ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ขอบพระคุณ อาจารย์สุวิ ครับ
     
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    โรควูป เป็นโรคที่คนเป็นแล้วจะรู้สึกกังวลใจอยู่ตลอดเวลา
    ไม่กล้าไปไหนมาไหน ไม่กล้าเคลื่อนไหวเร็ว ไม่กล้าทำอะไร
    ได้แต่นั่งๆนอนๆ ออกกำลังกายก็ไม่ได้ (ซึ่งจะทำให้โรคมีอาการมากขึ้น)

    จากประสพการณ์ ในการแพทย์แผนไทย

    ปัญหาเกิดจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง นำเลือดไปเลี้ยงไม่พอ
    มีหลายสาเหตุ เช่นเลือดข้นเกินไป มีโคเลสเตอร์ลอน/ไตรกลีเซอร์ไลย์ ในเลือด เส้นเลือดตีบ
    หลอดเลือดฝอยหดตัวจากระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบีบรัดตัว บีบเส้นเลือดให้เล็กลง
    โดยเฉพาะหลอดเลือดที่แนบไปกับกระดูกก้านคอ
    ถูกกดทับจากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น บ้างครั้งเป็นพังผืดหรือแคลเซี่ยมเกาะ ในบริเวณใกล้เคียง
    ทำให้หลอดเลือดถูกบีบรัด เลือดไหลไม่สะดวก

    การเคลื่อนไหวบางจังหวะอาจทำให้เส้นเลือดถูกบีบให้เล็กลงกระทันหัน
    เลือดจะไปเลี้ยงสมองไม่พอทันทีทันใด โรควูปจะเกิดขึ้นทันที

    การรักษาทำได้สองวิธี คือการใช้ยา หรือนวด บางครั้งใช้ควบคู่กัน

    การใช้ยาสมุนไพร
    ตัวยาได้บอกไว้ให้แล้ว ในโพสก่อนหน้านี้(โพสที่ #15 วันที่ 29/01/08)

    ส่วนการนวดรัษา
    ให้ดูโครงสร้างของกระดูกคอ บ่า ใหล่ ว่าผิดรูปหรือไม่
    ปกติจะพบทุกราย ให้จัดกระดูกคอให้เข้าที่ โรคนี้ก็จะหายขาด

    การจัดกระดูกคอเป็นความสามารถของผู้ที่เรียนรู้อย่างถูกต้อง
    อย่าทำกันเอง หรือผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ(รู้อย่างงูๆปลาๆ)
    อาจทำให้ ท่าเป็นโรควูปอย่างกระทันหัน แล้วไม่ฟื้นอีกเลย
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    มีโรคประหลาดอยู่โรคหนึ่ง

    ผู้ป่วยจะมีอาการ คันตามผิวหนัง บางครั้งบวมแดง เจ็บในเนื้อ
    บางครั้งรู้สึกเหมือนกับว่ามีตัวะไรไชอยู่ในเนื้อ ทั้งคันทั้งเจ็บ
    บางครั้งผิวหนังก็บวมปูด เป็นริ้วเป็นทาง เหมือนกับมีตัวใส้เดือนเล็กๆไชชอนอยู่ไต้ผิวหนัง
    และที่สำคัญอาการเหล่านี้เดี๋ยวหายเดี๋ยวเป็น ย้ายที่ไปเรื่อยๆ

    ซักถามดู ร้อยทั้งร้อย
    คนพวกนี้ชอบกินอาหารดิบๆสุกๆ หรือไม่ก็ชอบกินแหนม(ดิบ)
    คนไทยเรา จะมากับแหนมเป็นส่วนใหญ่

    โรคนี้คือ โรคพยาธิตัวจี้ด

    หลายๆปีก่อน โรคนี้แพทย์แผนปัจจุบันรักษาไม่หาย
    กินยา ทายาอย่างไรก็เอาพยาธิออกหรือ ฆ่ามันไม่ได้
    บ้างแนะนำให้ผ่าเอาออก (ตอนมันขึ้นมาอยู่ใกล้ๆผิวหนัง)
    ปัจจุบัน ไม่แน่ใจว่ามีวิธีการรักษาหรือยัง

    แต่ในทางแพทย์แผนไทยเรามีวิธีรักษาที่ง่ายมาก แบบไม่นาเชื่อ
    ท่านทำยาให้กิน ไม่กี่มื้อก็หาย
    ตัวยาก็แสนง่าย

