นั่งสมาธิแล้วไม่หายใจ

ตัวจริงจะมีเวลามาเล่นหลอค่ะ ตัว clonning ค่ะ​

 

อืม..ไม่ว่าไร

 

ขอบคุณค่ะ แล้วก็อยากทราบความคิดเห็นคนที่ปฎิบัติ หรือ log in ไหนเป็นพระแนวปฎิบัติ ขอความคิดเห็นหน่อยน่ะค่ะ อยากได้ ความรู้จากผู้ปฏิบัติจริงน่ะค่ะ คือบางทีเผื่อจะเป้นแนวทางได้ ขอบคุณค่ะ


ขอตอบ ผมคิดว่าคุณไปหาพระที่วัดเลยน่าจะดีกว่าจะมาฟังหลายๆความเห็นในนี้นะครับเพราะจะทำให้งงเปล่าๆ หลายอย่างหลายอันทำให้สับสน ปฏิบัติธรรมเนี่ย ครูบาอาจารย์ท่านสำคัญนะครับ หลายๆอย่างที่ละเอียดๆต้องให้ท่านแนะนำ มันจะง่ายขึ้นเยอะเลย

ผมแนะนำให้ไปหา หลวงปู่โอภาส (โอภาโส)ครับ ที่ วัดจองคำ อ.งาว จ.ลำปาง ท่านเป็นพระวัดบ้านแต่ปฏิบัติเก่งมาก รู้วาระจิตด้วย ผมโดนมาแล้ว และพูดได้ 5 ภาษา

 

ขอบคุณค่ะ มีแนะนำพระรูปอื่นๆอีกมั้ยคะ จขกท อยากรู้จักหลายๆรูป เพราะเผื่อสะดวกไปหาพระที่อยู่ใกล้ๆได้ก็จะไปนะคะ แล้วก็เดี๋ยวนี้พระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบรู้สึกเข้าหายากเพราะ มีคนอุปฐากเยอะดีไม่ดีต้องจองคิวนะคะ

ปล. คุณyellowdog มีอะไรแนะนำ จขกท เกี่ยวกับการทำสมาธิมั้ยค่ะ
ถ้ามีเชิญเลยค่ะ จขกท ยินดีค่ะ

​

 

ก็ไม่รู้ว่าที่ไหนใกล้บ้าน จขกท.
ถ้าใกล้ กทม. แนะนำ ท่านพระอาจารย์ อนันต์ อกิญจโน วัดมาบจันทร์ อ.แกลง จ.ระยอง เป็นวัดป่า สายของหนองป่าพง (หลวงปู่ชา สุภัทโท ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น) ท่านเก่งครับชาวต่างชาติสนใจเยอะ มีฝรั่งมาบวชวัดนี้หลายรูป

อาการที่คุณพบเจอ ผมได้เคยอ่านเจอจากหนังสือชื่อ คัมภีร์วิสุทธิมรรค (ซึ่งเขียนโดย พระสมัยก่อนโน้นเป็นร้อยปีแล้ว) ถ้าสนใจลองหามาอ่านดูได้ครับถ้าไม่มีโอกาสไปหาครูอาจารย์ ซึ่งคำแนะนำในหนังสือเล่มนั้นน่าจะดีกว่าของผมอีกครับ(เพราะก็อ่านมาจากนั้นนั่นแหละ) ส่วนใหญ่วิธีปฏิบัติ ครูอาอาจารย์สมัยก่อนท่านก็ศึกษาเอาจากคัมภีร์ วิสุทธิมรรคนี้แหละครับ เป็นหนังสือที่ควรซื้อติดบ้านไว้เล่มหนึ่งเลยทีเดียว เหมือนตู้ยานั่นแหละครับ
(ร้านไหนมีพระไตรปิฎกขายก็น่าจะมีคัมภีร์นี้ขายด้วยครับ) แต่อย่างที่แนะนำ อ่านหนังสือเอา สู้ไปหาครูอาจารย์ที่เป็นพระชี้แนะไม่ได้ครับ บางทีอ่านเยอะจะสับสนกว่าเดิมอีก
ย้ำครับ ครูบาอาจารย์สำคัญครับในมงคลชีวิต ถือการคบบัณฑิตเป็นมงคลข้อ 2 เลยทีเดียว (ข้อแรกคิอไม่คบคนพาล)

