ร้านพระกรรมฐาน พ่อแม่ครูอาจารย์ แท้ทุกรายการครับ

จอง 435องค์ที่ 2
436องค์ที่ 3

โอนแล้ว 1050.00 บาท ส่ง PM ครับ
ได้รับ รียบร้อยแล้ว ขอบคุณมากครับ

 

โอนให้แล้วครับ 1,250 บาท.
ที่อยู่ที่จัดส่ง<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
นายภูวเดช ชุดาพรวรยศ ( 089-6966788 )<o></o>
9/653 หมู่ 5 ถ.เทพารักษ์ ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10280<o></o>

 

ได้รับพระแล้วครับ

 

ที่ขอรับไว้ 3 องค์และได้โอนเงินไปแล้วพร้อมกันทั้ง 3 องค์
1เหรียญหลวงปู่ขาว ( ได้รับแล้ววันนีั้ )
2.รูปหล่อหลวงปู่ท่อน ( ได้รับแล้ววันนี้ )
3.เหรียญรุ่น 4 หลวงปู่จันทร์ องค์ในภาพนี้ครับ ยังไม่ได้รับเพราะในซองพัสดุมีแค่ 2 องค์เท่านั้น ช่วยตรวจสอบให้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ

 

ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ตอบช้า และส่งพระช้านะครับ พอดีพึ่งไปเที่ยวภูกระดึงพึ่งจะกลับมาครับ และรายการของท่านที่จองไว้นั้น ผมยังไม่ได้ส่งให้สักองค์เลยนะครับ เหรียญหลวงปู่ขาว และ รูปหล่อหลวงปู่ท่อน ไม่ใช่รายการของผมครับ
รายการที่ท่านจองกับผม มี 3 รายการคือ
1. เหรียญหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต รุ่นแรก ปี 2517
2. เหรียญหลวงปู่มั่น ทัตโต รุ่น เมตตามหาลาภ
3. เหรียญรุ่น 4 หลวงปู่จันทร์ศรี องค์ในภาพนั้นแหละครับ

ผมจะจัดส่งพระทั้งสามองค์นี้ให้ท่านพร้อมกันในเช้าวันพรุ่งนี้นะครับ ขอบพระคุณครับ

 

457. พระผงหลวงปู่ทวด รุ่น โพธิญาณ มหามงคล ๙ พิมพ์ใหญ่
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ (พระธรรมวิสุทธิมงคล)
วัดป่าบ้านตาด อธิษฐานจิต

เป็นที่รู้กันดีว่าองค์หลวงตามหาบัว ท่านเข้มงวดและไม่ค่อยสนับสนุนในเรื่องวัตถุมงคลเท่าไหร่นัก

มีเรื่องเล่าว่า แม้แต่องค์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ขณะที่ท่านแจกวัตถุมงคลแก่ญาติโยมในงานบุญแห่งหนึ่งพอเห็น หลวงตามหาบัว เดินขึ้นศาลาวัดมา ท่านยังต้องหยุดแจกทันทีด้วยความเกรงใจ

องค์หลวงตามหาบัวท่านไม่เคยจัดสร้างหรือสั่งให้สร้างวัตถุมงคลด้วยตัวท่านเอง ด้วยความเมตตาของท่านก็ได้มีการผ่อนผันบ้าง โดยดูเจตนาของผู้ที่จัดสร้างเป็นหลัก วัตถุมงคลของท่านจึงมีออกมามากมายหลายรุ่น โดยเฉพาะในช่วง ตั้งแต่ ปี ๒๕๔๖ เป็นต้นมาถึงปัจจุบันนี้

วัตถุมงคลของท่านเท่า ที่มีผู้บันทึกใว้พอแบ่งได้เป็น 3ประเภทหลักๆ คือ
ประเภทที่1. สร้างและนำเข้าพิธีปลุกเสกหมู่โดยมีองค์หลวงตาท่านอยู่ในพิธีด้วยเช่นงานผ้าป่าช่วยชาติ งานบุญประทายข้าวเปลือก งานมอบทองคำวาระต่างๆ งานวันเกิด งานเปิดสามแดนโลกธาตุ เป็นต้น
ประเภทที่2. สร้างโดยศิษย์คนสำคัญ นำเข้าพิธีทุกพิธีเป็นปีๆ และนำพระไปไว้ที่กุฎิท่านนานเป็นเดือนๆ จึงนำมาแจกกัน แต่ก็มีไม่มากเท่าที่ทราบตอนนี้ส่วนมากไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก ต้องไปรับจากครูบาอาจารย์โดยตรงมากกว่า และจะแจกเป็นรายบุคคลไป เท่านั้น
ประเภทที่3. ผ่านการอธิฐานจิต จากท่านโดยตรง ประเภทนี้หายากสุดๆ ใครมีก็เงียบ ไปค่อยบอกกัน
นอกจากนี้ก็มีตามโอกาสที่ท่านได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกในงานสำคัญตามวาระต่างๆ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่ารุ่นไหนก็มีความศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้นถ้านำมาบูชาด้วยใจที่ศรัทธา ก็ศักดิ์สิทธิ์ด้วยบารมีของท่านครับ