    ตัวยา (ทำกิน 1 ครั้ง)
    ๑. หาใบสดกระเจี้ยบแดง ๑ กำมือ ประมาณ 5 ยอด (มีขายตามตลาดสด เขาเอามาทำแกงส้มกินกัน)
    ๒. เกลือตัวผู้ 5 เม็ด

    วิธีทำกิน
    ล้างใบกระเจี้ยบแดงให้สะอาด นำลงต้มกับน้ำสะอาด ให้เดือด
    ใส่เกลือตัวผู้ลงไป
    อาจท่องคาถา "นะ โม พุทธ ธา ยะ" ด้วยก็ได้ ขอให้หาย ขอให้หาย
    ไม่ท่องก็ได้ ไม่ว่ากัน

    ต้มต่อไปอีกสักครู่ (ต้มใส่น้ำ 3 ส่วน เอา 1 ส่วน)
    รินกิน 1 แก้ว
    กินเช้าเย็น ก่อนอาหาร
    กินประมาณ 2-4 วันก็หายแล้ว
    เว้นไปอีก 5-7 วันให้ทำยากินซ้ำอีกครั้ง เพื่อถอนรากถอนโคน(ตัวอ่อนจากไข่พยาธิ)

    ถามว่ามีโอกาศกลับมาเป็นใหม่หรือไม่
    มีคนไข้บางรายเท่านั้นที่กลับเป็นอีก(มีอาการ) ซึ่งเกิดจาก ไข่พยาธิที่คงค้างอยู่
    และคนที่อดไม่ได้ ยังคงไปกินของดิบๆสุกๆ หรือแหนมดิบอีก


    ตัวยาหายากคงจะเป็น "เกลือตัวผู้"
    ท่านให้ หาเกลือเม็ด มาสัก 1-2 กำมือ
    แล้วนั่งเลือกเกลือที่มีเม็ด ที่มีลักษณะ เป็นเดือย หรือปุ่มแหลมๆ
    อันมีลักษณะเฉพาะของเพศชาย นั่นแหละเกลือตัวผู้

    เม็ดที่เป็นแผ่น แบนๆอย่าเอาเด็ดขาด นั่นเป็นเกลือตัวเมีย
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    มีผู้ถามปัญหาเข้ามาทาง email
    เห็นเป็นเรื่องของโรคประหลาดอีกโรคหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันเริ่มเป็นกันมาก
    และเป็นเรื่องปวดหัวของแพทย์แผนปัจจุบัน

    คำถามมีว่า

    ดิฉันมีปัญหาเสียงรบกวนในหู เสียงเหมือนจิ้งหรีด (จี๊ดๆในหูตลอดเวลา)
    บางครั้งก็เบา แต่ส่วนใหญ่จะดังจนน่ารำคาญ กลางวันไม่เท่าไรค่ะพอทนได้เพราะต้องทำงานพอลืมๆไปได้
    แต่จะไปหนักตอนจะนอน จะรบกวนประสาทมาก เป็นมาประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว

    ตรวจกับคุณหมอแผนปัจจุบัน ผลปรากฎว่าการได้ยินยังอยู่ในระดับปกติ 22-23 เดซิเบล แต่ประสาทหูอาจเริ่มเสื่อม จึงให้ยาบำรุงประสาทมา
    หมอบอกว่าเสียงจะไม่หาย แต่ถ้าเราลืมก็อาจหายไปชั่วขณะ ต้องเปิดวิทยุช่วย (ซึ่งดิฉันว่ามันแก้ที่ปลายเหตุ)

    ก่อนหน้าที่จะมีอาการ ดิฉันนอนดึกหลายคืนเกือบ 2 อาทิตย์ รวมทั้งอารมณ์เสีย (โกรธบ่อยๆ) จนรู้สึกว่าเส้นสมองด้านขวาเต้นตึ๊บๆ เลยค่ะ
    หลังจากจากนั้นตื่นขึ้นมาก็รู้สึกหูอื้อข้างขวาพร้อมมีเสียงหึ่งๆ เบาๆ อยู่ตลอดเวลา
    หลังจาก 2-3 วัน จากหู้อื้อกลายเป็นเสียงจี๊ดๆ แทน (ซึ่งน่ารำคาญกว่าหูอื้อมาก)

    รวบกวนถามว่าทางแพทย์แผนไทย
    มีทางใดที่จะรักษาได้บ้าง.........................ทรมานมากคะ

