หลวงปู่นาค วัดดอนเสือ , รูปหล่อปั้มรุ่นแรก หลวงปู่ดา ขี่ปลัดขิก วัดอุทุมพร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ดาวดวง1, 24 ตุลาคม 2014.

  1. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ทำให้สามเณรนาคถึงกับเบรกแตกระงับอารมณ์ไม่อยู่ กระโดดเข้าชกสามเณรหวิงทันที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พระอาจารย์ผู้สอนนักธรรมของวัดตลุกมาเห็นพอดี ท่านจึงห้ามให้หยุด แต่ไม่มีฝ่ายใดยอมหยุด ในที่สุดกระโถนจึงถูกขว้างไปกลางวงต่อสู้ ทำให้สามเณรนาคหนีไปหาเพื่อนสามเณรด้วยกันที่ชื่อสนิท อยู่ที่วัดสรรพยาฯซึ่งไม่ไกลกันนัก แล้วทั้งสองก็พากันหนีไปเที่ยววัดจันทนารามของหลวงพ่อโมซึ่งกำลังมีงานผูกพัทธสีมา ทำให้สามเณรนาคได้มีโอกาสพบหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ซึ่งมาเป็นประธานในงานนี้ด้วย แต่เหมือนชะตาฟ้ายังแกล้ง เพราะขณะเดียวกันท่านก็เจอหลวงพ่อเทียบ วัดตลุก พระอาจารย์ของท่านที่มาในงานนี้เช่นกัน โดยหลวงพ่อเทียบร้องทักขึ้นมาทันทีว่าเณรนาคหนีเรียนมาเที่ยวรึ ทำให้สามเณรนาคถึงกับต้องรีบเผ่นออกจากวัดจันทนารามทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกหลวงพ่อเทียบลงโทษ เมื่อหนีไปแล้วจึงสึกและกลับบ้าน
     
  2. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    อ่านต่อเลยคะ

    เหตุการณ์นี้ทำให้พ่อแม่ของท่านทั้งโกรธและเสียใจเพราะเท่ากับว่าท่านต้องเลิกเรียนหนังสือไปโดยปริยาย เมื่อไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว พ่อแม่ของท่านจึงขอให้ท่านเริ่มหัดทำมาค้าขาย โดยซื้อเกวียนให้หนึ่งเล่มแล้วเอาถ่านซึ่งพ่อแม่ของถ่านเป็นผู้เผากันเองไปตระเวนขาย โดยให้เงินติดตัวไปจำนวนหนึ่งด้วย เรื่องดำเนินมาถึงตรงนี้ก็ทำท่าจะดี ถ้าท่านไม่นำเงินที่ค้าขายได้ไปเล่นการพนันจนหมดตัวและไม่ยอมกลับบ้าน ในที่สุดโชคชะตาก็นำพาท่านไปทดสอบ โดยชีวิตในช่วงนี้ได้คลุกคลีกับอบายมุขและความเลวทุกรูปแบบ จนทำให้ท่านต้องเข้าไปอยู่ในชุมโจรของเสือมเหศวร ซึ่งมีทั้งส่วนดีและส่วนเสีย ส่วนเสียนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะเห็นๆกันอยู่แล้วว่าเป็นโจร แต่ส่วนดีที่ยังพอมีอยู่บ้าง คือ
     
