ขอเรื่องรูปนามอีกสักรอบ

ถ้าเข้าถึงฌานสี่นั้นแหล่ะจะเห็นชัดเจน เพราะรูปดับไป เหลือนามล้วนๆ

 

เห็นชัดเจนอยู่คนเดียวหาอเปล่า
ยังสอนเชิงบังคับให้คนอื่นต้องมายึดสิ่งนี้
เลิกยึดสิ่งนั้น ทุกวันตัวตนยังเต็มเปี่ยม
แถมยัดเยียดตัวตนให้คนอื่นด้วยมันยังไง

 

ไม่รู้ไปไม่ถึงก็อย่าพึงกล่าวว่าสิ่งนั้นไม่มีไม่จริง

 

อ่านหนังสือไม่แตก ทำให้การตอบเหมือน
บิดประเด็นเป็นคนเจ้าเล่ห์!!!
อ่านให้ดีๆ ก่อนตอบนะะ อย่าปลิ้นเลิกนิสสัย
การปลิ้นเสียที
ลุงแมวว่าอะไร ไม่มีหรือว่าอะไรไม่จริง

 

ถ้าผมจะพูดว่า ที่สมมุติเรียกกันในบอร์ด พลจ.ว่า ลุงแมวๆ นั่นแหละนามรูป (นามกับรูป) ลุงแมวเห็นเป็นประการใดขอรับผม

​

 

พุดเจ้ามาจากดินสอนงั้นหรือฮะ

 

อ่านหนังสือไม่แตก ดูใหม่

ถ้าผมจะพูดว่า ที่สมมุติเรียกกันในบอร์ด พลจ.ว่า ลุงแมวๆ นั่นแหละนามรูป (นามกับรูป) ลุงแมวเห็นเป็นประการใดขอรับผม

 

รำคาญวิธีสอน ภาพตัวเองดูสกปรก
ถ้ากำลังคุยถึงอสุภ....น่าจะติดตาม
การนำเสนอภาพ เกี่ยวกับรูปนาม ศาสนามาจากดินเล่นงี้เลยหรา

 

รูปนาม-นามรูป-ฌาน
***ความสัมพันธ์นามรูป-ฌาน-สติปัฏฐาน4-มรรค8
***นามรูปเป็นรูปอันละเอียดในมโนทวาร เป็นวงจรของปฏิจจสมุปบาท เป็นอนุสัยใจราคะที่มืดดำล้ำลึก เป็นอัตตาตัวตนที่แท้จริง
***ผู้เพ่งฌานสมาบัติที่เข้าอรูปฌาน อันเริ่มฌานที่6 เป็นต้นไป จะเข้าต่อสู่กับรูปอันละเอียดที่เรียกว่านามรูปนี้
***จากรูปฌานสู่อรูปฌาน จะต้องใช้สติปัฏฐานตัวที่สองคือเวทนานุปัสสนาเป็นจุดต่อ เวทนานี้จะเกิดที่จุดมโนทวาร เมื่อเข้าเต็มฌานที่4 จะเกิดสภาวะละรูปภายนอก ร่างกายของเราจะหายไป แต่เวทนาจะปรากฏอยู่ เรายังสามารถเพ่งต่อไปได้ หากไม่มีเวทนามันก็จะขาดจุดต่อที่จะเพ่งสู่อรูปฌาน
***ดั้งนั้นเมื่อเริ่มเพ่งแล้วไปพบกับเวทนา อาการเบื้องต้นจะรู้สึกเวียนหัว ท่านก็จงดีใจไว้เถิดว่าท่านมาถูกทางแล้ว
***ตามหลักสติปัฏฐานสี่เปรียบรถ 4 ผลัด เริ่มเมื่อเพ่งเข้าที่จุดมโนทวารก็เป็นกายานุปัสสนา เกิดเวทนาแล้วลงรวมที่จุดก็เป็นเวทนานุปัสสนา ตัวนามรูปเป็นสภาพปรุงแต่งแห่งจิตเป็นจิตตานุปัสสนา สภาพการดับของนามรูปเป็นสภาพธรรมคือธรรมมานุปัสสนา
***โดยการเพ่งเข้าที่จุดเป็นสภาพมรรคทั้ง 8 ตัวโดยบริบูรณ์ โดยทั้ง 8 จะลงรวมที่สติ จนเป็นระดับสตินทรีย์ฌานเข้าดับนามรูปในฌานที่ 9
***ณานเท่านั้นคือหนทาง คือมรรค คือความสำเร็จ
***เจริญในธรรมครับ

 

ขอบคุณท่านฐสิษฐ์ครับ

 

จะไปมองรูปนามที่ไหน ลม. ก้มดูตัวเองสิเห็นไหม ภาษาธรรม เรียก อะไร

 

ฮันแน๊ะ.....มีก้มมีเงย!!