หลวงปู่ทวดรุ่นโพธิญาณ รุ่น “มหามงคล ๙” พิมพ์กลีบบัวใหญ่

จัดสร้างโดยหลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ผ่านการเมตตาจากองค์หลวงตามหาบัวถึง ๒ ครั้งด้วยกัน เนื่องจากว่าในขณะที่หลวงตายังแข็งแรงดีอยู่นั้น ท่านได้ไปเยี่ยมหลวงปู่บุญเพ็งบ่อยๆ ซึ่งในขณะนั้นได้มีการหล่อพระพุทธชินราชพระประธานวัดป่ากู่ทอง และมีการก่อสร้างปรับปรุงเสนาสนะและสร้างเจดีย์ในวัดป่าวิเวกธรรม จึงเป็นโอกาสอันดีที่หลวงปู่บุญเพ็งได้กราบอาราธนานิมนต์หลวงตาได้ช่วยแผ่เมตตาให้แน่นอนว่าดีมากๆครับ เพราะตอนที่หลวงตาได้กราบพระ(ตามรูป) 3 ครั้งแล้ว ท่านได้กล่าวกับหลวงปู่บุญเพ็งว่า " ที่เรากราบสามครั้งนี้กระเทือนถึงสามแดนโลกธาตุ..."

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/rY87" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/271/25ZRL.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWiA3qDL6wbRKT" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/615/f62l4v.jpg" /></a>

ครั้งแรก วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๒(วันเข้าพรรษา)
ครั้งที่สอง วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๒ (วันที่ ๙ เดือน ๙ ปี ๙๙ )
สร้างจากผงพุทธคุณหลายอย่างเกศาพ่อแม่ครูอาจารย์ โรยผงเพชรหน้าทั่ง ฝังแผ่นโค๊ตด้านหลัง


ราคา 650 บาท

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWha8HvqJo09iW" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/605/6NIs3i.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWf2gBNUhsnQWK" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/38e/IkoBQr.jpg" /></a>

 

458. เหรียญหลวงปู่ชอบ ฐานสโม รุ่นบารมี 94 วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย ปี 2538 บล็อกกองกษาปณ์ สวยคมชัด พร้อมเลี่ยม

"เหรียญรุ่นนี้ หลายๆท่านเข้าใจว่าหลวงปู่ชอบ ไม่ได้ปลุกเสก" แต่ที่จริงแล้ว ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ เพราะเหรียญนี้ปั้มเสร็จก่อนที่ท่าน มรณภาพ (8 ม.ค.2538 ) ครับ คือ ปั๊มเสร็จเมื่อเดือน ธันวาคม ปี2537 และให้ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ ในเดือน ธันวาคม 2537 (และเก็บพระไว้ที่วัดก่อน) แต่หลังเหรียญเขียนว่า 12 ก.พ. 2538 (วันเกิดหลวงปู่ชอบ) เพราะตั้งใจจะแจกในงาน ครบรอบ 94 ปี หลวงปู่ชอบ แต่ท่านละสังขาร ก่อนใน วันที่ 8 ม.ค. 2538 ครับ

ดังนั้นเหรียญนี้จึงเป็นเหรียญที่หลายๆคนมองข้าม แต่ในพื้นที่รู้กันดีครับ จึงเล่นหาเก็บกันอยู่ เพราะเหรียญหลวงปู่สวยมาก และเหมือนหลวงปู่ชอบ องค์ต้นแบบครับ ที่สำคัญหลวงปู่ชอบ เมตตาอธิษฐานจิตให้ ศักดิ์สิทธิ์จริงๆครับ และมีประสบการณ์ หนุนดวง ดีทุกราศี

ราคา 450 บาท ท่าน tit srion


<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWf2gBNWCLS3sz" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/145/sQGygd.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWgsbkWecsA6fv" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/56f/cMiHo8.jpg" /></a>

 

459. เหรียญหลวงปู่ชอบ ฐานสโม รุ่นบารมี 94 วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย ปี 2538 บล็อกกองกษาปณ์ สวยคมชัด

"เหรียญรุ่นนี้ หลายๆท่านเข้าใจว่าหลวงปู่ชอบ ไม่ได้ปลุกเสก" แต่ที่จริงแล้ว ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ เพราะเหรียญนี้ปั้มเสร็จก่อนที่ท่าน มรณภาพ (8 ม.ค.2538 ) ครับ คือ ปั๊มเสร็จเมื่อเดือน ธันวาคม ปี2537 และให้ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ ในเดือน ธันวาคม 2537 (และเก็บพระไว้ที่วัดก่อน) แต่หลังเหรียญเขียนว่า 12 ก.พ. 2538 (วันเกิดหลวงปู่ชอบ) เพราะตั้งใจจะแจกในงาน ครบรอบ 94 ปี หลวงปู่ชอบ แต่ท่านละสังขาร ก่อนใน วันที่ 8 ม.ค. 2538 ครับ

