ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เล่าต่ออีกนิดซิจ๊ะ อยากฟัง

    เช่นลมมีลักษณะเป็นเช่นไร

    แล้วทำไมจึงรู้ว่าเราบังคับได้

    อิอิ นพการรอฟังอยู่นะ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    กลางฝ่าเท้า และกลางฝ่ามือเปิด เป็นเอกลักษณะปกติของดวงจิต
    ที่มีความสามารถรับรู้ทางด้านสายพลังงานครับ.
    ต่อไปมันจะเปิดได้ทั้งตัวครับ..เป็นลักษณะดวงจิตปกติ
    ที่มาทางสายมหายานเป็นส่วนมาก..และเป็นปกติของดวงจิตที่สามารถ
    สร้างตนเองให้ไปถึงบุญฤิทธิ์ได้...ถ้าฝ่ามือฝ่าเท้าเปิดได้.โดยปกติ
    จักระอื่นๆของร่างกายก็จะเปิดเป็นปกติเช่นกัน..เพียงแต่ต้องรู้จักการ
    จัดการกับเรื่องของพลังงานที่ตนสัมผัสได้..ด้วยการรู้จักถ่ายเทพลังงาน
    เข้าและออก รู้จักการสร้างวงรอบพลังงาน รู้จักการจัดเรียงเส้นสายพลังงาน..
    ถ้าไม่ทำ โอกาสที่จะเกิดพลังงานตกค้างจะสูงมาก เช่น ไฟซ๊อตเวลาไปจับ
    อะไรที่เป็นเหล็ก ปวดศรีษะแบบแน่นๆทานยาแก้ปวดไม่หาย..ตัวร้อนเป็น
    บางจุดบวกกับผิวบริเวณนั่นก็จะตึงๆร่วมด้วย หงุดหงิดง่าย ขี้เกียจ ทำให้
    สามารถนอนได้ทั้งวันครับ...

    และที่สำคัญหากไม่มีการถ่ายเทเรื่องพลังงานให้เป็นปกติแล้วโอกาสที่จะ
    เป็นโรคร้ายแรงสูงมาก เนื่องจากพลังงานส่วนเกินตกค้างนี่หละครับ..
    ยิ่งทางทิเบตส่วนมากจะอายุไม่เกิน ๔๕ ก็จะพากันตายหมด..
    ไม่ว่าจะมะเร็ง เบาหวาน โรคพุ่มพวง จะมีโอกาสเป็นได้หมด..
    เคยเห็นคนที่ กระดูกตรงหัวแม่มือ แม่เท้าโตไหมครับ
    ในพวกที่เป็นร่างทรงนั้นหละครับ เพราะว่ามีพลังงานจาก
    ภายนอกเข้ามาควบคุมตนเองแต่ว่าตนไม่รู้จักการถ่ายเทพลังงาน
    ส่วนเกินนั่นเองครับ...

    เพราะฉนั้นพวกที่มาสายพลังงานจึงเปลี่ยนมาเป็นการนำพลังงาน
    ที่ได้พวกนี้แปรมาเป็นการสงเคราะห์หรือการโปรดดวงจิตดวงวิญญาน
    แทน..แต่นั่นหมายความว่า ตัวจิตจะต้องว่างให้ได้ก่อนถึงจะทำได้ครับ
    จิตแบบนี้จะรับรู้ในเรื่องของพลังงานร้อนและเย็น หรือพลังงานภายนอก
    ต่างๆได้ดี..ซึ่งมันดูคล้ายๆว่า พลังงานที่รับรู้ได้เหมือนๆพลังงานกสิณ
    แต่เป็นพลังงานคนละรูปแบบกันครับ..มันได้ในเรื่องของการถ่ายเทพลังงาน
    ด้วยการดึง และอัดพลังงาน เป็นการส่งถ่ายพลังงาน ในบางครั้งจึงสามารถ
    ใช้รักษาโรคบางโรคได้ หากว่าทำบ่อยๆ แต่ต้องควบคู่กับการถ่ายเทพลังงาน
    ส่วนเกินออกในขณะรักษาร่วมด้วย..ส่วนพลังงานจากกสิณแม้ว่า ฝ่ามือฝ่าเท้า
    เราจะเปิด ทำให้เราสัมผัสพลังงานกสิณได้ทั้ง ๑๐ กองก็ตาม แต่จะสามารถ
    ใช้ได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง..เพราะยังไงๆ ถ้าหากว่าจะใช้ได้ ก็ต้องมาฝึก
    จนกระทั่งตัวจิตเกิดกำลังจิตในระดับเพียงพอที่จะใช้ได้ครับ..

