ปฏิบัติหรือทำอย่างไรถึงทำให้จิตใจที่มีแต่ความอิจฉาริษยาลดลงได้

ไม่หัดฟังพุทธวจนนี้แหล่ะถึงต้องหาเนื้อนาบุญไม่เจอ. พระพุทธเจ้าท่านแสดงเรื่องเนื้อนาบุญไว้ก็จริง. แต่การทำกับใครอย่างไรที่จะได้อานิสงส์ผลบุญเยอะก็ไม่ต้องสิ่งหาเนื้นาบุญที่ไหนเลยเพียงตั้งจิตตั้งใจถวายเป็นสังฆทานก็มหาศาลแล้วล่ะบุญ. และที่จริงแล้วการทำบุญที่ไม่หวังอะไรต่างหากล่ะที่เป็นการละความตระหนี่ที่เป็นมลทิลการทำแบบนี้หรอกที่เป็นทิฎฐิของอริยะบุคคล พอเข้าใจนะ

 

ก่อนที่จะรู้ ความไม่รู้ย่อมมาก่อน โชคดีค่ะที่มองเห็นความอิจฉริษยาของตัวเองได้อย่างชัดเจน..ยิ่งห้ามเหมือนมันยิ่งมีพลังมีกำลังมากมาย..อย่ากระนั้นเลย ลองทำตัวเป็นผู้ดูสิ ดูมันเข้าไปว่ามันจะอิจฉาริษยาไปถึงไหนดูมันไปให้ถึงที่สุด แต่ขอให้มีสติฉุดไม่หลงไปตามกระแสของความอิจฉาริษยา เมื่อเข้าใจมันรู้จักมันรู้เท่าทันมัน..ต่อไปมันก็จะไม่มีอิทธิพลต่อใจเราได้อีก..นอกเสียจาก..มันเกิดขึ้นในระดับที่ละเอียดมากกว่าเดิมค่ะ

 

ให้เอาพุทธวจน..ไปต้มกินคุณก็อยู่เท่าเดิม ไม่ยอมเดินทางปัญญาด้วยตนเองเอาแต่ศรัทธาในตัวบัญญัติ.. ขาดโยนิโสเหมือนอาจารย์คุณจริงๆ..
:'( สงฆ์ ในศาสนาพุทธ ก็รู้แล้วเป็นอย่างไร.. ทำบุญกับใครได้อานิสงส์มากที่สุดในผลบุญก็รู้แล้ว..เนื้อนาบุญคืออะไรก็รู้แล้ว
สังฆทานของคุณ ใส่บาตรเขมรห่มเหลือง 10กว่ารูปที่ปลอมมาหากินที่สุพรรบุรี-ชลบุรี แล้วตั้งจิตเป็นสังฆทาน..คุณก็ได้บุญแล้วมหาศาลงั้นรึ..ผ้าเหลืองไม่ใช่เนื้อนาบุญนะคัรบ
:'(..เอาแต่ประโยชน์ตนแค่ตั้งจิตอธิษฐานให้เป็นสังฆทาน แล้วประโยชน์ท่านล่ะ..โจรผ้าเหลืองเขมร-ไทย เต็มประเทศใครจะรับผิดชอบ ทำบุญแบบสร้างปัญหาไม่โยนิโส เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวจะเอาแต่บุญ ไม่ดูผลกระทบต่อส่วนรวม เชอะ..อ่านอย่างเดียวไม่คิดเลยก็ยังงี้.:'boo:

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td>
</td></tr></tbody></table><table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" height="1" width="916"><tbody><tr><td class="alt2" style="border:1px inset">
</td> </tr> </tbody></table>
..555.. เข้าไม่ถึง ยังไงก็มองไม่ถึง สัมมาทิฏฐิ สถิตย์อยู่ที่ใคร จริงๆคนนั้นจะบริสุทธิ์ หมดจรดๆทางความเห็น-คิด..สะอาดจนไม่มีข้อโต้แย้งในด้านผลประโยชน์แฝง..ไม่มี อีกด้านที่แฝงเล่ห์ให้เหลือบแลชายตามองเพราะเขาสะอาด เสียสละ เสียสละจริงๆ..
(k)..ตรง ไหนมีผลประโยชน์เขาจะจี้ไปตรงนั้น ใช้ศิลในตัวเปิดเผยออกมาให้เห็นเพื่อ ป้องกันซะ "จิตจะฟูมาก"..เพราะเรามันพุทธบุตรไม่ใช่พุทธพาณิชย์ เราบริสุทธิ์ ไม่เอา ไม่กั๊ก ไม่มีผลประโยชน์ตต่อสิ่งนั้นๆที่จะทำ..
:'( ร่องลอยของกาม..จะไม่มีปรากฏแต่ หากคุณเข้าไม่ถึง ศึกษาไม่เป็น ใน"กาม".. คุณก็จะเห็นแค่ที่คุณเห็นนั่นแหละครับ..(ตรวจวัดภูมิธรรมกันได้เลยนะตรงนี้)
..การมองเห็นด้านลบ หาใช่ว่าด้านลบนั้นจะติดตัวคนมองไปหรือเขาคนมองจะต้องมีนิสสัยด้านลบที่เขา มอง..มันแค่โยนิโสก็เห็นแล้ว ความรอบครอบจะมีไว้ทำไม ก็เพื่อป้องกันคนทำงาน และช่วยเหลือผู้ที่ประมาท-ผู้ที่ไม่รู้ยังไง.. เขามีไว้ชี้แนะคนอื่นให้ป้องกันตนเองจากโลกธรรม8ซะ ในฐานะนักบวชหรือนักปฏิบัติธรรม
:boo:เช อะ..คุยมากเดี๋ยวผมเปิดเผยตัว เปิดตัว ประกาศเป็นพระโพธิ์สัตว์ อีกองค์.. บอร์ดนี้จะลุกเป็นไฟนะครับ ต้องยื่นขออนุญาต คสช...ก่อนไหม อย่ามาขอร้องนะ อิอิ:'(


(k)..น่าสงสาร..น้ำธรรมอันบริสุทธิ์ ใสสะอาดที่เราหยิบยื่นให้เธอดื่ม สามารถมองเห็นถึงก้นบึงก้นบ่อ..เธอกลับไม่ยอมรับ ทำเป็นมองไม่เห็นก้นบ่อ ก้นบึง ไพร่ไปมองจอกแหนบนผิวน้ำแทน..สมเป็นไก่กับพลอยจริงๆ:boo:

 

ตื้นมากจริงๆที่พระพุทธเจ้าท่านแสดงเรื่องการให้ทานไว้นั้นท่ารู้ว่าปัญญาของคนเราไม่เท่ากันคนปัญญาน้อยก็จะวิ่งหาบุญ คนที่ปัญญามากเขาจะละบาป สับสนวิ่งไปเถอะหาบุญยิ่งวิ่งก็ยิ่งเกิด bigtooนั่งอยู่บ้านละบาปสบายไม่ต้องวุ่นวายหาเท่าไรถึงจะเจอ เจอแล้วได้อ่ะไร เพราะเราไม่อยากได้แล้ว เราต้องการสลัดคืน

 

ผมถามตรงๆเถอะที่คุณคิดว่าคนนั้นคนนี้เลวอย่างนั้นอย่างนี้ คุณหาข้อสรุปจริงๆได้หรือเปล่าล่ะ ก็เดาเอาทั้งนั้น. คนที่เขาเชื่อเขาโง่เบาปัญญากันอย่างนั้นหรือ กูเก่งคนเดียวกูรู้คนเดียว ดูตัวเองบ้างทำความดีให้สังคมให้คนสักคนเชื่อในความดีกระทำความดีได้บ้างมั้ย มาประกาศตนว่าตนคิดดีต่อศาสนา คนอื่นเอาผ้าเหลืองมาหาเงินอแอบแฝง. คุณต้องเลิกมองคนอื่นเลวก่อนนะ

 

