หลวงปู่ทองทิพย์ ปิดตาจันทรคราส เหล็กไหลไพรดำ เหล็กเปียก เหล็กไหลเงินยวง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย apisab, 2 กันยายน 2014.

  1. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    อัฟเดทพระที่ยังมีอยู่ ของหลวงปู่ทองทิพย์ (คำสี)

    ๑ พระปิดตาจันทรคราส หลวงปู่ทองทิพย์ เนื้อเหล็กไหลเงินยวง V๒ องค์ที่ ๑

    ๒ ปิดตาจันทราคราส เนื้อเหล็กไหลเงินยวง หลวงปู่ทองทิพย์ v๒ องค์ที่ ๒

    ๓ ปิดตาจันทรคราส เนื้อเหล็กไหลเงินยวง หลวงปู่ทองทิพย์ V๒ องค์ที่ ๓

    ๔ พระปิดตาจันทราส หลวงปู่ทองทิพย์ เนื้อเหล็กเปียก v๒ องค์ที่ ๖

    ๕ พุทธกวัก(ดีดน้ำมนต์) เนื้อเหล็กใหลเงินยวง v๒ องค์ที่ ๒

    ๖ พุทธกวัก(ดีดน้ำมนต์) หลวงปู่ทอง ทิพย์เนื้อเหล็กเปียก V๒ องค์ที่ ๕ จอง

    ๗ พระปิดตาสองหน้า เนื้อเหล็กใหลเงินยวง หลวงปู่ทองทิพย์ V๒ องค์ที่ ๒

    ๘ พระปิดตาสองหน้า เนื้อเหล็กใหลเงินยวง หลวงปู่ทองทิพย์ v๒ องค์ที่ ๓

    ๙ พระปิดตาสองหน้า เนื้อเหล็กใหลเงินยวง หลวงปู่ทองทิพย์ V๒ องค์ที่ ๔

    ตะกรุด ๕ นิ้ว ๓ นิ้ว ๒.๕ นิ้ว
    พิทักษ์โลก
    เปิดโลกพิมพ์ ใหญ่
    เปิดโลกพิมพ์เล็ก
    กำลังจะนำมาให้ชมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  2. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พุทธกวัก ดีดน้ำมนต์ เนื้อเหล็กใหลเงินยวง หลวงปู่ทองทิพย์ V๒ องค์ที่ ๓

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
  5. อภิชาติ๖๐

    อภิชาติ๖๐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +138
    ขอราคาเปิดโลกด้วยครับ.
     
  6. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ตอบราคาไปแล้วครับ
     
  7. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    เรื่องจำปาสี่ต้น สี่กุมาร หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่ทองทิพย์ หลวงปู่.... หลวงปู่...​


    หนังสือผูกเรื่อง จำปาสี่ต้น พบที่ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จารึกบนใบลานด้วยอักษรไทยน้อย เป็นนิทานเลียนแบบชาดก
     
  8. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    รอคำตอบอยู่นะครับ
     
  9. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    เรื่องจำปาสี่ต้น ที่หลวงปู่เคยเล่า อาจจะละเอียดกว่านี้ เพราะคล้ายกับว่าหลวงปู่เป็นหนึ่งในนั้น

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีเมืองๆ หนึ่งชื่อว่าเมือง “ปัญจา” มีพระมหากษัตริย์นามว่า “จุลนี” มีพระมเหสีชื่อ “นางอัคคี” มีเมืองอีกเมืองตั้งอยู่ใกล้กันชื่อว่าเมือง “จักขิน” เจ้ากรุงจักขินมีพระมเหสีชื่อ “แก้วเทวี” มีธิดาชื่อ “นางปทุมมา” เมื่อนางปทุมมาอายุได้ ๑๔ ปี พระเจ้ากรุงจักขินทรงพระสุบินว่า พระอาทิตย์ถูกภูเขาบดบัง ฝนตกน้ำท่วมหน้าเมือง ยอดปราสาทราชวังพังทลาย เหล่าบรรดาประชาราษฏร์ ทั้งข้าทาส วัวควาย สัตว์ต่างๆ จมน้ำตายน่าอนาถ โหรหลวงทำนายว่าจะเกิดกลียุค มีกาลีบ้านกาลีเมือง

