การที่เราฝันเห็นพระอรหันต์รูปเดิมถึง2ครั้ง มันคือเราอาจจะเคยมีบุญสัมพันธ์กับท่านหรือเรามโนไปเองครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Shinozuke, 22 พฤษภาคม 2016.

  1. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    ท่านที่จะบอกให้กระผมอยู่กับปัจจุบันก็พอ อย่าไปมัวนึกถึงอดีตขออนุญาติอย่าเพิ่งตอบนะครับ
    ขอถามท่านผู้มีความคิดเห็นจากประสบการณ์จริงของท่านน่ะครับ
    ผมไม่ถนัดด้านนี้น่ะครับ จึงจะขอคำชี้แนะท่านน่ะครับ ขออนุโมทนาครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040

    เอาเป็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดวงจิต
    แสดงให้ปรากฏในฝันหรือในนิมิต..
    แสดงว่าจิตดวงนั้นเคยมีสัมพันธ์
    เคยเห็น เคยผ่าน มาก่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง
    ไม่ว่าชาติใดชาติหนึ่งครับ...
    ส่วนตัวเราจะมีกำลังสติทางธรรม
    พอที่จะย้อนทราบได้หรือไม่เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
    ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญอะไรครับ..
    เพียงแต่เราไม่ยึด และให้เฉยๆไป
    เด่วอนาคตจิตจะมีเครื่องย้อน
    ทราบได้อัตโนมัติ
    ของมันเองครับ

    เพราะเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของจิตก็คือ
    การเก็บข้อมูลครับ..ข้อมูลซึ่งถูกฝั่งอยู่ในดวงจิต
    ซึ่งไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ก็เป็นสาเหตุอย่างหนึ่ง
    ที่ทำให้เราเวียนว่ายตายเกิดได้อยู่ครับ...
    ลองสังเกตุดูว่า ชาตินี้ทำไมบางเรื่องผ่านมา
    หลายสิบปีเราถึงจำได้ เพราะช่วงนั้นจิตมัน
    เคยระลึก เคยแว๊บ มันก็เลยนำมาเก็บเอาไว้
    พอถึงระยะเวลา อารมย์ สถานะการที่เหมาะสม
    มันจึงผุดขึ้นมาได้..เราอาจเคยได้ยินคำว่าฝากกระแส
    พระสงฆ์บางรูปที่ท่านย้อนทราบ
    พอกลับไปยังสถานที่นั้นๆจึงจำได้
    และสามารถดึงความสามารถทางจิต
    ที่จิตเคยฝากไว้ในอดีต ให้ขึ้นมาในปัจจุบันได้

    หรือบางคนก็สามารถที่จะใช้ประโยชน์
    จากการเก็บข้อมูลเดิมของจิตนั้น
    กระตุ้นให้ดึงความสามารถของจิตนั้นๆขึ้นมาได้นั่นเอง...

    มนุษย์จึงสามารถฝึกย้อนไปดูอดีตตัวเองได้..
    และในขณะเดียวกัน ระบบดวงจิตมันไม่ขึ้น
    อยู่กับระยะเวลา..มนุษย์จึงสามารถฝึกไปดู
    อนาคตได้..ทั้งอดีตและอนาคตนั้น
    ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบตั้งใจ
    และไม่ได้ตั้งใจได้ทั้งนั้น..
    แต่ก็ยังไม่ใช่ทางหลุดพ้นครับ...

    ส่วนที่จะเขียนต่อไปนี้
    ถือว่าเล่าให้ฟัง ควรฟังหูไว้หู...
    ถ้าในรูปพระสงฆ์มาในท่านั่ง
    ท่านจะมาสอนธรรม
    เหมือนๆที่คุณเจอนั้นหละครับ...
    แต่ถ้าในอนาคต..
    คุณกำลังฝึกกรรมฐานพิเศษ
    จะเปลี่ยนมาในท่ายืนครับ...
    แต่ไม่ว่าท่านั่งหรือท่ายืน
    ก็จะอยู่ระดับเดียวกับเรานี่หละครับ...

    เว้นแต่ระดับผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพ
    ตรวจสมาธิในท่านั่งและไม่อยู่ติดพื้น..
    แต่จะสอนธรรมในท่ายืน...
    ประโยคทั้งประโยคแต่เราจะได้
    ยินเป็นเพียงแค่คำเดียว...

