เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tjs, 14 มิถุนายน 2013.

  1. ros

    ros เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +218
    มีเรื่องรบกวนคุณ TJS อีกแล้วค่ะเพราะดิฉันได้ติดตามคุณมาตลอด เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา สามีดิฉันเขาฝันเห็นผู้หญิงสองคนมาหาและบอกว่าอย่าขายบ้านหลังนี้เด็ดขาดเพราะที่นี่มีหลุมสมบัติ แฟนก็ถามว่าอยู่ตรงไหน คนที่เป็นผู้หญิงแก่บอกว่าเมื่อถึงเวลาจะปรากฏขึ้นมาเอง ทั้งๆที่ดิฉันไม่เคยคิดจะขายบ้านหลังนี้เลย เพราะตอนมาซื้อไม่มีเงินสักบาทยังสามารถซื้อได้ (แต่ที่จะขายที่ขอให้คุณช่วยนั้นเป็นสวน และตอนนี้กำลังมีคนมาติดต่ออยู่ 2 รายและกำลังรอฟังข่าวอยู่ตามที่คุณบอกว่าไม่เกินสิ้นปี) และดิฉันเคยไปไหว้เจ้าที่ของหมู่บ้านมีรูปปั้นของตายาย แต่ยายนั้นหัวขาดดิฉันก็เลยต่อศรีษะให้ยายและได้ทำบุญให้คุณพ่อซึ่งเสียชีวิตไปและงวดนั้นดิฉันก็ถูกหวยรางวัลที่ 4 และช่วงนั้นจะถูกหวยบ่อยมาก ทั้งๆที่ซื้อแค่ใบสองใบ บางครั้งก็สองตัว บางครั้งก็สามตัว แต่ตอนนี้ไม่ถูกเลยได้แต่หวิดไปมา อยากให้คุณ ดูให้หน่อยว่าบ้านที่ดิฉันอาศัยอยู่นี้ 116/94 มีอะไรอยู่ด้วยหรือเปล่าและห้องพระของดิฉันจะต้องปรับปรุงอะไรบ้าง เมื่อคืนดิฉันฝันเห็นสามีดิฉันอยู่ๆก็ร้องแล้วก็ล้มลง ดิฉันก็แบกเขาขึ้นใส่บ่าจะเอาไปโรงพยาบาลฝันไปเรื่อยหรือเปล่า เพราะทุกครั้งถ้าฝันจะจำอะไรไม่ได้แต่เมื่อคืนจำได้ชัดเจน ขอรบกวนคุณtjsเป็นข้อๆนะคะ
    1. ที่สามีฝันเห็นคนแก่มาบอกขุมทรัพย์จะโผล่มาเองที่บ้านคืออะไร
    2. ที่บ้านดิฉันมีผู้ใดอยู่ช่วยดูแลบ้างไหมคะ
    3. ห้องพระของดิฉันควรปรับปรุงอย่างไรบ้าง
    4. ความฝันของดิฉันเกี่ยวกับสามีจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า (เพราะสุขภาพเขาเริ่มอ่อนแอลง)
    5. เวลาเกิดวิกฤติจะเกิดขึ้นเหมือนมีอะไรดลบันดาลให้ผ่านไปได้เกือบหวุดหวิดทุกครั้ง)
    ขอขอบคุณมากที่ช่วยเหลือทุกท่านที่เดือดร้อนรวมทั้งตัวดิฉันด้วย ขออนุโมทนากับคุณด้วยค่ะ สาธุๆๆ
     
  2. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ===============

    ขออนุโมทนาครับ สาธุ
     
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ==================
    1เป็นเวทนาทางกายอันเกิดจากวิบากกรรมเก่าในอดีต เกิดแปล๊บๆแล้วก็หายไป ให้ปล่อยวางรู้แล้วปล่อยวางอย่าไปสนใจ ถ้าเอาใจเข้าไปกังวลจะเจ็บมากและนานขึ้นครับ

