔๓๘ สิ้น ๒๕๐๙”
    “หลวงพ่อภักตร์ เกิด ๒๔๒๕ บวช ๒๔๔๕ สิ้น ๒๔๘๕”
    เรื่องแปลกเกี่ยวกับวันที่ คือหลวงพ่อซำท่าน เกิด บวช สิ้น ในวันที่เดียวกันคือ วันที่ ๑๕ ซึ่งอาจเป็นเรื่องแปลกที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์ควรรู้ และจดจำเอาไว้...หลวงพ่อซำ เกิด ๑๕ ส.ค. ๒๔๑๓ บวช ๑๕ ก.ค. ๒๔๓๘ สิ้น ๑๕ ม.ค. ๒๕๐๙

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อซำ ท่านได้เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ เรื่อยมา เป็นวัตถุมงคลที่ได้ชื่อว่ามีประสบการณ์มากมาย ทั้งเบี้ยแก้ ผ้ายันต์กันภัย ตะกรุดโทนคู่ใจ เหรียญปั๊มรูปเหมือนรุ่นแรก ปี ๒๕๐๖ แต่ที่เรื่องลือขึ้นชือลือชาก็คงจะไม่พ้น ”เบี้ยแก้” ของท่าน ( ตำราบางเล่ม สายบางสาย บอกว่า หลวงพ่อซำท่านเป็นอาจารย์ และถ่ายทอดวิชาทำเบี้ยแก้ให้กับ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมผู้เขียน วัต ท่าพระจันทร์® นำข้อมูลในวงเล็บนี้มาบอกกล่าวกันเพื่อเสริม และเป็นความรู้ในการวิเคราะห์ แต่ไม่ขอยืนยันข้อความในวงเล็บนี้ในข้อเท็จจริง )

    เบี้ยแก้ของหลวงพ่อซำ ท่านจะสร้างแต่แค่เฉพาะใน...วันอาทิตย์ วันอังคาร และวันเสาร์ ถ้าหากวันใดตรงกับวันพระท่านจะหยุดไม่สร้างเบี้ยในวันนั้น และท่านยังกำหนดไว้ด้วยว่าจะต้องทำตามกำลังวันนั้นๆ ดังเช่น วันอาทิตย์มีกำลังเท่ากับ ๖ ท่านก็จะสร้างขึ้นเพียง ๖ ตัวเบี้ยเท่านั้น วันอังคารมีกำลังเท่ากับ ๘ ท่านก็จะสร้างแค่ ๘ และวันเสาร์มีกำลังเท่ากับ ๑๐ ท่านก็จะสร้างเพียงแค่ ๑๐ ตัวเบี้ยเท่านั้นไม่ทำเกิน และท่านจะต้องตั้งศาสเพียงตาบูชาบรมครูบาอาจารย์ก่อนที่จะลงมือทำเบี้ยแก้ทุกครั้ง โดยหลวงพ่อซำท่านจะนำเอาตัวหอยเบี้ยตามจำนวนกำลังวัน ที่สร้างมาใส่ในพานพร้อมกับปรอท และชันโรง ตั้งในพิธีบวงสรวงอัญเชิญบรมครูให้มาสถิตประสิทธิ์ประสาทวิชา และเพื่อขออนุญาต ในการประกอบพิธ๊กรรมการสร้างเบี้ยให้เกิดพลังอันศักดิ์สิทธิ์ สำหรับชันโรงหลวงพ่อซำจะใช้ชันโรงที่ไม่เหมือนใคร คือท่านจะใช้แต่ชันโรงที่ตัวชันโรงมาทำรังอยู่ในต้นคูนเท่านั้น นอกจากจะ นำโชค ป้องกันภัย ป้องกันเสนียดจัญไร และคุณไสยต่างๆนานาได้วิเศษแล้ว เบี้ยแก้ของหลวงพ่อซำท่าน ยังเน้นผลทางโภคทรัพย์อีกด้วย