    ต่อมาไม่นานก็เกิดเหตุการณ์มีนกยักษ์ได้บินมาทำลายเมืองผู้คนล้มตายจำนวนมาก พระเจ้าจักขินเห็นว่าเผ่าพันธุ์ชาวเมืองกำลังจะสูญสิ้นไป จึงนำพระธิดาไปซ่อนไว้ในกลองใบใหญ่พร้อมเสบียงอาหารแล้วนำไปซ่อนไว้ในป่า กล่าวถึงพระเจ้าจุลนีแห่งเมืองปัญจา ได้เสด็จออกประพาสป่าตามล่ากวางหลงทางเข้าไปในเมืองร้าง เกิดไปพบกับนางประทุมมาที่ซ่อนอยู่ในกลองจึงรับนางประทุมมาเป็นมเหสีคนที่สอง นางอัคคีซึ่งเป็นอัครมเหสีอยู่ร่วมกันมาไม่มีพระโอรสพระธิดา ต่อมานางปทุมมาก็เริ่มตั้งครรภ์ จึงเป็นเหตุให้นางอัคคีวางแผนร้าย เพื่อกำจัดนางปทุมมามารหัวใจให้พ้นออกไปจากชีวิต

    ระหว่างที่นางปทุมมากำลังจะให้กำเนิดราชโอรส นางอัคคีจึงคิดวางแผนกำจัดโดยอ้างว่า นางปทุมมาประสูติกาลครรภ์แรกเกรงว่าเห็นเลือดจะตกใจกลัว จึงให้เอาผ้ามาผูกตาพร้อมนัดคนใช้เอาลูกหมามาเตรียมไว้ เมื่อคลอดออกมาเป็นพระกุมารจำนวน ๔ คน นางอัคคีจึงให้คนใช้เอากุมารทั้ง ๔ ใส่ลงไปในไหแล้วเอาไปลอยน้ำ และเอาลูกหมา ๔ ตัวนั้นใส่พานนำไปถวายพระเจ้าจุลนี ฝ่ายพระเจ้าจุลนีทอดพระเนตรเห็นดังนั้นทรงกริ้วมาก จะลงพระอาญาแก่นางปทุมมาโดยให้ประหารชีวิต บูชาผีโขมด หรือเนรเทศออกไปจากเมืองดี เหล่าบรรดาเสนาอำมาตย์ก็ทูลว่า ควรลงโทษโดยให้ไปเป็นนางทาสเลี้ยงหมู นางปทุมมาจึงต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัส ถูกเหล่านางกำนัลใช้งานสารพัด ทั้งหาบน้ำ เก็บฟืน ตำข้าว

    กล่าวถึงกุมารน้อยทั้ง ๔ ที่อยู่ในไห เมื่อพระมเหสีอัคคีได้ให้คนนำไปลอยน้ำ ไหก็ไหลไปจนถึงอุทยานสวนดอกไม้ สองตายายที่อยู่ดูแลรักษาสวนพบไหจึงนำเอากุมารทั้ง ๔ ไปเลี้ยง ฝ่ายนางอัคคีนับตั้งแต่กำจัดนางปทุมมาได้สำเร็จแล้วก็มีความสุขเป็นอย่างมาก จนกระทั่งวันหนี่งนึกขึ้นได้ว่าไม่เคยเห็นคนชราสองผัวเมียคนเฝ้าอุทยานนำดอกไม้มาถวายดังที่เคยทำ จึงให้นางกำนัลไปสืบดูก็ทราบว่ามัวแต่เลี้ยงเด็กที่ได้มาถึง ๔ คน นางอัคคีก็แน่ใจว่าเด็กทั้ง ๔ คนนั้น คือเด็กที่ตนเองให้นำไปลอยน้ำแน่ นางอัคคีจึงคิดอุบายอันชั่วร้ายอีกโดยทำขนมใส่ยาพิษให้นางกำนัลนำไปให้กุมารทั้ง ๔ กินในขณะที่สองตายายไม่อยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  10. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    เมื่อกลับมาถึงก็พบว่ากุมารน้อยทั้งสี่ ได้ตายแล้ว สองตายายเศร้าโศกเสียใจร้องไห้จนรุ่งสาง เมื่อแน่ใจว่ากุมารทั้งสี่ ได้ตายแล้วก็จัดการเผาศพกุมารทั้งสี่ เมื่อไฟดับแล้ว ทั้งสองก็กลับขึ้นเรือนไม่เป็นอันกินอันนอนจนรุ่งสางก็พากันลงไปดูที่เผาศพด้วยยังอาลัยอาวรณ์ ก็ปรากฏว่าได้เกิดต้นจำปาสี่ต้นเกิดอยู่ตรงที่เผานั้นแทน ชูดอกใบโชยกลิ่นหอมไปทั่วทั้งสวน ต้นจำปาแต่ละต้นมีสีต่างๆ กัน ต้นที่ ๑ ขาวอ่อนสีบริสุทธิ์ ต้นที่ ๒ สีเหลือง ต้นที่ ๓ สีนิล ต้นที่ ๔ สีแดง -ดำ ฝ่ายนางอัคคีเมื่อได้วางแผนใช้ยาเบื่อฆ่ากุมารน้อยทั้งสี่ แล้ว ก็ได้ให้คนใช้ไปดูแลเพื่อให้ได้ความว่ากุมารน้อยทั้งสี่ ตายจริงหรือไม่ แต่เมื่อทราบว่าตายจริง และสองผัวเมียได้เอาไปเผา รุ่งเช้ากลับเกิดเป็นต้นจำปาสี่ต้นสองผัวเมียจะเฝ้าดูแล และหวงแหนเป็นอย่างมาก