    2ปีหน้่าปัญหาจะน้อยกว่าปีนี้ แต่ก็มีเรื่องไม่ดีน้อยกว่าปีนี้ แต่ก็มีเรื่องใหญ่ๆไม่กี่เรื่องครับ ซึ่งสามารถแก้ไขไปได้ครับ ขอให้ทำดี ตั้งมั่นในความดีต่อไปครับ

    3 ยังไม่หมดจากตัวคุณพ่อครับ แต่มันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร หากเราเดินทางธรรมทุกอย่างก็แก้ไขได้ครับ ข้อสำคัญอย่าผิดสัจจะ ข้อห้ามที่รับไว้นะครับ จะเกิดโทษกับตนเองครับ ส่วนคุณเป็นบุตรไม่มีส่วนใดที่เกี่ยวข้องขอให้สบายใจอย่ากังวลนะครับ

    4เจ้าที่ครับ

    5 ผลบุญคือพบแสงสว่าง มีสติปัญญาสูงขึ้น ทั้งทางโลกและทางธรรมครับ

    6 ภาวนาพุทธ โธ ครับ จับที่ลมหายใจเข้าออก กำหนดฐา่นที่ปลายจมูก และท้องน้อยครับ
     
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ==============

    สิ่งที่เหนือธรรมชาติ แท้จริงก็เป็นธรรมชาติธรรมดาอย่างหนึ่งของมัน สรรพสิ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติทั้งนั้น

    ในหนึ่งก้อนใหญ่ภายในมีก้อนเล็กๆ พร้อมจะเติบโตสืบเนื่อง ต่อไป

    มีเพียงจิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมรู้ แจ้ง ไม่สืบเนื่องปรุงแต่ง หลงไหล ขอให้เจริญภาวนาเป็นปกติ จนนิ่งจนชำนาญ เมื่อนั้นท่านจะพบพลังที่วิเศษยิ่งกว่าสิ่งใด ครับ สาธุ
     
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การปฏิบัติ ต้องมีเป้าหมาย
    เมื่อเราตั้งเป้าหมายว่าขอนิพพานในชาตินี้ก็ต้อง เข่าถึงโคตรภูญาณให้ได้ก่อนคือ การเบื่อหน่ายในการเกิด การตาย
    เมื่อไม่อยากเกิดอยากตาย จิตจะเกิดความเบื่อหน่ายทางโลกและละความปราถนาต่างๆลงได้
    จิตเห็นไตรลักษณ์ ด้วยสติปัฏฐานสี่
    ทำให้ทรงตัวก็ก้าวหน้า
    ไปสู่ ศีล สมาธิ ปัญญา
    เมื่อนั้นก็จะตัดรูป ตัดกายได้
    หมดกาม
    หมดกามตัดกามได้แล้วก็เป็นพระอนาคามี ก็ไม่ต้องมาเกิดอีก

    เมื่อยกจิตขึ้นสู่พระอนาคามีแล้ว ที่เหลือคือ กิเลส อวิชา ตัวละเอียด ต้องใช้จิตที่ละเอียดเข้าไปรื้อค้น อุปมาดั่ง กิเลสคือตะกอนอันละเอียด การจะดักจับตะกอนอันละเอียด เราจะใช้ตะแกรงหยาบไปร่อนดักจับคงไม่ได้ เราจึงต้องใช้ผ้าขาวบางอันมีรูเล็กละเอียดกว่าไปดักจับ จึงสามารถกรองเอาตะกอนละเอียดเหล่านั้นได้ อันผ้าขาวบางผืนนั้นย่อมหมายถึง จิตที่ละเอียด จิตที่ละเอียดย่อมหมายถึง สติปัญญาชั้นสูงที่ละเอียดปราณีตนั่นเอง ท่านจะมีสติปัญญาที่ละเอียดปราณีตได้ ก็เพราะอาศัยการฝึกปฏิบัติที่ละเอียดปราณีต นั่นเองครับ สาธุ
     
  6. มหาเมตตา

    มหาเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +283
    ขออนุโมทนากับเมตตาจิตของท่าน tjs ,ครูบาอาจารย์ของท่านและท่านเทพอารักษ์ด้วยครับ สาธุ!
     