ดังนั้นเหรียญนี้จึงเป็นเหรียญที่หลายๆคนมองข้าม แต่ในพื้นที่รู้กันดีครับ จึงเล่นหาเก็บกันอยู่ เพราะเหรียญหลวงปู่สวยมาก และเหมือนหลวงปู่ชอบ องค์ต้นแบบครับ ที่สำคัญหลวงปู่ชอบ เมตตาอธิษฐานจิตให้ ศักดิ์สิทธิ์จริงๆครับ และมีประสบการณ์ หนุนดวง ดีทุกราศี

ราคา 350 บาท


<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWcUow6wG1sPR8" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/327/XNVLqM.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWdYkyXfYrjeza" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/63d/eJNHRI.jpg" /></a>

 

460. เหรียญหลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ)ภูจ้อก้อ มุกดาหาร สร้างตึกสงฆ์ รพ.หนองสูง หายากมาครับ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/w6lfelIsmIM9VNPq" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/776/ZYwkDF.jpg" /></a>

หลวงปู่หล้าเป็นเพชรน้ำหนึ่งของสายพระกรรมฐาน วัตถุมงคลขององค์ท่าน พบเห็นและสร้างน้อยมากเนื่องด้วยปฏิปทาขององค์ท่านถ้าไม่กรณีพิเศษจริงๆองค์ท่านไม่อนุญาต

เหรียญนี้ออกเป็นที่ระลึก เนื่องในโอกาสสร้างตึกสงฆ์ โรงพยาบาลหนองสูง อ.หนองสูง มุกดาหาร ซึ่งหลวงปู่เป็นองค์อุปถัมป์การก่อสร้าง

เหรียญนี้ว่ากันว่าองค์ท่านอธิษฐานจิตให้ก่อนมรณภาพ หายาก เกือบสิบปีแล้วที่ไม่ได้เห็นเหรียญนี้นานๆเจอทีจริงๆครับ

ราคา 750 บาท ท่าน j999


<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWa4z3PRfwPp7O" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/7bf/7RVFMy.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWekjfeLL0dNdZ" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/47c/KLyRpv.jpg" /></a>

 

461. เหรียญงามเอก พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลังพระอาจารย์จูม วัดโพธิสมภรณ์ ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร สภาพสวยๆครับ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xPFHJW40uXRwMhzt" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/6a5/ztqfq0.jpg" /></a>

ใครที่ศรัทธาหลวงปู่มั่น ไม่ควรพลาด เหรียญรุ่นนี้ผู้จัดสร้างถวายวัดโพธิสมภรณ์ คือ นอ. เกษม งามเอก ผู้สร้างเหรียญพระอาจารย์ฝั้น หลวงปู่แหวน หลายรุ่น ปัจจุบันราคาแพงทุกรุ่น เหรียญพระอาจารย์มั่น วัดโพธิสมภรณ์ ปี2514 เท่าที่พบมี 2 เนื้อคือทองฝาบาตร และ ทองแดงรมดำ แต่เนื้อทองฝาบาตรจะสร้างน้อยกว่า เหรียญพระอาจารย์มั่น วัดโพธิสมภรณ์ มีพระอาจารย์สายกรรมฐานมาร่วมปลุกเสกคับคั่งแน่ๆ เพราะวัดนี้เป็นวัดสำคัญ ลูกศิษย์ต้องมากันเพียบ ทั้งพระอาจารย์ฝั้น หลวงปู่ขาว พระอาจารย์จวน พระอาจารย์วัน หลวงปู่จันทร์ศรี แม้แต่หลวงตามหาบัว ก็ต้องมาแน่ครับ เป็นต้น เหรียญงามเอก พระอาจารย์มั่น องค์นี้สภาพสวยงามดูง่าย พิมพ์คมชัด มีเส้นเสี้ยนรัศมีวิ่งกระจายตามผิวเหรียญ ถ้าส่องดูจะเห็นชัด ของเก๊อาจจะมีก็ได้นะครับ ไม่ควรประมาท ถ้าเจอเหรียญที่ตัวหนังสือเบลอ ขาดความคมชัดอันนี้เก๊แน่ๆ อีกอย่างที่ควรสังเกตคือตัวหนังสือที่ปั้ม"งามเอก" ตรงฐานพระอาจารย์มั่น จำให้แม่นๆจะปลอดภัย เหรียญงามเอก พระอาจารย์มั่น วัดโพธิสมภรณ์ เนื้อทองฝาบาตร ปี2514 ไม่ใช่ว่าจะเจอง่ายๆนะครับ เหรียญสวยปิ๊งๆแบบนีอาจต้องรอเป็นปีๆ ใครเจอเหรียญนี้เอาไปบูชาขึ้นคอ ไม่ผิดหวัง จะอวดโชว์เซียนสายอีสานก็ไม่อายใครหรอกครับ พระแท้สวยหายากๆ รับรองคุณภาพ ไม่มีย้อมแมว