    ลงชื่อ คุณ บุษยมาส<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2008
  5. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    อาการนี้เกิดจากเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงประสาทหูและการทรงตัว เกิดการสกปรก หรือเดินไม่สะดวก
    เสียงที่ได้ยินเป็นเสียงการเคลื่อนไหวของเลือด เดินๆหยุดๆ ทำให้กล้ามเนื้อและประสาท บริเวรนั้นกระตุกเป็นจังหวะ ตามการไหลของเลือด จึงได้ยินเสียงนั้น
    นี่เป็นอาการเตือนถึงโรคของหลอดเลือด อันเป็นเหตุตามมาของโรคใหญ่หลายโรค เช่น โรคหัวใจ เส้นเลือดตีบ ฯลฯ
    <O:p</O:p
    แพทย์แผนปัจจุบันที่เก่งๆ มีประสพการณ์มาก จะรักษาโดย
    1.ให้ยาลดความดันโลหิต (คนเป็นโรคนี้จะมีความดันสูงขึ้นแทบทุกราย)
    2.ให้ยาลด โคเลสเตอรลอน (คนเป็นโรคนี้จะมีโคเลสเตอรลอนสูงเกือบทุกราย และไขมันตัวนี้ จะทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงประสาทหูเดินไม่สะดวก)
    <O:p</O:p
    ในทัศนะของผม วิธีของแพทย์แผนปัจจุบันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ
    การนอนดึก อารมภ์เสียบ่อย จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคนี้ง่ายที่สุด พยายามเลี่ยงซะ
    การออกกำลังกายให้เหงื่อออกมากๆ จะช่ว่ยได้ดีที่สุด พยายามทำให้ได้ ไม่ต้องกินยาก็หายได้

    ยาแผนไทยที่จะช่วยรักษาโรคนี้ได้บอกไว้แล้วใน โพสที่ #15 วันที่ 29/01/08)
    ยาชุดนี้จะทำให้เส้นเลือดสะอาด มีความยืดหยุ่นดีขึ้น และช่วยลดโคเลสเตอรลอนด้วย

    การนวด ก็แก้ปัญหานี้ได้เฉพาะหน้า (กินยาร่วมด้วยจึงหาย)
    ที่บริเวรหน้าหู(ส่วนที่ติดใบหน้า) ตรงติ่งหูตรงกลางเอานิ้วโป้งกดลงไปเบาๆแล้วลากกดนิ้วไป้งไปใน 3 ทิศทาง
    ๑ กดขึ้นไปในทิศ ปลายหางคิ้ว
    ๒ กด ลากไปตรงๆไปหาปลายจมูก
    ๓ กด ลากไปหามุมปาก

    ขออนุญาติ นำปัญหานี้ โพสขึ้นจอให้คนอื่ทราบด้วย

    ด้วยความปรารถนาดี
    11 ก.พ 51
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2008
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไร
    ใครก็ได้ช่วยแนะนำที
     
  7. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อยากถามเรื่อง โรคมะเร็ง ว่าโบราณาจารย์แพทย์แผนไทยท่านได้อรรถาธิบายไว้อย่างไร

    1. สาเหตุ สมมุติฐานของโรค คือ อะไร
    2. หลักการรักษา มีไว้อย่างไร
    3. ขั้นตอนการรักษาและตัวยา
    4. ระยะเวลาการรักษา
    5. การหวังผล ในการหาย....หายขาด มีมากน้อยเพียงใด

    ขอขอบคุณมาก ครับ
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    เรื่องของมะเร็ง ไม่มีคัมภีร์แผนไทย ที่กล่างถึงเรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะ
    แต่มีปรากฏกระจายอยู่ในหลายคัมภีร์ แต่ไม่ใช้ชื่อ มะเร็ง.. ใช้ชื่ออื่นๆแทน
    ที่ใช้ชื่อมะเร็ง เช่นมะเร็งทรวง กลับครอบคลุมสองโรคคือ มะเร็งทรวงอก และวัณโรคปอด ฯลฯ

    เรื่องมะเร็งเป็นเรื่องใหญ่ จะมาค่อยๆสรุปให้ฟัง ในคำถามทั้งห้าข้อ

    ผู้ถาม ถามได้ดี เหมือนเป็นหมอเอง (ไม่รู้จริงหรือไม่)
     