    เมื่อทราบดังนั้นนางอัคคีจึงจำต้องเดินทางไปทำลายต้นจำปาทั้งสี่ต้นอีกครั้ง คราวนี้นางออกอุบายว่าต้องการอยากจะได้ดอกจำปา สองตายายก็ได้บอกว่าดอกไม้มีเต็มสวนแต่ทำไมจะต้องการแต่ดอกจำปา เมื่อยืนกรานว่าจะเอาแต่ดอกจำปาตายายก็ต้องยอม พวกนางกำนัลก็พากันปีนขึ้นไปเพื่อเก็บดอกจำปาทั้งสี่ต้น แต่ก็ไม่สามารถเด็ดได้ถึงขนาดนำมีดมาฟันกิ่งก็ไม่เข้า ใช้จอบเสียมขุดก็ไม่เข้าเพราะแข็งปานหิน นางอัคคีโกรธมากสั่งให้ไปจับตัวสองตายายมามัดแล้วเฆี่ยนตี สองตายายจึงจำต้องร้องขอให้จำปาทั้งสี่ต้นช่วยโดยการยอมให้นางอัคคีถอนต้นจำปาทั้งสี่นำไปทิ้งลอยน้ำ หลังจากนั้นสองตายายก็ออกติดตามหาจำปาทั้งสี่ต้น แต่ไม่พบว่าลอยไปติดอยู่ยังที่ใด จำปาสี่ต้นเมื่อถูกนำไปลอยน้ำปรากฏว่า เทวดาอินทร์ พรหม ครุฑนาค ได้บันดาลให้จำปาไหลทวนน้ำขึ้นไปพบกับฤๅษีตาไฟ และได้ทำพิธีชุบชีวิตกุมารทั้งสี่ให้คืนชีพมาอีกครั้ง และตั้งชื่อกุมารทั้งสี่ ดังนี้ คนที่ ๑ ชื่อ เสกราชกุมาร คนที่ ๒ ชื่อ ปัตตะราชกุมาร คนที่ ๓ ชื่อ สุวรรณกุมาร คนที่ ๔ ชื่อ เพชรราชกุมาร ปรากฏว่าคนน้องเป็นผู้มีฤทธิ์เดชมาก เพราะตอนที่ตาเถรศิษย์พระฤๅษีไปดึงดอกจำปาออกมายางเหนียวมาก เมื่อดึงขาดแล้วยางจำปาจะเป็นสีเลือด

