ร่วมทำบุญบูชา ทิพย์โอสถ"ตัวชุบบุญฤทธิ์"ชุบลาภพระเจ้าเบิกหัตถ์(ฤทธิ์ทางใจเต็มกำลังครู) พ่ออาจารย์พล

ขอจองตะกรุด

-ตะกรุดชินบัญชรบรมจักรพรรดิ์
-ตระกุดคำแหงหนุมานยกดวง
รายละเอียดส่งทาง PM แล้วคัป
-คำหมาก

 

จากข้อความที่คุณกรณ์ได้โพสข้างต้น ผมได้บูชาพระพิชัยมาลากับตะกรุดชินบัญชรเมื่อกลางเดือนมกราคม และได้ทำตามวิธีที่ท่านอาจารย์บอกให้สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนและท่องพระคาถาชินบัญชรด้วย ผมรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงกับชีวิต รู้สึกได้ว่าดีขึ้นทุกอย่าง ความเป็นอยู่ การเงินก็ดีขึ้น เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ก็มีโชคลาภถูกหวย 90 สองตัว 10 คู่ และอีก 5 คู่ เลขท้าย 864 ตรงๆ (แต่ไม่ถูก น่าจะซื้อใต้ดินด้วยนะ อันนี้หวังจะได้เพราะได้เพ่งที่พระธาตุแก้วจักรพัรรดิ์ขอให้มีโชคลาภ) และอีกสองสามวันก็มีพี่สาวของผมมาให้เงินใช้อีก (อันนี้ไม่ได้หวังจะได้แต่ก็ได้) ตอนนี้พอมีโอกาสเลยขอบูชาตะกรุด สิทธิโชค สิทธิลาภ และสิทธิชัย เผื่อจะได้โชคที่ใหญ่ขึ้นบ้างครับ (เอาให้เต็มที่ครับ)

 

ประสบการณ์ตะกรุดแม่ยั่วมีไม่ขาดจริงๆครับ ขอได้ดังใจ กราบบารมีอาจารย์พ่อสาธุ

 

ฝากคำถามนะครับ ทำไมตะกรุดแม่ยั่วเวลาอาราธนาถึงรู้สึกตอดมือตุบๆทุกครั้งแล้วเวลาใส่สวดมนต์รู้สึกว่าเหมือนจะมีกระแสไฟฟ้าออกมาบ่อยๆเป็นคลื่นแม่เหล็กผลักพระองค์อื่นๆในคอตลอดแล้วบางครั้งก็รู้สึกได้ว่าตะกรุดจะกระตุกเหมือนจะกระโดดหรือเต้นเองแบบนี้เป็นเพราะอะไรครับ

 

สาระดีๆ

วันนี้ก็มาพูดคุยกันรอบเช้าเช่นเดิม โดยเรื่องที่จะพูดวันนี้คือเรื่องของธาตุกายสิทธิ์

ซึ่งได้ฟังพ่ออาจารย์ท่านเล่าไว้คร่าวๆว่าครูบาอาจารย์ท่านที่สำเร็จวิชาด้านนี้ก็มี บางท่านก็สำเร็จปรอท แต่วิชาเหล่านี้ถือว่าเป็นอันตรายเพราะครูท่านมักพูดเสมอว่าเล่นแร่แปรธาตุ ผ้าขาดไม่รู้ตัว โดยส่วนตัวพ่ออาจารย์นอกจากวิชาทางมหาเสน่ห์แล้วท่านจะมีความสนใจในเรื่องของโชคลาภโภคทรัพย์มากกว่าสิ่งอื่นๆ

หลายๆคนคงเคยได้ยินเรื่องเหล็กไหลเเละมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งนี้กันมาบ้าง หรือบางท่านก็อาจถือครองบูชาอยู่ ซึ่งเหล็กไหลนั้นท่านกล่าวว่า มันเป็นสายแร่ธรรมชาติที่มีจิตวิญญาณถือครองอยู่นั่นเอง