ราคา 800 บาท ท่าน supachaipnu

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWfKdYnb7zs53l" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/e36/FosHJH.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWeGhVwoSjF7Kg" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/20e/NFIUHJ.jpg" /></a>

 

462. เหรียญฆ้อง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดศรีเมือง จ.หนองคาย ปี 2516 เนื้อทองแดง สภาพสวยมากครับ พิธีใหญ่มากครับ

โดยงานครั้งนี้ หลวงปู่รักษ์ เรวโต ศิษย์รุ่นใหญ่ของหลวงปู่มั่น เป็นประธานจัดสร้างเนื่องในงานงานฉลองศาลาการเปรียญวัดศณีเมือง ในงานครั้งนี้มีพระคณาจารย์สายกรรมฐานที่มีชื่อเสียงเป็นที่ รู้จักดีแก่ประชาชนทั่วไปมาร่วมงานในพิธีครั้งนี้มากมายถึง 108 องค์ได้รวมพิธีในครั้งนี้ในยุคปี 2516 มากันหมดครับ
อาทิเช่น พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
พระอาจาย์วัน อุตตโม
พระอาจารย์จวน กุฎเชษโฐ
หลวงปู่อ่อน ญานสิริ
หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม
หลวงปู่ขาว อนาลโย ฯลฯ
จึงพอที่จะเป็นที่มั่นใจได้ว่า พิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ ในแถบนี้

ราคา 650 บาท ท่าน supachaipnu


<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cWb8v6GBe8F0Aq" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/205/Imntto.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cW7eJByZgOTGC8" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/7f0/PK8g7I.jpg" /></a>

 

463. เหรียญรุ่น 2 หลวงปู่ดีเนาะ วัดมัชฌิมาวาส จ.อุดรธานี ปี 2505 เนื้อทองแดงผิวไฟ เก่ามาก และหายากมากด้วยครับ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xYVFsFcBgbKJecQ9" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/279/G17IqV.jpg" /></a>

ถ้าเอ่ยชื่อของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี โดยเฉพาะในเขตเทศบาลแล้ว ชื่อของ พระเทพวิสุทธาจารย์ เจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดมัชฌิมาวาสนั้น น้อยคนที่จะรู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ถ้าเอ่ยชื่อถึง "หลวงปู่ดีเนาะ" แล้วทุกคนจะรู้จักท่านเป็นอย่างดี เพราะท่าน หลวงปู่ดีเนาะที่ว่านี้ ท่านเป็นพระสงฆ์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า พระเกจิอาจารย์ที่มีประชาชน พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพ นับถือมากไม่แพ้พระเกจิอาจารย์รูปอื่น ๆ ในประเทศไทยเลยทีเดียว

“พระเทพวิสุทธาจารย์ (บุญ ปุญญสิริ)” หรือ “หลวงปู่ดีเนาะ” นามเดิมว่า บุญ ปลัดกอง เกิดที่บ้านดู่ ต.บ้านดอน อ.ปักธงชัย จ. นครราชสีมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๕ โยมบิดาชื่อ นายทา ปลัดกอง โยมมารดาชื่อ นางปาน ปลัดกอง เมื่อมีอายุได้ ๑๙ ปี ครอบครัวของท่านได้อพยพย้ายถิ่นฐานอาศัยจากจังหวัดนครราชสีมา มาอยู่ที่บ้านทุ่งแร่ ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ในปัจจุบันนี้

เมื่ออายุได้ ๒๒ ปี ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดบ้านโนนสว่าง บ้างทุ่งแร่ นั่นเอง และต่อมาอีกหนึ่งปี ท่านก็ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดบ้านบ่อน้อย ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี มีพระอธิการกัน วัดสระบัว บ้านสร้างแป้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ปุญญสิริ” เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วนั้น ได้ไปจำพรรษาอยู่ ณ วัดบ้านโนนสว่าง บ้านทุ่งแร่ อยู่ ๓ พรรษาจึงได้ย้ายสำนัก ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดมัชฌิมาวาส เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๐ และท่านหลวงปู่ดีเนาะก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ และได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงแก่มรณภาพ