  7. newpin

    newpin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +112
    สวัสดีค่ะ คุณก้อง

    ได้อ่านข้อความนี้เกิดความสงสัยค่ะ เพราะกำลังรู้สึกแบบนี้ได้พักใหญ่แล้วค่ะ ไม่ทราบว่าดีหรือไม่ดี อย่างไร
    "การปฏิบัติ ต้องมีเป้าหมาย
    เมื่อเราตั้งเป้าหมายว่าขอนิพพานในชาตินี้ก็ต้อง เข่าถึงโคตรภูญาณให้ได้ก่อนคือ การเบื่อหน่ายในการเกิด การตาย
    เมื่อไม่อยากเกิดอยากตาย จิตจะเกิดความเบื่อหน่ายทางโลกและละความปราถนาต่างๆลงได้"


    ดูเหมือนว่าอารมณ์ที่เบื่อหน่ายทางโลกนั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว แต่ปลาสงสัยว่าเป็นการเบื่อแบบเดียวกันหรือป่าว หุหุ

    การไม่อยากเกิดนั้น แน่นอนค่ะ ไม่อยากแล้ว การเบื่อหน่ายคือมันเหมือนจะแยกยากหน่อย บางทีการเบื่อหน่ายทำให้เราไม่อยากทำงานซะงั้น ไม่ต้องการความก้าวหน้า ไม่แข่งขัน รุ้สึกว่าไม่ดีกับชีวิตทางโลกเลยค่ะ ไม่อยากคุยกับผู้คนในบางครั้ง มันเหมือนยังหาตรงกลางไม่ได้ว่าเราควรจะทำใจยังไงดี รู้สึกเบื่อหน่ายแบบไม่ดีเลยค่ะ
     
  8. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ===========

    โคตรภูญาณ เป็นญาณ ฝ่ายปัญญา ทำให้เห็นว่า การเวียนว่ายตายเกิดเป็นทุกข์ เป็นสิ่งที่ไม่มีความเที่ยง เป็นสิ่ง ไม่มีแก่นสาร ไม่เห็นประโยชน์ ไม่มีอะไรให้ยึดมั่น เห็นแจ้งว่าอิทัปปัจจยตา ปฏิจจะสมุปบาท เกิดเพราะอวิชา ไล่ไปจนถึงทุกข์ เห็นแจ้ง จึงเบื่อหน่าย ในการเวียนว่ายตายเกิด เพราะปัญญารู้แจ้ง จากโคตรภูญาณ นั่นเองที่เห็นแจ้ง

    ย่อมต่างจากความเบื่อหน่ายแบบทางโลก ที่ขาดสติปัญญาประกอบ เป็นเบื่อหน่าย เพราะขี้เกียจ เพราะไม่อยากได้อยากเป็น เบื่อเพราะไม่สมปราถนาตามที่ตนอยาก เบื่อที่อาศัยกิเลส ตัณหาอุปทานปรุงแต่ง นั่นเอง

    เมื่อเราได้โคตรภูญาณ แล้วสติปัญญาเราเดินตรงต่อ มรรคผล นั่นคือ อริยมรรค8 เมื่อนั้นเราจะไม่ละทิ้งหน้าที่ทางโลก สักแต่ว่าทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ก็เท่านั้น ครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2015
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ถ้าท่านได้โคตรภูญาณ หรือท่านทรงอารมณ์โคตรภูญาณ ท่านจะทราบดีว่าญาณตัวนี้ให้ปัญญาอะไรแก่ท่าน ปัญหาเหล่านั้นบอกทางสว่างแก่ท่าน ความเป็นพระโสดาบัน จะบังเกิดขึ้น ท่านจะเข้าใจโลกมากขึ้น เข้าใจทุกข์มากขึ้น เมื่อท่านปฏิบัติธรรมสืบเนื่องก้าวเดินขั้นสูงยิ่งขึ้น ท่านย่อมจะเห็นทุกอย่างแจ่มชัดขึ้น เพราะสติปัญญางอกงามยิ่งขึ้น ตาม อริยะมรรคที่งอกงามยิ่งขึ้นนั่นเอง ตามจิตที่ยกหรือชำระได้ขาวสะอาดมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ สาธุ
     