ในเรื่องของจิตนั้นจะมีหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นเเร่ธาตุต่างๆ แม้แต่ไม้กลายเป็นหิน หรือวัสดุธรรมชาติอื่นๆก็อาจมีจิตวิญญาณเข้าพักอาศัยและถือครองอยู่ เช่นนี้ก็เป็นไปได้เหมือนกันหมดทั้งสิ้น

ซึ่งจิตที่ถือครองอยู่นั้น ดีก็มีร้ายก็มาก กล่าวคือสามารถให้คุณให้โทษแก่ผู้ครอบครองได้ แปลกคนเราเคยมั่งมี ร่ำรวย ไปนำไม้หินมาจัดสวนตกแต่งบ้านวางในทิศที่ไม่เหาะสมจุดที่ไม่สมควร เพียงเท่านี้ก็ทำให้ครอบครัวเกิดเคราะห์ร้ายต่างๆนานา

นี่จึงกล่าวได้ว่า การจะครอบครองของพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย มีเงินก็ซื้อหาได้ ไปเที่ยวไปเจอก็ฉวยก็หยิบกันมาได้ ที่ดีหน่อยก็ยกมือไหว้บอกกล่าว ที่แย่หน่อยก็หยิบมาเสียเฉยๆ โดยลืมคิดไปว่า ใต้ฟ้าทุกสรรพสิ่งนั้น ล้วนตั้งอยู่บนแผ่นดิน ทุกสิ่งคือสมบัติของพระเเม่ธรณี ก่อนจะหยิบจะฉวยมาเก็บรักษาไว้ก็ควรบอกกล่าวท่านบ้าง

ตามที่กล่าวไปธาตุกายสิทธิ์นั้นจะมีดวงจิตถือครอง หรือทิ้งให้กลายเป็นรังร้างไปแล้วก็มี ทีนี้ดวงจิตที่ถือครองนั้นก็แบ่งได้เป็น
1. สัมมาทิฏฐิ
2. มิจฉาทิฏฐิ

ซึ่งส่วนมากคนที่นำไปใช้ไปบูชาจะเเยกไม่ออกเลยว่า จิตภายในนั้นอยู่ในภพภูมิไหนเป็นทิพย์กายที่มีวิสัยอย่างไร

สำหรับคนที่ชอบบูชาธาตุกายสิทธิ์นั้น สิ่งที่ถือว่าตนเองสมควรกระทำอย่างยิ่ง ไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้ คิดเพียงว่าแค่มีเงินพอใจจะซื้อก็ซื้อมาเก็บไว้เท่านั้น

นั่นคือการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ หมั่นสวดมนต์ไหว้พระเจริญภาวนาให้เป็นกิจวัตร ที่กล่าวเช่นนี้เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดวงจิตต่างๆนั้น จะเกิดธรรมาพิศมัย อยากเข้าใกล้อยากอยู่ด้วย ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิก็ได้รับการสวดมนต์ ฟังธรรมจากบทสวดอบรมทุกวันๆ รู้จักพระพุทธเจ้ารู้ข้อธรรมต่างๆ อบรมขัดเกลายกระดับภูมิจิตของท่านเหล่านั้นขึ้นมา นี่มันได้ประโยชน์หลายทางเลยนะ

ไอ้คนอื่นที่ได้นี่เราไม่ต้องไปคิดไปกังวลเลยเพราะมันเป็นเพียงผลพลอยได้ ไอ้คนที่จะได้เยอะมากที่สุดเหนือกว่าใครทั้งหลายนั้นก็คือตัวเราเอง ได้มีเวลาระลึกถึงพระรัตนตรัยนี่เป็นมงคลแก่ชีวิตนะ ดังนั้นคนเราตื่นมาจึงควรสวดมนต์แต่เช้า

เวลาเรานึกถึงพระพุทธเจ้า จิตใจเราอยู่กับพระพุทธเจ้า ทำเช่นนี้ มาดูกันว่าในวันหนึ่งๆใจเราอยู่กับพระหรือห่างพระเพียงไหน ใจเราอยู่กับพระตลอดเวลาหรือไม่ ถ้าจับองค์พระ อยู่กับพระได้มากได้นานเท่าไหร่ ก็ถือได้ว่าประเสริฐแล้ว มาถูกทางเเล้ว ทางเเห่งสวรรค์และมรรคผลนิพพาน ไม่ถือว่าไกลสำหรับคนผู้นั้นเลย