    ยิ่งมากภูมิธรรมมากบารมี เราจะรู้สึกยิ่งเงียบ...
    ยิ่งภูมิธรรมสูง มากบารมีธรรม..ยิ่งเบา
    ยิ่งภูมิธรรมสูง มากบารมีธรรม จะยิ่งเบา
    ยิ่งเงียบ และไร้ร่องรอย...

    ที่พูดไม่รวมระดับที่อยู่ในเส้นทาง
    สายพระโพธิสัตว์ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า
    ในอนาคตที่จะมามุมสูงโค้งๆจากฟ้าลงมา
    ทางด้านขวานะครับ..
    ประมาณนี้ครับ...

    ปล.ที่เล่าให้ฟัง สามารถปรากฏให้เห็นได้
    ไม่ว่าจะหลับตาเห็นและลืมตาเห็นครับ
    ที่สำคัญคือให้เฉยๆไว้ทุกกรณี
    แม้จะเห็นได้แบบลืมตาเห็นๆครับ.
    เพราะว่าไม่ใช่เรื่องที่ถือ
    ว่าน่าแปลกอะไรครับ...
     
  3. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60


    ของผม เจอทีไร ท่านนั่งอยู่บนม้านั่งยาว แล้วเรานั่งพนมมืออยู่ที่พื้นทุกทีเลยครับ
    มีคนทักว่าผมมีอาจารย์คอยดูแลอยู่
    แต่เขาไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร
    บอกแต่เพียงว่า เมื่อถึงเวลาเดี๋ยวรู้เอง
    ตอนนั้นผมก็อยากรู้ จะได้น้อมจิตทำความเคารพขอบคุณท่านที่ท่านอุตส่าห์ดูแล
    แต่ก็ไม่รู้ซักที จนงอนไม่อยากรู้ละ ไม่เอาละ
    เป็นใครก็ช่าง ไม่สนละ ตั้งใจดิ่งมีพระพุทธเจ้าท่านไว้อยู่เหนือหัวอย่างเดียว
    อยู่ต่อมาไม่นาน ก็ฝันห็นพระอรหันต์รูปนี้ 2 วันในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน
    เลยคิดว่าท่านนี้กระมัง ที่เคยเป็นศิษย์เป็นอาจารย์กัน ท่านอื่นที่เราก็เคารพเลื่อมใสนั้นยังไม่ปรากฎ
    ขอบพระคุณท่าน nopphakan และท่าน nilakarn
    ที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ให้กระผมครับ
    ธรรมใดที่กระผมยังไม่ทราบ แล้วผมได้ทราบจากท่าน ท่านทั้งหลายเป็นอาจารย์ของกระผมครับ
     
  4. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,917
    ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ

    จากประสบการณ์โดยตรงกับตัวเอง ครั้งก่อนที่จะเข้าศึกษาธรรมะแบบจริงจัง ข้าพเจ้าก็เคยฝันถึงครู อาจารย์ท่านหนึ่ง จากประสบการณ์ฝันของตัวเองไม่เคยฝันถึงพระภิกษุสงฆ์มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว อายุตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะอายุ ๓๔ ปี เหตุคือข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักพระภิกษุสงฆ์ที่ไหนมาก่อนเพราะไม่เคยสนใจและใส่ใจ แม้กระทั่งครู อาจารย์ดังๆ ผมก็ไม่เคยรู้จักชื่อ รูปร่างหน้าตา เพราะความคิดของตนเองตอนนั้นคือ
    อาจจะเบื่อหน่ายที่เห็นพระสงฆ์ส่วนใหญ่มักชอบทำพระเครื่องให้เช่าบูชา ซึ่งตัวผมเองนั้นไม่ชอบเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้

    มีคืนหนึ่งช่วงเวลาประมาณตี๔-๕ ฝันว่าตัวเองเดินอยู่ถนนไม่ไกลจากบ้านนัก เห็นพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งลอยอยู่เหนือหัว อยู่บนฟ้าอยู่ทางทิศเหนือของตัวเอง ลักษณะนั่งขัดสมาธิ รูปร่างมีขนาดใหญ่ ผมจำรูปหน้าและท่าทางท่านได้แม่นยำ แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วก็มีเสียงดังออกจากท่านว่า "มึงต้องการอะไร" ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ตื่นขึ้นมานั่งทบทวนเรื่องความฝัน ซึ่งมันแปลกมากเพราะเราไม่เคยฝันถึงพระภิกษุสงฆ์เลย แล้วจะตามหาพระรูปนี้ได้อย่างไร