  10. newpin

    newpin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +112
    โคตรภูญาณ ได้จากการทำสมาธิเท่านั้้นใช่ไหมคะ คุณก้อง?
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =============

    โคตรภูญาณ เกิดจากการมีสติ เข้าไปรู้ทัน เหตุปัจจัยต่างๆของการเกิด เกิดจากการเห็นผลจากการเกิด แต่ละลำดับ ทั้งจากวิปัสสนา และจาก สภาวะจริงที่เกิดดับกระทบกายใจ เมื่อเรามีสติ รอบรู้ รู้ทัน เมื่อนั้น ความที่มีสติเข้าไปรู้จริง ย่อมเกิดปัญญา ปัญญาที่เกิดย่อมเป็นแสงสว่างให้เห็นความไม่เที่ยงเป็นทุกข์ จึงเกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ไม่ยึดมั่นในการเวียนว่ายตายเกิด

    สรุปคือ เหตุแห่งการเข้าถึง โคตรภูญาณ อาศัยหลายปัจจัย ทั้งการวิปัสสนา ทั้งจากประสพกับสภาพความเป็นจริง จากสภาวะที่เกิดกระทบกายใจ แล้วอาศัยสติ เป็นเครื่องดักจับตามรู้ จึงเกิดปัญญาปล่อยวาง ละทิ้งในที่สุดครับ

    ซึ่งต้องใช้เวลาครับ หรือหากจะย่นเวลาก็คือต้องวิปัสสนามากๆก็จะย่นย่อ ให้เร็วขึ้นเหมือนเราเอามันมาบ่มเร่งให้มันสุก จึงเกิดปัญญา รู้แจ้งสิ่งนี้ในเวลาที่รวดเร็ว อันย่อมดีกว่าการปล่อยไปตามธรรมชาติ กว่าจะเรียนรู้ กว่าจะเข้าใจ กว่าจะสร้างสติ สร้างปัญญา มันก็ล่าช้าเนินนานครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2015
  12. มหาเมตตา

    มหาเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +283
    ผมได้รับ เหล็กไหล และ หยก กาบแก้ว แล้วครับวันนี้ ขอบคุณท่าน tjs มากครับ แต่ผมยังมีข้อสงสัยว่า "หยก กาบแก้ว" สิ่งนี้คือ หยก หรือ กาบแก้ว หรือว่าชื่อ "หยกกาบแก้ว" ผมลองค้นหาข้อมูลดูแล้วไม่ค่อยมีพูดเรื่องกาบแก้วแต่พูดเรื่องแก้วกายสิทธิ์โดยรวมมากกว่า สรุปคือแก้วกายสิทธิ์ชนิดไหนครับ? และมีประโยชน์ในด้านใดบ้างครับ? และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่นด้วยครับ สาธุครับ!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2015
  13. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =============

    หยกกาบแก้ว ไม่มีในสารระบบ
    หยกกาบแก้ว หมายถึง หยกคือหินชนิดหนึ่ง ที่มีความแข็งน้อยกว่า รัตนชาติ อัญมณีทั่วไป หยกกาบแก้ว มีลักษณะพิเศษคือ เป็นหยกที่มีความแข็ง ใส เกือบเทียบเท่า มณีรัตนชาติ คล้าย พลอย มีลักษณะใสกว่า มีความแข็งมากกว่าหยกทั่วไป ครับ สาธุ