  9. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,589
    มะเร็งเป็นชื่อทางการแพทย์ที่คนที่ได้เรียกกันในสมัยไม่นานมานี้ ในสมัยโบราณจะรู้จักกันว่า เป็นเนื้อร้ายที่เกิดจากฝีชนิดต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นได้ในทุกอวัยวะ เช่น มะเร็งในตับ มะเร็งในปากมดลูก มะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งในปาก มะเร็งในคอ มะเร็งในกระดูก มะเร็งในเต้านม เป็นต้น ซึ่งตำรับยากลางบ้านของไทยมีหลายตำรับ บางรายหาย บางรายก็ไม่หาย น่าจะเป็นลางเนื้อชอบลางยา
    ที่มา ไขปัญหายาไทย สมุนไพรรักษาโรค ของ ส. เปลี่ยนศรี (พระครูวิทิตวรเวช วัดท่าราบ อ.บางแพ จ.ราชบุรี โทร 032-381157)
     
  10. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,589
    เหตุที่คนโบราณได้บันทึกตำรับยาไว้หลายสูตร เพราะว่า สภาพของผู้เจ็บป่วยมีความแตกต่างกัน ในธาตุดินน้ำลมไฟอากาศ ซึ่งสมุนไพรบางตัวจำเป็นต้องใช้เพื่อปรับสมดุลธาตุในกายก่อน เมื่อมีอาการดีขึ้นแล้วก็ค่อยปรับตัวยาอีกครั้งเพื่อรักษาให้หายขาด
     
  11. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865



    อิๆๆๆๆๆๆๆ เป็นหมอเหมือนกัน น่ะครับ ....แต่เป็นหมอความ [​IMG]

    ที่ถามมานี่ก็เพราะเหตุว่า แพทย์แผนปัจจุบันก็มีทฤษฎีและหลักการรักษามากมาย

    แต่ไม่เคยเห็นรักษาหายรอดตายเลยสักคน แล้วส่วนมากผู้ป่วยตายด้วยฤทธ์ของยาที่ให้มากกว่าตัวโรคเอง(n)

    เป็นอย่างนี้แล้ว....จะต้องไปเสียเงินรักษาแผนปัจจุบันทำไม[​IMG]

    ที่ถามก็เพราะอยากทราบแง่คิดและแลกเปลี่ยนความเห็นกัน น่ะครับ เพราะเห็นครูอาจารย์ต้องสิ้นไปเพราะโรคนี้มาหลายองค์ น่ะครับ
     
  12. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,589
    เป็นภูมิแพ้อากาศ คัดจมูก เราสามารถใช้การทำความสะอาดรูจมูกก่อนนั่งสมาธิ ได้ดังนี้
    ใช้การหายใจแบบ กบาลภัติ
    คือใช้การระบายลมหายใจเข้าออกอย่างแรงและเร็ว จนลมออกมาทางรูจมูกมีเสียงดังเหมือนกับเสียงของเตาสูบ ระหว่างที่หายใจออกอย่างแรงนี้ไม่มีการหยุดแม้แต่วินาทีเดียว ส่วนการหายใจเข้านั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของกล้ามเนื้อท้องคลายตัวของมันเอง อากาศจะเข้าสู่ส่วนล่างและส่วนกลางของปอดช้าๆ โดยสภาพของมันเอง ไม่ต้องสนใจว่าปอดส่วนตอนบนจะมีอากาศหรือไม่ การหายใจออกอย่างแรงนี้เหมือนเสียงเตาสูบลมนี้จะต้องทำติดต่อกันอย่างเร็ว โดยใช้วิธีแขม่วกล้ามเนื้อท้องอย่างแรง
    กบาลภัติ เป็นวิธีบริหารปอดดีที่สุด ทำให้รูจมูกสะอาด สดชื่น เพิ่มพลังให้แก่ต่อมน้ำลาย ขจัดเชื้ออโรคในจมูก

    วิธีการหยุดลมหายใจเข้าที่แรง แล้วผ่อนลมหายใจออกไปนิดนึง จากนั้นหยุดนิ่งลมหายใจและอวัยวะทุกส่วน เพื่อเข้าลมละเอียดที่ร่างกายจะดูดซับได้
     
  13. xanadu

    xanadu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +1,637
    To: Triangle-W, Suwi, or anybody who can help

    I am suffering from a disease called idiopathic encapsulitis on my left shoulder. The doctors don't know what is the cause. I have limited movements in my left arm, pain and swelling in the shoulder, around the armpit and shoulder blade; the symtomps started 3 months ago. Do you think you can help cure this illness? Can I send you a personal email to discuss the matter.
    I also plan to visit Thailand next month. You can respond in Thai. I have to type in English because I never learn to type in Thai.

    Thank you very much.
     