  3. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ท่านได้เรียนวิชาอาคมทั้งจากโจรที่เป็นศิษย์มีครูหรือเรียนกับฆราวาสและพระในท้องที่ต่างๆที่ท่านไปอยู่ไม่น้อย การเรียนวิชาเหล่านี้ไม่ได้มุ่งหวังจะมาเป็นเกจิอาจารย์แต่ประการใด แต่ต้องเรียนไว้ใช้ป้องกันตัวหรือใช้จีบสาว โดยการเรียนอาคมนี้ท่านมีพื้นฐานมาตั้งแต่เล็กแล้ว เนื่องจากโยมพ่อของท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เฟื่อง วัดสรรพยา หลวงปู่เฟื่องรูปนี้แก่กล้ามาก ในสมัยนั้นคนสรรพยาเชื่อหลวงปู่เฟื่องมากกว่าหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าเสียอีก บรรดาวิชาที่โยมพ่อของท่านท่องบ่น จึงทำให้ท่านคุ้นเคยกับเรื่องเหล่านี้มาตั้งแต่เล็ก อีกทั้งในช่วงตอนเด็กที่ท่านไปอยู่บ้านลุงของท่าน ท่านยังไปสนิทกับตาไก่กับตาปลา ๒ ตาเฒ่าที่เป็นศิษย์หลวงพ่อคง วัดบางกะพี้ และ หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า เข้าอีก ทำให้ท่านได้วิชาจากตาแก่ ๒ คนนี้มาไม่น้อย โดยเฉพาะวิชาทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมที่เรียกว่าพุทธคุณส่องโลก ทำให้ชีวิตของท่านในตอนเป็นหนุ่มนั้นถึงกับถูกตั้งฉายาจากคนรู้จักว่า “ไอ้หนุ่มสาวหนาว” เพราะมีทั้งสาวแก่แม่หม้ายและเด็กนักเรียนมารุมชอบแย่งเป็นแฟนท่านเต็มไปหมด
     
  4. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    วัตถุมงคลของท่านที่สร้างขึ้น คือตะกรุดกิ่งรักซ้อน

    ปัจจุบันหาค่อนข้างยากแล้ว แม้ว่าท่านจะสร้างขึ้นในปีนี้ก็ตาม ราคาบูชาเพียงดอกละ 300 บาท เท่านั้น


    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/xZDNHPUt4WGnUmNf" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/e22/CeO2Bv.jpg" /></a>
     
  5. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    วิชาอาคมที่ท่านเรียนมานี้เองที่ทำให้ท่านอยู่รอดปลอดภัยจากคมมีดคมกระสุนและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาได้ หลายครั้งที่ท่านถูกฟัน ทั้งกลางกระบาลจนต้องเอาแขนเข้ารับ ถูกแทงใส่คอก็ยังมี แต่ท่านก็รอดมาได้ทุกครั้ง จนกระทั่งกลับมาเกณฑ์ทหาร และต้องเข้ารับราชการทหารอยู่ที่จังหวัดลพบุรี ท่านก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเกเรประกอบกับเป็นคนเจ้าเสน่ห์มีแต่สาวๆมารุมรัก จึงทำให้มีเรื่องอยู่ตลอด จนในที่สุดเมื่อออกจากราชการทหารแล้วก็มาสมัครเป็นตำรวจ เป็นอยู่ได้ไม่นานก็ต้องออกอีก คราวนี้ลูกผู้พี่ของท่าน(ลูกชายของลุง)ซึ่งเป็นส.ส.ได้นำไปฝากกับนายฟู อนุศาสนนันท์ให้ทำงานชลประทาน
     
  6. ครุฑา

    ครุฑา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +3,089
    คุณดาวดวง1 ขอสอบถามว่าส่งพระรูปหล่อชุดกรรมการหลวงปู่ดามารึยังครับ ถ้ายังส่งมาที่ป้อมพระจุบท สมุทรปราการ. ตาม พีเอ็มที่เคยส่งไปแล้วกัน
     
  7. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716

    มาแล้วมาแล้วจร้า จัดส่งให้วันนี้จร้า สวยโดนใตแน่นอนคะ
     
  8. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ต่อมาในปี ๒๔๙๕ ญาติผู้ใหญ่ของท่านเสียชีวิตลง ท่านจึงลางานขอบวชเป็นเวลา ๓ เดือน เพื่อเข้าอุปสมบทที่โบสถ์วัดสรรพยาฯ ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ โดยมีพระครูวิชัยสุตชัยคุณ(ทรัพย์) วัดกำแพงเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เล็ก วัดสรรพยาฯเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดหลาบ วัดหลวงฯ เป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่อบวชได้สักพัก นายฟู อนุศาสนนันท์ได้ไปขอร้องท่านให้อย่าสึกและมาสร้างวัดดอนเสือซึ่งร้างอยู่ให้กลับมาเป็นวัดดังเดิม แล้วจะเป็นผู้อุปถัมภ์ให้จนสร้างวัดสำเร็จ พร้อมทั้งจะซื้อที่ดินถวายเพิ่มเติมจากจำนวน ๘ ไร่ที่มีอยู่ให้เพิ่มถึงหนึ่งร้อยไร่ ซึ่งท่านไตร่ตรองอยู่คืนหนึ่งจึงตอบตกลงตามที่นายฟูขออาราธนามา
     