    หยกกาบแก้ว เป็นชื่อที่เทพอารักษ์ เรียกชื่อแบบนี้ เทพอารักษ์หยกกาบแก้ว เป็นบริวารของท่านพระอวโลกิเตศวร ท่านเป็นสตรีเพศ ท่านบอกว่า หยกกาบแก้ว มีคุณวิเศษในด้าน เมตตามหานิยม เสน่ห์ นิยม เรียกทรัพย์ ร่มเย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปลอดภัย หากใช้เจริญกสิน จะเป็นแบบกสินน้ำ มีความเย็นชุ่มฉ่ำ เป็นธาตุฝ่ายน้ำ หรือฝ่ายเย็นครับ

    ตัวอย่างตามรูปเป็นหยกกาบแก้วที่ผมได้มาจากภูเขาในแถบลพบุรี จำนวน1โถ และได้แบ่งให้ท่านผู้มีศรทธา ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • athivat2.jpg
      athivat2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.6 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG_1383.jpg
      IMG_1383.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.7 KB
      เปิดดู:
      52
    • jirat2.jpg
      jirat2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      124.1 KB
      เปิดดู:
      49
    • meli.jpg
      meli.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.6 KB
      เปิดดู:
      39
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2015
  14. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เมื่อเกือบ20ปีที่่ผ่านมาที่ผมได้ปฏิบัติธรรม ได้ท่องไปตามถ้ำและเทือกเขา ในเขต ลพบุรี และสระบุรี ด้วยการปลีกวิเวก คนเดียว เจริญสมาธิในถ้ำ กินนอนในถ้ำ มากมายหลายที่ ได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์มากมาย ที่ไม่สามารถเล่าให้ฟังได้หมด การไปทุกที่ ไปเพื่อฝึกสมาธิ วิปัสสนา
    ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น ซึ่งหลายๆที่ได้ให้ประสพการณ์อันมีค่าแก่กระผม นอกจากนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังอนุโมทนาและอนุเคราะห์ บางที่ไปนั่งก็ถูกลองดีก็มี แต่เพราะเรามีเจตนาที่ดี ด้วยความดี ก็ได้รับความเมตตาอนุเคราะห์ ทำให้ได้ประสพการณ์ที่ดีมาก ตลอดจนได้ธาตุกายาสิทธิ์ที่แปลกๆมากมาย ผมตั้งใจว่า จะใช้เพื่อสร้างประโยชน์เท่านั้น และจะเป็นไปเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เท่านั้น ครับ เป็นความเชื่อความรู้ความเข้าใจเฉพาะตัวกระผมเอง แต่ก็อย่างที่ทราบ อะไรจะสำคัญไปกว่า หลักธรรม ศีลธรรม ความดีงาม ความบริสุทธิ์ของจิต นั้นไม่มี ดังนั้น เราท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมแก่นแท้เหล่านี้ครับ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    รบกวนสอบถามคุณก้องค่า เพื่อนของดิฉันแม่ของเค้าไม่สบายหนักมากมาหลายเดือน แต่ตัวเพื่อนท้องเข้าเดือนที่แปดแล้วเลยบินกลับไปเยี่ยมแม่ที่ไทยไม่ได้ อย่างนี้จะมีวิธีปฏิบัติหรือทำบุญอย่างไรให้แม่เค้าหายป่วยบ้างคะ?

    เมื่อคืนเค้าโทรมาหาดิฉันก็ดึกมากแล้ว เลยส่งบทสวดมนต์ไปให้พร้อมกับแนะนำให้นั่งสมาธิและให้เค้าอุทิศบุญถึงเทวดาประจำตัวของแม่ และแนะนำเรื่องการทำสังฆทานโดยให้แม่เค้าทำด้วยถ้าพอไหว

    มีอะไรแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติสำหรับบุตรที่พึงมีต่อบิดามารดาที่ป่วยแต่เราไม่สามารถไปทำหน้าที่ดูแลได้รบกวนแนะนำด้วยค่ะ
     