ฉายาว่า “หลวงปู่ดีเนาะ” ความเป็นมาของฉายาดังกล่าวนั้น เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ศิษย์และประชาชนทั่วไปที่เคยใกล้ชิดกับท่าน ได้กล่าวว่า ตามปกติวิสัยของท่านหลวงปู่ดีเนาะนั้น ท่านชอบอุทานหรือกล่าวคำว่า “ดีเนาะ” และคำว่า “สำคัญเนาะ” และท่านจะเรียกคนทั่วไปรวมทั้งพระภิกษุและสามเณร หรือคฤหัสถ์ ว่า “หลวง” เวลาท่านหลวงปู่ดีเนาะจะพูดคุยกับใครก็ตาม ท่านก็จะออกปากเรียกคนที่ท่านคุยด้วยว่า “หลวง” และเมื่อท่านจะต้องกลายเป็นผู้รับฟังนั้น ท่านก็จะมีคำอุทานวาจาว่า “ดีเนาะ” อยู่เป็นอาจินต์ ไม่ว่าเรื่องที่ท่านได้รับฟังนั้นจะเป็นดี หรือเรื่องร้ายเพียงใดก็ตาม ท่านหลวงปู่ดีเนาะก็จะเอ่ยปากอุทานว่า ดีเนาะ หรือ สำคัญเนาะ จากคำอุทาน หรือคำพูดที่ท่านหลวงปู่ติดปากนี้เอง ประชาชนและลูกศิษย์ของท่านหลวงปู่ จึงตั้งฉายาหรือสมานามท่านหลวงปู่ว่า “หลวงปู่ดีเนาะ” แม้กระทั่งในการได้รับ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ของท่านนั้น ราชทินนามของท่านก็ยังมีคำว่า “สาธุอุทานธรรมวาที” ซึ่งแปลว่า “ดีเนาะ” อยู่ในราชทินนามของท่านด้วย

“พระเทพวิสุธาจารย์” ได้เลื่อนสมณศักดิ์ตามกาลเวลาเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในพระราชทินนามที่ “พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที ปูชนียฐานประยุต เชษฐวุฒิอิสาน คณาธิกร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี” และซึ่งก่อนหน้านั้นท่าน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส เมื่อยังคงเป็นพระปุญญสิริ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๑ นับว่าเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ของวัดมัชฌิมาวาส

เหรียญและตะกรุดหลวงปู่ดีเนาะนั้น ในเรื่องของประสบการณ์นั้น คนที่เคยมีสิ่งของเหล่านี้ มีเรื่องที่เล่าและกล่าวถึงมากพอสมควร และไม่ใช่เฉพาะแต่ในหมู่ของพุทธศาสนิกชนชาวไทยเท่านั้น แม้แต่คนที่อยู่ในศาสนาอื่นก็ยังให้ความเคารพนับถือท่านหลวงปู่ กล่าวคือในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ในขณะนั้นสถานการณ์สงครามเวียดนามกำลังทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ทหารอเมริกันถูกส่งเข้ามาประจำการตามฐานทัพต่างๆ ในประเทศไทยเพื่อรอการเดินทางไปทำการรบในสนามรบที่ประเทศเวียดนาม และมีทหารอเมริกันส่วนหนึ่งที่อยู่ในประเทศไทย ที่ได้ผู้หญิงไทยเป็นภรรยา และเมื่อสามีที่เป็นทหารอเมริกันจะเดินทางไปรบเวียดนาม ด้วยความเป็นห่วงสามี ภรรยาคนไทยก็เลยเอาเหรียญหลวงปู่ดีเนาะแขวนคอสามีไป จะด้วยเหตุอภินิหาร หรือด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่านหลวงปู่ดีเนาะ ก็ไม่มีใครตอบได้ ทหารอเมริกันคนนั้นออกทำการลาดตระเวนไปในพื้นที่ โดยใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เป็นพาหนะ และเครื่องบินลำดังกล่าวถูกฝ่ายตรงข้ามยิงตก ทหารหน่วยลาดตระเวนดังกล่าวเสียชีวิตเกือบหมด รวมทั้งนักบินประจำเครื่องด้วย ส่วนทหารอเมริกันที่ห้อยเหรียญหลวงปู่ดีเนาะ เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต เมื่อได้รับการรักษาตัวจนหายเป็นปกติดีแล้ว และได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมาพักผ่อนในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง จึงได้พาพรรคพวกที่เป็นทหารด้วยกันมาประเทศไทยด้วย

มี 2 เหรียญ ราคาเหรียญละ 550 บาท

องค์ที่ 1 ท่านแปดเหลี่ยม
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cW6wMeZNNxVsOE" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/598/PgEjCb.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cW8EEkHty6evA9" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/6ce/5Jw2zh.jpg" /></a>

องค์ที่ 2 ท่าน supachaipnu
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cW5OOSqFEzmq5M" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/1b0/eEzItg.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cW56RvRClB6gMw" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/76d/eyC7ZV.jpg" /></a>