  9. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ในตอนแรกได้กล่าวจบลงตรงที่หลวงปู่นาคได้ตกลงใจรับอาราธนาจากนายฟู อนุศาสนนันท์ มาอยู่วัดดอนเสือซึ่งเป็นวัดร้าง เมื่อหลวงปู่นาคท่านย้ายมาแล้วก็เร่งทำการพัฒนาควบคู่ไปกับการร่ำเรียนพุทธาคมอย่างจริงจังกว่าแต่ก่อน เพราะการเป็นสมภารในสมัยก่อนหากไม่มีพุทธาคมอยู่บ้างคงลำบาก ในเบื้องต้นโยมแม่ของท่านได้นำท่านไปฝากตัวกับหลวงพ่ออุปัชฌาย์โม ธมฺมรกฺขิโต วัดจันทนาราม อ.ห้วยกรด จ.ชัยนาท ซึ่งมีความสนิทสนมกับครอบครัวของหลวงปู่นาคอยู่มาก เนื่องจากโยมยายและโยมแม่ของหลวงปู่นาคนั้นเป็นโยมอุปัฏฐากคอยจัดภัตราหารไปถวายให้หลวงพ่อโมเมื่อครั้งไปศึกษาพุทธาคมและรับจ้างเขียนคัมภีร์ใบลานให้หลวงพ่อบุญอยู่ที่วัดตลุก โดยโยมแม่ของหลวงปู่คือนางซิ่วนั้นเรียกหลวงพ่อโมว่าหลวงพี่ ตอนที่โยมแม่ของหลวงปู่นาค พาท่านไปฝากเป็นศิษย์หลวงพ่อโมนั้น หลวงพ่อโมได้รับหลวงปู่นาคเป็นศิษย์ทันที ขณะเดียวกันโยมแม่ของหลวงปู่ได้เอื้อนเอ่ย ขอหลวงพ่อโมได้เมตตาให้พรกับหลวงปู่นาค ให้เป็นผู้มีคุณงามความดีต่อพระศาสนาและเป็นผู้มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างหลวงพ่อโม เนื่องจากหลวงพ่อโมท่านพูดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นเสมอ
     
  10. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ในครั้งนั้นหลวงพ่อโมได้เมตตาเล่าถึงที่มาของวาจาสิทธิ์นี้ให้นางซิ่วฟังว่า เกิดจากคาถาที่ใช้เสกปากซึ่งท่านไปได้มาจากคำภีร์ใบลานของวัดตลุกเมื่อครั้งไปรับจ้างคัดคัมภีร์นั่นเอง ทำให้หลวงปู่นาคซึ่งเป็นคนเฉลียวฉลาดมีปัญญาดีและได้นั่งฟังอยู่ด้วยในขณะนั้น เอ่ยปากขอเรียนคาถานี้จากหลวงพ่อโมทันที (เพราะคิดได้ว่าหากมีปากศักดิ์สิทธิ์แล้วเพียงเอ่ยวาจาให้ความศักดิ์สิทธิ์บังเกิดขึ้นกับสถานที่หรือวัตถุมงคลใดๆ สถานที่หรือวัตถุมงคลนั้นก็กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ไปโดยปริยาย โดยไม่ต้องใช้วิชาอาคมใดๆปลุกเสกให้สลับซับซ้อน) เมื่อหลวงพ่อโมได้ยินได้ฟังแล้วท่านก็หันมาพิจารณาหลวงปู่นาคอยู่สักครู่ก็เรียกหลวงปู่นาคคลานเข้าไปหาใกล้ๆแล้วก็เมตตาถ่ายทอดคาถานี้ให้พร้อมทั้งเป่ากระหม่อม ลูบหลัง ประสิทธิคาถา พร้อมทั้งเอ่ยวาจาให้ความศักดิ์สิทธิ์บังเกิดขึ้นกับหลวงปู่นาคตลอดไป ส่วนหลวงปู่นาคพอได้คาถาเสกปากให้ศักดิ์สิทธิ์นี้มาแล้วท่านก็ได้ภาวนาอยู่เป็นนิจเสมอมา จึงเป็นเหตุให้ท่านกลายเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีวาจาสิทธิ์เฉกเช่นเดียวกับหลวงพ่อโมผู้เป็นหนึ่งในพระอาจารย์ของท่าน
     