  16. ณิช

    ณิช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,391
    สวยมากเลยค่ะ คุณก้อง เหมือนอัญมณีเลยค่ะ ข้างในมีเทพหรือมีกายทิพย์รักษาอยู่ใช่ไหมคะ เวลาท่านให้มา ท่านให้มาในลักษณะให้เห็นเลยหรือเปล่าค่ะ ณิชว่าข้างในถ้ำหรือเขาตอนกลางคืนคงมืดจนมองไม่เห็นเลย และเย็นจนน่ากลัว แต่ที่คุณก้องปลีกวิเวกได้ ขอนับถือด้วยใจค่ะ อนุโมทนา สาธุด้วยค่ะ
     
  17. boonnippan

    boonnippan ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +1,099

    กราบขอบพระคุณสำหรับธรรมะและแสงสว่างจากครูก้องค่ะ ขออนุญาตถามครูก้องเพิ่มนะคะ
    1ถ้าจิตสามารถเห็นจิตได้แล้ว รู้แล้วละได้ในระดับหนึ่ง ตัวที่เฝ้าสังเกตมองเห็นทุกข์แยกอยู่ เห็นว่าขณะนั้นอารมณ์จิตเป็นทุกข์เวทนาอยู่ ตัวเราคือตัวสติซึ่งเป็นตัวเดียวกับตัวรู้หรือตัวที่สังเกตเห็นอารมณ์จิตใช่มั๊ยคะครูก้อง
    2 ดิฉันเฝ้าค้นหาว่าในท้ายที่สุด เราก็ไม่เอาอะไรแม้แต่วิญญาณจิตและตัวรู้ใช่หรือไม่คะครู ถ้าเป็นอย่างนี้ แล้วทำอย่างไรในการละตัวรู้คะ หรือรู้แล้วละต่อไปเรื่อยๆคะ ดิฉันยังไม่เข้าถึงประเด็นตรงนี้ค่ะ
    กราบขอบพระคุณครูก้องมากค่ะ
     
  18. kaka krit

    kaka krit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +96
    สอบถามครับผม

    หลังจากที่ได้เห็นคุณก้องเล่าเรื่องธาตุกายสิทธิ์ ผมก็สนใจ และอยากเชิญมาอยู่ด้วยครับ และหลังจากนั้นก็ได้มีพี่คนนึงมอบจี้มาให้ผมตามภาพ ครับ เลยอยากถามคุณก้องครับ
    1.จี้ในภาพ ใช่ธาตุกายาสิทธิ์ รึป่าวครับ มีเทพ หรือ เทวดา รักษาอยู่มั้ยครับ
    2.ขอคำแนะนำการบูชาดูแลรักษาจี้ชิ้นนี้ครับ
    3.รายงานผล เรื่องเจ้ากรรมนายเวร โรคที่เท้าผม ดีขึ้นแต่ยังไม่หายเลยครับผม ทำยังไงให้หายขาดเลยครับ
    4.การอุทิศส่วนกุศลของผล ทั้งกรวดน้ำ และ แผ่เมตตา บกพร่องตรงไหนหรือไม่ครับ
    5.การสวดมนต์ภาวนาทุกวันนี้ ต้องเลือกคาถา หรือ คำภาวนารึป่าวครับ พอดีมีปัญหาเรื่องการเงินบ่อยๆ เลยใช้คาถาเงินล้านเป็นบทภาวนาจะได้ผลรึป่าวครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ===========

    สิ่งที่บุตร ควรกระทำ เพื่อบิดามารดา คือ การให้ความรัก การเลี้ยงดูช่วยเหลือตามอัตภาพ กรณีที่ท่านเจ็บป่วยคือการ ต้องดูแลท่าน หากมาดูแลท่านไม่ได้ ก็ต้องจัดหาหรือวานผู้อื่นมาช่วยดูแล
    ส่วนการทำบุญสร้างกุศล นั้นควรทำแล้วอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร เทวดาที่ดูแลรักษาท่าน ให้เขาได้รับ ควรหาหนังสือหรือสื่อธรรมะให้ท่านอ่านท่านฟัง ด้วยจะดีมาก

    คนทุกคนมีชะตากรรม มีกรรมเป็นของตน เรามีหน้าที่ดูแลช่วยเหลือ ทำให้ดีที่สุดตามกำลัง นะครับ

