เรื่องจริงไม่อิงนิทาน ประสบการณ์ตั้งแต่ 3 ขวบ จนถึงอายุ 57 ปีของผม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย บุญทรงพระเครื่อง, 19 มิถุนายน 2015.

  1. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้ ก็มาพบกันเช่นเคย ความเดิมตอนที่แล้วมาจบลงตอน นอนค้างคืน อยู่ในดงดิบ ใกล้แอ่งน้ำเน่าแถวนี้ แห้งแล้งครับ ในป่าดงดิบ แต่ละจุด จะไม่เหมือนกัน บางที่ เป็นป่าดิบ ชื้น บางที่เป็นทุ่งป่าโล่งมีหญ้า เต็มไปหมด มองอะไรแทบไม่เห็น และมีต้นไม้ อยู่ห่างๆกันออกไป บางที่ก็เป็นป่าทึบ ไม้ผลิใบ บางป่าไม้ ไม่ผลิใบ เขียวขจี ตลอดทั้งปี และมีป่า ทึบ ที่แทบจะมองไม่เห็นตะวันเลย อันนี้น่ากลัว มากครับ


    แต่ละพื้นที่ ป่าแต่ละที่ จะมีเนื้อที่ เป็น แสนไร่ ทีเดียวครับ ไม่ใช่มีแค่ร้อยแค่พัน นะครับ อย่างน้อยก็หลายหมื่นไร่ครับ เรื่องแบบนี้ พอคาดคเนเอาได้ครับ เพราะมีความรู้ มาจาก ศาลาวัด อยู่บ้าง ที่ๆเราอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ใช่ พื้นที่ของ อุทัยธานีก็ น่าจะอยู่ ในเขตุ ของจังหวัดตากครับ เพราะพื้นที่มันค่อนข้าง มาทางจังหวัดตาก ท่านโมเช่ ก้คเนเอาแบบนั้นเหมือนกันครับ เดี๋ยวไปกินข้าวก่อนครับ เดี๋ยวมาต่อใหม่ครับผม
     
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    มาว่าต่อครับ ได้กินข้าวมาเรียบร้อยแล้ว รอดตายไปอีกมื้อหนึ่งครับ ร่างกายต้องการอาหารใหม่ อาหารเก่า ที่กินเข้าไป ก็ ต้องไป ถ่ายทุกข์ ให้กับมันคือ ร่างกายที่เราอาศัยอยู่ เอาของเก่าออก ที่ร่างกายไม่ต้องการแล้ว ทั้งๆที่รู้ ว่ามันไม่ใช่ ของเรา เราไม่มีในมัน แต่ก็ยังตัดไม่ได้ แต่เราๆท่านๆ ก็ต้องใช้มันเป็นพาหนะ พาเราไป ในที่ ดีๆและที่สุด แห่งทุกข์ ร่างกายนี้ เราก็ต้อง ขอบคุณเขา เพราะเราต้องพึ่งเขาเช่นกัน จะชั่ว หรือดี ก็อยู่ตรงที่เราๆท่านๆ ต้องเลือกเอาครับ จะไปเป็นอะไรนั้น อยู่ที่เราเท่านั้น ครับ เราเลือกเกิด ไม่ได้ แต่เรา สามารถ เลือกทางเดิน ของเราเองได้ครับ


    จะเกิด เป็นคน หรือ มนุษย์ เป็นแดนกลาง แดนเกิด เป็นแดนเลือก ใครจะเลือกไปเกิด เป็นอะไรนั้น อยู่ที่เราเลือก จะไปเป็น สัตว์ นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน คน หูหนวก ตาบอด บ้าใบ้ คนรวย คนจน เศรษฐี พ่อค้า ชาวนาชาวไร่ นายพล นายพัน เป็นพระราชา มหากษัติย์ จักพรรดิ์ อยู่ที่เราเลือก เอาเลือกทำครับ จะไปเกิด เป็น เทวดานางฟ้า พรหม หรือ ตัดกิเลส ไปพระนิพพาน ก็เราเป็นผู้เลือกเท่านั้นครับ เนี่ยแหละครับ เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือก ที่จะเป็น หรือไป เป็นอะไร เราสามารถ เลือกทางเดิน เป็นของเราเองได้แน่นอนครับ
     
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    มาว่าต่อไป พอเล่าไป มันก้เลย ถเลถไล ไปเรื่องอื่นอีก ก็เพราะ มันมาสอดคล้องกันพอดี ก็เลยที่จะอดไม่ได้ ที่จะแวะ หรือคุยไปเรื่องอื่นๆ ต้องขอประทานอภัยด้วยครับ พี่น้อง เมื่อพวกเรา ทำภารกิจ เสร็จสิ้นแล้ว ก้ออกเดินทางต่อไป คราวนี้ เป็นวันที่จะต้อง เหนื่อย ที่สุด วันหนึ่ง เลยที่เดียว ตั้งแต่เข้าป่ามา เพราะว่า ป่านี้ เป็นป่าน่ากลัว มาก เดินห่างกัน แค่ สัก ๕ วา หรือ ๑๐ เมตร มันมอง เห็นกัน รำไรๆๆๆ ต้อง เดิน ระวัง ให้อยู่ใกล้กันไว้ มันเป็นป่าดิบทึบ แทบมองไม่เห็นตะวัน เห็นแค่แสงอาทิตย์ รำไรๆๆเท่านั้น มันสลัวๆว่างั้นเถอะ ท่านโมเช่ บอกว่า ยังไงๆ วันนี้ ต้องเดิน ออกจากป่านี้ให้ได้ ไม่งั้น ท่าหลง ก็หมดสิทธิ์ เหมือนกัน พวกเราต้องพากันเดิน แบบวิ่งเลย ที่เดียว เพราะว่า ถ้าเราเดิน นวยนาด แบบทุกๆวัน คงไม่พ้น นี้แน่นอน เราต้องเพิ่ม ในการเดิน ออกแรงก้าวขา อีก ๒-๓ เท่าตัว ถึงจะพ้นป่าดิบ เป็นต้นไม้ไม่ผลิใบ ถึงพวกเราเดิน แบบนี้แบบวิ่งก็ตาม ไม่แน่ใจเหมือนกัน ท่านโมเช่บอก