  11. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    จะคอยเอาเรื่องราวมาให้ได้อ่านกันนะคะ วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเมตตามหานิยมทั้งนั้นคะ
     
  12. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/y0IWORyphBnWQbP2" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/51d/8hnYXd.jpg" /></a>
     
  13. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้วหากจะไม่เล่าถึงประวัติและเรื่องราวอภินิหารของหลวงพ่ออุปัชฌาย์โมก็เกรงว่าท่านผู้อ่านจะไม่เห็นถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ผู้เขียนจึงเดินทางไปค้นคว้าเรื่องราวของหลวงพ่อโมอย่างจริงจังอีกครั้งหลังจากเคยเข้าไปที่วัดของท่านมาแล้วเมื่อสิบปีก่อน และจากการค้นคว้าเรื่องราวของหลวงพ่อโมในครั้งนี้ทำให้ผู้เขียนได้ทราบว่าไม่เคยมีลูกศิษย์ของหลวงพ่อโมท่านใดที่ล่วงรู้คาถาเสกปากจนเกิดวาจาศักดิ์สิทธิ์อย่างที่หลวงปู่นาคได้รับการถ่ายทอดมา หลวงปู่นาคจึงเป็นศิษย์หนึ่งเดียวเท่านั้นที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์อย่างที่หลวงพ่อโมมี แต่เรื่องนี้ถูกเก็บงำมาตลอดกว่า ๖๐ ปีและจะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ตลอดไป หากผู้เขียนไม่ได้รับการถ่ายทอดวิชานี้จากหลวงปู่นาคซึ่งไม่เคยถ่ายทอดให้ใครมาก่อน
     
  14. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    การไปแสวงหาเรื่องราวของหลวงพ่อโมในครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากหลวงตาสุวรรณ กล้อยกลิ้ง (ปัจจุบันอายุ ๘๑ ปี) อดีตเด็กอุปัฏฐากรับใช้หลวงพ่อโมซึ่งอยู่ในเหตุการณ์สำคัญต่างๆมากมายหลายเหตุการณ์ได้เล่าเรื่องราวต่างๆให้บันทึก และยังมีชาวบ้านรอบๆวัดจันทนารามจำนวนมาก รวมถึงหลวงพ่อทอง เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ที่อนุญาตให้ผู้เขียนเปิดห้องตำราของหลวงพ่อโมเพื่อทำการบันทึกวิชาอาคมต่างๆโดยมีคุณทุเรียนแห่งร้านซุปเปอร์ห้วยกรดผู้ที่ศรัทธาและนับถือหลวงพ่อโมอย่างสุดหัวใจ เป็นผู้คอยให้ข้อมูลและประสานงาน โดยมีพระอาจารย์วันเฉลิม วัดโคกโตนด เป็นที่ปรึกษาและมอบภาพสำคัญต่างๆของหลวงพ่อโมมาให้ ทำให้เรื่องราวของหลวงพ่อโมที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่ละเอียดครบถ้วนหลากหลายแง่มุมและตรงตามข้อเท็จจริงมากที่สุด แต่อาจจะนำมาเล่าในประวัติหลวงปู่นาคได้ไม่หมดเนื่องจากจะยืดยาวเกินไป จึงจะเก็บรวมไว้จัดทำหนังสือประวัติหลวงพ่อโมแบบเล่มใหญ่เลยดีกว่า
     
  15. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโม
    ในสมัยที่หลวงพ่อโมยังมีชีวิตอยู่ ได้สร้างเครื่องรางของขลัง คือ ตะกรุด มีดหมอ และเสื้อยันต์แล้วยังมีภาพถ่ายขาวดำอัดกระจก ภาพถ่ายที่พิมพ์ขึ้น รูปพิมพ์หินหันหลังชนกับหลวงพ่อหิน ตะกรุดเมตตา สีผึ้ง และตะกรุดไม้รวกยอดด้วนพอกครั่ง ศิษย์ที่ได้รับวัตถุมงคลจากหลวงพ่อโมล้วนต่างได้รับประสบการณ์อย่างมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับและยำเกรงจากเหล่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อโม คือ "วาจาสิทธิ์" โดยมีเรื่องเล่าขานสืบกันมากระทั่งปัจจุบันดังนี้
     