ดวงจิตทีั่อาศัยอยู่ในปริมณฑลก็เช่นกัน เราสวดมนต์เขาก็มาฟังมาดูว่าทำอะไร ทำบ่อยๆเขาก็ขัดเกลาตนเองไปด้วย ในบางที่ถึงกับมาร่วมสวดนี่ได้บุญหนักนะ เปลี่ยนให้ผู้อื่นมาเป็นสัมมาทิฏฐิ เปลี่ยนให้ผู้อื่นมากราบพระพุทธเจ้า ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ได้ประโยชน์หลายต่อเลย

ดังนั้น ใครก็ตามที่มีธาตุกายสิทธิ์ไม่ว่าจะชนิดใดก็ดีบูชาอยู่ ก็หมั่นฝึกฝนตนเองให้ทำสิ่งต่างๆที่ได้อธิบายไปให้ติดตัวเป็นนิสัย ที่เลวร้ายก็จะกลับมาดี ที่ดีอยู่แล้วก็จะเจริญยิ่งๆขึ้นไป ลองทำดูแล้วจะรู้ว่าขาดตกบกพร่องอะไร พวกนี้เค้าก็ช่วยเต็มความสามารถของเค้าเหมือนกัน

 

เป็นเรื่องปกติ เวลาบูชานำไปสวดมนต์ก็จะมีกระเเสตอบรับบางอย่างจากร่างกายสำหรับคนที่ถือไว้สัมผัสไว บางท่านจะมาเป้นอาการการปรับธาตุ ขันธ์ ขับถ่ายของเสียออกมาก็มี อาจจะรู้สึกเพลียร์อยากนอนพักผ่อนก้มีก็เป็นเพียงระยะแรกๆเท่านั้น

แต่ถ้านำมาสวดมนต์ไหว้พระด้วยนี่ถือว่าดีมาก เครื่องรางเเละเครื่องมงคลทั้งหลายจะเชื่อมต่อจะทำให้เราใช้ได้ง่ายขึ้นและไวขึ้น ปฏิกิริยาต่างๆที่มีไม่ต้องไปสนใจ ส่วนตัวผมก็เคยเจอมาหลายครั้ง ก็เหมือนเเสดงออก ให้เรารับรู้ ต้องการจะสื่อถึงเรา พระกะตุกพระกระโดดนี่ก็ไม่ต้องไปคิดอะไร อาจจะมีคนปล่อยคุณปล่อยของลมเพลมพัด สิ่งนี้ท่านกันท่านคุ้มครองให้หมดเเล้ว แต่ถ้าใส่ในคอเเล้วพระกระตุกเวลาจะออกไปไหนก็ควรระงับไว้คิดให้รอบคอบเสียก่อน ส่วนใหญ่การกระตุกนี้จะไม่เกิดขึ้นบ่อยๆเหมือนท่านจะเตือนว่าอย่าทำ อย่าไป งดได้ระงับได้ก็หยุดไว้เสียก่อนอันนี้จะดีมาก

 

โอนค่าบูชาแล้วคัป...รายละเอียดทาง PM คัป

 

สอบถามนิดนึงครับว่า เหรียญเศียรครูองค์พระสยม ที่เทนำฤกษ์ได้รวมกันตก 11 เหรียญ นี่คือเนื้อไหนเหรอครับ

 

1.ตะกรุดพลิกฟ้า ดวงโคตรเศรษฐีมหาคฤหบดี (เมตตาแสนล้าน)
2.ตะกรุดมหากำเนิดเสด็จแม่ยั่วเมือง(วิชาสุระปัดเพ็ญจันทร์)

โอนแล้วครับ

 

อยากรู้เหมือนกันครับ

แล้วเหรียญเศียรครูองค์พระสยม เนื้อธาตุกายสิทธิ์ ถ้าผมจะจองประมาณ กลางเดือน-ถึงปลายเดือนมีนา ท่านจะยังทำให้อยู่มั๊ยครับ ถ้าเดือนนี้คงหมุนไม่ทันครับ

 

-ขอจองพระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์ ผงอิติปิโสกลบทใหญ่ทุกแขนงผสมผงรัตนมาลาเต็มสูตร....