 

เพิ่มเติม
สำหรับท่านพระอาจารย์ อนันต์ ถ้าไปหาท่่านที่วัด อาจต้องคอยแปปนึง บางทีท่านอยู่ในห้องนะครับ ช่วงเวลาที่รับแขก ถ้าจำไม่ผิด น่าจะช่วงหลังฉัน 10-12 น. และ ประมาณบ่ายสามถึงสี่โมง
ถ้าไปหาคิดว่าได้เจอแน่นอนแต่ถ้าไม่เจอก็มีหนังสือธรรมมะกับซีดีแจก แต่ไม่รู้ว่าหมดหรือยังนะครับ (ถ้าสนใจลองหาข้อมูลจาก google ดูก่อนก็ได้)
ปล.ถ้าไปหาหลวงปู่ โอภาส ครั้งนึงแล้ว ผมไม่เชื่อว่า จขกท จะไม่ไปหาท่านครั้งที้สอง ท่านเมตตาสุดๆแล้วไกลแต่คุ้มที่ได้ไป(ท่านอายุมากแล้วจะไปก็รีบไปนะครับก่อนจะไม่มีโอกาส)

 

ขอบคุณค่ะ​

 

แอบหวังว่าจะเป็นตัวจริงนิดนึงหรือเปล่าครับ (k)

 

คุณyellowdog01 มีอะไรแนะนำเกี่ยวกับการฝึกเพิ่มมั้ยค่ะ

 

ฮา คคห นี้ง่ะ

 

(f) :boo:

 

ปกติไม่ค่อยสนใจคนอื่นเท่าไหร่ แต่ตอนฝึกปฏิบัติถูกสอนเรื่องนี้มาเยอะครับ เล่าพอเป็นแนวทางละกันครับ นั่งๆไปหายใจไม่ออกบ้าง สะดุ้งไปทั้งตัวบ้าง ท่านสอนมาแบบนี้ครับ ลองพิจารณาดูนะครับ ถ้าจิตของเราไม่เที่ยง ไม่แน่นอน ไหวตัวไปมาอยู่ก็ย่อมจะเกิดสัญญาขึ้นมา และเมื่อสัญญาเกิดขึ้น มันก็ฉายแสงออกมา และเราก็จะไหลไปตามมัน จะไปเหนี่ยวดึงเข้ามา การที่เราไปตามเข้ามานั่นแหละมันเสียใช้ไม่ได้ คนที่สำคัญว่าจิตเป็นตน ตนเป็นจิต จิตเป็นสัญญา ปนเปกันไปหมดเข่นนี้ ท่านบอกว่า เหมือนคนหลงป่า การหลงป่าย่อมจะต้องลำบากทุกๆอย่าง ท่านแนะนำว่า เราก็ต้องมี สติสัมปชัญญะ คอยสำรวจว่า ลมหายใจเข้าออกนี้ มันเกิดผลแก่ร่างกายอย่างไร จิตของเราได้ผลอย่างไรบ้าง ถ้าลมอ่อนก็ให้ถอนลมเสียใหม่ อย่าเผลอตัว ปรับปรุงลมหายใจจนรู้สึกว่า กายและจิตได้รัยความสะดวกสบาย (การถอนลม คือการสร้างความรู้สึก)เมื่อเกิดความสะดวกสบายอย่างนี้ จิตก็สงบ เมื่อจิตสงบแล้วก็ย่อมเกิดผลๆได้หลายอย่าง คือ กายโปร่งเบาคล่องแคล่ว ปราศจากสัญญาอารมณ์ภายนอก ผลอันนี้แหละรักษาไว้ให้ดี รักษาให้นาน

 