  16. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    เดี๋ยวก็ตกลงมาตายโหงหรอก
    หลวงตาสุวรรณเล่าว่า ในวันหนึ่งขณะที่หลวงพ่อโมกับพระโพธิ์ คงเจริญ ได้กลับจากกิจนิมนต์ข้างนอกเข้ามาถึงบริเวณต้นมะขามเทศภายในวัดจันทนาราม โดยมีตัวท่านหรือไอ้วรรณ(หลวงตาสุวรรณ)ในขณะนั้น เป็นผู้ถือย่ามเดินตามหลวงพ่อโมมาติดๆ จึงได้เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังปีนเล่นอยู่บนต้นมะขามเทศดังกล่าว พอดีเป็นจังหวะเดียวกันกับหลวงพ่อโมร้องทักขึ้นมาว่า “เอ้า ใครผ่าปีนขึ้นไปบนนั้นวะ เดี๋ยวก็ตกลงมาตายโหงหรอก” ว่าแล้วหลวงพ่อท่านก็เดินต่อไปยังไม่ถึง ๒๐ วาเลย ทุกคนก็ได้ยินเสียงตุ๊บ พอหันไปดูก็พบว่าเด็กคนนั้นหล่นลงมาจากต้นไม้นอนกองอยู่บนพื้นดิน หลวงพ่อโมท่านก็หันไปดูแล้วพูดออกมาว่า นั่นไง กูว่าแล้ว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับตาเมืองกรรมการวัดที่กำลังปลูกสร้างร้านค้าวิ่งเข้ามาพยุงร่างเด็กขึ้นมา แต่ปรากฏว่าเด็กคอหักขาดใจตายเสียแล้ว เด็กคนนี้ชื่อสอน เป็นญาติกับคุณทุเรียน ร้านซุปเปอร์ห้วยกรด
     
  17. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ต้นไม้ทับกุฏิ
    วันหนึ่งมีผู้มาขอซื้อต้นตาลที่ขึ้นอยู่ข้างกุฏิของหลวงพ่อ เพื่อนำไปทำเรือโปง หลวงพ่อท่านตอบว่า ถ้าตัดได้ก็เอาไป แต่ระวังจะล้มทับกุฏิกูนะ คนที่มาขอซื้อก็ไม่รอช้ารีบไปตามลูกน้องมาล้มต้นตาลในวันถัดไปทันที เมื่อทีมงานล้มต้นตาลมาถึงก็เอาเชือกประกำ ๓ เส้น (เชือกที่ทำจากหนังควายมาควั่นเป็นเกลียว เหนียวมาก เอาไว้สำหรับคล้องช้าง) มาผูกโยงรั้งต้นตาลนี้ไว้ ไม่ให้ล้มไปทางกุฏิของหลวงพ่อ ขณะที่คนงานกำลังจะลงมือตัดต้นตาลนั้นหลวงพ่อโมก็เดินลงมาจากุฏิจะไปถาน(ส้วม)พอดี ท่านจึงพูดกำชับคนงานว่า ระวังจะล้มทับกุฏินะ พูดแล้วท่านก็เดินไป แต่ยังไม่ทันถึงถานเลยก็ได้ยินเสียงต้นตาลล้มใส่กุฏิของท่านดังโครม
     
