เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ก็จะมีการปล่อยปลาที่จะถูกฆ่าทำอาหารซื้อเอาจากตลาดสดเป็นการแก้อุปฆาตกรรมกรรมที่ทำให้ตายก่อนอายุขัยครับ

น่าจะมีสำหรับชุดละ 500 ด้วยเหมือนปรกติทุกปีครับเพียงแต่ทางเพจเขาไม่ได้ถ่ายมาครบทุกแบบ

 

ถ้าดำไม่น่าใช่สนิมนะครับคุณคัมภีร์เพราะเป็นเนื้อทองเหลืองชุบทอง ก็แนะว่าให้ลองใช้แปรงสีฟันขนอ่อนกับยาสีฟันทำความสะอาดดูครับ

เหรียญรูปใบโพธิ์ยังมีให้บูชาที่วัดอยู่ครับ

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/520.2%20080.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/520.2%20080.jpg" border="0" alt=" photo 520.2 080.jpg"/></a>

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/520.2%20066.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/520.2%20066.jpg" border="0" alt=" photo 520.2 066.jpg"/></a>

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/520.2%20083_1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/520.2%20083_1.jpg" border="0" alt=" photo 520.2 083_1.jpg"/></a>

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/520.2%20068.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/520.2%20068.jpg" border="0" alt=" photo 520.2 068.jpg"/></a>

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/%205%20%206.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/%205%20%206.jpg" border="0" alt=" photo 5 6.jpg"/></a>

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/%205%20%205.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/%205%20%205.jpg" border="0" alt=" photo 5 5.jpg"/></a>

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__3703018.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__3703018.jpg" border="0" alt=" photo S__3703018.jpg"/></a>

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__3752060.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__3752060.jpg" border="0" alt=" photo S__3752060.jpg"/></a>

 

อย่างนี้ถ้าเกิดพระที่บิณฑบาตรมาได้มากแล้วเหลือฉันก็สามารถแบ่งไปให้สถานสงเคราะห์ผู้พิการได้โดยไม่ติดหนี้สงฆ์ใช่ไหมครับ

 

น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
อรุณสวัสดิ์พี่วรรณ พี่ปู คุณน๊อต คุณอุพยัพ และทุกๆท่าน​

 

สวัสดีครับ พี่วรรณและพี่น้องลูกหลานหลวงพ่อ วัดท่าซุงทุกท่านครับ เพิ่งจะกลับจากวัดท่าซุงมาเมื่อคืนนี้ ขอนำบุญมาฝากพี่ๆร่วมโมทนาบุญด้วยกันนะครับ

ปีนี้น๊อตได้ร่วมกันเรี่ยรายกับเพื่อนๆที่ออฟฟิต ได้จำนวนเงินทั้งสิ้น 13,035 บาท ไปร่วมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารโรงทานร่วมกับพี่สำรวย คณะบารมีหลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตา หลวงพี่ พร้อมกับชวนเพื่อนที่ออฟฟิตไปลงมือช่วยทำโรงทานเองด้วย จึงขอนำภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งของงานมาแบ่งกันชม และโมทนาบุญร่วมกันนะครับ

 

อนุโมทนาสาธุด้วยครับคุณน๊อต เห็นแล้วพลอยอิ่มบุญไปด้วย

 

น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี


สวัสดีพี่วรรณ และลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านครับ​

 

ถ้าพระองค์นั้นนำข้าวที่ท่านเองฉันเหลือไปให้ทำได้เลยเพราะเป็นของฉันส่วนตัวแล้วไม่ใช่ของสงฆ์

แต่ถ้าจะนำอาหารในโต๊ะรวมไปให้ต้องบอกกล่าวขออนุญาติเจ้าอาวาสซึ่งก็คือตัวแทนสงฆ์

 

ขอโมทนาบุญกับคุณน๊อตและคณะด้วยนะครับ สาธุ

 

สาระเรื่องสาละ



ต้นสาละในรูปด้านบนนี้อยู่ข้างรั้วอุโบสถวัดท่าซุง แต่ต้นสาละพันธ์นี้ไม่ใช่ต้นสาละที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธประวัตินะครับ ต้นสาละรูปบนนี้เรียกว่า ต้นสาละลังกา หรือ ต้นลูกปืนใหญ่ (Cannon Ball Tree; Couroupita guianensis Aubl.) เป็นพันธุ์ไม้ ที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ในประเทศเปรู, โคลัมเบีย, บราซิล และประเทศใกล้เคียง ต่อมามีผู้นำไปปลูกในดินแดนต่างๆ รวมทั้งประเทศศรีลังกา กระทั่งมีการนำจากศรีลังกาเข้ามาปลูกในประเทศไทย เราสามารถพบเห็นปลูกตามวัดต่างๆ ในประเทศไทย และติดป้ายว่าเป็น สาละ (Sal; Shorea robusta C.F. Gaertn.) และบรรยายว่าเป็นต้นไม้ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าที่เสด็จมาประทับก่อนดับขันปรินิพพาน