    เมื่อประกอบพิธีไหว้ครูแล้ว ท่านจะหยิบหอยเบี้ยขึ้นมา แล้วเทปรอทลงในอุ่งมือ จากนั้นหลวงพ่อซำจะบริกรรมคาถาเรียกแร่แปลธาตุสักพัก ท่านก็จะเทปรอทลงในตัวเบี้ย “จะใช้ปรอทไม่ถึงหนึ่งบาท ซึ่งต่างจากสายวัดนายโรง และวัดกลางบางแก้ว” จากนั้นจะนำชันโรงที่เตรียมไว้มาอุดปิกปากเบี้ยโดยรอบฐานตัวเบี้ยเพื่อป้องกันปรอทไหลออกจากตัวเบี้ย และเพื่อจะได้ปิดแผ่นฟอยล์อลูมิเนียมมาปิดทับชันโรงอีกชั้นหนึ่งเพื่อเป็นการรักษาสภาพใต้ท้องเบี้ย และเพื่อเป็นเอกลักษณ์เพื่อง่ายต่อการจดจำว่าเป็นของ ของท่าน และเบี้ยแก้ที่มีลักษณะแบบนี คือเบี้ยแก้ที่สร้างขึ้นมาในยุคต้นๆเท่านั้นคือตอนปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ถึง ๒๔๘๕ เท่านั้น

    คาถาที่หลวงพ่อซำใช้บริกรรมในการอุดชันโรง และปิดแผ่นฟอยล์นั้น ท่านจะใช้บทพระคาถามงคลนิมิตร โดยบริกรรมว่า
    “อะวิชา ปัจจะยะ ปิดจะยา ปัจจะยา
    อะวิชา ปิดจะยา ปัจจะยา ปิดจะยา
    อะวิชา ปัจจะยา อุอะมะตัง พุทธังอัดธะอุด”
    เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการศึกษาและจดจำ วัต ท่าพระจันทร์®


    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2016
  16. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 34 ค่าบูชา ให้บูชาไปแล้วครับ
    ตะโพนในตำนานหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์


    หลวงพ่อพักตร์ จณฺทสุวณฺโณ วัดโบสถ์ เจ้าของเบี้ยแก้แพงอันดับ 1 ของอ่างทอง เหรียญแพงอันดับ 1 ของอ่างทอง
    สุดยอดด้านเมตตา ค้าขายครับ


    ท่านเป็นพระคณาจารย์ดัง เป็นที่รู้จักกัน แพร่หลายทั้งในอดีตและปัจจุบัน เปรียบเสมือนเพชรน้ำเอกอีกเม็ดหนึ่ง ของชาวจังหวัดอ่างทอง วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นเขี้ยวเสือแกะ สิงห์งาแกะ ตะโพนงาแกะ ตะกรุดโทนเบี้ยแก้ผ้ายันต์แดงเหรียญรูปเหมือนพิมพ์เสมาหลังยันต์ ล้วนเป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดาลูกศิษย์และบุคคลเลื่อมใสศรัทธาโดยทั่วไป
    หลวงพ่อพัก จนฺทสุวณฺโณ ศึกษาพระเวทย์วิทยาคม จากอาจารย์วาตหรือครูวาต ซึ่งเป็นคฤหัสถ์และเป็นลูกผู้พี่ของท่านเอง โดยพื้นเพของครูวาตเป็นชาวบ้านท่ามะขามอดีตเคยเป็นมหาโจรอยู่แถวชานเมืองอ่างทองและสุพรรณบุรีเมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยชรา จึงได้เลิกลาจากการเป็นโจรสรรพวิชาต่างๆ ที่ได้เรียนมาท่านถ่ายทอดให้หลวงพ่อภักตร์ทั้งหมดเช่น วิชาการทำเบี้ยแก้ ทำตะกรุดโทน ทำผ้ายันต์แดง เป็นต้น อาจารย์คนต่อมาคือครูบุญ วิชาที่ได้รับการถ่ายทอดมา ได้แก่วิชาการปลุกเสกเขี้ยวเสือแกะ งาช้างแกะ เป็นวัตถุมงคลชนิดต่างๆ
    หลวงพ่อพักตร์ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อปี พ.ศ.2461เป็นเจ้าคณะตำบล พ.ศ.2462 และได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2485 ตรงกับปีจอ รวมสิริอายุได้ 60 ปี40 พรรษา เป้นต้นตำรับในการสร้างตะโพน ในเมืองไทย และรูปแบบทั้งหมดในอ่างทอง

    ตะโพนของหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ บางทีก็เรียกว่า "กลองตะโพน" "ตะโพนเรียกคน"
    ตามตำนานกล่าวไว้ว่า สมัยก่อนแรกเริ่มเดิมทีคณะลิเกหอมหวลนั้น ยังเป็นคณะลิเกเร่รอนไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเปิดการแสดง แต่เนื่องจากชื่อเสียงยังไม่เป็นที่รู้จักจึงทำให้มีคนมาชมการแสดงในแต่ละรอบน้อยมาก เมื่อคณะลิเกหอมหวลเดินทางมาถึงจังหวัดอ่างทอง สมัยนั้นชื่อเสียงของหลวงพ่อพักตร์นั้นเป็นที่รู้จักกันดี หัวหน้าคณะจึงเข้านมัสการและขออนุญาตท่านเพื่อจัดการแสดงลิเกที่วัดโบสถ์ ซึ่งท่านก็อนุญาตตามนั้น คณะลิเกหอมหวลจึงตั้งโรงลิเกขึ้นและเริ่มการแสดงในวันถัดมา ปรากฎว่าผ่านไป 3 วันแล้วก็ยังมีผู้ชมมานั่งชมการแสดงในแต่ละคืนน้อยมาก จนหัวหน้าคณะเริ่มถอดใจและคิดจะย้ายโรงลิเกไปแสดงยังสถานที่อื่นต่อไปจึงได้ขึ้นมากราบเรียนความประสงค์ให้ท่านทราบ หลวงพ่อท่านมีความเมตตาจึงบอกหัวหน้าคณะว่าให้ไปนำตะโพนมาให้ท่านแล้ววันรุ่งค่อยมานำกลับคืนไป หัวหน้าคณะจึงนำตะโพนลูกเดียวของคณะไปให้ท่าน
    พอวันรุ่งก็ได้ไปรับกลับมาซึ่งหลวงพ่อท่านย้ำว่า ให้ออกแขก (การแสดงเริ่มต้นเพื่อเปิดโรง) ตั้งแต่เย็นแล้วบรรเลงดนตรีไปเรื่อย ๆ แล้วจะมีคนมาดูเอง หัวหน้าคณะเมื่อได้ยินดังนั้นก็ไม่เชื่อเท่าไหร่ เพราะปกติการออกแขกจะนิยมเริ่มแสดงตอนหัวค่ำถ้าเริ่มตอนเย็นแล้วใครจะมาดูเย็นวันนั้นด้วยความอยากรู้ว่าหลวงพ่อท่านนั้นจะเก่งเหมือนที่ใคร ๆ ว่ากันหรือเปล่า จึงสั่งให้คณะลิเกของตนเริ่มออกแขกตั้งแต่เย็นและให้บรรเลงดนตรีไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาเริ่มแสดงจริงตอนหัวค่ำ ปรากฎว่าเย็นวันนั้นเสียงตะโพนที่บรรเลงนั้นได้ยินไปไกลหลายหมู่บ้าน เสียงนั้นดังนุ่มนวลและมีพลัง ทำให้ผู้คนที่ได้ยินเสียงมีความเคลืบเคลิ้มจนต้องเดินทางมาชมการแสดงในเย็นวันนั้น ประมาณว่านั่งไม่ติดแล้วยังจูงลูกจูงหลานมานั่งชมการแสดงลิเกอีกด้วย จากเมื่อเย็นคนมาไม่กี่คนพอหัวค่ำปรากฎว่ามีคนมานั่งชมการแสดงกันมากมาย เรียกได้ว่าตั้งแต่ตั้งคณะลิเกมาไม่เคยมีคนมานั่งชมมากแบบนี้มาก่อน ผ่านไปหนึ่งวันหัวหน้าคณะก็ยังไม่เชื่อว่าเกิดจากตะโพนที่หลวงพ่อท่านปลุกเสกให้พอวันที่สองก็สั่งให้คณะเริ่มการแสดงเหมือนวันแรกก็ปรากฎว่าไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากวันแรก และก็ลองอีกในวันที่สามผลก็ออกมาเช่นเดิมที่น่าแปลกใจก็คือขนาดฝนตกผู้ชมก็นั่งชมการแสดงแบบไม่ยอมกลับกันเลย แม้ว่าฝนจะตกแต่ก็ยังนั่งทนเปียกกันอย่างนั้น พอรุ่งเช้าวันที่สี่หัวหน้าคณะพร้อมนักแสดงในคณะก็เลยพากันมากราบลานมัสการและขอบคุณหลวงพ่อและกราบเรียนให้ท่านทราบว่าในวันรุ่งคณะลิเกจะย้ายไปจัดแสดงยังสถานที่อื่นต่อไป พอวันรุ่งทั้งคณะก็มากราบลาท่านด้วยความเคารพรัก หลังจากนั้นไม่นานชื่อเสียงของคณะลิเกหอมหวลนั้นก็เริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ จนคณะลิเกอื่น ๆ ในสมัยนั้นทราบข่าว ต่างก็พากันมาฝากตัวเป็นศิษย์และนำตะโพนของคณะมาให้หลวงพ่อท่านเสกกันมาก และปรากฎว่าทุกคณะก็มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น