-องค์ครู 1 องค์

 

จองตะกรุดจักรพรรดิ์มาลา 1 ดอก สิ้นเดือนจะโอน
ที่อยู่จัดส่ง นายชัยวัฒน์ วินิจมนตรี 333 ม.6 สหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด จำกัด
ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา 30210

 

ขอจองเหรียญเศียรครูองค์พระสยม เนื้อธาตุกายสิทธิ์ 1 เหรียญครับ

 

โอนแล้วคัป...

 

เหรียญพระสยม

ก็แรงแบบต่อเนื่อง เพราใครได้ไปก็มีประสบการณ์มาเรื่อยๆ เห็นมีประเด็นสงสัยว่าเหรียญเนื้อธาตุกายสิทธิ์นั้นจะอุดว่านยานิลกาฬมั้ย หรือจะโชว์รอยจาร วันนี้จึงนำเหรียญที่มีผู้จองไว้รอจัดส่ง ถ่ายรูปมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

ซึ่งท่านอุดว่านยานิลกาฬให้ในบางส่วน พร้อมทั้งโชว์รอยจารด้วย ก็นำมาให้ดูกัน เพราะผมคิดว่าสวยงามดี

 

โอนเงินเรียบร้อยแล้วครับ

ที่อยู่จัดส่งเดิมครับ

 

ทาน

วันนี้ก็มาพูดคุยกันรอบเช้าเช่นเดิม โดยเรื่องที่จะพูดวันนี้คือเรื่องการให้ทาน

มีผู้บูชาวัตถุมงคลของพ่ออาจารย์มากมาย หลากหลายเรื่องเเละวัตถุประสงค์ต่างกัน ซึ่งเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งที่ดูจะเหมือนกันก็คืออยากรวย ไม่อยากจน ซึ่งบางคนในสายตาผมนั้นท่านรวยมาก ผมก็ไม่เข้าใจพิกัดความรวยของแต่ละคนเหมือนกัน

ก็เลยนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับพ่ออาจารย์ท่านจนได้ข้อสรุปดังต่อไปนี้

" เรามักจะสอนคนอื่นเสมอ ให้รู้จักการทำทาน การให้การแบ่งปัน อยากรวยก็ต้องรู้จักให้ผู้อื่่น บางครั้งมีคนถามเราว่า ผมจะให้คนอื่นได้อย่างไร ในเมื่อตัวผมเองยังไม่มีไม่รวยซักที ผมจะเอาอะไรไปให้เค้า

พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ต้องทำความเข้าใจตรงนี้เสียใหม่ เราเชื่อว่าบางท่านอาจเคยโดนล้างสมองหรือทำให้เข้าใจว่าการให้ทานนั้นต้องบริจาคด้วยเงินทองทรัพย์สิน ยิ่งให้มากเท่าไหร่ยิ่งได้มากเท่านั้น

ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ต้องทำความเข้าใจว่า พระพุทธเจ้าของเราไม่ได้สอนให้ใช้เงินทองทรัพย์สินเพื่อซื้อบุญ เพื่อแลกเศษบุญมาสะสม

พระพุทธเจ้าของเราท่านสอนให้คนทั้งหลายมีน้ำใจ รู้จักการให้ รู้จักเอื้อเเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับผู้รับที่สมควรจะให้ เช่นนี้ย่อมได้บุญเรียกว่าเเค่รู้จักให้ก็ได้บุญแล้ว แต่การให้ ให้ถูกให้ต้องเนื้อนาบุญ เช่นนี้ย่อมได้ประโยชน์มหาศาลกว่าบุญธรรมดาทั่วไป ซึ่งพระพุทธเจ้าของเราท่านสอนนั้นคือการให้ คือทานภายใน เพื่อที่เราจะได้ขัดเกลาจิตใจของตนเอง