 

464. เหรียญเสมาหลังพระพุทธ รุ่น เสาร์5 หลวงปู่สาม อภิญจโน วัดป่าไตรวิเวก จังหวัดสุรินทร์ ออก ปี 2521 เป็นอีกเหรียญที่ไม่ค่อยพบเห็น ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์สายพระอาจารย์มั่นอีกรูป เป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xX7oiID8cvusLKBe" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/4ec/nGdC2s.jpg" /></a>

ประวัติเล็กๆน้อยๆ ครับ
ใน ปีนั้น พ.ศ.๒๔๖๘ ได้มีภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง ผิวพรรณหมดจด ผ่องใสกิริยาท่าทางสำรวม สอบถามได้ความว่ามีความมุ่งมั่นในการศึกษาทางพระศาสนา และเคยเดินทางไปแสวงหาที่เรียนด้านปริยัติที่กรุงเทพฯ แต่หาที่พำนักไม่ได้ จึงต้องกลับมาจำพรรษาที่สุรินทร์คืน

พระภิกษุหนุ่มรูปนั้น ชื่อ พระสาม อกิญฺจโน ได้มากราบถวายตัวเป็นศิษย์เรียนพระกรรมฐานกับหลวงปู่ดูลย์ ที่บ้านหนองเสม็ด

พระ สาม อกิญฺจโน ชอบใจต่อแนวทางปฏิบัติภาวนาและกิจธุดงค์เพราะถูกกับจริตของท่าน ต่อมาได้ติดตามหลวงปู่ดูลย์ออกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ ละแวกใกล้เคียงจังหวัดสุรินทร์

ปี พ.ศ. ๒๔๖๙ หลวงปู่ดูลย์ เห็นว่าพระสาม อกิญฺจโน ได้รับผลจากการปฏิบัติพอสมควร และมีศรัทธามั่นคงดีแล้ว จึงแนะนำให้เดินทางไปกราบและศึกษาธรรมกับ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งขณะนั้นพำนักอยู่ที่ เสนาสนะป่าบ้านสบบง อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

พระสาม กับพระบุญธรรม รวม ๒ องค์ ใช้เวลาเดินเท้า ๑๕ วัน จึงไปถึงจังหวัดนครพนม ได้อยู่พำนักปฏิบัติธรรมกับ พระอาจารย์ใหญ่ ๓ เดือน แล้วส่งไปให้พำนักกับ หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม สหายสนิทของหลวงปู่ดูลย์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ กิ่ง อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร

ต่อมา พระบุญธรรม ได้มรณภาพลง เหลือแต่ พระสาม ได้ติดตาม หลวงปู่สิงห์ ไปหลายแห่ง และเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่ธรรมะใน กองทัพธรรม

พระ สาม อกิญฺจโน ได้ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปทั่วทุกภาคของประเทศ ถือเป็นพระที่เจริญด้วยธุดงควัตร เที่ยวธุดงค์เป็นเวลานาน พำนักจำพรรษามากแห่ง เพิ่งมาพำนักประจำที่ วัดป่าไตรวิเวก อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ เมื่อท่านอายุ ๖๘ ปี

พระสาม อกิญฺจโน ก็คือ หลวงปู่สาม อกิญฺจโน ของพวกเรานั่นเอง เพื่อนสหธรรมิกที่สนิทสนมกับท่านมากที่สุด ก็คือ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร แห่งสำนักวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ กับหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ แห่งวัดดอยธรรมเจดีย์ จังหวัดสกลนคร

เมื่อพูดถึง "พระดี" ของจังหวัดสุรินทร์ เรามักจะนึกถึง หลวงปู่ดูลย์ อตุโล กับหลวงปู่สาม อกิญฺจโน คู่กันเสมอ เพราะทั้ง ๒ องค์ มีปฏิปทาคล้ายคลึงกัน มีเรื่องราวต่างๆ ผูกพันและเกี่ยวข้องกันโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากเรื่องราวในตอนต่อๆ ไป

หลวงปู่สาม อกิญฺจโน มรณภาพเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๔ สิริรวมอายุได้ ๙๑ ปีเศษ ท่านมรณภาพหลังหลวงปู่ดูลย์ ๘ ปี (หลวงปู่ดูลย์มรณภาพเมื่อ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๒๖)


ราคา 450 บาท

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cW9IAny0Pd7jsE" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/e94/hWAK80.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cW7WGY8m0BR1TL" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/5d0/ljBBBX.jpg" /></a>

 

จอง 463 เหรียญที่ 1 ครับ

 

465.ล็อกเก็ตรุ่นแรก ญาท่านเภา จันทธัมโม วัดบ้านเวินโพนพิสัย จ.หนองคาย เกจิดังสองฝั่งโขง ผู้สืบทอดวิชาสายธาตุหลวงใต้(สปปลาว)