    คาถาปลุกเสก
    โอม ตะนะ พนนะ เมตตาคุณณัง อะระหังเมตตา ใครเห็นใครรัก ใครเห็นใครหลงต้องมนต์ด้วย คุณณังอะระหัง สัตถาอาหะ สวาโหม ลูกขอบูชาคุณพ่อแก่ ครูอาจารย์อีกทั้งหลวงพ่อภักตร์วัดโบสถ์ และคุณพ่อคุณแม่จงมาช่วย..........(อฐิษฐานตามใจเรา) ขอแล้วหากสำเร็จให้ท่านไปใส่บาตรทำบุญด้วยตามศรัทธา(ห้ามด่าพ่อ แม่ เด็ดขาด)
    ให้หากระปุกมา หยอดเงินไว้เท่าใหร่ก็ได้ ทุกครั้ง เมื่อไปวัดให้ นำเงินทำบุญครับ

    คาถานี้ได้จากลุงลิเกเก่า เป็นคาถาตกทอดจากบรรพบุรุษครับ ไม่ผิดแน่นอน


    [​IMG][​IMG]

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2016
  17. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 35 ให้บูชาไปแล้วครับ
    มะเฟือง ในตำนานหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์


    หายากมาก

    บูชาติดตัวเหมือนดั่ง บูชาทั้งตะโพน และเบี้ยแก้
    (มะเฟืองเป็นสัญลักษณ์ พระแม่ลักษมี เช่นเดียวกับเบี้ยแก้)

    เด่นด้านค้าขาย และเมตตา
    สมดังคำพูดของคนเก่าอ่างทองที่ว่า มะเฟือง เฟื่องฟู


    หลวงพ่อพักตร์ จณฺทสุวณฺโณ วัดโบสถ์ เจ้าของเบี้ยแก้แพงอันดับ 1 ของอ่างทอง เหรียญแพงอันดับ 1 ของอ่างทอง