    คนที่มาสายพลังงานดูไม่ยาก หากสามารถตรวจสอบได้ จะมีกระแสเป็นเส้น
    พลังงานวิ่งจากต่ำกว่าก้น วิ่งขึ้นตามแนวกระดูกสันหลัง วิ่งขึ้นไปออกที่กระโหลก
    ศรีษะส่วนกลาง..และถ้ามีกระแสเกี่ยวกับความสามารถทางจิตภายในก็จะมี
    กระแสวิ่งขึ้นทางด้านหน้าผ่ากลางลำตัววิ่งขึ้นไปกระโหลกศรีษะส่วนหน้า..
    ใครมีทั้งสองกระแสก็จะมีทั้งสองกระแสวิ่งไปรวมกันบริเวณนี้ได้ เป็นปกติ
    แต่โดยมากแล้วทั่วๆไป กระแสมันจะยังขาดๆเกินๆ...กระแสความสามารถ
    มักจะขาดๆเกินๆเนื่องจากมีกระแสความคิดมาคอยดึง..ให้ขาดช่วงบริเวณ
    ใต้กระโหลกส่วนหน้า...ส่วนกระแสพลังงานมักจะขาดช่วงบริเวณต้นคอ
    แล้วถูดดึงลงมาที่ตัวจิต..เนื่องจากมักไปติดในเรื่องสัมผัส..ถ้าจะทำสอง
    กระแสนี้ให้นิ่ง ตัวจิตต้องมีความเคารพในพระรัตนตรัย ทำอะไรอยู่ภายใต้
    ครูบาร์อาจารย์เสมอ ส่วนกระแสพลังงานก็ต้องรู้จักการจัดเรียงเส้นสาย
    พลังงานให้เป็นระเบียบ รู้จักการสร้างวงรอบพลังงานประมาณนี้ครับ...

    อ่อออออ...จิตทำงานได้เมื่อเห็นเส้นสาย หรือ เห็นแสง ส่วนมากเด็กๆเยาชน
    มันจะเห็นได้ทั้งเส้นสายและเห็นแสงพร้อมกัน หรือผู้ใหญ่บางท่าน
    ก็เห็นได้ทั้งสองอย่าง....อย่างกรณีที่มีคนเล่าว่าบังคับลมหมุนได้นั้น
    ก็เพราะว่าตัวจิตมันเริ่มทำงาน เป็นการเริ่มทำงานในกรณีที่เราเรียกว่า
    เห็นเส้นสายครับ. สายตามันจะสามารถมองเห็นอากาศได้ เป็นแบบ
    พลาสติตใสๆหน่อย แม้ว่าจะดูไม่เรียบ แต่ก็ไม่รอยยับ..และการใช้
    มือบังคับ ให้อากาศมันหมุนได้ เป็นพื้นฐานของตัวจิตที่เริ่มทำงาน
    แบบเห็นเส้นสาย ถ้ามีความชำนาญ จะใช้หน้าฝากบังคับได้
    และก็จะหมุนได้ทั้งซ้ายและขวา แต่สังเกตุได้ ทำได้แรกๆจะหมุน
    ขวาได้ก่อน เพราะมันง่ายเนื่องจากมันหมุนเข้าหาแนวกระแสคลื่น
    แม่เหล็กที่มีมากทางด้านหลังขวาของร่างกายเราครับ..
    ถ้าหมุนซ้ายและทำให้มันเล็กลงจะยากหน่อยครับ..ต้องฝึกสร้างกำลัง
    จิตในโหมดที่เราจะต้องปั่นปฏิภาคนิมิตร กรรมฐานที่เกี่ยวกับภาพ
    ให้ได้ก่อนครับ...