มีหลายคนเคยพูดกับเราว่า ก็ผมยังจน ผมจะเอาอะไรไปให้เค้า ซึ่งท่านทั้งหลายเข้าใจผิดไปเสียทั้งหมดทั้งสิ้น การทำทานนั้นไม่จำเป็นเลยที่ต้องใช้จตุปัจจัย ใครก็ทำได้ ใครก็เป็นผู้ให้ได้ทั้งสิ้น

ท่านทั้งหลายเกิดมาเเล้วนั้น มิได้จนเลย หากแต่มีอยู่ แล้วก็มากเสียด้วย พอที่ท่านทั้งหลายจะนำมาใช้นำมาหยิบยื่นให้แก่ผู้อื่น

มาดูกันว่าท่านทั้งหลายนั้นวันนึงจะทำทานได้เช่นใดบ้าง
- เริ่มตั้งแต่สายตาก่อนเลย เวลาใครมองตาเรา เรามองเค้าด้วยสายตาที่อ่อนโยน สายตาที่เป็นมิตรไม่แข็งกร้าว เพียงเท่านี้ผู้ที่สบตาเราเค้าก็ได้ความรู้สึกที่ดีไม่ตะขิดตะขวงใจ เช่นนี้ก็เรียกว่าการให้คือทานเช่นกัน
- ปากของเรา เราพูดแต่เรื่องดีๆ พูดเพื่อให้คนอื่นสบายใจ พูดเพื่อให้เค้าลดละจากกองทุกข์ให้เค้ามีความสุขยามที่เค้าได้พูดกับเรา เช่นนี้ก็เรียกว่าการให้คือทานเช่นกัน
- ใจของเรา ใจของเราคิดแต่เรื่องที่ดี ให้ความรักให้ความปรารถนาดีกับผู้อื่น รู้จักแผ่เมตตาขัดเกลาจิตใจตนเอง เช่นนี้ก็เรียกว่าการให้คือทานเช่นกัน
- ร่างกายของเรา เมื่อเรามีแรง มีโอกาส อยู่ในสถานะที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยเสียเท่าไหร่แม้เเต่การจูงคนข้ามถนน ลุกให้ผู้อื่นนั่งเวลาขึ้นรถ เช่นนี้ก็เรียกว่าการให้คือทานเช่นกัน

ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ทานนั้น ไม่จำเป็นเลย ว่าต้องเป็นคนรวยถึงจะทำได้ คนจนทำไม่ได้ เเล้วจะคิดว่าในเมื่อเราจนเราจะทำทานได้อย่างไร ปรับความเข้าใจเสียใหม่ทั้งหมด เพราะทานนั้นทำได้ในทุกที่ทุกโอกาส ไม่เลือกหรือละเว้น เพราะเป็นสิ่งที่แสดงออกจากภายในจิตใจของเราส่งต่อมาสู่การกระทำนั่นเอง พระพุทธเจ้าของเราท่านเคยสอนเคยตีค่าหรือ ว่าต้องทำทานด้วยเงินเท่าไหร่ถึงจะได้บุญมากเท่านั้น ท่านทั้งหลายจงทำทานจากภายในด้วยการขัดเกลาการให้ทานด้วยสิ่งที่เรามีอยู่ตามนี้ ท่านก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้และกระทำทานเช่นกัน

ขึ้นชื่อว่าการให้ การให้ทั้งหลายย่อมเป็นทานทั้งหมด แต่ต้องให้ในสิ่งที่ดีงามไม่ใช่เรื่องอกุศลนะ มันขึ้นอยู่กับใจเราด้วยเพราะมนุษย์นั้นมีใจเป็นใหญ่มีใจเป็นประธาน ถ้ากำลังใจในการให้ของเราสูงเราตั้งใจที่จะให้ที่จะทำ ทำเพื่อให้ผู้อื่นได้ดี ให้ผู้อื่นมีความสุข เช่นนี้ย่อมได้ผลมาก

