สติคือไม่คิด มันใช่เหรอ ผมว่าไม่ใช่นะ

สังเกตไหม พยายามอธิบายไตรลักษณ์

อธิบายเสร็จ ก็ งง

งง แล้วก็ อยากดูสิ ใครย้อนแย้งไปทางอื่นไหม

เอ....kuพูดถูกยังหว่า

เอ....kuกล่าวผิดตรงไหนไหมนี่

เอ.....พูดถูกแล้วมั้ง อีกฝ่าย แกล้งเงียบ

 

สงสัยนะคะ

ธาตุ = ทรงสภาพนั้น ตั้งเป็นสิ่งนั้น
สิ่งที่ทรงสภาพตามธรรมชาติ เรีนกสิ่งนั้นว่า ธาตุ

เช่น มนุษย์ มี 4 ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ
มนุษย์ มีสิ่งที่ตั้งไว้เป็น หู ตา ลิ้น จมูก กาย ใจ

มโนธาตุ= ตั้งไว้เป็นสิ่งที่ ...รู้
โสตวิญญาณธาตุ = ตั้งไว้เป็นสิ่งที่รู้พิเศษทางประตูหู
โสตธาตุ= ตั้งไว้เป็นหู

วิญญาณ (จิต)= สิ่งที่รู้อารมณ์

แขกที่มาเยือน = คือ อารมณ์ที่ถูกรู้

และเมื่อ ขันธ์ห้า จิตวิญญาณ เกิด-ดับ

และที่บอกว่า ตัวรู้มันเกิดๆดับ ๆ ตรงไหนฟะ หมายความว่า อย่างไรคะ

 

อ้าวนางสาวขี้เหร่จิตยิ้ม...ทำไมไม่ไปถามกับ เอกราวี เล่า....ก็เอกราวีเป็นคนแนะนำให้ดูที่เกิดๆดับๆ...ชั้นก็ถามมันอยู่เหมือนกัน แล้วแก เอาที่มันพูด ที่ฉันก็ถามมัน..เอามาถามฉันทำไมกัน

งง เหรอ

 

เวลา พบคำสอน ที่พูดล่วงเลย " ขันธ์5 "

ในทางธรรมะ ให้ ยกพิจารณา อาการนั้น คือ
"การเข้าไปในส่วนสุด" "การเข้าไปบัญญัติ"

ถ้า ยังมีอาการเข้าไปส่วนสุด เข้าไปบัญญัติ ให้ถือว่า มีทิฏฐิเห็นบาง
อย่างเที่ยง บางอย่างไม่เที่ยง บางอย่างเที่ยงก็ไม่ใช่ไม่เที่ยงก็ไม่ใช่
เจืออยู่ในคลองทิฏฐิผู้พูด

ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ กับผู้ไม่ได้กำหนดสมาธิ

พระพุทธองค์เท่านั้น ที่สามารถกำหนดสมาธิ ระหว่างพูดได้ นอกนั้น
จะต้องมีแฉลบ ไม่แฉลบเป็นไม่มี ไม่ใช่ฐานะจะมีได้

ปล. ทั้งนี้เพราะ พระพุทธอธิบายว่า เพราะ พระพุทธองค์กล่าวแต่ มรรค(วิธีปฏิบัติ) เป็นสุญญตา ว่าโดยโลกุตรแต่ส่วนเดียว

 

แล้วที่แกว่า ขันธ์ห้า จิตวิญญาณเกิดๆดับๆน่ะ....ใครพาพูดมา

 

งง อะจิ พูดไปได้ ตัวรู้เกิดดับ ตรงไหน

ขา ขวิดไง

ไร้สามัญผล ไม่เคยเห็น เกิดดับ ตรงตามความเป็นจริง

จึงไม่รู้ว่า ทวนกระแสเห็นขันธ์เกิดดับ แล้ว จะเห็น อะไร

เห็นแล้ว หากพยายามจะเข้าไปส่วนสุด เข้าไปบัญญัติ
สมาธิไม่มีหายจ้อย ก็จะ ฮานาก้า ไปเรื่อยเปื่อย ไร้สามัญผลเอาได้ หน่าฮับ

 

อันนี้ ชั้นเถียง...ชั้นมี ชั้นรู้...ทำไม ถึงว่า ไม่ไช่ฐานะจะมีได้....วะ

ก็แกไม่มี ไม่เป็น ไม่ได้.....แล้วคิดว่า คนอื่น จะฉลาดเท่าเดิม....เหมือนแกหรือยังไง

 

เนี่ยแค่มันละเมอเพ้อพก..คำว่า...ทวนกระแสเห็นขันธ์เกิดดับ..(อ้อมันพาพูดหรือวะ)