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    สาเหตุของอาการนี้ เกิดขึ้นได้สองกรณี
    ๑. เกิดจากเวลานอน นอนตะแคงข้างทับแขนตนเองเป็นเวลานานเกิน และแขนอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสม ทำให้ข้อไหล่เคลื่อนไป
    ๒. เกิดจากการเอี้ยวตัวหยิบของด้านหลัง และยืดแขนและบิดตัวเกินลิมิต(Limit) ทำให้ข้อไหล่เคลื่อน (บางครั้งจะปวดสีข้างด้วย)

    การรักษาด้วยพลัง (ไม่ว่าทางใกล้หรือทางไกล)จะช่วยบันเทาอาการเจ็บปวดได้ดี
    ถ้าการเคลื่อนของข้อต่อไหล่ไม่มากนัก เมื่อความเจ็บปวดหาย กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นจะดึงข้อต่อกลับเข้าที่ได้เอง อาการต่างๆก็จะหายไปและไม่เป็นอีก

    แต่ถ้าข้อไหล่เคลื่อนไปมาก การกลับเข้าที่เองจะไม่เกิดขึ้น
    อาการจะเป็นเรื้อรัง แม้ว่าความเจ็บปวดจะหายแล้ว แต่จะยังคงยกแขนไม่ได้
    ไทยเราเรียก โรคข้อไหล่ติด


    วิธีง่ายๆในการบรรเทาอาการปวดบ่า /ปวดสบัก /ยกแขนไม่ขึ้น เฉพาะหน้าอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเอง

    ให้หาขวดในหนึ่ง(อาจเป็น ขวดแม่โขง ขวดเบียร ขวดโซดา ฯลฯ) แล้วเอาผ้าขนหนูมาพันรอบขวด
    แล้วนำมาเหน็บไว้ใต้รักแร้(ข้างที่ปวด)
    พยายามให้ขวดแนบติดรักแร้มากที่สุด
    และให้ศอกแนบชิดชายโครงเท่าที่ทำได้
    มือเอาไว้ตรงหน้าท้องใกล้ลิ้นปี่(ด้านที่ปวด)
    โดยอาจใช้มืออีกข้างช่วยจับคอขวด
    แล้วหนีบอยู่อย่างนั้นประมาณ 5-10 นาที จึงเลิก
    ทำบ่อยๆ หรือเมื่อมีอาการ

    ขณะที่หนีบขวดอยู่ บางท่านอาจรู้สึกชาที่แขน ที่มือ(ข้างที่เหน็บขวด)
    ให้ขยับขวด ให้เลือดไปไหลเวียนที่แขนสักเดี๋ยวหนึ่ง แล้วหนีบขวดต่อให้ครบเวลา

    อาการต่างๆจะดีขึ้น บางท่านที่เป็นไม่มาก อาจหายไปเลย

    โชคดีครับ ขอให้หาย...ๆ....ๆ
     
  15. combatgirl

    combatgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +121
    เนื้อหาอธิบายชัดเจนดีค่ะ ขอบคุณที่ให้ความรู้
     
  16. combatgirl

    combatgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +121
    เคยอ่านบทความเกี่ยวกับการใช้ยาไทยรักษาโรคมะเร็ง ยาแต่ละตำรับจะใช้กับโรคมะเร็งที่เกิดสาเหตุต่างๆ กัน ตำแหน่งต่างๆกัน ถ้าเป็นการวิจัยพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่ารักษาได้จริงก็น่าจะเป็นผลดี เพราะจะได้ไม่ต้องตัดอวัยวะที่เป็นมะเร็งทิ้ง
     
  17. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    คุณแม่ลุงก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 8 ปีก่อน ทรมาณมากกว่าจะเสียชีวิต ค่ารักษาแพงมาก ออกจากโรงพยาบาลคุณหมอบอกว่า อยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน เลยระดมหายาสมุนไพรกัน อยู่ได้ 2 ปีกว่า หมอยาสมุนไพรเสียชีวิตก่อนแม่ลุงตั้ง 2 คน น่าสงสารมากแม่เลยไม่มียารักษาจากหมอ เพราะหมอไม่มีคนสืบทอด น่าเสียดายมาก ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้ครับ
     