แต่ต้นสาละที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธประวัติโดยตรงคือ "ต้นสาละอินเดีย" มีชื่อสามัญว่า Sal, Shal, Sakhuwan,Sal Tree, Sal of India, Religiosa (ภาษาละติน หมายถึงเกี่ยวเนื่องกับศาสนา) ชื่อวิทยาศาสตร์: Shorea robusta มีถิ่นกำเนิด ทางเหนือของประเทศอินเดีย (ซึ่งปัจจุบันคือประเทศเนปาล) บางทีเรียกว่า สาละใหญ่ หรือมหาสาละ

สาละ เป็นคำสันสกฤต อินเดียเรียกต้นสาละว่า "Sal" เป็นไม้ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรงทั้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน มีความสำคัญในพุทธประวัติดังนี้

ตอนพระพุทธเจ้าประสูติ

ก่อนพุทธศักราช 80 ปี พระพุทธมารดาคือพระนางสิริมหามายาทรงครรภ์ใกล้ครบกำหนดพระสูติการ จึงเสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อไปมีพระสูติการที่กรุงเทพวทหะ อันเป็นเมืองต้นตระกูลของพระนาง ตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์ เมื่อขบวนเสด็จมาถึงครึ่งทางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ณ ที่ตรงนั้นเป็นสวนมีชื่อว่า "สวนลุมพินีวัน" เป็นสวนป่าไม้ "สาละ" พระนางได้ทรงหยุดพักอิริยาบท (ปัจจุบันคือตำบล "รุมมินเด" แขวงเปชวาร์ ประเทศเนปาล) พระนางประทับยืนชูพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละ และขณะนั้นเองก็รู้สึกประชวรพระครรภ์ และได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร ซึ่งตรงกับวันศุกร์เพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี คำว่าสิทธัตถะแปลว่า "สมปรารถนา"

อีกตอนหนึ่งก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะตรัสรู้

เมื่อพระองค์เสวยข้าวมธุปายาสที่บรรจะอยู่ในถาดทองคำของนางสุชาดาแล้ว ได้ทรงอธิษฐานว่า ถ้าพระองค์ได้สำเร็จพระโพธิญาณ ขอให้การลอยถาดทองคำนี้สามารถทวนกระแสน้ำแห่งแม่น้ำเนรัญชลาได้ เมื่อทรงอธิษฐานแล้วได้ทรงลอยถาด ปรากฎว่าถาดทองคำนั้นได้ลอยทวนกระแสน้ำ จากนั้นพระองค์เสด็จไปประทับยังควงไม้สาละ ตลอดเวลากลางวัน ครั้นเวลาเย็นก็เสด็จไปยังต้นพระศรีมหาโพธิ ประทับนั่งบนบัลลังก์ภายใต้ต้นโพธิ และได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเวลารุ่งอรุณ ณ วันเพ็ญเดือน 6

ตอนสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน

เมื่อพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์สาวก เสด็จถึงเขตเมืองกุสินาราของมัลละกษัตริย์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญวดี พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยมาก จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์ ซึ่งเป็นองค์อุปัฏฐากปูลาดพระที่บรรทม โดยหันพระเศียรไปทางทิศเหนือ ระหว่างต้นสาละทั้งคู่ แล้วพระองค์ก็ทรงสำเร็จสีหไสยาสน์ โดยพระปรัศว์เบื้องขวา (นอนตะแคงขวาพระบาทซ้ายซ้อนทับพระบาทขวา) และแล้วเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพาน


และเพราะเหตุว่าใบของต้นสาละมีฐานใบเว้ารูปหัวใจเหมือนใบต้นรัง ทำให้พระสงฆ์ที่ไปแสวงบุญที่อินเดียสมัยก่อนเข้าใจว่าเป็นต้นรัง มีหนังสือหลายเล่มเขียนว่าพระพุทธเจ้าประสูติและปรินิพพานใต้ต้นรัง (พระแท่นดงรัง)



ต้นสาละลังกา หรือต้นลูกปืนใหญ่มิใช่พืชพื้นเมืองของศรีลังกาและอินเดีย และต่างจากต้นสาละอย่างสิ้นเชิงทั้งถิ่นกำเนิดและทางพฤกษศาสตร์ จึงได้มีการจำแนกชื่อที่พ้องกันเพื่อเรียกให้ถูกต้องว่าต้นสาละ (Sal Tree) หรือสาละอินเดีย (Sal of India) และต้นลูกปืนใหญ่ (Cannonball Tree) หรือสาละลังกา (เรียกเฉพาะในไทย) แต่ด้วยความไม่รู้ความเป็นมาและชื่อเดิม ชาวไทยจึงนิยมเรียกสาละอินเดียกับสาละลังกา