    เมื่อเรารู้ว่าท่านคือใคร ถึงกับบ่นตัวเองในใจว่า"มึงนี่โง่จริงๆ พระสงฆ์รูปนี้ท่านดังจะตายเป็นที่เคารพของคนไทยทั้งประเทศกลับไม่รู้จัก" พระสงฆ์ท่านนี้คือ"หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้"
    ปัจจุบันท่านก็คือครู อาจารย์ท่านแรกที่ผมรักและเคารพท่านเสมอมาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันและตลอดไป เพราะท่านคือผู้ที่ให้ชีวิตที่ถูกต้องในทางโลกและทางธรรม ความเมตตาของครู อาจารย์นั้นหาที่ตอบแทนได้ยากยิ่ง แต่ผมก็จะทำตามที่ครู อาจารย์ท่านสอนเพื่อไม่ให้เป็นแค่ขยะในทางโลกและทางธรรม

    สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินครู อาจารย์ทั้งทางกาย วาจา และใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลังก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมด้วยจิตบูชาในพระรัตนตรัย สิ่งใดที่เป็นประโยชน์เป็นบุญกุศลข้าพเจ้าขอมอบให้กับพระรัตนตรัย ครู อาจารย์ทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง ๓ ภพภูมิ ครู อาจารย์ทางโลกครู อาจารย์ทางธรรม รวมทั้งกัลยาณมิตรทั้งหลาย เพื่อนๆที่อยู่ในวัฏสงสารทั้งหลาย ขอให้ท่านทั้งหลายจงพ้นจากวิบากกรรมต่างๆได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไปและได้พบหนทางแห่งการปรินิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เคยเตือนเอาไว้นานแล้ว

    ตอนที่ จขกท. เอิดตัว ประกาศในบอร์ดนี้ว่า. ตนมาทางปัญญา

    โดยตอนนั้นเตือนว่า. ระัง การยกตนแบบนี้ ตอนที่จิตรวม กำลังจะเกิด
    มรรคสมังคี จะเกิด. นิมิตเข้าไปแทรก

    พระพุทธองค์ ตรัสเตือน แก่ ภิกษุผู้มีปัญญาไว้ว่า

    ศุภนิมิตใด. เกิดขึ้น. แต่เปนปัจจัยให้ "เอ๊ะรึว่า....". ขัดกระบวนการ
    ก่อเกิดปัญญา. สารวนกลับไปยัง. ภพแห่งสัตว์ การคลุกคลี นั่น
    ไม่ใช่ธรรมของ. ตถาคต. ให้ละศุภนิมิตนั้นเสีย


    อย่า. งง นะ

    ไม่ได้ห้ามให้ไม่เห็น. แต่ให้เห็นให้มากๆ. แต่ กำหนดละ. สู้เข้าไป

    อย่าส่งจิตออก. ไป. จับเข่า คลุกคลี ถามไถ่ ให้อยู่ที่ รัตนบัลลังก์ ยืนยัน
    นั่งยัน. นอนยัน. อึ๊ดดดชึ๊ การตรัสรู้เองลำพังโดยชอบ. สิเว้ยเฮ้ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2016
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ยิ่ง. เปน. ศาสดาอื่น. ที่ไม่ใช่ สมัย. แล้วมา. ออกแนว กว้าน. ไล่จับ สาวกไปเปนของตน


    ประมาณมาเกณฑ์พล. ปล้นสะดม. ทหาร. ไปเปนของตัว. เยี่ยง. มหาโจร


    ถ้าปรากฏนะ. ถ้าจะออกไปถาม. ให้เอาหน้าแข้ง ประเคนก้านคอ. แมมมมเลย!!!