    เมื่อพระฤๅษีชุบชีวิตคืนมาแล้วปรากกว่านิ้วมือข้างขวาของเพชรราชกุมารเกิดด้วนไม่สมบูรณ์ พระฤๅษีต้องทำพิธีปลุกเสกใหม่นิ้วที่ด้วนจึงกลายเป็นนิ้วมงคลเพชร ชี้คนเป็นให้ตาย ชี้คนตายให้ฟื้น จากการประสิทธิ์ประสาทศิลปวิทยาคมของพระฤๅษีเมื่อกุมารทั้งสี่เจริญวัยเป็นหนุ่มจึงมีฤทธิ์มาก ประกอบกับได้รับการอุปการะอุ้มชูจากพระอินทร์ และได้เล่าความหลังให้พวกกุมารทั้งสี่ทราบความจริง กุมารทั้งสี่จึงได้วางแผนที่จะกลับบ้านเมืองเดิม ในระหว่างเดินทางกลับไปยังบ้านเมืองได้ผ่านการต่อสู่กับศึกอาณาจักรของยักษ์มารจนได้ธิดายักษ์เป็นมเหสีทุกพระองค์ เมื่อเดินทางมาถึงเมืองปัญจานครแล้วได้ไปหาสองตายายที่เคยเลี้ยงดูทั้งสี่มาก่อน จากนั้นได้รีบเดินทางไปช่วยนางปทุมมาผู้เป็นมารดา จากนั้นจึงไปเข้าเฝ้าเจ้ากรุงปัญจาพระบิดา และได้ทูลเล่าความเป็นจริงทุกอย่างให้แก่บิดาทราบ เจ้ากรุงปัญจาจึงได้สั่งลงโทษนางอัคคีให้ไปเป็นข้าเลี้ยงหมูชดใช้กรรมที่เคยทำกับนางปทุมมาในคราวก่อน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

    หลังจากช่วยกันแก้ปัญหาชีวิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าชายทั้งสี่ก็เดินทางออกไปช่วยเมืองจักขินให้พ้นจากอิทธิพลของนกยักษ์ที่คอยจับผู้คนกินเป็นอาหาร แต่ไม่ทันกาลเพราะพระเจ้าจักขิน และนางแก้วเทวีได้ถูกนกยักษ์ทำร้ายจนตาย เจ้าชายทั้งสี่ก็ช่วยกันต่อสู้กับนกยักษ์ และบริวารของมัน สามารถฆ่าพวกนกยักษ์ได้สำเร็จโดยเจ้าชายเพชรราชกุมารได้ใช้นิ้วเพชรอันศักดิ์สิทธิ์ชุบชีวิตเจ้ากรุงจักขิน และพระนางแก้วเทวี ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาและยายให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ตลอดจนไพร่ฟ้าประชาชนชาวกรุงจักขินให้คืนชีพดังเดิมทุกประการ และแยกย้ายกันไปขึ้นครองเมืองปัญจากับเมืองจักขินอย่างมีความสุขตั้งแต่นั้นมา


    เรื่องเล่านำมาประกอบ และจากข้อสันนิษฐานของผมและเมื่อฟังจากคนที่เคยรับใช้หลวงปู่เรื่องในเว็บนี้น่าจะสมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับเรื่อง จำปาสี่ต้น http://www.lifenewsonline.com/index.aspx?ContentID=ContentID-101130094526859
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  11. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ชื่อของจำปาสี่ต้นเป็นเค้าโคลงเรื่องที่มาของชื่อเมืองเจ้าชายจำปาสี่ต้น และที่เกี่ยวกับชื่อเมืองจำปานครกาบแก้วบัวบาน ที่ “พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช” แห่งอาณาจักรล้านช้าง อพยพผู้คนมาสร้างบ้านแปลงเมือง ทั้งสร้างพระพุทธรูป วิหาร ขุดบ่อน้ำ ที่วัดศรีคูณเมือง และยกฐานะเป็น “เมืองจำปานครกาบแก้วบัวบาน” ประมาณปี พ.ศ. ๒๑๐๖ ตรงกับสมัย พระมหาจักรพรรดิและประมาณ พ.ศ. ๒๓๐๒ มีเรื่องเล่าว่า “พระวอ-พระตา” ได้อพยพหนีจากการปกครองของ “พระเจ้าสิริบุญสาร” มาที่เมืองจำปานครกาบแก้วบัวบาน และได้บูรณะสร้างบ้านแปลงเมืองขึ้น แล้วตั้งชื่อว่า “นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน” ตรงกับสมัย “พระเจ้าเอกทัศน์” แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๔ “พระประทุมเทวาภิบาล” เจ้าเมืองหนองคาย ได้แต่งตั้ง “พระวิชชโยดมกมุทรเขต” มาครองเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ยกฐานะเป็นเมืองเอก และเปลี่ยนชื่อเมืองใหม่ว่า “เมืองกมุทธาสัย” พ.ศ. ๒๔๔๙ “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าให้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น “เมืองหนองบัวลำภู” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ ยกให้มีฐานะเป็นอำเภอหนองบัวลำภู ขึ้นกับจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๖ ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดหนองบัวลำภูในที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  12. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    หนึ่งในสี่ของจำป่าสี่ต้น ที่เคยได้ยินมาก็จะมี หลวงปู่ใหญ่(เทพโลกอุดร) หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง หลวงปู่บุญหนัก และหลวงปู่ทองทิพย์ จะจริงเท็จแค่ไหนนั้น ก็ต้องพิสูจน์ แต่ใครจะพิสูจน์ได้ ยังเป็นความเชื่อที่ยังเติมศรัทธาให้ลูกศิษย์ บางคนก็ฟังแล้วก็ศรัทธา บางคนฟังแล้วก็ต้องใช้ปัญญาค้นหา