ทำยังไงถึงลุงแมวจะมอง
ได้องค์รวมแบบนี้บ้างน๊า

เนื้อนาบุญแท้ค่อนข้างหายาก
ตราบใดเท่าที่
สงฆ์ไทยยังต้องขึ้นต่อกรมการศาสนา
ที่ควบคุมโดยคนที่มีศีลกันไม่ครบ 5 ข้อ

 

องค์รวมแบบนี้นี่นะ แบบด่าคนอื่นเขาไปทั่ว. ขนาด อาจารย์สำนักพุทธวจนเขายังด่า เขาทำประโยชน์แก่สังคมยังด่าเลย. ธรรมธาตุนี้ช่างอยู่รวมกันจริงๆ

 

:'( ถึงกล่าวไว้ไงครับ ทำบุญกุศลสมัยนี้ .."ทำยาก"..ต้องใช้ปัญญาขนาดหนัก สังคมปัจจุบันในไทยเป็นสังคม "ความเชื่อนำปัญญา"..มักง่าย
ทำบุญแบบมักง่าย..เอาแต่ตัวเอง ทำแล้วสบายใจกูเป็นที่ตั้ง ..จนติดเป็นนิสสัย ทำต่อๆต่อกัน มาจนเห็นสิ่งที่ผิด-กลายเป็นถูก ไปเลยเพราะความมักง่าย..ไม่ยอมใช้ปัญญานี่แหละครับ ..
:'( ปัจจุบัน ก็ต้องมองด้วยปัญญา ดูประวัติ-วัตร-ศิล อาจไม่เห็นแต่พอเชื่อถือได้ตามสาย วงศ์-โคตร ตัวเราเองต้องปฏิบัติให้บริสุทธิ์ไว้เพื่อมองให้เห็นผู้ที่ไม่บริสุทธิ์..เพราะเราผ่านความบริสุทธิ์ในเรื่องนั้นๆมาแล้ว เรามีมาตราฐานของเราเองที่ดีกว่าที่เราเห็นอยู่ต่อหน้านี้ เราจะแคร์ใครล่ะครับเมือ่ อัตตาหิ อัตตโนนาโถ..
:'( พระห่มเหลืองสมัยนี้หยาบ..ดูง่ายครับสงฆ์สมัยนี้ ขนาดไหน มีเจตนาอย่างไรในการบวช..มองเป็นก็เห็นชัดเจนครับ สับสนมองที่ กาม..ครับ
ใครใช้ความมักง่ายมอง ก็จะเห็นเท่าที่ตนเห็น..วัดดวงเอา ลุงแมว บุญใครบุญมัน ใช้หล่อเลี้ยงเป็นเสบียงเกาะไปก่อน ถึงเวลาเราก็ไม่เอาเองล่ะบุญนะ..อิอิ
เรากล่าวธรรมตามสามารถแล้วในที่เรามีเราทำแล้ว จะผิดจะถูก จะมากจะน้อยท่านจงใคร่ครวญ โยนิโส ไตร่ตรองธรรม แทงตลอดธรรม กันเอาเองเถิด ตัวใครตัวมัน ไม่บาป ไม่กรรม ไม่ตกนรก
..สาธุธรรมของพระพุทธองค์ ต้องสะอาด-สว่าง-สงบ ถามได้ตอบได้ ทุกแง่มุมเพื่อยังความบริสุทธิ์ให้เปรียบเสมือนแสงสว่างไสวดุจดังเดือนเพ็ญขึ้น15ค่ำ เถิด สาธุ

 

:'(พุทธวจน..
วักกลิ..เอย เธอจงไป..เธอจงไป..ให้ห่างๆ..เราตถาคตเถิด.:boo:

 

ดีแล้วบอกให้ดูประวัติ-วัตร-ศิล. คุณดูหรือยังล่ะที่เที่ยวไปว่าเขาตำหนิเขา

 

กล่าวดีนี่

 