    เฮีย. แน่นอน. ไม่ได้มา สอนนิพพาน สืบศาสนา แน่ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2016
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เว้นแต่ ตอนนั้น. ป่วย. ป้อแป้ๆ. แทบจะวิปริตชีวิต. จิตตก

    อันนี้ยกเว้น. ครูบาอาจารย์ใดมา. สอนสั่ง จับใส่ย่าม. พาไปฝึก

    กลับมาแล้ว. เหมือนหายป่วย หานไข้ ปลิดทิ้ง. ไม่ต้องวิ่งไปหา
    เพื่อให้ข้าว ให้เงิน. ให้ทอง. อันนี้ อนุโลมเหนได้ ระลึกถึงได้

    เพราะเวลาระลึกถึง มันจะมี อารมณ์ปฏิบัติบูชา

    อันนี้จะถือว่า. ใช่ จะมาเกณฑ์ไป. ไม่ห้ามเลย
     
  8. nongnewinbkk

    nongnewinbkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2013
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +239
    ขออนุญาต คุณเจ้าของกระทู้ เล่าความฝันของดิฉันบางนะคะ
    ถือว่าเล่า สนทนากันทั่วๆไปคะ หรือใครจะคิดเห็นเป็นอย่างไร ก็แล้วแต่คะยินดีอย่างยิ่งคะ

    เคยฝันว่า เดินในวัดแห่งหนึ่ง เป็นวัดเก่ามาก เพราะเห็นสิ่งปลูกสร้างในวัดค่อนข้างเก่าแก่
    แต่ที่สะดุดตามากๆ คือ สระน้ำที่นำหินศิลาแลงมาก่อเป็นขอบสระ ดูแล้วคล้ายๆสระน้ำของยุคขอม มี 2 สระติดๆกัน ก็ไปยืนมองสระอยู่สักครู่ โดยในฝันนั้น เรารู้สึกว่า สระนี้มันคุ้นๆตา

    พอเดินออกมาจากสระ เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งหลับตาบนแท่นหิน ในท่านั่งขัดสมาธิ จึงเดินเข้าไปดูท่านไกล้ๆ มองดูท่านนิ่งมาก ไม่ขยับกายเลย จึงเข้าใจว่าเป็นรูปปั้น จึงนั่งลงก้มกราบท่าน ในขณะที่กราบอยู่ เงยหน้ามามองท่าน เห็นท่านลืมตา ยิ้มให้เราและพูดว่า
    เอาใหม จะสอนกรรมฐานให้ ด้วยความที่เราตกใจว่า ทำไมรูปปั้นจึงพูดได้ ก็รีบวิ่งออกมาเลยคะ รูปปั้นที่คุยกับดิฉันคือ พระอาจารย์ มั่น หรือหลวงปู่มั่นนั่นเองคะ

    ความฝันที่ 2
    ฝันเห็นหลวงพ่อฤษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ท่านมาเรียกให้ดิฉันออกไปหา ดิฉันก็เดินออกมาหาท่าน ท่านบอกว่า ให้เดินตามท่านไป ดิฉันก็เดินตามท่าน แต่เดินตามท่าน ก็ตามไม่ทันสักที แต่ยังมองเห็นท่านเดินนำทางอยู่ตลอด พอสังเกตุอีกที รอบๆทางเป็นป่าทึบ จึงเกิดความสงสัยในขณะที่เดินอยู่นั้นว่า ท่านจะพาเราเดินมาทำไม มีแต่ป่า ต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นเต็มไปหมด แต่เงียบและสงบมากๆ

    ความฝันที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ของดิฉันก็มีเพียงเท่านี้แหละคะ ที่จดจำฝันได้แม่น
    ฝัน มันก็คือ ฝัน ท่านเห็นเห็นว่าอย่างไรกันคะ
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อธิบาย จขกท ในแบบ ปัญญา

    ทำไม ถึงได้ ทักไว้ล่วงหน้า ว่าจะเกิด นิมิต

    อย่าลืมนะ " ไม่ใช่เรื่อง สัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา " เอา ปัญญาเจตสิกนำหน้าก่อง

    แล้วพิจารณาลงเป็นเรื่อง " เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี " มีแน่นอน เพียงแต่ว่า เวลา
    ของการปรากฏ บอกไม่ได้ แต่เกิดแน่ๆ

    เพราะไป ยกตนว่า เป็น " สุขวิปัสสกะ ( ปรภเภทของ อรหันต์) "
    ทั้งที่ ทางเข้ายังหาไม่เจอ