  18. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ประมาณ เดือน-สองเดือนที่ผ่านมา ญาติผู้เป็นคู่เขย ได้ป่วยเป็นโรคนี้(มะเร็งตับ)
    ได้มีโอกาสเข้าไปดูแล ไปเช้าเย็นกลับอยู่เกือบสองเดือน
    นำความรู้ที่มีเข้าช่วย ยืดชีวิตและความเจ็บปวดได้ระดับหนึ่ง
    (แต่ตัวคนไข้ และลูกๆปฏิเสธยาไทยทุกรูปแบบ และญาติทุกคนปิดบัง ไม่บอกให้คนไข้รู้ว่าเป็นอะไร)
    สุดท้ายเสียชีวิตด้วยอาการน้ำท่วมปอด

    ในระหว่างดูแล ได้รู้ได้เห็น อะไรหลายๆอย่าง เพิ่มความรู้ให้เรามากอยู่
    จะมาค่อยๆๆเขียนเล่าให้ฟัง
     
  19. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ปฐมบทแห่งโรคภัยไข้เจ็บ

    ข้าได้สดับจากท่านผู้เฒ่ามาเช่นนี้

    ในอดีตกาลที่ล่วงผ่าน อันไม่อาจนับประมาณเวลาได้
    หลังจากเทพมนุษย์คู่แรกได้ถึอกำเนิดมาในโลกนี้แล้ว และได้ให้กำเนิด เทพมนุษย์คนแล้วคนเล่า
    สมัยหนึ่ง ท่านได้ให้กำเนิดบุตรแฝด สี่ท่าน
    ทั้งสี่เจริญเติบโตขึ้น ได้ศึกษาวิทยาการทั้งปวงแห่งเทพมนุษย์ อันเหมาะกับตน
    เมื่อเจนจบในวิทยาการ แต่ละท่านต่างเชี่ยวชาญไปคนละแบบ

    หนึ่ง สามารถควบคุมและบัญชาธาตไฟ ในทุกรูปแบบ มีนามว่า "อัสนี"
    หนึ่ง สามารถควบคุมและบัญชาธาตดิน ในทุกรูปแบบ มีนามว่า "พสุธา"
    หนึ่ง สามารถควบคุมและบัญชาธาตลม ในทุกรูปแบบ มีนามว่า "วายุ"
    หนึ่ง สามารถควบคุมและบัญชาธาตน้ำ ในทุกรูปแบบ มีนามว่า "พิรุณ"

    ทั้งสี่เป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เยาว์วัย
    แต่ละครั้งที่ได้รวมตัวพบกัน ต่างใช้ความรู้ที่มีอยู่แสดงอำนาจแห่งตน จนสุดฤทธิ์ เพื่อหาผู้ที่เหนือกว่า
    แต่ทุกครั้งก็ไม่มีผู้ใดเหนือกว่าผู้ใด
    แม้แต่เมื่อเจนจบในวิทยาการแห่งเทพมนุษย์แล้ว ก็ยังไม่มีผู้ใดเป็นเลิศกว่า

    ทุกครั้งที่ท่านทั้งสี่ได้พบกัน ต่างเข้าเริงฤทธิ์ แล่นกันด้วยความรื่นเริง
    ในสถานที่นั้นๆ ล้วนอึมครึ้ม ไปด้วยเมฆหมอกและฝุ่นฝง แสงเสียงแห่งอัสนี
    สายฝนและลมพายุหวลไปมา

    ในระหว่างการเริงฤทธิ์แต่ละครั้ง
    มีสิ่งที่อุบัติขึ้น ลักษณะดังฟองสบู่เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง มีแสงสีประจำตนเป็นสีต่างๆ แดงบ้าง เขียวบ้าง บ้างก็ม่วงสดใส ฯลฯ ระยิบระยับดั่งสีรุ้ง
    ฟองอากาศนี้เกิดขึ้นและกระจายออกจากศูนย์กลางการเริงฤทธิ์นั้น
    ปลิวไปเกาะกับกิ่งไม้ และสิ่งรอบข้าง

    ไอ้เจ้าฟองแก้สนี้คล้ายมีชีวิต เมื่อเข้าเกาะสิ่งใด ก็ทำตนกลมกลืนกับสิ่งนั้น
    บ้างเกาะกิน บ้างอาศัยร่วมกัน บ้างแปรเปลี่ยนสิ่งที่เกาะเป็นที่อาศัยดุจการสร้างเรือนเป็นที่อยู่แห่งตนฉะนั้น ฯลฯ

    สิ่งที่เกิดให้เห็นสร้างความสงสัยให้ท่านผู้เฒ่ายิ่งนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2008
  20. ผู้หญิงธรรมดา

    ผู้หญิงธรรมดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +535
    เป็นสิวและจุดด่างดำ ทำไงหายค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...