    เมื่อเดิน มาได้ สัก ครึ่งวัน พวกเราก้หยุด พักประเดี๋ยวหนึ่ง ตอนนั้น ผมเอง ก็กวาด สายตาไปทั่ว ตามต้นไม้ ต้นหนึ่ง ก้เห็น ว่านพญานาคราช สีเขียว มีเกล็ด คล้ายพญานาค ก้เลยถาม ท่านโมเช่ว่า ว่านอะไร ท่านโมเช่ บอกว่าน พญานาคราช เพราะมองดูคล้ายพญานาคราช แต่ มีราก เป็นฝอยๆ เกราะ พันตามต้นไม้ เกราะแน่นเลย ท่านโมเช่ บอกว่า ถ้าเขาเกราะต้นเต็มต้น ต้นไม้ อาจตายได้ เพราะหายใจไม่ออก ไอ้เราก็อยากได้ ได้ยินมานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นต้นจริงเลย จึง บอกเทพเทวดา เจ้าของป่า ขอไปสักหน่อย ลองเอาไปปลูก ดู ว่าจะเป็นไหม จึงดึงเอามาสักกำมือแล้ว ใส่ ถุงย่าม ไว้ พอหายเหนื่อย พวกเรา ก้ออกเดินทางต่อ ทันทีครับ บางครั้ง บางตอน ท่านโมเช่ ไม่แน่ใจ จึง ขอตัวหายไปสัก ๑๐ นาที ๒๐ นาทีได้ แล้วก็มา บอก อาจางๆๆครับ ไปทงนี้ครับ เพราะแก พูดไทย ไม่ค่อยชันน่ะครับ ท่านโมเช่ พูดได้ ๔ ภาษา ไทยกระเหรี่ยง ภาษาไทย พม่า และภาษามอญ นี่แหละ เป็นคนผู้นำ แต่อยู่ในป่า
     
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เมื่อตะวันบ่ายคล้อย เข้าไปทุกๆที ไม่ทีท่าว่าจะออกจากป่าได้ ยิ่ง แค่บ่าย ๓ โมงเย็น มันดูคล้าย ๖ โมงเย็นแล้ว ดูว่า จะมึด พวกเราไม่ย่อถ้อ คงออกแรงเดินกันไป อย่างทุลักทุเล น้ำ ที่เตรียมมา ก็ใกล้จะหมดแล้ว ตั้งแต่ เดินมาทั้งวัน แบบวิ่งเนี่ย ไม่เคยเจอ น้ำ สักแห่งเลย พวกเรา ถนอม น้ำกันไว้มากๆเลย ถ้าน้ำหมด หมายถึง ชีวิตนะครับพี่ๆน้องๆครับ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะที่ผมอยู่ตะเพินคี่ ผมได้ยิน ข่าวบ่อยว่า พระเณร ที่เดิน ในป่าห้วยขาแข้ง อดน้ำ ข้าวตายกันมามากพอสมควรแล้วครับ และข้อสำคัญ ท่าน พระอาจารย์ ทวน ที่ผมรู้จัก ก่อนที่ผม จะมาเดิน ธุดงค์ กับหลวงพี่ อาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน


    ท่าน อ.ทวนท่านบอกว่า ท่านเดิน ธุดงค์มาก็เกือบ ๓๐ ปีตอนนั้นนะครับ ท่านบอกว่า เทวดา ชั้น นิมมานรดี กับ ท่านท้าว สักกะเทวราช คือพระอินทร์ ให้ท่าน คอยเดิน ธุดงค์ ระหว่าง ไทย กับ พม่า ในห้วยขาแข้ง คอยช่วยเหลือ พระฆราวาส เณรที่เดิน ธุดงค์หลงป่า เวลามีพระ เณร ฆราวาส เดินหลงป่า จะมีเทวดา พระอินทร์มาบอกว่า มีพระฆราวาส แถบทางโน้น หลงป่าอยู่ให้ท่านออกเดินธุดงค์ ไปช่วยเหลือด่วน ท่านเล่าให้ผมฟังว่า ครั้งหนึ่ง น่าจะนานที่สุด ถ้าผมจำไม่ผิด พระหรือณร สายพระ อาจารย์สนอง วัดสังฆทานหลงป่า กี่องค์ผมจำไม่ได้ คณะนี้ อดอาหาร หลงป่ามา ครึ่งเดือน เห็นจะได้ ร่างกายซูบผอม แทบจะ มีชีวิต ไม่รอด แล้ว ได้กิน อาหาร ที่สัตว์กิน และท่านไม่ค่อยรู้จักเรื่อง อาหารกินในป่าท่านก็ช่วยมาได้ โดยการนำอาหาร สัมภาระไป หยูกยา ไปช่วย ให้ร่างกายฟื้นตัว แล้วนำตัวกลับออกจากป่ามา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2015
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เล่าแค่ค่าวๆประวัติ หลวงพ่อทวน ท่านบอก ท่านได้ช่วยเหลือ ผู้ที่หลงป่ามามากมายพอสมควร ไม่ว่าใครๆ ที่เคยเข้าป่าห้วยขาแข้ง ถ้าไม่รู้ จัก หลวงพ่อทวน ถือว่าเชยที่สุด ในวงการ ของการเดินธุดงค์ ยกย่อง หลวงพ่อ ทวนว่า ปรมาจารย์ ตักม้อครับ (ไม่ใช่ พระอาจารย์ตักม้อที่เคยมาอยู่ที่ผมที่ ถวายไว้ เป็นสมบัติ พระศาสนานะครับ) คนละองค์กันครับ หลวงพ่อทวน มีอายุแก่กว่า อาจารย์ตั๊ก ม้อ เยอะครับ ส่วนหลวงพ่อทวน เป็นนามปากกา ที่ใครๆ รู้จัก ยกย่องท่าน ให้เป็น ปรมาจารย์ตั๊กม้อ มาจากใจจริงครับผม


    ผมเองไม่เจอท่านมา ตก ๒๐ ปีแล้ว ตอนก่อนนั้น ท่านจะมาจำพรรษา อยู่ที่ สำนักสงฆ์ตีนตก (ตอนนี้อาจเป็นวัด ไปนานแล้วครับ) เอาเรียกว่า วัดตีนตก ก็แล้วกันครับ ต.เขาโจด อ.ศรีสวัส จ.กาญจนบุรี จริงๆ ท่านเล่าเรื่องต่างๆให้ผมฟังเยอะมาก ท่านเมตตาเป็นกรณี พิเศษจริงๆครับ มาเข้าเรื่อง ที่คณะ พวกผมเดิน ธุดงค์ต่อไปครับ วันนี้ ก็ใกล้ มืดเต็มทน น่าจะ ๖ โมงกว่าแล้ว ก็ไม่เจอ น้ำ ที่จะพักได้ เหนื่อย แสนเหนื่อย เมื่อยล้า แทบหมดแรงเหมือนกัน ณ บัดนั้นเอง เมื่อมาถึง ที่แห่งหนึ่ง ท่านโมเช่ ถึงกับ อุทาน ออกมาแบบดีใจมาก เป็นพิเศษ ไม่เหมือนครั้งไหน อาจางๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ พ้งป่าแล้วคับพวกเราต่างดีใจกันยกใหญ่ โล่งอกไปที เป็นเนิน ลาดช้นนิหน่อย แล้วมีแอ่งน้ำ พอให้ได้ ต้มน้ำ กินกัน และ หุงหาอาหารกันได้ แบบสบาย แม้ผมเอง พิมพ์อยู่นี้ ยังไม่สามารถ นึกสภาพ ป่าที่ตรงนั้นออกเลยครับ ได้แต่นึกจำเนื้อเรื่องได้เท่านั้นเอง วันนี้เหนื่อยมาก ขอนอนพักเอาแรงสักวัน แล้วค่อยมาเจอกันใหม่ครับครับสวัสดี
     
  6. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    กดไลค์ทุกข้อความ(พิมพ์เอาขี้เกียจกดจริง)
     
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:({) สวัสดีครับคุณกิ่งสน อุตส่าต์มาให้กำลังใจ และกดไลร์ให้ และติดตามอ่าน ในการเล่าประสบการณ์ ครั้งนี้ครับ :cool:
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆ วันนี้ก็มาพบกันดังเช่นเคย ความเดิมตอนที่แล้ว มาจบลงตอน นอนค้าง อยู่ ในป่าดงดิบ ต้นไม้ไม่ผลิใบในห้วยขาแข้ง ต่อจากนี้ไป ก็คือ คงอยู่ในป่าดงดิบ เหมือนกันครับ แต่เป็นป่าโปร่ง โล่ง ที่จะมองไปในที่ไกลๆได้ หลายสิบเมตร หรือบางที่ อาจเกือบ ถึง ๑๐๐ เมตรก็มี แต่ว่า มันก็มีต้นไม้ ต่างๆ สลับกันไป แต่มองไปได้ไกลนั่นเองครับ เป็นไม้ที่ ผลิ ใบน้อยบ้าง มากบ้าง ก็ว่ากันไป หรือไม่ผลิ ใบก็มีแต่น้อยครับ เมื่อคณะของเราทำ ภารกิจ เสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางต่อไป ตานี้ ท่านโมเช่ บอกว่า จะเดินทางย้อนกลับไปทาง เหนือเขื่อนเจ้าเณร ซึ่งก็จะไปผ่าน ตามเขา ทุ่งป่าต่างๆ ทั้งป่าไผ่ นานาชนิด เทือกเขา สลับซับซ้อน ผ่านลำห้วยต่างๆ ที่มีน้ำไหลผ่าน เข้าเขื่อน เจ้าเณรครับ