    อุปทานมันมี มันก่อตัว ตั้งธง เอาไว้

    จึงไม่ใช่เรื่องยาก เวลาที่ ภาวนาได้ดี จิตรวม แล้ว จะย้อนไป ตัดอุปทาน

    เน้นนะว่า ภาวนาดี จิตรวม แล้ว จะไปประหาน " อาสวะ " ที่ อุปทานบ่อยๆ
    ทำซ้ำๆ หมักดองเอาไว้

    ในทีนี้ ภพใหญ่คืออะไร อุปทานตัวเบ้อเร้อคืออะไร ก็ อุปทานว่าเป็น "สุขวิปัสสโก"

    ทีนี้ พอจิตรวม แล้วมันจะไป ตัดเชื้อตัวนั้น ....สิ่งที่ จะทำลาย อุปทานสุขวิปัสสโก
    คืออะไรหละ .......ก็ นิมิต ไง การเห็นโน้น เห็นนี่ ได้คุยกับโน้น นั่นนี่

    เรียกแบบ คนภาวนาไม่เป็น ก็จะพูดทำนองว่า " เกิดบททดสอบ ว่า ผ่านไม่ผ่าน "

    จริงๆ ไม่ใช่

    ปัจจัยการ สิ่งนี้มี ตั้งธงว่าตนเป็นสุขวิปัสสโก ....วิบาก มันก็เกิด เป็น นิมิต การเห็นนั่นเห็นนี่ .............[ พูดให้ตรงๆ เป็น เวรกรรม !!! ]

    แล้วหน้าที่เนี่ยะ ไม่ใช่ ทำลายคุณความดี ใน วิปัสสโก เพื่อ ผันไปเป็น เตวิชโช ฉฬ อุภโต ปฏิสัมภิ

    หน้าที่เนี่ยะ ทำให้ ......เปลี่ยนกรรมฐาน !!! จากที่ เคยฝึกดีอยู่แล้ว

    คราวนี้ หากไปเชื่อสิ่งนี้ ร้อยละร้อย จะเปลี่ยนกรรมฐาน !!! โน้น ไปโน้น
    ไปหา คาถา โอมมาหาระรวย นะ นาบท้อง ปลุกเสก ของตั้ง ของขลัง
    หาผัวให้ชาวบ้าน หาทรัพย์ให้พ่อมหาจำเริญ .......ลืมการ ภาวนา ที่ดีอยู่แล้วไปเสียสนิท


    ปล. ฟังให้ดีๆ นะ ฟังไม่ดี จะคิดว่า สอนให้ละทิ้งเลิกเห็น เลิกเป็น ม่ายช่ายนะ
    ให้เห็นไปแบบนั้นแหละ แต่ กำหนดรู้ อะไรบางอย่าง เข้ามาเลย จะเสกได้
    เหาะได้ ไม่ว่ากัน แต่ จะต้องมีการ กำหนดรู้ บางอย่าง เข้ามาด้วย อย่าให้หาย


    ปล.2 นักภาวนาที่ยังเป็น เสขะบุคคล ไม่มีหรอก จะไประบุตนว่า เป็น สายไหน
    สุขวิปัสสโก หรือ อื่นๆ เป็น ประเภทของอรหันต์ หากยังภาวนาไม่จบ ก็จะมี
    การใช้ ปฏิปทาทุกอย่าง สลับกันไปมา อยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2016
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040

    คนที่ทักคุณก็พูดถูกแล้วครับ...
    และที่คิดว่าก็ช่างก็ถือว่าดีแล้วครับ


    และก็เช่นเดิม เล่าให้ฟังแบบ
    ฟังหูไว้หูอีกครับ
    อย่างกิริยาที่คุณเจอ
    ถ้าได้อยู่ตรงนั้นอีก ณ สถานที่เดิมๆ
    แม้ว่าจะไม่เจอท่านก็ตาม
    ส่วนตัวเรียกว่า การควบคุม
    ความประพฤติครับ(พอเข้าใจเนาะ)






    และเป็นปกติที่ระดับนั่นท่านมักจะไม่พูด
    บอกว่าท่านเป็นใคร.เพราะท่านก็ไม่ยึด
    กับสมมุติครับ..ยกเว้นว่าระดับที่พอมีชื่อ
    ถ้าเราได้ยินก็พอจะทราบได้
    หรือเต็มที่ก็บอกสมญานาม


    ส่วนนี้ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติม
    แรกๆเรามีครูบาร์อาจารย์เพื่อเป็นแนวทาง
    ซึ่งทุกๆคนนั้นก็มีครูบาร์อาจารย์ตัวเองทั้งนั้น..
    เราให้ความเคารพนับถือ แต่ไม่ควรยึดถือ..
    การปฏิบัติบูชาที่ดีที่สุด คือการปล่อยวาง
    ยิ่งปล่อยวางได้เท่าไร จิตเรายิ่งมีพัฒนาได้เร็วครับ...