    ท่านเป็นพระคณาจารย์ดัง เป็นที่รู้จักกัน แพร่หลายทั้งในอดีตและปัจจุบัน เปรียบเสมือนเพชรน้ำเอกอีกเม็ดหนึ่ง ของชาวจังหวัดอ่างทอง วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นเขี้ยวเสือแกะ สิงห์งาแกะ ตะโพนงาแกะ ตะกรุดโทนเบี้ยแก้ผ้ายันต์แดงเหรียญรูปเหมือนพิมพ์เสมาหลังยันต์ ล้วนเป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดาลูกศิษย์และบุคคลเลื่อมใสศรัทธาโดยทั่วไป
    หลวงพ่อพัก จนฺทสุวณฺโณ ศึกษาพระเวทย์วิทยาคม จากอาจารย์วาตหรือครูวาต ซึ่งเป็นคฤหัสถ์และเป็นลูกผู้พี่ของท่านเอง โดยพื้นเพของครูวาตเป็นชาวบ้านท่ามะขามอดีตเคยเป็นมหาโจรอยู่แถวชานเมืองอ่างทองและสุพรรณบุรีเมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยชรา จึงได้เลิกลาจากการเป็นโจรสรรพวิชาต่างๆ ที่ได้เรียนมาท่านถ่ายทอดให้หลวงพ่อภักตร์ทั้งหมดเช่น วิชาการทำเบี้ยแก้ ทำตะกรุดโทน ทำผ้ายันต์แดง เป็นต้น อาจารย์คนต่อมาคือครูบุญ วิชาที่ได้รับการถ่ายทอดมา ได้แก่วิชาการปลุกเสกเขี้ยวเสือแกะ งาช้างแกะ เป็นวัตถุมงคลชนิดต่างๆ
    หลวงพ่อพักตร์ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อปี พ.ศ.2461เป็นเจ้าคณะตำบล พ.ศ.2462 และได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2485 ตรงกับปีจอ รวมสิริอายุได้ 60 ปี40 พรรษา เป้นต้นตำรับในการสร้างตะโพน ในเมืองไทย และรูปแบบทั้งหมดในอ่างทอง

    ตะโพนของหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ บางทีก็เรียกว่า "กลองตะโพน" "ตะโพนเรียกคน"
    ตามตำนานกล่าวไว้ว่า สมัยก่อนแรกเริ่มเดิมทีคณะลิเกหอมหวลนั้น ยังเป็นคณะลิเกเร่รอนไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเปิดการแสดง แต่เนื่องจากชื่อเสียงยังไม่เป็นที่รู้จักจึงทำให้มีคนมาชมการแสดงในแต่ละรอบน้อยมาก เมื่อคณะลิเกหอมหวลเดินทางมาถึงจังหวัดอ่างทอง สมัยนั้นชื่อเสียงของหลวงพ่อพักตร์นั้นเป็นที่รู้จักกันดี หัวหน้าคณะจึงเข้านมัสการและขออนุญาตท่านเพื่อจัดการแสดงลิเกที่วัดโบสถ์ ซึ่งท่านก็อนุญาตตามนั้น คณะลิเกหอมหวลจึงตั้งโรงลิเกขึ้นและเริ่มการแสดงในวันถัดมา ปรากฎว่าผ่านไป 3 วันแล้วก็ยังมีผู้ชมมานั่งชมการแสดงในแต่ละคืนน้อยมาก จนหัวหน้าคณะเริ่มถอดใจและคิดจะย้ายโรงลิเกไปแสดงยังสถานที่อื่นต่อไปจึงได้ขึ้นมากราบเรียนความประสงค์ให้ท่านทราบ หลวงพ่อท่านมีความเมตตาจึงบอกหัวหน้าคณะว่าให้ไปนำตะโพนมาให้ท่านแล้ววันรุ่งค่อยมานำกลับคืนไป หัวหน้าคณะจึงนำตะโพนลูกเดียวของคณะไปให้ท่าน
    พอวันรุ่งก็ได้ไปรับกลับมาซึ่งหลวงพ่อท่านย้ำว่า ให้ออกแขก (การแสดงเริ่มต้นเพื่อเปิดโรง) ตั้งแต่เย็นแล้วบรรเลงดนตรีไปเรื่อย ๆ แล้วจะมีคนมาดูเอง หัวหน้าคณะเมื่อได้ยินดังนั้นก็ไม่เชื่อเท่าไหร่ เพราะปกติการออกแขกจะนิยมเริ่มแสดงตอนหัวค่ำถ้าเริ่มตอนเย็นแล้วใครจะมาดูเย็นวันนั้นด้วยความอยากรู้ว่าหลวงพ่อท่านนั้นจะเก่งเหมือนที่ใคร ๆ ว่ากันหรือเปล่า จึงสั่งให้คณะลิเกของตนเริ่มออกแขกตั้งแต่เย็นและให้บรรเลงดนตรีไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาเริ่มแสดงจริงตอนหัวค่ำ ปรากฎว่าเย็นวันนั้นเสียงตะโพนที่บรรเลงนั้นได้ยินไปไกลหลายหมู่บ้าน เสียงนั้นดังนุ่มนวลและมีพลัง ทำให้ผู้คนที่ได้ยินเสียงมีความเคลืบเคลิ้มจนต้องเดินทางมาชมการแสดงในเย็นวันนั้น ประมาณว่านั่งไม่ติดแล้วยังจูงลูกจูงหลานมานั่งชมการแสดงลิเกอีกด้วย จากเมื่อเย็นคนมาไม่กี่คนพอหัวค่ำปรากฎว่ามีคนมานั่งชมการแสดงกันมากมาย เรียกได้ว่าตั้งแต่ตั้งคณะลิเกมาไม่เคยมีคนมานั่งชมมากแบบนี้มาก่อน ผ่านไปหนึ่งวันหัวหน้าคณะก็ยังไม่เชื่อว่าเกิดจากตะโพนที่หลวงพ่อท่านปลุกเสกให้พอวันที่สองก็สั่งให้คณะเริ่มการแสดงเหมือนวันแรกก็ปรากฎว่าไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากวันแรก และก็ลองอีกในวันที่สามผลก็ออกมาเช่นเดิมที่น่าแปลกใจก็คือขนาดฝนตกผู้ชมก็นั่งชมการแสดงแบบไม่ยอมกลับกันเลย แม้ว่าฝนจะตกแต่ก็ยังนั่งทนเปียกกันอย่างนั้น พอรุ่งเช้าวันที่สี่หัวหน้าคณะพร้อมนักแสดงในคณะก็เลยพากันมากราบลานมัสการและขอบคุณหลวงพ่อและกราบเรียนให้ท่านทราบว่าในวันรุ่งคณะลิเกจะย้ายไปจัดแสดงยังสถานที่อื่นต่อไป พอวันรุ่งทั้งคณะก็มากราบลาท่านด้วยความเคารพรัก หลังจากนั้นไม่นานชื่อเสียงของคณะลิเกหอมหวลนั้นก็เริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ จนคณะลิเกอื่น ๆ ในสมัยนั้นทราบข่าว ต่างก็พากันมาฝากตัวเป็นศิษย์และนำตะโพนของคณะมาให้หลวงพ่อท่านเสกกันมาก และปรากฎว่าทุกคณะก็มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น