    พวกเราเดินผ่าน ป่า ห้วยเขาลำเนาไพร ป่าแล้วป่าเล่า ต้นไม้ไผ่ ขนาด บ้องเดียว ๒ ศอกกว่าๆเยอะมาก ใกล้เคียง เกือบ ๓ ศอก ไม้ไผ่ ตรงป่าบางลำ โคนติดดิน ใหญ่ขนาด เท่าตัวผม ยังมีเลยครับ ถ้าตัดไปทั้งลำ ต้องใช้ คนแบก หัวท้ายครับ เพราะความสมบูรณ์ ของป่า ทำให้ ลำไม้ไผ่ตรงป่า ลำใหญ่ ไม้ไผ่ รวก บางที่ ลำใหญ่กว่า ไม้ไผ่ สีสุกบ้านเราอีกครับ มันใหญ่จริงๆ ไม่ใช่เล่นเลยครับ ไม้ต่างๆ เราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เราเข้าไปในนี้แล้ว ก็ได้เจอะเจอ ได้เห็น เป็นบุญ ตาจริงๆครับ ได้ความรู้มามากมาย เหลือคนานับ เป็นยิ่งนัก และเป็นประวัติการครั้งสำคัญเลยที่เดียว ถึงผมจะเข้าป่า หลายๆครั้ง แต่ยังไม่มีครั้ง ใดๆ ที่มาไกล และสุดยอดเช่นนี้ สักครั้งเดียว ได้ทั้ง อัธรส ได้ทั้งการปฏิบัติ ได้เรียนรู้ ความสุขทุกข์ ตั้งแต่เหยียบย่างๆเข้าป่า จนออกจากป่า มันมีทุกรสชาด จริงๆ ไว้เล่าตอน ออกจากป่า แล้วไปกินข้าว ที่ ในแพเขื่อนกันครับ
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันนี้จะเล่าลัดๆหน่อยครับ เราเดินกันมา ตอนท้ายๆนี่ รู้สึก มันจะเริ่ม ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ไปตามลำดับ ทั้งอากาศ ตอนปลายเดือน มีนาคม และเป็นป่าโปร่ง และมี ป่าไม้ไผ่ มากเช่นกัน ทำให้อากาศ มันร้อน อบอ้าว ขึ้นไปเรื่อยๆครับ และและ เราค้างกี่วันไม่ทราบ ก็ผ่านขึ้นไป เขาลูก เตี้ยๆลูกหนึ่ง แหมพี่น้อง ทั้งหลาย ตั้งแต่มา นี่ไม่เคย เจอ ลูกผักหวาน ในป่า มันมีต้นเยอะ จริงๆ และลูกดกมาก ออกลูกตั้งแต่ โคน ยันกิ่งยอดเลย เหมือน เหมือนพวงลูก ขององุ่นเลยครับ เล็ดเท่าเม็ด บัวหลวง หรือใหญ่กว่า อีกเท่าตัว เลยทีเดียว แล้วมันไม่ใช่ มีแค่ต้นเดียว มันมีหลาย ๑๐ ต้น ถ้าอยู่ใกล้ หมู่บ้านนี่ ชาวบ้าน เก็บไปขายกัน คงได้เงิน เป็นหลายๆหมื่นที่เดียว


    ผมกับท่านโมเช่ ต่างยินดีเป็นยิ่งนัก ต่างช่วยกันเก็บใส่ ย่าม เพื่อนำไปทำอาหาร สักมื้อ กินให้อร่อย สักที เพราะว่าไม่ได้กิน อาหารดีๆมานานกันแล้ว ถือว่า เป็นวันนี้ เป็นวันสุดยอด ของพวกเรา ที่ได้เจอ ลูกผักหวาน เป็นอาหารสุดยอดของพวกเราๆไม่สนใจ สนใจแต่ลูก ผักหวานเท่านั้น ลูก กำลังน่ากินทีเดียว เพราะยังไม่แก่ ขนาด อ่อนไปถึง กลางๆไกล้จะแก่ นั่นเอง เราเก็บแค่พอ มื้อเดียวเท่านั้นครับ เพื่อนำไปปรุง เป็นอาหาร ในวันรุ่งขึ้นเท่านั้น แต่ผมเอง ได้แต่เสียดาย แต่ก็คงต้องปรงครับ เพราะตั้งแต่เข้าป่าไป ได้กินลูก ลิ้นจี่ กับผลไม้ คล้ายๆลูกละไม มันออก รสชาด เปรี้ยว ปิดปี๋เลยครับ นี่เป็นผักหวาน ปรุงอาหาร ชาวป่าเขาบอก เป็นผักป่า ที่มีราคาแพง และรสชาด สุดยอดที่สุดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2015
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ผมขอรวดรัดตัดตอน เพราะว่า ใกล้จะออกจากป่า มันร้อนเอามากๆ แบบชนิดหน้ามือ เป็นหลังมือเลยครับ ถึงจะอยู่ในป่าก็เถอะ แต่ละป่านั้น มันไม่เหมือนกัน เดิน ก็คง ไม่อยากเดินมากนัก เพราะอากาศมันร้อน ทำให้เดินได้ไม่ได้ไกล เหงื่อไหล ไคลย้อย เล่นเอา ขี้เกียจ เดินกันเลยทีเดียว แต่ก็ต้องฝืนใจ ในการเดิน ใช้ขันติ บารมี ท ทหารอดทน วิริยะความเพียร เราจึงหยุดพักแต่วันๆ ใกล้ ริม ลำห้วย น้ำใสไหลเย็น เห็นตัวปลา อาบน้ำอาบท่า ให้กายใจ สบาย