    และต่อไปเราก็สร้างตัวจิตเราเองนี่หละครับ
    ที่จะเป็นครูบาร์อาจารย์คอยสอนเราเอง..
    อะไรควร อะไรไม่ควร อะไรอกุศล อะไรกุศลฯลฯ...


    ปล.อย่าถึงขั้นกับยกกันเป็นอาจารย์เลยครับ..
    ส่วนตัวพอประมาณกำลังและความสามารถตนพอได้
    และมิเคยมีความคิดเช่นนั้น..
    แค่เพียงแต่ผ่านมา..
    และเล่าให้ฟังแค่นั้นครับ...
    นับถือกันเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน
    เท่านี้ก็เพียงพอแล้วครับ. (^_^)
     
  11. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    คนเรา ถ้าไม่มีเมตตา ก็คงไม่เตือนกัน ขอบคุณท่านที่เตือนนะครับ

    ว่าแต่ ตรงนี้...

    ใครไปยกตนว่าเป็น " สุขวิปัสสกะ ( ปรภเภทของ อรหันต์) " หรือ?
    ท่านหมายถึงกระผมหรือเปล่า
     
  12. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    สะดุด ตรงคำว่า การควบคุมความประพฤติ
    สงสัยกระผมก็คงเข้าในข่ายนี้ด้วยกระมัง
    ทุกครั้ง ที่เกิดความกำหนัด อันเป็นปฏิริยาเคมีธรรมชาติของมนุษย์นี้
    ปกติ มันจะมีแต่ภาพ ที่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดความกำหนัด
    ทุกวันนี้มันเหมือนมีการสู้กัน
    เมื่อใด ที่มีภาพที่เป็นเหตุให้เกิดความกำหนัดเกิดขึ้น
    จะถูกภาพของพระอริยสงฆ์นั่งสมาธิเห็นแจ่มชัด ขวางขึ้นมาทันที
    ชัดชนิดที่ว่า กลบภาพที่เป็นเหตุให้เกิดราคะนั้นจาก 100% เหลือซัก 25% ไปเลยทีเดียว
    แล้วบางที เราก็นิสัยเสีย
    มันยังจะไปพยายามกำหนดจิตลบภาพท่านให้หายไปเร็วไวอีก เพราะเห็นภาพที่เป็นเหตุแห่งราคะไม่ชัด
    เนื่องจากว่าไม่ได้สนใจ ว่าเป็นภาพครูบาอาจารย์หรือว่าอะไร
    ก็คงเป็นภาพที่เคยเห็นแล้วก็จำมา
    ประเด็นอยู่ที่....ทำไมมันชัดจังwa
    ทีนั่งสมาธิตั้งใจจะให้เห็นชัดช๊าดดดดดดด ไม่ชัด ไม่เห็น
    ทีลืมตา พอจะเพลินกะภาพราคะหน่อย บังเต็มเลย
    พอเลยสภาวะตรงนั้นไปได้
    โอ...เราพลาดให้ราคะซะเสียหายยับเลย
    แล้วก็เอาใหม่...
    เมื่อใดที่ราคะเกิด พอเราพิจารณาเห็นเหตุ เห็นโทษของเหตุ และโทษของ่ผลได้ และมีแนวโน้มว่าไม่ไหลตามไปกับราคะได้ เมื่อนั้นภาพของพระอริยเจ้าที่เคยนั่งสมาธิขวางภาพที่เป็นเหตุแห่งราคะนั้น ไม่ปรากฎ
    //ถือว่าเล่าสู่กันฟังครับ
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ส่วนตัวถึงได้มีประโยคหนึ่ง
    มักพูดเชิงเล่าสู่กันฟังว่า
    "สอบได้เรื่องตลก สอบตกเรื่องธรรมดา
    เด่วพอผ่านเรื่องนี้ เด่วก็มีเรื่องอื่นๆมาอีก"
    อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าเรา
    ยังอ่อนเรื่องอะไร
    ยังมีสิทธิ์ที่จะแก้ไข ปรับปรุง
    ให้ดีขึ้นได้ ในสภาวะลืมตาปกติไงครับ