ต้นสาละอินเดีย และ ต้นสาละลังกา มีถิ่นกำเนิดพบกระจายอยู่ห่างไกลต่างทวีปกัน แต่เข้ามาเกี่ยวข้องกันโดยบังเอิญ เนื่องจากความเข้าใจผิดในชื่อเรียกขาน ปัจจุบันความเข้าใจดังกล่าวได้แพร่กระจายออกไปไกล เลยขอนำเรื่องต้นสาละมาลงให้อ่านกันครับ



ภาพบนเป็นดอกและผลของต้นสาละลังกาหรือต้นลูกปืนใหญ่

 

ดอกของต้นสาละสวยมากครับพี่วรรณ ผมจำได้ว่าในวัดระฆังก็มีต้นสาละครับ เห็นรูปแล้วนึกขึ้นได้เลย

 

สวัสดีครับพี่วรรณและสมาชิกนานาเรื่องราวฯทุกท่าน...
ช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่๒๖-๒๗ ที่ผ่านมา ไปทำบุญที่วัดท่าซุง เนื่องในโอกาสครบรอบ ๒๓ ปี พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯละสังขาร

ไปถึงวัดบ่ายสองกว่าๆ.. ได้ทำบุญตามลำดับคือ....
ถวายเทียนแพขอขมาพระรัตนตรัยและร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐม(ตู้
บูญ) ณ มณฑปสมเด็จองค์ปฐม.
กราบขอขมาพระรัตนตรัยและทำบุญที่หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา
และ กราบเจดีย์พุดตาล.
กราบขอขมาฯถวายเทียนแพและทำบุญที่มณฑปพระศรีอาริย์.
กราบขอขมาฯและทำบุญที่มณฑปหลวงปู่ปาน.
ทำบุญใส่ตู้บุญ สังฆทาน/ วิหารทาน/ ธรรมทาน ฯลฯ ที่บริเวณ
ระเบียงวิหารแก้ว๑๐๐ เมตร(เนื่องจากยังไม่เปิดให้เข้าด้านในครับ).
ผาติกรรมผ้าไตรเพื่อน้อมถวายแด่องค์หลวงพ่อฯ.
ช่วยลำเลียงผ้าไตร หลังจากทุกท่านถวายแล้ว(แต่หอบมามากไป
หน่อยและผ้าไตรอยู่ในถุงพลาสติกซึ่งจะลื่น พยายามโอบรัดแน่นๆ
แต่ก็ร่วงลงพื้นทั้งหมด เพราะแถวยาวมาก หมดแรงก่อนครับ..เขิน
ติ๊ดนึงครับ).

เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๗.. ได้ทำบุญ(เป็นปัจจัย) เพื่อถวายอาหารเช้าฯ
ณ สวนป่าไผ่.
วิหารแก้วเปิดให้เข้าราวเจ็ดโมงเช้า จึงได้เข้าไปทำบุญที่ตู้บุญ..
บุญทุกอย่าง/ พระอาพาธ..ฯลฯ.
ร่วมบวงสรวงในวิหารแก้วฯ ช่วงแปดโมงเช้า.
บวงสรวงเสร็จ ออกมาถวายสังฆทานชุดใหญ่ ๓ ชุด ร่วมกับคณะ
จากศูนย์ฯโคราช.
ช่วยลำเลียงสังฆทาน ซึ่งคนทำบุญสังฆทานเยอะมากๆครับ ดูแล้ว
อิ่มใจและโมทนาด้วยอย่างยิ่งครับ..และรู้สึกอิ่มใจที่พบพระวิสุทธิ
เทพองค์คู่เงิน/ทอง ที่เคยทำบุญร่วมกับญาติธรรมถวายไว้เป็นพระ
ผาติกรรมสังฆทานครับ.
กราบพระปัจเจกพุทธเจ้าที่ประดิษฐาน ณ บริเวณระเบียงวิหารแก้วฯ
ทั้งสองวัน แต่..เสียดายมากที่ไม่ได้ทำบุญใส่ตู้บุญถวายท่าน ทั้งๆที่
ทุกครั้งจะต้องทำบุญจุดนี้ อุตส่าห์ตั้งใจมาจากบ้าน แต่อาจเพราะ
คนเยอะและพะวงกับการเก็บภาพที่ต้องรีบเร่งครับ....
ครั้งนี้ไม่ได้ข้ามไปทำบุญฝั่งตึกรับแขกเลยครับ คงรอโอกาสถัดไป...ขอทุกท่านโมทนาบุญร่วมกัน และขอให้ได้รับในผลานิสงส์เช่นเดียวกับกระผมจงทุกประการเทอญ. (เดี๋ยวพี่วรรณ ลงภาพอีกครั้งครับ)

 

อนุโมทนาสาธุการด้วยครับ

 

ที่ไหนครับ

 

สาธุครับพี่