    และค้าง หนึ่งคืน พอรุ่งสาง อรุโนทัย ก็หุงข้าว ปรุงอาหาร ต้มน้ำ ให้เดือด ใส่น้ำพริก ใส่ลูกผักหวานเข้าไป พอเริ่ม สุก ก็ใส่มาม่า ๒ ห่อ ๓ ห่อ แม่เจ้าประคุณเอ่ย อย่าบอกใครเลย อาหารมื้อนี้ สุดยอด ที่สุดเลย อร่อยจริงๆ และกินหรือฉัน กันอย่างเต็มพิกัด แม้เราจะปรง อาหาเรปฏิกูลสัญญา อย่างไร ตามที่เรียนมาจาก ครูบาอาจารย์ ผลสุดท้าย ก็กินแค่อิ่มเท่านั้นที่เหลือ ก็ หว่านลงไปใน ลำห้วย ให้ปลา ชนิดต่างๆได้กินกัน อย่าง น่าทึ่ง ปลานเขาก็คงนึกว่า วันนี้ เป็นวันอะไร จึงได้กิน อาหาร ที่มีคน มาหว่านให้ ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อร่อยจริงๆๆจ้า พระคุณเจ้าข้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันนี้คงจะยุติ ไว้ก่อน ใกล้จะออกจากป่าแล้วครับพี่น้อง คงไม่เกินอีกหนึ่งวัน ในการเดินทาง คงต้องค้างคืนที่นี่ อีกสักหนึ่งคืนครับแล้วกันครับ มีโอกาศจะเข้ามาเล่าให้อ่านกันต่อไปครับ ค่อยพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ
     
  12. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    คิดดูครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านมีความเพียรมาก ขนาดพี่บุญทรงของเราเล่าซะเหงื่อท่วมเลย เคยลุยเดินป่าเหมือนกันท่าน แต่สมาธิไม่มานะ มาแต่ความเหนื่อยยาก กลับลงมาได้ขอโทษเถิดพี่น้องเล็บช้ำห้อเลือดจนสุดท้ายหลุดไป 4 และก็คิดว่าฉันจะไม่ไปอีก 555
     
  13. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับคุณกิ่งสน ที่เข้ามาอ่าน และให้กำลังใจต่อกัน ผมก้อยาก ให้คนแบบคุณกิ่งสน และแบบ อาซือเจ๊ต้อย เข้ามา คุยหรือถามก็ได้บ้างก็ได้ มันจะได้ มีเรื่องเล่า ถ้าให้ผมเล่า คนเดียว มันจะไม่มีเรื่องเล่า หรือทำให้หมด เรื่องเล่าเร็วเกินไป และไม่ได้ อัธรสเท่าที่ควรครับ เรื่องใด ถ้าตอบได้ ก็จะตอบ ตอบไม่ได้ ก็จะบอกว่าตอบไม่ได้ หรือไม่มีควารู้ เกี่ยวกับเรื่องแบบนั้นๆ แต่ถ้าแบบ ทางโลกๆ คิดว่าคงไม่เกิน วิสัยแน่นอนครับ ขอบคุณครับ และขอเสริมต่อ สักนิดครับ :cool:


    ผมขอคุยเรื่องการเดิน ระหว่างป่ากับการเดิน ในถนนลาดยาง ทางเลียบ มันผิดกันกับ ยัง ฟ้ากับดินเลยครับ ใน วันที่ ๓๑ ต.ค.๓๕ หลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง มรณะ ฝนตก ทั้งวัน ทั้งคืน ตกอยู่ หลายวัน บังเอิญ ผมกับบ้าน ที่ จ.นครปฐม ในสมัยนั้น วันจะกลับ ผมแวะ ที่ในเมือง นครปฐม เยี่ยม น้องๆบอกว่า พี่ทิด รู้ยัง ข่าว ออก จากทางทีวี ว่าหลวงพ่อฤาษี มรณะแล้ว ผมเองตกใจ บอกไม่ถูก และตอบน้องไปว่า ไม่รู้เรื่องเลย เมื่อได้เวลา ผมเอง ก็กับ ไปที่ ถ้ำตะเพินคี่ หมู่บ้าน ตะเพินคี่ ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุ๑,๐๐๐บุรี
     
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เมื่อกลับ ตะเพินคี่ได้ ๑ วัน ในใจ กับคิด เป็น ๒ คน ๒ ใจ เราต้อง มา ในงานวัน ครบ ๗ วันมรณะของ หลวงพ่อให้ได้ ขอเล่าย้อนนิดหนึ่งครับ (เป็นเหตุบังเอิญ อะไรผมไม่ทราบ) ทำไม เหตุจะบังเอิญ อะไรเช่นนั้น วันที่หลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง จะมรณะ ผมเองก้ไม่เคยทราบ มาก่อนเลย แต่เหตุ ไฉนจึงเป็นเช่นนั้น คือว่า วันที่หลวงพ่อมรณะ เป็นวันที่ผมเอง ได้อธิษฐาน ขอบวชเป็นพระฤาษี จริงๆผมเอง ได้ อธิษฐาน ถือศิล ๘ อยู่แล้ว ไว้หนวดเครา ตาม ลักษณะ ของฤาษีดาบฤ ตรงตามตำรา