    แต่ถ้าไม่เคยเจอบททดสอบอะไรเลย
    จะอันตรายมากถึงมากที่สุดครับ

    ส่วนในสภาวะลืมตาปกติ
    ที่จะส่งผลให้เราผ่านบททดสอบ
    ทางภพภูมิได้นั้น.
    สิ่งที่เราต้องมี คือ ความเด็ดขาดในการตัดเรื่องนั้นๆ
    และความเพียร ซึ่งเราจะเริ่มเห็น
    ว่าสติทางธรรมกับปัญญาทางธรรมนั้น
    มันจะมาใช้หนุนส่งเสริม เพื่อให้จิต
    เราคลายจากเรื่องที่เรายังอ่อนอยู่ได้
    ก็เวลานี้นี่หละครับ ซึ่งเป็นหลักสำคัญของพระพุทธศาสนา
    มากกว่า เรื่องสัมผัส รับรู้ พิเศษ การทำได้พิเศษต่างๆ
    ที่ไม่ใช่ปะเด็นสำคัญอะไรเลย
    เพราะเรื่องที่เราอ่อน มันจะแทรก จะเข้ามาทดสอบได้ตลอดเวลา
    ไม่ว่าตัวจิต ณ เวลานี้จะเป็นอย่างไร


    สติทางธรรมที่จะเห็นมันได้
    ความเด็ดขาด ความเพียร
    ปัญญาที่จะเห็นตามความเป็นจริง
    เพื่อที่จะให้จิตมัน คลาย มันละ
    และไม่ยึด จึงเป็นที่สำคัญที่สุด

    หลายๆคนพลาด เพราะไปมองไปยึด
    เอาเรื่องที่ไม่ใช่สาระทางพุทธเป็นตัวนำ
    เจ้าตัวโลภะ โมหะ โทสะในจิตนั้น
    มันจึงเผลอไปยึดเอา ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
    อย่างใดอย่างหนึ่ง
    เข้ามาจนเป็นตัวเราเองได้อย่างคาดไม่ถึงนั้นเองครับ

    ลองค่อยสังเกตุดู จะเข้าใจได้ครับ

    ปล.แค่เล่าสู่กันฟัง

     
  14. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ความสำคัญอยู่ที่ เวลาจิตเกิด (มีอุปาทาน หวั่นไหวขึ้นมา) แล้วรู้ตัวไหมน่ะครับ
    ถ้าสติปัญญาตามรู้ตัวทัน มันก็จบ สรรพสิ่งเกิดดับตามเหตุปัจจัยอันนี้มันเป็นอย่างนั้นเอง
    การแก้ไข ให้แก้ที่ต้นเหตุ คือตั้งตนอยู่บนความไม่ประมาท ทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมอยู่เสมอ ภาษาบ้าน ๆ อาจจะว่าอย่าไปกินของแสลง ทีนี้ความเผลอความเพลินมันมี วิบากกรรมมันก็มาเป็นมายาคติชวนให้หลงทั้งดีทั้งชั่ว ก็ต้องตามรู้เท่าทันความมีอวิชชาไปเรื่อยน่ะครับ ดำรงตนอยู่บนความไม่ประมาทไปพร้อม หรือก็คือเจริญในมรรคทั้ง ๘ นี่เองครับ
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ของน้องนิว นะ ปกติถ้าจะมีครูบาร์อาจารย์
    มาสอนสมาธิมักจะไปเจอในสภาพแวดล้อม
    อย่างนั้นหละ ที่คล้ายๆกันก็คือเป็นลานหิน..
    บางกรณีถ้าสมมุติว่าเราไปเองได้แบบไม่ใช่ฝัน
    จะเจอเพื่อนๆได้อีกหลายคน (เรื่องปกติ)
    และถ้าเป็นท่านนั้น.โดยความหมายก็คือ
    เคยเข้าถึงระดับสมาธิระดับสูงมาก่อน
    แต่ว่าเน้นหนักไปทางด้านปัญญาครับ..
    หมายถึง นัยยะ ณ ช่วงที่ฝันนะ

    ส่วนอีกท่านที่ฝันถึง กิริยาอย่างนั้น
    หมายความว่าไม่ให้ยึดความคิดหรือความรู้
    เดิมในอดีตมาก่อน..และส่วนเรื่องเมตตา
    ที่เป็นเหตุให้เราต้องทำทานท่านก็ไม่ให้ยึด
    รวมทั้งสัมผัสต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างทางร่วมด้วย..
    ปล.ประมาณนี้...
     