ทีนี้ทานนั้นให้ได้ไม่เลือกชั้นวรรณณะ จะคนหรือเดรัจฉานเราก็หยิบยื่นน้ำใจความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นี้แก่เขาได้ แต่คนมักนิยมทำทานเฉพาะกาลเฉพาะโอกาส ไม่นิยมทำตลอดเวลา เช่นนี้คนเหล่านั้นย่อมไม่ได้เข้าถึงทานเอาเสียเลย มักจะโอยทานกันเมื่อยามมีความทุกข์ คิดแต่ว่าทำบุญเสียจะได้เจอเรื่องดีๆ มันจะดีได้อย่างไรก็ในเมื่อข้างในจิตใจเรายังร้อนรุ่มมิได้สงบมิได้ขัดเกลาเลย การให้ทานตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอนนั้น ไม่ใช่การให้เช่นนี้

กล่าวคือชนทั้งหลายนิยมใช้ทรัพย์สมบัติในการทำทาน นึกอยากทำก็ทำไปวัดทำ เพราะถือว่าทำกับพระทำกับเนื้อนาบุญได้บุญมาก แต่ไม่นิยมใช้ร่างกายและจิตใจของตนเองให้เป็นประโยชน์เพื่อทำทานเอาเสียเลย

ทานเช่นนี้ก็ได้รับประโยชน์ด้วยส่วนนึง แต่ไม่ได้รับประโยชน์ยิ่งใหญ่อันใดเลย ท่านทั้งหลายจงพิเคราะห์เเละตรึกตรองดูให้ดี ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอะไร

ก็เพราะว่าท่านทั้งหลายนั้น ไม่ได้ขัดเกลาอบรมด้วยทานจากภายใน ไม่ได้ขัดเกลาจิตใจเพราะไปมุ่งเน้นทานจากภายนอกนั่นเอง

ดังนั้นเราจึงกล่าวได้ว่า ขึ้นชื่อว่ามนุษย์จะยากดีมีจนถ้วนทุกตัวคน ทุกคนย่อมให้ทานได้เสมอกันหมด เพราะทุกคนมีสิ่งนี้เหมือนกัน นั่นคือจิตใจและร่างกาย ทานที่ทุกคนควรจะให้คือความปรารถนาดีเเละใช้ร่างกายทำเรื่องดีๆเพื่อผู้อื่น เช่นนี้เห็นหรือไม่ ใครจะมีทรัพย์สมบัติมากมายซักเพียงใดก็ทำแทนกันไม่ได้ เพราะร่างกายของใครของมันวาระเเละโอกาสก็เป็นของของคนนั้นที่เขาจะทำ

อย่าปล่อยให้โอกาสเหล่านี้พลาดไปเลยท่านทั้งหลาย อันทานนั้นจะประกอบให้ครบองค์สามต้องรักษาศีลและเจริญภาวนาควบคู่กันไปด้วย ถ้าคิดเรื่องเวรกรรมและกฏแห่งกรรมเเล้ว ถ้าคิดตามข้อนี้บุคคลผู้ให้ทาน บุคคลผู้นั้นคือผู้มั่งมีจะได้ต่อยอดเป็นอานิสงค์ส่งเสริมตนเองไปได้ถึงชาติภพหน้า

แล้วจะได้ไม่ต้องกล่าวกับใครอีกว่าเราจน เราไม่สามารถทำทานได้ในทุกวาระเเละโอกาส ทั้งๆที่เราสามารถกระทำได้ในทุกขณะจิต เพราะเรามีเท่ากับที่คนอื่นเขามี "

 

แจ้งยืนยันการโอนเงินพระองค์อินทร์ผงน้ำมันภูติพระเจ้าครับ

โอนเงินเรียบร้อยแล้วครับวันนี้ 26-2-58 เวลาประมาณ 12.30 น. เข้าบัญชี
1.กัญพร แซ่ตั้ง ธ.กสิกรไทย 932-2-11872-1 จำนวน 5001 บาท
2.สมนึก ทิพย์ชัย ธ.กสิกรไทย 932-2-09917-4 จำนวน 101 บาท