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1da24ZzKYqSALwQ" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/g8a/Lik23S.jpg" /></a>

เปิดตำนานพระอภิญญาลุ่มน้ำโขง'ญาท่านเภา'วัดบ้านเวินโพนพิสัย

เปิดตำนานพระอภิญญาลุ่มน้ำโขง'ญาท่านเภา'วัดบ้านเวินโพนพิสัย

จ.หนองคาย เป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในแถบลุ่มน้ำโขง มีพระเถราจารย์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นครูบาอาจารย์ ต้นธาตุ ต้นธรรม หลายรูปด้วยกัน ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่องคาถาอาคมและไสยเวทย์ จนเป็นที่เลื่องลือเล่าขานเป็นตำนานสืบทอดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
อาทิ ญาท่านป้อง บ้านหนองกุ้ง, หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทาราม, หลวงปู่ด่อน อินทสาโร วัดถ้ำเกีย ฯลฯ ซึ่งส่วนมากท่านเหล่านี้ได้ล่วงลับไปแล้ว
แต่ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในขณะนี้ และผู้เขียนอยากแนะนำคือ “ญาท่านเภา” วัดบ้านเวิน ซึ่งผู้เขียนเองไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของท่านมาก่อน จนได้พูดคุยกับคุณเอก นาครทรรพ พี่ชายใจดี ผู้ที่สนใจในศาสตร์เดียวกัน ซึ่งปัจจุบันท่านได้พักร้อนงานการเมือง และได้หันมาศึกษาหาความรู้ด้านพระพุทธศาสนาในระดับปริญญาโท
คุณเอก เล่าว่า...ในช่วงเวลาที่ สปป.ลาว มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบใหม่ ทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบขึ้น ชาว สปป.ลาว ต่างต้องหาที่พึ่งทางใจ โดยเฉพาะ “ญาท่านเภา” ได้เป็นที่พึ่งทางใจให้แก่ชาวลาวได้เป็นอย่างดี โดยต่างแวะเวียนมาให้ท่านลงน้ำมันงา จารศีรษะ และฝังทองคำดิบ เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดคงกระพัน ทำให้ชื่อเสียงของ “ญาท่านเภา” ขจรขจายไปทั่วทั้งสองฝั่งโขง
ต่อมาท่านได้ลี้ภัยสงครามมายังเมืองไทย เหตุเพราะท่านได้สักยันต์ให้ทหารปฏิบัติการฝ่ายตรงข้ามกับทางราชการ ลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า...ขณะที่ท่านฝ่าวงล้อมทหารออกมา ท่านได้ใช้วิชากำบังร่าง หนีออกมาฝั่งไทยได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบันท่านมีอายุ ๘๕ ปี จำพรรษา ณ วัดบ้านเวิน จ.หนองคาย จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งชาว จ.หนองคาย ให้ความเคารพนับถือในตัวท่านเป็นอันมาก
“ญาท่านเภา” เกิดในสกุล “สาวรักษ์” เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๗๑ ณ บ้านดงกะลึม เมืองหาดทรายฟอง (ปัจจุบันขึ้นกับเมืองปากงึ่ม) แขวงนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เป็นบุตรคนที่ ๓ โดยมีพี่น้องทั้งหมด ๔ คน บิดาชื่อ “จารย์อุ่น” มารดาชื่อ “วรรณี”
ชีวิตในวัยเด็กของท่านก็เหมือนกับชาวชนบททั่วไป เป็นชาวนา เมื่ออายุ ๒๑ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ณ วัดบ้านเลิด เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๙๑ โดยมี “พ่อแม่บุ” เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “จันทธัมโม”
ท่านมีความสนใจใฝ่ในการศึกษา จึงเดินทางไปศึกษาหาความรู้ที่ตัวเมืองเวียงจันทน์ โดยฝากตัวเป็นศิษย์ “ญาพ่ออุ่น” ที่วัดพระธาตุหลวงใต้
ในช่วงที่ท่านศึกษาวิชากรรมฐานอยู่ที่วัดพระธาตุหลวงใต้นี้เอง ทำให้ท่านมีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับ “ญาท่านป้อง” และญาท่านป้องนี่เองที่เป็นผู้สอนคัมภีร์มูลกัจจายน์ให้แก่ญาท่านเภา