  16. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    ให้เห็นให้มากๆ
    แต่อย่าส่งจิตออกไป
    *********************
    ผมว่ามันออกตั้งแต่เห็นแล้วนะครับ
    เอาไม่เอา จะถือรึจะวาง นั่นอีกเรื่องนึง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2016
  17. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    เป็นเพราะว่าผมเห็นไอ้ตัวอัตตาหนาเตอะของผมที่ก่อตัวผงาดยกคออยู่บนบัลลังก์นั่นแหละครับ
    ผมถึงได้ใช้วิธีนี้สลายมัน :)
     
  18. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    ในคห.ผม ผมคิดว่า ท่านคงอยากจะบอกใบ้อะไรสักอย่าง ซึ่งในนั้นก้รวมถึงว่าเราเคยทำบุญกับหลวงพ่อองค์นี้บ่อย หรือเปนลูกศิษย์ท่านในอดีตกาลก่อน
    แต่ถ้าให้ผมสันนิษฐาน ผมว่าท่านให้เราตั้งใจปฏิบัติ อย่าได้ประมาทในชาตินี้
    ถ้าเราสมาธิถึงจริงๆ ก้คงจะรู้เองว่า หลวงพ่อท่านเป็นใคร อยากจะบอกปริศนาธรรมอะไรแก่เรา เกจิอาจารย์ของไทยตั้งแต่อดีตมา มีอยู่มากหลายรูปหลายองค์เยอะมากๆ การที่จขกท.พยายามเจริญเตโชกสิณ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเปิดทางได้ ทำให้จิตสงบเป็น "สมถะ" ได้ดี

    อีกอย่างผมคิดว่า ถ้าเราตอนนี้มีที่อยู่ปัจจุบันที่ไหน เกจิอาจารย์ที่ฝันถึงก็น่าจะอยู่ในแถบๆนั้นไม่ไกลจากเราเท่าไร เมือ่ไรที่คลื่นตรงคงจะได้ฝันเห็นท่านอีก
     
  19. saintyom

    saintyom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +777
    ผมเคยฝันเห็นพระโมคคัลลานะด้วยแหละครับ
    จำรายละเอียดเหตุการณ์ในฝันไม่ค่อยได้เพราะผ่านมานานแล้ว
    แต่คล้าย ๆ กับว่าเห็นท่านเดินมากับลูกศิษย์ที่เป็นพระสงฆ์ยาวเป็นขบวนเลย
    พอท่านเดินเข้ามาใกล้ ผมก็ก้มลงกราบ ท่านไม่ได้บอกหรอกครับว่าท่านคือใคร
    แต่ในฝัน จิตเรามันบอกเองว่านี่คือพระโมคคัลลานะ
    พอกราบเสร็จเงยหน้าขึ้น ท่านก็ลูบหัวผม แล้วเหมือนว่าท่านจะพูดอะไรด้วย แต่ผมดันจำไม่ได้

    ในที่ฝันเห็นท่าน ท่านไม่เหมือนแขกอินเดียที่เคยเห็น
    แต่ผิวจะออกขาว ๆ หน่อย รูปร่างดีสมส่วน รู้สึกว่ารูปท่านงามเลยทีเดียว
    แต่ผมมองขึ้นไปไม่เห็นหน้าท่าน เหมือนท่านยืนใต้แสงพระอาทิตย์พอดี

    แค่ความฝันนะครับ แต่ก็เป็นฝันที่ตื่นมาแล้วรู้สึกมีความสุขดีมากเลยครับ ^^
     
  20. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    จริงๆทราบว่าท่านเป็นใคร
    เพียงแต่ว่าไม่ได้ระบุไว้ในโพสเท่านั้นน่ะครับ :)
     

แชร์หน้านี้

Loading...