    แล้ว วันนั้น เป็นวัน สุดท้าย ขององค์หลวงพ่อ ที่ดับขันเข้าสู่พระนิพพาน ทำให้ผมรู้สึก หดหู่ใจเป็นยิ่งนัก ตัวผมเองแม้ไม่ได้ คุณธรรมอะไร ไม่เคยได้อะไรเลย สักอย่าง หลวงพ่อ มาด่วน มรณะไปเสียแล้ว ก็คงไม่พ้น ปรง อนิจจัง ทุกข์ อนัตตา เกิด ขึ้น ตั้ง อยู่ และดับไป ตามแห่ง สังขาร และแห่ง การเกิด แก่ เจ็บ และตาย แห่ง ความเป็นจริง ใจจึง สงบ ระงับ ได้ โดยเร็ว เป็นธรรมดา ของสังขาร ที่หลวงพ่อ ท่านบอกว่า สัตว์ โลก เกิด เท่าไหร่ ตายหมดเท่านั้น ไม่มีเหลือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2015
  15. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เมื่อเป็นเช่นนั้น ในใจคิดว่า เราจะไป ให้ทันวันงานขององค์ หลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง ให้ได้ และให้ทัน ๗ วันท่านด้วย จึง รีบเหาทางดินทางกลับ นครปฐม ทันที และเมื่อเดินทางกลับ ตอนนั้นมีความรู้ สึกว่า ท่านปู่ พระอินทร์ ท่านคุม เรามาด้วย พระองค์ เอง (เรื่องแบบนี้ ใครมีความเห็นอย่างไร) ก็ไม่ว่ากัน ท่านที่ไม่เชื่อ ขอให้อ่านเป็นนิทานนะครับ มันเรื่องของ เฉพาะตนครับ อากาศ เริ่ม เปลี่ยน แปลง เห็นได้ชัด จากที่ ไม่หนาว หนาวก้หนาว แบบหน้าฝนเท่านั้น แต่นี่ มันหนาว เหมือนหน้าหนาว ไม่มีผิด อากาศเย็นมาก เรียกว่า แบบสบายๆ พอทนได้


    เมื่อ มาถึง บ้านที่ นครปฐม ผมได้ บอก พ่อ เลี้ยง และท่านแม่ผมว่า ผมเอง จะออกเดิน ทางด้วย เท้า ไปวัดท่าซุง ๗ วันมรณะหลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง ท่านไม่ว่าอะไร แล้วแต่เรา ผมเองได้ จัด เครื่อง บวงสรวง มีหัวหมู บายศรี ไก่ ผลไม้ ต่างๆ จัดตั้งโต๊ะ ผมจะเริ่ง เดินทาง ออกแต่เช้า ระยะทาง จากนครปฐม ถึง อุทัย ๒๐๐ กว่า ก.ม. ผมกะว่า จะเดิน ๔ วันให้ถึง ทันที แม้ว่า อยู่ที่ จ.นครปฐม อากาศ ก็หนาว พอสมควรเลยที่เดียว เรียกว่า อากาศ เป็นใจ ผมก็คิดเข้าข้างตนเอง เป็นเพราะเราจะงานพระศพ ขององค์หลวงพ่อ พระ เทวดา ท่านจึง สงเคราะแบบนี้
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เมื่อเป็นเช่นนั้น ในใจคิดว่า เราจะไป ให้ทันวันงานขององค์ หลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง ให้ได้ และให้ทัน ๗ วันท่านด้วย จึง รีบเหาทางดินทางกลับ นครปฐม ทันที และเมื่อเดินทางกลับ ตอนนั้นมีความรู้ สึกว่า ท่านปู่ พระอินทร์ ท่านคุม เรามาด้วย พระองค์ เอง (เรื่องแบบนี้ ใครมีความเห็นอย่างไร) ก็ไม่ว่ากัน ท่านที่ไม่เชื่อ ขอให้อ่านเป็นนิทานนะครับ มันเรื่องของ เฉพาะตนครับ อากาศ เริ่ม เปลี่ยน แปลง เห็นได้ชัด จากที่ ไม่หนาว หนาวก้หนาว แบบหน้าฝนเท่านั้น แต่นี่ มันหนาว เหมือนหน้าหนาว ไม่มีผิด อากาศเย็นมาก เรียกว่า แบบสบายๆ พอทนได้


    เมื่อ มาถึง บ้านที่ นครปฐม ผมได้ บอก พ่อ เลี้ยง และท่านแม่ผมว่า ผมเอง จะออกเดิน ทางด้วย เท้า ไปวัดท่าซุง ๗ วันมรณะหลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง ท่านไม่ว่าอะไร แล้วแต่เรา ผมเองได้ จัด เครื่อง บวงสรวง มีหัวหมู บายศรี ไก่ ผลไม้ ต่างๆ จัดตั้งโต๊ะ ผมจะเริ่ง เดินทาง ออกแต่เช้า ระยะทาง จากนครปฐม ถึง อุทัย ๒๐๐ กว่า ก.ม. ผมกะว่า จะเดิน ๔ วันให้ถึง ทันที แม้ว่า อยู่ที่ จ.นครปฐม อากาศ ก็หนาว พอสมควรเลยที่เดียว เรียกว่า อากาศ เป็นใจ ผมก็คิดเข้าข้างตนเอง เป็นเพราะเราจะงานพระศพ ขององค์หลวงพ่อ พระ เทวดา ท่านจึง สงเคราะแบบนี้ ยังไง ติดตามอ่าน ท่านจะได้รู้ ว่าเป็นจริงดังว่ามาครับ
     