รบกวนเช็คยอดเงินโอนด้วยนะครับ

ส่วนเรื่องส่งพัสดุไปรษณีย์ รบกวนคุณคุรุปาละช่วยถามทางไปรษณีย์ให้หน่อยครับว่าจะส่งมาถึงที่บ้านผม(สุโขทัย) ภายในวันอาทิตย์นี้หรือเปล่าครับ เพราะครอบครัวผมจะอยู่ถึงแค่วันอาทิตย์ แล้วก็จะไปต่างประเทศอีก แล้วจะกลับมาอีกทีสิ้นเดือนมีนาคมเลย หากส่งมาไม่ทันคงต้องรบกวนคุณคุรุปาละช่วยเก็บไว้ให้ก่อน แล้วค่อยส่งให้ผมตอนผมกลับมาแล้ว แต่หากส่งมาทันก็รบกวนส่งได้เลยครับ

ขอบคุณมาก ๆ ครับ

*** ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง จะแจ้งทาง PM นะครับ ***

 

สาธุครับอ่านแล้วเข้าใจง่ายดี

 

ตอบคำถาม

วันนี้ก็ตอบคำถามเเบบรวมๆ เพราะมีผู้ถามกันมาเยอะเเละเป็นเรื่องเดียวกันทั้งในเเละนอกเวป นั่นคือจะเริ่มจากบูชาอะไรดี

ในส่วนตัวผมเเล้วคิดว่า ถ้าเริ่มควรเริ่มจากตะกรุดหนุนดวง แต่ก็ต้องดูว่าต้องการเน้นด้านไหน ถ้าถามจากยอดบูชาที่มีมาเกือบทุกวัน ก็จะเป็นรายการตะกรุดหนุนดวงโคตรเศรษฐี ที่มียอดสั่งมากที่สุด เพราะหากจะเเก้อะไรเเล้วควรเริ่มแก้จากพื้นดวงหนุนดวงเสริมดวงตนเองก่อน หลังจากนั้นจึงเลือกบูชาตะกรุดอื่นๆเป็นเรื่องๆไป เพราะดวงก็ถือว่าสำคัญ หากดวงยังแย่อยู่เอาอะไรไปใช้ก็คงไม่ได้รับผลเต็มที่เท่าที่ควร

อันนี้ก็ถือว่าพูดแนะเเนวกันไว้คร่าวๆ คาดว่าน่าจะเข้าใจ เพราะว่าจะได้ไม่หลงประเด็น บางคนก็ใช้ของเงียบใช้ไม่ขึ้น ไปมาหลายวัดมาจบที่พ่ออาจารย์ท่าน และสังเกตุจากคนที่มาบูชาของ จะเริ่มจากการบูชาตะกรุดหนุนดวงประเภทต่างๆเสมอ แต่ภายหลังยอดสั่งจะเป็นตัวโคตรเศรษฐีค่อนข้างมากกว่าชนิดอื่นเฉลี่ยร้อยละ 90 ทีเดียว และเกือบทั้งหมดจะเจาะจงบูชาแบบแผ่นทองแดงไม่เอาตะกั่ว บางคนไปเจออะไรดีๆก็เอาดวงญาติพี่น้องแนะนำมาให้บูชาด้วย คงจะเป็นเพราะดอกเล็กพกง่ายเเละสะดวกไม่หนัก ถึงเป็นเด็กหรือผู้หญิงก็บูชาได้

ก็ถือว่าเเนะนำกันไว้ ก่อนเริ่มบูชาอะไร ควรมีตะกรุดประเภทหนุนดวงชะตาตนเองไว้เป็นสิ่งแรกก่อน ค่อยคิดบูชาอย่างอื่น เพราะว่าจะได้เเก้ได้เสริมตัวของเราเองด้วย ต่อไปใช้อะไรจะได้ส่งผลเเละได้รับผลเต็มที่