    คาถาปลุกเสก
    โอม ตะนะ พนนะ เมตตาคุณณัง อะระหังเมตตา ใครเห็นใครรัก ใครเห็นใครหลงต้องมนต์ด้วย คุณณังอะระหัง สัตถาอาหะ สวาโหม ลูกขอบูชาคุณพ่อแก่ ครูอาจารย์อีกทั้งหลวงพ่อภักตร์วัดโบสถ์ และคุณพ่อคุณแม่จงมาช่วย..........(อฐิษฐานตามใจเรา) ขอแล้วหากสำเร็จให้ท่านไปใส่บาตรทำบุญด้วยตามศรัทธา(ห้ามด่าพ่อ แม่ เด็ดขาด)
    ให้หากระปุกมา หยอดเงินไว้เท่าใหร่ก็ได้ ทุกครั้ง เมื่อไปวัดให้ นำเงินทำบุญครับ

    คาถานี้ได้จากลุงลิเกเก่า เป็นคาถาตกทอดจากบรรพบุรุษครับ ไม่ผิดแน่นอน


    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2016
  18. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 36 ค่าบูชา 250
    หลวงพ่อเกษม เขมโก

    หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ ลำปาง พิมพ์กลีบบัว เนื้อผง


    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 37 ค่าบูชา 300
    หลวงพ่อเกษม เขมโก พระผงมหาลาภ ปี 36

    พระผงมหาลาภ สร้าง 28 พย ปี 36 ฉลองอายุ 83 ปี หลวงพ่อเกษม เขมโก สร้างน้อย หายากครับ
    ชื่อรุ่น มหาลาภ เป็นมงคลมากครับ

    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. ชินบูรพา

    ชินบูรพา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +4
    รายการที่ 38 ค่าบูชา 250
    หลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่น รูปเงินล้าน ปี 32


    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...