ตำราไหนวะ.....เนี่ย สำนักไหน....ทวนกระแสเห็นขันธ์เกิดดับ...มั่วซะไม่มี

 

ลองอธิบายการทวนกระแสเห็นขันธ์เกิดดับซิว่า ที่แกเคยทวน มันทวนยังไง เห็นขันธ์เกิดดับเป็นยัง

เล่าสู่กันฟังซิ ว่า...มันยังฉลาดเท่าเดิม หรือโง่ลงกว่าเก่า....อิอิ

 

มี จิฮับ

มันต้อง มีกระบวนการ ทวนกระแส ไปรื้อค้น เห็นเหตุ [ ต้องเห็น สอง สาม ขณะ ต่อเนื่อง เพียงพอ ]

หากยังไม่ ทวนตรงนี้ จะบอกว่า เห็นเหตุ รู้เหตุ ก็หา ฐานะไม่ได้

มีแต่ ด้น เดา เด้าเอาว่า ทวนแว้วว ออกไปนอกโว็กแววว กลับมา สี่เม็ดหลังอาหาร

 

ที่ชั้นถามเอกราวี...เพราะมันพูดว่า เห็นขันธ์เกิดดับ ไง

ก็ตัวสติรู้ คือ...ตัวจิตรู้ที่มัน เป็นผลที่เกิดจาก ขันธ์ทั้งห้าอุปทานร่วมกันมาแล้ว อยู่แล้ว และยังอุปทานกันอยู่...รวมกันเป็นจิตรู้หรือตัวสติรู้หรือตัวรู้

ทีนี้ถ้าเอกราวีมันพูดว่า มันเห็นขันธฺเกิดดับๆ...ชั้นก็สวนมันไปว่า..อ้าวเหรอ ตัวสติรู้จิตรู้ ตัวรู้ มันเกิดๆดับๆอยู่เหรอ....ชั้นถามประชด มัน โว้ยยยยยยย

 

ใครพูดตามแกล่ะ ว่าทวนกระแสเห็นขันธ์เกิดดับ.....มีแกคนเดียวแหล่ะ:boo:

 

เชย บทที่ว่า ทวนไปเห็น ในโลก มีบรรยายดาดดื่น

แต่ ฟังแล้ว ก็งั้นๆ

จะมี รสชาติโอ้โฮ อ้าฮา เฉพาะ คนไม่เคยภาวนา ไม่เคยเดินเลยสักก้าว

 

เยอะ แยะ

ถามคุณ ผ่านมา ก็ได้

เคยเห็นขันธ์ไป ขันธ์มา อะเป่า

คนเก๋าๆ แจ๋วจิง เขาเคยเห็นหมดแหละ

 

เอกราวี...แล้วตัวขันธ์เกิดดับที่แกว่าถึง....มันคืออะไร...
เหตุที่แกเห็นน่ะ

 

ดูมันตอบ....ไอ้แจ๊คสะแปโร่เอ๊ย....ตกลง..ยังฉลาดเท่าเดิมเลยหว่ะ

 

มุดกลับลงรู เดิมดิ....เอกราวี...หมดมุกแล้วแก

...
ไม่พัฒนาเลยหว่ะ...

 

สำหรับ คงจิกยิ้ม

คำว่า ธาตุ

คำว่า ธรรม


มันเป็น สรรพนาม เหมือน หน่วยนับ จานเป็น"ใบ" หรือ "ชนิด"
ระบุเพื่อการสื่อสาร ให้เกิดการค้นคว้า วิจัย ในเชิงของ จิต

อย่าไป จับเอามาเป็น ตัวหา ธาตุ แบบเล่นแร่แปรธาตุ จะฝุ้งซ่านเกิน
ความสมควรแก่ธรรมปฏิบัติ [ อย่าไปหา ธรรมธาตุ !! ภาวนาแบบ เถรส่องบาตร ]

เดี๋ยวถูก ท่านพุทธทาสโกยลงถัง [ ถ้าเข้าใจ จะเห็น การเสียสละของสงฆ์ ทีทำไว้ เหมือน ผ้าป่าช่วยชาติ ฯลฯ ]

 

สังเกตไหม พยายามอธิบายไตรลักษณ์

อธิบายเสร็จ ก็ งง

งง แล้วก็ อยากดูสิ ใครย้อนแย้งไปทางอื่นไหม

เอ....kuพูดถูกยังหว่า

เอ....kuกล่าวผิดตรงไหนไหมนี่

เอ.....พูดถูกแล้วมั้ง อีกฝ่าย แกล้งเงียบ

 

เออๆ...โง่เท่าเดิม...แปลว่า ยังอยู่กับปัจจุบันอยู่....เข้าใจแล้ว...ไปไกลๆเลยไป:boo: