เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 30 มิถุนายน 2010.

  1. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    บนโลกมนุษย์

    ถ้าผู้ใดหยิบ หรือฉกฉวย ของๆ เรา (ของๆ เราจริงๆ นะคะ ไม่ใช่เราก้ไปจิ๊กมาจากคนอื่นแล้วมาโมเมว่าเป็นของตน เช่น ของสาธารณะ ของๆ สำนักงานออฟฟิศ เป็นต้น) โดยปรกติแล้วเราจะทำอย่างไรคะ?


    วิธีการก็แบบเดียวกันค่ะท่านผู้อ่าน มันไม่ใช่วิธีการป้องกัน แต่เป็นวิธีแก้ไขนะคะ เพราะเราต้องมีของสิ่งนั้นก่อน ในที่นี้ก็คือบุญของเรา อะนะคะ


    เขายังไม่ได้มาฉกของๆ เรา เราก็ไม่อาจเอาผิดกับเขาได้ แต่ถ้าเขาฉก หรือหยิบของๆ เราไปแล้ว อันนี้ถึงจะไปเรียกขอเอาคืนมาหนะค่ะ เป็นอย่างนั้นใช่ไหมคะ?


    ดังนี้จึงไม่มีวิธีการป้องกัน มีเพียงแต่วิธีการแก้ไขค่ะ ซึ่งอันนี้หมอสุวิก็ได้เคยแนะให้กะทิเธออธิษฐานขอคืนเอาเองเน้อ หมอสุวิแนะกะทิเธอไว้เพียงเท่านี้ค่ะ เอวังฯ
     
  2. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    บนโลกมนุษย์

    ถ้าผู้ใดหยิบ หรือฉกฉวย ของๆ เรา (ของๆ เราจริงๆ นะคะ ไม่ใช่เราก้ไปจิ๊กมาจากคนอื่นแล้วมาโมเมว่าเป็นของตน เช่น ของสาธารณะ ของๆ สำนักงานออฟฟิศ เป็นต้น) โดยปรกติแล้วเราจะทำอย่างไรคะ?


    วิธีการก็แบบเดียวกันค่ะท่านผู้อ่าน มันไม่ใช่วิธีการป้องกัน แต่เป็นวิธีแก้ไขนะคะ เพราะเราต้องมีของสิ่งนั้นก่อน ในที่นี้ก็คือบุญของเรา อะนะคะ


    เขายังไม่ได้มาฉกของๆ เรา เราก็ไม่อาจเอาผิดกับเขาได้ แต่ถ้าเขาฉก หรือหยิบของๆ เราไปแล้ว อันนี้ถึงจะไปเรียกขอเอาคืนมาหนะค่ะ เป็นอย่างนั้นใช่ไหมคะ?


    ดังนี้จึงไม่มีวิธีการป้องกัน มีเพียงแต่วิธีการแก้ไขค่ะ


    ทางโลกมนุษย์ใช้วิธีการเช่นไร โลกต่างมิติก็ไม่ต่างกันค่ะ


    ซึ่งอันนี้หมอสุวิก็ได้เคยแนะให้กะทิเธอ "อธิษฐานขอคืน" เอาเองเน้อ หมอสุวิแนะกะทิเธอไว้เพียงเท่านี้ค่ะ ดังนี้ก็ขอให้ผู้อ่านตั้งจิตนึกคิดคำอธิษฐานขอคืนเอาเองได้ตามแต่จิตของท่านนะคะ กะทิเธอก็มีคำของเธอ ผู้อ่านก็ลองคิดนึกนำอธิษฐานกันดู ตามแต่ใจของท่านเทอญฯ ค่ะ ^ ^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  3. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ไม่ยากค่ะ ไม่ยาก


    คุณอันน์เริ่มคำอธิษฐาน เป็นตัวอย่างเอาไว้ด้วยดีไหมคะ?


    กะทิเธอ ยกตัวอย่างคำในประโยคแรกให้ผู้อ่านทุกท่านลองเติมคำที่เหลือในช่องว่างกันค่ะ เพื่อที่จะให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม เหตุเพราะตอนที่หมอสุวิแนะกะทิเธอ หมอท่านก็ไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่านั้น เพราะอยากให้ลองคิดเองด้วยอะนะคะ


    กะทิเธอ ขออนุญาต เริ่มตัวอย่างคำในประโยค 1 คำ ที่กะทิเธอเคยคิดเองเอาไว้นะคะ แล้วขอให้ผู้อ่าน อาทิ GaoRaek, GreenWall, som747, yui_61, ธารทอง , พ่อณภัทร, อักสรา, อันน์, กมลภู, ชัชชลี, ธารทอง, สัมมา , chaivat chinkidjakar, fiolita, itou และท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่เป็นแฟนคลับกระทู้นี้ รบกวนช่วยกันเข้ามาเขียนเติมลงไปค่ะ (โดยวิธีเขียนตอบต่อกระทู้ตามปรกติ ลงไปเรื่อยๆ)



    "บุญกุศล(กุศลกรรมใดที่เป็นของข้าพเจ้า) ได้ทำไว้ดีแล้ว ...... ...... ..... ...........บลา บลา บลา (หลายบรรทัดอยู่ค่ะ)"



    ปล. ถ้าไม่มีใครร่วมสนุก (เพราะต้องการให้ผู้อ่าน) ได้มีส่วนร่วม กะทิเธอก็จะไม่เข้ามาตอบนะคะ ^ ^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  4. itou

    itou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,196
    ปกติก็ไม่ได้หวงบุญ ทำอะไรก็จะอุทิศรวมๆกันให้สรรพสัตว์ทั้งปวงหลังทำสมาธิตลอด
    สงสัยว่าถ้าเราอุทิศอย่างนี้ทุกครั้ง เค้าอาจจะไม่ฉกให้เหนื่อยหรือเปล่าครับ นอนรอรับสบายๆไม่ดีกว่าหรอครับ

    ลองมั่วๆดูนะครับ "บุญกุศล(กุศลกรรมใดที่เป็นของข้าพเจ้า) ได้ทำไว้ดีแล้ว ... ด้วยสัจจะที่ว่า “บุคคลทำกรรมใดไว้ ดีก็ตามชั่วก็ตาม เขาย่อมต้องรับผลแห่งกรรมนั้น” ขอให้บุญกุศลทั้งหลายนั้นจงสำเร็จแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ"
     
  5. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ปกติก็ไม่ได้หวงบุญ ทำอะไรก็จะอุทิศรวมๆกันให้สรรพสัตว์ทั้งปวงหลังทำสมาธิตลอด
    สงสัยว่าถ้าเราอุทิศอย่างนี้ทุกครั้ง เขาอาจจะไม่ฉกให้เหนื่อยหรือเปล่าครับ นอนรอรับสบายๆไม่ดีกว่าหรอครับ



    ตอบ : เป็นคนละกรณีกันค่ะ กรณีที่เรากำลังพูดคุยกันนี้ คือจำพวกที่ ทำไม่ดีเอาไว้ แต่สามารถหาวิธีมาพลิกกลับให้เป็นดีได้ เรียกว่า ไม่ต่างจากมนุษย์ คือ ทำไม่ดี (ทำผิด) แต่สามารถปรับคำพูดของตน ให้กลายเป็น ถูกได้ค่ะ นี่คือสิ่งที่กำลังแพร่สะพัด ขยายตัวในโลกต่างมิติ

    เมื่อขยายตัวในลักษณะนี้ ไม่เว้นแม้แต่โลกมนุษย์ แต่แพร่ไปทั่วทั้งจักรวาล อะไรจะเกิดขึ้นคะคุณ itou และท่านผู้อ่าน ???


    ทั้งนี้รวมถึงการฉกฉวยในบุญของผู้อื่นไปเป็นของตน หน้าตาเฉย ด้วยหนะค่ะ ด้วยวิธีการเดียวกันหรือคล้ายๆ กัน


    ถ้าให้เปรียบไป ก็เหมือนกฏหมายบ้านเราที่บางข้อ สามารถพลิกกลับไปกลับมา เพื่อเอื้อแก่คนบางกลุ่ม และริดรอนจากคนบางกลุ่มได้ โดยเฉพาะเอื้อต่อคนมีระดับ และริดรอนกับคนรากหญ้า ประมาณนั้น ดังยกตัวอย่างนะคะ


    ดังนั้นสมมติว่า คนที่มุ่งมั่นตั้งใจ เช่น ชาวนาตั้งใจทำนา (สัมมาหาเลี้ยงชีพชอบ) แต่มีคนบางกลุ่มคิดการฉ้อฉลให้เข้าใจผิด สุดท้ายทำนามาแทบตาย ก็หมดตัว และหัวหน้าครอบครัวบางคนถึงกับอัปเปหิตัวเองไปก็มี (ยัยกะทิชักจะใส่อารมณ์ไปรึเปล่า? ต้องขออภัยท่านผู้อ่าน และผู้อาจเกี่ยวข้องนะคะ ไม่ได้คิดจะล่วงเกินค่ะ)


    ------------------------------


    ลองมั่วๆดูนะครับ "บุญกุศล(กุศลกรรมใดที่เป็นของข้าพเจ้า) ได้ทำไว้ดีแล้ว ... ด้วยสัจจะที่ว่า “บุคคลทำกรรมใดไว้ ดีก็ตามชั่วก็ตาม เขาย่อมต้องรับผลแห่งกรรมนั้น” ขอให้บุญกุศลทั้งหลายนั้นจงสำเร็จแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ"



    ตอบ ดังกล่าวข้างต้นไป ว่าเขาจะใช้คำพูดผลิกกลับไปกลับมา(ภาษามนุษย์ คล้ายๆ กับคำว่าเล่นลิ้น) ดังนี้ ตรงที่คุณ itou เขียนไว้ว่า “บุคคลทำกรรมใดไว้ ดีก็ตามชั่วก็ตาม เขาย่อมต้องรับผลแห่งกรรมนั้น” ตรงนี้ เขาก็จะผลิกว่า สิ่งที่เขาทำนั้น(อาจ) จัดกลุ่มไว้ว่าดี (ลองนึกถึงกฎหมายบางข้อที่มีช่องโหว่ไว้นะคะ)


    ดังนี้กะทิเธอขอขอบคุณที่คุณเป็นคนแรก ผู้นำจ่าฝูง ที่นำเสนอและมีส่วนร่วมค่ะ ท่านผู้อ่านท่านอื่น ช่วยกันนำเสนอแนะเข้ามากันเยอะๆ นะคะ กำลังรออ่านค่ะ


    GaoRaek, GreenWall, som747, yui_61, ธารทอง , พ่อณภัทร, อักสรา, อันน์, กมลภู, ชัชชลี, ธารทอง, สัมมา , chaivat chinkidjakar, fiolita, itou และท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ ตื่นๆๆ ค่ะ ^ ^ มาเล่นเกมกับกะทิเธอกันเร้ววววว


    ปล. บอกใบ้ให้เพิ่มอีกนิดว่า ที่คุณ itou เขียนไว้ว่า "ด้วยสัจจะ" คำๆ นี้เป็นคำที่เรียกว่าสำคัญในประโยคค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  6. InfinityMind

    InfinityMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +214
    จริงๆ เพิ่งจะเล่าเรื่องนี้ให้คุณกะทิอ่านทางกล่องข้อความไปเมื่อวานค่ะ จึงเป็นที่มาของสิ่งที่คุณกะทิมาบอกเล่าในกระทู้นี้ ลักษณะคือ เหมือนโดน "ตัดกำลัง" น่ะค่ะ

    ในขณะที่เรากำลังพยายามสร้างสมบารมีทีละเล็กละน้อยอย่างสม่ำเสมอ พอกำลังสมาธิดีขึ้น ก็จะมีอะไรมาตัดทอนกำลังแบบรู้สึกได้เลยว่ามันผิดปกติ เพราะกำลังสมาธิจะอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็ต้องมาเริ่มสะสมกำลังกันใหม่อีก ทั้งที่กำลังสมาธิที่มีนี้ก็ไม่ได้มากมายอะไรเลยนะคะ เปรียบไปก็เหมือนกับเตรียมอนุบาล กำลังจะขึ้นอนุบาล 1 อยู่แล้ว อยู่ๆ ก็เหมือนโดนกระชากให้กลับลงไปอยู่เตรียมอนุบาลเหมือนเดิม

    โดยส่วนตัวของอันน์เองเป็นแบบนี้มาสองหนแล้วค่ะ แล้วสิ่งที่มาตัดรอนก็มาในรูปของการเจ็บไข้ได้ป่วย พอหายป่วยหายเจ็บ กำลังสมาธิก็ตกไปจากเดิมแล้ว เพราะตอนเจ็บป่วยจะทำสมาธิแทบไม่ได้เลย ทำได้แค่สวดมนต์เท่านั้น

    และด้วยเหตุที่ประสบกับตัวเองมาสองหนแล้วนี่ล่ะค่ะ จึงต้องขอพึ่งพาบารมีของครูบาอาจารย์ให้ช่วยคุ้มครอง จริงๆ แล้วในทุกวันจะสวดบทจักรพรรดิพร้อมกับแผ่เมตตาไปทั้งสามโลกธาตุตามที่หลวงตาม้าท่านสอน ดังนั้นจึงมีการแผ่ส่วนบุญหรือแผ่เมตตาเป็นปกติอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือ กำลังบารมีที่เราสะสมมาและควรจะอยู่กับเราตราบเท่าที่เรายังคงปฏิบัติอยู่นั้น มักจะมีเหตุให้โดน "ตัดกำลัง" ดังที่เล่าไปแล้วน่ะค่ะ (เรื่องนี้คงถือว่าเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลได้กระมังคะ สมาชิกท่านอื่นอาจจะไม่ได้ประสบเหตุแบบนี้ก็เป็นได้ค่ะ)

    เมื่ีอเช้านี้จึงได้อธิษฐานจิตกับหลวงปู่ดู่ไปค่ะ พยายามนึกภาพท่านในใจให้ได้ชัดทุกครั้งที่นึกถึง (ก่อนหน้านี้ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่นี้ต่อไป จะพยายามให้ชัดทุกครั้งค่ะ) อธิษฐานกับหลวงปู่ไปว่า ขอฝากดวงจิตไว้กับท่าน และขอให้ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองไม่ให้ใคร(หรือดวงจิตใด)มาฉกฉวยกำลังบารมีของเราไปได้ (ส่วนที่แผ่เมตตาไปแล้วก็แยกกันต่างหากนะคะ อันนี้หมายถึงกำลังบารมีในส่วนที่ควรจะอยู่กับเราน่ะค่ะ เราไม่ต้องการให้ใครมาแอบฉกฉวยเอาไปได้ง่ายๆ อีก) และนอกเหนือจากนี้ ตัวเราเองก็จะพากเพียรสะสมกำลังบารมีด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอต่อไปค่ะ

    ตอนแรกว่าจะเขียนสัั้นๆ ไปๆ มาๆ เขียนซะยาวเลย
    หวังว่าคงจะพอเป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิกบ้างนะคะ : )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  7. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ถูกแต่ยังไม่ครอบคลุมค่ะ
     
  8. ถวายบูชา

    ถวายบูชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +560
    ในการอธิฐานบุญของผมในการทำบุญกุศลทุกครั้ง บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาตั้งแต่ปฐมชาติจนถึงปัจจุบันและในอนาคต ขอบุญกุศลจงรวมตัวเป็นหนึ่งเดี่ยวกับบุญบารมีทั้งหลายของ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระมหาพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระมหาปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิ์สัตว์ พระมหาโพธิ์สัตว พระอรหันต์ พระมหาอรหันต พระอริยสงฆ์อริยเจ้าทุกพระองค์ องค์คุณ องค์มหาบารมีทั้ง ทุกพุทธัรดร ขอบารมีทั้งหลายแผ่ไปทั่ววัฏสงสาร ทุกหมู่ทุกเหล่าทุกดวงจิตทุกชั้นภูมิ ที่เหลือจากนั้นก้อแล้วแต่จะต่อเติมตามตามสะดวก ไม่รู้ถูกหรือผิดนะครับ ไม่รู้จะโดนฉกฉวยไปเท่าไรไม่รู้เลยครับ ต้องรอคุณกะทิ แล้วครับงานนี้
     
  9. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168

    การฝากบุญไว้กับพระอริยสงฆ์ ที่ดีควรระบุให้แน่ชัด เจาะจงให้ชัดว่า หลวงปู่ดู่ท่านใด เหตุเพราะมีเหตุอีกนั่นแหละ


    เหตุที่เคยเกิดกับกะทิเธอ คือ She เข้าเฝ้าองค์หลวงพ่ออุปคุต ณ สะดือทะเล ไปรอเผื่อขอใส่บาตรท่าน


    แต่ทว่า ในบางที ก็ได้เจอท่านปลอมๆ (มีผู้ปลอมตัวมา) หรือไม่ก็เป็นกายทิพย์ แยกมาจากท่านอีกทีหนึ่ง ไม่ใช่ตัวจริง ในหลายๆ ครั้งจึงถูกหลอกก็มีบ่อย


    อย่างที่กะทิเธอเคยเล่าไว้ในนิทานตอนก่อนๆ แล้วว่า บางท่านสามารถแยกกายทิพย์ออกมาเพื่อให้ช่วยอะไรบางอย่าง บางประการ


    อย่างท่านหมอสุวิ ท่านก็แบ่งออกมาให้ช่วยงาน โน่น นั่น นี่ ซึ่งกายทิพย์แต่ละกาย ก็มีความคิดเป็นของตนเอง จะดีจะชั่วก็เป็นตัวของกายทิพย์เอง ไม่ได้เป็นของต้นฉบับอีกต่อไป

    ดังนี้ถ้าจะมีกายทิพย์ใดทำไม่ดี ต้นฉบับก็ต้องรับกรรมนั้นไปด้วย ดังนี้ยัยกะทิทำสิ่งใดไม่ดี ต้นฉบับของยัยกะทิเอง ท่านก็ต้องรับไปด้วย

    ดังนี้ไม่ต่างจากพระอริยสงฆ์ หลวงปู่ดู ท่านมีกายทิพย์อยู่หรือไม่ และมีอยู่มากเท่าไหร่ คุณอันน์ ลองนั่งสมาธิพิจารณาดู


    ดังนี้การระบุให้ชัด จึงเป็นสิ่งที่ควรเติมลงไปในคำกล่าวอธิษฐานด้วยค่ะ คุณอันน์และท่านผู้อ่านคะ ท่านจะฝากบุญกับผู้ใด ก็ทำอย่างคุณอันน์ได้ แต่ควรระบุให้ชัด เจาะจง รอบคอบด้วยค่ะ กะทิเธอฝากเตือนมานะคะ
     
  10. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    5555 หมอสุวิรีบมาบอกยัยกะทิเธอค่ะ หลังจากคงได้เข้ามาอ่านกะทู้ ว่าตอนนี้พวกเรากำลังคุณเรื่องอะไรกันอยู่หว่า?


    พอได้อ่านแล้ว หมอท่านก็อดรนทนบ่อได้ แสดงว่าข้อความหลังไมค์จนกลายเป็นกระทู้ในช่วงนี้ได้ผล เพราะผู้ที่อยากเข้ามามามีส่วนร่วมมากที่สุด เห็นจะเป็นหมอสุวิอะนะคะ แต่เหตุใดท่านไม่เข้ามาเขียนเอง อธิบายเองให้รู้แล้วรู้รอดหว่า?


    อย่ากระนั้นเลย กะทิเธออธิบายต่อดีกว่า ว่าหมอท่านแนะนำ กะทิเธอ ในเรื่อง "ไม่ให้ถูกริดรอนบุญไปได้ ทำอย่างไรหว่า?"


    ในที่สุด ท่านก็ตกผลึกมาเป็นบทสวดมนต์ให้แล้วสักที


    เนื่องจากบทสวดมนต์ในพระพุทธศาสนามีอยู่หลายบทอะนะคะ ดังนี้การจะเจอบทสวดมนต์ที่เหมาะสม จึงต้องมีการพิจารณา ผ่านการพิจารณาโดยรอบคอบอยู่ด้วยค่ะ


    ดังนี้หมอสุวิก็เลยอาจแนะนำกะทิเธอช้าไปหน่อย (ก็ไม่หน่อยนะ ตั้งแต่วันที่หมอบอกว่ายัยกะทิเธอถูกริดรอนบุญ และสมบัติต่างมิติไป ก็น่าจะตั้งแต่ต้นปี และท่านได้แนะวิธีแก้ไข ด้วยการอธิษฐานเรื่อยมา) แต่ยังไม่เคยระบุเจอจงเป็นบทสวดมนต์สักกะทีอะนะคะ


    ในวินาทีนี้ หมอสุวิเธอจึงรีบเขียนมาบอก (ท่านผู้อ่านท่านอื่นๆ ยังไม่ได้มีส่วนร่วมเล่นเกมกับกะทิเธอเลยอะ อดคุยกับท่านผู้อ่านท่านอื่นเลยนะกะทิ >>> กะทิเธอคิดในใจ)


    ------------------------------------

    ท่านหมอสุวิได้ส่งข้อความด่วนๆ มาถึงกะทิเธอดังนี้ค่ะ ขออนุญาตตัดตอน ข้อความคำพูดที่หมอกับกะทิคุยกันดังนี้นะคะ


    หมอสุวิ : วันนี้อำนาจ ของปัญจมารสูงมาก ต้องใช้ พระเสมา+กัมมาเว จึงจะต้านอยู่ แต่ถ้าสวดพระปริตรตามที่หมอบอก(นำบุญบูชาแล้วอธิษฐานขอความคุ้มครอง) จึงจะคุ้มครองได้ ๑๐๐%


    พุทธมนต์บทนี้ เอาไว้แก้เรื่อง ปัญจมารและอสูรกายชุดนี้ โดยเฉพาะ

    บทมนต์พระปริตร รัตนสูตร

    (ตั้งนะโม ๓ จบ)

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
    ภุมมานิ วา ยานิวะอันตะลิกเข
    สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ
    อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง
    ตัสะมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ
    เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ
    ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง
    ตัสะมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา ฯ

    ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา
    สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง
    นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ
    อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง
    ยะทัชฌะคา สักะยะมุนี สะมาหิโต
    นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ
    อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง
    สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ
    สะมาธินา เตนะ สะโมนะ วิชชะติ
    อิทัมปิ ธัมเม ระตะนังปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิโหตุ ฯ

    เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา
    จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ
    เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา
    เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ
    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ
    นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ
    เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ
    ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา
    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยา
    จะตุพภิ วาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย
    ตะถูปะมัง สัปปุริสัง วะทามิ
    โย อะริยะสัจจานิ อะเวจจะ ปัสสะติ
    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ
    คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ
    กิญจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา
    นะ เต ภะวัง อัฏฐะมะมาทิยันติ
    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ
    ตะยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันติ
    สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะ
    สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ
    จะตูหะปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต
    ฉะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุง
    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง
    กาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วา
    อะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ
    อะภัพพะตา ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตา
    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเค
    คิมหานะมาเส ปะฐะมัสะมิง๑ คิมเห
    ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ
    นิพพานะคามิง ปะระมัง หิตายะ
    อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร
    อะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ
    อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง
    วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสะมิง๒
    เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา
    นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป
    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
    ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข
    ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง
    พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
    ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข
    ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง
    ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
    ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข
    ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง
    สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

    ๑ อ่านว่า ปะ - ฐะ– มัด- สะ – หมิง
    ๒ อ่านว่า ภะ – วัด – สะ – หมิง


    (กะทิ : การสวดมนต์บทนี้ ในความเข้าใจของกะทิเธอ ตามที่หมอสุวิพยายามอธิบายและคุยกันไปมา ท่านต้องการให้บทสวดมนต์เป็นเสมือนหนึ่งครูผู้คุ้มครอง ดังนี้เมื่อบทสวดเป็นครูของเรา เราจึงต้องน้อมบูชาคุณของครูท่าน


    ซึ่งในจุดนี้ คนไทยในปัจจุบัน มักจะหลงลืม และ/หรือ มองข้ามความสำคัญของบุญคุณ ไม่ว่าจะเป็นคุณของพ่อแม่ / ผู้อุปการะเลี้ยงดู / ครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิประศาสตร์วิชา ฯลฯ เป็นต้น ทั้งๆ ที่บุญตรงนี้ หากใครสามารถทำได้ บุญกุศลย่อมหล่อเลี้ยงบุคคลผู้นั้นไม่ให้ตกต่ำอัปจนได้ โดยที่พวกเขาไม่รู้เลย จึงทำให้เสียโอกาสอันมีค่านี้ ที่จะได้รับบุญไม่ให้ถูกฉุดให้ตกต่ำไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง
    )


    วิธีการน้อมบูชาครูท่าน ในที่นี้ก็คือ...

    หมอสุวิ : (ให้ผู้สวดมนต์) นำบุญ(ของตน) ขึ้นบูชา(บทสวด)พุทธมนต์บทนี้ และอธิษฐานด้วยปัญญา จะระงับภัยจากการฉ้อฉลและเบียดเบียนนี้ได้
    (ข้อความในวงเล็บเป็นการอธิบายเพิ่มเติมของกะทิ)


    หมอสุวิ : บทสวด รัตนสูตร (รัตนปริตร) https://youtu.be/kfN9j-s9ZUg แบบคาราโอเกะ ง่ายหน่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  11. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    เพิ่มเติม

    มีคนๆ หนึ่งได้อธิบายประวัติของบทสวดมนต์ รัตนสูตร (รัตนปริตร) เอาไว้ด้วย ดังนี้เพื่อประโยชน์ของท่านผู้อ่าน ท่านผู้นี้คือคุณ ลักษณ์ เรขานิเทศ อะนะคะ กะทิเธอขออนุญาต นำมาอ้างอิงไว้ในกระทู้นี้ด้วยค่ะ แม้อาจจะเป็นการเล่าต่อๆ มาเหมือนประวัติพงศ์สาวดาร นิทาน ที่สืบๆ ต่อกันมาเป็นทอดๆ และถูกขัดเกลาครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม ก็ขออนุญาตค่ะ สาธุ


    บทเจริญพระพุทธมนต์ (รัตนสูตร)

    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกายขุทกปาฐะ และ ปรมัตถโชติกา
    อรรถกถาขุททกนิกาย สุตตนิบาต จุฬวรรค​

    รัตนสูตรเป็นพระสูตรที่พระอานนทเถระเรียนจากพระพุทธองค์โดยตรงเพื่อใช้สวดขจัดปัดเป่าภัยพิบัติที่เกิดกับชาวกรุงเวสาลี พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พระเถระน้อมเอาคุณของพระรัตนตรัยคือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ทำสัจกิริยาให้เกิดเป็นอานุภาพขจัดปัดเป่าภัยพิบัติทั้งหลาย


    เนื้อความรัตนสูตรท่อนแรกเริ่มต้นด้วยการแนะนำให้เหล่าภูตทั้งหลายได้อนุโมทนาบุญกุศลที่หมู่มนุษย์อุทิศให้และเมื่ออนุโมทนาแล้วขอให้เกิดความเมตตาทำการรักษามนุษย์ทั้งหลายเนื้อความท่อนต่อมาเป็นการอ้างคุณพระรัตนตรัยเป็นสัจวาจาให้เกิดความสวัสดี


    ส่วนท่อนสุดท้ายเป็นคำกล่าวของท้าวสักกะที่ผูกขึ้นเป็นคาถาพรรณนาคุณพระรัตนตรัยเป็นสัจวาจาให้เกิดความสวัสดีภายหลังรัตนสูตรได้กลายเป็นแบบอย่างในการทำน้ำพระพุทธมนต์สำหรับพระสงฆ์สาวกต่อมาจนถึงปัจจุบัน ทุกครั้งที่มีการทำน้ำ พระพุทธมนต์ จะต้องสวดรัตนสูตรจุดประสงค์ของการสวดรัตนสูตร ก็เพื่อเป็นการขจัดภัยทั้ง ๓ ประการตามที่ปรากฏในพระสูตรคือ ข้าวยากหมากแพง (ทุพภิกขภัย) ๑ ภูตผีปีศาจทำอันตราย (อมนุสภัย) ๑ โรคภัยไข้เจ็บ (โรคภัย) ๑ ให้อันตรธานไป


    ด้วยอานุภาพแห่งรัตนสูตรนี้ แม้กรุงเวสาลีจะเกิดภัยพิบัติอย่างร้ายแรง ผู้คนอดอยากล้มตายเป็นจำนวนมาก ซากศพถูกทอดทิ้งเกลื่อนนคร ภูตผีปีศาจทำอันตรายแก่หมู่มนุษย์โรคระบาดเกิดขึ้นแพร่กระจายไปทั่ว ผู้คนล้มตายเหลือที่จะนับได้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงรับสั่งให้พระอานนทเถระสวดรัตนสูตรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ภัยพิบัติร้ายแรงเช่นนี้ก็ยังระงับลงได้อย่างฉับพลัน
     
  12. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ถวายแล้วลืมเก็บรึเปล่าคะ? ถวายแล้วบุญของคุณ GaoRaek ยิ่งทวีอนันต์ สาธุกับคุณ GaoRaek อยู่ค่ะ


    แต่กะทิเธอคิดว่า น่าจะเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ประมาณว่า ....และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายบูชาบุญของข้าพเจ้านี้แล้วนั้น จงแปลเปลี่ยนเป็นพลังบุญ

    * ส่งเสริมเป็นสรรพมงคล (สิ่งใดเป็นสรรพมงคง จงเกิดมีแด่ข้าพเจ้า)

    * ให้ข้าพเจ้าอยู่เย็นเป็นสุข

    * ปราศจากการถูกเบียดเบียนจากมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลายที่ไม่ประสงค์ดีกับข้าพเจ้า


    เป็นอย่างน้อย หรือ ถ้าอย่างเต็มขึ้นมาอีกก็

    ขอให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรมได้โดยง่ายและลึกซึ้ง

    ถ้าอย่างขอให้มากอีกหน่อย ก็ขอให้ข้าพเจ้ามีปัญญาบารมี ศีลบารมี อริยบารมี วิริยะบารมี มีหิริโอตัปปะ .....บลา บลา บลา บลา .... (แล้วแต่) เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายบูชาแด่ท่านในพระพุทธศาสนา ตลดจนข้าพเจ้าเข้าสู่พระปรินิพานเช่นเดียวกันกับองค์พระผู้มีพระภาคเจ้าในพระพุทธศาสนาเทอญฯ (สาธุกับกะทิเธอด้วยค่ะ ที่เธอด้นข้อความสดๆ เอาไว้ ณ ตรงนี้เทอญฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  13. itou

    itou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,196
    มาติดอธิษฐานด้วยปัญญานี่แหละครับ คนไม่ค่อยมีปัญญาอย่างผม จะทำไงล่ะครับ ขอแนวทาง ไกด์ไลน์ สักนิดนะครับ
     
  14. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    จริงๆ กะทิเธอก็ไม่ได้รอบรู้สักเท่าไหร่หรอกนะคะ ปัญญาของกะทิก็มีเพียงแค่หางอึ่งเท่านั้น

    อย่างที่ท่านผู้อ่านทุกท่านทราบกันดีอยู่ว่า ในชาตินี้แต่เริ่มต้นมานั้น พ่อแม่ของ She เป็นคริสตเตียนด้วยกันทั้งคู่ หากไม่ใช่เพราะมีผู้อุปถัมภ์ เคยพาเธอ อุ้มไปตักบาตร เพียงครั้งเดียว รวมถึงตอนพาไปทำบัตรประชาชน และขอให้เขียนว่า She เป็นคนนับถือศาสนาพุทธแล้วล่ะก็ คำว่าพุทธศาสนาคงอาจไม่เคยเข้ามาอยู่ในหัวเธอคนนี้เลย


    อีกประการที่กะทิเธอพอจะรู้อยู่บ้างก็คือ เป็นเพราะความเมตตาจากเหล่าเทพเทวดา และครูบาอาจารย์ทั้งหลาย อันมากมี ได้ประทานพร และความรู้มาให้ กะทิเธอจึงพอได้รู้เรื่องรู้ราว เป็นชาวพุทธกับเขา


    ดังนี้การอธิษฐานบุญให้ได้ ปัญญา กะทิเธอขอน้อมยก คำว่า ศีล สมาธิ ปัญญาขึ้นมากล่าว


    เพราะศีลเปรียบไปก็เหมือนรากฐาน ที่แสดงความเป็นมนุษย์ เพราะศีลแปลว่า ปรกติ

    ดังนั้นผู้ที่รักษาศีล จึงทำให้คนๆ นั้นมีความเป็นมนุษย์ หรือก็คือ ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ แตกต่างจากสัตว์อื่น ด้วยการรักษา ความเป็น ปรกติ ของความเป็น มนุษย์ นั้น

    ศีลจึงเปรียบเหมือนโต๊ะ อะนะคะ (โต๊ะมาเกี่ยวอะไรด้วยหว่า? ผู้อ่านติดตามต่อไปค่ะ)

    สมาธิ แบบว่า ท่านคงพอทราบกันดีแล้ว ถ้าให้เปรียบในที่นี้ กะทิเธอขอเปรียบเป็นแท่งเทียน

    ปัญญา ก็คือไฟบนแท่งเทียนนั้น


    ดังนี้หากปราศจากซึ่งโต๊ะ หรือฐานตั้งที่มั่นคงให้แก่แท่งเทียนแล้วไซร้ ปัญญาอันเป็นผลที่จะทำให้แสงเทียนสว่างไสว คงไม่สามารถเป็นแน่


    ดังนี้หากคุณจะอธิษฐานขอในเรื่องปัญญา ก็อาจต้องอธิษฐาน ครอบคลุม ยกตัวอย่าง....


    ขอให้ข้าพเป็นผู้มี "ศีลบารมี" ให้ถึงพร้อม เข้าถึง "สมาธิ" ได้ง่ายโดยความเพียรที่ไม่ย่อท้อ มี "สติ"ปฐานสี่ รู้ตัวทั่วพร้อมทุกเมื่อ บังเกิดปัญญาบารมีที่สามารถในทางธรรม มีสัมมาอาชีวะ เพื่อช่วยเหลือตัวข้าพเจ้า บริวาร และผู้ไม่รู้ทั้งหลาย ให้พวกเขา......บลา บลา บลา....(แล้วแต่ท่านผู้อ่าน) ตลอดจนข้าพเจ้าหลุดพ้นจากสังสารวัฎร เข้าสู่พระปรินิพาน เช่นดียวกับองค์ผู้มีพระภาคเจ้าเทอญฯ

    ประมาณนี้อะนะคะ หวังว่าคงพอเกิดประโยคแก่ผู้อ่าน ในการนำไปประยุกต์ใช้ค่ะ
     
  15. itou

    itou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,196
    ตามความเข้าใจของผมคือ

    1.สวดมนต์ พระปริตร รัตนสูตร
    2."บุญใดข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้ว ขอน้อมขึ้นบูชาบทมนต์พระปริตร รัตนสูตร ขอให้อำนาจของมนต์ได้โปรดคุ้มครองข้าพเจ้าให้ปลอดภัยการการเบียนเบียดของมนุษย์และอมนุษย์ทั้งปวง"
    3.อุทิศส่วนบุญตามปกติ (ผมอุทิศตามของหมอสุวิคือน้อมบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก่อน แล้วจึงอุทิศและอธิษฐานต่างๆ)

    อย่างนี้ถูกต้องไหมครับ
     
  16. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    สามารถรวม 2 กับ 3 ไว้ พร้อมกันได้ค่ะ เพราะบทสวดมนต์ในความเป็นจริง เป็นหนึ่งในพระธรรม รึเปล่าคะ เพียงแต่เวลาน้อมถวายบูชาบุญ อาจน้อมบูชาพระพุทธ พระธรรม และเอ่ยชื่อเจอะจง บทสวดมนต์ เพื่อให้เกิดการชี้เฉพาะ


    ถ้าเป็นกะทิเธอเวลากล่าวโดยปรกติ จะน้อมบูชาพระพุทธ....ยาวววววมากกกก... พระธรรม...ยาาว เช่นกัน (อันได้แก่พระธรรมทุกๆ พระองค์ในทุกๆจักรวาล) และกะทิเธอก็คงจะเพิ่มบทสวดมนต์ชื่อ....นี้นั้น....เข้าไปในบทน้อมถวายบูชาบุญด้วย เป็นอาทิตัวอย่างค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2015
  17. itou

    itou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,196
    สงสัยว่าเราอุทิศและขออำนาจของพระปริตรให้คุ้มครองคนในครอบครัวได้หรือไม่ครับ
    ถ้าได้เราขอให้คุ้มครองทุกคนในโลกได้หรือไม่