    และที่การหมุนได้ เห็นได้นี้ ไม่ได้ใช้กำลังสมาธิในระดับสูงครับ
    เป็นเพียงสมาธิระดับเล็กน้อย เพียงแต่ว่าตัวจิตมันทำงาน คนที่ทำ
    แบบนี้ได้ก็จะทำได้ในสภาวะลืมตาปกติๆทั่วๆไปนี่หละครับ..
    แต่จำเอาไว้ว่า มันเป็นเพียงแค่การทำให้เราฝึกทำได้ เข้าถึงได้..
    ไม่ใช่การสร้างกำลังจิตนะครับ..สังเกตุได้ว่า แม้ว่าเราจะทำได้บ่อย
    แต่จิตเราก็ไม่ได้มีกำลังจิต.ที่จะใช้ในเรื่องพลังงานที่จะนำไปใช้
    จริงๆหรือทำให้คนอื่นๆสัมผัสได้รับรู้ได้เหมือนอย่างที่เราเห็นครับ..
    เพราะฉนั้นอาจดูเป็นเรื่องแปลกๆ..หากไม่เคยสัมผัส หรือเจอมาก่อน
    แต่ในทางปฏิบัติก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาครับ..ไม่มีอะไรครับ ขำๆ..

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ..มีทริคนิดหน่อยจะเล่าให้ฟังครับ..
    ถ้าจะถึงโหมดที่จะนำพลังงาน
    กสิณกองต่างๆจนเรียกขึ้นมาใช้ได้ให้มีประโยชน์จริงๆ.
    .จำเอาไว้ว่าต้องไม่สนทุกๆการรับรู้
    ไม่สนใจทุกๆเครื่องรู้พิเศษ ไม่สนใจทุกๆสัมผัสพิเศษ
    ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม และไม่ว่าจะ
    ทางตา หู จมูกลิ้น กาย ใจและจิต..ตั้งเป้าไว้อย่างเดียวว่า
    จะต้องปั่นนิมิตรที่มันมีความสว่างขึ้นมาในตัวเองให้ได้ก่อนครับ
    ในเบื้องต้น และมีเป้าหมายไว้ว่าเพื่อนำพลังงานที่ได้มาใช้
    ให้เกิดประโยชน์ในทางธรรมเท่านั้น ถึงจะได้รับการสนับสนุน
    จากภพภูมิมีชื่อทั้งหลาย ที่จะเข้ามาสอนมาแนะเทคนิคให้เราได้ครับ
    ไม่งั้นก็จะกลายเป็นเพียงแค่เรื่องเอาไว้เล่าให้ฟังเพื่อความบันเทิง
    และนานถึงมากมาก เผลอชาตินี้ทั้งชาติก็ใช้งานไม่ได้ครับ..

    ประมาณนี้หละครับ..
     
  3. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ไม่ได้ล้อจริงๆซะหน่อย แค่ล้อเล่น
    ขออภัยด้วยหาก จขกท ไม่พอใจ
    จะมองว่าเป็นประสบการณ์คนละอย่างก็ได้ ทางจิต กับ ทางวิทยาศาสตร์
    ยิ่งสมัยนี้อากาศร้อนๆ บรรยากาศร้อนขึ้น บางช่วงบาง ฤดูนานๆทีถึงจะมีลม

    ปล.บางคนฝึกกสิณลมยังใช้พัดลมเลย ได้ความรู้สึกถึงลมตลอดด้วย
    ไหนกว่าจะไปนั่งมองต้นไม้ใบ้ไม้ปลิว
     
  4. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    งั้นเป็นไปได้มัยครับ ที่เลือดกำเดาผมไหลบ่อยๆ เพราะมันร้อนจนระเบิดออกมา ผมเป็นแต่เด็กละ ไปหาหมอหมอบอกแค่ว่า เส้นเลือดฝอยเปราะ โดยเฉพาะเวลาร้อนๆข้างในจะมีโอกาสไหลง่าย แต่วัดอุณหภูมิ ก้อปกติ แต่ทำไม เรารู้สึกร้อนมาาาก ใครแตะตัวผมนี้ จะบอกว่าไม่สบายเลยละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2015
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ของน้อง ธาตุไฟเยอะอยู่แล้วครับ..แค่หงายฝ่ามือขึ้นปกติก็สัมผัส
    พลังงานได้อยู่แล้วไม่สังเกตุตัวเองหรือ..ที่ท่านบอกให้ฝึกน้ำนะถูก
    แล้วครับ.ธาตุไฟแทรกนะคือ ตัวดวงจิตมันจะรับความร้อนไม่ไหวครับ..
    ขนาดยังไม่ได้ใช้งานแบบเปรี้ยงๆจริงๆยังขนาดนี้ เอาคนที่ใช้งาน
    เพียวกสิณไฟได้ เค้ายังต้องใช้เวลาดับความร้อน ๓ ถึง ๗ วันเลย.
    ร้อนที่ดวงจิตนะ มันจะไม่เหมือนร้อนที่ร่างกาย ซึ่งมันจะร้อนมากๆ
    .และปกติปลูกต้นไม้อะไรก็ตายหมด ๕๕๕...