  18. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    แม้หลวงพ่อโมจะละสังขารไปนานกว่า 50 ปีแล้วก็ตาม แต่ก็เหมือนว่าตัวท่านยังมีชีวิตอยู่ที่วัดจันทนารามแห่งนี้เสมอ เพราะอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านยังมีปรากฏเป็นที่เลื่องลือเล่าขานกันอยู่ตลอดเวลา ดังคำที่ท่านกล่าวว่า “ พวกเอ็งไม่ต้องกลัวกูตายหลอก กูไปเที่ยวเดี๋ยวก็กลับ” ถึงแม้กระนั้นก็ตามหลวงพ่อโมก็ยังทิ้งหน่อเนื้อเชื้อไขทางพุทธาคมให้เติบโตอยู่อย่างเงียบๆมาจนอายุ ๙๐ ปี ในปัจจุบัน (ท่านชื่อ หลวงปู่นาค วัดดอนเสือ) เพื่อให้สืบผ่านพุทธาคมไปยังรุ่นถัดไป โดยเฉพาะเคล็ดวิชาแห่งวาจาสิทธิ์ที่ท่านได้มาจากการรับจ้างแปลคำภีร์ใบลานจากภาษาขอมมาคัดเป็นภาษาไทยให้หลวงพ่อบุญ วัดอินทาราม(ตลุก) ผูกละหนึ่งสลึง นี่เป็นข้อมูลที่ยืนยันว่า หลวงพ่อโมนั้นท่านมาเรียนพุทธาคมที่สำนักวัดตลุกกับหลวงพ่ออ่ำด้วย หลวงปู่นาคก็ยืนยันว่าหลวงพ่อโมยังคงอยู่ตามวาจาของท่าน และทุกครั้งที่หลวงปู่นาคปลุกเสกวัตถุมงคลก็ยังระลึกถึงและเชิญท่านมาเสมอ
     
  19. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    หลวงพ่อสำเภา ท่านเป็นพระเกจิยุคเก่าเมืองชัยนาทที่นิตยสารพระเข้าไม่ค่อยถึง จึงทำให้ชื่อเสียงของท่านไม่เป็นที่รู้จักของวงการพระเอาเสียเลย เรียกว่าถ้าออกนอกเมืองชัยนาทแล้ว น้อยคนนักที่จะรู้จัก แต่ถ้าคนชัยนาทแล้วในยุคสมัยก่อนต้องยกท่านเป็นอันดับต้นๆของยอดเกจิเลยก็ว่าได้ ยิ่งในตัวตลาดชัยนาทสมัยก่อนทุกบ้านทุกครัวเรือนต้องมีรูปภาพ รูปถ่าย และวัตถุมงคลของท่านทุกครัวเรือนจริงๆ วัดของท่านอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ลงทางสะพานใหม่ไปแล้วเลี้ยวขวาไปสัก ๒ กิโลฯ ก็เจอแล้ว....แต่เก่าก่อนนั้นถนนหนทางยังไม่สะดวกขนาดนี้ การสัญจรยังคงใช้ทางน้ำ ทางเรือ เป็นสำคัญ เรือทุกลำที่แล่นผ่านหน้าวัดไม่ว่าจะไปทางไหนก็แล้วแต่ ต้องมาจอดเทียบท่าหน้าวัดแล้วให้หลวงพ่อท่านรดน้ำมนต์ประพรมเรือให้เป็นสิริมงคล ผู้เฒ่าท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า "เรือที่มาจอดเพื่อรอรถน้ำมนต์กับหลวงพ่อนับได้หลายสิบลำต่อวันเลยทีเดียว รูปหล่อรุ่นแรก ปีพ.ศ.๒๕๐๐ คนในพื้นที่ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง ในขณะที่เขามาทำไร่ที่บ้านดักคะนน จนเกิดอาการจุกเสียดถึง ๓ วันเต็มๆ แต่ว่าลูกปืนไม่ระคายผิวของเขาแม้แต่น้อย รูปถ่ายเลี่ยมพลาสติกของท่าน เด็กทำตกลงไปในกองไฟที่นั่งผิงไฟหน้าหนาวโดยไม่รู้ตัว กว่าผู้ใหญ่จะมาเห็นอีกทีหนึ่งก็ข้ามวันไปแล้ว ปรากฏว่าสร้อยโลหะดำปี๋จนแทบละลาย แต่รูปถ่ายของท่านกลับไม่เป็นอะไรเลย มีเพียงกรอบพลาสติกเหลืองไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง
     