  17. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ก่อนจะออกเดินทาง มีตัวเลข ในขันทำน้ำมนต์มีเลข ๒ ตัว ผมก้เก็บไว้ในใจ ว่าหวยจะออกไหม ผมก้ขอกว่าว อ้างอิง บ้านหน่อยครับ ตอนนี้ น้องๆขายไปกันหมดแล้ว เหลือ น้องสาว อีกคนเดียวเท่าน นั้น ที่อยู่ใกล้ๆนั้น ผมออกจาก บ้าน ที่ตั้ง อยู่ ๑๓๓ ที่หมู่บ้าน สระสี่เหลี่ยม ต.ดอนรวก อ.ดอนตูม จนครปฐม ครับ ผมเริ่ม ออกจาก บ้าน แล้ว ลัดเลาะ ลงทุ่ง เพื่อจะได้เร็ว และไปให้ถึง อุทัย ไม่งั้น คงไม่ทันการ งานพระสพ หลวงพ่อเป็นแน่ ผมจึง เดินตัดลัด ตามกลางทุ่ง ที่ผม ชำนาญการ ในแบบลูกทุ่ง ครับ ออกไปทะลุ วัดบ้านหนองกะพี้ ของ ต. บ้านหลวง อ.ดอนตูม แล้ว แวะ วกไปทาง วัดเกราะแรด ไปทาง อ.บางเลน ผ่าน ตลาด บางหลวง และ ระหว่าง เขตุ นครปฐม กับเขตุ ของ จ.สุพณณบุรี คือ แวะ วัดบางน้อยใน คือแวะ ค้าง ๑ คืนครับ อีก ไม่ไกล ก็จะถึงเขตุ ทางที่จะไป วัดไผ่โรงวัว และอีกแถบ ไปวัด อัพวัน หลวงพ่อโหน่ง บางลี่ อ.สองพี่น้อง


    ผมเข้าไปในวัด ไปขอนอน ที่วัด ขออนุญาติหลวงพ่อ ท่านถามก็เล่า แห่งตามความเป็นจริงครับ ท่านลองคิดดูแล้วกัน ว่าระยะ ทางจาก ที่บ้านผมตอนนั้น กับ เขตุต่อเขตุ ของ นครปฐม กับ สุพรรณ มันไกล กัน กี่ สิบกิโลครับ ผมว่า ๕๐ ก.ม. วันแรก ของผม คงไม่อยู่ ครับ กะเอาครับ
     
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันคืนที่ ๒ ผมมานอนแวะค้างที่วัด โพธิคอย อ.บางปลาม้า จ.สุ ๑,๐๐๐ บุรี วันที่ ๓ ในการเดิน ต้องเดินไปตามทาง ลาดยาง มันทั้งเจ็บ ปวด ฝ่าเท้า แตก พอง แต่ว่าอากาศ ดีมาก ท้องฟ้า เปิดเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ แทบทั้งวัน ท้องฟ้ามืด คลื้ม ตลอด แห่งการเดินทางของผม ขอบอก ในการครั้งนี้ ว่า ผมอธิษฐาน รักษา ศิล ๑๐ เสขิยวัตร อีก ๗๕ ข้อ เป็น ๘๕ ข้อ หัวผม ไว้ผมยาว หนวดเครา เป็นบาท ฐาน ของศิล ๕ ตรงกลาง ใส่เสื้อ สีขาว ข้างใน ซับด้วย อังสะ สีกรัก ไม่มีใครเห็น เป็นบาทฐานของ ศิล ๘ และ ในขั้น ของ ชั้นล่าง ใส่ สบง ออกสี ขาว เทา คือ ศิล ๑๐ เป็นบาทฐาน ของศิล ๑๐ และเสขิยวัตรอีก ๗๕ ข้อ เป็น ๘๕ ข้อ นี่คือ ในตอนนั้น จิตมันคิด รักษาแบบนี้ครับ


    คืนที่ ๓ มานอนที่ สำนักสงฆ์ ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว ตอนนี้คงเป็นวัดที่เจริญ รุ่งเรืองไปนานแล้วครับ เพราะนานๆ จะผ่านไปแว๊ปๆหนึ่ง เห็นเป็นวัดใหญ่มากๆเลยครับ ติดต่ เขตุ น่าจะ ติดต่ ๓ อำเภอ ใกล้เคียงกัน คือ ใกล้ กับ อ.สรรคบุรี ชัยนาท และอีกไปทาง อ.บางระจัน ของ สิงห์บุรี วัดหลวงปู่ บุดดา ถาวโร และอีก อ.หันคา ระหว่าง ที่เดินมาตามทาง มีคนขอหวย บางทีผมก็บอกว่า ตอนมา เลขมันขึ้น ที่น้ำมนต์ ใครจะเอาไปซื้อหรือไม่ผมไม่ได้คิด และตอนสำคัญ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เลย จ.ชัยนาท มาแล้ว ผมเข้าไปบ้านหลังหนึ่ง จะไปขอน้ำ เขากิน และขอน้ำใส่ ขวดไว้ บริโภค ผมเห็นแค่หยิงสาว อยู่บ้านคนเดียว วิ่งหนีผม คงไม่เคยเห็นคนแบบนี้กระมัง
     