    ถ้าเราเป็นอย่างนี้ ต้องพยายามไปยื่นเท้าเปล่า เหยียบหญ้า
    หรือดินบ่อยๆนะครับ..แล้วสบัดมือออกทั้งสองข้าง อฐิษฐาน
    ว่าขอให้พลังงานส่วนเกินจงออกจากร่างกายข้าพเจ้า..ร่างกาย
    มันถึงจะกลับคืนสภาวะปกติได้ อาการตัวร้อนๆบางจุด หรือศรีษะ
    ตึงๆก็จะดีขึ้น สังเกตุความเปลี่ยนแปลงในขณะที่ยืนเหยียบหญ้า
    หรือยืนเหยียบดินด้วยเท้าเปล่าด้วยตัวเองดูได้ครับ..
     
  6. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    ใช่ๆครับผมชอบ ยืนเหยียบดินเท้าเปล่า ตอนเด็กจะชอบคลุกกะดินร่วนซุย ชื้นๆเย็นๆ มันเหมือนดูดความร้อนออกจากตัวเรา แต่แปลกทำไมพออยู่ในน้ำมันกลับไม่รู้สึกว่าความร้อนโดนดูดออกจากตัวเลย แต่กลับดินนี้รู้สึกได้ชัดเจนเลย?? ตรงกันข้ามพอขึ้นจากน้ำความร้อนในตัวกลับเพิ่มเป้น 2 เท่า พออธิบายได้มัยครับ คุณnopphakan
     
  7. Idarine

    Idarine Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +69
    ตอนแรกก้อไม่ได้คิดอะไรค่ะ นั่งรอโรงเรียนเลิก พอดีเห็นว่ามีพายุหมุนตรงสนามฟุตบอลพัดเอื่อยๆไม่คอยแรงเท่าไหร่ พาใบไม้ปลิวว่อนอยู่ ใจมันนึกอย่างไรไม่รู้ลองกำหนดว่าจงแรงขึ้นดู พร้อมกับกำมือข้างขวาแน่นขึ้นเรื่อยๆมันแรงขึ้นจริง ทีนี้อยากรู้ว่าคิดไปเองหรือปล่าว เลยลองคลายแล้วกำอีกรอบหลายๆครั้งดูอาการพัดปลิวของเศษดินเศาหญ้าไปด้วย ปรากฏว่ามันสอดคล้องกับจังหวะที่ตั้งสติไว้ที่มือด้วย คิดได้ว่ามันจะบังเอิญอะไรอย่างนั้น เลยปล่อยลมให้เป็นไปตามธรรชาติค่ะ ค่อยๆคลายมือออก ลมค่อยๆสงบลง

    เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่คิดว่าคงมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ แต่หลังจากนั้นก้อไม่ได้สนใจต่อยอดเลยค่ะ
     
  8. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    จารุร้อนมาก ไม่รู้ทำไม ปวดหน่วงๆ กลางหน้าผาก

    เลยไม่ได้ไปเรียนวันนี้ กลัวขับรถหลับในค่ะ

    ดึกๆ จะมาเขียนนิทานต่อนะคะ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ที่ชอบก็เพราะตัวจิตเดิมมันรู้วิธีการผ่อนคลายตัวมันเอง.
    แต่ว่าเราเป็นเด็กๆตอนนั้นเรายังไม่รู้เรื่องหรอกว่ามันเป็น
    ความสามารถหรือเทคนิคอะไรหรือเป็นเครื่องรู้พิเศษอะไร..
    รู้แต่ว่าชอบอย่างนั้นอย่างนี้แบบไม่ต้องมีใครบอก.และบางอย่าง
    ก็ทำได้ดีกว่าคนปกติทั่วไปด้วย..
    เค้าเรียกสัญญาความจำได้เดิมในดวงจิตที่มันได้เคยทำมานั่นเอง...
    บางคนเค้าก็เรียกว่าของเก่านั่นหละ..
    แต่อย่างว่าพอเริ่มเป็นหนุ่มมันก็หายไป ๕๕๕..เรื่องปกติ..