    ไม่รู้ว่าขี้สงสัยแบบนี้ จะโดนผู้ที่ชอบเบียนบังบุญผู้อื่นรุมทืบหรือเปล่าเนี้ย ไปตัดทางทำมาหากินของเค้า

    แล้วถ้าเราต้องการจะเพิ่มบทอุทิศให้เทพเทวดาผู้รักษาตราชั่งโดยเฉพาะ จะใช้คำเรียกท่านเหล่านี้ว่าอะไรดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2015
  18. GreenWall

    GreenWall เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +387
    ขอมีส่วนร่วมด้วยคนนะครับ
    เรื่องอุทิศบุญ นี่เป็นอะไรที่ผมพยายามหาวิธีอุทิศมานานแล้ว กลัวอุทิศไม่ถึง ไม่ครอบคลุม จำได้ว่า อ.สุวิ อธิบายไว้หลายรอบแล้ว
    แต่ผมก็ยังงงอยู่ดี ตามประสาคนปัญญาน้อย ภูมิธรรมต่ำ 555

    เมื่อวานเข้ามาเห็นบทมนต์พระปริตร รัตนสูตร เลยเพิ่มเข้าไปในบทสวดมนต์ด้วย
    พอสวดบทมนต์พระปริตร รัตนสูตร เสร็จก็อธิษฐาน " ข้าพเจ้า ขอนำบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาตั้งแต่อดีต
    จนถึงปัจจุบัน น้อมบูชา บทมนต์พระปริตรนี้ ขออำนาจแห่งพระพุทธมนต์บทนี้
    ช่วยคุ้มครองข้าพเจ้า ให้ปลอดภัยจากการฉ้อฉล หลอกลวง เบียดเบียน จากเทพ พรหม อสูร ยักษ์ มาร ด้วยเทอญ "
    (ตอนหลังพึ่งมานึกได้ ไม่ครอบคลุมนี่นา ;w; )
    สวดมนต์เสร็จ นั่งสมาธิต่อ พอเริ่มนิ่งนิดนึงก็อธิษฐาน "ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้อุทิศไปแล้ว ไม่มีผู้รับ รับไม่ได้ ตกหล่นอยู่ที่ใดก็ตาม
    ขอบุญนั้นจงกลับมาหาข้าพเจ้าผู้เป็นเจ้าของ และทานบุญใด ที่เกิดจากการที่ข้าพเจ้าได้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
    ทานบุญนั้นข้าพเจ้าขอน้อมถวายองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเป็นพุทธบูชา ขออานิสงค์จากการน้อมถวายทานบุญในครั้งนี้
    จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ" (พึ่งเคยอธิษฐานแบบนี้เป็นครั้งแรกนี่หละครับ นึกยังไงไม่รู้เหมือนกัน)
    นั่งสมาธิเสร็จ ก็แผ่เมตตา ตามด้วยบทกรวดน้ำ (อิทัง เม...)


    พอมาอ่านของท่านอื่นนี่รู้เลยว่า ผมต้องปรับปรุงอีกเยอะ ที่ใช้อยู่นี่ก็จำๆมารวมกัน ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
    ปล.หลบมุมอ่านต่อ [Embarrass
     
  19. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ถ้าจะใช้พระคาถาทำน้ำมนต์สำหรับดื่มและพรมให้คนในครอบครัวต้องทำพิธีอะไรเป็นพิเศษบ้างครับ จึงจะได้ผลดีที่สุด เผื่อว่าจะมีประโยชน์ในอนาคตจะได้ช่วยได้หลายคน
     
  20. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    คุณ GreenWall คิดรอบคอบกว่า กะทิเธอซะอีก สาธุที่มาแบ่งความรู้ให้ค่ะ


    นี่เป็นสาเหตุหลักใหญ่ๆ ว่าตั้งแต่เขียนเล่านิทานมา ก็พยายามหาช่องทางให้ผู้อ่านได้เข้ามาเขียนร่วมสนุกกัน ก็ไม่ใช่ว่าด้วยเหตุใด แต่เพราะด้วยเหตุนี้


    การแชร์ประสบการณ์ความเห็นให้แก่กันและกัน เป็นสิ่งล้ำค่า ทำให้เราสามารถต่อยอดทางความคิดให้แก่กันและกันได้มากมาย นำไปพัฒนาตน พัฒนาตัว และบอกเล่าแก่ผู้อื่น(บริวาร) ได้อีก


    กะทิเธอไม่เคยรู้จักคุณ GreenWall แต่เพียงได้อ่านข้อความที่คุณเขียน ก็รับรู้ได้เลยว่า คุณเป็นนักปฏิบัติชั้นยอดเพียงไร อย่าเอาแต่หลบมุมเก็บสิ่งดีๆ ไว้กับตัวนะคะ ความรู้ยิ่งเอาออกมาขัดสี ฉวีวรรณ เรายิ่งจำมันได้ดียิ่งขึ้น และตัวมันเองก็จะพัฒนาต่อยอด ตัวของมันเองได้อีก อย่างมีประโยชน์ไม่น่าเชื่อค่ะ

    ปล. ข้อความของคุณ อันน์ ที่ #2373 ก็ไม่แพ้กันนะคะ เพียงแต่คุยกับคุณค่อนข้างบ่อยแล้ว เราขอคุยกับผู้อ่านท่านอื่นๆ (หลากหลายกันไป) บ้างค่ะ อย่าไปแบบน้อยจายยยยล่ะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...