คัมภีร์นี้ว่าด้วยหลักไวยากรณ์ของภาษาบาลี หรือภาษามคธ และข้ออธิบายจากคัมภีร์ต่างๆ ท่านได้จดรวบรวมไว้อย่างละเล็กละน้อย แล้วเขียนแปลเป็นภาษาไทยกำกับ
นอกจากนี้ ญาท่านป้อง ยังสอนไสยเวทย์วิทยาคมให้แก่ญาท่านเภา อีกด้วย
ญาท่านเภา เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งสองฝั่งโขง ด้วยท่านเป็นที่พึ่งที่อาศัยของบรรดาชาวไทยและชาวลาว ด้วยอุปนิสัยที่รักสันโดษ มักน้อย ท่านชอบอยู่อย่างเงียบๆ ในกุฏิเล็กๆ มีปกติอยู่ในองค์ภาวนาพระกรรมฐาน “วิชาแก้วสี่ดวง” ซึ่งผู้ที่ฝึกสำเร็จจะสามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ เป็นวิชาที่สืบทอดกันในดินแดนแถบนี้ จึงไม่แปลกที่ พระเถราจารย์ เหล่านี้จะมีอิทธิฤทธิ์ ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมหัศจรรย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินผิวน้ำ ย่นระยะทาง ห้ามฟ้าห้ามฝน เสกพยนต์รูปสัตว์ ฯลฯ
ญาท่านเภา ได้สร้างวัตถุมงคลเป็น นวด (สีผึ้ง), ปลัดขิก, พระคำตัน (พระที่หล่อจากทองคำบริสุทธิ์ทั้งองค์) เป็นของที่ประสิทธิ์ให้เฉพาะตัว มีอานุภาพเป็นที่เลื่องลืออย่างกว้างขวาง ถึงกับชาวลาวพูดกันติดปากว่า...“มีพระคำตันแอ่นอกให้ยิงได้เลย”
สำหรับเครื่องรางของท่าน อาทิ วัวธนู หรือ พญาช้างธนู ก็ไม่เหมือนของใคร และไม่มีใครทำได้เหมือน เป็นเครื่องรางอีกอย่างหนึ่งที่ลูกศิษย์ ต่างเสาะแสวงหากันมาก คนที่ได้รับมีเฉพาะลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น
ประสบการณ์ของ “พญาช้างธนู” นั้น โดดเด่นทางป้องกันบ้านเรือนและภยันตรายต่างๆ เป็นอย่างดี ป้องกันภูตผีปีศาจ และสิ่งอัปมงคลได้สารพัด นอกจากนี้ยังมีผู้เชื่อกันว่าสามารถล่องหนหายตัวได้ด้วย
ส่วนวัตถุมงคลประเภท เหรียญ มีอยู่ ๒ รุ่นคือ เหรียญรูปเหมือนหลังเต่า รุ่นแรก และเหรียญรุ่น ๒ พระอุปคุตมหาเถระ รุ่น “ปราบมารบันดาลสุข” ด้านหน้าเป็นรูปจำลองของพระอุปคุตมหาเถระเจ้า พระอรหันตสาวกผู้เป็นเลิศด้านการปราบพญามาร ขจัดอุปสรรคสิ่งชั่วร้าย และอุดมลาภ มือขวาทรงบัว มือซ้ายทรงบาตร ประทับบนเรือนแก้วบัลลังก์บัว อธิษฐานจิตปราบมาร ด้านหลังเป็นยันต์ "สายรกพระพุทธเจ้า" หรือสายแห่พุทธเจ้า เป็นตำราวิชาโบราณของชาวอีสาน ลุ่มน้ำโขง มีพุทธคุณทางด้านค้ำคูณคุ้มครองป้องภัย ขจัดอุปสรรค ป้องกันอันตราย แก้คุณ แก้ไสย เรียกโภคทรัพย์
ของเหล่านี้ไม่มีจำหน่ายใดๆ ทั้งสิ้น สร้างแจกเป็นที่ระลึกในหนังสือประวัติท่านชื่อ “เปิดตำนานพระอภิญญาศักดิ์สิทธิ์พระผู้มีฤทธิ์แห่งลุ่มน้ำโขง” ที่ท่านแจกให้เป็นทานเท่านั้น
วัตถุมงคลของ “ญาท่านเภา” ทุกรุ่นท่านสร้างไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นเหรียญหรือเครื่องรางของขลัง เพราะท่านมีความตั้งใจทำเป็นพิเศษ เรียกว่า “ไม่ดีไม่ทำ ไม่ขลังไม่แจก” ใครได้ครอบครองถือว่า โชคดีที่สุด
(ขอขอบพระคุณ คุณเอก นาครทรรพ และครอบครัว “นาครทรรพ” ผู้ให้ข้อมูลบทความนี้)


ราคา 450 บาท ท่าน แปดเหลี่ยม

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cW4oU9iwoxyxEy" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/ec1/ey1agL.jpg" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y1cW3GWMJfp39Pbo" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/198/DamxNa.jpg" /></a>

 

ปิด 461, 462, 463 (องค์ 2) ครับ

 

จอง 465 ครับ

 

รับทราบครับผม ขอบคุณครับ

 

รับทราบครับผม ขอบคุณครับ

 

รับทราบครับผม ขอบคุณครับ