(k)โอ..หยุดก่อนพราหม์-พาล เรายังมิได้กล่าวคำดังที่ท่านกล่าวตู่เราเลย เราเพียงจำแนกการปฏิบัติที่ไม่แยบคายของศาสดาท่านเพียงเท่านั้น

..ดูก่อนพราหม์-พาล..ท่านเคยมีแขกมาเยี่ยมบ้านบ้างรึไม่

bigtoo. เคยครับ

ดูก่อนพาล ..ท่านเคยจัดอาหารต้อนรับแขกของท่านบ้างรึไม่ยามที่เขามาเยี่ยมท่าน

bigtoo. ต้องแน่นอนอยู่แล้ว เคยครับ

ดูก่อนพาล..หากแขกท่านไม่กินอาหารที่ท่านยกมาแสดง อาหารนั้นจักตกเป็นของใคร

bigtoo. ก็จักเป็นของเราเอง ซิท่าน

เช่นเดียวกัน พาล..คำกล่าวตู่ คำด่าทอของท่านเราไม่รับ..ย่อมตกแก่ใครล่ะ.
สาธุ:'(

 

พระพุทธเจ้าท่านกล่าวได้ดีแล้วสำหรับคนพาล. ผมไม่เคยด่าท่านเลยเพราะเราไม่ใช่คนพาล มีแต่ชี้แนะ เสนอให้เห็นตามเหตุผล. ย้อนดูได้เลย. อาจจะดูยวนยีบ้างก็เพื่ออรรถรส. เราบ่งบอกถึงการจะกล่าวหาใครโดยเฉพาะคนที่เขาทำความดีแก่สังคม. เพียงแค่ภายนอกที่เขาทำอาจจะดูไม่ตรงกับความคิดเรา. ความคิดเรามันอาจตื้นเกินจะคิดได้ก็เป็นได้. ก่อนอื่นต้องท่านต้องหัดมองคนในแง่ดีก่อน. ถ้าเขาไม่ดีตามที่เราคิดก็ไม่เสียอะไรเลย. แต่ถ้าเขาไม่ได้เลวอย่างที่เราคิด. ท่านจะขาดทุนนะครับเตือนไว้นะ

 

กินบนเรือนขี้รดหลังคา

 

ความเห็นนี้ก็ย้อนแย้งเกินเลย

เลยเถิด เรื่องแค่นิดเดียว ไม่ควรใช้
คำพังเพยที่มีความหมายเนรคุณ เช่นนั้นนะ

 

ให้เจ้าของเขามาตอบเองเถอะคิดอย่างไร. เบื้องหลังความใจก้าง มีอาชญากรรมเพลียบ

 

จขกท. ยังติดตามอยู่มั้ย เห็นทางออกหรือยังครับ :z8

 

(k)โอ..หยุดก่อนพราหม์-พาล เรายังมิได้กล่าวคำดังที่ท่านกล่าวตู่เราเลย เราเพียงจำแนกการปฏิบัติที่ไม่แยบคายของศาสดาท่านเพียงเท่านั้น

..ดูก่อนพราหม์-พาล..ท่านเคยมีแขกมาเยี่ยมบ้านบ้างรึไม่

bigtoo. เคยครับ

ดูก่อนพาล ..ท่านเคยจัดอาหารต้อนรับแขกของท่านบ้างรึไม่ยามที่เขามาเยี่ยมท่าน

bigtoo. ต้องแน่นอนอยู่แล้ว เคยครับ

ดูก่อนพาล..หากแขกท่านไม่กินอาหารที่ท่านยกมาแสดง อาหารนั้นจักตกเป็นของใคร

bigtoo. ก็จักเป็นของเราเอง ซิท่าน

เช่นเดียวกัน พาล..คำกล่าวตู่ คำด่าทอของท่านเราไม่รับ..ย่อมตกแก่ใครล่ะ.
สาธุ:'(

 

คนพาล นะครับลุงแมว อ่านพุทธวจน ..มากเกินไปไม่ปฏิบัติเลยก็กลายพันธ์แบบนี้แหละครับ สาธุ เมตตสรรพสัตว์เถอะ..อิอิ:'(