    การแก้ไขกรรม ของบุคคล เป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก เพราะเป็นของเฉพาะคนครับ การแก้ไข จึงต้องรู้เหตุปัจจัย เพื่อแก้ไขที่ต้นเหตุ จึงจะได้ผลดี การแก้ไขปลายเหตุ ทำได้ แต่ผลจะได้มากน้อยแค่ไหนตอบยาก แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยครับ สาธุ
     
  20. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ================

    ในถ้ำส่วนใหญ่จะมืด ยิ่งลึกยิ่งมืด บางที่ก็ต้องเตรียมไฟฉาย และ ต้องเตรียมของบางอย่างเช่นน้ำดื่ม เป็นต้น การฝึกกสินไฟ ผมก็จะเตรียม เทียมเล่มใหญ่พอสมควรเอาไปด้วย ถ้ำที่ดี อากาศจะมีการไหลเวียน เวลาเราเลือกจุดที่เรานั่งทำสมาธิต้องเลือกจุดที่อากาศไหลเวียน เป็นความรู้เฉพาะตนครับ

    หากเรามีจิตใจที่ดีสะอาด เรารับทราบได้ สื่อสารกับเทพพรหม เทวดาอารักษ์ได้ เขาจะบอกเรา อย่าไปอยากได้อะไร หรือขออะไร แต่เราจงใช้บุญบารมีที่เรามี แผ่อุทิศให้เขามากๆ ถ้าเขาจะให้อะไรแก่เราหรือบอกกล่าวอะไรแก่เรา เมื่อสมาธิเราดีมากพอ เราตัดเวทนาตัดนิวรณ์ได้แล้ว มันก็สามารถสื่อสารกับเขาได้

    อย่างเช่นบางถ้ำมืดมากไม่มีไฟ พอเราหลับตาพักหนึ่ง ดวงตาก็จะปรับสภาพได้ มองไม่ถนัด เวลาเทพเทวดาท่านมาสื่อบอกเรา มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์คือ ท่านชี้ว่ามีของที่ท่านจะให้อยู่ตรงนี้ ให้เราขุดลงไป คือในถ้ำบางจุดดินจะงอกเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา เราก็ขุดลงไปตามที่ท่านชี้บอก พอขุดลงไป ก็จะเจอใช้มือคลำๆก็จะรู้เอง หรือบางที่ ท่านบอกไม่ต้องขุดเยอะ พอขุดไปหน่อยเดียว ท่านบอกของที่จะให้โผล่อขึ้นมาแล้ว ท่านบอกให้โกยเอาดินที่ขุดมาทั้งหมดใส่ถุงเอาไปล้างน้ำเดี่ยวก็จะเห็นเองก็มี ครับ มันก็แล้วแต่วิธีการตอบไม่ได้ทั้งหมดครับ

    เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเจริญสมาธิที่ห้อง แต่จิตเคลื่อนไปพบชายชาวจีนคนหนึ่ง ท่านแต่งกายชุดจีนเสื้อคอจีนสีแดงแขนยาว ท่านบอกว่า ท่านอยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ ท่านเดินทางจากประเทศจีนเมื่อหลายร้อยปีก่อน แล้วเกิดภัยทางทะเล เพื่อจะมาแต่งงานกับธิดาบุตรสาวเจ้าเมือง เธอชื่อนางจันทร์ แต่การเดินทางเกิดมรสุมเรือแตกอับปาง ท่านกับบริวารจึงได้พยายามรวมรวมของมีค่าและลงเรือเล็ก ล่องมาตามแม่น้ำแล้ว เพื่อเดินทางไปยังจุดหมาย ในระหว่างนั้นมี โจรสลัดและ พวกโจรตามป่าเยอะมาก ท่านกับบริวารจึงได้ พากันเข้าไปหลบหลีกจากพวกโจร คือในถ้ำแห่งนี้ ท่านกับบริวารจึงได้ฝังของใช้และของมีค่า ส่วนหนึ่งไว้ในถ้ำ แต่ทุกคนก็เกิดล้มป่วย และไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ และต้องเสียชีวิตลง อยู่ในถ้ำแห่งนี้