  19. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เธอวิ่งแบบไม่คิด ชีวิต เออ เรานี่ จะทำให้คน กลัวเรา ขนาดนี้ เชียวหรือ เลยเดิน ออกจากบ้านเธอ ตอนที่วิ่งหนี ออกมาจากบ้าน ผมเอง ได้มองเห็นอาการของเธอแล้ว คงกลัวมาก และผมเอง เห็นเธอแล้ว ว่าเธอไปหลบ อยูตรงไหน ผมเดิน ออกไป พร้อมกับ ไปที่เธอ กระโดดลงไป อยู่ สระน้ำ ตัวสั่น งันงก เหมือนลูก นกตกน้ำ ไม่มีผิดเลยครับ ผมพูดไปว่า โยม ไม่ต้องกล้ว หรอก อาตมาๆ มาขอน้ำกิน และได้ปลอบใจไปหลายอย่างเพื่อให้เธอได้คลายใจ ไม่ต้องกลัว ผมอีก และผมก็รีบ เดินจากเธอไป ทันที เพราะดูเธอ ไม่หายกลัวผม เธอเอง ลอยคอ อยู่ ในน้ำ ชายสระ นี่ผมเองเกือบ ให้เธอ ต้องจะมาตายเพราะผม เพราะกลัวผม เป็นไอ้ บ้าบอมาจากไหน ก็ไม่รู้ ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


    ตัวผมเอง มี ไม้ เท้า ไม้ไผ่ ขุดราก มาด้วย คล้ายพยานาคเป็นไม้เท้า มีบาตร มีย่าม มีกรด พร้อม สัพ เมื่อ มาถึง ไม่ไกล จาก ทางจะไป หมู่ บ้านดักคะนน เย็นมากแล้ว ไม่นาน ก็จะมืด ก้เลย เอา บนคัน คลอง ตรงนี้แหละ เป็น ที่นอน ปักกรด บนคันคลอง ในสมันนั้น ห่างจากบ้าน เป็น กิโลๆเลยทีเดียว ระหว่าง ท้องทุ่งนา กับคันคลอง เดี๋ยวนี้ เป็นบ้านเมือง เยอะแยะตลอดทางแล้วครับ กะว่า พรุ่งนี้ แต่เช้าตู่ จะออกเดินทาง ไป ให้ถึง วัดท่าซุง แต่เช้าเลยครับ จริงๆ ถ้า จะไปให้ถึง วัดท่าซุง คงไม่ยาก ไม่น่าจะเกิน ๒ ทุ่ม หรือกว่านิดหน่อย แต่ผมไม่ไป ตัดใจไว้ก่อน ผมเดินทางมา ๔ วันเต็มๆ วันมะรืน คือ วันงาน ครบ ๗ วันมรณะ ผมมีเวลา แค่วันเดียว คือวันพรุ่งนี้ เท่านั้นครับ
     
  20. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันนี้ของจบไว้เพียง แค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยว วันต่อๆไป จะมาเล่า วันงานให้ฟัง สักหน่อย คงไม่มากครับ สวัสดีครับ อาซือเจ๊ ต้อย เมื่อวาน ผมได้รับเงิน เข้าบัญชีผมแล้วครับ ๕,๒๑๒บาท ไม่ทราบว่า คืออย่างนี้ ในส่วนเงิน ๒ พันบาท ผมจะนำไว้ หล่อพระ ๒ องค์คือสมเด็จองค์ปฐม กับ องค์ปัจจุบัน ร่วมองค์ละพันบาท และร่วม ที่ผม เป็นเจ้าภาพเลี้ยง ไอศครีม ๑ ถัง ๑๕ โล ราคา ๑,๕๐๐ บาทในงานกฐิน วัดบ้านกล้วย เลี้ยงพระ และ ชาวบ้าน และชาวไทยกระเหรี่ยง ๕๐๐ กับเพิ่ม กฐินอีก ๕๐๐ เป็นอีก ๑,๐๐๐ บาท รวมเป็น ๓ พันบาท เหลืออีก ๒,๒๑๒ บาท ผมจะ นำไปทอดกฐิน ตามวัด ต่างๆ อีกหลายวัด เพื่อเอาอานิสงฆ์กฐิน แล้วผมจะเห็นสมควร ไม่ทราบว่า อาซือเจ๊ เห็นสมควรด้วยหรือไม่ โปรดแจ้ง ทางพีเอ็มด้วยครับ ขออนุโมทนาสาธุ บุญทุกๆบุญ ของอาซือเจ๊ด้วยครับ


    ขอพระบารมี คุณ พระรัตตรัย มีสมเด็นองค์ปฐม พระพุทะเจ้าทุกพระองค์ ถึง องค์พระปัจจุบัน พระปัจเจกะพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ในอดีด ถึงปัจจุบัน พรหม เทวดา พระโพธิสัตวืเจ้าทั้งหลาย หลวงปู่ หลวงพ่อทุกๆพระ องค์ จงดลบรรดาล ให้ คณะ อาซือเจ๊ และท่านที่ โมทนาสาธุ ทุกๆท่าน จงมีความสุข ทั้งทางโลกและทางธรรม สมควรแก่ ธรรม และจงพ้น ทุกข์ ทุกๆท่านเทอญ สาธุ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...