  20. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    หลวงพ่อสำเภาเกิดประมาณปี พ.ศ.๒๔๒๐ ท่านมีภูมิลำเนาถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่บ้านปากแพรก เมืองกรุงเก่า อยุธยา ในสมัยหนุ่มนั้นท่านได้ขึ้นชื่อว่า เป็นเสือปล้นที่น่ากลัวคนหนึ่งในยุคนั้นเลยทีเดียว ท่านมีชุมโจรของท่านเองอยู่แถบอำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนอายุได้ ๓๐กว่าๆ พ่อกับแม่ต้องขอร้องให้เลิกเป็นโจรและให้ไปอยู่ที่อื่น เพราะทางการกำลังตามตัวท่านอยู่ ท่านจึงหนีมาอยู่ที่เมืองลพบุรี และได้แต่งงานมีครอบครัว จึงเลิกเป็นโจร หันมาประกอบสัมมาชีพโดยปกติสุข จนวันหนึ่งได้เห็นพระบิณฑบาตในตอนเช้า ท่านจึงนึกขึ้นมาว่า ตัวเราที่ผ่านมาก็ทำแต่กรรมชั่วไว้ มิเคยได้บวชเรียนให้พ่อแม่ได้ชื่นใจ เมื่อปรึกษาภรรยาแล้วจึงตัดสินใจบวช ที่วัดบ้านดาบ โดยมีหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์แช่ม วัดบ้านดาบ (หลวงพ่อแช่มท่านนี้เป็นเกจิยุคเก่าที่ขึ้นชื่อมากของเมืองลพบุรี แถมยังเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า) หลังจากบวชแล้วก็ศึกษาพระธรรมวินัยและวิชาต่างๆจากหลวงพ่อแช่ม วัดบ้านดาบ
    ขณะเดียวกันวัดสะพานที่เมืองชัยนาท หลวงพ่อคง(วัดบางกะพี้) ซึ่งว่ากันว่าท่านเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของทั้งหลวงปู่ศุขและหลวงพ่อแช่ม ได้เล่าให้พระอาจารย์ทั้งสองท่านฟังเรื่องวัดสะพานจะกลายเป็นวัดร้าง เพราะหลวงปู่เล็ก เจ้าอาวาสในขณะนั้นได้มรณภาพ (หลวงปู่เล็กท่านนี้เก่งมากเรื่องราวของท่านเล่ากัน๓วันก็ไม่จบ) หลวงพ่อคงซึ่งเป็นเจ้าคณะแขวงท่านเสียดายกลัวว่าชาวบ้านจะรุกที่วัดจนวัดหายไปในที่สุด ท่านจึงอยากได้พระดีๆมาเป็นเจ้าอาวาสแทน หลวงพ่อแช่มได้ยินดังนั้นจึงกลับไปถามหลวงพ่อสำเภาว่า "อยากมาจำวัดอยู่ที่เมืองชัยนาทไหม?" หลวงพ่อสำเภา เห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้ตัดห่างทางครอบครัวไม่ให้เกิดห่วงใดๆ จึงตอบตกลงที่จะมาจำพรรษาที่วัดสะพานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    เมื่อหลวงพ่อสำเภามาถึงวัดสะพานในขณะนั้น อาณาบริเวณภายในวัดยังเป็นป่ารกอยู่มาก หลวงพ่อสำเภาจึงได้ขอแรงญาติโยมจำนวนหนึ่งที่ได้ติดตามหลวงพ่อมาตั้งรกรากหลายครอบครัว ให้ช่วยกันแผ้วถางป่า และซ่อมแซมศาสนสถานที่เสื่อมโทรมให้พอใช้การได้ จากนั้นค่อยๆพัฒนาวัดขึ้นตามกำลังไปทีละเล็กละน้อย เวลาว่างหลวงพ่อก็ได้ไปศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า (จะเห็นได้จากรูปที่ทั้งสองท่านยืนเคียงคู่กันในงานฌาปนกิจศพ หลวงพ่อคง วัดบางกะพี้ ประมาณปี พ.ศ.๒๔๕๖) ...มากไปกว่านั้นยังมีผู้กล่าวว่า หลวงพ่อสำเภาท่านมีวิชามากมาย อาทิวิชา ๗ ตัน วิชาเต่าเรือน วิชาควายธนู วิชาหมานิล วิชารักษาโรคทั้งคนและสัตว์ แถมยังได้ลายแทงของอาจารย์คง ผู้เป็นอาจารย์ของขุนแผน ให้ไปเอาตำราอยู่ในโพรงต้นไม้ในป่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...