    ผมได้เดินทางไปและไปยังถ้ำแห่งนี้ ซึ่งได้นำผลไม้และเครื่องสักการะบูชาไปถวายท่าน เมื่อไปถึง จึงทราบว่า ถ้ำแห่งนี้ คือ ถ้ำตรง วัด เขาราชบรรทม
    ที่นี่มีถ้ำ ผมได้สอบถามคนที่นั่น เขาบอกว่า เขาราชบรรทม มีถ้ำอยู่ข้างบน และในถ้ำมีเทพที่รักษาถ้ำแห่งนี้ ท่าคือ พระเจ้ากรุงจีน ผมได้อธิบายลักษณะตามนิมิต ชาวบ้านที่นั่นบอกว่า ใช่ ชายคนดังกล่าว ที่รูปร่างศุงใหญ่ผิวขาว เป็นชาวจีน แต่งกายด้วยเสื้อคอจีนแขนยาวสีแดง ท่านคือพระเจ้ากรุงจีน เขาจะมีจักงานกันทุกปี ช่วงเดือน สาม ชาวบ้านที่นี่เขาเคยเห็นท่าน เพราะท่านปรากฏกายทิพย์ให้เห็น เป็นแบบที่ผมเห็น พอผมทราบรายละเอียดว่าใช่ถูกที่ จึงขึ้นไป ที่ถ้ำ ด้านบน บันไดสูงประมาณ 300ขั้น ก็ถึง ผมจึงได้วัดวางและถวายของสักการะบูชาแก่ท่าน แล้วก็ทำสมาธิ ท่านและบริวารออกมารับของสักการะและกล่าวขอบใจ ถ้ำตอนนั้นประตูปิดเข้าไม่ได้เพราะ ผนังปากถ้ำเกิดทรุดตัว แต่ยังมีทางเข้าไปด้านในอีกด้าน ท่านบอก ท่านบอกว่าท่านขอบใจและขอมอบแก้วอัญมณีที่ท่านมี ให้ผม ท่านจึงบอกรายละเอียด ว่าเป็นลักษณะแบบไหนและอยู่ตรงไหน ซึ่งผมก็รับทราบ

    ปัจจุบันถ้ำแห่งนี้ผมไม่ได้ไปมานานไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร แต่รู้ดีว่า ถ้ำได้ยุบตัวตรงปากถ้ำ และไม่สามารถเข้าไปได้อีก ยังมีของมีค่าอีกมากมาย ชาวบ้านแถบนั้นเคยนำอัญมณีก้อนใหญ่ เหมือนพลอยสีขาวสามเหลี่ยมให้ผมชม ว่าได้จากที่นั่น ชายแก่คนนั้นได้มานานแล้ว ท่านไปสักการะบูชาแล้ว ท่านพระเจ้ากรุงจีนให้มา ซึ่งปัจจุบันไม่ทราบว่าชายแก่ผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือพลอยขาวก้อนนั้นคงตกทอดถึงลูกหลายของเขา

    ถ้ำเป็นสถานที่ ที่เหมาะสมแก่การปผฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ ถ้ำบางที่ก็อันตราย เป็นที่อยู่ของงู พยานาค สัตว์ที่อันตราย ไม่ควรประมาท นะครับ และจงอย่าไปอยากได้อะไร ของสิ่งใดที่เป็นของเราก็จะต้องเป็นของเราครับ แต่หากพิจารณาให้ดี มันก็ไม่มีอะไรที่เป็นของเราทั้งนั้น แม้กายเรานี้ยังเสื่อมลงไปตามกาลเวลา ในที่สุดเราก็ต้องตาย ตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ นอกจากคุณงานความดีบุญกุศลที่ทำไว้เท่านั้น รักษาจิตของตนให้ดีงามสะอาดบริสุทธิ์จึงเป็นที่สำคัญที่สุดครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...