    ธาตุดินหนุนธาตุน้ำ ธาตุไฟหนุนธาตุลม พอคุ้นๆไหมเอ่ย..
    น้ำแทรกไปได้ทุกที่ไม่ว่าจะดิน จะไฟ หรือลม ในไม้
    แข็งก็ได้ อ่อนก็ได้ เพราะฉนั้นให้แช่ทั้งวันคงไม่ได้ดูด
    พลังงานอะไร มีแต่จะหนาวกับผิวหนังเหี่ยว ๕๕๕๕..
    และการหนุนส่งกันนั้นทำให้เกิดผลแตกต่างกันไป..
    ดินมีคุณสมบัติอีกอย่างคือเรื่องการปรับธาตุ.
    และสังเกตุดีๆร่างกายเราจะมีสัดส่วนธาตุดินมากที่สุด..
    พอคิดออกไหมว่าใครเป็นผู้ดูแลพื้นดิน(ไม่ต้องเขียนนะ)

    ...คนสมัยก่อนที่เดินเท้าเปล่าเค้าถึงอายุยืนและไม่เป็นฝ้าที่หน้านั่นหละ..
    ไม่เหมือนคนเมืองที่อยู่กับตึก อยู่กับคอนกรีต จะตายไว
    เครียด หน้าขึ้นฝ้า ปวดศรีษะง่าย ขี้ร้อน.ฯลฯ

    เนี่ยเห็นบ้าน แม่นางธาตุดิน แล้วยังแอบอิจฉาว่ามี
    พื้นหญ้าเยอะจัง ได้เดินเท้าเปล่าบ่อยๆสุขภาพจะดี.
    แต่ก็ระวังตอนฝนตกด้วยนะ เรื่องโรคฉี่หนู..
    ส่วนของกิริยาทางจิต แบบคุณ Idarine
    เล่าให้ฟังอีกรอบเผื่อยังไม่ได้อ่านข้อความก่อนหน้านี้
    กำลังสมาธิที่ทำได้ยังไม่ถึงระดับปฐมฌานนะครับ
    เพียงแต่ว่าจิตมันทำงานได้..การต่อยอดก็คือ

    ไปทางวิชาเดินธาตุแบบในดง(ตั้งธาตุเดียวกลางอากาศ
    แบบคุณใช้มือบังคมลมได้นั่นหละแต่ต้อง
    บังคับด้วยจุดเหนือระหว่างคิ้ว)
    เดินธาตุโบราณ( ตั้ง ๔ ธาตุ
    คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้ลอยกลางอากาศแล้วปั่นรวมกันบังคับ
    จากหน้าอก)

    และเดินธาตุแบบสายสังฆราชมีชื่อ (ตั้ง ๑๒ ธาตุให้ลอยกลางอากาศ
    จะรวมกสิณสีด้วยอีก ๔ กอง.ความจริงตั้งแค่ ๑๐ ก็พอเพราะอากาศ
    กับลมมันจะมาเองและบังคับจากจุดเหนือสะดือขึ้นมา ๒ นิ้ว)

    และที่ต้องตั้งอย่างนี้ และกำหนดในการบังคับแบบนี้ก็เพราะว่า
    ไอ้กองกสิณที่เราตั้งไว้มันถึงจะหมุนมารวมตัวกันได้
    และเป็นท่อตรงและดึงเข้ามาที่ตัวเราได้..
    ไม่งั้นมันจะขยายเป็นวงกว้างตั้งแต่จุดบนร่างกาย
    ที่เราบังคับ.มันจะทำให้เราต่อยอดไม่ได้นั่นเองครับ
    และทั้งหมดทุกสายที่กล่าวมานี้
    ต้องมันรวมกันจนมันเหลือขนาดเท่าเข็มหมุดแล้วดึง
    เข้ามายังจุดที่เราเริ่มบังคับมันได้ ถึงจะเข้าสู่ระดับปฐมฌานครับ...
    เพราะฉนั้น..มันจึงเป็นเรื่องที่ธรรมดามากๆครับ ไม่ต้องห่วงว่า
    ใครจะว่าเรานะครับ.ถ้าใครว่า เด่วให้ แม่นางธาตุดิน ไปส้อยเลย ๕๕๕..

    ปล.ประมาณนี้หละ
    .
     
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    มีพาดพิงนะท่านนพ เรียกชื่อต้นซะเลย พาดพิงขนาดนี้ มีสนิทสนมนะ ตีเนียนค่ะ
    อ่านข้อความท่านนพทีไร มีจิก มีแทะทุกที ว่าจะไม่พูดแล้วนะ
    บอกแล้วอย่าหัวเราะเสียงดัง สะดุ้งทุกที

    ป.ล.เขียนไรย้าก ยาก ง้ง งง

    แต่ก็ขอบคุณมากค่ะ

    ป.ล. สอยไม่ใช่ส้อย โอเคนะ

    อิอิ

    ขำๆน่ะ

    ป.ล.สงสัยมาก ทำไมอ่านข้อความท่านนพทีไร ร้อนทุกทีเลย คุณชายธาตุไฟ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2015
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    โทษนะหัวเราะดังไปหน่อยหนึ่ง..แต่มันขำจริงๆ..๕๕๕
     
  12. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ไม่ใช่ดังไปหน่อยนึงแล้ว ดังมาก หูอื้อเลย

    หน้าตาก็ดี หัวเราะที หมดกัน

    ๕๕๕ ขำอ่ะ
     
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ณ ถ้ำคูหาเมืองบังบด

    ผ่านไปเจ็ดราตรี

    ลูกพ่อ จงตื่นขึ้น
     
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ค่อยๆตื่นขึ้น
    จิตหลุดจากภวังค์

    แล้วน้ำที่แช่อยู่ก็รู้สึกเย็นยะเยียบอย่างรวดเร็ว
    ร่างกายสิงห์รู้สึกหนาวสั่น ราวกับเป็นไข้
    เหมือนความร้อนทั้งร่างกายจะโดนน้ำดูดไปทั้งหมด
     
  15. สีธรรมราช

    สีธรรมราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +154
    อยากฝึกบ้างต้องทำแบบไหนครับ
     
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เจ้าจงก้าวออกมาจาก อ่างน้ำนั้น

    สิงห์นั้นเหมือนไร้เรี่ยวแรง แขนขาอ่อนเปลี้ย
    รู้สึกราวกับดวงตาหรี่ลงได้เอง ราวกับจะหลับพับไปกลางอากาศ

    ลูกเอ๋ย ธาตุขันธ์ ของลูกคงรับไม่ไหว
    พ่อนั้นจำต้องเคี่ยวเข็ญเจ้า

    เวลาของพ่อเหลือน้อยเต็มที

    สิงห์นั้นแม้จะแทบแบกสังขารไม่ไหว
    แต่ก็สะดุดหูกับคำพูดขรัวอินทร์มาก

    หมายว่าอย่างไรขอรับ

    ขรัวอินทร์ยิ้มอย่างเมตตา

    จงนอนลงเสีย ลูกรัก

    พ่อจักปรับธาตุให้ลูกเอง
     
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ถามคุณนพการค่ะ แล้วแต่ความเมตตา PM ส่วนตัวกันเองนะ

    คุณนพ เค้าเป็น คุณชายธาตุไฟ
     
  18. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์นั้นนอนลงไปหน้าหินก้อนที่ขรัวอินทร์นั่งขัดสมาธิอยู่

    อ้าปากซิลูก

    สิงห์อ้าปาก ตามองไปที่เพดานถ้ำ

    ทันใดสายตาก็พบกลับสิ่งแปลกตา

    เหล็กไหลที่อยู่ที่ผนังถ้ำด้านหนึ่ง เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว

    และไหลย้อยลงมา สิงห์เหลือบตามองที่ขรัวอินทร์

    เห็นท่านพยักหน้า

    ก็เลยอ้าปากค้างไว้อย่างนั้น

    แล้วเหล็กไหลก็ย้อยลงสู่ปากสิงห์
     
  19. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    พลันรู้สึก ราวกับหายใจไม่ออก สิงห์สะดุ้งสุดตัว

    ร่างกายราวกลับเย็นเป็นน้ำแข็ง

    แล้วรู้สึกร้อนจากปลายลำคอลงไปตามเส้นเลือด และไปตามส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย

    เป็นความร้อนราวกับเส้นเลือดจะระเบิด

    แต่หลังจากนั้น ร่างกายราวกับมีพลัง

    ความเจ็บปวด เหนื่อยล้า ก็หายไป

    รู้สึกกระปรี้กะเปร่า

    ขรัวอินทร์ว่า จงนอนเสีย แม้ไม่หลับ

    ก็จงภาวนา เตโช กสิณัง
     
  20. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    วันนี้วันพระ ไปนอนก่อนนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่มาดูแล
     

แชร์หน้านี้

Loading...