ไปต่อเลยครับ มันสงบจนเข้าฌานแล้ว ยิ่งนิ่ง ยิ่งจะแยกจิตออกจากกาย ไม่หายใจ ไม่รับรู้สัมผัสในร่างกายเลย อยู่แบบนั้นก็จะนิ่งๆ ถ้าต้องการจะกลับมาปกติ ก็กำหนดจิตตามหาลมหายใจ มันก็จะกลับมาปกติ เค้าเรียกถอนฌานอีก มีรับรู้สัมผัสทางร่างกายปกติ จริงๆถ้าคุณมาถึงจุดที่นิ่งมากๆ จนไม่มีลมหายใจแล้ว กำหนดจิตนึกถึงครูบาอาจารย์ที่เคารพ แล้วลองขยับออกทางซ้ายหรือขวาไปก็ได้ ตัวท่านก็จะออกจากร่างกายได้ พอออกได้ก็ลองดูรอบๆ อย่าไปกลัวอะไร แล้วจะกลับเข้าร่างใหม่ ก็กำหนดจิตเข้าไปอยู่ในร่างเหมือนเดิม

จุดนี้เค้าเรียกฌาน 4 แล้ว คนฝึกถึงระดับนี้ มันจะเป็นฐานของการได้ฤทธิ ซึ่งเรื่อง หูทิพย์ ตาทิพย์ การเห็นอดีตมันก็มีพื้นฐานมาจากตรงนี้แหละ ยินดีด้วย ของเก่าคุณมี

 

ขอบคุณมากๆค่ะ
แต่ตอนนี้ไม่ง่ายที่จะเข้าสภาวะเดิมเลยค่ะ อิอิ

 

เข้าไม่ได้ก็ทำสติปัฏฐาน4เลยครับ เส้นทางนี้ หลงยาก

 

ช่วยอธิบายแบบละเอียดและง่ายให้ จขกท หน่อยได้มั้ยค่ะ
ไม่คุ้นนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

ถ้ามัวแต่สนใจ กิริยา และการกระทำของผู้อื่น ใจนี้ล่ะที่จะไม่สงบ
ถ้าใจไม่สงบเสียอย่างเดียว ปฏิบัติอะไรก็ไม่เป็นผล

 

กำหนดรู้ กาย,เวทนา,จิต,ธรรม อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างสลับไปมา
ให้ได้มากและนานที่สุด ครั้นเมื่อเผลอลืม ระลึกได้เมื่อไรก็กำหนดต่อทันที
กาย=รู้การเคลื่อนไหวของกาย หรือไม่ก็กำหนดรู้ลมหายใจ พระศาสดาตรัสว่า
ลมหายใจเป็นกายอันหนึ่ง หรือกำหนดรู้อวัยวะในกายก็สุดแล้วแต่
เวทนา=ความสุข,ทุกข์หรือเฉยๆที่เกิดขึ้น
จิต=จิตหดหู่,จิตฟุ้งซ่าน,จิตมีราคะฯ(ไปหาอ่านเองอิอิ) ส่วนผมดูความคิดอย่างเดียวใหม่ๆเราดูมันไม่สน มันบอกข้าจะคิดซะอย่าง
นานๆไปมันจะเริ่มอายเรารู้ปุ๊บมันจะหายปึ๊บ
ธรรม=สภาพที่เป็นไตรลักษณ์,สภาพเกิดดับเป็นนิจ
รวมไปถึงข้ออรรถข้อธรรมต่างๆหลากหลายหมวดหมู่ ทั้งหมดนี้ถ้ากลัวงง
ให้เลือกอย่างเดียวแล้วลุยเลย (ผู้อธิบายก็ยังเหลวเป๋วอยู่ อิอิ)

 

คุณบัวตูม

เวลาอธิบายธรรม ลองระลึก จิตที่ยกธรรมด้วยเคารพ

กับ จิตที่กระเดิดมีตนเปนเจ้าของ

สองธรรมนี้เกิด ดับ

แต่พอเราไม่ทัน การหมายเปนเจ้าของ
แล้วไปเชื่อมัน ว่ากุมจิต

เราจะเผลออกตัว ข่อยยังแย่ โดยไม่จำเปน

ทุกรุปทุกนาม อัญเชิญธรรมที่ดีงามได้ ทุกที่ ทุกเวลา
ไม่ขึ้นกับ ภาชนะ พาหะนะ ที่ใช้

 

ขอบคุณค้าาาา​