 

คิกๆๆ นึกถึงที่ ลม.พูดว่า กระทู้ใครๆก็ตั้งได้ แต่อย่าให้เกินภูมิ (deejai)

ทั้งเคยบอก ลม.หลายครั้งว่า ลม. ศรัทธาจริต ส่ิ่งที่ควรทำเบื้องต้น คือ ถวายสังฆทาน ตักบาตรพระตอนเช้า ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิต ปลอยสัตว์น้ำสัตว์บก

 

ที่บอกมาทำมาแล้วทุกอย่างครบแล้วหลายรอบด้วยฮะ
ลุงแมวอยากแนะนำ มาจากดิน ไปขอยืมเงินใครซักก้อน
ซื้อรถเข็นขายแผ่นCD เพลงธรรมะแนวเพลงแขกอินเดีย
ขายไปเปิดเพลงเต้นไปด้วย
น่าจะเข้ากับจริตชอบก๊อบปี้เป็นกำลัง
เรียกได้ว่า ก๊อบปี้จริต ทำเลยนะขาย
แผ่นCd ธรรมะเพลงแขกโดยเฉพาะ

 

ลืมบอกไป ทำไปเรื่อยๆทำไปจนวันตาย :d

 

เรื่องนามรูป ตามความเข้าใจของผม ผิดถูกอย่างไรก็พิจารณาด้วยนะครับ

นามรูป ใช้พิจารณาเพื่อให้มองเห็นว่า ธรรมไม่สามารถตั้งอยู่โดด ๆ ได้
ธรรมตั้งอยู่ได้ด้วยภาวะการพึ่งพา ดั่งรูปนาม สิ่งหนึ่งสิ่งใดจะมีอยู่อย่างเป็นเอกเทศไม่ได้
เพราะมีสิ่งนี้ จึงมีสิ่งนั้น ธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุ ที่ว่ากันตามคาถา เยธัมมาเหตุปภวา

เมื่อพิจารณา หรือนำมาเป็นอารมณ์ในการพิจารณา ก็จะเห็นว่ามันไม่มีสาระให้ยึดถือ
เข้าถึงไตรลักษณ์เอง

เหมือนการนำเอาปฏิจจสมุปบาทมาพิจารณา จะเห็นว่าอารมณ์เกิดดับได้ด้วยอะไร
ท้ายที่สุดก็จะรู้เท่าทันมัน นามรูป เป็นห่วง ๆ หนึ่งในนั้น ตัดได้ห่วงหนึ่ง ห่วงอื่นก็หลุดออกจากกัน

เมื่อนั้น ความยึดมั่นถือมั่นก็จะคลาย อัตตาก็จะเบาบางไปเอง

 

ลม. ใช้อะไรปฏิบัติขอรับ

 

"ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Neoworld
เนื่องจากรูปนามเป็นเรื่องยากต่อการเข้าใจ
และยากต่อการประพฤติปฏิบัติให้รู้ด้วยความสามารถ
ของจิตล้วนๆ
ซึ่งหากจิตใดได้เห็นความจริงของรูปนามแล้ว การยึดมั่น
ถือมั่นต่างๆ ก็จะหมดไปเอง การเห็นความจริงของอนัตตาก็ชัดเจน
จึงใคร่ขอคำชี้แนะหรือความเห็นเพื่อการปฏิบัติเพื่อการให้ถึงการประจักษ์อีกครั้ง ยาวค่ไหนก็ต้องติดตามครับ"


ไม่พูดไม่จาไม่หือไม่อือนะ ลม :d

 

ลุงแมวตั้งประเด็นสอนหรือเปล่าล่ะ
ดูย่อหน้าสุดท้าย
จึงใคร่ขอคำชี้แนะ..........
ดังนั้น ลุงแมวต้องเงี่ยหูฟังคำ
ของผู้ชี้แนะ ไม่ควรเป็นผู้สอนหรืออวดตน
เองในเรื่องที่มาขอคำชี้แนะ ถูกไหมฮะ
มจด.จะชี้แนะก็ชี้ไปเรื่อยๆ กำลังรอฟังอยู่
ยาวแค่ไหนก็ฟังจนกว่าจะเข้าใจ...
ขอเป็นคนฟังไม่ขอเป็นคนพูดฮะ

 

มีคนให้ยืมเงินมาทำทุนซื้อรถเข็นขาย CD หรือยังฮะ