    หรือจะฟังเป็นนิทาน อ่านแล้วก็ได้ความรู้ นิทานในวัติศาสตร์ ที่เป็นของคู่บ้านคู่เมือง ได้เห็นธรรมชาติของโลกมนุษย์ รักโลภ โกรธ หลง ดั่งคำหลวงปู่ เฮ็ดจังใด๋ ได้จังซั่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2014
  13. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง ก็เชื่อกันว่าท่านเป็นหนึ่งในจำปาสี่ต้น

    หลวงพ่อยี ท่านสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ด้วยตาว่า ท่านแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ได้จริงหรือไม่ จากคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีกรมการศาสนา คือพันเอกปิ่น มุทุกันต์ ในขณะนั้นว่าหลวงพ่อยีใต้นำบาตรมาให้ตนดูและได้เป็นคนเช็ดบาตรด้วยตนเองหลวงพ่อยีอุ้มบาตรออกไปยืนที่นอกชานกุฎิห่างจากผู้สังเกตการณ์ไม่ถึง ๑๐ เมตร ท่านยืนนิ่ง หันหน้าไปแต่ละทิศ แล้วเปิดฝาบาตร ทำนองรับบาตรจากผู้ใส่เหมือนกับที่เราใส่บาตรทุกอย่าง แล้วหลวงพ่อยีก็เรียกอธิบดีกรมการศาสนาเข้าไปหา ท่านส่งบาตรให้ พอยื่นมือไปรับมารู้สึกว่าบาตรหนักอึ้ง เปิดฝาขึ้นดูปรากฏว่ามีข้าวสุกร้อนๆ เต็มบาตรมีกลิ่นหอมอบอวล เป็นข้าวชนิดมันปู ก้นบาตรมีลูกประคำทองอยู่ ๒ ก้อน ขนาดใหญ่โตกว่าเม็ดข้าวโพด ซึ่งภายหลังเมื่อได้นำเข้ากรุงเทพฯ ให้ช่างทองบ้านหม้อดูก็เป็นทองคำบริสุทธิ์


    [​IMG]

    และหลวงปู่ยี ท่านเคยมากราบหลวงปู่ทองทิพย์ และกล่าวของพระพิทักษ์โลกจากหลวงปู่ (เรื่องเล่าจากเณรที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นครับ)

    [​IMG]


    บทความหลวงปู่ยีและข้อความบางส่วนจากเว็บหลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง - ตำนานพระเกจิอาจารย์แห่งแดนสยาม - Jompra - Powered by Discuz!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  14. viboonc

    viboonc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +833
    ขอราคาพระที่เหลีอหน่อยครับ
     
  15. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ตอบราคาไปแล้วนะครับ
     
  16. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    เรื่องราวของหลวงปู่บุญหนัก หาอ่านได้ยาก เพราท่านเป็นพระปิดและรูปถ่ายท่านก็น้อยมาก ๆ ถึงมากที่สุด

    ขอนำรูปในเว็บ#3215501 | หลวงปู่ บุญหนัก ขันติโก | กระดานประมูลพระเครื่อง | ดีดีพระดอทคอม มาให้ชมกันครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    เมื่ออ่านเรื่องราวของจำปาสี่ต้น หลาย ๆ คนคงจะพอทราบประวัติหลวงปู่ทองทิพย์ ท่านจะมีนิ้วเพชรที่พระอินทร์ประทานให้ และอีกเรื่องที่เล่าจากคนที่ฟังจากหลวงปู่มาเรื่อง "ต้นชี้ตาย ปลายชี้เป็น" ท่านฉายภาพให้เห็น สี่ต้น ต้นที่ห้ามีรักษาไว้ ... ยังไม่ถึงเวลา

    ในจำปาสี่ต้นก็มีนิ้วเพชร หลวงปู่ก็มีนิ้วเพชร อาจจะความบังเอิญของเรื่องราว หรืออาจจะเป็นคนเดียวกันแต่ต่างภพชาติ

    ทำให้นึกขึ้นได้ว่าหลวงปู่ท่านจะเสก พระปิดตาจันทราคราสแล้วก็ให้นิ้วแตะไปที่องค์พระทีละองค์ และใช้นิ้วท่านแตะน้ำมันกายสิทธิ์ทาบนองค์พระจันทราคราส ท่านจะสวดคาถา น่าจะเป็นสวดยัญติ ปิดด้วยขี้ผึ้งปิดทาย


    [​IMG]

    (พระชุดนี้จะเห็นปรอทเคลือบที่องค์พระ มีคราบดินน้ำมันติดที่องค์พระบ้าง และพระชุดนี้อยู่ในไหปิดสนิทอากาสความชื่นกำลังพอพี คราบปรอทจึงเห็นชัดเจน)

    ขั้นตอนการผลิตนั้นหลวงปู่จะมีตะเกียงหนึ่ง แล้วก็หันหลังให้ แล้วท่านก็เสกแล้วก็นำมาวางไว้ทีละองค์ ถ้านึกถึงการหล่อสมัยนี้ก็คงต้องร้อนจนกุฏิไหม้เป็นแน่ แต่หลวงปู่ที่ตะเกียงหนึ่ง

    ทำให้นึกถึงเรื่องราวของหลวงปู่ละมัย พี่ชายท่านหนึ่งไปช่วยหลวงปู่ละมัยสร้างพระปรอทขณะที่ปั้นปรอทจะเอาปรอทลงพิมพ์ พี่ชายท่านนี้กดอยู่สามสี่ทีไม่เข้าบล็อก หลวงปู่ละมัยใช้นิ้วแตะไปที่ปรอทก็อ่อนนุ่มลงไปในบล็อกพระสำเร็จ

    หลวงปู่ทองทิพย์ท่านก็คงจะทำคล้าย ๆ มีวัตถุที่เทวดานำมามอบให้เสร็จแล้วหลวงปู่ท่านก็เสกของแข็งกลายเป็นของอ่อน ๆ ก็ต้องมีที่สร้างรูปลักษณ์หลวงปู่อาจจะใช้ดินน้ำมันเป็นบล็อกเสร็จสำเร็จออกมาเป็นองค์พระ ที่เหลือท่านก็จะอธิษฐานจิตอีกที

    มีหลาย ๆ คนในพื้นที่ อุดร หนองคายต่างตามหา ไม่มีใครที่จะมี เพราะอะไร ต้องถามพี่เก่า ๆ ที่หลวงปู่สั่งไว้นานแล้วว่าทำไม อย่างไร ที่วัดถึงไม่มี วัตถุมงคลหลวงปู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2014
  18. tawansongsaeng

    tawansongsaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +423
    ปิดตาพิมพ์นี้ไม่ค่อยเห็นเลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤศจิกายน 2014
  19. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ใช่ครับ เพราะนำโชว์แต่ไม่ให้เช่าบูชา คนอื่นเขาจะอยากได้กันฮะ :'(



    พี่วิมุติ ให้บูชาหรือเปล่าครับ ถ้าให้บูชาก็จะได้เช่าหากันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2014
  20. pom1967

    pom1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +317
    บูชากี่บาทครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...